ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Chronicle ภาพยนต์ที่สื่อถึงเรื่องการใช้ฤทธิ์อภิญญาไปในทางที่ผิด

    [​IMG]

    หลายๆคนคงเห็นข่าวของหนังเด็กวัยรุ่นยอดมนุษย์นี้มาก่อนแล้ว และเมื่อวัน 2 วันที่แล้ว หนังเรื่อง Chronicle ก็ได้ปล่อยทั้ง โปสเตอร์ และ ตัวอย่างออกมาพร้อมกัน โดย Chronicle เป็นผลงานการกำกับของ จอร์จ แทงค์ ที่เรียกได้ว่าหนังมาพร้อมกับผู้กำกับหน้าใหม่ และ นักแสดงหน้าใหม่อย่างครบชุดเลยก็ว่าได้ และหลังจากเห็นตัวอย่างก็ต้องบอกได้ว่าเป็นหนังวัยรุ่นมีพลังยอดมนุษย์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ด้วยทั้งสไตล์การถ่ายทำแบบ Hand-Held ของหนังที่ทำให้ได้อารมณ์แนวแบบ Cloverfield

    โดย Chronicle เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักวัยรุ่น 3 คนที่วันดีคืนดีได้ดันไปค้นพบขุมพลังที่ต่อมาทำให้พวกมีพลังพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสิ่งของด้วยพลังจิต หรือแม้แต่ร่างกายแข็งแรง แม้แต่มีดหรืออะไรก็แทงไม่เข้า พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะถ่ายวีดีโอ ต่างๆไว้เพื่อเป็นหลักฐานให้แก่เพื่อนๆเขาว่า พวกเขาไม่ได้ขี้โม้ จนกระทั่งเพื่อนหนึ่งในกลุ่มได้ดันได้เกิดใช้พลังพิเศษไปฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจ และเกิดสติแตก จึงเป็นหน้าที่ของเพื่อนอีก 2 คนที่ต้องหยุดเขาจนกว่าเรื่องมันจะบานปลายไปกว่านี้

    โดย Chronicle มีกำหนดฉายในอเมริกาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2012 นี้ครับ โดยในไทยค่ายอิสระคงซื้อมาฉายเหมือนกันนะ

    ที่มา http://movie.mthai.com/movie-news/109115.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    เข้าเค้าๆ ><
     
  3. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    พี่เกษม เมื่อวานดูเจาะข่าวเด่น 2012 หรือเปล่าค่ะ
    มี อ.สวทช. ท่านหนึ่งมาพูด ใครดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ
     
  4. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ลองพิจารณาดูบทความนี้ประกอบนะค่ะ

    อะไรคือ solar flare และ มันส่งผลกระทบเราอย่างไร

    Solar flare คือ พายุแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์ ที่ปรากฎให้เห็นเป็นจุดสว่าง และ การระเบิดของพื้น ผิวที่เป็นก๊าซ เช่น ในรูปด้านบน Solar flare ได้ปล่อยพลังงานมหาศาลของอนุภาคที่มีพลังงาน มาก และก๊าซ ที่มีความร้อนสูงมากๆ
    พวกมันถูกปล่อยออกมาไกลเป็นพันๆ ไมล์ จากพื้นผิวดวงอาทิตย์


    จากคำบอกเล่าของ Mitch Battros - Earth Changes Media


    [​IMG]


    "หนึ่งในคำทำนายของชาวมายัน คือ ข้อความของการเปลี่ยนแปลงในยุคของพวกเรานี้ ในคำพูดของพวกมายา ได้ถูกกล่าวว่า พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของ "การเปลี่ยนแปลง และ ความขัดแย้ง"


    "การเปลี่ยนแปลง" มาจาก "ข้างนอก" ในรูปของสภาพอากาศ ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ท้องฟ้าที่ถูกรบกวน และสิ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ด้วยกันเอง


    "ความขัดแย้ง"
    มาจาก "ข้างใน" ใน รูปของความท้ายทายส่วนบุคคล, เศร้าโศก, สับสน, ซึมเศร้าความวิตกกังวลและความกลัว มันจะบอกว่าพวกเราเป็น "อยู่ที่ถนนที่กำลังจะข้าม" เป็นเวลาของการเลือกเส้นทางใหม่ที่จะตัดสินใจในทิศทางที่ตนเองและชุมชนใหม่ ที่ไม่รู้จัก การหาตัวตนที่แท้จริงของเราคนส่วนหนึ่งจะเลือกที่จะอยู่บนถนนเส้นเดิม อยู่กับความเคยชินเดิมๆ และพยายามทำสิ่งที่ดี เพื่อรักษา "คำทำนาย"


    การ ศึกษาเร็วๆ นี้ได้ถูกตีพิมพ์ออกมาใน New Scientist บอกว่า การเชิ่อมต่อระหว่าง พายุสุริยะและผลกระทบที่มีต่อร่างกายมนุษย์ ท่อที่นำอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์มายังการรบกวนของร่างกายมนุษย์เป็นท่อ เดียวกัน ซึ่งจะนำพาสภาพอากาศของโลกผ่านสนามแม่เหล็กบนโลก และผ่านไปยังหสนามแม่เหล็กรอบๆ ตัวมนุษย์


    พายุ แม่เหล็กโลกที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ ทำให้โลกมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงในวิธีต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เฮอริเคน ทอร์นาโด และ พายุต่างๆ


    พายุแม่เหล็กโลก ที่เกิดขึ้นที่ดวงอาทิตย์ มีผลเกี่ยวเนื่องกับความคิดของคน

    ปฏิกิริยาดวงอาทิตย์ ถูกรู้จักว่ามันมีผลต่อการตื่นของมนุษย์

    Solar flare มีผลกับ

    - ระบบประสาทส่วนกลาง (เส้นกลางกะเพาะ)
    - การทำงานต่างๆ ของสมอง (รวมทั้ง ความสมดุลย์)
    - อีกทั้งความประพฤติของคน ผลตอบสนองทั้งทางร่างกายและจิตใจ (จิตใจ อารมณ์ ร่างกาย)

    Solar flare สามารถทำให้เกิด

    - ประสาท
    - ความกังวล
    - ความห่วง
    - กระวนกระวายใจ
    - วิงเวียน
    - สั่นคลอน
    - ระคายเคือง
    - เซื่องซึม
    - หมดแรง ไม่มีพลัง
    - ความจำสั้น และหัวใจเต้นสั่น
    - พะอึดพะอมจะอ้วก
    - อึดอัด
    - มีความดันหัวเป็นเวลานานและปวดหัว

    พวกคุณมีอาการข้างบน เมื่อเร็วๆ นี้ไหม?


    Solar flare และ คลื่นโฟตอน จะเปลี่ยนภายนอกของของกายภาพมนุษย์ เพราะมันมีพลังมากๆ ที่จะส่งผลต่อระดับเซลล์ของมนุษย์ ทำให้หน่วยความจำของเราตื่นและสะอาด

    พวกเราจะมีประสบการณ์นี้คือ ร่างกายของเราจะร้อนขึ้นในรูปแบบของ "แสงไฟร้อน"

    ส่วนอารมณ์ที่อยู่ล่างๆ ไป คือ พลังงานความถี่ต่ำ ที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ต่างๆ จากประสบการณ์ใน อดีตและในตำแหน่งนี้ ที่พวกเราประสบและไม่เคยถูกดำเนินการ พวกมันจะถูกเก็บไว้ในระบบความจำ พลังงานโฟตอนจะมีคลื่นความถี่ที่สูงกว่ามาก จะทำการดึงอารมณ์ที่อยู่ในคลื่นความถี่ตำ ดังนั้นเราสามารถปรับให้มาเป็นคลื่นความถี่สูง ดังนั้นพวกเราจะประสบว่า พวกเรารู้สึกปล่อย ความรู้สึกความถี่ต่ำของความเศร้าเหงาหงอยออกไปได้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำไม

    คาถา เหล่านี้จะมีอายุประมาณยี่สิบนาทีและเราจะทิ้งความสงสัยความรู้สึกพวก นี้มาจากอารมณ์ที่ขุ่นหมอง องค์ประกอบของโครงสร้างของเราคือถูกเชื่อมโยงกับระบบเซลล์ของการตื่น และเมื่อโครงร่างนี้ได้ถูกขยายผ่านพลังงานโฟตอนองค์ประกอบต่างๆ ของโครงสร้างได้รั่วไหลไปยังจิตใต้สำนึก (ความตื่น) และเราจะเริ่มจำจุดประสงค์ของจิตวิญญาณเราได้

    พวกเราถูกดึงให้มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราแต่พวกเราไม่ได้รู้เลยว่า ทำไม

    ความ จริงบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลังงานนี้ คือ เพราะเป็นพลังงานความถี่สูงจะสร้างพลังอำนาจในการสำแดงของความคิดของเรา นั่นหมายความว่า อะไรก็ตามที่เราคิด เราจะสร้างได้ทันที นั่นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชั่วชีวิตของเรา แล้วก็หมายความว่าคนเริ่มจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับพลังของสิ่งที่น่าสนใจ

    พลังงานโฟตอนเชื่อมต่อกับความคิดของเรา ดังนั้นมันสำคัญที่พวกเราจะต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเราต้องการ ดีกว่า สิ่งที่พวกเราไม่ต้องการ มิฉะนั้นพวกเราจะประจักษ์สิ่งที่ต้องการมากกว่าสิ่งที่ไม่ต้องการ

    ถ้าคุณกำลังอยู่ในการดำเนินการของการเปลี่ยนแปลง พลังงานนี้จะทำงานได้ดีสำหรับคุณ


    ใน ทาง ตรงกันข้ามถ้าคุณกำลังติดอยู่ในอดีตที่ผ่านมาผ่านการถูกเป็นเหยื่อและความ โกรธคุณจะประจักษ์เหตุผลหลายๆ อย่างในการติดอยู่กับการเป็นเหยื่อจนกระทั่งคุณพร้อมที่จะปลดปล่อยมันออกมา

    NOTE: ในข้อความของบรรพบุรุษ บอกพวกเราว่าให้มองท้องฟ้าเพราะว่าท้องฟ้าจะทำให้เกิดตัวเร่ง ที่จะนำการเปลี่ยนแปลงของโลกในขณะนี้

    ผลกระทบเมื่อเร็วๆ นี้ของ solar flare

    หลายๆ คนรู้สึกตื่นเต้น และ ไม่ง่ายต่อการดำเนินชีวิต เมื่อไม่นานมานี้

    Solar flare
    สามารถแยกเป็นส่วนได้ แพทเทิร์นเก่าๆ ไม่เป็นที่ต้องการต่อไปแล้ว ดังนั้น อันใหม่จะโผล่ออกมา สิ่งนี้สามารถทำให้พวกเรารู้สึกที่จะกระปรี่กระเปร่าและเหนื่อยตลอดเวลา และมันยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์

    เราเริ่มสังเกตเห็นอาการใหม่ ๆ เช่น

    - เวลาและอวกาศเริ่มจะเปลี่ยนไปมามากว่าแต่ก่อนมาก
    - พวกเราเหมือนกับจะสูญเสียการติดตามเรื่องเวลาอย่างง่ายดาย
    - พวกเราจำไม่ได้ว่าเราจะพูดอะไรเวลาเรากำลังพูดอยู่
    - วันๆ ช่างผ่านไปยังรวดเร็ว
    - พวกเรานอนไม่ค่อยหลับสนิท (อีกแล้ว)
    - มีการเปลี่ยนแปลงมากเวลากลางคืน และ หลายคนจะมีความฝันที่ผิดปกติไป
    - พวกเรารู้สึกมีพลังงานบางอย่างเข้ามาในร่างการและทำให้หมดพลังไปง่ายๆ
    - มีหลายๆ รายงานบอกว่า รู้สึกคลื่นไส้ พะอีดพะอมจะอ้วก ร่างกายปวดเมื่อยล้าและมึนงง
    - หลายคนรู้สึกโคกเศร้าอย่างลึก
    - บางคงรู้สึกว่ากำลังเดินอยู่บนน้ำ
    - หลายคนที่เหลือบอกว่าเวลาเค้าปิดตาในเวลากลางคืน ทุกอย่างหมุนๆๆๆ
    และยังมี
    - รบกวนการมองเห็น
    - ปัญหาหูชั้นใน
    - เสียงในหู
    - ปัญหาคอและต่อมไทรอยด์
    - เท้าเย็น
    - แม้อาการแปลกของการมีความแห้งกร้านลิ้น


    พวกคุณมีอาการแบบนี้บ้างไหม?


    พวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะน่ากลัวของ... แต่แค่ให้รู้ตัวว่ามันคืออะไรและพักผ่อนให้มากและดื่มน้ำเยอะๆ และพวกนี้ก็จะผ่านไป....



    Space Weather News for September 9, 2011
    September 9, 2011
    from SpaceWeather Website

    พายุแม่เหล็กโลก มีพายุแม่เหล็กโลก (Kp=7) กำลังก่อตัวอยู่ ตามด้วย CME ระหว่างวันในวันที่ 9 กันยายน นั่นสามารถเป็นสิ่งแรกที่มาจากการกระแทกของ CME หลายๆ อันที่คาดว่าจะมากระทบโลกระหว่างสุดสัปดาห์ พวกที่อยู่ขั้วโลกให้สังเกิดออโรร่า

    การตื่นตัวแบบกลุ่ม - ความถี่ของโลก

    โลก คือ ทะเลของการสั่นและความถี่ มนุษย์มีความชำนาญในการสร้างและประดิษฐ์อุปกรณ์ที่มีความถี่พลังงานและการ สั่นสะเทือน คลื่นเหล่านี้ของพลังงานที่มักจะเคลื่อนที่ผ่านคุณ

    ลองนึกภาพตอนทั้งหมดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเพียงคุณเพียงคนเดียว - แสงและโคมไฟทุกอัน, ระบบโทรศัพท์ทุกเครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์แต่ละตัวให้ปิดความถี่ที่ต่างกัน โทรทัศน์เป็นหนึ่งในความถี่ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงความถี่เหล่านี้ พวกเขาได้ตัดให้พวกนี้ออก สนามพลังงานของพวกเขาได้ปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ที่จะอยู่กับพวกเขา


    โลกเรานี้มีการสร้างด้วยความถี่อิเล็กทรอนิกส์ หากคุณมีวิสัยทัศน์ที่จะมองเห็นเส้นของพลังงานทั้งหมดที่เชื่อมต่อสายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือโทรทัศน์และไมโครเวฟ คุณจะต้องประหลาดใจที่ว่าแน่นทอเมทริกซ์นี้มีพลังอย่างแท้จริงคือ มันล้อมรอบโลกของคุณในตารางพลังของความถี่ไม่ได้เข้ากันเลย


    ส่วนใหญ่มนุษย์ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทัศนคติของคือ "สิ่งที่คุณไม่เห็นหรือไม่รู้ มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณ."


