พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1433.พระสมเด็จ หลวงปู่หิน วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่พระประธาน แขนกลม สร้างราวปี 2488 เนื้อจัดมากครับ ให้บูชา 1150 บาท



    upload_2023-2-12_17-35-15.png

    upload_2023-2-12_17-35-21.png


    สุดยอดมวลสารผงเก่าวัดระฆัง พระสมเด็จแตกหัก พระกรุแตกหัก (อาทิ วัดสามปลื้ม วัดเงินคลองเตย) ผงเก่าและพระปิลันทร์ แตกหัก ที่หลวงปู่หินได้รวบรวมมาสร้างพระ นับว่าเป็นของดีที่น่าบูชา

    หลวงปู่หินเริ่มสร้างพระพิมพ์ตั้งแต่ปี2482-ปี2521 นับรวมได้ทั้งสิ้น 10 รุ่นด้วยกัน โดยมี อาจารย์ขวัญ วิสิฎโฐ(คุ้มประยูร)เป็นผู้ช่วยเหลือโดยใกล้ชิดมวลสารจัดสร้างพระหลวงปู่หินท่านได้สะสมพระแตกหักที่ชาวบ้านได้มาแล้วนำมาถวายและพระแตกหักที่ชาวบ้านทำหักแล้วไม่ได้เก็บไว้บูชามาไว้ที่ต้นไม้เป็นจำนวนมาก...ประกอบกับที่พระเจดียฺ์อุโบสถ้ได้พังทลายลงมาปรากฏว่าเจอพระสมเด็จปิลันทร์จำนวนมากได้แตกกรุออกมาท่านจึงเก็บไว้ และอีกประการหนึ่งท่านสนิมสนมกับพระอาจารย์ขวัญซึ่งได้บวชที่วัดระฆังมานตั้งแต่ยังเป็นเณรซึ่งโยมแม่ของอาจารย์ขวัญอยู่ในยุคของสมเด็จโตและมักจะนำภัตตาหารคาวหวานมาถวายแด่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตเป็นประจำเพราะ ความเลื่อมใส ซึงมาถวายสมเด็จโตครั้งใด ก็จะได้รับพระสมเด็จโตกลับไปทุกครั้งจนทางบ้านของอาจารย์ขวัญมีสมเด็จเต็มพานใหญ่กะประมาณเป็๋นร้อยองค์เมื่อโยมแม่อาจารย์ขวัญถึงแก่กรรรมลงท่านจึงมอบพระสมเด็จให้แก่หลวงปู่หินมาเพื่อสร้างพระเครื่อง และอีกส่วนหนึ่งอาจารย์ขวัญได้ไปขอผงสมเด็จจากมหาเลี่ยมซึ่งเป็นผู้รักษากุฎิสมเด็จโต จึงได้ผงสมเด็จมาอีกจำนวนหนึ่งจึงมอบให้หลวงปู่หิน นอกจากผงสมเด็จโตและพระปิิลันทร์แล้วยังได้ผสมผงพระสามปลื้มที่ตอนเปิดกรุได้นำมาผสมลงไปพร้อมกับผงที่หลวงปู่หินได้ทำผงเขียนและลบผงสุดยอดเมตตาผงสุริยาต้นตำรับเขมร และผงตรีนิสิงเหที่ท่านเชี่ยวชาญมาผสมในพระของท่าน
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1434.พระดีที่น่าบูชา นานๆได้มาครับ พระพุทธมหาปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี 30 เนื้อดินเก้าบังสีดำ หลังยันต์ ให้บูชา 750 บาท


    upload_2023-2-12_21-36-29.png


    พระพุทธปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นี้เป็นของวัดสร้างเอง ส่วนใหญ่เรียกว่าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อดินหรือเนื้อเกสร แต่หลวงปู่ท่านเรียกว่า “พระพุทธมหาปฐวีธาตุ” ไม่ว่าจะเรียก
    อย่างไรก็หมายถึงพระพิมพ์นี้ทั้งนั้น พุทธมหาปัฐวีธาตุนี้สามารถอธิฐานแช่น้ำทำน้ำมนต์ได้ด้วย หลวงปู่คำพันธ์ ท่านกล่าวไว้ว่า มีองค์นี้แล้วเหมือนมีหลวงปู่อยู่ด้วย น้ำมนต์ก็จะศักสิทธ์ดุจดั่ง หลวงปู่ทำให้เองเลย ดังนั้น พระพุทธมหาปฐวีธาตุจึงนับได้ว่าเป็นพระอีกพิมพ์หนึ่งในไม่กี่พิมพ์ที่หลวง ปู่คำพันธ์ท่านโปรดปราน ประมาณปี 31 หรือ 32 มีศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่ง เข้ากราบหลวงปู่ร่วมกับคณะครู และผู้บริหารประมาณ 5-6 คน เพื่อถวายสังฆทาน หลวงปู่หยิบพระผงสีดำจากย่ามให้คนละองค์
    ท่านบอกว่า นี่คือสมเด็จมหาปัฐวี ดิน 9 บัง ด้วยความไม่รู้ จึงถามหลวงปู่ไปว่า ดิน 9 บัง เป็นดินที่ลี้(ซ่อน, บัง) 9 ครั้งหรือครับหลวงปู่ หลวงปู่หัวเราะแล้วตอบอย่างอารมณ์ดีว่า 9 บัง หมายถึง ดิน 9 จากห้วย 9 ห้วย (ห้วย หมายถึง ห้วยหนอง หรือหนองน้ำ หรือแหล่งน้ำ) ซึ่งสรุป
    แล้วสมเด็จมหาปัถวีเป็นสมเด็จที่หลวงปู่นำดินจากแหล่งน้ำที่ศักดิ์สิทธ์ 9 แห่ง มากดเป็นพิมพ์พระสมเด็จนนั้นเอง
    พุทธลักษณะเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับบนอาสนะมีฐานผ้าทิพย์ ปางมารวิชัยประทับใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ บรเวณพระศอและใบหน้าด้านหลังเป็นรัศมีเส้นวงกลม อันหมายถึงพระปัญญาญาณที่สว่างไสว สงบและเต็มไปด้วยบุญญาและบารมีแห่งธรรมะ
    เส้นขอบองค์พระคู่ขนานกับองค์พระเว้าเป็นซุ้มและกนกทำให้พุทธศิลป์โดยรวมขององค์พระ
    มีความงดงามและลงตัว

    ด้านหลังองค์พระประทับด้วยพระยันต์ "นะปัดมหาสูญนิพพาน" ที่หลวงปู่คำพันท่านว่า
    มีความศักดิ์สิทธิ์และมีความหมายอย่างยิ่ง มีคุณค่าอันยิ่งใหญ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ หลวงปู่ท่านเรียกยันต์
    ตัวนี้ว่า “ยันต์ นะ ปัดมหาสูญนิพพาน” ผู้ใดมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ จะไม่มีวันตกต่ำ และจะมีชีวิต
    ที่สูงยิ่งขึ้น เมื่อบูชา และอาราธนาใช้ แต่บุคคลนั้นต้องตั้งอยู่ในความดี กล่าวได้ว่า วัตถุมงคล
    อันศักดิ์สิทธิ์เหมาะสมกับผู้ที่เจริญด้วยความดี ไม่ว่าจะยากจนแสนเข็ญหรือร่ำรวยล้นฟ้า
    ทุกคนสามารถเป็นคนดีได้เปรียบเสมือนผู้กับผู้เจริญรอยตามพระธรรม สามารถเข้าถึงพระนิพพาน
    แห่งธรรมะได้ สิ่งนี้คือความหมายของ “ยันต์ นะ ปัดมหาสูญนิพพาน” ของหลวงปู่ ฉะนั้น

    หากผู้ใดมี “พระพุทธมหาปัฐวีธาตุ” โปรดจงระลึกไว้เสมอว่า ท่านมีวัตถุมงคลที่เปี่ยมพร้อมไปด้วยพุทธศิลป์ที่งดงาม และพุทธคุณอันสูงล้ำค่าแห่งองค์พระทั้งดีในและดีนอก
    คือ มวลสารที่นำมาใช้สร้างถูกคัดกรองมาอย่างดีจากสถานที่ ที่หลวงปู่ท่านบอก รวมถึงการได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยแล้ว จึงถือได้ว่า เป็นของดีอันสุดวิเศษจริง ๆ

