ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,434
    ขอบคุณเช่นกันครับ
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เนื้อหาสาระแน่นเอี๊ยดเลยค่ะ
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    เอาอีกกกกกกกกก
     
  4. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,329
    ค่าพลัง:
    +19,459
    มาเป็นกำลังให้ทุกวันค่ะ ชอบๆๆๆ
     
  5. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,697
    ขอบคุญครับ
     
  6. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,573
    สวัสดียามดึกครับลุง
     
  7. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    เข้ามาตามอ่านด้วยคนครับพี่
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..ขอขอบคุณ..คุณTrirut..คุณ โอ ท่าซุง..คุณSpeciaLized..คุณ น้ำดี๑
    คุณLynn&nice...คุณNu_Wa..คุณ ๑๕ค่ำ..คุณNoppornl(ยินดี้อนรับ
    ครับ)..ที่..ชม..ให้กำลังใจ..และติดตาม..กันมาตลอด...
    .......รวมถึงท่านผู้อ่านที่ติดตามกัน..ทุกๆท่าน.....เข้าเรื่อง..กันเลย
    .............กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค..................................
    ..ถ้าข้ามฝั่ง..ถนนวิทยุ..ตรงใกล้แยก..ท่านก็จะเห็น..รั้วของ..สวนลุมพีนี
    ..สวนสาธารณะที่..สวยที่สุด..ร่มเย็นที่สุด..และยิ่งใหญที่สุด..ตลอดกาล
    ของกรุงเทพมหานคร..และผมว่า..จะเป็นเช่นนี้ไปอีกนานแสนนาน......
    ...เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่..แต่มีการวางผังเป็นเลิศ..ผมไม่ได้เข้าไปสัก
    ..๓๓ ปี..เห็น..จะได้...ผมก็ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้..อะไร..มันหายไปบ้าง...แต่...
    ผมจะเล่าบรรยากาศ..ในสมัยปี..๒๕๐๖..โดยประมาณให้ฟัง..........
    ........สวนลุมฯนี่..ความจริงก็ได้รูปแบบมาจาก..ฝรั่งนั่นแหละครับ....
    ..ตามรูปแบบ..ของสวนสาธารณะขนาดใหญ่..ของเมืองใหญ่..นอกจากจะ
    ให้เป็น..ปอดของเมือง..แล้ว..ยังต้องมี..ความร่มรื่น..ร่มเย็น..เพื่อให้ผู้ที่
    เข้ามา..ได้ความเย็นสบาย..และ..บรรยากาศที่ผ่อนคลาย..จากชีวิตประจำ
    วันที่เคร่งเครียดในการทำมาหากิน..หรือ..จากการเรียนหนังสือ....(ถ้าเอา
    ไปเปรียบกับ...สวนจตุจักร..สวนหลวง ร.๙...คุณ..จะเห็นความแตกต่างกัน
    ทุกข้อ..ทีผมบอก..อย่างชัดเจน)...ด้าน..บันเทิง..ก็แน่นอน..อยู่ใกล้..
    ด้าน..ถนนวิทยุ..คือ..เวทีการแสดง...ที่สวยงามมีเอกลักษณ์..เป็นอย่างนั้น
    มานานแล้ว..ทั้งรูปทรง..ที่เป็นครึ่งวงกลม..ผนังด้านหลังที่โค้งและผาย..
    ออก..เป็นชั้นๆ..เพื่อประโยชน์ในการ..กระจายเสียง..เข้า..สู่ผู้รับชมและ
    รับฟัง...สมัยนั้น..แม่ผม..พาไปนั่งที่อัฒจรรย์..ครึ่งวงกลม..เพื่อฟัง..ดนตรี
    ที่มี..ทุกเสาร์-อาทิตย์..อากาศสบาย..ลมเย็นเบาๆโกรกผ่านหน้า..แดดจะ
    แรงเท่าไหร่(ความจริง..สมัยนั้น..แดดไม่แรงเลย)..ก็ส่องไม่ถึงพื้นเพราะ
    ติดร่มเงา..ต้นไม้...เครื่องเสียง..สมัยก่อนไม่ได้มี..กำลังขับสูงแบบปัจจุบัน
