ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    ผมชักกลัวคุณหนุมานฯ แล้วซิ เหมือนรู้ว่า ใครจะมาอ่าน และคนจะมาอ่านคือใคร เพราะว่า หลายๆข้อที่คุณหนุมานฯ บอกโดนยังกะอะไร เหมือนมีไม้มาเขกกะบานอย่างนั้น

    ผมสักกลัวแล้วสิ
    ผมรู้สึกนะคุณหนุมานฯ ว่าคุณหนุมาน เป็น... ไม่รู้สิ คิดว่า
    ไม่ควรเอ่ย แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่คุณหนุมานเตือนนั้น ต้องคิดไว้ให้มากๆ ตรองให้มากๆ

    ภาพปริศนา ซ่อนเร้นปัญหาฉันใด ผู้ที่อยากไขปัญหา ใช้ใจเก็บภาพนั้นไว้ไปคิดไม่ลดละ คุณหนุมานฯ ก็ฉันนั้น ยิ่งปริศนาธรรม มีค่ายิ่งกว่าภาพปริศนาแล
     
  2. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    วัตถุทาน นั้นก็มีค่า ให้ผลอยู่มากยิ่งในระดับหนึ่ง
    แต่ถ้าคนไทยให้สิ่งหนึ่งแก่ชาวพม่า ผมว่าเราจะได้มากกว่านั้น
    การให้สิ่งนั้นคือ อภัยทาน แล้วเราก็ให้ต่อมาคือให้การช่วยเหลือ
    สิ่งใดผ่านแล้วก็แล้วกันไป บัดนี้ภพใหม่เกิดกันใหม่มาใช้กรรมเก่า
    หากเราให้อภัยได้ ทานอันนี้เป็นบุญใหญ่ยิ่งมิใช่หรือครับ บุญนั้นน่าจะถึงระดับใด ถ้าเป็นผม ผมก็คิดว่า คุมครองชาติและตัดกรรมแน่แล้ว ต่อมาได้ผลสองคือ เมตตาค้ำจุนประเทศ ค้ำจุนโลก ดังนั้น เราต้องให้อภัยกันครับ

    อย่าได้ลืมครับ ว่าเราทุกคนมาเป็นคน แล้วไม่มีสิ่งใดเป็นของเรามาก่อน แต่สิ่งที่เป็นมาคือสมมุติกันไว้ทั้งสิ้นไม่ใช่หรือครับ ดังนั้น อยู่ด้วยเมตตากัน ย้อมพบความสุขยิ่งกว่า
     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    พระพุทธองค์ทรงมีพุทธพยากรณ์ดังนี้...http://www.firstbuddha.com/Buddha/know1.html หลวงพ่อฤาษีบอกว่าhttp://www.firstbuddha.com/Buddha/know2.html คนเมืองบัวบอก แหล่งที่มาhttp://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=4858
     
  4. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลาย สมดังความปราถนาเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ไฟล้างโลก และพระศรีอาริย์ตรัส
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG]



    เรื่องรู้เลยตาย : ไฟล้างโลก และพระศรีอาริย์ตรัส (บันทึก เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒)
    ความจริงเรื่องรู้เลยตาย หรือรู้ก่อนเกิดนี้ ฉันเองไม่ใคร่อยากจะพูด และไม่อยากจะเชื่อถือนัก เพราะดูแล้วมันเลยธงไปไม่น้อยเลย แต่มาอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คนเขียนๆ เรื่องรู้เลยตาย และรู้ก่อนเกิดไว้มากมาย เช่น รู้ว่า เมื่อสิ้นศาสนานี้แล้ว ไฟบันลัยกัลป์จะไหม้ถึงภวคพรหม ดูเรื่องมันมากมายนัก ฉันสงสัยไม่หายว่า ไฟอะไรจะดันไปไหม้แม้แต่เทวดาและพรหม ดูมันพิลึกพิลั่นมากมายเกินพอดี เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ความจริงไม่ได้ ในที่สุดคืนของวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ นนทากับ ประสบสุข มาฝึกกรรมฐาน ฉันนั่งคุมกรรมฐาน ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็น สัพพัญญูวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้

    หลังสิ้นพระพุทธศาสนา : หลังจากกึงพุทธกาลไปแล้ว ๔,๐๐๐ ปี (เลยพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปีไปอีก ๑,๕๐๐ ปี) จะมีไฟล้างล้างโลก ล้างแต่มนุษย์เท่านั้น ไม่ลามไปถึงเทวดา ท่านบอกว่า ความชั่วที่จะเป็นเหตุให้ไฟล้างนั้น เป็นผลของสัตว์ที่สร้างอกุศลกรรมมาก มารวมกันอยู่ เป็นสมัยสัตว์นรกครองโลก มีแต่ความเร่าร้อน หาความสงบสุขไม่ได้ ความจริงแล้วมันเริ่มมีความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปีแล้ว จากนั้นไป พวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรมเป็นพวกเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

    หลังจากไฟล้างโลกแล้ว : โลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีไปครบ ๑,๐๐๐ ปี หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษย์โลก แม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื้น ต้นหญ้า ต้นไม้ จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้

    หลังจากที่โลกเขียวชอุ่ม ไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้น : ทิ้งระยะนาน ๑ หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิด สัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้น ไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบ อุปปาติกะ คือ มาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวคนขึ้น จะยังไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ส่องแสง มีแสงเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละคน คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ เรื่องอาหารนั้นนระยะแรกยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปิติ เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอจากกฏธรรมดา คือ ความเสื่อมของสังขาร เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด ผิวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีคนจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป

    พระศรีอาริย์มาตรัส : เมื่อโลกมีมนุษย์ และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์แล้ว ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลกเกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี คนสมัยนั้นีอายุครองตนได้ ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้นพระศรีอาริย์จะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า เขตที่ท่านลงมาตรัสสมัยปัจจุบันเรียกว่า เขตเมืองพม่า

    คณะคอยพระศรีอาริย์ : คนกลุมหนึ่ง ที่บำเพ็ญบารมีคอยพระศรีอาริย์ ตามปฎิญญาที่ให้ไว้หลายพุทธสมัยนั้น ท่านหัวหน้าทรงนามว่า "โกสีห์" จะสร้างเมืองแถวด้านเหนือของเมืองพม่า เรียกว่า เชียงตุง ปัจจุบัน ให้ชื่อเมืองว่า สีหนคร รวบรวมลูกหลานทั้งหมดมาร่วมบำเพ็ญกุศล และเป็น อุปฐากใหญ่ ของพระศาสนา ในที่สุดก็นิพพานทั้งตระกูล

    ในศาสนาพระศรีอาริย์ : เรื่องพระศรีอาริย์นี้ เวลานี้ชักยุ่งมากทีเดียว เพราะไม่ว่าไปทางไหน ก็พบพระศรีอาริย์เกลื่อนไปหมด ที่โน่นก็พระศรีอาริย์ ที่นี่ก็พระศรีอาริย์ เล่นเอาชาวบ้านอานกันเป็นแถว เพราะอยากเป็นบริวารพระศรีอาริย์ ส่วนพวกร้านค้าก็บอกว่า ระหว่างนี้เข้ายุคภาษีอาน ฟังแล้วคล้ายๆ กัน....ฯลฯ

    มาพูดกันเรื่อง พระศรีอาริย์กันดีกว่า เรื่องภาษีอานนั้นพูดไม่ออกแล้ว พอใจหรือไม่พอใจก็ต้องเสีย เป็นเรื่องของยุคทมิฬ ห้ามพูด เมื่อบ้านเมืองยุ่ง ทางกลุ่มศาสนาก็พลอยกลุ้ม เพราะเมื่อมีความเดือดร้อน ชาวบ้านก็อยากพบพระศรีอาริย์ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข คราวนี้เองเป็นเหตุให้พระศรีอาริย์อวตาร หรือโงนเงนเหมือนต้นตาลลงมาไม่ทราบ เกิดมีพระศรีอาริย์โผล่หน้ามาพร้อมกันหลายองค์ อยู่ตามถ้ำ ตามเขาบ้าง ตามกลุ่มชนในชนบทบ้าง ไม่รู้ว่าอวตารลงมาอย่างไรพร้อมกัน ในยุคเดียวกันตั้งหลายอาน บางรายก็สวดด่อน เขาว่าอย่างนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสวด เขาสวดกันอย่างไร บางรายเฉพาะที่เขาตะพาบ เมืองอุทัย เห็นสวดดะไม่ใช่สวดด่อน ที่เมืองลพบุรีก็มี รายนั้นทำงานมงคล นิมนต์พระผีมาสวดเป็นแถว เห็นตั้งอาสนะไว้ แต่ไม่เห็นมีพระ มีคนเขาบอกว่าท่านนิมนต์หลวงพ่อศุข หลวงพ่อปาน หลวงพ่อแช่ม ฯลฯ และอีกหลายท่าน ให้มาสวดมนต์ ในงานยกธงธรรมจักร นิมนต์พระผีมานี่ ลดค่าครองชีพดีมาก ท่านสวดมนต์ก็เสียงไม่ดัง นั่งก็ไม่เปลืองที่ เลี้ยงอาหารก็ไม่เปลือง สบายใจดีแล เรื่องอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะโกหกเพื่อหวังลาภผลเท่านั้นเอง เอาอะไรเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ขึ้นไปบนสวรรค์ทีไร พบพระสรีอาริย์ทุกคราว แถมท่านบอกมาด้วยว่า "ที่เข้าทรง และว่าฉันไปนั้น ฉันไม่เคยไปเลย" เรื่องก็จบเพียงแค่นี้

    ต่อไป มาพูดกันถึงศาสนาพระศรีอาริย์กันดีกว่า ท่านว่า ศาสนาของท่านนั้น มีผลดังนี้

    ๑. คนสวยทุกคน มีผิวเหลือง เนื้อละเอียด คนแก่ที่สุด มีทรวดทรงเท่ากับคนอายุประมาณ ๒๐ ปีเศษสมัยนี้เท่านั้นเอง อายุคนสมัยนั้นท่านว่ามีอายุถึง ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย

    ๒. สมัยของท่าน ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย มีต้นไม้สารพัดนึกอยู่ในที่ทุกสถาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย มีจิตใจชั่วร้าย ยังไม่มีโอกาสเกิดในสมัยของพระองค์ ท่านที่จะไปเกิดที่นั้น ต้องเป็นเทวดา หรือพรหมเท่านั้น โลกจึงมีแต่ความสุข ไม่มีตำรวจทหาร มีแต่พ่อบ้านแม่เรือน

    ๓. การสัญจรไปมาสะดวกสบาย ไปไหนก็พายเรือตามน้ำ

    ๔. คนเข้าถึงธรรมทุกคน ท่านว่าคนที่เจริญสมถะพอมีญาณ หรือมีวิปัสสนาญาณบ้างพอสมควรจะเข้าถึงธรรมพิสมัยได้โดยฉับพลัน คือเป็นพระอริยเจ้า คนที่ได้อริยะต้นแล้ว จะเข้าถึงอรหัตผลได้โดยฉับพลัน