    ประสบการณ์ของ "พระพุทธมหาปัฐวีธาตุ"

    เรื่องที่ ๑

    เด็กนักเรียนถูกแทงไม่เข้า
    เด็กนักเรียนคนนี้เป็นลูกชายของพี่อู๊ด และพี่อู๊ดก็เป็นพี่ชายของอาจารย์อ๊อด (รังสรรค์ ธนะรัชต์)
    เรื่อง มีอยู่ว่า พี่อู๊ดได้บูชาพระเครื่องของหลวงปู่คำพันธ์มาองค์หนึ่งได้เลี่ยมให้ลูกชาย แขวนคอจนประสบอุบัติเหตุถูกแทงไม่เข้าในวันหนึ่ง คือลูกชายพี่อู๊ดเพิ่งเลิกโรงเรียน กำลังเดินเข้ากลุ่มพรรคพวกกลับบ้านก็เป็นอันได้ประจันหน้ากับกลุ่มนักเรียน โรงเรียนคู่อริ จึงตีกัน ลูกชายพี่อู๊ดรูปร่างอ้วนใหญ่ หนีไม่ทัน ถูกแทงที่ท้องล้มลง คนแทงก็ทิ้งมีดไว้ด้วย ไม่เอากลับคืน แทงแล้วก็แตกฮือวิ่งหนีไปลูกชายพี่อู๊ดจุกแอ่ก พูดไม่ออก ในขณะที่เสื้อขาดเป็นรอยมีดจิ้มที่พุง และมีดก็พับงอตกอยู่ข้างๆอย่างน่าอัศจรรย์ รอดตายมาได้โดยปาฏิหาริย์ลูกชายพี่อู๊ดแขวพระพุทธปฐวีธาตุห้าเหลี่ยมอยู่เพียงองค์เดียว

    อภินิหารของพระพิมพ์นี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องย้ำว่าได้ยินมาจากปากหลวงปู่เอง ในขณะที่ท่านอารมณ์ดี และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นหลายปีดีดักแล้ว
    ท่านเล่าว่า “มีครูสตรีคนหนึ่ง บ้านอยู่กรุงเทพฯ มาสอนหนังสือที่นครพนม วันหนึ่งจะเดินทางกลับบ้าน ที่กรุงเทพฯ ได้เอาเงินเดือนที่เพิ่งรับมาใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วถือขึ้นรถบัสไป ระหว่างทางโจรก็แสดงตัวลุกขึ้นทำการปล้นอยู่บนรถโดยสาร ปล้นเรียงตัวมาเรื่อยๆ ครูสตรีก็ตกใจ ถอดทั้งแหวน
    ทั้งกำไล ทั้งนาฬิกา ทั้งสร้อยคอ ทั้งพระพุทธมหาปฐวีธาตุ ใส่รวมไว้ในกระเป๋าถือ เมื่อโจรมาถึงก็เปิดกระเป่าเอามือควานลงไปหาทรัพย์สิน ควานแล้วก็ถอนมือเปล่ากลับออกมาโดยไม่ได้เอาอะไรเลย โจรก็ดีนะยังรูดซิบปิดกระเป๋าให้ด้วย พอปล้นจนพอใจคือครบทุกคนแล้วก็ยังสงสัย
    กลับย้อนมาที่ครูสตรีคนนี้อีก เปิดกระเป๋าอีกรอบหนึ่งล้วงมือลงไปค้นหาของ แล้วก็ไม่ได้อะไร และรูดซิปปิดกระเป๋าให้อีก” หลวงปู่ยิ้ม อารมณ์ดี เวลาเล่าเรื่องก็ทำมือประกอบไปด้วย “มันแปลกดีนะที่โจรไม่เอาอะไรไปเลย ทั้งที่ทรัพย์สินทุกอย่างก็อยู่ในนั้น
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1434. เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่น รวยเงิน มวลสารเสก ๙ ปี เนื้อเงิน ให้บูชา 850 บาท


    upload_2023-2-13_14-24-29.png

    upload_2023-2-13_14-27-5.png

    บรรจุเกศา ๓ พระมหาเถระ (หลวงปู่บุดดา ถาวโร , หลวงปู่มหาอำพัน อาภรโณ , หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ) จัดสร้างปี พ.ศ. ๒๕๔๒
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1435. พระผงจันลอยสิบทัศ พิมพ์เล็ก วัดนางชี หลวงปู่โต๊ะ อธิษฐานจิตไตรมาส พ.ศ.2509 ให้บูชา 1450 บาท




    upload_2023-2-13_20-51-41.png


    สุดยอดมวลสาร หลวงปู่โต๊ะ อธิษฐานจิตไตรมาส วัดนางชี กทม. ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2509 โดยท่านพระครูปราสาทสมาธิคุณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ใช้ระยะเวลาการจัดสร้างนานถึง 9เดือนเศษ เนื้อหามวลสารผงวิเศษมากมาย มวลสารผงวิเศษต่างๆที่ใช้จัดสร้าง - #วาระที่1 : หลังจากทำการพิมพ์พระได้ตามจำนวนแล้วเสร็จ ได้ถวายให้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพรี เมตตาปลุกเสกตลอดไตรมาส 3เดือน
    #วาระที่2 : ทางวัดนางชี ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ 9 รูป ทำพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งก็เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงทั้งสิ้น
    #นามพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณที่ร่วมพุทธาภิเษก 1.หลวงปู่นาค วัดระฆัง 2.เจ้าคุณผล วัดหนัง 3.หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต 4.หลวงพ่อผิน วัดพระเชตุพนฯ 5.หลวงปู่เทียน วัดโบส 6.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ 7.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ 8.หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก 9.หลวงพ่อนวล วัดไก่เตี้ย
    #วาระที่3 : พระที่เข้าอยู่ปริวาสปฏิบัติธุดงค์ 50 รูปร่วมกันปลุกเสก 15 วัน ณ.วัดพายทอง จังหวัดอ่างทอง
    #วาระที่4 : นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก โดย108 พระคณาจารย์ที่วัดป่าเลไลย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    #วาระที่5 : เข้าร่วมพุทธาภิเษก วัดอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดอีกหลายวัดอาทิ วัดกัลยาณมิตร , วัดสุทัศน์,,วัดราชสิทธาราม ,วัดประดู่,วัดเศวตฉัตร, วัดระฆัง, วัดใหญ่ศรีสุพรรณ เป็นต้น วิธีอารธนาดังนี้ "พุทธังอาราธนัง ธัมมังอาราธนัง สังฆังอาราธนัง พุทโธภะคะวา ธะนะโภคา สัมมาอาราหัง" ถ้าภาวนาทำสมาธิว่า "สัมมาอะระหัง" คำอธิฐานขอ "ขอเดชะ คุณพระพุทะเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณครูอาจารย์ คุณบิดามารดา ทั้งห้าประการนี้ กับบุญบารมีที่ข้าพระเจ้ากระทำไว้แล้ว มีมากน้อยเท่าใด จงมารวมกันเป็นพลังอภินิหารบรรดารให้ ข้าพเจ้าและครอบครัวบริวาร จงปราศจากทุกข์ภัยอันตราย มีความสุขพบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
     
