ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ปล.ในบ้านอินทร์ ไม่ต้องรวบรวมนะครับ
    รินริน จัดการให้เรียบร้อยแล้ว
    เป็นเรื่องเล่าเชิงปฏิบัติมีทั้งหมด ๒๖ ตอน
    ขอบคุณมาก ริน ริน :cool:
     
  2. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    เดี๋ยวตอนว่างๆ จากการทำงานจะนั่งรวบรวมเรื่อย ๆ ครับ เป็นไฟล์ก็ดีเหมือนกันจะได้แจกจ่ายให้ เผื่อจะมีข้อแก้ไขหรือชี้แนะตรไหนเพิ่มค่อยเติมลงไปครับ ^^
     
  3. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    มีในส่วนที่ท่านพี่นบตอบปัญหาต่างในแต่ละกระทู้ต่างๆต้องค้นหาจากโพสย้อนหลังล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้นครับ เพื่ออยากจัดทำให้สมบูรณ์ครับ
     
  4. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ กะผู้เขียน และผู้ ที่รวบรวม นะคะ

    จะได้ อาศัย อ่านด้วยค่ะ

    (พอ ลำบากมากๆ จะได้ฝึก แก้เครียดค่ะ)
     
  5. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924


    กระผม ขอโหวต ชื่อที่ ป๋ามิงค์ตั้งให้ครับ ถามมา ตอบไป จากใจปู่ฤาษี หมอผีรูปหล่อ

    และเห็นด้วยว่าควรแบ่งกันทำครับ เพราะ เยอะมากครับ แต่รูปแบบ น่าจะลองถามป๋านพ ดูครับ
     
  6. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ไว้ให้ พี่ท่านป๋านบ ถูกใจสไตล์ ก่อนก็ดีค่ะ ๕๕๕๕๕
    เพราะ พี่ มาย บางทีแกเพี๊ยนๆ อยู่น่ะค่ะ เดี๊ยว วาดพระเอก หล่อเกินจริง เอ้ย ตามจริง
    อาจเกิด เภทภัยร้าย ได้ ค่ะ ๕๕๕๕๕

    ส่วนเรื่องตั้งชื่อ ข้าน้อยมิบังอาจ ค่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2015
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อยากใช้ ชื่อ จอมมารผาไม้ดำ
    ผาไม้ดำ เป็นชื่อ ที่มาจากในหนังเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร
    เป็นที่ตั้งของพรรค สุริยันจันทรา มีจอมยุทธ ตงฟางปุ๊กป้าย เป็นใหญ่
    มีอาวุธคือ การใช้เข็ม ซึ่งลักษณะธาตุทอง ที่ฝึกได้ ลักษณะในการ
    พุงออกไปในอากาศก็เหมือนเข็ม และก็มีพื้นฐานมาจากพลังงานภายนอก
    ร้อนและเย็นส่วนหนึ่ง ซึ่งคล้ายกับชื่อ สุริยันที่ให้พลังงานความร้อน
    และจันทราหรือพระจันทร์ที่ให้พลังงานความเย็น...

    ส่วนจอมมาร เป็นนัยยะ ที่เขียนไว้ เพื่อเตือนไม่ให้หลงตัวเอง
    ไม่หลงสร้างเอาสมมุติที่มันเท่ห์ เช่นจอมเทพ มาเป็นเกราะเพื่อหลอกตัวเอง
    หรือสร้างให้คนอื่นๆเค้าใจตัวเองผิด
    เพื่อไม่หลงยึดติดในสิ่งต่างๆ เพื่อให้รู้ว่า จอมมาร คือตัวขวางเราได้ดีที่สุด
    และเพื่อเตือนให้รู้ว่า เรามันยังมีความเลวอยู่ แม้ ปัจจุบันนี้
    จะได้ไม่ประมาทครับ...

    ปล.ประมาณนี้ครับ ๕๕๕
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    ถามด้วยจิต ตอบด้วยจิต (สั้นดี)
    จริงไหม?
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ถามด้วยจิตตัว เองตอบด้วยจิตตัวเองสั้นดี จริงซิครับ...
    เพราะการถามตอบด้วยกำลังใจตัวเอง
    แบบเอาจิตตัวเองเป็นที่ตั้ง ยังไงมันก็สั้นครับ..
    เพราะสัญญาเกี่ยวกับองค์ความรู้มันไม่ได้ขยาย
    ออกจากตัวจิตไปข้างนอก ไม่ได้ขยายไปเชื่อมกับองค์
    ความรู้ภายนอก มันเป็นสัญญาความจำได้
    ที่มีอยู่แล้วในจิตให้นึกอยากจะเขียนยาวๆ
    นึกให้ปวดหัวจนตายก็เขียนไม่ออกครับ..
    เป็นเหตุให้เห็นอะไรที่เกี่ยวกับนามธรรม ถึงได้ไม่เข้าใจ
    ด้วยตัวเองซักทีไงครับ
    แถมที่ตอบๆไป จะโดนกิเลสมันเข้ามาแทรกได้อีกแบบไม่รู้ตัวครับ...
    เอาไปเอามากลายเป็น ตัวจิต ถามตอบเองกับ เป็นการคิด วิเคราะห์
    ตีความจาก ความคิดที่เกิดจากจิต
    กับความคิดที่เกิดจากขันธ์ ๕ นามธรรมมาปรุงร่วม มันก็จะตอบแบบ
    ที่ตัวจิตต้องการนั้นหละครับ มันจะไปตอบอย่างอื่นๆได้อย่างไร
    ก็เพราะมันรวมกันอยู่อย่างนั้น สุดท้ายก็กลายเป็น มโนมนึก ไงครับ..
    ถ้าเรื่องนามธรรม เค้าถึงย้ำเน้นว่า อย่าไปใช้ความเห็น อย่าไปใช้ความคิด
    และความพยายามในการตีความ ให้ทิ้งไว้ก่อนแล้วไปปฏิบัติให้รู้
    ให้เข้าใจด้วยตัวเอง แถมเมื่อรู้แล้วก็ยังให้วาง เพราะอะไรเพราะมันมีนัยยะ
    ที่สำพันธ์กับที่จะเล่าให้ฟังต่อไปครับ.