    คนที่ทำบุญไว้น้อย คือฟังคาถาพัน และปฏิบัติตามแต่ไม่สมบูรณ์ อย่างต่ำก็เข้าถึงสรณคมน์ อย่างสูงก็ได้อริยะ ที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะท่านบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป ท่านบำเพ็ญบารมีมาก คนเลวจึงเข้าแทรกแซงในศาสนาของพระองค์ไม่ได้ น่าเกิดจริงๆ
    เรื่องกระจุ๋มกระจิ๋มอย่างนี้อย่างนี้ เขียนไว้ให้อ่านเล่น จริงหรือไม่จริง ไม่มีผลที่จะพิสูจน์ได้ด้วยตำรา ต้องอาศัยฌานและญาณช่วยจึงจะทราบผลแน่นอน ถ้าวิริยะอุตสาหะแล้ว ไม่ช้าก็พากันมีความรู้สึกที่จะพิสูจน์ได้ ฟังไว้แต่อย่าเชื่อ และอย่าเพิ่งปฏิเสธ จนกว่าเราจะมีฌานและญาณพอจะพิสูจน์ได้ สำหรับเรื่องนี้ขอยุติเท่านี้ วันหน้าถ้ามีเวลาพอ จะเอาเรื่องโลกเกิดมาเขียนให้อ่านเล่น ​

    <!-- / message --><!-- sig -->พระพุทธเจ้าแม้พระองค์เองก็ไม่ได้บังคับให้เชื่อให้ใครศรัทธา
    เธอเองก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรา แต่ให้พิสูจน์ด้วยการปฎิบัติ ให้รู้แจ้งเห็นจริงเสียก่อน ไม่ใช่ถือฟังตามๆกันมา


    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  6. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    [​IMG]
    พระอรหันต์บอกว่า <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=578 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=3><TABLE class=webbody cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=webbody width=749 height=33>
    ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี<!-- #EndEditable -->​