  6. sumobaimon

    sumobaimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1,260
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1436. พระดีน่าบูชา พระปิดตามหาลาภชุดกรรมการ(3องค์) วัดหนองไผ่แก้ว ให้บูชา 850 บาท



    upload_2023-2-14_12-49-31.png

    upload_2023-2-14_12-50-46.png

    upload_2023-2-14_12-50-53.png
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1437. ที่สุดแห่งเมตตาแดนใต้ ของดีมีประสบการณ์พุทธคุณไม่ธรรมดา พระผงว่านรูปเหมือน หลังพระอานนท์ หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู ให้บูชา 850 บาท


    upload_2023-2-14_16-46-55.png

    upload_2023-2-14_16-47-23.png

    หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู เจ้าตำหรับสาริกาแดนใต้
    ถ้าในดินแดนภาคใต้ ไม่มีสาริกาสำนักใด ที่เป็นที่นิยมแก่คนทั้งหลาย เท่าสาริกาหลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู สาริกาท่านนั้นมีประวัติการสร้างที่มหัศจรรย์พันลึก จนเป็นตำนาน
    .หลวงพ่อน่วมเริ่มสร้างครั้งแรกใน วันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ตรงกับ วันที่ 1 เมษายน 2517 โดยหลวงพ่อน่วมได้รับมอบตำราการสร้างมาจาก 'ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช' ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ของสำนักเขาอ้อที่ตกทอดสืบต่อกันมา เนื่องจากลุงสวัสดิ์และท่านขุนพันธ์ฯ ต่างรู้จักกันดีและเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน เมื่อปรึกษากันแล้วได้ความว่า ผู้ที่พอจะเรียนและสืบทอดตำราวิชาเล่มนี้ได้ ด้วยจริยาวัตรที่เคร่งครัดและเพียบพร้อมไปด้วยตบะบารมี เห็นจะไม่มีท่านอื่นใดนอกจาก 'หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู' ที่ลุงสวัสดิ์นับถือเป็นอาจารย์และฝากตัวเป็นศิษย์อยู่ ท่านขุนพันธ์ฯ จึงได้มอบตำราวิชาการสร้างนกสาลิกาให้หลวงพ่อน่วมได้ศึกษา หลังจากหลวงพ่อน่วมได้รับตำราและได้ศึกษาฝึกฝนอยู่เป็นเวลานานพอสมควร กระทั่งมั่นใจแล้วว่าแตกฉานจริงพอที่จะสร้างเป็นวัตถุมงคลเพื่อสืบทอดวิชา โดยไม่ให้สำนักเขาอ้อซึ่งเป็นต้นวิชาเสียชื่อได้ จึงได้สร้างสาลิกาชุดแรกพร้อมด้วยวัตถุมงคลอื่นๆ ตามวันเวลาดังกล่าว และก่อนหน้านั้นในปี 2516 ได้มีการสร้างถนน รพช. ซึ่งเป็นถนนลูกรังจาก อ.ท่าแพ ไป อ.พรหมคีรี คนงานที่ขับรถขุดดินในขณะนั้น ได้ไปปัสสาวะที่จุดๆหนึ่งในบริเวณที่ทำถนน แต่ปัสสาวะยังไงก็ไม่ออก เกิดความสงสัยจึงใช้รถขุดดินขุดลงไปดูว่ามีอะไร เมื่อขุดไปได้ความลึกระดับหนึ่ง ได้พบไหโบราณ 4 ใบ ภายในบรรจุเม็ดดินกลมๆ ชาวบ้านเรียกว่า 'เม็ดว่านนางตรา' จึงนำมาถวายหลวงพ่อน่วมไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น ครั้นเมื่อท่านจะสร้างนกสาลิกาชุดแรก หลวงพ่อน่วมได้เอาเม็ดว่านนางตราดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนผสม ในการสร้างนกสาลิการวมถึงวัตถุมงคลอื่นๆ ซึ่งมวลสารที่ใช้สร้างนั้น ได้แก่ เม็ดว่านนางตรา, ชันโรง, เส้นเกศาของหลวงพ่อน่วม, ผงวิเศษต่างและว่านยาตามตำราเขาอ้อ เป็นต้น

    และตามคำบอกเล่าของลุงสวัสดิ์ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่หลวงพ่อน่วม ท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลในครั้งแรกนั้นก็คือ ในการนั่งสมาธิของหลวงพ่อน่วมครั้งหนึ่ง ท่านเกิดนิมิตว่าได้พบกับพระอานนท์ และพระอานนท์ได้บอกให้ใช้คาถา 'หัวใจพระอานนท์' ในการปลุกเสกพระปิดตาและวัตถุมงคลต่างๆ การสร้างนกสาลิกายุคแรกนั้น ท่านจะใส่ไว้ในปากคราวละ 7 ตัว แล้วดำลงน้ำที่เขื่อนหลังวัด เพื่อเสกนกสาลิกาให้ได้ตามตำรา เมื่อผ่านพ้นคราวแรกนี้ไปแล้วก็มีการสร้างมาอีกเรื่อยๆ แต่ได้คราวละน้อยๆเพียงไม่กี่ตัว แต่การดำลงเสกใต้น้ำนั้น มาภายหลังลุงสวัสดิ์และลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ขออนุญาตให้ท่านยกเลิกเสีย เนื่องจากหลวงพ่อน่วมท่านอายุมากแล้ว แต่ขอให้ท่านมาเสกภายในโบสถ์แทน ซึ่งในสมัยนั้นโบสถ์ยังไม่มีหลังคา เมื่อถึงเวลาตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้แล้ว ก็ตั้งปะรำพิธี มีเสา 4 เสา ข้างบนขึงด้วยผ้ายันต์ ขณะปลุกเสกท่านจะนั่งสมาธิและร่างกายท่านจะค่อยๆส่ายไปมา เหมือนกับท่านจะลอยได้ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมโด่งดังไปทั่วพื้นที่ เพราะระหว่างที่ท่านทำการปลุกเสกในโบสถ์นั้น ชาวบ้านและลูกศิษย์ที่อยู่ข้างนอก ต่างได้ยินเสียงนกร้องในโบสถ์ชนิดที่ชุลมุนวุ่นวายไปหมด ในการปลุกเสกนกสาลิกาและวัตถุมงคลต่างๆ ลุงสวัสดิ์จะมานั่งสมาธิร่วมอยู่ด้วยเกือบทุกคราวไป โดย 'ลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์' ท่านเป็นศิษย์สายฆราวาสแห่งเขาอ้อ ลูกศิษย์ของ 'อาจารย์เอียด วัดดอนศาลา' ซึ่งมีท่านขุนพันธ์ฯเป็นศิษย์ผู้พี่ อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและรู้จักรักใคร่สนิทสนม ในฐานะศิษย์พี่ศิษย์น้องกันมาอย่างยาวนาน

    วัตถุมงคลที่หลวงพ่อน่วมสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2517 นั้นประกอบไปด้วย นกสาลิกา, พระบูชารุ่นแรก, พระพิมพ์ท่าเรือ, พระรูปเหมือนพิมพ์หลังพระอานนท์, ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า, พระปิดตาก้นถ้วยฝังตระกรุดและไม่ฝังตระกรุด ส่วนเรื่องการทายางหรือชุบรักนั้น จริงๆแล้วเมื่อสร้างออกมาแจกในคราวแรกๆ ไม่ได้มีการทารักหรือปิดทองใดๆ เพียงแต่ทำเสร็จก็แจกเฉพาะเป็นคนๆไปตามที่ท่านเห็นสมควร ภายหลังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ลูกศิษย์จึงได้เอามาแต่งตะไบพิมพ์แล้วลงรักทายางเสียใหม่ เพราะมักเกิดปัญหาเนื้อพระหลุดยุ่ยง่าย นกสาลิกาแบบที่แต่งพิมพ์แล้วทายางรักจึงมีจำนวนไม่มาก บางคนเรียกว่า 'พิมพ์กรรมการ' และนี่คือสาเหตุที่นกสาลิกาของท่าน มีทั้งแบบทายางรักและไม่ทา และที่หลายท่านสงสัยว่า 'นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วม' ห้อยรวมกับพระได้หรือเปล่า บางคนบอกว่าต้องห้อยเดี่ยวเพราะเป็นเครื่องราง สบายใจได้เลยครับว่าห้อยรวมกันได้แน่นอน เพราะเป็นวัตถุที่ปลุกเสกด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณ ไม่ได้เป็นของต่ำมนต์ดำแต่อย่างใด จะห้อยเดี่ยวห้อยรวมหรือเหน็บใส่กระเป๋าก็ได้แต่ไม่ควรห้อยต่ำกว่าเอว และที่มีรูปลักษณ์เป็น 'นกสาลิกา' ก็เป็นเพียงกุศโลบายแห่งพิมพ์ทรง ที่ต้องการสื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านใด เช่นเดียวกับเครื่องรางทุกชนิดที่ปลุกเสกด้วยคุณพระ ไม่ว่าจะเป็น นางกวัก, เขี้ยวเสือ, หรือตะกรุดต่างๆ เป็นต้น ด้วยพุทธคุณที่เด่นชัดในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ และงานต่างๆที่ต้องใช้ปากเจรจา ส่งผลให้นกสาลิกาของท่านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะหาของแท้ๆสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจำนวนการสร้างที่น้อยนิด และของเก๊ของเสริมก็ออกมาเรื่อยๆ เล่นหาต้องระวังให้มาก