    ในโครงข่ายของความถี่อิเล็กทรอนิกส์มักจะมีผลกระทบต่อร่างกาย, จิตใจ ความถี่อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ มันสามารถทำให้เสพติดและสะกดจิตต่อสนามพลังงานในตัวบุคคลได้ และความถี่ทางอิเลคทรอนิคส์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมันจะอยู่กับความคิดบางความ คิด ให้ระวังความถี่ที่ไม่เข้ากันเหล่านี้ และโครงขายที่มันสร้างขึ้นมา นี่สำคัญมากสำหรับคุณและเพื่อนๆ ที่ควรจะอยู่เฉยๆ มั่นคง ในสนามพลังงานและโครงข่ายพลังงานของคุณ คุณจะถูกกระทบน้อยกว่าจากความถี่ที่ไม่สัมพันธ์กันนี้


    Solar flare และ การระเบิดของพลังงานของกาแลคซี่ พุ่งเข้ามายังเกราะของ ความถี่ของอิเลคทรอนิคส์ ทำให้เกิดการกระตุ้น ลักษณะบางอย่างของรหัส DNA พลังงานคอสมิคเหล่านี้ได้ผลักดันการตื่นของมนุษย์ สนามแม่เหล็กโลกจะถือพลังงานที่สูงที่สุดของมิติที่สาม และจะถูกแทนที่โดยสนามพลังอิเลคทรอนิคส์

    มนุษยชาติจะได้รับการสนับสนุนสูงสุดจากจิตสำนึกของจักรวาลและสิ่งมีชีวิตบน ท้องฟ้า บุคคลที่ตื่นขึ้นมาเพื่อความงดงามเชื่อมต่อดาวของพวกเขา จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา


    คุณสามารถสร้างเขตข้อมูลการติดต่อกันเมื่อคุณรักษาด้านพลังงานที่แข็งแกร่ง ของความรักความสุขและความชื่นชม เมื่อคุณเชื่อมโยงกันสั่นสะเทือนความถี่สูงเหล่านี้คุณจะไม่ได้รับผลกระทบ จากการระเบิดของ โครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของดาว


    มีความสุข และการว่าย ไหล ด้วยพลังงานจากดวงดาว
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->A1-WarRoom Falkman
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  5. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    คุณติ๊กเห็นว่าไงครับ ผมดูไม่ประติดประต่อ :'(
     
  6. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ก็คงจะเอาข้อมูลหลาย ๆ อย่างมาพิจารณาดูค่ะ
    อย่างที่ติ๊กเคยกล่าวไว้หลาย ๆ กระทู้ว่าการที่สื่อจะนำอะไรออกมาเสนอนั้นก็คงจะมีการพิจารณาผลกระทบหลาย ๆ ด้าน ความจริงบางอย่างถ้าเสนอแล้วผลกระทบเยอะก็คงเลี่ยงที่ไม่เสนอดีกว่า เพราะว่าคนไทยเอง ก็มีคนประเภทไม่รับความคิดเห็นหรือความรู้แปลก ๆ ใหม่ ๆ (ประมาณว่า มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่เคยเกิด) อะไรประมาณนี้อยู่เยอะ

    ลองดูข้อมูลนี้อีกทีนะค่ะ ไม่รู้ว่าเท็จจริงแค่ไหน
    แต่คนไทยอาจจะได้เปรียบนักวิทยาศาสตร์ต่างชาติ ตรงที่ว่า เอาวิทยาศาสตร์มา+ กับญาณสมาธิ หรือสัมผัสวิเศษที่ ประเทศอื่นอาจจะไม่ได้ศึกษาเรื่องสมาธิ


    ทั่วโลกเริ่มมองเห็นพระอาทิตย์ 2 ด้วยตาเปล่า ตั้งแต่ปี2009 แล้ว ในปีนี้(2011) พระอาทิตย์ดวงที่สองดูเหมือนจะมีขนาดโตขึ้น และใกล้โลกเข้ามาเรื่อยๆ ดังวีดีโอต่อไปนี้
    คุณคิดว่า พระอาทิตย์ดวงน้อยนี่คืออะไร ถ้ามิใช่ดาว" นิบิรุ"
    <IFRAME height=390 src="http://www.youtube.com/embed/WgjW3ycrb_I" frameBorder=0 width=640></IFRAME>





    <IFRAME height=510 src="http://www.youtube.com/embed/XMqJ3NCZJMg" frameBorder=0 width=640></IFRAME>





    [​IMG]
    ภาพถ่ายของพระอาทิตย์2 ดวงเริ่มเยอะขึ้นในอินเตอร์เน็ต




    มีผู้สังเกตการณ์พระอาทิตย์ดวงนี้มาตลอดจน เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2554(2011)นาซาและ กูเกิล สกายกลับมีการปกปิดระบบเพื่อซ่อนภาพของดาวนิบิรุนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุผลใด NASA And Google Conspire To Hide Nibiru (Planet X) Information From Public (http://www.2012honduras.com/2011/06...hide-nibiru-planet-x-information-from-public/)





    [​IMG]




    [​IMG]


    ใครที่ติดตั้งระบบGoogle earth(Sky)เมื่อ ระบุตำแหน่ง 13h 48m 0s,-8 24 25 และใช้ อินฟาเรต เรย์และจะพบป้ายดำๆแปะเอาไว้ดังภาพ คำถามคือ อะไรอยู่ด้านหลังนั้น(คาดว่าน่าจะเป็นดาวนิบิรุ) และเพื่ออะไรกัน (นั่นสิ)
    แต่ไม่ว่าทางนาซ่าและกูเกิลจะพยายามปิดบังแค่ไหน สำหรับผู้ที่ติดตามข้อมูลมาตลอดก้มีช่องทางอื่นๆอีกในการสืบค้นได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้คนเริ่มเห็นดวงอาทิตย์ดวงที่สองด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้อย่างท่วมท้น

    มาทำความรู้จักดวงอาทิตย์ดวงที่สองกัน เขามีชื่อเรียกได้หลายชื่อ เช่น ดาวนิบิรุ(Nibiru) ,Plenet X,Elenin,C/2010 X1 กล่าวกันว่าระบบสุริยะจักรวาลของเรามิได้มีบริวารแค่ดาวเคาระห์เท่านั้น ยังมีดวงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณ2เท่า เป็นบริวารด้วยเช่นกัน เพียงแต่วงโคจรนั้นแปลกกว่าวงโคจรของดาวเคราะห์ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ คือ เขาจะวิ่งโคจรรอบดวงอาทิตย์ดวงนี้ในะรบบสุรยะของเรา และ วิ่งไปหมุนรอบดวงอาทิตย์อีกดวงในระบบสุริยะอื่น ควง2ระบบ และ2 กาแล้กซี่อันไกลโพ้น นักวิทยาศาสตรบอกว่ามันจะกลับมาทุก3,600ปี แต่ด้วยคำบอกกล่าวของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาณโณ ว่าดวงอาทิตย์ดวงนี้จะกลับมาทุกๆ 13,000 ปี และทุกครั้งที่เขากลับมาใกล้โลกก็จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกและระบบสุริยจักรวาลอย่างใหญ่หลวงทุกครั้ง ครั้งล่าสุดที่มาคือยุคที่แอตแลนติสล่มสลายนั่นเอง(13,000 ปีที่แล้ว) ท่านกล่าวด้วยว่า การมาถึงครบรอบ 13,000ปี ในปี 2012 นั้น จะทำให้ขั้วโลกเหนือหันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งถูกดึงให้ไปอยู่ภายใต้อิทธิพล ของกาแลก็ซี่ไตรแองกุลัมแทนกาแล็กซี่แอนโดรมีดา(ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ) และขั้วโลกเหนือก็คือ สฟิง ณ ประเทศอิยิปต์ นั่นเอง
    [FONT=Tahoma, 'MS Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', sans-serif]



    [​IMG]

    [​IMG]



    ลักษณะหน้าตาของดาวนิบิรุ จะเป็นดวงอาทิตย์ที่มีดาวเคราะห์เป็นบริวาร จากการสังเกตการณ์จะเห็นเป็นภาพคล้ายนกยักษ์สีแดง ​


    [​IMG]
    [​IMG]





    [/FONT]
    <IFRAME height=390 src="http://www.youtube.com/embed/0W7lzQp40C0" frameBorder=0 width=640></IFRAME>





