พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,163
    ค่าพลัง:
    +468
    .........
     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,163
    ค่าพลัง:
    +468
    3584.พระสมเด็จพญาเงินมา หลวงปู่ปรง สาสฺโน วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี เนื้อผงอิทธิเจ(หลวงปู่ลบผงเอง) ให้บูชา 700 บาท




    upload_2024-10-7_22-14-37.png

    upload_2024-10-7_22-24-2.png

    upload_2024-10-7_22-24-8.png

    พระคาถาเสก พระผงอิทธิเจ พญาเงินมา หลวงปู่ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี
    ท่านให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้สำรวมจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณยิ่งล้นฟ้ามหาสมุทร แล้วน้อมเอาพระคุณของท่านเหล่านี้ มาไว้ที่จิตของเรา อธิษฐานขอพระคุณของท่านเหล่านี้ จงมาเป็นที่พึ่งจนกระทั่งจิตมีพลังสมาธิแน่วแน่แล้ว ให้ภาวนาพระคาถาดังนี้
    สวัสดีชัยยะ มหาลาภา เงินทองไหลมาอาคัจฉายะ
    นะมะพะทะ จะภะกะสะ อะสัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
    เอหิ มามา อิติปิโส ภะคะวาเทมา ขอให้ให้ มอลอข้อไข ไขข้อมอลอ โชคลาภเงินทองไหลมา ประสิทธิเม
    ให้เสกพระผงอิทธิเจพญาเงินมาทุก ๆ วัน เงิน
    ทองทั่วจักรวาลจะพากันหลั่งไหลมาหาเราจะอยู่บนดินใต้ดิน หรือบนฟ้า มหาสมุทร ก็จะต้องมา ประดุจดั่งเรามีตัวพญาผึ้ง บรรดาผึ้งน้อยใหญ่ จะพากันหลั่งไหลรวมอยู่กับพญาผึ้ง ฉันใดก็ฉันนั้นแล ...

    ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ เป็นศิษย์รุ่นเดียวกันกับ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ผงอิทธิเจ ของหลวงปู่ปรงนั้น เด็ดขาดมาก ทางมหานิยม มหาเสน่ห์ ขนาดที่ว่า เวลาที่ท่านลบผง และทำผงอิทธิเจ จะมีพวกแมลงต่างๆ มากมายมารุมเกาะตามตัวและใบหน้าของท่านเต็มไปหมด นั้นแสดงให้เห็นว่าเมื่อผู้ใดได้พระของท่านไปบูชา จะทำให้ผู้บูชามีสง่าราศี บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ทางด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและอุดมด้วยโชคลาภ ผู้ที่บูชาพระเครื่องของท่านล้วนแต่เจริญในหน้าที่การงาน ร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็มีมากทั้งยังมีประสบการณ์ทางด้านแคล้วคลาด รอดตายจากอุบัติเหตุ ลูกศิษย์ที่มีพระเครื่องของท่านไว้บูชาบางคนถูกลอบยิง แต่ไม่ได้รับอันตราย ปืนยิงไม่ออก ปากกระบอกปืนแตก

    สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงปู่ปรงได้สร้างไว้มีหลายประเภท เช่น พระพิมพ์สมเด็จเนื้อผง, พระปิดตาเนื้อผง, รูปถ่าย, เหรียญ, ตะกรุด, ผ้ายันต์, ล็อกเกต, แหวนมงคลเกล้า, ปลัดขิก, รักยม, ฯลฯ

    การปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านจะอัญเชิญพระอรหันต์ ครูบาอาจารย์ของท่านมาร่วมปลุกเสกด้วยเสมอ โดยตัวท่านเองจะปลุกเสกด้วยพระคาถาชินบัญชร และพระคาถาบทอื่นๆ ตามความเหมาะสมของวัตถุมงคลนั้นๆ

    ทำไมหลวงปู่ปรง จึงศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าท่านมีครูบาอาจารย์ดี พระที่ท่านทำจึงต้องดี ศิษย์หลวงพ่อศรีแต่ละท่านเก่งๆ และมีชื่อเสียง ทั่วประเทศ และต่างประเทศ ท่านได้บวชเรียนกับหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ รุ่นเดียวกับ
    -หลวงพ่อปู่เย็นวัดสระเปรียญ
    -หลวงพ่อกวย วัดบ้านเเค
    -หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง
    -หลวงพ่อบัว วัดเเสวงหาอ่างทอง
     