    การสร้างตัวจิตเราให้ถึงองค์ความรู้ได้ หรือการใช้จิตเราเป็นต้นทุน.
    เพือเชื่อมองค์ความรู้ หรือคุรุภายนอก เชื่อมครูบาร์อาจารย์ท่านไว้
    หรือบางคนอาจเรียกว่าเป็นการขอบารมี อะไรก็สุดแล้วแต่จะเรียกแต่กิริยาทางจิต
    มันก็คล้ายคลึงกันครับ.รู้แล้วเข้า ปฏิบัติเข้าใจแล้ว ก็รู้จักปล่อยรู้จักคลายตัวไปยึด
    เป็นการสร้างให้จิตคลายตัว รู้จักปล่อยวาง สร้างให้จิตมีความเป็นกลาง
    เมื่อตัวจิตมันไม่มีอะไรมาเกาะ ตัวจิตมันก็จะขยายออกได้
    ตัวจิตจะไม่เป็นวงกลม ไม่ถูกอะไรต่างๆ
    มาครอบไว้..ตัวจิตมันถึงจะสามารถสร้างสัญญา
    ขยายออกจากตัวจิตเองไปภายนอกต่างๆได้ ไปเชื่อมกับองค์ความรู้ต่างๆที่มีอยู่ภายนอกได้..
    ถึงเป็นที่มาขององค์ความรู้ต่างๆ แบบที่ไม่ใช่จะหาได้จากการอ่าน การฟัง หรือไป
    ค้นคว้าโดยใช้ Google เป็นองค์ความรู้ที่ทำให้เรามันมีพัฒนาการทางจิต
    พัฒนาการทางด้านการปฏิบัติได้รวดเร็ว มากมายกว่าการไปรู้ ไปศึกษาจาก
    ตำราทางโลกหรือการไปศึกษาทางสมมุติทั้งหลาย.....

    และเราต้องไม่ลืมว่า..จิตเราในสภาวะปกติ ก่อนที่จะเกิดองค์ความรู้ได้
    เราแน่ใจได้หรือยังว่าจิตเรามันโปร่ง มันคลายตัว
    มันมีความเป็นกลาง.และพร้อมที่จะขยายสัญญาออกไปเชื่อมองค์ความรู้ต่างๆ
    แน่ใจได้อย่างไรว่ามันไม่มีความคิดที่เกิดจากจิต ไม่มีความคิดที่เป็นสัญญาความจำได้เดิมมาแทรก
    ไม่มีความคิดที่เกิดจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมมาแทรก
    ไม่มีกิเลสละเอียดต่างๆมาแทรก..มันเป็นไปได้ยาก เพราะสภาวะจิตเรา
    มันไม่ใช่ พุทธะหรือ ผู้รู้ ผู้ตื่นอยู่ตลอดเวลาเหมือนพระอรหันต์หรือผู้เป็นเลิศ
    ทั้ง ๓ ภพทั้งหลายครับ......

    เพราะฉนั้นเราจึงมาทำการฝึก มาสร้าง บุญบารมี
    สะสมบุญบารมีต่างๆเพื่อให้จิตเรามันเข้าถึงได้ในระดับเริ่มต้น ให้จิต
    มันทำได้ในระดับเริ่มต้น ด้วยการให้จิตเริ่มเป็น พุทธะ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    ได้เพียงแค่ชั่วคราวหรือภายในเสี้ยววินาทีก่อน
    แล้วค่อยๆมาพัฒนาเพื่อให้มันนานขึ้น นานขึ้นเรื่อยๆ ตามเหตุและปัจจัยเฉพาะบุคคล
    เพราะปัญญาทางธรรม องค์ความรู้ภายนอกต่างๆมันจะเกิดได้นั้น
    มันจะต้องเกิดจาก การดับสัญญาความจำได้ที่มีอยู่ในจิตให้หมด
    มันถึงจะเกิดเป็นสัญญาที่ขยายออกจากจิตไปเชื่อมองค์ความรู้ต่างๆ
    จากแหล่งความรู้ต่างๆ
    แล้วจึงแปรเป็นความรู้ต่างๆขึ้นมาให้จิตเรารับรุ้ได้.
    .แค่การดับสัญญาความจำได้แค่เพียงเสี้ยววินาทีได้นั้น
    ก็จะเกิดเป็นองค์ความรู้ขึ้นมาได้ ส่วนตัวเรียก ปิ้งแว๊บ บางคนก็ มักอุทานว่า อ่ออออ
    อะไรทั้งหลายนั้น แม้ว่ามันจะเกิดแค่เพียงเสี้ยววินาที แต่การใช้ภาษาสมมุติเพื่อมาถ่ายทอด
    หรือการใช้การพูดเพื่อการถ่ายทอด มันต้องใช้การพูดในระยะเวลาพอสมควร