    ..แต่ที่ผมบอกว่า..การออกแบบเวที..เป็นเยี่ยม..ผนังลังจะสะท้อนเสียง
    ออกมาได้ใกล้เคียงกัน..ทุกจุด..ผมเคย..ลอง..นั่งตรงกลาง..แล้วก็เปลี่ยน
    ไปนั่ง..ตรงริม..ซ้ายมั่ง..ขวามั่ง...แยกแทบไม่ออก............
    ........พอมาถึง..กลางๆสวน..เข้า..จากถนนพระราม ๔ จะสะดวก...นี่คือ
    ...........................เวทีลีลาศสวนลุมพีนี.........................
    เมกกะ..ของ..นักเต้นลีลาศ..อีกแห่ง..คนทั่วไป(..ถ้าระดับ HI-SO....
    ..ต้องที่นี่..เวทีลีลาศสโมสรราษฏร์สราญรมย์..ที่ๆ..ชายพจน์..ปริศนา
    ..ชายกลาง..(ชายเล็ก..ไม่ได้ไป..เป็นง่อย)..พจมาน สว่างวงศ์...ฯลฯ
    ออกเสต็ป..วาดลวดลาย..จังหวะวอลท์ซ...แทงโก้..ตั้งอยู่ที่..วังสราญรมย์
    ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม..กรมการรักษาดินแดน..และเป็นที่จัด..งานวชิราวุธในทุกปี
    (ซึ่งจะมีการประกวด..นางงามวชิราวุธ(นางสาวไทย)พร้อมๆกัน)....)ก็จะ
    ได้วาดลวดลาย.ออกเสต็ป..กันเป็นประจำ...ซึ่งจะมีทุกคืน...นอกจากนี้..
    ยังมีการแข่งขัน..กัน..ในระดับประเทศด้วย................
    ......ยังครับ..ยังไม่จบ..สำหรับเวทีลีลาศสวนลุมพีนี..ต้องต่อตอนหน้า...
    ...................................................................................
    ...................................................................................
    ........อย่างที่ผมพูดไปตอนที่แล้ว..ในการปั้นเรื่อง..เพื่อให้เิกิด..แรงดึง
    ดูด..สำหรับ..ผู้ที่อยากได้พระของหลวงพ่อนั้น..หลวงพ่อนี้..มีมานานมาก
    แล้วครับ..ท่านผู้ที่เดินสนามบ่อย..คงเข้าใจ...โดยอาศัย..ส่วนเกี่ยวเนื่อง
    ของพระ..แต่ละรูป..หรือ..ผู้ที่เป็นคนสร้าง........ยกตัวอย่าง..สมเด็จวัด
    ระฆัง....ตั้งแต่..ผมเข้าเดินในสนามวัดมหาธาตุใหม่ๆ(ประมาณปี ๒๕๑๑)
    ..ผมก็เห็น..พระพิมพ์สมเด็จ..ที่พูดง่ายๆคือมีกัน..แทบทุกแผง........
    ...ผมหงาย..ด้านหลังพระมาดู..ก็จะพบ..ความแปลก..อยู่หลากหลาย..
    ..เช่น..ก้างปลา(ปลาทู..ที่ไอ้คนทำ..มันล่อเื้นื้อจนหมดแล้ว)..ฝังอยู่....
    ตอนเด็กๆ..ก็ไม่ค่อยเข้าใจ..ถามเจ้าของแผง..แกก็บอกว่า..เวลาสมเด็จ
    ท่าน..ฉันเสร็จ..ท่านจะเก็บไว้..ไม่บดรวมกับเศษข้าวก้นบาตร..มาผสมทำ
    เนื้อพระ..เป็นพิมพ์พิเศษ........................แต่ขนาดผมเด็ก..ผมก็ไม่เชื่อ
    หรอก...มาอีกพิมพ์...ด้านหลัง..มีรอยนูนๆ..เีขียนไว้ว่า..ร.ศ.๑๑๒...เขียน
    ไว้ให้รู้เลย..ว่าสร้างปีนั้น...อีกอันก็..มีตรา..จปร.เต็มด้านหลัง..แล้วเขียน
    ด้านล่าง..ว่า..สร้างถวาย...อีกแบบ..ยอดนิยม..สวยด้วย..ก็..สมเด็จแจว
    เรือจ้าง..(เพราะประวัติท่านที่..บิณฑบาตทางน้ำ..เข้าคลองโอ่งอ่าง...
    (คลองบางลำภู)..ใครใส่บาตรท่าน..ท่านก็แจก..พระท่านให้)..และก็..มี
    แปลกๆอีกเยอะ...แต่ยอดฮิต..จริงๆในยุคนั้น(ความจริงตั้งแต่ก่อนนั้น..
    หลายปี)..สมเด็จเผ่าหลังโล่ห์..(ความจริงผมเคยตอบ..กระทู้..ที่มีคนเอา