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,163
    ค่าพลัง:
    +468
    3585.พระสมเด็จ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทรฯ รุ่นผาสุก พิมพ์เล็ก ปี 2513 ให้บูชา 1450 บาท


    upload_2024-10-7_22-41-0.png

    upload_2024-10-7_22-41-6.png


    พระสมเด็จผาสุก พิมพ์เล็ก ปี พ.ศ.2513 จัดอยู่ในวัตถุมงคลยอดนิยมอีกชุดของท่านเจ้าคุณนรฯ สร้างโดยท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ แกะแม่พิมพ์โดยช่างเกษม มงคลเจริญ แจกเป็นที่ระลึกในงานได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จำนวนประมาณ 3000 องค์ ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตให้ เมื่อพ.ศ.2513

    พระสมเด็จผาสุก(พิมพ์เล็ก) เป็นพระที่เข้าพิธี ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๓ ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งมีจำนวนการสร้างน้อยมาก(ประมาณ ๒,๐๐๐-๓๐๐๐ องค์) พระชุดนี้ท่านเจ้าคุณอุดมตั้งใจเอาไว้แจกในงานวันเกิดท่าน จึงไม่มีการจำหน่าย แต่พระชุดนี้ส่วนหนึ่งท่านเจ้าคุณอุดมได้มอบให้เจ้าคุณวัดโพธิ์ จังหวัดสุโขทัย พระชุดนี้จึงตกอยู่จังหวัดสุโขทัยเป็นจำนวนมาก ในกรุงเทพฯ หาได้ยาก พระสมเด็จผาสุกเล็กในเวลานั้นคนรู้จักน้อย
     
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,163
    ค่าพลัง:
    +468
    3586.สมเด็จหลวงพ่อพาน วัดโปร่งกระสัง รุ่น1 หรือสมเด็จ100ปี สร้างในปี2535 ให้บูชา 850 บาท


    upload_2024-10-7_22-50-3.png

    upload_2024-10-7_22-50-11.png

    upload_2024-10-7_22-50-17.png

    หลวงพ่อพาน สุขกาโม อดีตเจ้าอาวาสวัดเฉลิมราษฎร์ (โป่งกะสัง) ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านเป็นพระที่ถ้าคุณได้ศึกษาประวัติของท่านแล้ว คุณจะยอมรับว่านี้คือพระที่เก่งจริงๆ ของเมืองไทยเราอีกรูปหนึ่ง ก็ขนาดหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ก็ยังเคยกล่าวยกย่องท่านไว้

    เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ พ.ศ.๒๕๓๕ ขณะนั้นหลวงพ่อพาน ยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านโป่งกะสังได้เหมารถบัสใหญ่ เพื่อไปนมัสการหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณได้เห็นเหรียญที่ห้อยคอของผู้ที่ไปนมัสการท่าน จึงได้ถามว่าหลวงพ่ออะไร ได้รับคำตอบว่า เป็นเหรียญของหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง หลวงพ่อคูณจึงกล่าวกับผู้ไปนมัสการว่า "พวกเองไม่ต้องมาหาข้าถึงที่นี่ด๊อก มันไกล พ่อพานมึงเก่งยิ่งกว่ากูอีก หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ยังต้องยอมท่าน และยังให้ลูกศิษย์ของตนเองไปเอาของดีจากท่าน"

    ด.ต.วิรัตน์ อาจสัญจร ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางยี่ขัน กทม. ผู้สะสมพระหลวงพ่อพาน อธิบายให้ฟังว่า หลวงพ่อพานสร้างวัตถุมงคลไว้ไม่มาก เพราะท่านเป็นพระที่ไม่ยอมให้ใครสร้าง ก็ขนาดหนังสือมหาโพธิ์ ของใหญ่ ท่าไม้ จะมาขอสร้างวัตถุมงคลของท่าน ท่านยังไม่ยอมให้สร้างเลย วัตถุมงคลของท่านมีดังนี้

    ๑.พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๔ ตามประวัติที่หลวงพ่อพานท่านได้เล่าให้ นายอรรตภูมิ สร้อยทอง ซึ่งป็นเด็กวัดและบีบนวดท่านเป็นประจำ ฟังว่า พระผงรุ่น ๑ นี้ พอท่านได้เรียนวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงแล้ว ท่านได้นำผงพุทธคุณไปให้อาจารย์ปลุกเสก แต่หลวงพ่อทองศุขกลับบอกว่า ไหนๆ ก็เรียนวิชาจบหมดแล้วก็มาปลุกเสกด้วยกันสิ ท่านจึงได้ปลุกเสกร่วมกับหลวงพ่อทองศุข