    ใช้การเขียนบรรยายพอสมควร เป็นหน้าๆกระดาษ A4 นี่หละครับความรู้ที่เกิด
    จากการไปเชื่อมสัญญาภายนอก จนย้อนมากลายเป็นความรู้
    รู้ความรู้ที่ผุดในขณะที่จิตมันว่าง บางคนก็เรียกปัญญาทางธรรม
    มันต่างจาก ปัญญาทางโลก ความรู้ทางโลกตามที่ได้เล่าให้ฟังมานั่นหละครับ...
    และการอ่านบทความยาวได้หรือไม่ได้ เป็นตัววัดกำลังสติทางธรรม
    และสมาธิของเราได้อีกอย่างหนึ่งด้วยครับ

    ปล.ประมาณนี้ครับ คุณ supatorn
    จริงไหมหละครับ ?..
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    สาธุๆๆค่ะcatt1;aa24
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    ท่าน อ นพ สงสัยว่าไม่ได้นอน อยูเวปตลอดเวลาเลย นี่ก็ตีสี่แล้ว อิอิ
    (ความลับๆ ตามกอปไว้เยอะเลย)
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    ถามมาตอบไป สายทิพย์-แสงธรรม
     
  13. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ชื่อหนังสือ:ถามมาตอบไป จากใจปู่ฤาษี หมอผีรูปหล่อ (ถ้าเป็นหนังสือขาย คงขายดี ชื่อวัยรุ่นซะ)
    By: จอมมารผาไม้ดำ (ติดลิขสิทธิ์ปะ555)

    ปล.เป็นหนังสือที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากหนังสือแบบฝึกสมาธิของท่านต่างๆดี สมเป็นเดชคำภีเทวดา หุหุ (ไม่ใช่ธรรมมะ ไม่ใช่อธรรม แต่รวมสองสิ่งไว้ในหนึ่งเดียว ).
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2015
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    จะเล่าต่อไปนี้ชวนคุยทุกคน คลายเครียด โดยไม่ได้ Tax รายชื่อนะครับ ๕๕๕
    เสาร์ อาทิตย์ ส่วนใหญ่ก็พักผ่อน แถมช่วงนี้ขี้เกียจด้วย ๕๕๕
    บางครั้ง เปิดเครื่องทิ้งไว้ ไม่ได้ปิด ก็เหมือนกับออนไลน์ได้อยู่
    บางทีก็กำลังนอนหลับปุ๋ย..๕๕๕
    วันหยุด ดูพระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลกย้อนหลัง กำลังสนุก
    ได้สาระดี เนื้อหาถ่ายทอดออกมากลางๆ เข้าใจง่าย ใช้ภาษาง่าย
    ถ้าฟังแล้วเข้าใจนะครับ ๕๕ อยากดูต่อว่า ผู้สร้างจะถ่ายทอด
    ตัวละครต่างๆออกมาในแง่มุมในให้ชาวโลกได้รับรู้..
    ชิงร้อยชิงล้านก็สนุกนะครับ ทางช่อง workpoint หม่ำ เท่ง โหน่ง
    และตัวแสดงอื่นๆ รวมๆแล้วฮาดี.และก็ไล่ดูหนังอื่นๆบ้าง.

    บางทีดึกๆประมาณ ตี ๒ ถึง ตี ๓ ถ้าว่างๆก็มักจะแว๊บๆเข้าห้องพระ
    ก็ไปนั่งพอสงบๆ ไม่มีอะไรมาก และก็ไม่มีพัฒนาอะไรมาก นอกจากวันหนึ่ง
    นึกสนุกๆ เลยลองปั่นกสิณเล่นๆ แล้วดันแว๊บไปนึกถึงการตั้งกสิณรูปแบบ
    สมเด็จพระสังฆราชมีชื่อในอดีต การตั้งเอากสิณไปขึ้นคงไม่ยาก อย่างป๋า มิงค์
    ก็ทำได้และการปั่นรวมกันก็คงไม่ยาก แต่ที่ยากก็คือ พอปั่นรวมแล้วพัฒนา
    ต่อยอดไต่ระดับฌานเนี่ยต้องฟิตพอตัว ก็เลยปั่นทีละกองเหมือนในรูปดู
    ถึงได้ อ่อออออ มิน่าหละท่านถึงได้วางไว้ว่า กสิณกองนั้นกองนี้มันต้องอยู่
    ตามตำแหน่งแบบในรูป ส่วนตัวนั่งปั่นแต่ละกอง หลายรอบอยู่พอสมควร
    ถึงจะพอสังเกตุได้ แต่ช่างเหอะ เด่วค่อยว่ากันอีกที ..

