ประสบการณ์ วัตถุมงคลหลวงพ่อทองหยิบ

รูปหล่อตั้งบูชาหน้ารถ



ภาพโดยลูกศิษย์หลวงพ่อทองหยิบ

 

เมื่อก่อน ผมก็เหมือนคนทั่วๆไป ชอบวัตถุมงคลต่างๆไม่ว่าจะเป็น พระผง-พระเหรียญ-เครื่องรางต่างๆ แต่ละอย่างที่พูดมาเคยผ่านมือผมมาไม่มากก็น้อย ในตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าชอบแนวไหน จนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวผมเองรู้สึกว่าจะชอบแนวเครื่องรางมากกว่าโดยเฉพาะ ตะกรุด ตัวผมเองเคยมี ตะกรุด ดังๆสายเหนือแทบทุก หลวงพ่อ ทุก วัด ไม่ว่าจะเป็น ตะกรุดหนังควาย ครูบาชุ่มวัดวังมุย-ตะกรุด 108 รุ่นแรกๆครูบาน้อยวัดศรีดอนมูล-ตะกรุดลูกปืน พระอาจารย์ต้นวัดทุ่งเกี๋ยงและอีกเพียบจำไม่หมด จริงๆแล้วเหตุที่ชอบตะกรุด ก็เพราะเจ้าน้องชายตัวแสบของผม มันเป็นคน(ใจ)นักเลง เดี๋ยวขอบรรยายสรรพคุณเจ้าน้องชายก่อน มันเป็นคนคุยสนุกแฟนเยอะ(ตีนผัวผู้หญิงเยอะตามด้วย)เห็นบอกว่าไม่มีแฟนนี้ เป็นคำแก้ตัวของมันๆเป็นคนทำตัวไม่ว่าง จะว่างก็แค่หน้ากับแขนท่อนล่างแค่นั้นจริงๆ(นอกนั้นสักหมด) รักเพื่อนพ้อง ใครโดนทำร้ายมาถ้าเป็น ฝ่ายถูก มันจะไปเอาคืนให้เลย แต่ถ้าเป็น ฝ่ายผิด มันจะไม่ยุ่งหาทางออกเอาเอง มันเคย ยิง เขาจนเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ(หน้าข่าวภูธร)มาแล้ว เคยโดนนักเลงเจ้าถิ่นล้อมบ้านเช่า(เล็กๆ)ปาระเบิดพรุนทั้งบ้านและโดนคู่อริยิงด้วยลูกซองสั้นระยะไม่เกิน 10 เมตร แต่มันไม่เป็นอะไรเลย เพราะในตัวมันมีแต่ตะกรุดที่ผมให้มันไว้ป้องกันตัว(เยอะมาก) มันจะมาขอผมตลอดถ้ามันได้มาเที่ยวหาผม มันชอบก็ให้ไปหมด รักมันแต่จะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน กลับมาเรื่อง ตะกรุด หลวงพ่อทองหยิบ ตอนนั้นยังหาตะกรุดในดวงใจยังไม่ได้ อยากได้แบบตะกรุดโทนเด่นในด้าน มหาอุตม์-แคล้วคลาด ที่สำคัญ หลวงพ่อท่านต้องมีชีวิตอยู่และเก่งจริง ทางเหนือนี้จะไม่มีเลย ส่วนมากจะเป็นดอกเล็กๆ นึกได้ว่าแม่อยู่ นครปฐม เลยโทรคุยกับแม่ๆบอกว่ามีเยอะเลยแทบจะทุกวัดเลยของ ภาคกลาง เพราะเมื่อก่อนจะมีพวกเสือเยอะ(โจร)พวกนี้จะมีของดีติดตัวซึ่งชาวบ้านระแวกนั้นจะรู้ดี แต่บอกไม่ได้นะว่าหลวงพ่อท่านไหนเก่งหรือไม่เก่ง ผมก็ไปหาข้อมูลของ ตะกรุด หลวงพ่อต่างๆในภาคกลางซึ่งก็มีหลายท่าน หลายวัด ถ้าพูดชื่อคนเล่นตะกรุดต้องรู้จักแน่เพราะมีชื่อตามหนังสือพระทั่วไป แต่คิดว่ายังไม่ใช่ จนมารู้จักกับวัดโพธ์ผักไห่ อยุธยา ซึ่งพระอาจารย์ท่านนี้ก็เก่งมาก แต่ท่านก็มีอาจารย์ของท่านอีกที่ ก็คือหลวงพ่อทองหยิบ แห่งวัดบ้านกลาง จังหวัดอ่างทอง พระอาจารย์เล่าว่าหลวงพ่อทองหยิบอาจารย์ของท่านเก่งในเรื่อง ตะกรุดโทน ในตัวของพระอาจารย์ท่านนี้ก็จะมีตะกรุดโทน หลวงพ่อทองหยิบ พกติดตัวอยู่รอบเอว เห็นตอนแรกชอบเลยไม่เหมือนตะกรุดที่เราเคยเห็นมาก่อนตอนนั้นบอกกับตัวเองว่าใช่เลย นั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้รู้จักกับท่าน หลวงพ่อทองหยิบ แห่งวัดบ้านกลาง จังหวัดอ่างทอง