    บรรพบุรุษของเราพยายามบอกเรื่องราวของพระอาทิตย์ดวงที่สองนี้ แด่พวกเราลูกหลานด้วยวิธีต่างๆ ผ่านสัญลักษณ์ งานศิลปะต่างๆ พวกเราไม่เข้าใจ จนกระทั่งมันใกล้เข้ามาจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้วในบางพื้นที่ของโลก




    [​IMG]




    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    ในปริศนาคัมภีร์ไบเบิ้ล ก็ได้แจ้งข่าวนี้แก่ชาวโลกเช่นกัน




    [​IMG]




    [​IMG]


    ในปริศนานี้ทำให้ทราบว่าเราจะเห็น ดาวนี้ในกลุ่มดาวสิงโต น่าจะเป็นรูปปี 2010
    (รูปด้านล่างถ่ายณ วันที่ 17 ก.พ.2010)


    [​IMG]
    นอกจากนั้นมนุษย์ต่างดาวก็พยายามบอกชาวโลกในการมาของดาวนิบิรุนี้เหมือนกันโดยCrop Circle ต่างๆ เช่น ดังภาพดูคล้ายๆแมงกระพรุนมากกว่า อิอิ
    [​IMG]




    รถยนต์บางยี่ห้อ ก็ทำสัญลักษณ์เท่ห์เลียนแบบซะเลย สวยซะด้วย


    [​IMG]


    [​IMG]


    ผู้สังเกตการณ์ทั้งหลาย มาจับตาดูความเคลื่อนไหวและวิถีทางของดาวเท่ห์ๆ ดวงนี้กัน นี่เป็นแผนที่ที่เราจะสามารถเห็นเขาบนท้องฟ้าได้ (ปีนี้น่าจะอยู่ประมาณกลุ่มดาว Virgo)




    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวนี้ได้ดังภาพข้างบน ที่เว็บนี้
    http://sinais2012.blogspot.com/2011/07/elenin-nibiru-planet-x-begin-to-be.html


    หากอยากติดตามวงโคจรและ อยากรู้ว่าจะมาใกล้โลกวันไหนเมื่อไหร่ ติดตามได้เลยจ้า



    <IFRAME height=390 src="http://www.youtube.com/embed/LM_41wPzTA4" frameBorder=0 width=640></IFRAME>



    ปีนี้2554 (2011) เราก็เริ่มจะต้องร้อนรับน้องกลับบ้านกันแล้ว (แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม)
    <IFRAME height=390 src="http://www.youtube.com/embed/0VDdT_tOuQ8" frameBorder=0 width=640></IFRAME>



    เมื่อดวงดาวนี้โคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดก็แรงดึงดูดระหว่าง2 ดวงดาวก็อาจจะมีอิทธิพลที่ทำให้เกิดการเปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลงทางกายภายภาพอย่างมากมายก็เป็นได้ ซึ่งตามคำทำนายของชาวมายันก็ตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม 2012 (พ.ศ.2555) นั่นเอง ท่านๆพร้อมกันรึยัง ตื่นกันได้รึยังจ๊ะ




    [​IMG]
    [​IMG]


    หลังจากที่ดาวนิบิรุเคลื่อนจากจากไปไกลแล้ว โลกก็จักเข้าสู่ภาวะปรกติ และการฟื้นตัว หรือที่เรียกว่า การเข้าสู่ยุคใหม่นั่นเอง
    เนื่องจากยุคใหม่ระบบสุริยะและโลกจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของกาแล้กซี่ไตรแองกุลัม ซึ่งเป็นพลังงานดีสีขาว ทำให้โลกมีแต่สันติสุขและคุณธรรมสืบไป(อีก13,000ปี)จึงเรียกยุคใหม่นี้ว่า " ยุคชาววิไล"
    ยุคนี้จะเป็นความเจริญทางคุณธรรม ทางจิตวิญญาณ ความรู้ วิทยาศาสตร์ การติดต่อสื่อสารกับเพื่อน
    ต่างโลก ต่างจักรวาล
    ไม่รู้ว่าใครจะมีสิทธิ์รอดชีวิตเพื่อได้เดินทางสู่"ยุคชาววิไล" นี้บ้าง ยังไงก็เตรียมตัวทางจิตวิญญาณกันได้แล้วนะคร้าบ เลิกยึดติดในสิ่งใดๆที่เป้นทางวัตถุกันได้แล้วรึยัง
    ความจริงยังมีอิทธิพลอื่นๆที่จะทำให้โลกใบนี้ของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงในปี 2012 นี้ ด้วยญาณทัศนะของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาณโณ เรื่อง " ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่" อ่านได้ที่
    http://kuakiddeedee.blogspot.com/

    http://www.oknation.net/blog/nidnhoi/2011/07/21/entry-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2012
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ตามที่เว็บไซต์ ข่าวสด ได้นำเสนอภาพ เมฆสินามี แผ่เข้าปกคลุมเมืองปานามาซิตี้ ชายฝั่งทะเลรัฐฟลอริด้า ล่าสุด นายวิโรจน์ คงพุฒิคุณ อายุ 48 ปี ช่างภาพสมัครเล่น บ้านอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เผยว่าตนเองได้บันทึกภาพ ปรากฏการณ์คล้าย เมฆสึนามิ ไว้ได้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
    โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า ภาพที่ตนถ่ายมามีลักษณะเหมือนคลื่นเมฆ ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน และหากได้ถ่ายภาพในมุมสูง ภาพก็คงจะมีลักษณะเช่นเดียวกับที่เกิดในรัฐฟลอริด้าแน่นอน
    อย่างไรก็ตาม ‘เมฆสึนามิ’ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูได้ยาก
    Mthai News


    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ เผยคลิปสัตว์ประหลาดคล้ายงู หรือหนอนยักษ์ เลื้อยบนธารน้ำแข็งในทะเลสาบ Lagarfljot ทางตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งกำลังแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต
    ทั้งนี้ คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายไว้โดย Hjörtur Kjerúlf ช่างภาพ ซึ่งหนอนยักษ์นี้มีความยาว 91 เมตร มันถูกขนานนามตามตำนานท้องถิ่นว่า หนอนประหลาดแห่งไอซ์แลนด์ ซึ่งต่างจาก สัตว์ประหลาดในตำนานของสก็อตแลนด์ ที่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ มีหัวคล้ายม้า มีครีบ คอยาวและมีหาง
    Photo:: vyperlook.com
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : งู, ธารน้ำแข็ง, หนอน, ไอซ์แลนด์
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> [​IMG] เหนือ-อีสานอากาศเย็น หลายพื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้ากับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคมีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ และนครราชสีมา
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
    สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ และลพบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
    สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> วิกฤตอากาศหนาวทั่วโลกเฉพาะยุโรปตายแล้ว 460 คน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพจาก thaipbs</TD></TR></TBODY></TABLE>ภัยหนาวยังคงคุกคามยุโรปการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำดานูบ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญกลายเป็นอัมพาต ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 460 คน ขณะที่อัฟกานิสถานเป็นประเทศล่าสุดที่เผชิญภัยหนาวรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

    สภาพอากาศที่หนาวจัดในยุโรป ทำให้การสัญจรทางน้ำในแม่น้ำดานูบซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญกลายเป็นอัมพาตอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วท้องน้ำ ทั้งนี้หลายประเทศไม่ว่าจะเป็นเซอร์เบีย, โครเอเชีย, บัลแกเรีย, โรมาเนีย, ฮังการี และออสเตรีย ต้องประกาศห้ามการเดินเรือในแม่น้ำดานูบเพื่อความปลอดภัย โดยแม่น้ำดานูบมีความยาวทั้งสิ้น 2,860 กิโลเมตร ไหลผ่าน 10 ประเทศ นอกจากจะเป็นเส้นทางขนส่งที่สำคัญแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า และทำประมงด้วย