    แต่เมื่อคืนเข้าห้องพระเนี่ยโดนกวนหน่อย ไม่ทราบว่ามีใครที่จะพอจับสังเกตุ
    เวลาที่ผีมานั่งอยู่ข้างๆเราได้ไหม แบบที่ว่าจับได้เป็นเสียงนะไม่ใช่แบบอื่นๆ
    เวลาพวกนี้ปรากฏข้างๆเรา จะได้ยินเสียงดัง คล้ายๆหอยทากเดินก็คือ
    ดัง มิบ มิบ ๕๕๕ พร้อมกับมวลสารที่มีความหนาแน่นจากอากาศปกติเพิ่มขึ้น
    เมื่อก่อนนั่งห้องพระ ก็อัดวีดีโอไว้ ได้ยินเสียงภพภูมิมาสวดมนต์ด้วย ตั้งใจฟัง
    หน่อยจะได้ยินชัดเจน หลังๆมาได้ยินเสียงไอดังมาก ที่แปลกหน่อย ได้ยิน
    เสียงสุนัขเห่าตลอดเวลาทั้งๆที่เวลานั่งเงียบกริ๊บ นึกไปถึงมาคงเป็นตัวที่เราเคย
    เลี้ยงไว้แล้วมัน มาช่วยดูแลบ้านอยู่ เพราะเสียงเห่ามันเป็นเอกลักษณ์เลยจำได้

    นึกแล้ว ก็ ขำดี ยังไม่นับรวมที่อยู่ข้างนอก ก็ไม่มีอะไรก็อุทิศส่วนกุศล
    กันไปแบบอุตลุด แต่ที่มานั่งดูข้างๆเนี่ย คิดในใจว่า ใจเย็นๆอย่าพึ่งรีบทักทาย
    กันนะเพราะว่ารู้สึกเสียวๆอยู่ ๕๕๕ แต่ว่าฮาสุด ตอนที่นั่งสมาธิในห้อง
    ตอนนั้นอยู่ในโหมดฌานสมาหลับ พอลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นมีผีเด็ก
    ๔ ตนนอนหลับอยู่ตรงหน้าเรา นึกแล้วขำๆ ลูกเต้า เหล่ากอใครน้อ ๕๕๕
    ยิ่งผีเด็ก ญ เนี่ย หน้าตาน่ารักมาก นอนหลับหัวซุกตรงหัวเข่าพอดี ๕๕๕
    ไหนๆพูดเรื่องผีแล้ว ก็ขอนินทา เจ้ ข้างบ้านหน่อยแล้วกันใน Rep ต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    [​IMG]
    นี่คือตาหน้า เจ้ ที่จะนินทา มาบล๊อกนี้หละ แต่ว่าดูกลมเล็กน้อย
    และก็ไม่ได้ดูหน้าตาดุเข็มแบบนี้ แต่แต่งตัวเหมือนกันเลย
    จริงๆแล้วเป็นสไบเขียวนะครับ อาศัยอยู่ข้างๆบ้าน ข้างห้องนอน
    อยู่บริเวณที่มีต้นกล้วยเยอะ แต่ว่าไม่ใช่ ผีตานี นะครับ ๕๕๕๕
    คือ เจ้ ปกติเค้าไม่ชอบให้เรียก เจ้ นะครับ ชอบให้เรียกพี่
    มีชื่อว่า ใบเตย เกิดน่าจะอยู่ประมาณ ร.๒ หรือ ร.๓ เพราะอายุประมาณ
    ๑๘๐ กว่าปีได้ แต่ตายตอนอายุประมาณ ๓๐ สถานะภาพคือ สมรสแล้ว ๕๕
    พอตายแล้ว เนื่องจากหวงกำไร วงหนึ่งมาก เลยได้มาจุติอยู่ในกำไรเพื่อ
    เฝ้ากำไรวงนี้อยู่ ปัจจุบัน ก็ฝั่งดินไว้ หลังบ้านที่ เจ้ เค้าอยู่นี่หละ เจ้บอกว่า
    อยู่ตรงไหน และให้เราไปขุดเอามาเก็บไว้ให้หน่อย และก็ทำบุญให้เค้าด้วย
    เดี๋ยวถึงเวลาเค้าจะกลับมาเอาเอง ป้าดโถ่ พูดป่านว่า จะกลับมาเกิดเร็วๆนี้
    อีกรอบ แล้วจะได้เจอกัน ๕๕๕๕