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=206></TD><TD vAlign=top colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD vAlign=top><!-- #BeginEditable "detail" -->
    ท่านสาธุชนพุทธบริษัท วันนี้ยังเป็น วันที่ 8 ตุลาคม 2533 ตามเดิม แต่ว่าพูดเป็นตอนที่ 2 ตอนนี้ ขอพูดถึงตอนที่ ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นท่านทั้งหลายคิดออกหรือยังว่า สงครามโลกเกิดขึ้น และมันก็ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยโดยตรง มันเกิดภายนอกประเทศ นอกเขตของไทย เป็นอันว่า ลูกปืนก็ไม่มาถึงประเทศไทย เครื่องบินก็ไม่มาถึง ประเทศไทย แต่ต้องระวังจรวด เรื่องจรวดนี่ ต้องระวังกันหน่อย เพราะจรวดมันมาจากใต้นํ้าได้ มันยิงทางไกลได้ ถ้ามันจะ เกิดขึ้นบ้างก็เป็นขนาดย่อมๆตามจุดต่างๆ เป็นจุดเล็กๆ อาจจะโผล่จุดนี้บ้างจุดนั้นบ้าง เป็นการทำให้รวน กำลังของทหาร รวน แล้วจะตั้งกลุ่มขึ้นบางจุด เป็นกลุ่มใหญ่น้อย ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ก็รวมความว่า สงครามโลก ไม่มีเรื่องหนักใจ ในเรื่องการตายของเรา เรื่องรังสีของวิทยาศาสตร์ รัศมีต่างๆไม่ต้องวิตก ขอยืนยันว่า บุคคลที่นับถือ พระพุทธเจ้าจะไม่ตาย เพราะรังสีต่างๆ ตามที่บอกมาแล้ว​
    ทีนี้ความรํ่ารวย มันจะเกิดขึ้นบ้าง ประการแรกขอบอกว่า เรื่องนํ้ามันจะเป็นเหตุให้รวย เพราะว่า ทุกประเทศต้องใช้นํ้ามัน และอีกประการหนึ่งนั่นก็คือว่า ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นจริงๆ ถึงแม้ว่า เราจะไม่ได้เข้าสงครามโดยตรง แต่ว่าทหารของ ประเทศบางประเทศ จะต้องยกเข้ามาตั้งในจุดใดจุดหนึ่ง ของประ เทศไทย เวลานั้น เราก็ขายนํ้ามันให้เขา เราก็รวยถ้ามี กองทหารอื่นเข้ามา มันจะดีหรือไม่ดี นี่ก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นต้องยอมรับ ถ้ามีการยอมรับ ราย ได้ต่างๆของประชาชนก็เกิดขึ้น
    ทีนี้รัศมีสงคราม ในเมื่อไม่ถึงประเทศไทย เราก็ไม่มีความลำบาก บรรดาท่านที่ทำนาทั้งหลาย ท่านที่มีนาอย่าเพิ่งขายนา ในราคาแพงมากนัก คือขายก็ขายเถอะ แต่อย่าขายให้มันหมด ก็มีคนหลายคนมาบอก ว่ามีที่ 20 ไร่บ้าง 30ไร่บ้าง 50ไร่ บ้าง 100ไร่บ้าง อยากจะขาย ขายได้ไร่ละเป็นล้านนี่ก็เห็นใจเหมือนกัน ความจริงเงินนับล้าน เป็นของหายาก ก็เห็นใจเขา อาจจะตั้งตัวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าไม่ลืมตัว แต่ว่าบางท่าน ที่ไม่มีโอกาส จะขายนาของท่านได้ นาของท่าน อยู่ไกลที่ เจริญ อยู่ไกลแม่นํ้า ไกลถนน ถ้าเขาจะซื้อ ก็ซื้อราคาถูก ท่านก็ไม่อยากจะขาย ท่านจะขายราคาแพง ในที่สุดท่านก็ไม่มีโอ กาสขาย ในเมื่อเวลานี้ไม่มีโอกาสจะขาย ท่านอาจจะเสียดายว่า ที่นาของเราไม่ได้ขาย เราไม่รวยแต่ทว่าสงครามโลกเกิด ขึ้นจริงๆ ท่านจะดีใจ เพราะนาท่านไม่ได้ขาย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะข้าวของท่าน ที่ออกมา ราคามันแพง มันจะขายได้ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็จะแพงกันหมด ดูสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกสิ่งทุกอย่าง มันหายาก ยิ่งเขายิ่งรบกันโอกาสที่เขาจะทำมัน ก็มีน้อย เขาต้องใช้เวลารบกันมากขึ้น ทีนี้เราก็ขายได้ดี
    มาส่วนด้านของอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมก็มีมาก แต่ว่าอุตสาหกรรมก็ต้องระวังโรงงานโรงงานต่างๆต้องระวังระเบิดภาคพื้นดิน ไม่ใช่ระเบิดอากาศ ระเบิดภาคพื้นดิน จะอาละวาด ถ้าจะถามว่า หาทางป้องกันอย่างไร นี่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร หรือท่านเจ้าของโรงงาน ทางด้านพุทธศาสนา ก็มีบอกไม่ได้ จะบอกได้อย่างไรว่า เรานับถือพระพุทธเจ้าเท่ากันหรือเปล่า ถ้านับถือเท่ากัน ก็เอาของที่ท่านให้ไว้ ท่านให้ไว้นั่น ก็คือ ความดี ของดี ถ้ามีไว้ในรัศมีนั้น จะไม่มีอันตรายจากภัยระเบิด และภัยโจมตีต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เหมือนกับสมัยมี ผกค. ในที่ต่างๆ เคยถูกโจมตี และเจ้าของสถานที่นั้น เจ้าหน้าที่ในที่นั้น เกิดมีความเคารพพระพุทธเจ้าขึ้นมา มีของอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ แสดงไว้เป็นเขต ในเขตนั้น ปรากฏว่า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่เคยถูกโจมตีหรือข้าศึกยิงเข้ามา ก็ไม่เข้าสถานที่ ตรงหน้าไม่เข้าฐาน เป็นอันว่าทหาร ในเขตนั้น ก็ปลอดภัย ข้อนี้เป็นสัญลักษณ์ แสดงให้เห็นว่า
    ถ้าเรา นับถือพระพุทธศาสนาจริง และยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าจริง สิ่งใดที่ท่านให้ไว้ สิ่งนั้นเราเคารพด้วย ความจริงใจ และทุกท่านจะปลอดภัย จากสงครามโลกครั้งที่ 3
    ทีนี้ถ้าโรงงานต่างๆมีความเคารพ พระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจจริงๆโรงงานนั้น จะพ้นภัยจากระเบิด และการทำอันตรายต่างๆ จากสรรพวุธ จะไม่เกิดขึ้น กับโรงงานนั้น โรงงานนั้น ในเมื่อผลิตของได้ก็จะขายดี รวย เขารบกัน เขาไม่มีเวลาทำ เพราะเราไม่ต้องรบ เขาต้องสูญ ต้องเสียเงิน เพื่อการรบ การรบต้องใช้เงินมาก เราไม่ต้องสูญเสียเงิน เพราะการรบเราก็ ขายของของเรา ในเมื่อของมันขาด ราคาก็แพงใน เมื่อขายของได้ ราคาแพงมาก รัฐบาลก็ได้ภาษีอากร มากขึ้น ประเทศก็รวย คนในปะเทศก็รวย นี่พูดถึงความรํ่ารวย ที่ไทยจะเป็มหาเศรษฐี
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นํ้ามันตามจุดต่างๆที่บริษัทเขาเจาะไว้ เขาบอกว่า มันไม่พอใช้มันจะปรากฏขึ้น เพราะเราไม่มีโอกาส ซื้อนํ้ามันต่างประเทศ ถ้านํ้ามันต่างประเทศ จะซื้อได้ยากราคาแพง อันนี้เขาจะดึงขึ้นมาใช้ ราคาเหมือนราคาต่างประเทศ อย่างนี้อุตสาหกรรมของเรา ก็จะรวยไม่ได้ ถ้าบังเอิญคนไทย อย่างที่ฝางใช้หัวเจาะลึกๆ หัวเจาะยาวๆ เจาะลงไปลึกๆ แต่ ตามหลัก นักวิชาการ เขามีอยู่ อาตมาก็ไม่ได้ค้านตามนั้นนะ ลองเจาะดูตามที่ ดร.สรรพศาสตร์ ท่านพูด ดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ที่ใดก็ตามเจาะลงไป มันจะมีนํ้ามันแต่ว่า ผิวดินมันจะลึกจะตื้นกว่ากัน นั่นอีกอย่างหนึ่งต่างหาก เท่าที่เขาเจาะ เวลานี้ ยังไม่ถึง ขุมนํ้ามันจริงๆ มันไปถึงต่อมเล็กๆ บนหลังถังนํ้ามัน ยังไม่ถึง ถังขุมนํ้ามันแท้ ถ้าใช้หัวเจาะ ประมาณ 6 กิโลเมตร อย่างอังกฤษเจาะ อย่างนี้ไม่ต้องใช้กี่บ่อแล้ว เพียงแค่ 10 บ่อดึงกันวันไม่รู้จักเท่าไร เท่าไรก็ไม่รู้จักหมดเราใช้ ประมาณ 30 เท่า หรือ 300 เท่าของเวลานี้สัก 1,000 ปี มันก็ไม่หมด เพราะมันเป็นทะเลใหญ่ ดร.สรรพศาสตร์ท่านพูดอย่างนี้นะ
    ถ้าบังเอิญคนไทยของเรา ดึงขึ้นมาได้เอง เราก็กดราคานํ้มันให้ตํ่าลงไป อย่างแพงที่สุด ก็เท่าราคานํ้ามันในปัจจุบัน รักษาราคาน้ำมันไว้ ต่างประเทศเขาต้องซื้อราคาแพง เราถูก อุตสาหกรรมของเรา ก็มีราคาถูก ขายได้กำไร กำไรก็มีมาก กำไร จากอุตสาหกรรมด้วย กำไรจากเกษตรกรรมด้วย กำไรจากนํ้ามันด้วยและมีกำไรมากมายประเทศไทยก็จะเป็นมหาเศรษฐี
    ทีนี้ต่อไป มันก็มีเวลาเหลือ บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็มาคุยกันว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดจะว่าอย่างไร ก็ต้องตอบว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดก็เป็นของดี แต่ว่าท่าน ดร.สรรพศาสตร์นี้ ก็เช่นเดียวกัน ท่านบอกว่า สงครามโลกเขาเรียกสงครามใหญ่ ไม่ใช่สงครามโลก ก็เป็นอันว่า ถึงแม้จะเป็นสงครามโลก ก็ตาม สงครามใหญ่ ก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราก็เอาบทเรียน จากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาใช้กัน
    1. ผ้าในสมัยนั้น หาคนนุ่งผ้าดีได้ยาก ส่วนมากก็จะมีคน นุ่งผ้าขาดๆ เพราะเวลานั้น โรงานทอผ้าของเรา ยังมีน้อยแต่เวลานี้ โรงงานทำผ้าของเรามีมาก แต่ก็ไม่แน่นอนนัก บางทีระเบิดเพลิง จะเกิดจากภาคพื้นดินก็ได้ ถ้าระเบิดเพลิงจากภาคพื้น ดินเกิดกับโรงงาน โรงงานทำผ้าของเราก็จะสลายตัว ผ้าก็จะน้อย อันดับแรก เตรียมผ้าไว้ก่อน อันดับที่ 2 เตรียมพื้นดินไว้ ถ้ามีอยู่บ้าง ไม่มากไม่มาย ก็อย่าเพิ่งรีบขายเกินไป ถ้าได้กำไรมากๆ เป็นล้านๆ ก็ไม่ว่าอะไร ขายเถอะ แล้วเก็บเงินไว้ให้ ดี อย่าใช้ให้มันหมดตัว จงคิดว่า ถ้ามันหมดตัวแล้วเราไม่มีทางจะหาที่ดินขายใหม่
    ประการที่ 2 ก็เตรียมเนื้อ เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมใจไว้ นึกถึงความจริง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่า
    โลกเต็มไปด้วยความทุกข์ โลกไม่มีความสุข โลกเป็นอนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นอนิจจัง ก็เป็นความทุกข์ในที่สุด ก็เป็นอนัตตาตายหมด
    ถ้ามันเป็นเรื่องอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ความจริงเป็นอย่างนั้น ถ้าเรายอมรับก็ไม่เป็นไร ถ้าจิตยังไม่ยอมรับ มันก็มีความดิ้นรน มันก็มีความเร่าร้อน ถึงจะดิ้นรนจะเร่าร้อนขนาดไหนก็ตามเราก็จะหนีไม่พ้น ในเมื่อหนีไม่พ้นเราก็ต้องทนสู้ ทนสู้ กับภาวะ ของสงคราม ทีนี้เราจะสู้กับใคร เราสู้กับตัวเราเอง นั่นคือ ต้องใช้น้อย กินน้อย นอนมากๆ และตื่นไวๆ ใช้กำลังร่างกายทำ การงานให้ดี ได้พูดอย่างนี้ ก็พูดเรื่อยเฉื่อยไป
    เป็นอันว่า ตามคำพยากรณ์ของดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่าประเทศไทยจะเป็นมหาเศรษฐี แล้วคนไทยทุกคน จะเป็นมหาเศรษฐีไหม ก็ต้องขอบอกว่า คนไทยทุกคนไม่เป็นมหาเศรษฐีทุกคน แต่ว่าก็มีจำนวนมาก ก็จะเป็นลูกศิษย์มหาเศรษฐี คือ เป็นคนงานของมหาเศรษฐี เราก็จะเป็นเศรษฐีเล็กในครอบครัวเล็กๆได้เหมือนกัน สมมติว่าครอบครัวใด ยังไม่เคยมีเงิน ล้าน ครอบครัวเล็กๆ ปะเภทนั้น จะมีเงินล้านใช้ ประเภทครอบครัว ที่มีเงินแสนใช้ ต้องถือว่า เป็นครอบครัว ที่ยากจนมาก ถ้าบ้านไหนมีเงินล้านใช้ ถือว่าเป็นบ้านที่พอมีพอกินพอใช้ พอหาได้เลี้ยงตัวรอด ที่มีเงินเหลือเป็นแสน ก็ถือว่าเลี้ยงตัวรอด เหมือนกัน ที่ได้มาอย่างนี้เพราะว่า เรามีกำไรจากสงคราม แต่เราไม่อยากให้เกิดสงคราม
    ทีนี้มาพูดอีกทีหนึ่งที่ ดามุส ท่านบอกว่า ศาสนาคริสต์จะสลายตัว แต่ศาสนาอิสลาม ท่านไม่ได้บอกว่า จะสลายตัวหรือเปล่า แต่ว่า ท่านพระพุทธเจ้าเคยตรัส บอกว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้น หลังกึ่งพุทธกาลแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ยักษ์นอกพระพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรากัน
    ตอนนี้ ด้านศาสนาของเขา ก็จะก็จะมีการหย่อนตัวลงไป เพราะความทุกข์ความเศร้าโศกเสียใจ ความเสียหายเกิดขึ้นตาย ไปฝ่ายละครึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ บรรดาท่านพุธบริษัท การเชื่อพระเจ้า จะน้อยลง หรือ อาจจะสลายตัว อย่างท่านดามุส บอกก็ได้
    ทีนี้มาพูดถึงพุทธศาสนาบ้าง ทางพุทธศาสนา ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ ทางพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองขึ้น ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า พุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ จะมีความอุดมสมบูรณ์ได้เพราะ คนเห็นทุกข์ ในเมื่อคนเห็นทุกข์ ก็ยอมรับนับถือ ศีลธรรมมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่ง นักบวชฝ่ายปฏิบัติ สำหรับฝ่ายปริยัติ นั่นก็อีกฝ่ายหนึ่งต่างหาก คือท่านเรียน แต่ท่านยังไม่ได้ทำ เรียนรู้ จะถือว่าไม่ดีไม่ได้ ท่านก็ดี ท่านมีความรู้ ความรู้ในด้านปริยัติ ก็จะเจริญขึ้น ความสามารถ ในด้านปฏิบัติ ก็จะเจริญขึ้น ในช่วงนั้น อาจจะมีพระ ที่ได้อภิญญา หรือว่า นักปฏิบัติ ที่เป็นฆราวาส ที่ได้อภิญญา เกิดขึ้น ถ้ามีนักอภิญญา เกิดขึ้นนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัท อันตรายต่างๆ จะเกิดขึ้น ได้น้อยเต็มที เพราะ อาศัยอภิญญาช่วย และ นอกจากนั้น ความ เจริญรุ่งเรือง ทางด้านจิตใจของเราก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก เพราะ เราไม่เสียหายมาก เรามีความสุข ในเมื่อเขาเลิกรบกัน เขาก็ขาด เกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง อาหารการบริโภด เขาก็ขาด เราก็ขาย เครื่องมือ เครื่องใช้ขาด โรงงานประ เทศไทยของเรานี้มีมาก เราก็ขาย
    รวมความว่า ทุกอย่างมันก็จะมีความก้าวหน้า จะมีความรํ่ารวย ดูตัวอย่างประเทศเยอรมัน กับประเทศญี่ปุ่น เมื่อหลังสงครามโลกถูกบังคับให้ไม่มีทหารพอ 2 ประเทศนี้ไม่มีทหารขึ้นมา ไม่ต้องเสียเงินค่างบประมาณทหาร เพราะว่างบประมาณ ทหารต้องเสียมาก เรื่อง อาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องเตรียม เตรียมไว้บางทีไม่ได้ใช้ ล้าสมัย ต้องซื้อใหม่ ของเก่าเก็บไว้ หรือว่า ขายไป
    ทีนี้ในเมื่อไม่ต้องเตรียมการรบ ไม่ต้องเตรียมทหาร งบประมาณก็เหลือใช้ ประเทศก็มีความรํ่ารวย ประเทศไทยเราก็ฉันนั้น ในสมัยเมื่อเขารบกัน เราก็พยายาม ประวิงทุกอย่าง อย่าให้มีการรบ ถ้ามันมีความจำเป็นจริงๆ ก็จำกัดสถานที่รบ นั่นหมายความว่า สงครามใหญ่ ไม่มีใครเข้ามาในประเทศไทย พวกเขาตีกันทางโน้น เขาไม่ตีมาทางนี้ เขาอาจจะตีไปทาง ยุโรป ตีไปทางอเมริกา เขาไม่ตีมาถึงประเทศไทย แต่ว่า ประเทศไทย ก็ต้องมีส่วนร่วม ส่วนร่วมในความทุกข์ ที่จะเกิดสงคราม
    ที่นี้ในเมื่อเขาไม่ตีเข้ามาถึง เราก็มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ ขอทิ้งท้ายไว้นิดว่า ตีเล็กมีนะ ตีใหญ่นะไม่มี มีแต่ตีเล็กก่อกวน สงครามก่อกวน จะมีเป็นของธรรมดา ทั้งนี้ก็ต้องเชื่อ ความสามารถของรัฐบาล และทหารตำรวจ เราสามารถจะควบคุม ความสงบสุขไว้ได้ เหตุต่างๆจะเกิดขึ้น จะไม่พ้นวิสัยของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จะสามารถปราบปรามได้ ถ้าถามว่า เขาใช้รัศมี อาวุธเคมี ใช้รังสีต่างๆ ก็ขอตอบว่า เป็นเรื่องเล็กๆ พุทธศาสนา ป้องกันได้แน่ อันนี้ขอยืนยัน จะเป็น นิวตรอน นิวเคลียร์ นิวอะไรก็ตามเถอะ ขอยืนยันว่า พุทธศานา ป้องกันได้แน่ แต่ว่า ท่านทั้งหลาย ต้องไปหาจากพระที่เป็น นักปฏิบัติ ทางด้านจิตใจ ที่ท่านเข้าถึงฌานโลกีย์ทรงตัว ก็ทรงความเป็นอภิญญา
    ถ้าถามว่า เวลานี้จะหาที่ไหน ก็ต้องขอตอบว่า เวลานี้อย่าเพิ่งหา อาจจะมีอยู่ที่ไหนบ้างก็ได้แต่ไม่มีใครเขาบอกกัน ถ้าถึงเว ลานั้นจะปรากฏตนเอง ท่านจะแสดงออกมาให้เห็นถึงความปลอดภัยว่า ท่านสามารถป้องกันได้ ถ้าท่านองค์ไหนจะเป็นพระ ก็ดี จะเป็นฆราวาสก็ดี ไม่ได้หมายความว่า พระเสมอไป ฆราวาสที่มีความสามรถก็มีมาก ก็สามารถจะป้องกันได้สามารถ จะทำได้ ก็พึ่งท่านนั้น ท่านต้องให้เป็นที่พึ่งแน่นอน ทั้งนี้เพราะอะไร ถ้าหากว่า เราทั้งหลายตายกันหมด ท่านก็ตายเหมือน กัน ท่านอดตาย เพราะว่า ท่านอาศัยพวกเรากิน พวกเราหากินหาใช้เหลือ เราก็ให้ท่าน
    อย่างสมมติว่า ถ้าพระบิณฑบาต เราก็ถวายพระ ถ้าชาวบ้านอด ชาวบ้านตายหมด พระก็ตาย เพราะ ไม่มีใครจะให้ ข้อนี้ฉัน ใด เวลานั้นก็ตามท่านที่ทรงอภิญญา จะเป็นพระก็ตามจะเป็นฆราวาสก็ตาม ไม่มีใครปกปิดความสามารถ สามารถจะป้อง กันรังสีต่างๆ ได้ และป้องกันสรรพวุธได้ตามกำลัง แต่บุคคลที่ต้องตายไปบ้าง นั่นก็หมายถึงว่า บุคคลที่มีอายุ ถึงอายุขัย บุค คลที่มีอายุถึงอายุขัยนี่ เราป้องกันไม่ได้ มันมีความจำเป็น คนประเภทนี้ จะรบก็ตาย ไม่รบก็ตาย นอนเฉยๆ ก็ตาย กินข้าว อยู่ก็ตาย นอนหลับก็ตาย คุยกันก็ตาย เพราะถึงอายุขัย เวลานั้นมันต้องตาย
    ก็รวมความว่าประเทศไทยไม่ต้องหนักใจ ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกคน ยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าไว้ ความดีที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ก็มี 4 อย่าง เอาสักสอง 4 อย่างให้เป็นการใบ้หวยเลยนะ 4 ที่หนึ่ง ก็เอาอย่าง่ายๆ คือ สังคหวัตถุ 4 คือ
    1.ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ ซึ่งกันและกันเข้าไว้ สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู การให้ท่านเป็นการทำลายล้างศัตรูไม่เกิดศัตรูขึ้นมา เพราะเราบุคคลผู้รับ ย่อมรักในบุคคลผู้ให้
    ประการที่ 2 ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟัง มีความสุขจากคำพูดของท่าน เขาก็รักเราในเมื่อเขารักเรา เราก็มีความสุข
    ประการที่ 3 ช่วยเหลือการงาน ซึ่งกันและกัน ถ้าเขาเกินวิสัยเราช่วย เขาก็จะเกิดความรัก
    ประการที่ 4 เราไม่ถือตัวไม่ถือตน การไม่ถือตัวไม่ถือตน จัดเป็นปัจจัยให้เกิดความรัก
    อันนี้เป็นความดี ที่พระพุทธเจ้าให้ไว้เป็นอันดับแรก รักษากฏ 4 ประการนี้ได้ บรรดาท่านทั้งหลาย เราจะมีแต่คนรัก เราจะไม่มีคนเกลียด ทีนี้ถ้าจะถามว่า ในเมื่อเขาประกาศสงครามกัน เขาไม่รู้จักกัน เขายิงจรวดมา จะทำอย่างไร มันก็เป็นของไม่ยาก เขาจะยิงมาหรือไม่ยิงมา เราก็ภาวนาพุทโธไว้ จิตใจยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้าโดยตรง สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทำไว้ ท่านให้ไว้ เรานับถือด้วยความจริงใจ สิ่งนั้นท่านทั้งหลายจะป้องกันอันตรายท่านได้อย่างแน่นอนและประการต่อไปอีก 4 อย่างคือ พรหมวิหาร 4
    1. เมตตา ความรัก สร้างความรัก ทำจิตใจเกิดความรักทั้งคน และสัตว์โลก ถือว่าเราเป็นมิตรกัน
    ประการที่ 2 มีความสงสาร คอยเกื้อกูลกันไว้เสมอ อย่าเห็นแก่ตัว
    ประการที่ 3 ยินดีเมื่อบุคคลอื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยาใคร
    ประการที่ 4 เมื่อบุคคลนั้นถึงอายุขัย ต้องตาย เพราะอาวุธ ต้องตายตามกาลเวลา เราก็ วางเฉย
    ในเมื่อมีความดีอีก 4 ประการอย่างนี้แล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัททุกคนจะปลอดภัยอย่าลืม สังคหวัตถุ 4 เป็นความดีเล็ก น้อยความดีขั้นต้น พรหมวิหาร 4 เป็นความดีสูงสุด คือ เมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร มุทิตา มีจิตอ่อนโยนเห็น ใครได้ดี พลอยยินดีด้วย อุเบกขา วางเฉย เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่สามรถจะยับยั้งได้ ก็ทำใจวางเฉย ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง เวลาเหลือประมาณ 5 นาที ก็คุยกันไปคุยกันมาย้อนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกสัก นิดหนึ่งว่า ทำไมถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคง ในพุทธศาสนามากขึ้น จะชี้ตัวอย่างให้เห็นสักอย่างหนึ่ง เพราะ สมัยนั้นผู้พูดอยู่ในกรุงเทพฯ คืนใดถ้ามีปกติเครื่องบิน ไม่มาทิ้งระเบิด เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนเช้า ไปบิณฑ บาต เวลานั้นคนหนีระเบิด มาบ้านนอกกันมาก มาต่างจังหวัดกันมาก คนใส่บาตรมีน้อย พอกินแค่เช้า เพลไม่พอกิน แต่ว่า บังเอิญคืนไหน ถ้ามีเครื่องบินมาโจมตีทิ้งระเบิดเวลาเช้าไปบิณฑบาต ปรากฏว่า มีคนใส่บาตรมากเป็นพิเศษ ไปไม่ทันถึง ครึ่งทางก็เต็มบาตร ยามปกติไปจนสุดทาง แล้วก็เดินทางกลับ ยังไม่ถึงครึ่งบาตร แต่คืนไหน มีเครื่องบินมาโจมตี รุ่งเช้า มีคนทำบุญกันมาก
    จะเห็นว่า คนที่มีความรู้สึกว่า ชีวิตของเราใกล้ความตาย ไม่มีความประมาท คือ เขาจะถือว่าเป็นการฉลองชีวิต ที่เกิดใหม่ จากการโจมตีของข้าศึก ข้าศึกทิ้งระเบิดก็ทิ้งยิงกราดด้วยปืนกลก็ยิง แต่เขาก็ปลอดภัยจึงทำบุญกันใหญ่ ข้อนี้ฉันใดบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายในเมื่อสงครามใหญ่มันเกิดขึ้น เป็นสงครามที่น่ากลัว อาวุธในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือว่าเป็น อาวุธดีแล้วนะ ล้าสมัยไปแล้ว เครื่องบินสมัยนั้น เป็นเครื่องบินที่ดีที่สุด เวลานี้เขาเลิกใช้แล้ว เครื่องบินสมัยใหม่ เขาดีกว่า สมัยนั้นมาก อาวุธที่ใช้ใหม่ ดีกว่าอาวุธสมัยนั้นมาก
    ทีนี้ถ้าสงครามเกิดขึ้นข่าวคราวก็ย่อมถึงกัน เวลานี้มีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ ถ่ายทอดจากดาวเทียม เราสามารถจะเห็นภาพ ได้ ในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้น บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะ กลัวตาย สำหรับ อีกด้านหนึ่ง ท่านนักปฏิบัติ เจริญสมาธิจิต ก็จะเร่งรัด ตัวเองให้ทำสมาธิให้ดีขึ้น โดยหวังอย่างเดียวว่า ถ้าตายแล้ว ไม่ขอเกิดใหม่ อย่างเลวที่สุด ตายจากความเป็นคน ไปสวรรค์ ก็เอา หรือว่าดีกว่านั้น ไปพรหมก็ดี ถ้าดีกว่านั้น ไปนิพพานก็ดี ท่านจะเร่งรัดตัวเอง การเร่งรัดตัวเอง ประเภทนี้ กำลังใจจะมีสมาธิในที่สุด อภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิด ก็จะใช้ผล ของอภิญญา และญาณต่างๆ ที่ได้จากสมาธิ และวิปัสสนา ญาณ เอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย
    ในตอนนี้ก็ขอสรุปว่า ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าลืม องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่าเรา จะบูชาพระทุกวัน นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนหลับ ตื่นใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าบูชาพระ บูชาพระอย่างอื่นไม่ได้ ก็ว่า นะโมตัส สะฯ 3 หน ด้วยความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง แล้วว่า
    พุทธัง สาณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
    แค่นี้ก็หลับ และตื่นใหม่ๆทุกวัน บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ทุกท่านปลอดภัยและจะมีความรํ่ารวย
    คัดมาจากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ (ฉบับพิเศษ) โดย พระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไฟบรรลัยกัลป์



    <CENTER><TABLE borderColor=#000080 cellPadding=2 width="98%" border=0 ,><TBODY><TR><TD style="LINE-HEIGHT: 100%" vAlign=top width="12%" bgColor=#ffa87d>ผู้ถาม</TD><TD style="LINE-HEIGHT: 100%" vAlign=top width="88%" bgColor=#ffa87d>"หลวงพ่อคะ ที่ว่ามีไฟบรรลัยกัลป์จะเกิดอย่างไรคะ....?" </TD></TR><TR><TD style="LINE-HEIGHT: 100%" vAlign=top width="12%"></TD><TD style="LINE-HEIGHT: 100%" vAlign=top width="88%">


    "ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มา เพราะว่าคนมีจิตบาปมาก ศีล ๕ ทำไม่ค่อยจะครบ เช่นปาณาติบาตเป็นต้น อายุมันจะน้อยลงทุกที จนกระทั่งอายุถึง ๑๐ ปี เป็นอายุขัย ตอนนี้เกิดมิคสัญญี ไม่มีการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน จะรบราฆ่าฟันกันมากพระอาทิตย์ท่านรำคาญเต็มที่ โผล่มาทีละ ๒ ดวง ๓ ดวง ๔ ดวง ตายหมด ทีนี้ถึง ๗ ดวง น้ำในมหาสมุทรก็แห้ง ต้นไม้แห้งกรอบจัด ผลที่สุดเป็นไฟลุก ไฟไม่ได้ไหม้มาจากไหน อาศัยน้ำแห้ง ต้นไม้แห้งกรอบเต็มที่ ความร้อนหนัก ก็เกิดไฟลุกขึ้นก็ล้างกันเสียทีหนึ่ง