 

ท่านที่จะเดินทางไปกราบ หลวงพ่อทองหยิบและจะไปบูชาตะกรุดของท่าน ควรไปสอบถาม ป้าแกะ (สำเนียงท่องถิ่น)ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไปเสียเทียว สำหรับท่านที่มีรถส่วนตัว เข้าตัวเมือง อ่างทอง แล้ววิ่งเส้น โพธิ์ทอง-แสวงหา ผ่านตลาดโพธิ์ไม่ไกลมากจะเจอป้าย ตำบล หน่องแม่ไก่ สังเกตุดูจะมีป้ายบอกทางเข้าวัดอยู่ทางขวามือ ท่านที่ไม่มีรถ ก็เหมือนกันครับ แต่ต้องเข้า ขนส่งอ่างทอง ก่อนแล้วขึ้นรถประจำทางสาย โพธิ์ทอง-แสวงหา บอกกับคนรถเลยว่าลงปากทางเข้า วัดบ้านกลาง สำหรับผมศรัทธาท่านมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาศไปกราบท่านสักที่(ไปทำงานที่มาเลเซียเกือบปี)พอได้ไปกราบท่านก็ได้ตะกรุดของท่านมาเลย นับว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆ ท่านจะพูดเหมือนนังเลงสมัยเก่า แต่ใจดี เข้าถึงตัวท่านง่าย ไม่เหมือนหลวงพ่อท่านอื่นที่ดังๆ มีคนล้อมหน้าล้อมหลัง กว่าจะได้เจอทีต้องสอบประวัติเหมือนมาโรงพักมากกว่ามาวัด(หมายถึงพวกลูกศิษย์ที่หากินกับผ้าเหลือง)ขอให้ทุกคนโชคดีเหมือนผมนะครับ

ข้อความจากคุณ เอ่ เชียงราย

 

รอชมพระกริ่งครับ.....

 

อดใจรอนิดหนึ่ง นะครับได้ชมสมใจนึกแน่ๆ หลวงพ่อยังบอกอีกว่าอยากให้สร้างพระสมเด็จ ฝั้งตะกรุด เงิน ทอง นาค อีกด้วยนะครับยังงัยต้องรอหน่อยนะครับ ผมจะนำรูปมาให้ทุกท่านชมกัน

 

ท่านเก่งนะครับ ผมนั่งเล่นที่ตู้พระเครื่องพระใหม่ ให้เขาหยิบพระดังๆออกมาวางเรียงกันเป็น10เป็นร้อยมานั่งจับเล่นแล้วก็คืนเขาไป สะดุดจริงแค่ไม่กี่องค์
1.ผ้ายันตร์หนุมานหลวงพ่อทองหยิบ วัดกลาง หนักทึบเหนียวดี
2.หลวงปู๋สมชาย เมตตาดี
ขำๆครับ อย่าเชื่อมาก

 

ยินดีครับท่าน

ผมเล่นแต่ของวัดสร้างนะครับ ผ้ายันต์ ไม่ถนัด ยังมีอีกเยอะที่ หลวงพ่อท่านไม่ได้สร้างเอง ขำๆๆๆๆๆ เหมือนกันครับ

 

ไปกราบท่านไม่กี่ครั้งเองครับ อยู่ไกลเหมือนกัน แต่โชคดีที่เจอท่าน
ทุกครั้งครับ

 

อนุโมทนาครับ

ไปกราบท่านบ่อยมากเลยเหรอครับ หลวงพ่อท่าน เมตตามากๆใช่ไหมครับ ไม่ถือตัวใครๆเขาไปกราบท่าน ท่านบอกว่ามาสิ ไม่เหมือนที่ วัดดังๆ จะไปกราบแต่ละครั้งต้องนั่งรอเขาคิวกัน เลยหลังๆนานๆไป ไม่ไปบ้าง