    คือเจ้ เมื่อก่อนนี้ที่พบครั้งแรก เพราะเจอมาทำลับๆล่อๆ อยู่ตรงรั้วข้างบ้าน
    และแอบดูเราตรงผนังห้องที่ต่อเติมติดกับรั้ว ช่วงนั้นฝึกสมาธิอยู่ เลยแว๊บไป
    จ๊ะเอ๋ ทำอะไรนะ เจอแกเจอเราครั้งแรกเนี่ย อายม้วยต้วน นึกแล้วขำๆพึ่งเคย
    เห็นผีเขิน ผีอาย ๕๕๕๕
    นั่นเป็นการเจอกันครั้งแรก ป่านว่านิยายพบรักกับผีข้างบ้าน ๕๕๕ (น้ำเน่า)
    พอต่อมาก็เลยได้มีการอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ เค้าไปก็เลยได้อะไรแลกเปลี่ยนกลับมา
    เป็นความรู้ที่ ได้เคยแนะนำไป ในห้อง ผีผี ไปแล้วหลายเรื่อง
    พอดีมีวันหนึ่ง กำลังคุย กับเจ้าของฉายา สาวหวานญานทิพย์ทางวีดีโอคอลอยู่
    ทางนั้นมีอะไรบางอย่างให้เราช่วยพอดี ทางเจ้เค้าก็เลยแว๊บเข้ามากลางวงสนทนา
    ก็เลยเป็นที่มาของการได้ทำความรู้จักกันเพิ่มขึ้น..
    อย่างเรื่อง ตอนที่อุทิศส่วนกุศล เจ้ บอกว่าบุญที่เราอุทิศไป จะลอยๆไปแบบวงกลมคล้ายๆ
    ลูกโป่งพองน้ำ แล้วเค้าก็รับเอา ทำให้เจ้ ณ ปัจจุบันนี้สามารถไปไหนมาไหน
    ได้ไกลขึ้น ตอนนี้สามารถไปไกลจากที่อยู่ได้ รัศมี ๑๐ กม.จากที่เมื่อก่อน
    เจ้ จะออกไปนอกรั้วก็รู้สึกว่าเหนื่อยมาก ทุกวันนี้ เจ้ เลยแวะไปเล่นบ้าน
    นั้นบ้านโน้นที นึกแล้วก็ฮาไปอีกแบบ..
    และเจ้บอกว่าพวก ผีที่อยู่ ระแวกนี้ ไม่มีใครที่
    ไม่รู้จัก เราด้วย เจ้บอกว่า เราเป็นที่รู้จักกันดี ของผีบริเวณนี้ ๕๕๕
    และเป็นที่รู้ๆกันว่าเมื่อไร ที่เราฝึกสมาธิช่วงนั้นฝึกวิชาเดินธาตุ จะเป็นอันรู้
    กันว่า ผีบริเวณนี้ จะหาที่กำบัง ถามว่าทำไม เค้าบอกว่า ถ้าตอนที่ฝึกวิชานี้
    เค้าจะไม่สามารถมองได้ เพราะว่ามันจะทำให้เค้าแสบตามาก และเจ้ก็บอกว่า
    ผีแถวนี้เค้าชินแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีใครว่าอะไร ๕๕๕๕ นึกแล้วขำดี...
    ยังมีเรื่องผี ตายาย ที่อยู่ที่ต้นไม้ เด่วไว้โม้ให้ฟังทีหลัง
    เลยถามว่า แล้วทำไมถึงได้มาแอบดู เจ้ เค้าบอกว่า ตอนแรกนึกว่าเรา ไม่ใช่ คน
    ๕๕๕๕ พูดยังไงวะ นึกว่าไม่ใช่คน ข๊ำๆ เค้าบอกประมาณว่า ไม่นึกว่าคน
    จะทำแบบนี้ได้อะไรประมาณนี้หละ ๕๕๕๕ เค้าก็เลยชอบมาแอบดู
    เราก็เลยถามว่า แล้วตอนที่ฝึกหละไปหลบตรงไหน เค้าบอกว่า ก็หลบ
    หลังกำแพงที่ตรงกับโอ่งน้ำนั่นหละ ๕๕๕ ปัจจุบันโอ่งนี้ยกออกไว้ริมรั้วนอกบ้านแล้ว...
    ก็เลยถามต่อว่าไม่ย้ายมาอยู่ที่นี้หละ เค้าบอกว่า เจ้าที่ที่บ้านเรา ไม่อนุญาต
    ให้เค้าเข้ามา และก็พูดรายละเอียดลักษณะเจ้าที่ ซึ่งก็ตรงกับที่เราเคยเห็น..
    และเค้าก็ไม่ชอบ เจ้าของบ้านที่เค้าอยู่ เพราะว่าเป็นคนขี้หงุดหงิด ชอบบ่น
    อะไรอยู่คนเดียวและขี้โมโห แถมพูดมากอีกต่างๆหาก(พูดคนเดียวนะ) ๕๕๕
    นึกแล้วก็ข๊ำๆ
    ที่นี้ก็เลยลองแหย่ดูว่า เห็นน่ารักๆ
    อย่างนี้เราไปชอบได้ไหม รู้ไหมเจ้เค้าตอบว่า
    เค้าแต่งงานแล้ว ๕๕๕๕
    แม้ว่าสามีเค้าจะตายก่อน แต่สถานะเค้าคือ
    เค้าไม่โสด บูยยยยย คิดในใจแสดงว่าระดับนี้
    อย่าน้อยก็ต้องมีศีลพอตัวหละนะ ขนาดเป็นผี
    แม่หม้าย สามีตายไปแล้ว ตอนตายยังมีสำนึกที่ดีได้ ๕๕๕
    ที่ถามนะแหย่เล่นๆนะ อย่าจริงๆจัง เห็นผีสวยๆก็มีแซวบ้าง
    อะไรบ้าง แค่ขำๆเน้อ ๕๕๕