    ความจริงเรื่องรู้เลยตาย หรือรู้ก่อนเกิดนี้ ฉันเองก็ไม่ใคร่อยากจะพุด และไม่อยากจะเชื่อถือนัก เพราะดูแล้วมันเลยธงไม่น้อยเลย แต่มาอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คนเขียนเขียนเรื่องรู้เลยตายและรู้ก่อนเกิดไว้มากมาย เช่น รู้ว่าเมื่อสิ้นศาสนานี้แล้ว ไฟบรรลัยกัลป์จะไหม้ถึงภควพรหม ดูเรื่องมันมากมายนัก ฉันสงสัยไม่หายว่าไฟอะไรจะดันไปไหม้แต่เทวดาและพรหม ดูมันพิลึกพิลั่นมากมายเกินพอดี
    เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ตามความเป็นจริงไม่ได้ ในที่สุดคืนวันหนึ่ง ฉันนั่งคุมกรรมฐานอยู่ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็นสัพพัญญวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้
    หลังจากกึ่งพุทธกาลไปแล้ว ๔,๐๐๐ ปี จะมีไฟล้างโลกล้างแต่โลกมนุษย์เท่านั้น ไม่ลุกลามไปถึงเทวดา
    ท่านบอกว่ามันเริ่มความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี แล้วจากนั้นไปพวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรม เป็นพวกเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม
    โลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีไปครบ ๑,๐๐๐ ปี
    หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษยโลกแม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื่น ต้นหญ้าต้นไม้ จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้
    หลังจากโลกที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้นทิ้งระยะนาน ๑ หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิดสัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้นไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบโอปปาติกะ คือ มาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวตนขึ้น
    จะยังไม่มีพระอาทิตย์พระจันทร์ส่องแสง มีแสงสว่างเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละบุคคล คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ
    เรื่องอาหารนั้น ในระยะแรกยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปีติ เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอกจากกฎธรรมดา คือความเสื่อมของสังขาร
    เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด มีผิวขาวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีใคนจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป
    เมื่อโลกมีมนุษย์และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ มีดวงอาทิตย์ ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลก เกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี
    คนสมัยนั้นมีอายุครองตนเองได้ ๔ หมื่นปี เป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้น พระศรีอาริย์จะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า
    เขตที่ท่านลงมาตรัส สมัยปัจจุบันเรียกว่า เขตเมืองพม่า
    พูดถึงไฟบรรลัยกัลป์แล้วน่ากลัวจริงๆ นะ แต่ถ้าคนชั่วมีมาก ก็ควรล้างกันเสียที" ​





    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>


    คัดลอกจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม ๒ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี <CENTER>ศาสนาพุทธ มีอายุครบ ๕,๐๐๐ ปี

    </CENTER>
    ผู้ถาม : "มีด็อกเตอร์คนหนึ่งนะคะพูดว่า ศาสนาพุทธนี่มีอายุไม่ถึง ๕,๐๐๐ ปี ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ เพราะขณะนี้ทางเบื้องบนตกลงไว้ว่าจะมีการชำระล้างกันก่อน เพราะว่าเวลานี้คนบาปมากเพื่อว่าจะได้มีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ทีนี้ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จะทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เป็นไปตามนั้นคะ....?"



    หลวงพ่อ : "ปัญหานี่ดี แต่ฉันว่าไม่มีหรอก พระพุทธศาสนาต้องทรงอยู่ได้ถึง ๕,๐๐๐ ปีแน่นอน ฉันขอยืนยัน ถ้าใครไม่เชื่อจงอย่าตายนะ รอไปถึงเวลานั้น นี่เขาคงเดาเอาน่ะ พระพุทธดำรัสมีอยู่คือว่า


    <MENU>พันปีแรก จะมากไปด้วย ปฏิสัมภิทาญาณ
    พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วย ฉฬภิญโญ
    พันปีที่ ๓ คือระหว่างนี้จะมากไปด้วย เตวิชโช
    พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วยสุกขวิปัสสโก และ
    พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วยอนาคามี

    </MENU>คำว่ามาก หมายความว่า พวกนี้จะมากกว่าส่วนอื่นที่มีอยู่แต่เวลานี้พวกปฏิสัมภิทาญาณก็มี อภิญญาหกก็มี แต่พวกวิชชาสามมีมากกว่า อย่างพันปีที่ ๔ พวกสุกขวิปัสสโกมาก แต่ว่าปฏิสัมภิทาญาณก็ดี อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี เขาก็ยังมีอยู่ อย่างพันปีที่ ๕ พระอนาคามีมีมาก แต่ว่าพระอรหันต์ทั้ง ๔ พวกนี้ยังมีอยู่ พระพุทธเจ้าไม่วางพื้นฐานส่งเดช และที่เขาว่าพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาใครล่ะมา พระศรีอาริยเมตตรัย ท่านก็ไม่มา ไม่เชื่อไปถามท่านซิ"



    โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน อ่านแล้วพิจารณาด้วยครับ<!-- / message --><!-- edit note -->
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  7. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ศาสนาพระศรีอาริยเมตตรัย
    <TABLE borderColor=#000080 cellPadding=2 width="98%" border=0 ,="" _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TBODY _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม</TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">"กระผมได้ยินมาว่าเมื่อครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว ก็จะมีศาสนาของพระศรีอาริยเมตตรัย สืบต่อจากศาสนานี้ใช่ไหมครับ" </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "หมายความว่า เมื่อสิ้นศาสนา ๕,๐๐๐ ปีแล้วใช่ไหม แล้วพระศรีอาริยเมตตรัยจึงมาตรัส"
    </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม</TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">"ใช่ครับ" </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ ถ้าศาสนานี้ครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว พระศรีอาริยเมตตรัยยังไม่มาตรัส จะต้องว่างจากพระพุทธศาสนาไปหนึ่งพุทธันดรก่อน แต่ว่าในช่วงที่ว่างพระพุทธเจ้านี่ก็จะมี พระปัจเจกพุทธเจ้า ขึ้นมาแทน สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้านี่ ต่ำกว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    คือว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วก็ทรงสอนคนตั้งแต่อันดับต้นให้รู้จักการให้ทาน ให้รู้จักการรักศีล ให้รู้จักการเจริญภาวนาให้รู้จักการครองเรือนให้อยู่เป็นสุข และให้รู้จักการปฏิบัติตนให้เข้าถึงกามาวจรสวรรค์ ให้เข้าพรหมโลก ให้เข้าถึงพระนิพพาน
    สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่เช่นนั้น ท่านตรัสแล้วท่านก็เฉยๆ หากว่าจะสงเคราะห์กันก็สงเคราะห์ในขั้นต้น คือ ทานกับศีล ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า
    ทีนี้เมื่อเวลากาลล่วงไปหนึ่งพุทธันดร อาตมาตอบไม่ได้นะว่ากี่ปี ถ้าจะให้รู้กันจริงๆ คุณก็จงอย่าตายนะ อยู่ไปจนกว่าพระศรีอาริย์จะมา อยู่ไหวไหมล่ะ...?

    </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม</TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">(หัวเราะ) "ไม่ไหวครับ" </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "เป็นอันว่าเมื่อครบหนึ่งพุทธันดรแล้ว พระศรีอาริยเมตตรัยมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในกัปนี้ แต่ว่าสำหรับกัปนี้ไม่ได้มีพระพุทธเจ้าเพียง ๕ พระองค์ พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า หลังจากพระศรีอริยเมตตรัยมาตรัสแล้ว ยังมีพระพุทธเจ้าต่อไปอีก ๕ พระองค์ คือ ในกัปนี้ทรงพระพุทธเจ้าได้ ๑๐ พระองค์
    ศาสนาพระศรีอาริย์ ท่านว่าศาสนาของท่านนั้นมีผลดังนี้
    ๑. คนสวยทุกคน มีผิวเหลือง เนื้อละเอียด คนแก่ที่สุดมีทรวดทรงเท่ากับคนอายุประมาณ ๒๐ ปีเศษ ของสมัยนี้เท่านั้นเอง อายุคนสมัยนั้นท่านว่า มีอายุถึง ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย
    ๒. สมัยของท่าน ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย มีต้นไม้สารพัดนึกอยู่ในที่ทุกสถาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ที่มีจิตใจชั่วร้ายยังไม่มีโอกาสเกิดในสมัยของพระองค์ ท่านที่จะไปเกิดนั้น ต้องเป็นเทวดาหรือพรหมเท่านั้น โลกจึงมีแต่ความสุข ไม่มีตำรวจทหารมีแต่พ่อบ้านแม่เรือน
    ๓. การสัญจรไปมาก็สะดวกสบาย ไปทางไหนก็พายตามน้ำ
    ๔. คนเข้าถึงธรรมทุกคน ท่านว่าคนที่เจริญสมถะพอมีญาณ หรือมีวิปัสสนาญาณบ้าง พอสมควร จะเข้าถึงธรรมาพิสมัยได้โดยฉับพลัน คือเป็นพระอริยะเจ้า คนที่ได้อริยะต้นแล้ว จะเข้าถึงอรหัตผลได้โดยฉับพลัน คนที่ทำบุญไว้น้อย คือฟังคาถาพัน และปฏิบัติตามแต่ไม่สมบูรณ์ อย่างต่ำก็เข้าถึงไตรสรณคมน์ อย่างสูงก็ได้อริยะ
    ที่เป็นอย่างนี้ เป็นเพราะว่าท่านบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป ท่านบำเพ็ญบารมีมาก คนเลวจึงเข้าแทรกแซงในศาสนาของพระองค์ไม่ได้ น่าเกิดจริงนะ

    </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม : </TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">"ผมอยากจะถามว่า พระพุทธเจ้าองค์แรกทรงพระนามว่าอะไรครับ...? " </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "พระกกุสันโธ เป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกสำหรับกัปนี้ แต่องค์แรกจริงๆ ไม่ใช่องค์นี้ ที่เราเรียกว่า องค์ปฐม องค์ปฐมน่ะท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก เคยถามท่านว่าใช้เวลาถอยหลังไปเท่าไร ท่านบอกว่า ให้ตั้งเลข ๕ ขึ้นมา แล้วเอาศูนย์ใส่ไป ๕๐ ตัว ได้เท่าไรบอกฉันด้วย นับเป็นอสงไขยกัปนะ ไม่ใช่นับเป็นกัปเฉยๆ อสงไขยของกัป
    ถ้าจะถามว่ามากเกินไปไหม ก็ต้องตอบว่าไม่มากหรอก เราต้องดูซิว่า
    • พระพุทธเจ้าขั้นปัญญาธิกะ ต้องใช้เวลาบำเพ็ญบารมีถึง ๔ อสงไขยกับแสนกัป
    • ถ้าศรัทธาธิกะ ต้องใช้เวลา บำเพ็ญบารมีถึง ๘ อสงไขยแสนกัป
    • ถ้าวิริยาธิกะ ต้องใช้เวลาบำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป ไม่เท่ากัน
    ทีนี้กัปหนึ่งมีพระพุทธเจ้ากี่องค์
    สำหรับสูญญากัป อันตรายกัปนี่ไม่มีพระพุทธเจ้า มีแต่พระปัจเจกพุทธเจ้า อันตรายกัปนี่เป็นกัปที่มีอันตรายมาก รบราฆ่าฟันกันเป็นประจำ มันมีแต่พวกมาจากอบายภูมิมาเกิด อันนี้เป็นเรื่องจริง บางกัปก็มีพระพุทธเจ้าองค์เดียว บางกัปมี ๒ องค์ ๕ องค์ ยังไม่เคยเจอ แต่กัปนี้มีถึง ๑๐ องค์นะ ฉะนั้นคนที่เกิดในกัปนี้เฮงที่สุด แล้วก็ซวยที่สุด"