    พระรุ่นนี้..มาถาม..ในหมวดกระทู้..วิธีดูพระเครื่องฯ..มาแล้วก่อนหน้านี้)
    ...เพราะความดัง..ของพระรุ่นนี้..สมเด็จวัดอินทรวิหาร ๒๔๙๕..โดย..
    หลวงพ่อเงิน..เจ้าอาวาส..และมีประธานจัดสร้างคือ..พล.ต.อ.เผ่า
    ศรียานนท์..อธิบดีกรมตำรวจในยุคนั้น..แค่ปีสองปี..พุทธคุณเป็นที่ประจักษ์
    ทั้งเหนียว..ยิงไม่ออก..แคล้วคลาด..ลงหนังสือพิมพ์กันโครมคราม....
    ..ทำให้มีคนทั่วประเทศรู้จัก..ทั้งที่พิมพ์..ก็แตกต่าง..จากพระสมเด็จอื่นๆ
    ..แต่ที่ผม..บอกไป..สื่อยุคนั้น..ลงรูปๆก็ไม่ชัด..ลงไว้ด้านหน้า..ด้านเดียว
    (เขานึกไม่ถึง..ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้..ผมเคย..เห็น..สำเนาเรื่องที่ลงใน
    หนังสือพิมพ์มาแล้ว)ภาพที่ลงในยุคนั้น..อย่าว่าแต่รูปพระ..หน้าคน..ยังดู
    ยากเลย..คราวนีู้..คนที่สนใจ..ที่ไม่ใช่นักเลงพระ..หรือคนที่เพิ่งเริ่มสนใจ
    ใหม่ๆ..ก็ไม่ทราบ..ว่าสมเด็จรุ่นนี้..(ชาวบ้านตั้งแต่ยุคโน้น..ก็เรียก.....
    สมเด็จเผ่า..)..แตกต่าง..หรือ..มีเอกลักษณ์..อะไร.....พวกที่ทำพระปลอม
    ..อยู่แล้ว..ก็หัวใส..ไอเดียบรรเจิด..เพราะ..ใครๆก็รู้จัก..พล.ต.อ.เผ่า..ว่า
    เป็นใคร..เพราะท่านดังทั่วประเทศอยู่แล้ว..เลยมาปิ๊ง..ที่หน้าหมวกตำรวจ
    เป็นตราโล่ห์..ชาวบ้านมองปุ๊บ..รู้ป้๊บเลย..ว่าเป็นตราตำรวจ....ก็เอาพิมพ์
    สมเด็จปกติ..ที่ทำปลอมอยู่แล้วนี่แหละ..ทิ้งไว้พอหมาด..ก็เอา..เข็มกลัด
    ที่ติดปกเสื้อ..หรือที่ติดหมวกหนีบ..(ของนักเรียนนายร้อยฯ..ที่มีขาย)...
    มา..กดให้เป็นรอยบุ๋มลงไป..ทิ้งไว้ให้แห้ง..เป็นอันเสร็จ............
    .....ก็เริ่ม..เอามากระจาย..ตามแผง..ตามกะลามัง..ทั้งที่หน้าศาลยุติธรรม
    ...หรือข้างวัดมหาธาตุ..รวมถึง..ออกไปตามต่างจังหวัดใหญ่...โอ้โฮ....
    ขายดิบขายดี...พอใครมาหาสมเด็จเผ่า..ก็หยิบให้เลย..พอคนซื้อ..ถาม
    ..แล้วจะรู้ได้ยังไง..อย่างแรกClearไปแล้ว..เพราะขึ้นชื่อว่า..สมเด็จ..
    ต้องพิมพ์แบบ..พระสมเด็จ..แล้วต่างกันตรงไหนละ..เจ้าของแผง..ก็รีบ
    พลิกให้ดูด้านหลัง..เท่านี้..ก็ถึงบางอ้อ.....อย่าลืมนะครับ..ไม่มีหนังสือพระ
    รายเดือน..หนังสือพระที่มีขายก็เป็น..หนังสือเฉพาะกิจ..เป็นแบบป็อกเก็ต
    บุ๊ค..ยอดพิมพ์น้อยมาก..ไปหา้ซื้อตามร้านทั่วไป..ยังหาไม่เจอ..แถมยุคนั้น
    ..ขอโทษแผงหนังสือ..แบบยุคนี้ไม่มี..พอจะหาได้ก็มีที่เดียว..แผงหนังสือ
    เ่ก่าหลัง..พระแม่ธรณีบีบมวยผม..ข้างสนามหลวง(ไม่มีแล้ว)....
    ...มาถึงพระกรุ..ก็นี่เลย..พระขุนแผน..สมันโน้น..ยอดนิยมต้อง..วัด
    พระรูป..กุมารทองนอนแอ้งแม้ง..อยู่ด้านล่างชัดเจน..เห็นจะๆ..ว่าเป็นเด็ก
    นอนหงาย..ไม่ต้องเดา...บางองค์ด้านหลังมี..รูปเด็กนั่ง..ก็มี
    .............เหรียญ..ที่เป็น..ตัวอย่าง..และโคตรฮิต..เหรียญนี้ผมเคยเห็น
    คนที่ห้อย..ตั้งแต่เล็ก..จน..โต..ยังห้อยตลอด..เพราะความเชื่อมั่น....
    .......เหรียญกลมเนื้ออัลปาก้า..รุ่นหนึ้ง..ด้านหน้า..กรมหลวง
    ชุมพรฯ..ด้านหลัง..หลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า......