    และเจ้บอกว่า อย่างเรานะ เค้าเข้าใกล้ได้ยาก เพราะว่ามี
    ภพภูมิคอยยืนป้องกัน คอยอยู่รอบๆตัวเราตลอดเวลา
    ถ้าในเวลานั่งสมาธิธรรมดา เจ้แทบจะมองไม่เห็นตัวเราเลย
    เพราะว่า ภพภูมิกลุ่มนั้นจะยืนล้อมเราไว้อยู่ตลอดเวลา
    อันนี้เจ้ เค้าว่ามานะ..
    ก็เลยถามต่อว่า มีช่วงหนึ่งที่เรา ไปมีเรื่อง กับพวกเซียนสวด
    หรือพวกที่เค้าใช้คาถาอาคมแบบท่องบ่นนั้น เจ้เห็นอะไรบ้าง
    เจ้บอกว่า พวกนี้เค้าส่งอะไรที่ มันดูเป็นคล้ายๆควันดำลอย
    มาที่บ้านเราตลอดในช่วงกลางคืน เจ้ เค้าเห็นประมาณ ๒ เดือนได้
    ก็ไม่เห็นแล้ว แต่ว่าควันดำๆที่ลอยมา พอมาถึงบ้านก็จะถูกดูด
    หายไป เพราะว่า( ....... ) บอกไม่ได้เด่วพวกหมอผี หมอธรรม
    มาอ่านเค้าจะรู้ ๕๕๕๕

    และก็เล่าให้ฟังว่า ห้องพระที่บ้าน มีภพภูมิ ลอยลงมาจากข้างบน
    แวะมาไหว้ห้องพระก็มี มีที่เค้ามาคอยอยู่หน้าบ้านเพื่อรอรับบุญก็มี
    ก็เลยถามว่า พวกนั้นได้รับไหม เจ้บอกว่า เค้าก็ได้รับกันทุกตนนะ..
    ณ ปัจจุบันนี้ ก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย สาเหตุน่าจะเพราะเจ้
    คงได้ ทำความรู้จักกับ เจ้าที่บ้านอื่นๆ เพราะเจ้ เคยบอกว่า
    บ้านบางหลัง(ที่อยู่เป็นบ้านจัดสรรเกรด C ) ก็ไม่มีใครดูแล
    บางหลังเจ้าที่ก็ใจดี มีทั้งเป็น ญ เป็น ช เจ้าเค้าว่ามาประมาณนี้
    ปล.นินทา เจ้ ชื่อ ใบเตย พอสมควรหละ ๕๕๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515

    คงเป็น ลูกๆ พี่เองค่า ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน จะมาใกล้ชิดกันไม่ได้ค่า

    จะผิดผี ค่า


    และ พี่ใบเตย น่ารัก จังเลยค่า เธอมีหิริโอตตัปปะ น่าไปเป็น เทวดาน้อ
     
  17. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731


    (พี่ช่วยตัดแปะนะอันไหนที่พี่สนใจและได้อ่านผ่านตามา พี่จะช่วยมาลงในนี้เลย ง่ายต่อการค้นหา ส่วนอื่นๆถ้าคุณนพเห็นสมควรก็เสริมได้ค่ะ)



    เพราะเราจะต้องรู้ลักษณะพลัง
    งานกสิณแต่ละกองก่อนซึ่งมันมีเอกลักษณะเฉพาะตนแม้แต่กระทั่งกสิณสี
    ก็มีเอกลักษณะเฉพาะตน.ซึ่งในเอกลักษณะเฉพาะตนตรงนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์
    ได้ว่าใครทำได้จริงๆ.เพราะไม่มีทางที่คนที่ทำได้จะไม่รู้เรื่องตรงนี้ครับ..
    อย่างน้อยก็จะต้องเข้าถึงในเรื่องอารมย์เป็นอย่างต่ำ.และให้ดีมันต้องเรียกได้
    ควบคุมได้ ใช้งานได้ก่อน มันถึงจะมาตั้งให้ครบองค์ประกอบตั้งต้นได้..
    ที่สำคัญคือมันจะต้องทำให้คนอื่นๆสัมผัสได้ รู้สึกได้ด้วย.ให้คนที่เค้าไม่เคยสัมผัส
    ได้รู้นะว่า เอ่อนี้เป็นน้ำ นี่เป็นพลังงานไฟ นี่เป็นดิน นี่เป็นสี เป็นต้น
    ความสามารถเราถึงจะพอเรียกได้ว่าเริ่มคลานไปสู่โหมดวิญญานธาตุ.
    ให้เราพิจารณาสิ่งที่ส่วนตัวได้เล่าให้ฟังมาให้ดีๆก่อนครับ..เราจะต้องเข้าใจและรู้ดีก่อน
    ซึ่งมันจะบอกได้ว่าบุคคลคนนั้นเริ่มคลานเข้ามาในส่วนของวิชาเดินธาตุ
    ในโหมดของวิญญานได้บางแล้วครับ..