    ขณะที่บัลแกเรียอุณหภูมิทำสถิติครั้งใหม่ ลดต่ำติดลบถึง28.6 องศาเซลเซียสที่เมืองวิดิน (Vidin) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ส่วนที่อิตาลีคาดว่าจะเผชิญกับอากาศหนาวเย็น และหิมะตกหนักระลอกใหม่ในวันนี้ (10 ก.พ.) และวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) หลังเพิ่งจะฟิ้นตัวจากหิมะตกหนักที่สุดในรอบหลายสิบปีในก่อนหน้านี้


    มีรายงานว่าในตุรกี หิมะปิดกั้นเส้นบนถนนมากกว่า 2,000 สาย และสภาพอากาศที่หนาวจัดได้แผ่ออกไปไกลถึงทวีปแอฟริกาเหนือ ขณะที่ยูเครนซึ่งเป็นประเทศทีได้รับผลกระทบผลจากภัยหนาวรุนแรงที่สุด คาดว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดต่ำติดลบถึง 30 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์นี้


    ส่วนที่ฝรั่งเศส อากาศที่หนาวจัดในพื้นที่ทางภาคใต้ทำให้นกฟลามิงโก้สีชมพูหนาวตายไปถึง 55 ตัว หลังจากที่พวกมันต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นมานานถึง 10 วันจนร่างกายอ่อนแอ ส่วนนกที่ยังไม่ตายเจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยเหลือนำมาพักฟื้นก่อนส่งไปยังที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี ที่พบนกฟลามิงโก้สีชมพูตายมากที่สุด


    อัฟกานิสถานเป็นประเทศล่าสุดที่เผชิญกับภัยหนาวรุนแรง โดยสภาพอากาศในกรุงคาบูลหนาวเย็นที่สุดในรอบ 15 ปี อุณหภูมิลดต่ำติดลบถึง 16 องศาเซลเซียสท่ามกลางหิมะตกหนักวัดปริมาณหิมะได้สูงสุดถึง 50 เซนติเมตร ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ และมีน้ำแข็งปกคลุมพื้นผิวถนน


    ขณะที่ชาวญี่ปุ่นในจังหวัดนิงาตะ แม้จะต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด และหิมะตกหนัก แต่ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์อยู่กับหิมะมานานโดยบ้านส่วนใหญ่มีการสร้างส่วนของหลังคาที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีการติดตั้งทั้งอุปกรณ์ทำความร้อนเพื่อละลายหิมะ และทำให้โครงสร้างแข็งแรงสามารถทานรับน้ำหนักหิมะที่หนาถึง 2 เมตรได้ นอกจากนี้ยังมีการทำหลังคาคลุมทางเดินหน้าอาคาร และบ้านเรือนเพื่อป้องกันคนเดินเท้าจากหิมะ รวมทั้งมีการตั้งเสาเหล็กสูงกว่า 3 เมตรตามแนวถนนเพื่อไม่ให้รถเฉี่ยวกองหิมะ ส่วนป้ายรถประจำทางก็ทำเป็นหลากสีเพื่อให้ผู้โดยสารสังเกตได้ง่าย
    <!-- Begin Tags -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ต่อจากนี้ไปเราคงได้เห็นสัตว์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บ่อยขึ้นละซิครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมไม่ได้ดู เลยไม่มีความคิดเห็นครับ ถ้ามีสมาชิกท่านใดได้ดูก็ขอเชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ
     
  11. okung3036

    okung3036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +183
    คำทำนายโลกแตก 2012

    <iframe width='640' height='360' src='http://www.watchlakorn.in/oembed/a562fd35af2738ce6d88f785ef4eb134' frameborder='0' allowfullscreen></iframe>
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"2012" โลกจะแตก จริงหรือ? สิ้นปีนี้เดี๋ยวรู้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมากสำหรับปรากฏการณ์ "วันสิ้นโลก" ในปี "ค.ศ.2012" ซึ่งก็คือปีนี้นี่เอง!


    ความเข้มข้นของกระแสข่าวนี้ เพิ่มขึ้นตามตัวเลขในหน้าปฏิทินที่เปลี่ยนไป จากในโลกสังคมออนไลน์ ขยับขยายไปสู่การพูดคุยปากต่อปาก จากห้องสุดหรูบนตึกระฟ้าในเมืองกรุง ไปไกลถึงท้องไร่ท้องนาไกลปืนเที่ยง แน่นอน เหตุที่ทำให้เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เพราะนี่คือ "ความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์มนุษย์"


    สำหรับสิ่งที่ทำให้ "ความเชื่อ" นี้กลายเป็นกระแส จนถึงกับมีการกล่าว "ยืนยัน" หลักใหญ่ใจความแล้วน่าจะประจวบเหมาะกับสิ่งที่มีการพูดถึง อย่างเรื่อง ปฏิทินวันสิ้นโลกของชาวมายา, ดาวนิบิรูที่จะพุ่งชนโลกเชื่อมโยงจากตราประทับของชาวสุเมเรียน, การเรียงตัวกันของดาวเคราะห์ที่จะทำให้เกิดแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างกัน, พายุสุริยะที่อาจโหมซัดใส่โลก, การกลับขั้วของแม่เหล็กโลก หรือแม้แต่เรื่องราวของ "หลุมดำ" ที่อยู่ใจกลางแกแล็กซี่ช้างเผือกที่อาจดูดกลืนโลกให้หายวับไปได้


    หลากเรื่องหลายราวนี้ เมื่อผนวกเข้ากับสภาพที่มนุษย์เผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หนาวจัด แห้งแล้งยาวนาน ฯลฯ จึงไม่แปลกที่จะทำให้ใครหลายคน "หวาดกลัว" บางคนถึงขั้น "เชื่อมั่น" ว่าวันสิ้นโลกได้เดินทางมาถึงแล้วจริง ๆ


    เพื่อเป็นการไขปริศนานี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าในปี 2012 โลกจะแตกจริงหรือไม่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จึงได้จับมือกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ "2012 ฤาโลกจะสูญสิ้น" ณ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จามจุรีสแควร์ สามย่าน ในงานมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก


    กรณีต่าง ๆ ที่ถูกอ้างว่าจะทำให้เกิด "วันสิ้นโลก" ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาชำแหละเป็นข้อ ๆ


    ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวันสิ้นโลกนั้นมีสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว จนกระทั่งยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า ก็มีการใช้วิทยาศาสตร์อ้างให้เข้ากับคำทำนายมากขึ้น


    เรื่องปฏิทินของชาวมายา เปิดประเด็นโดยหนังสือชื่อ "The Maya" ของ Michael D.Coe ซึ่งในเรื่องเชื่อมโยงวันสิ้นโลกเข้ากับวันสุดท้ายในปฏิทินแบบ "ลองเคาท์" (Long Count Calendar) ระบุว่าจะตรงกับวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2012


    ปฏิทินของชาวมายานั้นมีอยู่ 3 แบบใหญ่ ๆ มีการนับวันและใช้ในวัตถุประสงค์ที่ต่างกันออกไป "ลองเคาท์" เป็นเพียงแบบหนึ่ง คือเมื่อวันในปฏิทินสิ้นสุดแล้วจะเริ่มนับวันใหม่ หากแต่ว่ากลับถูกเชื่อมโยงว่าเป็น "วันสิ้นโลก"


    ต่อมา ดร.บัญชา พาไปรู้จักกับปรากฏการณ์ "การกลับขั้วของแม่เหล็กโลก (Pole Shif)" โดยบอกว่า จากการเก็บข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ พบว่า โลกมีการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กอยู่เป็นระยะ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหลของโลหะที่หลอมเหลวอยู่ใต้โลก บางช่วงอาจจะยาวนานเป็นพิเศษ จะสลับไปสลับมา สิ่งที่หลายคนกังวลคือ การกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจจะทำให้มีบางช่วงสนามแม่เหล็กหายไป ทำให้โลกไม่สามารถป้องพายุสุริยะ หรืออานุภาคต่าง ๆ ที่จะพุ่งมาสู่โลกได้