    และปิดท้ายด้วยคาถาสาลิกาของหลวงพ่อน่วม 'กอหนอ ยอตอ เมตตา สัพพะเสน่หา จะปุริถิตัง สัพพะลาภัง วินาศสันติ' คาถาบทนี้ได้มาจากภรรยาของลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์ ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบอกกล่าวแก่หลวงพ่อน่วม และครูบาอาจารย์สายเขาอ้ออันเป็นเจ้าของวิชาก่อน และหากได้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมมา ก่อนอื่นท่านว่า 'ให้เอาแผ่นทองปิดที่ปากนก' โดยถือเคล็ดว่าเป็นการเปิดปากนก ใครมีนกสาลิกาของท่านอยู่ลองเอาไปใช้ดูครับ


    ..ส่วนนกสาริกาได้ติดทองไว้ที่ปากตามคำบอกของหลวงพ่อน่วม(ว่ากันว่าถ้าติดทองไว้ที่ปากหมายถึงการเปิดปากนก)...และส่วนผสมที่ใช้ในการสร้างสาริกาก็เป็นเนื้อชันดรงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนก เพราะชันโรงเป็นสิ่งที่มงคลและหยากมาก คติโบราณท่านถือว่านอกจากชันโรงจะช่วยปกปักรักษาของดีแล้ว ด้วยความที่ชันโรงเป็นแมลงไม่ดุร้าย จึงมีเสน่ห์ทางเมตตามหานิยมอีกด้วย ดังนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยมอีกด้วย ดั้งนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยม
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1438. เหรียญหลวงปู่สีมั่น เทพอินโต วัดห้วยลาด จ.สงขลา 2509 ให้บูชา 999 บาท

    upload_2023-2-14_16-56-38.png

    upload_2023-2-14_16-56-44.png

    เรื่องราวตำนานการพิสูจน์อยากเจอของดีได้ปรากฎขึ้น เมื่ออาจารย์ชุม ไชยคีรี บุกไปพิสูจน์ที่วัดห้วยลาด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตามประวัติหลวงปู่มั่น ท่านไม่ได้เป็นชาวสงขลา แต่เป็นคนเพชรบุรี เมื่อบวชเรียนแล้ว ได้ไปธุดงค์ตามที่ต่าง ๆจนมาถึงรัตภูมิ ชาวบ้านมีความเลื่อมใส จึงนิมนต์ให้ท่านสร้างวัดท่านจึงเห็นดีเห็นงามด้วย จึงเป็นกำเนิดก่อให้เกิดวัดห้วยหลาด ตอนแรกก็สร้างเพียงกฎิเล็ก ต่อมาจึงเริ่มสร้างศาลาและอุโบสถ แต่หลวงปู่สีมั่นท่านไม่ยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านจึงนิมนต์พระองค์อื่นมาเป็นเจ้าอาวาส แสดงให้ถึงความไม่ยึดติด
    และต่อมาหลังจากที่ท่านมรณภาพไปแล้ว วัดแห่งนี้ก็กลับมาเป็นวัดธรรมดา มีเจ้าอาวาสอีกหลายรูป แต่เมื่อปี 2496 พระอธิการขาวอยู่ ๆ เกิดโรคประหลาดขึ้นกล่าวคืออยู่ ๆ ก็มึนหัว เป็นลมบ่อยมากถึงขั้นสลบไปเป็นวัน ๆ จนถึงวันพระมีการสวดปาฎิโมกข์ พระอธิการขาวจะต้องเป็นคนทวนปาฎิโมกข์ เกิดอาการเวียนหัว จึงร้องขอให้รองเจ้าอาวาสเป็นคนทวนแทน เมื่อพระออกจากโบสถ์เห็นสามเณรวิ่งกันวุ่น
    จึงเรียกมาถาม ก็ได้ความว่าพระอธิการขาว เป็นลมสลบไป พระทั้งหมดจึงเข้าไปที่กุฎิพระอธิการขาว เห็นท่านนอนสลบอยู่ สักพักเดียว ก็ได้ยินเสียงพระอธิการขาวพูดว่า นำจีวรกับสังฆาฏิมาให้ที แต่เสียงที่พูดไม่ใช่เสียงพระอธิการขาว แต่เป็นเสียงห้วน ๆ ใหญ่ ๆ สักพักท่านจึงลุกขึ้นมานั่ง มีลักษณะดังรูปที่ลง แล้วท่านก็บอกว่าท่านคือหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท ที่มาเข้าพระอธิการขาว เพราะอยากจะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนทั้งหลาย และจะรักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย
    เมื่อข่าวเรื่องหลวงปู่สีมั่นเผยแพร่ออกไป ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาหาที่วัดห้วยหลาด มาขอให้ช่วยเรื่องราวต่าง ๆ เช่นรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือช่วยเหลือเรื่งอื่น ๆ มีบางคนมาขอในส่วนของเครื่องรางของขลัง ขอท่านเพียงแค่ว่า อยากได้ของเหนียว ๆ ท่านก็ได้บอกว่า ของหนังเหนียวเอาไปทำไมมันทำให้เจ็บตัว ให้เอามาแบบแคล้วคลาดดีกว่าไม่เจ็บตัว เมื่อคนนั้นได้ของไป ได้เอาไปลองยิง ยิงเป็นสิบนัดก็ไม่โดน
    สมัยนั้นเอง อ.ชุม ไชยคีรี มาตั้งสำนักที่ภาคใต้ ได้ยินเสียงเล่าลือ ชื่อของหลวงปู่สีมั่น จึงอยากลองไปพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า จึงนัดแนะกับลูกศิษย์ไปที่วัดห้วยหลาดเมื่อเดินทางไปถึงวัดแล้ว อ.ชุมไม่ได้แสดงตัว แต่แอบซุ่มอยู่ข้างหลังกลุ่มคนที่มาหาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจปิดบังหลวงปู่สีมั่นได้ ท่านได้พูดขึ้นมาว่า วันนี้มีคนดีมีวิชา จะมาดูหลวงปู่ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า แล้วไปแอบอยู่ข้างหลังทำไม อ.ชุมจึงขยับตัวเข้าไปข้างหน้า และทำการกราบกรานท่าน เพราะเชื่อแล้วว่าเป็นของจริง

    เหรียญหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท ผู้สร้างวัดห้วยหลาด ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ปี 2509 รวบรวมจากคำบอกเล่าของผู้รู้ ชาวบ้าน นักสะสมหลายๆ ท่าน และเท่าที่ได้พบเจอ พอสังเขปได้ว่า

    จัดสร้างโดยคุณปิ่น พาณิชการ (เสียชีวิตแล้ว) คหบดีแห่งเยาวราช กรุงเทพฯ ที่มีความนับถือหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท เป็นอย่างสูง เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและทหารหาญที่ร่วมรบในสมรภูมิเวียดนาม จนเกิดเป็นประสบการณ์มากมายทั้งคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุตม์

    แยกเนื้อเหรียญเป็นชนิดต่างๆ คือ
    1.เนื้อกะไหล่ทอง ได้แก่ 1.1 กะไหล่ทองธรรมดา 1.2 แบบชุบทองคำ มีจำนวนน้อยมากประมาณหลักสิบ สันนิษฐานว่าคุณปิ่น จัดสร้างเป็นพิเศษสำหรับแจกจ่ายบุคคลใกล้ชิดและบุคคลในครอบครัว
    2.เนื้ออัลปาก้า ได้แก่ 2.1 อัลปาก้าเปรือย 2.2 อัลปาก้ากะไหล่เงิน 2.3 อัลปาก้าชุบนิกเกิ้ล (ชาวบ้านบางคนเรียกว่าเนื้อช้อนส้อมเนื่องจากเหรียญมีความสวยและมันวาว)
    3.เนื้อฝาบาตร
    4.เนื้อทองแดง ได้แก่ 4.1ทองแดงธรรมดา 4.2 ทองแดงรมดำ 4.3 ทองแดงผิวไฟ (ทั้งผิวสีออกส้ม และเป็นเกร็ดหรือที่นิยมเรียกกันว่าลายเสือ)