    หลักสังเกตุนะครับ..ว่าตัวเองเริ่มคลาน(เริ่มคลานนะครับ)เข้าสู่โหมดวิญญาน
    ธาตุได้หรือยัง ให้สังเกตุดูว่า ในสภาวะลืมตาปกติเราสามารถทำอย่างที่จะเขียน
    บอกกล่าวข้างล่างได้แบบตาเปล่าๆ โดยไม่ต้องตั้งท่าอะไรมากมายได้หรือยัง

    ๑.คุณสามารถเรียกพลังงานกสิณทั้ง ๑๐ กองให้ขึ้นมาบนฝ่ามือได้หรือยัง
    โดยเรียกให้ขึ้นมาได้ทีละกอง...และรวมมันได้หรือยัง
    เช่น รวม ดินน้ำลมไฟ หรือรวมสีทั้ง ๔ สี ครับ
    เป็นอย่างน้อยนะครับ ซึ่งหลักการรวมคนทำได้จะรู้ดีครับ
    ๒.คุณสามารถเชื่อมกระแสพลังงาน รวมทั้งดึงกระแสพลังงาน ส่งกระแสพลัง
    จากกสิณทั้ง ๑๐ กองไปยังวัตถุต่างๆไม่ว่าอะไรก็ตาม และสามารถส่งผ่าน
    ข้ามมิติเวลาได้หรือยัง...
    ๓.ตาเราในระดับขนิกฯสมาธิ มีความสามารถเห็น และสัมผัส และจับเส้นสาย
    พลังงานภายนอกได้หรือยัง..ถ้ายังอย่าไปพูดเรื่องจัดเรียงเส้นสาย เสียเวลา
    และอายเค้าครับ เด่วพวกแผนกเส้นสายที่เค้าชำนาญทางด้าน
    จักระมาอ่าน.มาเห็นเค้าจะขำเอาครับ..

    ๔.ถ้าเราสามารถทำ ๓ ข้อแรกได้ให้ดูว่าตัวเราสามารถเชื่อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ได้หรือยัง แบบเป็นเส้นตรงทั้งตัวและใส มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.
    ๕.เราแยกแยะได้หรือยังว่า พลังงานแบบไหนดี หรือไม่ดี เพื่ออนาคตสำหรับการ
    จัดเรียงเส้นสายพลังงาน..และการป้องกันการแทรกแซงของพลังงานไม่ดีครับ
    ๖.สายตาเราดีพอหรือยัง ที่จะแยกแยะได้ว่า พลังงานแบบไหนดีไม่ดี..
    และเราสามารถที่จะมีวิธีการในการปรับกระแสพลังงานที่ไม่ดีได้หรือยัง
    โดยที่เราไม่เป็นอันตรายใดๆ หรือว่าสามารถช่วยบุคคลอื่นๆได้เช่นกัน

    ๗.เส้นสายพลังงานในตัวไปเชื่อม กับ ภายนอกหรือบุคคลอื่นๆได้หรือยัง
    ๘.คุณสามารถตั้งธาตุต่างๆ ไว้ข้างหน้าคุณในระดับตาเปล่าได้หรือยัง
    ไม่ว่าจะ ๔ ธาตุ ๑๐ ธาตุให้มันหมุนนิ่งๆแต่ละธาตุและไม่เคลื่อนไปไหน
    และปั่นมันรวมกันได้หรือยังครับ.
    และข้อ ๙.เห็นความแตกต่างๆของมันแล้วหรือยังครับ ว่าการใช้จิตบังคับ
    ที่ หน้าฝาก หน้าอก เหนือสะดีอ มันสัมพันธ์อะไรกับจำนวนธาตุที่เราตั้งครับ..
    และข้อ ๑๐.ถ้าทำข้อ ๙ ได้แล้วกำลังก็ยังไม่เกินระดับฌาน ๑ ครับ.
    จำเอาไว้นะครับ ที่พูดให้ฟังคือต้องทำได้ในระดับสมาธิเล็กน้อย พวกนี้
    เป็นผลที่ทำให้เราทำได้จากการฝึกในโหมดสร้างกำลังจิตมาทั้งนั้น..