    ส่วนรุ่นที่ ๒ เป็นพระสมเด็จเนื้อผงอีกเช่นกัน จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ โดยได้นำผงพุทธคุณรุ่นแรกมาผสมด้วย สังเกตให้ดีมวลสารคล้ายกันมาก 2 รุ่นนี้ โดยรุ่นนี้ได้ปลุกเสกร่วมกับศิษย์ผู้พี่ หลวงพ่อเพลิน ที่วัดหนองไม้เหลือง ต่อมา พ.ศ.๒๕๒๓ ท่านได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสัง และได้นำสมเด็จรุ่นนี้มาแจกที่วัดโป่งกะสัง ชาว อ.กุยบุรี จึงจัดรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของวัดโป่งกะสัง ส่วนเหรียญรุ่นแรกของท่าน จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ จำนวนไม่เกิน ๑ หมื่นเหรียญ เพราะบล็อกแตกเสียก่อน

    ด.ต.วิรัตน์ ยังบอกด้วยว่า ตามประวัติ เหรียญรุ่นนี้ ท่านก็ได้เล่าให้ นายอรรตภูมิ สร้อยทอง ฟังเช่นกัน เพราะนายอรรตภูมิถามท่านว่า หลวงพ่อเขาลือกันว่า เหรียญหลวงพ่อมีปลอมและเสริมด้วยหรือ เห็นเขาลือกัน ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า วันที่สร้างเหรียญรุ่นนี้ตัวท่านอยู่กับหลวงพ่ออินทร์ วัดยาง จ.เพชรบุรี หลวงพ่ออินทร์ได้สร้างเหรียญของท่าน ทางผู้สร้างได้มาที่วัด ออกแบบ กำหนดจำนวน หลวงพ่ออินทร์ จึงถามหลวงพ่อพาน ว่าไม่สร้างเหรียญหรือ หลวงพ่อพานตอบ ไม่สร้างหรอก วัดเราจน แต่ถ้าได้ราคา ๑ บาทต่อเหรียญ ก็จะทำ ผู้สร้างตอบตกลง จึงได้จัดสร้าง เมื่อสร้างเสร็จก็นำเหรียญมาไว้ที่วัดยาง หลวงพ่อพานก็ทยอยนำเหรียญนั้นกลับวัดโป่งกะสัง ส่วนเหรียญรุ่น ๒ สร้างจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ มีเนื้อเดียวเช่นกัน

    ส่วนรุ่น ๓ สร้าง ๓ เนื้อ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ ๘๒ เหรียญ เนื้อเงิน ๘๒ เหรียญ เนื้อทองแดงรมดำ ๖,๐๐๐ เหรียญ รุ่น ๔ เป็นเหรียญหล่อ ทองคำ ๘๔ เหรียญ เงิน ๕๐๐ นวะและทองเหลืองรวม ๕,๐๐๐ เหรียญ เหรียญหล่อนี้หลวงพ่อพานมาโรงหล่อที่พรานนกด้วยตนเอง โดยได้นำตะกรุด แผ่นทองแดงที่จารแล้ว จำนวนมาก และเงินพตด้วง สตางค์รู

    "สมัยก่อน ที่ท่านไปหามาด้วยตัวท่านเองกับ คุณครูพจนรินทร์ มุสิกเจียรนันท์ ผู้ขับรถไปกับหลวงพ่อพาน ท่านได้เทโลหะ ตะกรุด แผ่นทองแดงจาร เป็นปฐมฤกษ์ ด้วยตัวท่านเอง หลวงพ่อพานเป็นพระที่ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านตลอดไม่มีวาระ ถ้าท่านไม่มีกิจนิมนต์หรือไม่ได้จำวัดที่วัด พลบค่ำท่านจะเข้าห้องพระปลุกเสกตลอด" ด.ต.วิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

    หลวงพ่อพานมรณภาพเมื่อ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๙ รวมอายุ ๘๔ ปี สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย ถูกเก็บไว้ในโลงไม้ เพื่อลูกศิษย์ได้ชมบารมี
    ปาฏิหาริย์ที่ไม่รู้จบ


    "ในสมัยก่อน วัดโป่งกะสัง มีหลวงพ่อพานอยู่รูปเดียว คอมมิวนิสต์ชุกชุมมากจริงๆ จึงไม่มีพระรูปใดกล้าอยู่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดบอกว่า ถ้าได้ยินเสียงปืนมาจากทางวัดรู้ได้ทันทีว่าหลวงพ่อพานโดนยิงอีกแล้ว เพราะว่า ตชด.จะต้องสับเปลี่ยนกำลังพลเป็นประจำ จึงไม่รู้ว่ามีพระเดินจงกลมอยู่"