    ไม่มีใคร..ไม่รู้จัก..กรมหลวงชุมพรฯ..และ..ใครๆก็รู้ว่า..ท่านเป็น..ลูกศิษย์
    หลวงปู่ศุข..พวกหัวใส(ก็คง..ต้องมีพวกทำสมเด็จเผ่าหลังโล่ห์..แจมด้วย
    ..ผมว่า)..ก็เอาจุดนี้..มาเป็นจุดสนใจ...ก็สมใจครับ..ขายดีเป็น..เทน้ำ...
    เทท่า..แถมมี..อักขระเพียบ..ยิ่งน่าขลังเข้าไปใหญ่........
    ....ผมว่าแค่นี้..เป็นSample..ก็คงนึกออก..เพียงแต่บอกให้..รู้ว่า..รูป
    แบบ..การปั้นเรื่อง.มีทำกันมา..มากกว่า..๕๐ ปีแล้ว..และก่อนกว่านั้น..
    ด้วยซ้ำ..ยิ่ง..พระปลอม..มีเป็น..ร่วมร้อยปีแล้ว...แล้วผมจะมา้เล่าให้ฟัง
    ................................................................................
    ........ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน..ตลอด.........
    ...................ขอบคุณ..ครับ.............
    ................................................สวัสดี.....................
     
