ปกิณณกะธรรม

ถ้าเชื่อฝันนี้ผมเลยเอ่อตู้พระไตรปิฎกเหรอต้มกินแทนข้าวเลย55
สุดท้ายหิวข้าวเหมือนเดิม

 

รุ้นนี้กระทั้งขี้หอเครืองบินแล้วครับสุดท้ายคือเดิม

 

ก็เพราะแบบนี้ไง หนี้ถึงพอกพูน ใช้ไม่หมดสักที..

เพราะชีวิตไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ไม่ทำจริงจัง ไม่เอาอะไรเลย..

แถวบ้านอาตมาเรียกคนแบบโยมว่า.. "พวกตาขาว" ไม่เอาไหน

 

มาทันลิเกลงโลงพอดี เอ้ยโรง ไม่ใช่โลง 555 พระเอกกับพระรองจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เหมือนผีเน่ากับโลงผุ อ่านหนังสือเป็นก็บุญแล้ว เรื่องสมาธิ วินิจฉัย วิปัสสนา บรรลุธรรม มีแต่มโน กับฝันเพ้อเจ้อเป็นตัวเลข เล่นลิเกหนะดีแล้ว โล้นซ่าส์กับนายมโน เรื่องใหม่แล้วใช่ไหมวันนี้ 555

 

เดียวผีฝ้าเกียดมากได้บทพระรองนี้55

 

ฟังธรรม แต่ ปรามาสธรรม..

กราบพระ แต่ ไม่ฟังคำพระ..

ชีวิตจะดีได้อย่างไร?

อุปนิสัยโยมเป็นแบบนี้ วิบากก็ไม่ไกลจากตรงนี้..

อาตมาชี้ให้เห็นได้เพียงเท่านี้แหละ อยู่ที่ว่าโยมจะหยุดแล้วมองตนเองหรือเปล่าก็แค่นั้น..

ถ้ามองตนเอง ก็ เห็นตนเอง..

ถ้าเห็นตนเอง ก็ สามารถแก้ไขตนเองได้ไม่ยาก..

 

82 สนใจจะตามด้วยมั๊ยโยม?

อาตมาว่าโยมตามเลขอาตมาทุกงวดเลยนะนั่น(บอกว่าห้ามตามก็ไม่ฟัง)..

เวลาพูดออกสื่อ อาจบอกใครต่อใครว่า "ไม่เล่นหวย" แต่ชีวิตจริงนี่ถึงขั้นคลั่งเลยล่ะมั้ง

 

เอาไปพิจารณาตนเองดูนะ โยม นะ อาตมาช่วยโยมได้เท่านี้แหละ..

ตน รู้ ตน เอง ดี กว่า ใคร..

 

ใช่แล้วครับ ขอเสริมครับ
แม้แต่ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน
ยังต้องทำผ้าป่าช่วยชาติ ตอนที่เป็น พระอรหันตะมรรรค
จึงจะสามารถปล่อยวาง กฏแห่งกรรม และ กฏแห่งฟ้า ได้
แล้วเข้าสู่ พระอรหันตะผล หรือ พระอรหันต์เต็มตัว ได้
แสดงว่า ถึงเป็น พระอรหันต์ แต่ก็ยังไม่หมดกรรมอยู่ดี

 

กำลังแทงกันกะเพื่อนอยู่55

 

ราตรีสวัสดิ์ชาวโลก..

ราตรีสวัสดิ์ ฝั่งโลกีย์..

ขอให้ทุกท่านจงมี "ราตรีหนึ่งเจริญ" ถ้วนทั่วกันเทอญ..


เจริญพร..

 

อรหันต์มรรคคือต้องมีก่อนได้พยากรณ์ทุกคนนะเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ

 

ยังมีเจตนากันทั้งนั้น ตั้งแต่ พระโสดาบัน ยัน
พระอรหันตะมรรค หรือ สะอุปานิเสสนิพพาน
พระโสดาบันก็มีมากหน่อย พระอรหันตะมรรคก็มีน้อยหน่อย
แต่ พระอรหันตะผล หรือ อะนุปานิเสสนิพพาน
จะไม่เหลือเจตนาแล้ว ก็คือ พ้นจากเจตนา นั่นเอง
ทำอะไรก็จะไม่ผิดอีกแล้ว จะบริสุทธิ์ผุดผ่องในตัวเอง
พระอรหันตะธาตุ ก็จะเต็มพร้อมสมบูรณ์

 