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#4b9339><TD hight="30">[SIZE=+2]<CENTER>จับพลังพุทธคุณตะกรุดหลวงพ่อทองหยิบ รุ่นเสาร์ห้า</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2> เมื่อไม่กี่วันมานี้ พี่สาวของผมได้เชิญกุมารทองของหลวงปู่แย้ม
มาลงซึ่งเป็นวันพระ (คือนานๆจะเชิญมาทีคับไม่บ่อย)
ผมจึงให้น้องกุมารจับพลังตะกรุด ปรากฎว่าพลังดีมากๆพลังท่วมหัว
แต่น้องบอกว่า หลวงพ่อบอกว่าอย่าลอง อย่าลอง
ถึงเวลาคับขัน หลวงพ่อจะช่วยเอง
นิมิตต่อมาเห็นไม้มะยมตายพราย และหนังเสือ ในตะกรุดคับ
สรุป พลังครอบจักรวาล ป้องกันคุ้มครอง
มหานิยม (จานิมิตไม้มะยมตายพราย ดีทางมหานิยม ซึ่งทำยากกว่าเมตตาเยอะ)
เสน่ห์ มหาอำนาจ ป้องกันภัย (จากนิมิตหนังเสือ)
ปล.ภูมิใจมากคับ ที่มีวาสนามีตะกรุดกะเค้าหนึ่งดอก</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#4b9339><TD hight="30">[SIZE=+2]<CENTER>ปลัดขิกเนื้อผงพุทธคุณ ทาทอง (รุ่นแรก) วัดบ้านกลาง</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>
ปลัคขิกนางแอ่น ( รุ่นแรก ) เนื้อผงพุทธคุณทาทอง
บูชาได้ที่วัดบ้านกลาง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง


ปลัคขิกนางแอ่น
วัดบ้านกลาง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
ได้จัดสร้างปลัคขิกเป็นครั้งแรกของหลวงพ่อทองหยิบ ปัชโชโต เป็นเนื้อผงพุทธคุณ 108 ทาสีทองเพื้อรักษาเนื้อไว้
คาถาปลัดขิก
นะโม ( 3 จบ )
ด้านเมตตาค้าขาย
" โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาโหม นะกะดอฬ่อหี ดอ ดา ดิ ดิ๋ ดู๋ ดิ๋ ฮิ ฮิ ฮิ "
ด้านคงกระพัน
" โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาหับ นะโสภีโต พุทโธท้อ "
ด้านแคล้วคาด
" โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาหาย อะ นะ คิก คิก "




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ของผมมีแต่รุ่นเก่า ๆ อะครับ ไปกราบท่าน นานมากแล้ว แล้วก็ไม่ได้ไปอีก

 