  9. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ขอบพระคุณค่ะ ช่างเล่าได้เห็นภาพพจน์ และออกอรรถรสในการอ่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    ยังคงติดขอบกระทู้และติดตามอย่างต่อเนื่องค่ะ

    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  10. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    แฟนคลับมาติดตามเหมือนเคยครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆๆครับผม ^^
     
  11. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ยิ่งเขียนยิ่งสนุกค่ะ
     
  12. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,434
    ขอบคุณครับ
     
  13. 5000

    5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,491
    ค่าพลัง:
    +7,121
    อ่านแล้วนึกถึงตอนเด็ก ๆ เหมือนกันครับ เลยขอแชร์ประสพการ์ณนิดนึงนะครับ

    ไม้ข้ดหม้อ..(เด็กรุ่นหนุ่ม เดี๋ยวนี้คงงง...หม้อข้าวสมัยก่อนหุงเตาถ่าน..
    ..เวลาหุงข้าว..ต้องมีการ.."ดง"..คือ..เอาน้ำออกหลังเดือด..โดยไช้ไม้ขัด
    หม้อ..สอดขัดเข้าไปใน..หูของฝาหม้อ..ตรงกลาง..และหูหม้อ..สองข้าง..
    ..เวลาใช้ก็สอด..ผ่านไปเลยทั้ง ๓ หู..พอเอียงหม้อข้าว..เอาน้ำออก..ฝา
    ก็จะไม่หลุด..เพราะถูกไม้ขัดไว้..เอ๊ะ..ผมจะมาอธิบายทำไม..)..เป็น...
    เครื่องมือในการ..ฟาดก้น..ฟาดน่อง..ลูกๆทุกคน

    อ่านเรื่องดงข้าวนี่ นึกถึงกลิ่นน้ำข้าวขึ้นมาทันทีเลยครับ
    ไม้ขัดหม้อที่บ้านยายผม มักจะใช้ไม้ไผ่ตัดให้ได้ขนาดยาวเท่ากับหูหม้อ
    โดยตัดไม้ไผ่ให้ตาไผ่ อยู่ใกล้ ๆ กับหูของฝาหม้อ ความหนาก็ต้องพอดี
    สอดเข้าในหูหม้อแล้วแน่นพอดี เวลาดงข้าวจะได้ไม่หลุดออกมา
    ฉะนั้นขนาดของไ้ม้ขัดหม้อ ก็ประมาณหนึ่งฟุต เหมาะมือมากเลยครับ
    ที่ยายหรือแม่จะคว้ามาฟาดลูก ๆ เวลาซน
    (ของแท้ที่ใช้มานาน ๆ ต้องมีสีดำๆ มัน ๆ ซะด้วย ถึงจะขลัง)



    (สมัยก่อนไม่มีถุงพลาสติก...ถุงกระดาษโชคดี..คือถุงอันดับ ๑...
    จะพิมพ์..รูป..มิตร-เพชรา(ดารายอดนิยมยุคนั้น)กับ..คำว่า..โชคดี
    (ไม่ใช่..ภาพสี..แต่เป็น..โมโนโทน(สีเดียว))..ไว้ด้านหนึ่ง..อีกด้าน
    ..จะพิมพ์..ตารางหมากฮอร์ส..ไว้...เอาเล่นแก้เซ๊ง..กับเพื่อนได้)


    อันนี้ก็มีประสพการณ์ คือถือถุงโชคดีแล้วอย่าให้หูถุงเปีัยก เพราะ
    หูถุงเป็นกระดาษ จะฉีกขาดอย่างง่ายดาย .. ต้องกลายเป็นหอบถุงแทน
    ต่อมาเริ่มมีถุงก๊อบแก๊บเข้ามา คนนิยมใช้กันมาก ถุงโชคดีก็เลยค่อย ๆ
    หายไปจากตลาด ยังนึกเสียดาย ว่าตอนนั้นผลิตถุงกระดาษดี ๆ ออกมา
    แทนถุงก๊อบแก๊บ ขยะคงไม่ล้นประเทศแบบนี้


    ยายก็ไม่ว่าอะไร..ต่อ..รีบกลับไปหา..มะกรูดและดินสอพอง
    ที่บ้าน..เอามาคั้นและผสมกัน(..ยาแก้หัวโน..พื้นบ้าน..)..แล้วเอามา...
    พอกให้ท่าน...เสร็จก็กลับ..และไม่ได้เล่าให้ใครฟัง..แม้แต่ลูก.....