    </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม</TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">"เป็นยังไงครับ....?" </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "เฮงที่สุดก็คือ เกิดมาแล้วตั้งใจทำความดี ตายไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อเป็นเทวดาหรือพรหมแล้วพระพุทธเจ้าไปเทศน์ครั้งเดียวก็เป็นพระโสดาบัน ไอ้ซวยที่สุดก็คือ เกิดมาชาตินี้ไม่ทำความดี ตายไปก็ลงนรกลงนรกแล้วพระพุทธเจ้าอีก ๖ องค์มาตรัส นึกว่าจะเกิดมาได้พบ ไม่มีทาง อีก ๓๐ องค์ก็ยังไม่ได้พบ"

    </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">ผู้ถาม</TD><TD vAlign=top width="89%" bgColor=#ffa87d _base_href="http://www.palungjit.org/board/">"โอโฮ้....ทีนี้ผลต่างกันไหมครับ ที่ใช้เวลาบำเพ็ญบารมีไม่เท่ากัน....?" </TD></TR><TR _base_href="http://www.palungjit.org/board/"><TD vAlign=top width="11%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    </TD><TD vAlign=top width="89%" _base_href="http://www.palungjit.org/board/">
    "ผลมันต่างกันแน่ อย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้บำเพ็ญมีขั้นปัญญาธิกะ จะเห็นว่าโลกมันเป็นอย่างนี้ละ มีการรบราฆ่าฟันกัน มีคนจน มีคนรวย ถ้าศรัทธาธิกะละก็คนจนไม่มี มีแต่คนรวย เพราะพระพุทธเจ้าท่านมีบารมีมาก
    ส่วนวิริยาธิกะละก็เพียบพร้อมไปทุกอย่าง สมัยโน้นจะหาคำว่าลำบากสักนิดไม่มี ความป่วยไข้ไม่สบายเกือบหาไม่ได้ ที่ท่านต้องบำเพ็ญบารมีมาก ก็เพื่อสั่งสมความดีให้มาก แล้วก็คนที่ไปเกิดในสมัยนั้นก็ต้องเป็นคนที่ต้องบำเพ็ญบารมีตามกันไป พระพุทธเจ้าแต่ละองค์มิใช่จะโปรดคนได้หมด ต้องโปรดคนได้เฉพาะคนที่บำเพ็ญบารมีร่วมกันมาแต่ละชาติที่เกิดร่วมกันมา เป็นพวกเป็นพ้อง ทำอะไรก็ทำด้วยกัน เวลาทำบาปก็ทำด้วยกัน ไปสวรรค์ก็ไปด้วยกัน ไปนรกก็ไปด้วยกัน
    หลวงพ่อลาพุทธภูมิแล้วจะไปนิพพาน ลูกหลานจะอยู่หรือจะไปด้วยล่ะ?

    อ้างอิง
    คัดลอกจากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม ๒ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    <CENTER>ศาสนาพุทธ มีอายุครบ ๕,๐๐๐ ปี

    </CENTER>
    ผู้ถาม : "มีด็อกเตอร์คนหนึ่งนะคะพูดว่า ศาสนาพุทธนี่มีอายุไม่ถึง ๕,๐๐๐ ปี ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ เพราะขณะนี้ทางเบื้องบนตกลงไว้ว่าจะมีการชำระล้างกันก่อน เพราะว่าเวลานี้คนบาปมากเพื่อว่าจะได้มีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ทีนี้ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จะทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เป็นไปตามนั้นคะ....?"



    หลวงพ่อ : "ปัญหานี่ดี แต่ฉันว่าไม่มีหรอก พระพุทธศาสนาต้องทรงอยู่ได้ถึง ๕,๐๐๐ ปีแน่นอน ฉันขอยืนยัน ถ้าใครไม่เชื่อจงอย่าตายนะ รอไปถึงเวลานั้น นี่เขาคงเดาเอาน่ะ พระพุทธดำรัสมีอยู่คือว่า



    <MENU>พันปีแรก จะมากไปด้วย ปฏิสัมภิทาญาณ
    พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วย ฉฬภิญโญ
    พันปีที่ ๓ คือระหว่างนี้จะมากไปด้วย เตวิชโช
    พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วยสุกขวิปัสสโก และ
    พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วยอนาคามี
    </MENU>คำว่ามาก หมายความว่า พวกนี้จะมากกว่าส่วนอื่นที่มีอยู่แต่เวลานี้พวกปฏิสัมภิทาญาณก็มี อภิญญาหกก็มี แต่พวกวิชชาสามมีมากกว่า อย่างพันปีที่ ๔ พวกสุกขวิปัสสโกมาก แต่ว่าปฏิสัมภิทาญาณก็ดี อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี เขาก็ยังมีอยู่ อย่างพันปีที่ ๕ พระอนาคามีมีมาก แต่ว่าพระอรหันต์ทั้ง ๔ พวกนี้ยังมีอยู่ พระพุทธเจ้าไม่วางพื้นฐานส่งเดช และที่เขาว่าพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาใครล่ะมา พระศรีอาริยเมตตรัย ท่านก็ไม่มา ไม่เชื่อไปถามท่านซิ"

    หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม ๒ (ตอบโดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) [​IMG]<!-- / message --><!-- / message --><!-- edit note -->
     
  9. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    คำตอบจากอาจารย์คนเมืองบัว

    มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ปลายปี พ.ศ.2548 นี้ จะเริ่มเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ..........ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้

    1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
    2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
    3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม

    จากคุณ ผู้ไม่รู้ เมื่อวันที่ 21/4/2548 11:58:47

    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>../...ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ไม่หนักหนาเท่าคำทำนายหรอก ไม่ต้องตกใจถึงขนาดนั้นเพราะว่าภัยพิบัติขนาดนั้นจะเกิดเมื่อหลังพุทธกาลแล้วเมื่ออายุมนุษย์สูงสุดที่ ๑๐ ปีต้องตาย ถึงตอนนั้น พวกเราคงไม่ประมาทกันแล้ว ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันหมดแล้ว ส่วนที่เหลือเวียนตายเวียนเกิดก็คือมนุษย์ที่ประมาทในช่วงกึ่งพุทธกาล นี้ ไม่ได้มาพบกับศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันและได้ปฏิบัติต่อ ส่วนภัยที่น่าจะสะพรึงกลัวใหม่ๆ ได้แก่


    ๑. ภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำ ในรอยแตกเดิม ที่มีความเหลื่อมล้ำของพื้นดินถึง ๔๐ เมตร ปากหลุมกว้าง ๑ กิโลเมตร ยาวเป็นพันเมตร ภูเขาไฟใหม่นี้อาจจะระเบิดต่อเนื่องเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงดับ ทรัพยากรทางน้ำจะเสียหายมาก อิสลามกับคริสต์อาจจะตายเพิ่มขึ้นอีก เป็นล้านคน


    ๒. จะเกิดภัยสงครามมากขึ้นทั่วโลกแน่นอน ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่หลวงพ่อราชพรหมยานได้บอกไว้แล้วขอบเขตเท่านั้น คริสต์และอิสลามจะตายอย่างละครึ่ง ที่เหลือกลัวความตาย รอดได้ด้วยพุทธานุภาพหรือบุคคลที่เคยประกอบบุญกุศลเนื่องด้วยพุทธศาสนาส่วนใหญ่จะเป็นบริวารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ที่หลงเหลืออยู่ จะได้แนวทาง แห่งมโนมยิทธิ สายวัดท่าซุงเป็นแนวทางหลักในการปฏิบัติ ลูกหลานของหลวงพ่อที่ได้มโนฯ จะช่วยกันเผยแพร่งานพระศาสนาอย่างยิ่งยวดไม่มีวันหยุดไม่เหน็ดไม่เหนื่อย พระพุทธศาสนา จึงจะรุ่งเรือง ถึงขีดสุด ส่วนสายปฏิบัติธรรมอื่นๆ นั้นก็ได้ช่วยกันบ้างพอสมควร แต่เนื่องด้วยว่าหลักคำสอนแต่ละสำนักนั้นได้ให้ข้อธรรมที่วกวนขาดประเด็นสำคัญในการปฏิบัติ สิ่งใดอธิบายได้ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็อธิบายให้วกวนยากเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ทันการ ต่อการตัดสินใจ เฉพาะหน้า จึงเป็นเหตุให้ ท่านเหล่านั้นปรับสภาพไม่ค่อยทันแก่เหตุการณ์นั่นเอง ส่วนลัทธิต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อ้างถึงพระศรีอาริยเมตไตรยเมื่อถึงที่สุดแล้วก็จะถึงทางตันที่ไม่สามารถแก้ไขให้พ้นทุกข์ไปได้ ทุกคนก็จะหันมาฝึกมโนมยิทธิสายวัดท่าซุงจนหมดสิ้น เพราะเห็น เข้าใจ ในเหตุ และผล ตลอดสายตั้งแต่ต้น กลาง ปลาย ส่วนการวางแนวทาง ในการปฏิบัตินั้นต้องอาศัยศิษย์วัดท่าซุงในประเทศไทยเป็นหลักในการเผยแพร่ส่วนความเพ้อฝันของบางคนที่ว่าจะเป็นคนมีเชื้อสายชาวต่างประเทศที่เป็นคนยุโรปนั้นอย่าได้หวังว่าจะมีปัญญาได้ถึงขนาดนั้น เพราะขาดการฝึกปรือ




    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 11/5/2548 0:51:37 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แหล่งที่มาhttp://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=4858
    <!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->
     
  10. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    เรื่องที่ ๔๑
    พระศรีอาริยเมตไตรยปรารถนาพระโพธิญาณจึงไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต


    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน


    "..พระศรีอาริยเมตไตรย ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านบวชเป็นพระมีนามว่า อชิตะภิกขุ เดิมทีท่านเป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ท่านไปบวชเพื่อสร้างเสริมบารมี ต่อมาเมื่อ พระนางกีสา โคตมี ได้ทอจีวรด้วยมือของตนเองปรารถนาจะถวายพระพุทธเจ้า เมื่อเวลาพระนางไปถวาย พระพุทธเจ้าเรียกพระมาหมด นั่งเรียงแถวกันตามลำดับอาวุโสและคุณสมบัติ เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายผ้าแก่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ส่งให้พระสารีบุตร ท่านพระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคัลลาน์ ท่านพระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อๆ กันไปหมดจนถึงองค์สุดท้ายคือท่านอชิตะภิกขุ ท่านไม่รู้จะส่งให้ใครเพราะนั่งอยู่ท้ายสุด เป็นอันว่าท่านก็รับไว้ พระนางกีสา โคตมีก็เสียใจว่าอุตสาห์ทำเองเลือกด้ายชั้นดีมาทอกับมือเองเพื่อถวายพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่รับกลับไปให้กับพระที่ไม่ได้แม้แต่ฌานสมาบัติมากมายอะไรนัก คือว่ายังเป็นพระปุถุชนคนธรรมดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงทราบอัธยาศัยจึงเทศนาโปรดว่า พระองค์สุดท้ายไม่ใช่พระธรรมดา ท่านอชิตะภิกขุผู้นี้ต่อไปข้างหน้าจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีพระนามว่า "สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย"
    ปัจจุบันนี้ท่านมาเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต วิมานท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมีรัศมีกายสว่างมาก หน้าตาผ่องใสยิ้มระรื่นน่าชื่นใจ ท่านได้บอกกับอาตมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อีก ๑ ล้านกับ ๒ ปี ท่านจะลงมาเกิดในเมืองมนุษย์แล้วเป็นปุโรหิต หลังจากนั้นเกิดความเบื่อหน่ายก็ออกแสวงหาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าจะเทียบพื้นที่ในสมัยนี้ พระองค์จะตรัสทางทิศเหนือของพม่า แต่ตามตำราเขาไม่ได้เขียนไว้

    <!-- / message -->
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ข่าวสารชิ้นสำคัญ"
    จาก ดร.กัญจีราและหลวงปู่เครา

    <TABLE class=tborder id=post1179939 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid" width=175>sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1179939", true); </SCRIPT>
    สมาชิก​

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:05 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 1,514 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,943 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 30,165 ครั้ง ใน 1,521 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2622 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1179939 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid"><!-- message -->ดร. กัญจีราโทรมาเมื่อวานให้แจ้งข่าว

    มิ.ย. ระวังการเสียชีวิตหมู่ ระหว่าง ๑๖-๒๔่ มิ.ย.