เพิ่งจะได้ไปกราบท่านมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
ท่านมีเมตตาจริงๆ
แต่ที่วัดไม่มีกะตุดให้บูชาได้เลยนะ
ต้องลงชื่อเอาไว้แล้วให้เบอร์ติดต่อไว้ถ้าถึงคิวแล้วจะมีเจ้าหน้าที่จะโทรมาบอก
ให้เวลา 2-3 วัน ถ้าไม่มารับถือว่าสละสิทธิ์ เพราะมีคนรออยู่เยอะมากๆ
ได้คุยกับหลวงปู่อยู่พักใหญ่ ได้ถามท่านว่าบ่ายบ่ายหลวงปู่ไม่จำวัดเหรอ?
ท่านตอบว่าไม่หรอกเดี๋ยวกลางคืนนอนไม่หลับ
นี่น่าจะเป็นเหตุผลนึงที่มาวัดแล้วหากหลวงปู่ไม่ไปข้างนอกญาติโยมได้พบทุกที
ช่วงนี้หลวงปู่จารกะตุดไม่ได้เพราะเพิ่งไปผ่าพังผืดที่ฝ่ามือข้างซ้ายมา
คงต้องรอกันหน่อย
ได้เรียนถามถึงกะตุดพวง 16 ดอก ท่านว่าไม่ทำแล้วแต่อาจารย์พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่มาเรียนไปต่อไปคงต้องจับตาดูกันดีๆจะได้ไม่พลาดอีก
กะตุดโทนหลวงปู่เป็นมหารูดนะครับ
หลวงปู่ท่านมีเมตตาสั่งสอนวิชาให้ลูกศิษย์ลูกหามากมายพระครูปืน วัดลาดชะโดก็มาเรียนทำน้ำมนต์ไป มีศิษย์ท่านนึงหลวงปู่ว่าชื่ออาจารย์หรั่ง ผมไม่ทราบว่าอยู่วัดไหนหากมีสมาชิกท่านใดทราบช่วยบอกกันบ้างนะครับเผื่อมีโอกาสจะได้ไปกราบท่านบ้าง
เรียนถามท่านว่ายุคนี้มีหลวงพ่อองค์ไหนที่หลวงปู่ว่าเก่ง หลวงปู่ท่านว่าดูยาก
บางองค์เสกของก็หลับ บางองค์เที่ยวถือขวานไม่เหมาะกับเป็นพระ
(อันนี้หลวงปู่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่ผมเดาๆว่าแถวๆสิงห์นี่แหละน่าจะอยู่กลางๆทุ่งนี่นะ
ผมว่าถือขวานน่าจะจับมาเจอกับถือดาบจากแถวๆคลองด่านดูซักรุ่นนึงคงจะขลังพิลึก)
หลวงปู่ว่าเป็นพระเค้าไม่ให้อวดอุตริพระวินัยท่านห้ามไว้
เท่านี้คงจะพอให้เราๆท่านๆตัดสินใจที่จะเดินทางไปกราบหลวงปู่แล้วนะ
พระดีๆได้ไปกราบชีวิตก็มีแต่มงคลนะครับ
สุดท้ายนี้ไอ้ดาบนี่ผมเคยลองฟันแล้ว ถ้าเอาโคนฟันลงที่หลังให้จุกตายก็ไม่เข้า
แต่อย่าลากดาบนะจะเฉือนทันทีฟันแล้วให้ยกออกเป็นปาหี่แบบนึง แต่แด้ม! แต่แด้ม!

 

แหมขอบพระคุณอย่างสูงครับพี่ ว่างๆมีโอกาสคงได้เจอกันนะครับที่ วัดผมหน่องครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่

 

ขออภัยครับ
ภาพที่เห็นนี้ เป็นภาพพระยันต์ที่พระอาจารย์พิจารณ์ท่านจารให้ผมครับ

จารให้ในช่วงที่ประชาสัมพันธ์ จัดทำตะกรุดพระเจ้า 16 พระองค์ จำนวน 108 ดอก กับตะกรุดอสีสะติ จำนวน 108 ดอก เช่นเดียวกัน

งานนี้ได้ผ่านมือพระเกจิหลายรูปครับ ผมจำไม่ได้แล้ว ว่ามีท่านใดบ้าง
ต้องไปค้นในกระทู้คุณนริศ แต่ที่แน่ๆ หลวงพ่อทองหยิบ ท่านปลุกเสกให้ด้วยครับ
(ถ้าจำไม่ผิด จะมีหลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงครามด้วย)

เนื่องจากภาพนี้ มีหลายท่านเซฟนำไปใช้ แต่ไม่ทราบที่มา
ก็ขอแจ้งว่า เป็นของวัดโพธิ์ผักไห่ ลายมือพระอาจารย์พิจารณ์ ครับ

ขอบคุณครับ

 

ขอบพระคุณครับพี่ ผมไม่สนเหรอว่า หลวงพ่อท่านไหนจารยัง ยัง เมื่อก่อนท่านก็จารแบบนี้แหละครับตีตรางเองชะด้วย แต่เดี๋ยวนี้หลวงพ่อท่านเปลี่ยนแล้ว อิอิอิ ลูกศิษย์ท่านเยอะครับ ค่อยเสาะหานะครับพี่ เอามาให้ชมแบบคล่าวๆนะครับ ท่านจารมือขวาแล้วกับกับด้วยมือซ้าย มีใครที่ไหนบ้างเสกและจารแบบนี้ ที่ผมก็อบมาวางก็ขออนุญาติแล้วเน้อ อิอิ ส่วนใหญ่ อาจารย์กับลูกศิษย์ผมเคยถามแล้วหลายๆท่าน (จะไม่ให้ยันต์หมดทุกตัวเหรอ)

 

มีเบอร์ติดต่อทางวัดได้ไหมครับ

 

ผมแค่กลัวว่า ใครได้ของแท้ไป แล้วเอาไปแกะดู จะเทียบลายมือแล้วไม่ตรงกันครับ จะเสียกำลังใจ

ใครมีลายมือในแผ่นตะกรุดบ้าง อยากดูครับ ผมมีแต่จารลงวัสดุอย่างอื่น

 