    มายืนยันว่าสูตรนี้ใช้ีดีครับ ตอนนี้ที่บ้านก็ยังใช้อยู่ แต่ใช้มะนาวแทนมะกรูดบ้าง
    แต่หลัก ๆ ต้องเป็นดินสอพอง ทาแล้วจะเย็น ลดอาการหัวโนได้ชะงัดนักแล......


    นั่งปูเสื่อรออ่านต่อครับ อิอิอิ . . .
     
  14. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ยังติดตามอ่านเรื่องราวดีๆอยู่นะครับคุณลุง....(^_^)....
     
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    โอ้ ถ้าไม่อ่านที่ท่านลุงเขียนไว้ผมก็ยังคิดเหมือนเดิมนะครับว่า สมเด็จเผ่า ด้านหลังต้องมีตราโล่ห์ ... โอ้แม่เจ้า
     
  16. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,329
    ค่าพลัง:
    +19,459
    ความรู้ รอบด้าน จริงเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้เขียนงานดีๆ เช่นเดิมค่ะ
     
  17. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    ยังน่าสนใจ

    ชวนจินตนาการตามเหมือนเดิมเลยครับ

    รออ่านตอนต่อไปครับ
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ขอบคุณครับ..คุณ ดาวจรัสแสง..คุณน้ำดี๑..คุณ โอ ท่าซุง..คุณ๕๐๐๐
    (ยินดีต้อนรับและขอบคุณ..ที่เขียนเสริมมา)..คุณTrirut..คุณNorragate
    ..คุณSpecialized..คุณLynn&nice..คุณOrkar..ที่ชม..ให้กำลังใจ..
    และรอติดตามกัน..รวมถึงทุกท่านที่ติดตามอ่าน........เชิญเลยครับ....
    ...................กรุงเทพ..ยุค..คลาสสิค............................
    ..................................................................................
    ..ที่นี่..ทำให้กรุงเทพยามราตรี..คึกคัก..และ..มึสีสัน..คุณจะหา..ผู้ชายใส่
    เสื้อแขนสั้น..แทบไม่เจอ..ส่วนใหญ่ต้องแขนยาวติดกระดุม..รองเท้าหนัง
    เท่านั้น..การแต่งตัวไม่ดี..ไม่สุภาพ..ไม่เท่ห์ครับ..สาวๆจะมองอย่างเหยียด
    หยาม..และไม่เป็นการเคารพสถานที่..ฉะนั้นคุณจะไม่แปลกใจ..ที่พบคนใส่
    สูทมาเต้นรำ..นี่เป็นที่สำหรับ..สุภาพบุรุษ และ สุภาพสตรี..หลายคนมาก
    ที่เกิดความสนิทสนม..กันที่นี่..และสร้างครอบครัว..แพร่ลูกหลานสืบต่อมา
    ...สำหรับ..ตอนกลางวัน..บางครั้งจะมีจัดงานใหญ่ๆ...ในช่วงปีประมาณ
    ๒๕๑๐(ไม่แน่ใจนะครับ..ประมาณนี้)..เริ่มมีการประกวดวงตนตรีสากล..
    (..สตริง..วงชาโดว์)โดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย...แล้วก็ได้แชมป์
    เป็น..วง ดิอิมพอสสิเบิ้ล(เศรษฐา ศิระฉายา..นักร้องนำ).........
    ........ถัดไปทางตะวันตก..ด้านใกล้ถนนราชดำริห์..ที่ฝั่งตรงข้ามเป็น..
    โรงพยาบาลจุฬาฯ....มีสถานที่ๆสวยงาม..และเริดหรู..ชูหน้าชูตา....และ
    เป็น..สัญญลักขณ์ของ..สวนลุมพีนี(อย่างไม่เป็นทางการนะครับ..ถ้าเป็น
    ทางการต้อง..พระบรมรูปรัชการที่ ๖)...ไม่เหมือนใคร..และไม่มีใครเหมือน
    ..สถานที่ๆเป็นอดีต..และไม่เหลือซากในปัจจุบัน...นั่นคือ..กินนรีนาวา..
    ...............เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่..กลางสระใหญ่..ในสวนลุมฯ
    ...อาคารนี้สร้างเป็น..รูปเรือ..เป็นอาคารคอนครีต..มีทางเดิน..ข้ามน้ำ..
    ไปขึ้นเรือ...ที่โดดเด่นเป็นที่มาของชื่อ..คือส่วนหัวเรือ(โขนเรือ)..ที่สร้าง
    เป็นรูป..กินนรี..ตัวใหญ่กว่าคนหลายเท่า..ถ้าคุณนั่งรถ..หรือ..เดินผ่านมา
    ข้างสวนลุม..ตรงถนนราชดำริห์..คุณจะเห็น..กินนรีนาวา..อย่างชัดเจน..
    มันเหมือนลอยอยู่..กลางน้ำ..(ความจริงไม่ใช่)...ภาพนี้เป็นภาพที่ติดตา
    คนเมืองกรุงทุกคน.....กินนรีนาวา..นี่เป็น..ภัตตาคารครับ..คนแน่นทุกวัน
    ...อาหารก็รสชาติอร่อยกลมกล่อม(..ไม่ใช่..รสอูมามิ..นะครับ)...แขกบ้าน
    ..แขกเมืองของรัฐบาล..หน่วยงานรัฐ..ก็จะต้องพามาที่นี่..ที่นี่นับเป็น....
    LANDMARK..หนึ่งของกรุงเทพ..ขนาดpostcard..ท่องเที่ยวเมืองไทย
    ในยุคนั้น..ยังมี..รูปกินนรีนาวา..เลยครับ..สมัยก่อนไม่มีเรือเอี้ยมจุ๊น..ล่อง
    เจ้าพระยา..กินข้าวยามราตรี..ใครอยากกินข้าวอร่อยๆยามราตรี..เคล้าเสียง
    เพลง..รวมถึงแสงสีงดงาม..ต้องมาที่นี่..มีที่เดียว.........เสียดายมากครับ
    ประมาณปี..๒๕๐๙-๒๕๑๐..เิกิดเพลิงใหม้ขึ้น..ทำให้เสียหายทั้งหมด..ลง
    หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง...ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า..ทำไมไม่สร้างขึ้นมาใหม่
    ..............เอาละครับ..จบสวนลุมฯ..เราจะย้อนกลับมาที่สี่แยกวิทยุุ....
    ..ตอนหน้า..จะเข้าถนนสาธร..ขอบเมืองด้านใต้.............
    .....................................................................................
    .....................................................................................
    .........ก่อนช่วงปี..๒๕๑๐..ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการพระเครื่อง
    ...อย่างที่ผมเคยเล่าไปว่า..เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง..ที่มีกระจายไปทั่ว
    ประเทศ..ข่าวสารหลักๆที่เป็นส่วนกลาง..หรือเรียกว่า..สนามกลาง..จะมา
    จากวัดมหาธาตุ..เกือบทั้งหมด..การพบปะของผู้รู้..ข่าวคราวจะมาจากที่นี่
    ..พระอะไร..ความนิยมเป็นไง..ของปลอมเป็นไง..ราคากลางควรอยู่เท่าไหร่
    ..ยิ่งพระ..สายหลัก..ต้องทราบ..การเคลื่อนไหวต่างๆ...ที่สนามวัดมหาธาตุ
    ..คุณจะพบคนทุกภาค..ส่วนใหญ่ก็นั่งรถไฟมา..ถ้าอยู่ไม่ไกลก็..บขส.
    ..คนไหนฐานะดีก็..ขับรถมา..ผู้รู้(เซียน)..จะแลกเปลี่ยนความรู้กัน..เป็น
    สังคม..ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า..ในยุคนั้นไม่มีมือถือ...โทรศัพท์บ้านต้อง
    รวย..มีฐานะถึงจะมีได้..โทรศัพท์สาธารณะ..ขนาดในพระนคร(กรุงเทพ)
    ..ยังมีไม่ทั่ว...พระแตกกรุ..กว่าจะรู้..สองวัน..ต้องโทรเลขมาบอก...ถึง
    ..ปลายทางเจ้าหน้าที่..แปลสัญญาณผิด(..เกิดบ่อย..)บางที..กลายเป็นอีก
    วัดไปเลย...คนที่อยู่ปลายทางต้องทรงภูมิ..ในการเดา..เพราะบางที..อ่าน
    ไม่ออก..กว่าเจ้าหน้าที่ๆขี่จักรยาน..บางทีก็เดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน..รวมก็
    ...สองวันละครับ....อย่าไปหาอ่านในหนังสือพิมพ์..ไม่มี...ถ้าไม่ใช่เป็น..
    กรมศิลป์เปิดกรุเอง...หนังสือพระรายเดือน..รายปี..ไม่มีทั้งนั้น............
    ................ที่ผมเล่ามา..อยากให้ท่านนึกภาพ..ของผู้ที่ยังไม่รู้...กว่าจะ
    ...กลายเป็น..ผู้รู้..มันต้องใช้ความลำบากพากเพียรขนาดไหน....นั่นจึงเป็น
    ..เหตุผลที่ว่า..เซียนยุคนี้น..อายุจะมาก..๕๐..นี่น้อย..ส่วนใหญ่..ร่วมๆ
    ๖๐..ขึ้นไป...ไม่เหมือนยุคนี้..ทุกอย่างอำนวยหมด..อายุ..๒๕..ก็เป็นเซียน
    ..กันแล้ว..ผมไม่ได้อิจฉา..แต่ให้เห็นใจ..คนยุคก่อน...ว่าทุกอย่างมันไม่ได้
    มาง่าย..เหมือนยุคนี้.............
    .......................ผมจะเล่าถึง..ที่ผมเกริ่นมา..เมื่อคราวที่แล้ว..เรื่องพระ
    ปลอม...และอายุของประวัติการปลอมพระ...แล้วมีพระอะไรบ้างที่ปลอม
    กันในยุคแรก........ผมเองรู้ว่า..มีการปลอมพระจนถึงปัจจุบัน..ร่วมร้อยปี
    ..แล้ว..ตั้งแต่เมื่อ ๔๐ ปีก่อน..แต่ผมเองไม่อยากพูดให้ใครฟัง..เวลาที่มี
    คนเอาพระมาโชว์ให้ผม..แล้วบอกว่า..ปู่หรือตา..ได้มาตั้งแต่หนุ่มๆ..เก็บ
    ไว้อย่างดี..พึ่งมาให้หลาน..ทั้งๆที่ดูด้วยตาเปล่า(ก่อนอื่นผมออกตัวก่อน
    ว่าไม่ใช่เซียน..แต่แค่พอแยกแยะออก..ถ้าปลอมแบบไม่ใกล้เคียง)..แล้ว
    ปลอมชัดๆ..บอกไปก็ไม่มีทางเชื่อ..เพราะไม่คิดว่าสมัย..โน้นนนนน...จะมี
    พระปลอม......................................
    .........เรื่องมาจาก..พระที่แม่ผมห้อย(เลี่ยมทองแบบเก่า..คือ..ด้าน
    หน้าเป็น..แผ่นอซิเตท(คล้ายๆพลาสติกใส..บาง..อ่อนตัวได้..พอใข้ไปซัก
    ไม่ถึง ๑๐ ปี..จะเริ่มขุ่นและกรอบ..ต่อมาก็หลุดหมด)..ด้านหลังเปิด...
    ..ตอนนั้นผมกำลัง..บ้า..(๒๕๑๒-๒๕๑๓ ...ได้กล้องส่องพระตัวแรกมา
    แล้ว)..ผมเห็นมาตั้งแต่จำความได้..แม่ไม่เคยเปลี่ยน..ใส่องค์อื่นเลย(..โธ่
    ก็แกไม่ได้..เป็นพวกบ้าอย่างผม..จะเปลี่ยนทำไม..)...ผมก็บอกแม่..ว่า
    ขอส่องหน่อย..แม่ผม..แกหัวเราะ..เพราะผมกำลังบ้า..เอาพระที่พ่อได้รับ
    มา..ตลอดชีวิตมาส่อง...ข้าวปลาไม่กิน............................
    ...................พระแม่..เป็นพระพิมพ์สามเหลี่ยม..เป็นพระนั่งสะดุ้งมาร
    ...ก็คล้ายๆกับ..พระนางพญา..นั่นแหละ...แต่เป็น..สีขาว..ผมจำได้..อ่าน