    นี้เป็นส่วนหนึ่งเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพาน

    พระครูโสภิตวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลือง รูปปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า ท่านเป็นคนที่นี่ สมัยท่านเป็นเด็กวิ่งเล่นอยู่แถววัดนี้เป็นประจำ หลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพาน อยู่ที่วัดหนองไม้เหลืองนี้ด้วยกัน กุฎิติดกันโดยมีบันไดทางขึ้นวัด เป็นสิ่งที่กั้นกุฎิไม่ให้ติดกัน และได้ร่วมกันสร้างวัดหนองไม้เหลืองมาด้วยกัน โดยหลวงพ่อเพลิน เป็นผู้สร้างกุฏิสงฆ์ ส่วนหลวงพ่อพานนั้นสร้างศาลาการเปรียญ

    ทั้งหลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพานนั้น ไม่ใช่พี่น้องกันเหมือนอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน หลวงพ่อเพลินแก่กว่าหลวงพ่อพาน ๑๑ พรรษา โดยหลวงพ่อเพลินเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อเพลินยังเป็นพระลูกวัด หลวงพ่อพานยังเป็นเด็กวัด หลวงพ่อพานจะเรียก หลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่” จนมรณภาพ ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ คนบ้านแค จ.เพชรบุรี ไปทำมาหากินที่หมู่บ้านโป่งกะสัง ชื่อว่า โยมพลอย น้อยสำราญ โดยโยมพลอยได้ชื่นชอบหลวงพ่อพาน เพราะท่านเป็นพระเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด จึงไปขอกับหลวงพ่อเพลินให้ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสัง

    โดยในปีแรกที่หลวงพ่อพานมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสังหลวงพ่อเพลินได้ไปทอดกฐินให้ ได้เงินจำนวน ๓,๐๐๐ บาท โดยหลวงพ่อพานก็ยังไปๆ มาๆ และมาร่วมงานกับหลวงพ่อเพลินเป็นประจำ คนที่หนองไม้เหลืองศรัทธาหลวงพ่อพานมาก เวลาที่วัดโป่งกะสังมีงานครั้งใดๆ ก็จะเหมารถใหญ่หลายคัน ไปช่วยงานหลวงพ่อพาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อพานได้เล่าให้เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองรูปปัจจุบันฟังว่า ตัวท่านได้ออกธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเพลิน ถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นถ้ำ หลวงพ่อพานได้บอกกับหลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่ฉันเอาตรงนี้นะ” เสร็จแล้วทั้ง ๒ รูป ก็ได้ปักกลดในถ้ำแห่งนั้น

    โดยคืนนั้น หลวงพ่อพานไม่ได้นอนทั้งคืนเลย มีมดขี้มาเข้ากลดเต็มไปหมด นอนไม่ได้เลยทั้งคืน ส่วนหลวงพ่อเพลินหลับสบาย แต่ก็แปลกพอตอนเช้าแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่เห็น หลวงพ่อพานจึงมาเล่าให้หลวงพ่อเพลินฟัง หลวงพ่อเพลินจึงบอกว่า “นั้นแหละเป็นเพราะคุณยินดีต่อสถานที่”

    เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองกล่าวต่ออีกว่า งานที่หลวงพ่อพานไม่ไปเด็ดขาดคืองานศพที่ผู้ตายฆ่าตัวตาย ท่านจะไม่ไปโดยเด็ดขาด และในสมัยก่อนมีงานที่วัด จะมีการทำโคมไฟ ส่วนพระก็ทำตะไล ส่วนหลวงพ่อพานได้ทำโคมไฟ ซึ่งเป็นโคมไฟแขวน เสร็จแล้วท่านก็ให้ชาวบ้านที่ทำตะไล เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟแขวนของท่าน ใครยิงโคมไฟถูกมารับรางวัลจากท่าน ผลปรากฏว่าชาวบ้านที่ทำตะไลมา เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟ ยิงเท่าไรก็ยิงไม่ถูก ยิงจนหมดปัญญายิง

    นอกจากนี้แล้วหลวงพ่อพานยังบอกให้ไปเอาพลุมายิง ชาวบ้านก็ช่วยกันแบกกระบอกยิงพลุ เอาพลุใส่เล็งไปที่โคมไฟแขวน เสร็จแล้วจุดพลุ เสียงระเบิดดัง ตูมๆๆที่กลางอากาศหาถูกโคมไฟไม่ จนชาวบ้านต้องยอมหลวงพ่อพาน “มันก็แปลก โคมไฟแขวนอยู่กับที่ ทำไมยิงไม่ถูกกัน อุตส่าห์เล็งอย่างดี”
     

แชร์หน้านี้

Loading...