    "ในทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในระหว่างโลกกลับขั้วแม่เหล็ก ไม่มีเลยที่สนามแม่เหล็กจะหายไปอย่างสิ้นเชิง อาจมีอ่อนกำลังลงบ้าง แต่เนื่องจากช่วงการเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กนั้นไม่ได้เกิดในระยะเวลาสั้น ๆ ต้องใช้เวลาราว 1,000-10,000 ปี ก็จะทำให้ขั้วเดิมค่อย ๆ อ่อนกำลังแล้วก็จะมีขั้วใหม่ผุดขึ้นมาจนครบสมบูรณ์" ดร.บัญชา กล่าว


    อีกเรื่องหนึ่งคือ "พายุสุริยะ" ซึ่งนักสื่อสารวิทยาศาตร์จาก สวทช.ยืนยันว่าแม้เกิดขึ้นก็ไม่ถึงขั้นสิ้นโลก


    "เรื่องวันสิ้นโลกได้ถูกพูดถึงในสังคมอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสังคมแห่งความเห็น มีการแสดงความเห็นโดยไม่มีฐานความรู้ที่แน่น และเมื่อผนวกเข้ากับลัทธิ ความเชื่อ ที่ยึดถือกันก็ยิ่งซ้ำเติมให้เรื่องราวต่าง ๆ ร้ายแรงมากขึ้นอีก โดยเฉพาะในสังคมไทย


    "อย่างกรณี ด.ช.ปลาบู่ เป็นต้น ซึ่งในการแก้ปัญหาก็แก้ปัญหาแบบคนไทย คือ จัดปาร์ตี้พิสูจน์ การจัดปาร์ตี้นั้นไม่ผิด แต่ต้องอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ด้วยว่า เขื่อนที่สร้างนี้มีความแข็งแรงอย่างใร ในแง่ของวิศวกรรม ให้ข้อมูลออกไป หรือถ้าเขื่อนมันแตกจริงแล้วน้ำจะไปทางไหน อย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ในการอพยพโยกย้าย แถมความรู้เป็นข้อมูลไปให้ด้วย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่า" ดร.บัญชา กล่าว


    ถาม ดร.บัญชาว่า แล้วเป็นไปได้ไหมที่จะโลกจะสูญสิ้น?

    คำตอบอยู่ในคลิปต่อไปนี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นักวิทยาศาสตร์อีกผู้หนึ่งที่มาร่วมไขปริศนาเรื่อง "วันสิ้นโลก" ในครั้งนี้ คือ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.)

    ดร.ศรัณย์ กล่าวถึง กรณีดาวนิบิรุพุ่งชนโลกว่า คนที่กล่าวอ้างถึงดาวนี้คือ Zecharia sitchin ปรากฏอยู่ในหนังสือชื่อ The 12th Planet ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1976 โดยอ้างว่า นิบิรุเป็นหนึ่งในสิบสองดวงดาวที่ชาวสุเมเรียนค้นพบเมื่อ 2500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นหนึ่งในดวงดาวที่มีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ เหตุที่นักวิทยาศาสตร์มองไม่เห็นดาวดวงนี้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะว่ามีวงโคจรที่รีมาก ๆ ขณะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มาก ๆ จะเคลื่อนที่ช้า จนเหมือนหยุดนิ่งเป็นดาวฤกษ์ธรรมดาดวงหนึ่ง แต่เมื่อใกล้แล้วจะเร็วขึ้น และจะชนโลกในช่วงสิ้นปีนี้

    "ถ้าจะชนโลกสิ้นปีนี้จริง วันนี้เราย่อมต้องมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว และถ้าดาวนิบิรุมีจริง ในตอนกลางคืนย่อมต้องส่องสว่างมากกว่าพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ เพราะใกล้โลกมาแล้ว สำหรับเหตุการณ์ดาวเคราะห์น้อยชนโลก ในอดีตก็เคยเกิดขึ้น ครั้งสุดท้ายคือที่ ทังกัสก้า ในเขตไซบีเรีย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1980 แรงระเบิดครั้งนั้นเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 30 เมกะตัน จาการศึกษาหลุมที่เกิดเชื่อว่าเป็นผลจากอุกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20-30 เมตร พุ่งชนโลก


    "สำหรับในปี 2012 มีดาวเคราะห์น้อยที่จะผ่านมาเหมือนกัน แต่ข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์มี พบว่าอยู่ไกลมาก ๆ ไม่มีการชนอย่างแน่นอน นักวิทยาศาสตร์นั้นมีโครงการติดตามวัตถุที่จากนอกโลกที่มีขนาดใหญ่กว่า 200 เมตร วงโคจรเข้าใกล้และจะเป็นภัยกับโลกอยู่แล้ว พบว่า มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่คาดว่าจะชนกับโลก นั่นคือ ดาวเคราะห์น้อย 1950 DA จะชนโลกในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ.2880 คืออีก 800 กว่าปีข้างหน้า ถึงวันนั้นมนุษย์คงมีวิทยาการในการป้องกันได้แล้ว แต่ที่สำคัญ ความเป็นไปได้ที่ดาวดวงนี้จะชนโลก มีเพียงแค่ 0.33 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น" ดร.สรัณย์ กล่าว

    เหตุการณ์ที่ลือกันว่าจะทำให้ถึงวันสิ้นโลกอีกอย่างคือ "การเรียงตัวกันของดาวเคราะห์"


    รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ บอกว่า เรื่องนี้ก็มีผู้กล่าวอ้างเยอะ มีการทำนายวันที่จะเกิดไว้ว่าตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว การเรียงตัวกันของดาวเคราะห์นั้นมีผลกับโลกน้อยมาก เทียบไม่ได้เลยกับแรงที่ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงผลจากดวงจันทร์ และที่สำคัญก็คือ จากการตรวจสอบพบว่าในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ก็ไม่ได้เรียงตัวกันดังคำทำนาย

    และเรื่องสุดท้ายที่ได้รับการพูดถึงมากเกี่ยวกับวันสิ้นโลก คือการที่โลกจะถูก "หลุมดำ" ดูดกลืนเข้าไป

    ความเชื่อนี้ อ้างจากการที่แกแล็กซี่ทางช้างเผือกที่เราอาศัยอยู่ มีดาวฤกษ์ถึง 100,000 ล้านดวง ดวงอาทิตย์คือ 1 ในนี้ ที่ใจกลางแกแล็กซี่นั้นพบหลักฐาน "หลุมดำ" ที่มีชื่อว่า "ซาจิทาเรียส" อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 4.1 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ โดยอยู่ห่างออกไป 26,000 ปีแสง กล้องดูดาวสามารถศึกษาการโคจรดาวฤกษ์ที่อยู่ ใกล้ ๆ หลุมดำซาจิทาเรียสนี้ได้


    "ถามว่าเราจะถูกดูดง่าย ๆ มั้ย ผมว่าไม่อย่างแน่นอน เพราะทุกปีดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนทางเดินและเข้าใกล้กลุ่มดาวคนยิงธนูในเดือนธันวาคมอยู่แล้ว แต่ต่อให้โดนดูดเข้าไปจริง โลกก็จะต้องใช้เวลาถึง 26,000 ปีในการพุ่งเข้าหาหลุุมดำ ขอยืนยันว่าโลกจะไม่ถูกดูดเข้าไปอย่างแน่นอน และที่สำคัญแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อโลก มากกว่าแรงโน้มถ่วงของหลุมดำที่กระทำต่อโลก" ดร.สรัณย์ ย้ำหนักแน่น


    เน้นกันชัด ๆ ปี 2012 นี้โลกจะถึงกาลอวสานหรือไม่?


    คลิกฟังคำตอบจากรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมมั่นใจนักพุทธศาสตร์มากกว่านักวิทยาศาสตร์ ^^
     
  14. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    อ่านแล้วคิดพิจารณากันเอาเองนะท่านทั้งหลาย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรอยู่ในความประมาทนั่นแหละดีที่สุด
     
  15. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    พุทธศาสตร์กับวิทยาศาสตร์อะไรเกิดก่อนกันค่ะ นั่นแหล่ะคือคำตอบ
    ........................................................................
    ไม่มีอะไรอยู่เหนือธรรมชาติ แต่ที่เหนือกว่านั้นคือพระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบ นิพพาน
     
  16. joyprueksa

    joyprueksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +203
    วิทยาศาสตร์ตามพุทธศาสตร์ไม่ทันหรอกครับ สมัยพุทธกาลพระพุทธองค์สามารถล่วงรู้ได้โดยพระองค์เองโดยไม่ต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ช่วย(สมัยนี้เรียกว่าเครื่องมือวิทยาศาสตร์)
     
  17. สิริพล

    สิริพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +336
    ครับ พุทธศาสตร์ อธิบายวิทยาศาสตร์ ได้ แต่วิทยาศาสตร์ อธิบายพุทธศาสตร์ไม่ได้
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยน้ำท่วมประเทศไทยในปี 2012 น้ำอาจจะมาจากประเทศจีน !!!

    [​IMG]

    จีนเผชิญวิกฤตภัยหนาวหนักที่สุดในรอบ 27 ปี

    มวลอากาศหนาวแผ่ปกคลุมภาคเหนือและตะวันออกของประเทศจีน ส่งผลให้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในประเทศลดลงต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี ในขณะที่ฝูงปศุสัตว์ของชาวบ้านจำนวนมากล้มตาย และการคมนาคมในพื้นที่ถูกตัดขาด

    กรมอุตุนิยมวิทยาของจีนรายงานว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติภัยหนาวครั้งรุนแรง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยได้ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี โดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในและมณฑลชิงไห่ ซึ่งเป็นเขตที่ราบสูง จึงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุหิมะ

    โดยรัฐบาลท้องถิ่นรายงานว่า ในขณะนี้การคมนาคมระหว่างหมู่บ้านต่างๆในมองโกเลียในถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงเนื่องจากหิมะที่ตกหนัก นอกจากนี้ อากาศที่หนาวเย็นยังส่งผลให้ปศุสัตว์ซึ่งเป็นเสบียงสำคัญของชาวบ้านในฤดูหนาวล้มตายลงกว่า 2,600 ตัว โดยล่าสุดอุณหภูมิได้ลดลงต่ำกว่า -40 องศาเซลเซียส และมีหิมะตกหนากว่า 1 เมตรในบางพื้นที่

    ขณะที่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ มวลอากาศหนาวที่แผ่ปกคลุมทั่วพื้นที่ทำให้อุณภูมิเฉลี่ยลดลงทันทีถึง 10 องศาเซลเซียส ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำบางส่วนกลายเป็นน้ำแข็งลอยกีดขวางการสัญจรทางน้ำเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร จนรัฐบาลท้องถิ่นต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากก้อนน้ำแข็งดังกล่าว

    ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของจีนคาดการณ์ว่ามวลอากาศหนาวดังกล่าวจะยังคงปกคลุมภาคตะวันออกและภาคเหนือของประเทศ รวมทั้งตอนล่างของลุ่มแม่น้ำแยงซีอย่างต่อเนื่องอีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8-10 วัน

    by Pannika วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 21:13 น.

    ที่มา http://news.voicetv.co.th/global/30015.html

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    เตือนน้ำท่วม พ.ย.54 ชาวเมืองเชียงใหม่ เชียงรายและผู้ที่สนใจช่วยเข้ามาอ่านหน่อยค่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2012
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พฤษภา-สิงหาของทุกปี จีนจะร้อนมากจนหิมะละลาย

    [​IMG]
    ลมมรสุมฤดูร้อน จะพัดพาฝนจากทะเลเข้าสู่แผ่นดินจีน ระหว่างเดือน พฤษภาคม-กันยายน ของทุกปี

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณหนุมานผู้นำสาร

    ********
    แม่น้ำโขง
    *************

    ภาคเหนือ...แม่น้ำโขงจะสร้างอันตรายและภัยพิบัติถ้ามีฝน(หรือหิมะ)ตกหนักทางตะวันตกของจีน แม่น้ำที่จะรองรับน้ำได้ หนึ่งในนั้นคือแม่น้ำโขง น้ำปริมาณมากจะไหลลงมาตามลำน้ำโขง

    บริเวณเหนือสุดที่ติดกับแม่โขง บริเวณเชียงแสนเชียงของ จะมีน้ำทะลักเข้าแผ่นดินไทย เกิดน้ำวนขนาดใหญ่...ดินหินภูเขาจะหลุดทะลาย ไปตามกระแสน้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกขุดรากถอนโคน ไปตามกระแสน้ำ น้ำจะไหลผ่านจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่เหนือจนถึงอ่าวไทย จังหวัดที่น่าจะเสี่ยงและควร หาทางเตรียมหนีขึ้นเขาสูง เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา แพร่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และจังหวัดที่อยู่ใต้ จนลงมาถึงกรุงเทพฯ

    ขอให้ประชาชนหมั่นติดตามฟังข่าว....หากฝนตกหนักมากทางตะวันตกของจีน ระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นเร็ว ต้องรีบเตรียมอพยพ หัดอ่านแผนที่หาที่หนีภัยใกล้ตัว...ไว้ล่วงหน้า เพราะเหตุการณ์นี้....จะรุนแรงมหันต์ จำเป็นต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน

    พระไตรปิฎก...ได้ส่งมอบ "สัจจะ"เป็นหนทางปฏิบัติของมนุษย์แล้ว อยู่ที่จะ"เชื่อ" หรือ"ไม่เชื่อ"

    - " หนุมานผู้นำสาร"
    09-04-2008, 02:35 PM

    [​IMG]

    ******************
    วิธีสังเกตุพื้นที่ปลอดภัย
    ******************

    หาก....พื้นผิวขุดไปมีแต่ดินสีส้ม หรือสีแบบลูกรังลักษณะร่วน ไม่มีดินเหนียวไม่มีหินปนอยู่ ใกล้เส้นทางน้ำไหลและมีภูเขาลาดชัน ให้ระวัง...เมื่อฝนตกหนักติดต่อกัน น้ำป่าท่วมพัดภูเขาถล่ม ดินเลื่อนไหลลงมาทับเส้นทางที่ขวางทางน้ำ หรือมีท่อน้ำรอดข้างใต้ จะถูกกัดเซาะพังทลาย ถนนจะขาด สะพานบริเวณนั้นจะพังง่าย

    หาก....อยู่ใกล้ภูเขาที่ทั้งลูกเป็นหิน เป็นแท่งสีเทาดำที่เป็นลาวาแข็งตัว แต่อาจมีต้นไม้ปกคลุมจนมองได้ยาก แสดงว่าภูเขาลูกนี้เกิดจากแผ่นดินปริแยก มีหินละลายลาวาใต้เปลือกโลกทะลักออกมา ให้ระวัง...เมื่อเกิดแผ่นดินไหว อย่าอยู่ใกล้เปลือกโลก บริเวณนั้นจะขยับเคลื่อนตัว เกิดเป็นลาวาไฟใต้โลกพ่นออกมาควรหนีออกไปยังที่เป็นที่ราบ ที่สูงกว่าอย่าหนีไปที่ต่ำลาวาจะไหลไปถึง

    หาก...อยู่พื้นที่ใกล้ชายทะเล ที่มีลักษณะเป็นที่ราบเรียบกว้าง ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นทำนาเกลือได้ง่าย หรือมีเพียงป่าโกงกางกั้นบริเวณริมทะเล ให้เข้าใจว่าบริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเล เมื่อมีข่าว...เกี่ยวกับฝนตกหนัก ข่าวพายุเกิดบ่อยไปทั่วโลก ข่าวน้ำแข็งขั้วโลกละลายมากขึ้น ให้ระวัง....อีกไม่นานนักบริเวณพื้นที่นี้จะถูกน้ำทะเลท่วม กลับสภาพเหมือนเดิมในอดีต เพราะน้ำทะเลจะสูงขึ้นจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น