    ปลุกเสกโดยคณาจารย์สายหลวงปู่สีมั่น คณาจารย์ในอำเภอรัตภูมิ คณาจารย์ในจังหวัดสงขลาและคณาจารย์จากจังหวัดพัทลุง อาทิเช่น
    -พระครูวีระโสภณ (หลวงพ่อลอย เจ้าคณะอำเภอรัตภูมิและเจ้าอาวาสวัดเขาตกน้ำในขณะนั้น)
    -หลวงพ่อขาว ติสสวังโส (เจ้าอาวาสวัดห้วยหลาด รูปที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น และคือผู้ที่หลวงปู่เข้าประทับทรง)
    -พระครูโกวิทธรรมสาร (หลวงพ่อกลาย เจ้าคณะอำเภอรัตภูมิและเจ้าอาวาสวัดห้วยหลาดในปัจจุบัน)
    -หลวงพ่อเจียร มณีรักษ์ (อดีตเจ้าอาวาสวัดควนรู ผู้บันทึกธรรมะคำสั่งสอน ลป.สีมั่น ขณะมาประทับทรง)
    -หลวงพ่อคล้าย วัดเบตง
    -และ ฯลฯ

    กล่าวถึงลักษณะของรูปแบบเหรียญ เป็นการแกะบล็อกจากภาพที่หลวงปู่เมตตาอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ ซึ่งหลวงปู่อนุญาตให้ถ่ายได้เพียงภาพเดียวเท่านั้น โดยถ่ายขณะหลวงปู่เข้าประทับทรงพระอาจารย์ขาว เจ้าอาวาสในขณะนั้น และไม่มีภาพอื่นที่สามารถถ่ายติดได้อีก แม้แต่หลังจากที่หลวงปู่ไม่ได้มาประทับทรงแล้วเป็นเวลา 3-4 ปี มีผู้ศรัทธาพระอาจารย์ขาวขออนุญาตนิมนต์ท่านไปถ่ายรูปนอกสถานที่เพื่อนำภาพมาบูชา หลังจากถ่ายเสร็จนำฟิล์มมาล้างก็ไม่ติดภาพพระอาจารย์ขาว มีแต่พระอาจารย์ท่านอื่น ถ่าย 2-3 ครั้ง ก็ไม่ปรากฎภาพท่าน จนต้องเอาภาพเก่าๆที่ท่านเคยถ่ายไว้สมัยที่หลวงปู่ยังไม่มาประทับทรงไปบูชาแทน ซึ่งภาพที่ถ่ายหลวงปู่สีมั่นติดมีลักษณะเป็นดังภาพในเหรียญ จึงเป็นที่มาของรูปแบบเหรียญดังกล่าว

    ส่วนยันต์หลังเหรียญก็เป็นยันต์ที่หลวงปู่ได้เมตตามอบไว้แก่ศิษย์ มี 2 แบบ แต่ได้อันเชิญมา 1 แบบตามหลังเหรียญ ซึ่งยันต์ดังกล่าวเป็นสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่ได้ใช้เป็นการพิสูจน์ขณะมาประทับทรง เนื่องจากมีผู้แอบอ้างหลอกลวงว่าเป็นหลวงปู่มาประทับทรงแล้วหลอกลวงชาวบ้านหาผลประโยชน์ หลวงปู่จึงกำหนดว่าหากเป็นองค์หลวงปู่จริงให้เอามือลูบมาที่องค์หลวงปู่ขณะประทับทรงพระอาจารย์ขาวบริเวณใดก็ได้ 3 ครั้ง จะต้องปรากฏยันต์ขึ้นมา ณ.จุด ที่เอามือลูบ หากไม่มีแสดงว่าเป็นการหลอกลวง

     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1439. พระสมเด็จ หลังยันต์สี่ทิศ วัดชิโนรส (นะ มะ อะ อุ) พิมพ์หายาก ปิดรายการครับ

    upload_2023-2-15_15-38-58.png

    upload_2023-2-15_15-39-4.png



    ประวัติ พระชุดนี้ จัดสร้างโดย พระปลัดมานพ วัดชิโนรสาราม กรุงเทพฯ (มีพระฝากพิธีของ อาจารย์แก้ว และ พระมหาประดับด้วยครับ)ได้จัดสร้างเมื่อปี 2512 พิธีพุทธาภิเษก 22 - 31 ส.ค.2512 จัดเป็นชุดพระเครื่องที่มีรูปแบบสวยงาม พิธีใหญ่ มีพระเกจิดังๆ ร่วมงานเพียบ อาทิ...
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง
    อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
    หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อดี วัดพระรูป
    เป็นต้น

    ซึ่งพระชุดนี้ เกจิอาจารย์ที่ร่วมงานถึงกับออกปากว่าเป็นของดี ที่น่าใช้
    ซึ่งกำลังหลักในการจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้คือพระปลัดมานพเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสในขณะนั้น ท่านเป็นชาว จ.บุรีรัมย์ มีความนับถือหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จึงนิมนต์หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทองมาร่วมปลุกเสก นอกจากนี้ก่อนที่ท่านจะมาจำพรรษาที่วัดชิโนรส ท่านเคยอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระเลขาของหลวงปู่นาค วัดระฆังฯ มาก่อนจึงมีความรู้เกี่ยวกับการสร้างพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังเป็นอย่างดี
    และอีกท่านหนึ่งคือ นอกจากพระปลัดมานพ แล้วยังมีของพระมหาประดับ แน่นหนา ซึ่งท่านเป็นชาวสรรคบุรี จ.ชัยนาท มีความนับถือหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อกวยได้รับนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคลชุดปี 12 -13 ของวัดชิโนรสเช่นเดียวกัน (พิธีนี้ หลวงพ่อกวยท่านได้เสกอัดพลังให้ถึงเช้า เมื่อเสร็จแล้ว ยังได้มีการลองของกันอีกด้วย มีลงในหนังสือของ อ.เฒ่าสุพรรณด้วยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2023
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1440. สุดยอดพระดีพิธีใหญ่ พระกริ่งพระพุทธชินสีห์ ภปร. กองทุนฟันเทียมพระราชทาน ในวโรกาสมหามงคล 80 พรรษา ปี 2550 เนื้อนวโลหะ ปิดรายการครับ



    upload_2023-2-15_17-3-10.png

    upload_2023-2-15_17-3-18.png

    upload_2023-2-15_17-3-23.png

    พระกริ่งพุทธชินสีห์ ภ.ป.ร. (กริ่งทันโต รุ่น 2) ปี 2550 พระพุทธชินสีห์ ภ.ป.ร. กองทุนฟันเทียมพระราชทาน ในวโรกาสมหามงคล 80 พรรษา ปี 2550 ได้รับมวลสารพระราชทาน "ผงจิตรลดา" และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานพระเกศา และผงมวลสารส่วนพระองค์ เพื่อบรรจุในพระกริ่ง

    จัดสร้างโดย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสมทบกองทุนฟันเทียมพระราชทานในโอกาสฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา ปี2550 เนื่องจากพระพุทธชินสีห์เป็นพระคู่บ้่านคู่เมืองและคู่บุญบารมีพระมหากษัตริย์มาทุกราชวงศ์ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดสร้างผ่านกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2548 ต่อมาทรงพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสร้างและให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานที่พระพุทธรูปทุกองค์ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2548

    พิธีการจัดสร้างถูกต้องตามตำราสืบมาแต่โบราณ การรวบรวมอิทธิมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ

    - ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน "ผงจิตรลดา" ผ่านท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำ พระองค์ท่าน โดยทรงมีรับสั่งว่า "ชุดสุดท้ายและไม่มีอีกแล้ว"

    - ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชประทานพระเกศา และผงมวลสาร

    - ได้รับเมตตาจากพระสมณศักดิ์ ตั้งแต่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะและเจ้าคณะรองรวมทั้งสิ้น 10 รูป จารและอธิษฐานจิตลงในแผ่นทอง เงิน นาก รวมทั้งสิ้น 37 แผ่น

    - นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ได้กราบนมัสการพระสมณศักดิ์ และพระเกจิทรงวิทยาคมที่เคารพทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 212 รูป ขอเมตตาจารและอธิษฐานจิตลงในแผ่นทอง เงิน นาก รวมทั้งสิ้น 999 แผ่น นอกจากนี้ยังได้รับมอบอิทธิมวลสารศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสุดยอดของจังหวัด อาทิเช่น ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ เป็นต้น

    - คณะศิษย์ยานุศิษย์วัดสุทัศน์เทพวรารามได้มอบแผ่นทองที่ลงอักขระตำรับการสภาพระกริ่งวัดสุทัศน์เทพวรารามอันลือลั่นได้แก่ หัวใจ 108 นะ 14 รวม 122 แผ่น

    พิธีเททอง

    กำหนดให้มีพิธีเททอง ณ บริเวณหน้าโบสถ์รังษี วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 โดยสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเททอง และนายพินิจ จารุสมบัติและนายอนุทิน ชาญวีรกุลเป็นประธานและรองประธานฝ่ายฆราวาส

    พิธีมหาพุทธาภิเษก

    จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 29 ธันวาคม 2548 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธานจุดเทียนชัย พระพรหมมุนี (ปัจจุบัน สมเด็จพระวันรัต) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประธานดับเทียนชัย และพระสงฆ์สมณศักดิ์ พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมาเจริญพระพุทธมนต์ สวดพุทธาภิเษก และนั่งปรกอธิษฐานจิต

    พิธีเททอง

    พิธีเททอง เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการจัดสร้างพระและจะต้องจัดให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี (พิธีหลวง) อันประกอบด้วยพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ โดยจะเชิญเจ้านายหรือพระสมนศักดิ์ชั้นสูงมาเป็นประธานประกอบพิธี

    การสร้างพระตามคติของคนโบราณเชื่อว่าเป็นการชุมนุมธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ หล่อรวมเป็นองค์พระ พิธีที่ถูกต้องพราหมณ์จะทำพิธีบวงสรวง บูชาฤกษ์ อัญเชิญเทพยดามารับรู้ และร่วมอนุโมทนา พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์และชัยมงคลคาถา เจริญจิตภาวนาปลุกธาตุ หมุนธาตุเพื่อให้เกิดเป็นองค์พระที่สมบูรณ์

    สำหรับการเททองพระพุทธชินสีห์ ภ.ป.ร. กำหนดวันตามฤกษ์ คือ วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2548 ตรงกับวันแรม 2 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา เวลา 15.39 น. โดยกราบอาราธนาสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฎิบัติที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานเททอง และมีนายพินิจ จารุสมบัติ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธาน และรองประธานฝ่ายฆราวาส

    พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 14.09 น. พราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงเทพดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนทำพิธีท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม พอบวงสรวงเสร็จฝนโปรยลงมาคล้ายละอองน้ำ แล้วหยุดไป เป็นศุภนิมิตว่าเทพยาดาได้รับรู้ และอนุโมทนาในกุศลครั้งนี้ พอถึงเวลา 15.39 น. สมเด็จพุฒาจารย์ประกอบพิธีเททอง และกดพิมพ์พระสมเด็จพระพุทธชินสีห์เป็นปฐมฤกษ์ จนเสร็จพิธีเวลา 16.30 น. ฝนตกลงมาอย่างหนักตามความเชื่อคนโบราณ ถือเป็นศุภนิมิตที่ดีอีกวาระหนึ่ง ซึ่งหมายถึงกำลังธาตุน้ำขององค์พระแรงมาก "น้ำ" หมายถึงโชคลาภ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2023
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1441. เหรียญ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน รุ่นบูชาคุณ 84 ให้บูชา 550 บาท

    upload_2023-2-15_17-9-15.png

    upload_2023-2-15_17-9-23.png


    พิธีสมโภชในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ อุโบสถวัดพระธาตุศรีจอมทอง โดย หลวงปู่ทอง สิริมังคโล เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ และหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นพิเศษอีกครั้ง

    วัตถุมงคล รุ่นบูชาพระคุณ ๘๔ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ประกอบด้วย รูปเหมือน เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ สัตโลหะ ดีบุก อัลปาก้า ทองระฆัง ทองเหลือง และทองแดง และเหรียญรูปไข่ มีเนื้อทองคำขัดเงาพ่นทราย เงินขัดเงา พ่นทราย ทองแดงขัดเงาพ่นทราย เนื้อเงินกึ่งขัดเงา และทองแดงกึ่งขัดเงา ทั้งนี้ ได้ประกอบพิธีสมโภชในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ อุโบสถวัดพระธาตุศรีจอมทอง โดยพระธรรมมังคลาจารย์ หรือ หลวงปู่ทอง สิริมังคโล เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ และหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นพิเศษอีกครั้ง พุทธศาสนิกชนร่วมบุญได้ที่วัดภาวนาภิรตาราม


    เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 เสี่ยอั้ง เมืองชล หรือคุณสมภพ ไทยธีระเสถียร คนดังวงการพระเครื่องพร้อมด้วยพระครูสุตวัฒนกิจ เจ้าอาวาสวัดภาวนาภิรตาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้เข้ารับหนังสืออนุญาตจากหลวงพ่อจรัญ ให้วัดภาวนาภิรตาราม ให้บูชาวัตถุมงคล รุ่นบูชาพระคุณ 84 เป็นกรณีพิเศษ

    เนื่องจากพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน มีความประสงค์ให้วัดมีรายได้จากการออกให้บูชารูปเหมือนและเหรียญรุ่นบูชาพระคุณ ๘๔ นำไปบูรณะจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถภาพเขียนสมัยรัชกาลที่ ๔ ทำให้บางส่วนของภาพชำรุดเสียหายตามกาลเวลา ทางวัดจึงได้ขออนุญาตกรมศิลปากรเพื่อบูรณะภาพดังกล่าว ซึ่งต้องใช้งบประมาณประมาณ ๒ ล้านบาท

    วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณสมภพ ไทยธีระเสถียร ได้ไปถวายอาหารเพลพระทั้งวัดและพระสังฆาธิการรวม 70 รูป โต๊ะจีน 100 โต๊ะ เสร็จแล้วนำถวายรูปเหมือนและเหรียญหลวงพ่อจรัญ รุ่นบูชาพระคุณ 84 ซึ่งหลวงพ่อจรัญปลุกเสกแล้วหลายพันองค์ แก่พระครูสุตวัฒนกิจ เจ้าอาวาสวัดภาวนาภิรตาราม
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1442. พระผงพระธนบดี เศรษฐีซัมภล รุ่นสำเร็จทุกสิ่ง วัดรวกบางสีทอง ปี 2559 ปิดรายการครับ


    upload_2023-2-15_17-33-27.png

    upload_2023-2-15_17-38-18.png

    upload_2023-2-15_17-38-25.png

    ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวรา นั้น มีนามเรียกได้หลายร้อยพระนาม อาทิเช่น ท้าวเวสสุวรรณ (ยิ่งด้วยทอง), ธเนศวร (เจ้าแห่งทรัพย์), อิจฉาวสุ (มั่งมีได้ตามใจ),ยักษ์ราช (ราชาแห่งยักษ์),นรราช (เจ้าคน),กุตนุ (มีรูปร่างที่มีหน้าตาดุ),รัตนครรภ(มีเพชรเต็มพุง),ราชะราช (เจ้าแห่งราชา),ธนบดี (มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง) ฯ ล ฯ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเรียกขานพระนามว่าเช่นไร ก็ตาม พระองค์ท่านก็ยังคือ “สัญลักษณ์แห่งความร่ำรวยมั่งคั่งและยังเปี่ยมไปด้วยโชคลาภเสมอ”

