พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">๒. ความกตัญญูกตเวที </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.dhammajak.net/book-somdej1/5.html

    O ความกตัญญูกตเวที
    การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของตนไว้อย่างดี เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีประการหนึ่ง ต่อท่านผู้ทรงพระคุณต่อประเทศชาติ และเป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีต่อประเทศชาติของตนด้วย

    O ความมีสัมมาคารวะ
    ขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของไทย เป็นที่ยกย่องสรรเสริญของชนต่างชาติทั้งหลาย คือ ความีสัมมาคารวะ
    สัมมา หมายถึง ที่ดี ที่ชอบ คารวะ หมายถึง เครพ สัมมาคารวะ หมายถึงให้ความเคารพคารวะที่ดีที่ชอบ คือที่งดงามเหมาะสมต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายทั้งปวง
    นี่คือขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ควรได้รับการรักษาให้ดำรงอยู่ยั้งยืนตลอดไป ไม่ควรปล่อยให้ความใจง่าย เห็นกับความพอใจของแต่ละคน ทำลายขนบธรรมเนียมนี้

    O ไม่มีใคร จะได้รับผลดีจากการแสดงสัมมาคารวะ นอกจากเจ้าตัวเองที่ได้กระทำเท่านั้น
    อันการแสดงสัมมาคารวะนั้น แม้จะเหมือนเป็นการยกผู้ได้รับว่าสูงและผู้ให้ว่าต่ำ แต่ที่จริงมิได้เป็นเช่นนั้น ผู้แสดงสัมมาคารวะนั่นเอง เป็นผู้ประกาศความสูงของตนให้ปรากฏแก่ตาผู้รู้ทั้งหลาย ผู้ได้รับมีฐานะอย่างไรก็คงอยู่ในฐานะเดิม ไม่อาจสูงขึ้นได้เพราะสัมมาคารวะที่ได้รับ
    การแสดงสัมมาคารวะก็เป็นกรรม จึงเข้ากฏของกรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ คือ ผู้ใดทำผู้นั้นย่อมได้รับ เมื่อสัมมาคารวะเป็นกรรม ผลดีจึงเกิดแก่ผู้ทำ แม้มีความรู้สึกไม่อยากแสดงสัมมาคารวะเมื่อใด ก็ควรนึกถึงความจริงนี้ ไม่มีใครไหนอื่นที่จะได้รับผลดีจากการแสดงสัมมาคารวะ นอกจากเจ้าตัวเองเท่านั้น
    ในทางตรงกันข้าม ผู้แสดงความกร้าวร้าว หยาบคาย ไม่มีสัมมาคารวะ ก็ไม่มีใครไหนอื่นจะต้องกระทบกระเทือน นอกจากเจ้าตัวเท่านั้น อันคำว่าที่พึ่งนั้น เป็นที่เข้าใจกันว่า หมายถึงผู้ให้ความปกป้องอุปการะทุกประการ
    จึงเป็นที่เข้าใจกันด้วยว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิก คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จะปกป้องอุปการะให้เป็นสุขสวัสดี
    เพื่อให้ความเข้าใจนี้ไม่มีโอกาสผิดพลาด จึงควรศึกษาให้รู้ชัดว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ...ข้าพเจ้าถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึงนั้นหมายถึงว่า จะปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน การปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน จะเป็นเหตุให้ถึงความสุขสวัสดีได้แน่
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...ข้าพเจ้าถึงพระธรรมเป็นที่พึ่งนั้นหมายถึงว่า จะปฏิบัติตามพระธรรม ก็คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า การปฏิบัติตามพระธรรม ก็จะเป็นเหตุให้ถึงความสุขสวัสดีได้แน่
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...ข้าพเจ้าถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง นั้นหมายถึงว่า จพปฏิบัติตามพระอริยสงฆ์ท่านปฏิบัติ คือ ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ การปฏิบัติตามที่พระอริยสงฆ์ท่านปฏิบัติ จะเป็นเหตุให้ถึงความสุขสวัสดีได้แน่
    สรณัง คัจฉามิ...หรือการถึงเป็นสรณะเป็นที่พึ่ง มีความหมายเช่นนี้