อนุโมทนาครับ

อืมผมก็ไม่กล้าเปิดดูตะกรุดท่านนะครับ เห็นท่านจารเอง ต้องใช้คาถาม้วนเองแน่ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยครับพี่ ทางวัดออกพระกริ่งรุ่นแรกนะครับเชิญที่กระทู้นี้เลยครับ

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ัจจายน์-รุ่นแรก-วัดบ้านกลาง-จ-อ่างทอง.248579/

อนุโมทนาทุกท่านครับ

 

ประสบการณ์ หลวงพ่อทองหยิบ ฟันไม่เข้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว ในการประเพณีแข่งเรือยาว ของจ.อ่างทอง มีเรือดังจากอำเภอต่าง ๆและเรือจากต่างจังหวัดใกล้เคียง โดยเรือดังของอ.วิเศษฯ จ.อ่างทองลำหนึ่ง มีทิดเษมป่าโมก ( ฉายาป่าโมกนี้ทิดเษมสักยนต์เต็มตัวที่พ่อลาป่าโมกสมัย 20 ปีที่แล้วจะมีอ.สักหลายสำนัก เช่น พ่อเจียก,โพธิ์ดำ พ่อรอด ,พ่อแก่,พ่อเที่ยง,พ่อหน่ายเป็นต้น โดยนักเลงสมัยก่อนนิยมสักยันต์ตามร่างกาย) เป็นฝีพายอยู่ในเรือลำนั้นด้วย ซึ่งวันนั้นมีการวางเงินเดิมพันกันเป็นแสนกับเรือดังต่างถิ่น เล่า ต่อ...เมื่อแข่งขันเรือจนรู้แพ้รู้ชนะกันแล้ว แต่คนไม่แพ้เกิดการตะลุมบอนกันขึ้น โดยการใช้ไม้พายเป็นอาวุธแต่ไม่คิดว่าเรือต่างถิ่นมีมีดดาบเตรียมมาด้วย ทิดเษมพลาดท่าถูกฟันเข้าที่ไหล่ด้านหลังอย่างจัง แต่น่าอัศจรรย์คมดาบไม่ระคายผิวทิดเษมเลยเป็นรอยยางบอนเท่านั้น โดยตัวทิดเษมมีเฉพาะรอยสักของพ่อลาป่าโมกและตะกรุตหลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง จ.อ่างทอง และตะกรุดวัดดอนรัก จ.อ่างทอง เท่านั้น ทิดเษมมีความเคารพนับถือหลวงพ่อทองหยิบอย่างมาก ซึ่งภายหลังเมื่อทดเษมบวชเป็นพระจะทำพิธีใหญ่ๆยังต้องนิมนต์หลวงพ่อเข้าร่วม พิธีหรือขอคำแนะนำ ทิดเษมผู้นี้ก็คือ... พระครูวิบูลย์ อาจารคุณ หรือ หลวงพ่อเกษมแห่งวัดม่วงเจริญธรรม ต.หัวตะพาน อ.วิเศษฯ จ.อ่างทอง ผู้สร้างองค์พระที่ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตัก 1 ไร่ 14 งาน มีเด็กสุพรรณคนหนึ่งใจนักเลงนับถือหลวงพ่อมากขอเช่าตะกรุดไปติดตัวแบบไม่ เคยห่างกายหลวงพ่อบอกว่าคาดติดตัวไว้ไม่ต้องกลัวมีดหรือปืนไม่มีได้กิน แต่มีข้อแม้ว่าห้ามด่าพ่อหรือแม่ไม่อย่างนั้นตะกรุดจะเสื่อมเฉพาะวันที่ด่า อยู่มาวันหนึ่งเจอกลุ่มคู่อริ 2 คนโดยบังเอิญ จึงโดนรุมตีขนาดใช้มีดไล่ฟันเสื้อขาดและใช้ปืนไล่ยิง แต่ทั้งมีดและปืนไม่สามารถทำอะไรเขาได้ทำให้คู่อริใจฝ่อ ทั้งที่ตัวเองมีอาวุธแต่ทำอะไรเขาไม่ได้สุดท้ายเด็กสุพรรณถอดตะกรุดไล่ฟาด คู่อริทั้งสองคนหนี้แบบไม่คิดสู้อีกต่อไป ทำให้เขานึกถึงคำที่หลวงพ่อพูดเสมอ แต่ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถูกฟันที่ปลายคิ้วเพราะดันเผลอไปด่าแม่เขาก็เลย เป็นแผลเป็นมาจนทุกวันนี้