    หาก...อยู่พื้นที่ราบใกล้แม่น้ำโขง เมื่อประเทศจีนมีพายุและฝนตกปริมาณมากติดต่อกัน ได้ข่าวมีน้ำท่วมในจีนมากรุนแรง และบ่อยครั้งแสดงว่าปริมาณน้ำบนผิวโลก ที่ประเทศจีนมีจำนวนมหาศาล หากมีข่าวเขื่อนที่จีนพัง หรือปล่อยน้ำมาก ให้ระวัง....ระดับแม่น้ำโขงจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเร็วของน้ำรุนแรงเชี่ยวมาก ต้องรีบหนีไปยังพื้นที่สูง เตรียมอาหารเสื้อผ้ายารักษาโรคให้พร้อมอย่า....ประมาทจะหนีไม่ทัน น้ำจะทะลักท่วมพื้นที่หลายจังหวัดกว้างมาก

    หาก....อยู่ใกล้พื้นที่ราบที่ยกตัวสูงขึ้น มองเห็นหน้าผาชันเป็นแนวยาว ให้เข้าใจว่าเป็นการยกตัวของเปลือกโลกในอดีต เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีแผ่นดินไหวเบาๆ มีแรงสั่นใต้พื้นโลกเบาๆ บ่อยครั้งถี่ขึ้น ให้ระวัง...ผิวโลกแนวภูเขาบริเวณนั้นจะเกิดการขยับตัวรุนแรง อาจมีแผ่นดินแยก มีไฟมีก๊าซมีลาวาใต้โลกไหลทะลักออกมา อย่าหนีไปที่ต่ำในเส้นทางลาวาหินละลายไหล

    - " หนุมานผู้นำสาร"
    09-04-2008, 02:25 PM

    [​IMG]

    *********************
    สิ่งที่น่าติดตามเพื่อรอดพ้นภัย
    *********************
    คือ...ข้อมูลข่าวสาร

    - การขยับของเปลือกโลกในแปซิฟิค แสดงออกใกล้ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ แล้วไล่ลงไปทางทิศใต้

    - การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศน้ำแข็ง บนเทือกเขาหิมาลัย

    - ปริมาณฝนและระดับน้ำ ในแม่น้ำ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ในประเทศจีน

    - " หนุมานผู้นำสาร"

    ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๐


    [​IMG]

    สภาพภูมิอากาศของประเทศจีน

    ด้วยอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมสภาพภูมิประเทศแบบภูเขา 35% ที่ราบสูง 27% ที่ราบลุ่ม 17% เนินสูงต่ำ 8% และที่ราบ 13% จีนจึงมีสภาวะอากาศและอุณหภูมิที่ต่างกันมากในแต่ละท้องที่ จากเหนือจรดใต้ประกอบกับลักษณะพื้นที่ที่เป็นแบบขั้นบันได ลาดลงจากที่ราบสูงทางตะวันตกไปสู่ที่ราบลุ่มทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็มีอิทธิพลสำคัญ

    แต่สาเหตุสำคัญที่สุดคือที่ตั้งของประเทศ ที่อยู่ชายขอบทวีปเอเชียบนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ ในฤดูหนาวความกดอากาศสูงที่ก่อตัวขึ้นจากตอนเหนือของทวีปเคลื่อนตัวลงมาทางใต้ พาเอาอากาศหนาวและแห้งแล้ว และฝุ่นจากทะเลทรายโกบีเข้ามาด้วย ในฤดูร้อนมีลมมรสุมพัดพาฝนจากมหาสมุทรเข้าสู่ฝั่ง

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตอนเหนือของมองโกเลีย มีฤดูร้อนไม่นานนักและไม่ร้อนจัด ส่วนฤดูหนาวค่อนข้างยาวและหนาวจัด ทำการเพาะปลูกพืชผลได้เพียง 3-4 เดือน

    ภาคตะวันตก เป็นเขตทะเลทรายมองโกเลียตอนในและมณฑลชินเจียงฤดูร้อนอากาศร้อนและแห้งแล้ง มีลมพัดแรงเป็นครั้งคราว ฤดูหนาวเย็นและแห้งแล้ง

    ภาคกลาง ฤดูร้อนอากาศร้อนและมีฝนตกมาก โดยเฉพาะที่ราบดินเหลืองทางเหนือของแม่น้ำแยงซีระหว่างเดือนกรกฎาคม- กันยายน ทางตอนล่างของแม่น้ำมีอากาศรุนแรงน้อยกว่า สามารถทำการเพาะปลูกได้นานปีละ 8 เดือนขึ้นไป

    ภาคใต้ มีลักษณะภูมิอากาศแบบชายฝั่งที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมฤดูร้อน พัดพาฝนจากทะเลเข้าสู่แผ่นดิน ระหว่างเดือน พฤษภาคม -กันยายน ของทุกปี

    ฤดูกาลแบ่งออกเป็น ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส

    ฤดูร้อน ประมาณเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม ของทุกปี อุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียสและมากกว่า (จีนร้อนมาก เหงื่อออกมาก หิมะละลาย)

    ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส

    ฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน-กลางมีนาคม อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียลและต่ำกว่า

    นำข้อมูลมาจากหนังสือคู่มือนักเดินทางจีน

    ที่มา http://blog.hunsa.com/phawarun6638/blog/3974
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2012
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิมิตฝันเตือนภัยแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน?

    <TABLE class=tborder id=post5683216 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); border-image: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247); border-image: initial; background-origin: initial; background-clip: initial" width=175>jamrus [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2006
    ข้อความ: 115
    พลังการให้คะแนน: 173[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    </TD><TD class=alt1 id=td_post_5683216 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); background-origin: initial; background-clip: initial">เนื่องจากคล้ายวันเกิด เลยสวดมนต์ยาว แล้วนั่งสมาธิด้วยคาถาเงินล้าน แล้วก็นอนแต่ก็ภาวนา จนหลับ

    ฝันว่าเดินไปถนนเลียบภูเขาสูงมาก แต่มีน้ำสาดมาเหมือนคลื่นจากภูเขา เลยปีนเขาขึ้นไปดู

    โอโหน้ำมาจากภูเขาถล่ม เป็นแม่น้ำลงมาเลย เลยมาคิดว่าน้ำแรงมากจนภูเขาถล่มเลย
    __________________
    รู้ลม รู้ตาย รู้พระนิพพาน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post5683389 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); border-image: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247); border-image: initial; background-origin: initial; background-clip: initial" width=175>vigo1843
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2011
    สถานที่: พระธาตุพนม
    ข้อความ: 88
    พลังการให้คะแนน: 10[​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_5683389 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); background-origin: initial; background-clip: initial">ฝันว่าตัวเองยืนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง คล้ายๆว่าเป็นภูของเขาค้อ มองออกไปเห็นยอดภูอีกลูกหนึ่ง มีธงมัดผ้าโบกไปมา มีควันไฟฟุ้งกระจาย เป็นหย่อมๆ แต่มองลงไปด้านล่าง มีน้ำเต็มไปหมด ประมาณว่าครึ่งของภูเขาลูกนั้น กระจายขาวเต็มสุดลูกหูลูกตา น้ำมาจากไหนกัน ....

    เคยฝันแบบนี้ประมาณ 5 ครั้งแล้ว ครั้งล่าสุดตอนต้นปีหลังกลับจากไหว้หลวงพ่อโสธร หรือว่าเราจะคิดมาก กังวลมากไปจนเก็บมาฝัน อย่าถือสานะครับ แค่อยากเล่าสู่กันฟัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-162
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...