เว็บพลังจิต ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร 54

บันทึกความทรงจำ กับวันนี้.... ที่บางบัวทอง

ถนนบางกรวย-ไทรน้อย

​

.....ระยะเวลาเกือบ ๒ เดือน นับตั้งแต่วันแรกที่น้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางบัวทอง โดยเฉพาะแนวถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตั้งแต่หมู่บ้านเอื้ออาทร ผ่านตลาดบางบัวทอง วัดบรมราชากาญจนภิเษก (เล่งเน่ยยี่ ๒) วัดละหาร และหมู่บ้านจัดสรรอีกนับหลายสิบโครงการ วัดบางไผ่ จนถึงสี่แยกบางพลู ได้ก่อให้เกิดความเสียหายที่ยังประมาณราคาไม่ได้ โดยเฉพาะความเสียหายทางจิตใจที่ต้องรอเวลาในการเยียวยาและฟื้นฟู ผู้จัดได้อพยพทุกคนในครอบครัวให้ออกไปพักอาศัยอยู่ข้างนอกตั้งแต่น้ำเริ่มเข้าท่วมหมู่บ้าน (อ่านเพิ่มเติมได้จากบันทึก เล่าสู่กันฟังกับ ญ.ผู้หญิง จากเหตุการณ์น้ำท่วมบางบัวทอง)

เรือยางคู่ชีพ
​

ส่วนตัวเองได้พักอาศัยอยู่ที่ชั้น ๒ ของบ้านตั้งแต่วันแรกที่น้ำเริ่มท่วม และได้ออกมาพักรักษาตัวในช่วงที่ไม่สบายจนหายเป็นปกติ ก่อนที่จะกลับเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับน้องน้ำด้วยความรักต่อจนถึงปัจจุบัน ได้ตะเวนถ่ายภาพบรรยากาศต่าง ๆ เก็บไว้มากมาย วันนี้ ขอนำภาพบางบัวทองล่าสุด หลังจากที่พลังมวลชนจากจังหวัดนนทบุรี ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และภาครัฐให้เร่งเปิดประตูระบายน้ำในช่วงที่น้ำทะเลลด ว่าระดับน้ำในถนนคงเหลือความสูงสักเท่าไร

อีกมุมของคลองบางกรวย-ไทรน้อย เอ้ย... ไม่ใช่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ใกล้หมู่บ้านที่พักอาศัย
​

วันนี้การเข้า-ออกในพื้นที่บางบัวทอง ยังต้องใช้การโดยสารทางเรือ ซึ่งจะมีเรือรับจ้างของชาวบ้านแล่นให้บริการ ในราคา ๑๐๐-๒๐๐ บาทต่อคน จากเดิมที่น้ำท่วมใหม่ ๆ ราคา ๓๐๐-๕๐๐ บาทต่อคน นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่ประชาชนทุกคนไม่มีทางเลือกและไม่มีสิทธิ์ต่อรอง เนื่องจากเข้าใจว่าน้ำมันหาง่ายแต่การไปซื้อนั้นยาก เหตุเพราะปั้มต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.บางบัวทองได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต้องพากันหยุดให้บริการทั้งหมด ประกอบกับรถเล็กหรือแม้แต่รถทหารไม่สามารถแล่นเข้า-ออกได้ตลอดเส้นทาง ทำให้ทุกอย่างต้องอยู่ในภาวะจำยอม

และผลของการเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ตั้งแต่วันที่ ๒๔ พ.ย. ๕๔ ระดับน้ำในบ้านผู้จัดเริ่มแห้ง ซึ่งจะได้เวลารวมญาติและล้างบ้านทำความสะอาดครั้งใหญ่ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ของพื้นที่บ้านได้สูงสุด แต่ปริมาณน้ำนอกบล็อกกันน้ำและภายในกำแพงบ้าน รวมถึงภายในหมู่บ้านยังคงความสูงอยู่ที่ระดับ ๑.๐๐-๑.๕๐ เมตร ถนนบางกรวย-ไทรน้อยคงความสูงอยู่ที่ระดับ ๐.๕๐-๒.๐๐ เมตร คิดว่ากลางเดือนหรือสิ้นเดือน ธ.ค. ภาพรวมของบางบัวทองน่าจะดีขึ้น และทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้หลังปีใหม่นี้ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ ความแน่นอน..... คือความไม่แน่นอน อะไร ๆ ก็ย่ิอมเกิดขึ้นได้อีกเสมอ ถึงแม้น้องน้ำจะคลายความรักพี่นนท์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ปีต่อ ๆ ไปน้องน้ำจะไม่มาเยี่ยมเยียนอีก..... แต่ถึงแม้วันนั้นน้องน้ำจะเกิดความรักครั้งใหม่ขึ้นเพียงใด บทเรียนจากครั้งนี้ ก็ทำให้เกิดความรู้ในจุดอ่อนของบ้านและจุดอ่อนในอีกหลายเรื่อง ที่ถ้านำมาปรับปรุงและแก้ไข เชื่อว่าปีหน้าและปีต่อไป ทุกคนจะชินและสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับน้องน้ำ เหมือนดังที่ผู้จัดเป็นอยู่ในขณะนี้.....

ญ.ผู้หญิง
๒๕ พ.ย.๕๔

 

ฮีโร่ตัวจริง... ที่ยากที่จะลืม

เราอยากจะบอกอะไรกับทหารไทย?



เป็นช่างตัดผม



เป็นพี่เลี้ยงเด็ก
​

 

เป็นพยาบาล
​

 

​

เป็นคุณหมอ
​

 

เป็นยาจก

​

 

เป็นสัตว์แพทย์

​

 

เป็นผู้ให้

​

 

เป็นผู้รับ

​

 

เป็นพ่อครัว

​

 

เป็นนักแสดง

​

 

เป็นหัวหน้าครอบครัว

​

 

​

 

เป็นที่พึ่งของประชาชน
​

 

​

เป็น วีรบุรุษ

ในวิกฤติมหาอุทกภัย ๒๕๕๔

เสียงจาก คนไืทย

ขอขอบคุณทหารไทยทุกนาย

ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ

ประชาชนจะอยู่เคียงข้างทหาร

เหมือนที่ทหารอยู่เคียงข้างประชาชน

เพื่อร่วมกันปกป้อง

" ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ "
​

ขอบคุณที่มา : Fw​

 

​

ชีวิตเหมือนฟองน้ำ... ผุดขึ้น<wbr>มาก็แตกเลย
ชีวิตเหมือนรอยไม้ขีดลงในน้ำำ... วูบเดียวก็หายไป
ชีวิตเหมือนลำธารไหลจากภูเข<wbr>า... พรวดเดียวก็ผ่านหน้าไป
ชีวิตเหมือนโคที่เขานำไปฆ่า<wbr>... ไม่พ้นความตายเด็ดขาด
ชีวิตเหมือนน้ำค้าง... โดนแด<wbr>ดก็ระเหยหมดไปแล้ว

เราจะตายลงไปวันไหนก็ไม่รู้ <wbr> รอบข้างมีแต่ภัยอันตรายที่จ<wbr>ะพาเราสิ้นชีวิตลงไปได้ทุกเ<wbr>วลา ถ้าไม่ฉวยโอกาสที่มีอยู่น้อ<wbr>ยนิดสร้างความดีให้แก่ตัวเอ<wbr>งให้มากที่สุด การที่จะเวียนตายเวียนเกิดเ<wbr>พื่อทุกข์ทนก็จะยาวไปไม่มีท<wbr>ี่สิ้นสุด

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน

 

คลองบางกรวย-ไทรน้อย หน้าหมู่บ้าน

ชาตะ : ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔
มรณะ : คาดว่าประมาณสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔
สาเหตุ : เกิดเอง-ตายเอง
​

ณ วันนี้ (๒ ธ.ค.) ปริมาณน้ำในบ้านหลังแนวอิฐบล็อกที่ก่อกั้นไว้หน้าประตูบ้าน เกิดอาการเหลือ "ขลุกขลิก" ซึ่งเป็นผลมาจากการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีให้เร่งเปิดประตูระบายน้ำ เหมาะกับการที่ภายในสัปดาห์นี้จะทำการขับไล่น้องน้ำให้ไปพ้นพื้นที่ชั้นล่างของบ้าน ให้ถอยออกไปอยู่ในรั้วและถนนในหมู่บ้าน เืพื่อให้พื้นที่ของบ้านได้กลับมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด หลังจากเป็น "โดดเดี่ยวผู้น่ารัก" ที่พักอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้านมานานร่วม ๒ เดือน