    อ่านเขียนดูไว้ครับ.จะได้ไม่หลงตัวเอง
    แล้วจะบอกว่า ถ้าทำได้หมดทั้ง ๑๐ ข้ออย่างที่กล่าวมาให้ฟัง
    นี้แล้วนั้น.ทางสายเดินธาตุ ไม่ว่าสายไหน เค้าถึงจะเรียกว่าการเริ่มคลาน
    เข้าสู่วิญญานธาตุครับ.และถือว่าพอมีกำลังสมาธิเล็กน้อยแค่นั้น..
    และไม่ต้องไปพูดเรื่องเล่นแปรธาตุแบบที่ครูบาร์อาจารย์ในอดีตต่างๆท่าน
    ทำได้ให้ยิ่งเสียเวลาออกไปอีกยาวไกลเลยครับ..พวกกิเลสมันชอบหลอกให้หลง
    เหมือนๆว่ามันดูง่ายๆดูว่าเราน่าจะทำได้.นี่หละครับความแยบยลที่เรามัก
    จะแพ้กิเลสมารพวกนี้..ให้เราระลึกย้อนเตือนสติตัวเองให้ดีๆครับ

    เพราะตรงนั้นเป็นระดับกำลังสมาธิ
    ขั้นสูงซึ่งเราๆจะต้องมีความสำรวมและเจียมเนื้อเจียมตัวในการกล่าวถึง
    สิ่งๆต่างๆที่ท่านๆเหล่านั้นทำได้ด้วยครับเราถึงจะพอมีโอกาสที่ก้าวเดิน
    ต่อไปได้เพราะว่าครูบาร์อาจารย์ท่านถึงจะค่อยๆเริ่มเปิดทางให้เราครับ
    ..อ่านแล้วไม่เชื่อ รู้สึกขัดๆ กับสิ่งที่เขียนมา
    ให้ย้อนไปดูว่า ๑๐ ข้อที่ผ่านคุณทำอะไรได้บ้างครับ..

    ประเด็นที่เขียนไม่ใช่อะไรครับ..เราอย่าไปให้ความสำคัญกับพวกความ
    สามารถแบบนี้ ในระดับกำลังสมาธิแบบนี้มากเกินไปครับ..ไม่งั้นเราจะไปติด
    กับพวกมารที่มันมักจะดึงเราให้หลงว่า ความสามารถระดับหางอึ่งแบบนี้
    มันทำให้ดูเหมือนว่าตัวเราวิเศษวิโสเหนือกว่าคนอื่นๆเค้า.ทำให้เราอยากพูด
    อยากแสดงเพื่อให้เราลึกๆอยากได้รับการยอมรับจากบุคคลอื่นๆที่เข้ามาอ่าน
    นี่ถ้าเราขาดการเจริญสติการเดินปัญญาเผลอๆมันจะหลอกให้เราคิดว่าความ
    สามารถแบบนี้นะ ทำได้อย่างนี้ เป็นระดับพระอริยะโน้น อริยะนี้ หลอกให้เรา
    คิดว่าเราบรรลุคุณธรรมขั้นสูงเอาได้ง่ายๆนะครับ..เพราะฉนั้นควรระมัดระวัง
    เรื่องทำนองนี้ให้ดีๆครับ ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติที่มีจริตเดินมาทางนี้นะครับ..

    โดยที่ทำให้เราเผลอลืมไปว่า เราแนะนำกันก็เพื่อแนะในแนวทางที่สมาธิได้พบได้เจอ
    เพื่อให้พ้นสภาวะแบบนี้ไปได้เฉยๆ โดยลืมเน้นไปว่า เป้าหมายหลักๆของมัน
    คือการนำเครื่องรู้ตรงนี้ ความสามารถเล็กน้อยตรงนี้ นำไปใช้เพื่อก่อเกิด
    ประโยชน์แก่บคุคลอื่นๆ และใช้ประโยชน์ในทางธรรม เพื่อหนุนเพื่อโน้ม
    เป็นแนวทางเดินให้จิตเราก้าวพ้นไต่ระดับไปกำลังสมาธิขั้นสูง
    เพื่อยกระดับจิตไปวิปัสสนา ลด ละ กิเลสในใจของตนเองให้มันน้อยลงไปเรื่อยๆครับ
    ปล.หวังว่าจะเข้าใจที่พยายามจะสื่อนะครับ
    ด้วยความปรารถนาดีต่อกัลยามิตรทุกๆท่านครับ
     
  18. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    ของผมตอนนี้เริ่มเก็บตั้งแต่ คุณนพ ตอบคุณ Loveyou ตั้งแต่ rep ต้นๆของกระทู้กสินใดฝึกง่ายสุดหนอ ไล่ ๆ มาครับ แต่การก๊อปข้อความลง word ตัวอักษรสีมันจะเป็นสีดำทั้งหมด ผมจะเปลี่ยนตัวอักษรสีให้ตรงกับที่พี่นพทำเอาไว้เพื่อง่ายแก่การอ่าน ส่วนย่อหน้าหรือบรรทัดจะเป็นเหมือนในกระทู้นี้ครับ พอดีผมก็ไม่ค่อยเก่งคอมมากนักครับ คงไม่รีบกันนะครับ ทำเรื่อยๆนะ (ตอนนี้ยังไม่ถึงไหนเลย:':)'()
     
  19. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    ลองดูก่อนนะครับ ประมาณนี้ได้ไหม ผมบีบไฟล์เป็น winrar เดี๋ยวจะค่อย ๆ ก็อป ของแต่ละท่านที่ถามตอบนะครับ ส่วนอันไหนที่เป็นเรื่องเล่า จะแยกออกไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ckj_tong1

    ckj_tong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +931
    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...