    O การกราบไหว้ผู้ทรงพระคุณ แม้ที่ล่วงลับแล้ว เป็นการแสดงความมีกตัญญูกตเวทีตาธรรม
    การเคารพบูชากราบไหว้ท่านผู้เป็นมารดาบิดาบุพการีที่ล่วงลับแล้วทั้งหลาย หรือท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายก็ตาม มิได้ถือเป็นการปฏิบัติแบบถึงเป็นที่พึ่ง มิได้เป็น สรณัง คุจฉามิ
    เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นการผิดที่พุทธศาสนิกทั้งหลาย ผู้กล่าววาจาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งแล้ว จะแสดงความเคารพกราบไหว้ท่านผู้ทรงพระคุณ แม่ล่วงลับแล้วทั้งหลาย เพราะเป็นการแสดงความมีคุณธรรมสูงส่ง คือ กตัญญูกตเวทิตาธรรม
    ปุถุชนผู้ไม่มีญาณหยั่งรู้หยั่งเห็นไปถึงภพภูมิอื่น พ้นไปจากภพภูมิของตนในปัจจุบัน ย่อมไม่อาจรู้ไดว่า ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายสถิตอยู่ ณ ภพภูมิใด ในฐานะใด
    การแสดงความเคารพคารวะ โดยมุ่งแสดงความระลึกรู้ผู้มีพระคุณท่าน จึงไม่เป็นความผิดความงมงาย แตกต่างกับความกตัญญูกตเวที เหมือนสีดำแตกต่างกับสีขาว ผู้มีปัญญาเมื่อพิจารณารู้จักความงมงายและความกตัญญูกตเวที จึงปฏิบัติได้ถูกต้อง

    O ผู้บริหารจิตทั้งหลาย พึงมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ทรงพระคุณ
    อันความกตัญญูกตเวทีนั้น หาได้ยากในผู้มีจิตใจไม่ปราณีต เพราะความไมาปราณีตแห่งจิตใจ จะทำให้ไม่ตระหนักชัดในความกตัญญูกตเวที ทำให้เห็นไปว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นความงมงาย เป็นความเปล่าประโยชน์
    ผู้มาบริหารจิตทั้งหลาย พึงพินิจให้รู้จักความกตัญญูกตเวทีให้ถูกต้อง พึงมีกตัญญูกตเวทีต่อผู้ทรงพระคุณ ไม่เพียงแต่เฉพาะท่านที่ยังดำรงชีวิตอยู่ แต่ต้องตลอดถึงท่านผู้ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าสถิตอยู่ ณ ภพภูมิใด ที่ไม่อาจตามไปรู้ไปเห็นด้วยความสามารถของตน

    O ผู้มุ่งปฏิบัติธรรม เพื่อพ้นจากกิเลส ต้องหมั่นพิจารณาในการเลือกเฟ้นธรรม
    ผู้มุ่งมาบริหารจิต มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นจากกิเลส ต้องพิจารณาใจตนในขณะอ่านหนังสือหรือฟัง เรียกว่าเป็นการเลือกเฟ้นธรรม ธรรมใดกระทบใจว่า ตรงกับที่ตนเป็นอยู่ พึงปฏิบัติน้อมนำธรรมนั้นเข้าสู่ใจตน เพื่อแก้ไขให้เรียกร้อย ที่ท่านกล่าวว่า
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ความกตัญญู
    http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B9

    [​IMG]
    กษัตริย์ยอดกตัญญู


    "ความกตัญญูกตเวทีถือเป็นคุณธรรมสำคัญยิ่งในทุกศาสนา และเป็นวัฒนธรรม อันดีงามประจำชาติไทยของเรา ความกตัญญูกตเวที หมายถึง การรับรู้ในความดีของผู้อื่นและศรัทธายินดีที่จะกระทำดีเพื่อผู้อื่น คนที่มีความกตัญญูกตเวทีนั้น จะไม่ลบหลู่ดูหมิ่นผู้มีพระคุณ หากแต่มีความเคารพนับถืออย่างจริงใจ เต็มใจและตั้งใจที่จะปฏิบัติตอบแทน แต่ในทางที่ชอบอยู่เสมอ บัณฑิตทั้งหลาย เป็นผู้มีปัญญา มีความฉลาดรู้ในทางเจริญและทางเสื่อม หากจะได้เห็นซึ้งถึงคุณค่าของคุณธรรมข้อนี้ และปฏิบัติตัวเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณแล้ว ก็จะได้รับความนิยมยกย่องจากสังคม สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต"


    พระราโชวาทในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    พระราชทานเนื่องในโอกาสวันพระราชทานปริญญาบัตร
    แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประจำปีการศึกษา ๒๕๔๖ - ๒๕๔๗


    <TABLE class=toc id=toc summary=สารบัญ><TBODY><TR><TD>สารบัญ

    [ซ่อนสารบัญ]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript> if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดงสารบัญ"; var tocHideText = "ซ่อนสารบัญ"; showTocToggle(); } </SCRIPT>
    [แก้ไข] ความกตัญญู

    [แก้ไข] ความหมายของ "ความกตัญญูกตเวที"