    ส่วนท้าวเวสสุวรรณ ในปาง “มหาราชลีลา มหาเศรษฐีซัมภล” นั้นจะมีลักษณะ พระวรกายอวบอ้วน พุงพลุ้ย พระพักตร์ใหญ่ล่ำมีความจริงจังแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและมีเมตตา ทั่วทั้งองค์จะประดับประดาไปด้วยเครื่ิองประดับที่ล้ำค่าแสดงถึง ความมั่งมีเงินทองและทรัพย์สมบัติอย่างเหลือคณานับ ทรงประทับนั่งหรือยืน ในท่วงท่าสง่างาม พระบาทข้างหนึ่งนั้นเหยียบหอยสังข์ หัตถ์ขวาถือแก้ว “ สัตตะรัตนะมณี ” ส่วนหัตถ์ซ้ายนั้นถือพังพอนที่อ้าปากคายแก้วแหวน เงินทอง เพชรนิล จินดา ทั้งหลายออกมา อันเป็นเคล็ดลับตั้งแต่ครั้งโบราณที่กล่าวว่าทรัพย์สมบัติทั้งมวลบนพื้นพิภพล้วนแล้วแต่อยู่ใน “ ผืนดิน ”ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ก็มาจากดินจากน้ำใต้ดินและผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าทรัพย์เหล่านั้นก็คือ “ พญานาคผู้เป็นราชาแห่งงูนั่นเอง ”ดังนั้นท่านท้าวกุเวราจึงได้ให้ “พญาพังพอน” ไปคาบแก้วแหวนเงินทองมาจากพื้นภิภพ ที่ “พญานาคราช” เฝ้าไว้ เพราะพญาพังพอน เป็นสัตว์ที่สามารถข่ม พญานาคได้ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำเอา สมบัติทั้งหลาย มาให้องค์ “เวสสุวรรณมหาราชา”ได้อยู่เสมอ ซึ่งเท่ากับว่า “ทรัพย์สมบัติเงินทอง มิเคยพร่อง มีมาเติมเต็มอยู่เสมอมิได้ขาด” ดังนั้น… “ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของ ท้าวกุเวรา ใน ปางมหาราชา มหาเศรษฐีซัมภล เพื่อสักการะบูชา จะคิดสิ่งใด ก็จะได้ผลสำเร็จสมดังใจปรารถนา ทรัพย์สินเงินทอง งอกเงย ไหลมา เทมา มีโชคลาภอยู่เสมอมิได้ขาด และ ยังรักษาทรัพย์สมบัตินั้นไว้ได้ อย่างมั่นคง”

    สำหรับพระผงพระธนบดีเศรษฐีซัมภลรุ่นนี้จัดสร้างโดยวัดรวกบางสีทองโดยคงลักษณะสำคัญๆ ของท้าวซัมภลเอาไว้อย่างครบถ้วนทุกประการซึ่งการสร้างในครั้งนี้ได้ใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพันกับท้าวซัมภลเป็นจำนวนมากรวมไปถึงผงศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณทางด้านโชคลาภจาเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมายและยังมีพลอยเสกจากเกจิคณาจารยืเพื่อเอาเคล็ด “ทำอะไรพลอยได้ง่ายๆ”

    ด้านหลังพระธนบดีปรากฎรูปร่างหม้อฆฏปูรณะ หม้อใส่เงิน ใส่ทอง ถือเป็นหม้อสารพัดนึกแห่งโชคลาภขนาบข้างด้วยตะกรุดโภคทรัพย์ทองแดง 2 ดอกโดยพระผงรุ่นนี้ได้เข้าพิธีมหาเทวาภิเษกครั้งใหญ่ในวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ในราชาฤกษ์ ฤกษ์แห่งการเป็นใหญ่ เป็นเจ้าคนนายคน ถ้าจะรวยก็รวยเกินเหนือใครซึ่งฤกษืดังกล่าวนั้น นานๆ จะเกิดขึ้นสักทีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2023
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    เหรียญดี เหรียญหลักของท่านครับ

    เหรียญตาผ้าขาว พระอาจารย์วิริยังค์ วัดธรรมมงคล

    “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หายจากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น”



    upload_2023-2-15_17-44-40.png


    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร นามเดิมว่า วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับ นางมั่น บุญฑีย์กุล เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2463 ณ บ้านพักนายสถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี เนื่องจากบิดาเป็นนายสถานีรถไฟที่นั่น ต่อมาได้ย้ายไปที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว นครราชสีมา มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นคนที่ 5 หลวงพ่อได้รับการศึกษาชั้นมูลที่โรงเรียนวัดสุปัฏนาราม อุบลราชธานี เนื่องจากบิดาย้ายไปเป็นนายสถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ

    หลังจากจบการศึกษาชั้นมูลแล้ว หลวงพ่อจึงกลับมายังบ้านเกิด อ.สีคิ้ว ได้ศึกษาไวยากรณ์บาลีกับพระอาจารย์ที่วัดกลาง นครราชสีมา วันหนึ่งขณะที่มีอายุ 13 ปี เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “ขลิบ” ชวนให้เป็นเพื่อนไปวัดเพื่อต่อมนต์กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ จึงรอด้วยความเบื่อหน่ายเพราะไปตั้งแต่สองทุ่มกลับเที่ยงคืน จะกลับบ้านเองก็ไม่ได้เพราะกลัวผี ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่มาอีกแล้ว ๆๆ” ในไม่ช้าก็เกิดความสงบขึ้น ตัวหาย เห็นตัวเองมีสองร่าง ร่างหนึ่งเดินลงศาลาไปยืนอยู่ที่ลานวัด มีลมชนิดหนึ่งพัดเข้าสู่ใจ รู้สึกเย็นและเป็นสุขอย่างยิ่ง ถึงกับอุทานว่า “คุณของพระพุทธศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ” แล้วเดินกลับไปที่ร่างกลับเข้าตัว พอดีเป็นเวลาเลิกต่อมนต์ จึงเล่าให้หลวงปู่กงมาฟัง ตั้งแต่นั้นมาจึงศึกษาเกี่ยวกับการทำสมาธิและอุปัฏฐากหลวงปู่กงมาตลอดมา

    ต่อมาวันหนึ่ง หลวงพ่อทำงานหนักจึงล้มป่วยเป็นอัมพาต บิดาหาหมอมารักษา แต่ก็ไม่หาย ท่านได้แต่นอนอธิษฐานอยู่ในใจว่า “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หายจากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น” ไม่นานก็ปรากฏว่ามีตาผ้าขาวคนหนึ่งมาหา พร้อมทั้งถามว่าอธิษฐานดังนั้นจริงไหม หลวงพ่อก็ตอบว่าจริง จึงให้พูดให้ได้ยินดัง ๆ หน่อย ท่านก็พูดให้ฟัง ตาผ้าขาวก็เอาหัวไพรมาเคี้ยว ๆ แล้วก็พ่นใส่ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นปรากฏว่าท่านกระดิกตัวได้และลุกขึ้นเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากนั้นก็ได้ใส่บาตรตาผ้าขาวที่หน้าบ้าน แล้วบอกให้หลวงพ่อไปหาที่ใต้ต้นมะขาม วัดสว่างอารมณ์ เมื่อไปถึงตาผ้าขาวก็ให้พูดคำอธิษฐานให้ฟังอีกครั้ง แล้วเอามีดไปตัดหางควายมาชูให้ดู แล้วก็ต่อหางคืนไปใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับถามว่า “ลุงเก่งไหม” หลังจากนั้นตาผ้าขาวก็บอกคาถาให้ แต่ให้หลวงพ่อท่องทุกวันเป็นเวลา 10 ปีจึงใช้ได้ พร้อมทั้งบอกว่าวันรุ่งขึ้นให้เตรียมใส่บาตร ปรากฏว่าไม่พบตาผ้าขาวอีกเลยจนกระทั่งบัดนี้