สติอย่างเดียวที่พ้นเจตนา ก็คือ
สติของพระอรหันตะผล หรือที่เรียกว่า
พวกอนุปานิเสสนิพพาน นั่นเอง
สุดท้าย จิต หรือ ใจ ก็ไม่ถือ
ทิ้งทั้งฝั่งดี และ ฝั่งเลว ทิ้งไว้ทั้งสองฝ่าย
เหลือแต่ นิพพานธาตุ ในใจแค่นั้น
หลุดจากกฏแห่งกรรม หลุดจากพระไตรลักษณะสามอย่าง
เป็นแต่เพียงผู้ดูเรื่องราวแค่นั้น

 

สภาวะนี้ เป็นดั่ง ธรรมที่เกิดต่อเนื่อง
คือ จะต้องลงมือปฏิบัตใน อรหันตะมรรควิธี
แล้วจึงจะเกิด สภาวะธรรม ของ อรหันตะผล นั่นเอง
วิธีปฏิบัติอันแรกคือ เหตุ
อันหลัง คือ ผลจากการปฏิบัติ นั่นเอง
จะข้ามไปเป็น พระอรหันตะผล เลยก็ได้
โดยไม่ผ่าน พระอรหันตะมรรค ก็ได้ ถ้ามี ผู้สอนที่ดี
มี อาจารย์สอนที่เก่งๆ คอยสอนสั่ง

 

ไม่เคยตามเลยพระ 0-9 มันอยากออกอะไรก็เรื่องของมัน สััมมาอาชีโว พระรู้จักคำนี้ไหมพระ พระเพ้อเจ้อมาก พระรู้ตัวไหม ตอนนี้ผีเน่ากับโลงผุ อาจเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบก็ได้ เพราะอะไร พระเองนั่นแหละรู้ตัวไหม ถ้าสัมมาอาชีโว เป็นหนึ่งในข้อมรรคทั้งแปด ขาดอันใดอันหนึ่ง ย่อมไม่น่าจะรอด อาจรอดแต่ไม่เกี่ยวข้องกับการบรรลุหรือเห็นธรรมที่พระศาสดาตรัส สมาธิสัมมา สติสัมมา อย่าฝันอย่าเพ้อเจ้อ เพราะมันยากกว่า สัมมาอาชีโวมาก พระลองเอา มรรค 8 มาวางสิ แล้ววิเคราะห์ตนเอง นายมโนก็ด้วย อย่ามาเล่นละครน้ำเน่า พระเอกทะเลาะกับพระรอง เปลี่ยนคอนเซบเรื่องบ้าง คนดูเขาจะจำได้แล้ว555

 

แต่การฝึกใหม่ๆ จะต้อง ฝึกสติ ตั้งแต่
สติเพียวๆ ของ พระโสดาบัน
สติระลึก ของ พระสกิทาคามี
สติระลึกรู้ ของ พระอนาคามี
สติผู้ดู ของ พระอรหันต์
หากถึง ขั้นเป็น สติผู้ดู จะไม่แทรกแซงอะไรอีกเลย
จะมองดูอย่างเดียวแค่นั้น

 

น่าจะเรียกว่า สัมมาสติเต็ม มากกว่า
เมื่อมีสติตั้งมั่น เป็น ผู้รู้ที่ดี หรือ ผู้ดูที่ดี มีอารมณ์เป็นกลาง
เห็นสภาวะพระไตรลักษณะสามอย่าง ได้อย่างแม่นยำ

 

กะมรรคสามัคคีไม่มีอะไรล้ำหน้า
รวมลงที่ปัจจุบัน
กะรู้อยู่แล้วมันจะสามัคคีกันได้งัย

 

ขอเผือกหน่อยนะ ที่พูดนี่แน่ใจนะว่าจะสอนให้เรียนรู้ สติเพียวๆ เป็นไง ไม่เติมน้ำแข็งโซดารึไง สติระลึกเป็นไง ต้องมานั่งจำเหรอว่า ร้อนเย็นอ่อนแข็งหรืออะไร เอ้า หนักไปอีก สติระลึกรู้ คือนอกจากต้องจำแล้วต้องรู้อีก ถ้าไม่รู้นี่ซวยเลยสิ อันสุดท้าย สติผู้ดู มันไม่ใช่เกมส์นะจะได้มีมานั่งดู เอาให้ดีดีครับ ว่า สติคืออะไร แล้วมันจำแนกแบบนั้นจริงๆเหรอ เพราะถ้าสอนแบบนี้ผมว่าผมโง่คับ ไม่เข้าใจ ถ้าไอ้ร่องหรือนายมโนมันเข้าใจ ก็คงเป็นบุญของเขา... ไม่รู้