    ก.ค. ระวังการเสียชีวิตและทรัพย์สิน ระวังคลื่นยักษ์อ่าวไทย


    ย่างกุ้ง ย้ายเมืองหลวง มีพระสุปฏิปันโนเป็นที่ปรึกษาคณะรัฐบาล ทราบมาก่อนแล้วว่าย่างกุ้งจะล่มสลาย​

    ระวังอ่าวไทย เพราะกรุงเทพฯ หมดวาระแล้ว ดร.กัญจีรา เคยบอกลูกศิษย์ว่า พม่ามาก่อน แล้วก็ถึงวาระประเทศไทย

    อ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการเจาะก๊าซ ทำให้ร่องน้ำเปลี่ยน อุตุทำนายล่วงหน้าไม่ได้เพราะใช้ข้อมูลสถิติเดิมๆ ก่อนการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก​

    พระรูปหนึ่งบอกว่า ในหลวงไปนั่งเฝ้าไว้ที่ไกลกังวล ตอนนี้เฝ้าไม่ไหวแล้ว​

    ดร.กัญจีราบอกว่า คุณเล็กกลุ่มเมืองโบราณส่งช้างเอราวัณที่สำโรงลงมาช่วยแล้ว แต่พระอินทร์เมืองอินทร์บุรีหันหน้าผิดทาง ต้องหันเผชิญทิศมาร คือใต้และตะวันตก จะได้ช่วยกันภัย พระอินทร์หันทาง ช้างหันทาง น่าเสียดาย​

    ดร.กัญจีราบอกว่าช่วยมาเยอะแล้ว คราวนี้คงต้องปล่อย ถ้าพวกเราอยากช่วยให้นำคนสวดมนต์​

    ท่านสั่งเตรียมเทียนไข ไม้ขีด (ใส่ถุงมัดแน่นกันน้ำ) แก๊สหุงต้ม และข้าวสาร ท่านสั่งให้บอก ก็บอกต่อนะคะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <TABLE class=tborder id=post1180245 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180245", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:57 AM
    วันที่สมัคร: Apr 2005
    ข้อความ: 4,923 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 45,117 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 60,548 ครั้ง ใน 4,856 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 6031 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180245 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เห็นพม่าเป็นตัวอย่าง กรุงเทพต้องระมัดระวังด้วย

    หลวงปู๋เคราแจ้งว่าวันที่ 11 นี้ควรระวังด้วยครับ...(ทางตะวันตก)

    วันหนึ่งข้างหน้าคลื่นสึนามิจากอ่าวไทยจะซัดเข้ามาถึงสระบุรี

    ถึงตอนนั้นทรัพย์สมบัติกองเท่าภูเขาก็จะไม่มีใครสนใจ

    ท่านว่าบอกไปตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อ (ขอเล่าให้ฟังครับ)
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE class=tborder id=post1180245 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ad<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180245", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:57 AM
    วันที่สมัคร: Apr 2005
    ข้อความ: 4,923 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 45,117 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 60,548 ครั้ง ใน 4,856 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 6031 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180245 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เห็นพม่าเป็นตัวอย่าง กรุงเทพต้องระมัดระวังด้วย

    หลวงปู๋เคราแจ้งว่าวันที่ 11 นี้ควรระวังด้วยครับ...(ทางตะวันตก)

    วันหนึ่งข้างหน้าคลื่นสึนามิจากอ่าวไทยจะซัดเข้ามาถึงสระบุรี

    ถึงตอนนั้นทรัพย์สมบัติกองเท่าภูเขาก็จะไม่มีใครสนใจ

    ท่านว่าบอกไปตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อ (ขอเล่าให้ฟังครับ)
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>



    วันที่ 9 - 11 นี้...ผมและภรรยาไปเที่ยว...เกาะกูด จ.ตราด....หวังว่า....คงจะปลอดภัย....ครับ

    หากมีอะไรผิดปกติ....จะแจ้งข่าวมานะครับ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เพื่อนทาง London สงสัยว่า ภัยพิบัติที่อังกฤษปีนี้จะมีอะไรไหม? พอทราบไหมครับ? จากคุณWebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1174077", true); </SCRIPT> เว็ปมาสเตอร์ (วีระชัย)


    [​IMG]


    ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นที่เกาะอังกฤษ มีคำทำนายดังนี้ครับ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ยังไม่ทราบแน่ชัด.......


    [​IMG]


    ไปเจอคำทำนายพอดี - โดยแม่นายมล
    -------------------------------------------------------------------------​

    คำพยากรณ์ที่ 64 - 65 : น้ำท่วมเกาะอังกฤษ

    La grande Bretagne comprise d
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE class=tborder id=post1180245 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180245", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180245 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เห็นพม่าเป็นตัวอย่าง กรุงเทพต้องระมัดระวังด้วย

    หลวงปู๋เคราแจ้งว่าวันที่ 11 นี้ควรระวังด้วยครับ...(ทางตะวันตก)

    วันหนึ่งข้างหน้าคลื่นสึนามิจากอ่าวไทยจะซัดเข้ามาถึงสระบุรี

    ถึงตอนนั้นทรัพย์สมบัติกองเท่าภูเขาก็จะไม่มีใครสนใจ

    ท่านว่าบอกไปตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อ (ขอเล่าให้ฟังครับ)
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1179745 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1179745", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1179745 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เพื่อนผู้ปฏิบัติชอบ ผู้เ็ห็นสึนามิปี ๒๕๔๗ ในเช้าวันเกิดเหตุ

    มีนิมิตในเดือน พ.ย. ๕๐ เห็นคลื่นใหญ่ทางอันดามัน คนตายเป็นสิบเท่าของสึนามิคราวก่อน พระบอกเดือนพฤษภา

    รอดูอยู่.. นี่เพิ่งต้นพฤษภา นาร์กิสเข้าพม่า คนตาย ๓๐๐ นี่ ๒๐๐๐๐ ยังไม่พบอีกหลายหมื่น คลื่นใหญ่็ก็มาทางอันดามัน แต่มาจากไซโคลนไม่ใช่จากแผ่นดินไหว ...
    หรือนี่แหละที่มีนิมิตไว้...

    อีกอันที่ท่านมีนิมิต บอกว่าให้สร้างบ้านจัดสรรในที่สูงเพื่อหนีน้ำ

    อึ๋ย....ซื้อเรือเอี้ยมจุ้นแทนได้ไหมเอ่ย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1181833 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>tossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1181833", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:30 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 375 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,964 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,299 ครั้ง ใน 367 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 403 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1181833 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อเดือนที่แล้วผมเห็นในนิมิตเป็นตัวเลข 77 ไม่แน่ใจว่าเป็น

    1) วันอาทิตย์ ขึ้น ๗ ค่ำ ( 11 พฤษภาคม 2551 )

    2) หรือ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ( 10 มิถุนายน 2551 )

    3) หรือ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗ ( 25 มิถุนายน 2551 )

    4) หรือ 7 กรกฎาคม 2551

    ไม่เกี่ยวกับเลขเด็ดใบ้หวยใดๆครับ ยืนยันได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    London มีพลังงานไม่ดีอยู่เยอะ น่ากลัวเหมือนกัน [​IMG]
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พรรคฝ่ายค้านขอรัฐบาลพม่าเลื่อนลงประชามติ

    [​IMG]

    ย่างกุ้ง 9 พ.ค. - พรรคฝ่ายค้านของนางออง ซาน ซู จี ผู้นำเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในพม่า กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเลื่อนการลงประชามติรัฐธรรมนูญที่มีกำหนดในสัปดาห์นี้ออกไปก่อน ภายหลังจากพม่าประสบภัยไซโคลนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนคน

    นายญาน วิน โฆษกพรรคเอ็นแอลดี แถลงว่า สถานการณ์ในขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงประชามติ แต่รัฐบาลทหารย้ำว่า จะจัดการลงประชามติต่อไปในวันเสาร์นี้ ยกเว้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ประสบภัยไซโคลนนาร์กีสทั้งในบริเวณดินแดนปากแม่น้ำอิระวดีและในนครย่างกุ้ง โดยเลื่อนกำหนดในเมือง 47 แห่งออกไปจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม และอ้างว่าการลงประชามติรัฐธรรมนูญจะช่วยปูทางไปสู่การเลือกตั้งในปี 2553 แต่นักวิเคราะห์แย้งว่า เป็นเพียงการยึดอำนาจในการบริหารประเทศของรัฐบาลทหารต่อไปเท่านั้น. - สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 09:36:20

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสในจีนยังพุ่งไม่หยุด

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 9 พ.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโรคมือเท้าปากที่ระบาดหนักในจีนยังพุ่งไม่หยุด โดยมีจำนวนถึง 32 คนแล้ว และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 25,000 คน

    ซินหัวรายงานว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดอยู่ในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของประเทศ และเขตปกครองตนเองกว่างซี โดยหนึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กหญิงอายุ 8 เดือน เสียชีวิตเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา และผลการตรวจพบเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71นับเป็นเหยื่อรายที่ 4 ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 7,100 คน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นเด็กชาย วัย 18 เดือน ในเขตปกครองตนเองกว่างซี เสียชีวิตหลังจากมีอาการโคม่า 3 วัน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสั่งการในสัปดาห์นี้ ให้รายงานการติดเชื้อภายใน 24 ชม. - สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 09:32:32

    ราคาน้ำมันทะยาน-ราคาข้าวโพดพุ่งเป็นประวัติการณ์

    [​IMG]

    ชิคาโก 9 พ.ค. - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่บาร์เรลละ 124 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยมีแรงหนุนจากความต้องการน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาข้าวโพดพุ่งขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดสหรัฐในอนาคต

    ราคาทองคำขยับขึ้นกว่าร้อยละ 1 ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสหรัฐดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร ส่วนราคาข้าวทะยานขึ้นหลังจากที่มาเลเซียซื้อข้าวปริมาณมากจากไทย และเหตุไซโคลนกระหน่ำพม่า ทำให้พม่าซึ่งเป็นผู้ส่งออกต้องกลายเป็นผู้นำเข้าแทน สำหรับราคาข้าวโพดซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์เนื่องจากความกังวลด้านสภาพอากาศช่วงฝนมรสุมในสหรัฐซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่นำมาเป็นอาหารสัตว์และใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล

    ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นถึง 124.61 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเวลานี้นับว่าราคาน้ำมันทะยานขึ้นถึง 5 เท่านับตั้งแต่ปี 2545 คาดกันว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของประเทศที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น จีนและอินเดีย . - สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 09:07:52

    ยูเอ็นเผยมีผู้เดือดร้อน 1.5 ล้านคนจากไซโคลนถล่มพม่า

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 9 พ.ค. - สหประชาชาติประเมินว่า ประชาชน 1.5 ล้านคนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากพายุไซโคลนพัดกระหน่ำพม่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ขณะที่สหรัฐแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลพม่ายังถ่วงเวลาในการรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

    ผู้รอดชีวิตในพม่าที่ต่างสิ้นหวังพากันร้องขออาหาร น้ำ และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ มาเกือบสัปดาห์แล้ว ภายหลังจากที่คาดว่า มีผู้เสียชีวิตถึง 1 แสนคนจากไซโคลนนาร์กีสที่พัดกระหน่ำพื้นที่การเกษตรและหมู่บ้านบริเวณดินแดนปากแม่น้ำอิระวดี ด้านนายซัลเมย์ คาลิลซาด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า สหรัฐไม่พอใจที่รัฐบาลพม่าตอบรับการยอมรับความช่วยเหลือล่าช้า ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้คนกำลังจะอดตายหากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ขณะที่มีซากศพลอยเกลื่อนตามน้ำ ส่วนปฏิบัติการช่วยเหลือมีเพียงเล็กน้อยในพื้นที่ที่จมอยู่ใต้น้ำมาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ซึ่งนับเป็นไซโคลนที่รุนแรงที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ปี 2534 หลังจากที่เคยมีพายุกระหน่ำบังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิต 143,000 คน

    นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เขาพยายามหาทางเจรจาโดยตรงกับพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า รัฐบาลพม่าชะลอการรับความช่วยเหลือก็เพราะไม่ต้องการให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศในช่วงที่พม่าใกล้จัดการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อเป็นหลักประกันให้รัฐบาลทหารคงอยู่ในอำนาจต่อไป. - สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 09:02:09

    เกิดแผ่นดินไหวที่เมืองหลวงของญี่ปุ่น

    [​IMG]

    โตเกียว 9 พ.ค. - เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวในกรุงโตเกียวและพื้นที่ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นเป็นวันที่สองแล้ว แม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายก็ตาม

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า แรงสั่นสะเทือนหลายระลอกมีขึ้นทางภาคตะวันออก ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีระดับ 5.7 ห่างจากชายฝั่งทะเลแปซิฟิกบริเวณเขตอิบารากิ ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียวราว 100 กิโลเมตร แต่ไม่มีความเสี่ยงการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงหลายระลอกที่กรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ ทำให้ไฟฟ้าดับตามบ้านเรือนกว่า 4,000 แห่ง และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย โดยวัดแรงสั่นสะเทือนมากที่สุดของเมื่อวานนี้ได้ 7.0 ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเผชิญกับแผ่นดินไหวร้อยละ 20 ของแผ่นดินไหวใหญ่ๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนได้ .- สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 08:50:43

    รัฐบาลพม่ายังไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากสหรัฐ

    [​IMG]

    พม่า 9 พ.ค.-รัฐบาลทหารพม่ายอมเปิดประเทศรับความช่วยเหลือจากองค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติแล้ว แต่ยังไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากสหรัฐ แม้ถูกกดดันอย่างหนัก

    รัฐบาลทหารพม่ายอมให้องค์การนานาชาตินำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีสแล้ว ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธคำขอของสหประชาชาติที่ต้องการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปอำนวยการแจกจ่ายสิ่งของให้ถึงมือประชาชนด้วยการไม่ยอมให้วีซ่าแก่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ เช่นเดียวกับเครื่องบินขนส่งของกองทัพอากาศสหรัฐพร้อมสิ่งของช่วยเหลือจำนวนมากก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่น่านฟ้าของพม่าได้ โฆษกกองทัพอากาศสหรัฐระบุว่า เครื่องบินขนส่งของกองทัพอากาศจะไปจอดเตรียมพร้อมรอคำอนุญาตของรัฐบาลทหารพม่าที่สนามบินในประเทศไทย เช่นกันกับกองเรือรบของสหรัฐที่พร้อมเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยชาวพม่าทันทีที่ได้รับอนุญาตให้เข้าน่านน้ำพม่าได้

    สหประชาชาติอนุมัติเงินช่วยเหลือพม่าคิดเป็นมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 320 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากกองทุนบรรเทาทุกข์กลาง สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น รัฐบาลทหารพม่ายังคงไว้ที่ 22,000 คน และสูญหาย 42,000 คน แม้แหล่งข่าวคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 100,000 คน และได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอีกถึง 1.5 ล้านคน

    โทรทัศน์พม่าแพร่ภาพ การประชุมคณะกรรมการอุบัติภัยธรรมชาติ ที่กระทรวงกลาโหมโดยมีพลโท เตง เส่ง นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานด้วยตนเอง ชาวบ้านบนเกาะหมู ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักและความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง ต้องสร้างเพิงพักชั่วคราวแทนที่บ้านซึ่งถูกพายุทำลายจนไม่เหลือซากเพื่อให้เด็ก ๆ ที่ต้องกำพร้าเพราะพ่อแม่เสียชีวิตจากพายุถล่มได้พักอาศัย สตรีคนหนึ่งกล่าวว่า อาหารและน้ำมีเพียงพอแค่วันนี้ เย็นนี้และพรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าจะหาอาหารที่ไหนให้เด็ก ๆ กำพร้าเหล่านี้

    ขณะที่พระตามวัดที่ได้รับบริจาคเงินและสิ่งของจากชาวพม่าที่มีฐานะดีก็ได้ทยอยนำเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยที่ความช่วยเหลือยังมาไม่ถึงไปพลาง ๆ โทรทัศน์เสียงประชาธิปไตยพม่าแพร่ภาพพระสงฆ์พม่าต้องออกมาเก็บกู้ซากปรักหักพังตามท้องถนนในกรุงย่างกุ้ง

    ทางด้านจีน นายฉิน กาง โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ออกมาวิงวอนให้รัฐบาลทหารพม่ายินยอมให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อเห็นแก่ผู้ประสบภัยของพม่าเองพร้อมกันนั้น ก็กล่าวว่า จีนพร้อมให้ความช่วยเหลือพม่าเพิ่มขึ้นอีก 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 138 ล้านบาท และนายแฟรงค์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือพม่า 0.5-1 ล้านยูโร และจะพิจารณาช่วยเพิ่มอีก

    ขณะที่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เขาได้ขอเจรจากับนายพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย เพื่อให้เลื่อนการลงมติร่างรัฐธรรมนูญออกไปก่อน แล้วหันมาทุ่มเทความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

    2008-05-09 08:25:27

    ที่มา http://news.mcot.net/international/index.php?page=1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โปรดเมตตาญี่ปุ่น ****

    เมื่อถึงเวลา...
    ญี่ปุ่น.... จะเข้าหา สัจจะ คำสอนพระพุทธเจ้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    วันนั้นไปเที่ยวทะเลได้ครับไม่ต้องกังวล เที่ยวให้สนุกครับ
    ลป.ท่านให้ระวังภัยจากลมพายุที่รุนแรงแถวเมืองกาญจน์ครับ ข่าวมาจากลูกศิษย์ท่าน ส่วนสึนามิไม่ได้หมายความว่าเป็นวันที่ 11 นี้นะครับ

    ติดตามดูสภาพอากาศไว้
    ก่อนที่พายุฟ้าคะนองจะเกิด ลมที่อยู่ระดับสูงจะมีความเร็วลมสูงกว่า ลมที่อยู่ระดับต่ำ ความแตกต่างของความเร็วลม จะทำให้เกิดลมหมุนที่มองไม่เห็น ในชั้นบรรยากาศล่างมวลอากาศร้อนที่ยกตัวสูงขึ้น ท้องฟ้าเป็นสีเทาอมเขียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ดินฟ้าอากาศ ****

    คือ ....พี่เลี้ยงของโลกุตตระธรรม
    ดินฟ้าอากาศ...จะเตือนไปทั่ว
    จนเมื่อ.... "สัจจะปฏิบัติ" คำสั่งสอนพระพุทธเจ้า ปรากฏไปทั่วแผ่นดิน
    ประเทศไทย...ก็จะเป็นตัวอย่าง เป็นผู้นำของโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ตัวอย่างวาตภัยไซโคลนในพม่า ไทยควรระวัง มิใช่ของไกลตัว


    ภายหน้า พายุโซนร้อนและดีเปรสชัน มีทางทำความเสียหายได้ยิ่งขึ้น


    นอกเหนือจากที่เคยทำลายบ้านเรือนในตัวเมือง และย่านนอกเมืองเกิดโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก

    ภายหน้า ลมยิ่งแปรปรวน พายุก่อตัวถี่ในท้องสมุทร อ่าวไทยระวัง ไต้ฝุ่นเกิด กำลังรุนแรงได้ไม่หย่อนกว่าไซโคลน เพราะความร้อนที่ปกคลุมโลกทวีขึ้น


    เมื่ออากาศแวดล้อมร้อนระอุมาก น้ำจากทะเลระเหยเป็นไอสู่เบื้องบน เพิ่มขึ้น

    และภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก หลายลูกละลายอย่างมาก มวลน้ำจึงเพิ่ม

    แม้ชายฝั่งไทย น้ำจะขยับสูง 1 เซ็นติเมตร ยังมีอิทธิพลให้ ลมฝนฟ้าคะนองหนักข้อ


    ถึงปลายปี นักวิทยาศาสตร์คาดไว้ มหาสมุทรแปซิฟิก อาจมีความอุ่นเพิ่มอีก 2 องศาเซลเซียส


    บัดนั้น ลมพายุที่ประดังก่อตัวทางหมู่เกาะฟิลิปปินส์ พัดเข้าแหลมญวน มาขึ้นอ่าวไทย ฟากตะวันออก

    ย่อมนำความเสียหายมาก มาสู่ทางใต้ ทางตะวันออก แม้แต่ภาคกลางและเมืองหลวง

    แต่กลางเดือนพฤษภาคมนี้ เรื่อยไปถึงมิถุนายน ฝั่งอันดามัน ไม่แน่แดนไทยหรือพม่า มีโอกาสได้รับภัยลม


    แม้ขึ้นฝั่งพม่า ทางหลายจังหวัดด้านตะวันตก ยังได้รับผล คือน้ำท่วม


    แต่หากเข้าฝั่งไทย ระนองนั้นน่าห่วง เหตุว่ามีช่องทางภูมิศาสตร์ ที่เอื้อแก่การเข้ามาของพายุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...