    ในปี 2477 เมื่ออายุได้ 15 ปี หลวงพ่อได้บวชเป็นผ้าขาว ณ วัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.โพธิ์กลาง นครราชสีมา โดยมีพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นก็ได้ติดตามหลวงปู่กงมาออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาสถานที่วิเวก ครั้งหนึ่งที่ดงพญาเย็น ได้พบโจรกลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือมาล้อมไว้ หลวงปู่กงมาได้เทศน์สั่งสอนโจร ปรากฏว่ากลุ่มโจรทั้งหมดวางอาวุธ ก้มลงกราบหลวงปู่กงมาอย่างนอบน้อม หัวหน้าโจรชื่อว่า “อุง” ได้มอบตัวเป็นศิษย์ บวชเป็นตาผ้าขาวถือศีล 8 เดินธุดงค์ไปด้วยกัน จนกระทั่งหมดลมหายใจขณะทำสมาธิในกลด

    ต่อมาในปี 2479 หลวงปู่กงมาได้นำสามเณรวิริยังค์ ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จัทบุรี โดยสารทางเรือกลไฟชื่อ “ภาณุรังษี” ตามคำอาราธนาของนายอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชื่อ “ขุนภูมิประศาสน์” เนื่องจากพระสหธรรมิกของหลวงปู่กงมา ท่านพ่อลี ธัมมธโร ที่ได้ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จันทบุรี ก่อนหน้านั้นแล้วในปี 2478 ไม่สามารถรับกิจนิมนต์อีกได้ เนื่องจากมีผู้สนใจธรรมะเพิ่มมากขึ้น ต่อมาหลวงปู่กงมาจึงได้สร้างวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของ จ.จันทบุรี ขึ้น ชื่อว่า “วัดทรายงาม” ในพื้นที่ป่าช้าเก่าที่ชาวบ้านถวายให้

    ในขณะนั้นเอง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้กลับมาพำนักที่ จ.สกลนครแล้ว หลังจากที่ไปจาริกธุดงค์ที่ภาคเหนือนานถึง 12 ปี สามเณรวิริยังค์จึงมีความประสงค์จะไปมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น การอุปสมบทหลวงพ่อจึงเกิดขึ้นก่อนไม่นาน ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2484 ขณะที่มีอายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดทรายงาม บ้านหนองบัว จันทบุรี ประกอบพิธีทางสิมน้ำ โดยพระปัญญาพิศาลเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “สิรินฺธโร” (ผู้ทรงไว้ซึ่งความดี)

    หลังจากนั้น หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร กับ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ จึงออกเดินทางไปทางป่าเขาจาก จ.จันทบุรี มุ่งสู่ จ.สกลนคร โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ได้ไปกราบและมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นพำนักอาศัยอยู่ที่เสนาสนะบ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อปฏิบัติธรรมและอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นตั้งแต่ปี 2485 จนถึงปี 2488 เป็นระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน ต่อมาหลวงพ่อได้ติดตามหลวงปู่มั่นไปปฏิบัติธรรม ณ ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน ต่อมาหลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงพ่อกลับไปพัฒนาวัดต่าง ๆ ต่อที่ จ.จันทบุรี ในปี 2489 เป็นต้นมา ซึ่งหลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็จะรีบเดินทางออกจาก จ.จันทบุรี เพื่อกลับไปอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่วัดป่าบ้านหนองผือทุกปี จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพ

    หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้ว หลวงพ่อได้กลับไปเผยแพร่ธรรมะและสร้างวัดขึ้นที่ จ.จันทบุรี อีกหลายวัด จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี 2506 จึงได้เข้ามากรุงเทพ ฯ เพื่อเริ่มต้นสร้างวัดธรรมมงคล และวัดต่าง ๆ อีกหลายวัด รวมแล้ว 13 วัดในประเทศไทย อีกทั้งยังสร้างวัดไทยในประเทศแคนาดาอีก 6 แห่ง สร้างวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถาบันพลังจิตตานุภาพ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ โรงเรียนอนุบาล และสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกมากมาย นับว่าเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงของมนุษยโลกที่หลวงพ่อมีต่อพระพุทธศาสนา เพื่อความสันติสุขของโลก จนเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสาธารณชนทั่วไป ดังจะเห็นได้จากการที่สถาบันการศึกษาได้ถวายปริญญากิตติมศักดิ์แก่หลวงพ่อมากถึง 13 แห่ง รวมทั้งการได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ
     
  17. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +868
    จอง1440
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับพี่
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,590
    ค่าพลัง:
    +463
    1443. พระดี พิธีใหญ่ พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ ปี 2531 ปิดรายการครับ


    upload_2023-2-15_18-7-29.png

    upload_2023-2-15_18-7-34.png

    ท่านเจ้าอาวาสวัดไชโย เมื่อครั้งปี พ.ศ.2470 มีความประสงค์จะลงรักปิดทองใหม่ให้กับ องค์หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ภายในวิหารวัดไชโย สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านจึงเตรียมทำการลอกทองเก่าออกจากองค์พระ และได้บอกบุญกับพุทธศาสนิกชน เพื่อหาปัจจัยมาปิดทองใหม่ให้กับองค์หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ท่านได้มรณภาพลงเสียก่อน การดำเนินการปิดทองใหม่จึงได้หยุดชะงักลง ไม่มีผู้ใดดำเนินการต่อ
    จนกระทั่ง พ.ศ.2531 พระครูพุทธพิมพานุรักษ์ (เฉลิม จันทวัณโณ) เจ้าอาวาส ได้ริเริ่มที่จะดำเนินการปิดทององค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ต่ออีกครั้งให้แล้วเสร็จ ซึ่งก็ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น คือ หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ได้มาปรากฏในฝันของ ดร.เถลิง เหล่าจินดา โดยมาบอกกล่าวอนุญาตให้ดำเนินการลงรักปิดทองใหม่ได้ ขณะเดียวกัน ท่านเจ้าอาวาสก็ได้เกิดนิมิตว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ผู้สร้างองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ มาให้คำแนะนำกับท่านว่าให้นำผงและทองเก่าที่กะเทาะลอกออกมาจากองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์นั้น มาสร้างเป็นพระสมเด็จ ให้ประชาชนนำไปบูชา โดยผงที่ลอกออกมาก็สร้างเป็น พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ 31 ส่วนทองคำที่ลอกออกมา ก็นำไปเป็นส่วนผสมสร้างพระทองคำ
    ท่านเจ้าอาวาส และ ดร.เถลิง เหล่าจินดา จึงดำเนินการทำพิธีลงรักปิดทองใหม่ให้กับองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ และได้นำผงที่ลอกออกมาสร้างเป็น พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ 31 พร้อมกับทั้งเป็นการระลึกถึงวาระครบรอบ 200 ปี ชาตะของพระสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี ด้วย
    ในการสร้าง พระสมเด็จ รุ่นประวัติศาสตร์31 นี้ ยังได้ใช้พระประสกที่ร่วงหล่นลงมาจากองค์พระมหาพุทธพิมพ์ มารวมเป็นมวลสารด้วย โดยในครั้งแรกมีพระประสกร่วงหล่นมาเพียง 1 อัน แต่นายช่างที่มาช่วยสร้าง พระสมเด็จรุ่นประวัติศาสตร์31 และเจ้าอาวาส ได้คิดว่าถ้าหากมีพระประสกมาเป็นมวลสารเพิ่มขึ้นอีก ก็จะช่วยเพิ่มพุทธานุภาพให้กับ พระสมเด็จรุ่นประวัติศาสตร์31 ให้มากยิ่งขึ้น และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นอีก เมื่อท่านเจ้าอาวาสได้อธิษฐานจิตขอให้หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ ประทานพระประสกเพิ่มขึ้นอีก และเมื่อมีการสำรวจองค์หลวงพ่ออีกครั้งก่อนดำเนินการปิดทองใหม่ ปรากฏว่ามีพระประสกชำรุดร่วงหล่นจากองค์หลวงพ่อเพิ่มอีก 47 อัน จึงเป็นอันว่าได้มีพระประสกจากองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์มาเป็นมวลสารศักดิ์สิทธิ์ให้กับ พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 เป็นจำนวนมาก และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2531 โดยมีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวนมากถึง 108 รูป มาร่วมพิธี และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2023
  20. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +868
    1442 1443
     

แชร์หน้านี้

Loading...