ระดับน้ำล่าสุดจากที่ออกไปสำรวจเมื่อวาน ในหมู่บ้านสูง ๐.๗๐-๑ เมตร หน้าหมู่บ้านในถนนบางกรวย-ไทรน้อยสูง ๐.๖๐-๑.๒๐ ม. ทุกฝ่ายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..... ที่รัฐบาลประกาศว่าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำจะแห้งสนิทภายใน วันที่ ๑๕ ธ.ค. พูดง่ายแต่ในความเป็นจริง "ยาก" ในแนวถนนอาจจะแห้งได้อย่างที่พูด เพราะทำแนวคันกั้นน้ำไม่ให้เข้าสู่ถนนแล้วเร่งสูบออก แต่น้ำที่สูบออกก็คือ ไหลไปขังอยู่ในชุมชนหลังแนวคันกั้น สรุป น้ำก็ไม่ได้ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ไปมา นอกจากจะเร่งสูบลงคลอง และเร่งระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา นั้นคือสิ่งที่จะช่วยทำให้ปริมาณน้ำลดลงได้จริง

สิ่งที่เหลือตอนนี้ก็คือ ... รอดูวิสัยทัศน์ของนักการเมืองท้องถิ่น ในที่นี้คือ นายกเทศมนตรีบางบัวทอง ว่าจะมี "กึ๋น" ในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านได้ระดับไหน แต่ที่แน่นอนที่สุด คือ ทำใจและทำตัวให้มีความสุขกับความรักของน้องน้ำที่มีต่อพี่ทองอย่างท่วมท้นต่อไป

 

รายงานสถานะ กองทุนบึงลับแล ณ วันที่ ๖ ธ.ค. ๕๔ ยอดคงเหลือ ๑๖๖ บาท (อ้างอิงตามตารางแนบ) ขอเรียนเชิญกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมอนุโมทนาในทุกกองบุญที่ได้ร่วมทำกันมา


หมายเหตุ
อ้างอิงข้อมูลจากกระทู้ กองคลังบุญ ของ.....บึงลับแล

 

รายนามผู้ร่วมบุญกองบุญพิเศษ ณ วันที่ ๑๕ ธ.ค.๕๔

อ้างอิงที่มาจากกระทู้ เรียนเชิญร่วมบุญกิจกรรมพิเศษ เื่พื่อบูรณะวัดหลังน้ำลด และทุกกิจกรรมบุญตลอดปี ๒๕๕๕ น้อมรับวัตถุมงคลวัดท่าขนุน มูลค่า ๘.๔ หมื่นเป็นที่ระลึก (ตามเงื่อนไข)

​

ชุดที่ ๑
- ร่วมบุญ ๖๔ กอง
- คงเหลือ ๓๖ กอง

​

ชุดที่ ๒
- ร่วมบุญ ๔๑ กอง
- คงเหลือ ๕๙ กอง

​

ชุดที่ ๓
- ร่วมบุญ ๓๗ กอง
- คงเหลือ ๖๓ กอง

รวมบุญตามกำลังทรัพย์ และกำลังศรัทธา
๑. กองทุนบึงลับแล จำนวน ๕๐๐ บาท
๒. หลาน ๆ สกุล "ศราภัยวานิช" จำนวน ๕๐ บาท
๓. คุณสุรจิตร จำนวน ๑๕๑ บาท
๔. คุณวารุนี จำนวน ๑๑๑ บาท
๕. คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน ๑๐๐ บาท
๖. คุณ t1 จำนวน ๓๐๐ บาท
๗. คุณ timeteam จำนวน ๑๐๐ บาท
๘. คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน ๒๐๐ บาท
๙. คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน ๓๐๐ บาท
๑๐ คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน ๑๐๐ บาท

รวมเงินร่วมบุญ ณ วันที่ ๑๕ ธ.ค.๕๔ จำนวน ๑,๙๑๒ บาท ​