    จากหนังสือพระเครื่อง(ปกแข็ง..หนาสัก ๒ นิ้วได้)..ไม่มีสีขาว..นี่เนื้อผง
    ..ในตำรามีแต่..เนื้อดินเผา...ผมก็ข้องใจมาก..เลยต้องถามที่มาที่ไป....
    ..เพราะอาจเป็น..พระกรุอื่นก็ได้...ผมก็ถามแม่ว่า..แม่ได้มายังไง..........
    ..แม่ก็บอกว่า...คุณตา๑(นามสมมุติ..เพราะไม่ควรพาดพิงถึง)..แกไม่ได้
    เป็นตาจริงๆ..แต่สนิทสนมกับญาติทางฝ่ายแม่จนนับถือกัน..และรูจักกับ..
    แม่(ยายของผม)..อย่างดี..ปีๆแกจะลงมา..ท้ายเหมือง(จ.พังงา)ที่บ้าน
    ๒-๓ครั้ง..และเห็นแม่ผม.ตั้งแต่เกิด..ตา๑นี่แกเป็นคนรู่นเดียวกับ..ตาของ
    แม่(ชวดผม)..แม่ผมก็คุ้นเคยแม้ไม่ค่อยได้เจอ..ทุกครั้งแกลงมาก็จะมีของ
    มาฝาก..แกรักแม่ผมเหมือนหลานแท้..จนแม่ได้..๗-๘ ขวบ..แกก็เอาพระ
    มาให้แม่..เลี่ยมทองอันนี้เลย..มาให้แล้วบอกว่า..เก็บไว้ให้ดี..ของศักสิทธิ์
    มาก..เอาไว้คุ้มครอง..ซึ่งยายต้องเก็บไว้ให้เพราะแม่ยังเด็กมาก........
    ....แม่บอกว่า..แม่เคยถามยายของผมว่า..แกทำมาหากินอะไร..ที่บางกอก
    ...ยายของผม..บอกว่า..แกทำพระปลอม.........ยาย..บอกว่า..แกทำมา
    ตั้งแต่..หนุ่มๆแล้ว..แกเคยเล่าให้ฟังว่า..ก็เลี้ยงตัวได้..ไม่ลำบาก...แม่ก็..
    เล่าว่า..เวลาเห็นแก..แกจะแต่งตัวดี..ดีกว่าคนแถวบ้าน..แสดงว่าต้องมี..
    ฐานะ..ดีพอควร.......................................
    ........................แม่ผมถ้ายังไม่เสีย..ตอนนี้ก็..๘๒..ยายผมถ้ายังไม่
    เสีย..ก็ประมาณ ๑๑๒ ..ชวดถ้ายังไม่เสีย..ก็ประมาณ ๑๓๒...ต๑..แกเป็น
    คนรุ่นเดียวกับชวด..ก็ถือซะว่า..เท่ากัน..แกทำ..พระปลอม..มาตั้งแต่หนุ่ม
    ...ถ้าคิดกัน..ง่ายๆว่า..หนุ่ม..ก็ซัก..๓๐..ท่านทั้งหลายก็..ลบเลข...
    ..เอาเองได้ว่า..เวลาเป็นกี่ปี..ตั้งแต่..แกมีอาชีพ..ปลอมพระ....
    ................ตอนนั้น..ที่ได้ฟังจากแม่..ก็รู้ว่า..นานมาก..แต่ไม่ได้..มาคิด
    ให้เป็นหลักการ..จนเมื่อ..ผมเป็นหนุ่ม..ตอนนั้นครั้งแรกที่คิด..ก็ได้เป็น...
    ร่วม ๗๐ ปี....จึงรู้ว่าธุรกิจที่..เกี่ยวกับพระ..เกิดขึ้นมานานมากแล้ว....
    ..ทำให้ผมค้นคว้า..ข้อมูลทั้งจากห้องสมุดแห่งชาติ..หนังสือเก่าๆ..แต่ที่ได้
    จริงๆก็มาจาก..สนามวัดมหาธาตุที่ผมไปสิง..ทำความคุ้นเคย..กับแผงพระ
    พอสนิทๆ..เห็นเราไปทุกอาทิตย์..แล้วถามโน่นถามนี่..ตามประสาเด็ก..ก็
    ง่ายที่จะคุ้นเคย..ผมก็เตรียมคำถามไว้แล้ว..แกก็อารมณ์ดีตามประสาคนมี
    อายุ..ผมก็ได้ข้อมูลที่เวลาใกล้เคียงกัน..แต่เริ่มจริงๆก่อนหน้านั้นอีก..แล้ว
    แกก็เล่าที่มาที่ไป..ผมได้ข้อมูลมากมายเช่น..พระปลอมรุ่นแรกๆ..มีพระ..
    อะไรบ้าง..พระยอดนิยมสมัยก่อน(ยุคเริ่มปลอมพระ)มีพระอะไร.......
    ..ความจริง..ลุงคนนี้..ผมเป็นคนเลือกเอง..เพราะจากสังเกต..ว่าการที่เรา
    จะไปขอความรู้(ไม่ใช่เรื่องนี้อย่างเดียว..แต่ทุกเรื่อง..ที่เกี่ยวกับพระ)ต้อง
    เป็นคนที่..น่าเชื่อถือ..มีอายุ..เป็นที่รู้จักกับพวกเซียน(ผมเป็นคนรอบคอบ
    มาตั้งแต่เด็ก)...ฉะนั้น..ข้อมูลจะมีความน่าเชื่อถือสูง........อีกอย่างเมื่อ
    เข้าไปถามใหม่..ก็ถูกอัธยาศัยกัน....................
    .............ตอนหน้า..ผมจะมาเล่าที่มาที่ไป..ของการปลอมพระ....
    ..พระอยดนิยมใน..ยุคแรก..พระปลอมยุคแรก..มีอะไรบ้าง............
    .............ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกันโดยตลอด...........
    ............................ขอบคุณ..ครับ............................
    ..............................สวัสดี..........................................
     
  19. nut1663

    nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +2,691
    สนุกจริงๆ ครับ พี่ .... ขอบคุณพี่ พิมพ์ให้ อ่านครับ
    เวลาผ่านมาก็หลายปี แต่ คุณพี่ยังจำรายละเอียด ปลีกย่อย
    ได้เหมือนผ่านมา ไม่นาน ไม่ทราบว่า มีหนังสืออ่าน อ้างอิง
    หรือ เซฟไว้ใน เมโมรี่ ส่วนตัว ครับ ...
     
  20. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    เอ่อ...แล้วตกลงพระของคุณแม่ของคุณmodpong เป็นพระเก๊หรือจริงคะ? เรื่องราวกำลังสนุกค่ะ

    ขอบพระคุณและอนุโมทนาสาธุค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...