ผมมีวิธีเเก้สําหรับคนที่นั่งสมาธิไม่ได้เเล้วครับ

สาธุ ครับ

เป็นอย่างที่คุณ Phanudet กล่าวครับ ^_^

คำพูดใดๆ ที่ผมได้กล่าวไป ส่วนใหญ่มาจากการสดับฟังธรรมเทศนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อจรัญ และหลวงพ่อพุธ คำพูดเหล่านั้นอาจไม่ตรงกับคำเทศน์ของหลวงพ่อ ฯ ทีเดียวนัก

คู่สนทนาควรจะศึกษาไปพร้อมๆ กัน อันจะยังประโยชน์แก่ตัวผู้ศึกษา และหากเห็นว่ามีบางสิ่งที่ควรเสริม สามารถบอกกล่าวกันได้ (ผมน้อมฟังเสมอ ^_^) เป็นการฝึกการให้เหตุผล รวมถึงวิธีปฏิบัติของตนเอง เผื่อมีบุคคลที่มีภูมิธรรมเข้ามาแนะนำเพิ่มเติม

อนุโมทนาบุญ ครับ

 

อืม....หัดเดินจงกรม ก่อนนั่ง มาธิ แล้ว เหยอ
เออ ดี ๆ แต่ถ้าจะให้นิ่ง จิง ๆ
เดินจงกรม แล้วลองต่อ ด้วย ชี่กง สักพักดิ อิอิ
เลือกเอาท่าง่าย ๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหวมาก
พอนั่ง มาธิ จิตจะได้ นิ่งมากขึ้นไปอีก


มันเหมือน ค่อย ๆ เปลี่ยนการเคลื่อนของกาย จาก
เคลื่อนมาก ( เดินจงกรม ) ----> เคลื่อนช้า ๆ ( ชี่กง ) ---- > ไม่เคลื่อน ( นั่งมาธิ )


วิปัสนา ( เดินจงกรม + นั่ง สมาธิ ) สลับกับสมถะ ( ชี่กง ) น่ะ
เท่าที่ลองทำดู ก็ โอเคนะ

เฮ้อ ( สอน ไอ้เข้ว่ายน้ำซะล่ะมั้ง ตู อิอิ )

 

ขอบคุณครับท่าน

 

<TABLE style="WIDTH: 194pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=258 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 38pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1865" width=51><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3145" width=86><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3181" width=87><COL style="WIDTH: 26pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1243" width=34><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 38pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=51 height=20> </TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=86> </TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=87> </TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 26pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=34> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>อนุโมทนา... สาธุ...</TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 24.75pt; mso-height-source: userset" height=33><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 24.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=4 height=33>ขอให้เจริญในธรรม..และถึงซึ่งนิพพาน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=31> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>ทาน ศิล สมาธิ ปัญญา</TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไม่ใช่ไป ประคอง รักษา ให้มันว่างๆ สิ

ให้เห็นว่า จิตมันไหลไปคิด หากเห็นสภาวะธรรมนี้ได้ มันบีบที่จิตเราได้ มันกุมจิตเราได้
ก็จะเกิด ตัณหา พะวง สงสัย ตามมาเป็นพรวน ให้ดู วิถีของจิตที่มันเกิดขึ้น อย่าไป
ไม่ชอบใจที่ได้เห็นของจริง ให้ศึกษาการทำงานของจิต รู้ลงที่จิต ดูมันทำงานของมัน
ไป มันทำงานได้เอง อยู่ดีมันก็ไปคิดของมันเอง

เพราะเป็นความคิด เขาก็เรียกว่า เกิดทิฏฐิ เพราะจิตมันเกิดสิ่งที่เรียกว่า ทิฏฐิ แล้ว สภาวะ
ธรรมที่เรียกว่า กุศล และ อกุศล ก็จะอาศัยการเกิดทิฏฐินี้เป็นแดนเกิด เมื่อเกิดสภาวะธรรม
ที่เรียกว่า กุศลธรรม หรือ อกุศลธรรมขึ้นแล้ว ตัณหาก็จะอาศัยเป็นแดนเกิดต่อซ้ำสอง
แล้วทำหน้าที่บีบจิตใจเราให้สั่นไหว บีบเค้นจิตเราให้ทนอยู่ไม่ได้ จนเกิดการไม่ชอบใจ หรือชอบ
ใจอย่างใดอย่างหนึ่ง หลังจากนั้น ก็อาศัยอภิชญา โสมนัส โทมนัส ที่เกิดนี้ มาสร้างความ
กังวลใจ พอไปเห็นเข้า แทนที่จะมีสติรู้อยู่ที่จิต เราก็เผลอวิ่งออกไปผลัก เพราะรักจิต หวง
แหนจิตที่มีความสงบ(ติดสงบ) ทำให้เกิดการประคองรักษา ตรงนี้ อุปทานจึงอาศัยเป็นแดน
เกิดขึ้นมา สร้างภพชาติคนเดินโซเซขึ้นระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีสติระลึกรู้ แล้วปล่อยออกไป ภพ
ชาติคนเดินโซเซก็จะหายไป

ดูจิต กาย เวทนา ธรรม มันหมุนวนไปแบบนี้ ดูห่างๆ ศึกษามัน ไม่ใช่ไปรักษาเอาความสงบเป็น
ที่พึ่ง นอกเหนือจากนิพพานเป็นที่พึ่ง ไปอาศัยความสงบแต่อย่างเดียวจะทำให้ไม่เกิดกระบวน
การการศึกษา

 

สาธุครับ ปฏิบัติได้อย่างนี้ก็เดินหน้าได้เร็วกันสิคับ

สาตุ๊ก๋า