    ความกตัญญู คือ ความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว้ เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น บุญคุณที่ว่านี้มิใช่ว่าตอบแทนกันแล้วก็หายกัน แต่หมายถึงการรำลึกถึงพระคุณที่เคยให้ความอุปการะแก่เราด้วยความเคารพยิ่ง ท่านว่าสิ่งของหรือผู้ที่ควรกตัญญูนั้นมีดังนี้
    ๑.กตัญญูต่อบุคคล บุคคลที่ควรกตัญญูก็คือ ใครก็ตามที่มีบุญคุณควรระลึกถึงและตอบแทนพระคุณ เช่น บิดา มารดา อาจารย์ เป็นต้น
    • บิดามารดา มีอุปการคุณแก่บุตร ธิดา ในฐานะเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ให้การศึกษา อบรมสั่งสอน ให้ละเว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้และมอบทรัพย์สมบัติให้ไว้เป็นมรดก บุตร ธิดา เมื่อรู้อุปการคุณที่บิดามารดาทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยท่านทำงานของท่าน และเมื่อล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน
    • ครูอาจารย์ มีอุปการคุณแก่ศิษย์ ในฐานะเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดีสอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบัง ยกย่องให้ปรากฏแก่คนอื่นและช่วยคุ้มครองศิษย์ทั้งหลาย ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติและให้ความเคารพไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู
    ๒.กตัญญูต่อสัตว์ ได้แก่สัตว์ที่มีคุณต่อเราช่วยทำงานให้เรา เราก็ควรเลี้ยงดูให้ดีเช่นช้าง ม้า วัว ควาย หรือสุนัขที่ช่วยเฝ้าบ้าน เป็นต้น
    ๓.กตัญญูต่อสิ่งของ ได้แก่สิ่งของทุกอย่างที่มีคุณต่อเราเช่น หนังสือที่ให้ความรู้แก่เรา อุปกรณ์ทำมาหากินต่างๆ เราไม่ควรทิ้งคว้าง หรือทำลายโดยไม่เห็นคุณค่า
    [แก้ไข] ระดับของความกตัญญู

    สำหรับคนที่มีความกตัญญูนั้น ยังสามารถแบ่งระดับของความกตัญญู ออกเป็น ๔ ระดับ คือ
    ๑. มีความกตัญญูขั้นอนุบาล ได้แก่ ผู้ที่รู้ว่าเขามีพระคุณกับเรา แต่ว่ายังไม่คิดที่จะตอบแทนคุณ คือมีจิตใจที่ดีงามเพียงแค่รู้คุณเท่านั้น
    ๒. มีความกตัญญูขั้นประถม ได้แก่ ผู้ที่รู้ว่า เขามีพระคุณต่อเรา เพราะฉะนั้นมีโอกาสเมื่อไร จะต้องตอบแทนคุณเขาบ้าง แค่คิดตอบแทนเท่านั้น ระดับธรรมะในจิตใจของเขาก็จะยกขึ้นสู่อีกระดับหนึ่งแล้ว
    ๓. มีความกตัญญูขั้นมัธยม ได้แก่ ผู้ที่รู้ว่าเขามีพระคุณต่อเรา คิดจะตอบแทนคุณ แล้วก็ลงมือประกาศคุณให้โลกได้รู้ว่า ท่านผู้นั้น ท่านผู้นี้ เคยมีพระคุณกับเรา อย่างนั้น อย่างนี้ จิตใจหรือธรรมะประจำใจของคนๆ นี้ก็ยกระดับยิ่งขึ้นไปอีก
    ๔. มีความกตัญญูขั้นอุดมศึกษา ได้แก่ ผู้ที่นอกจากจะรู้คุณ คิดจะตอบแทนคุณ และประกาศคุณแล้ว ถ้าจะให้ดีเยี่ยม ต้องลงมือตอบแทน พระคุณท่าน ให้สมกับที่ท่านเคยมีพระคุณต่อเราด้วย เพราะฉะนั้น คนที่มีจิตใจระดับนี้ฟ้องว่า ในใจของเขาไม่เคยคิดเรื่องร้ายเลย ในใจของเขาคิดแต่เรื่องดี เวลามองโลกก็มองในแง่ดี มองโลกนี้อย่างสวยงาม ตรงไปตามความเป็นจริง เวลามองคนก็มองในแง่ดี ว่าโลกนี้ยังมีคนดีอยู่ แล้วตัวเราเองก็จะต้องเป็นคนดีอีกคนหนึ่งของโลกนี้ให้ได้ พอมีความคิดอย่างนี้เกิดขึ้นแล้ว การทุ่มเท การเค้นศักยภาพในตัวเอง เพื่อไปทำความดี ก็จะเกิดตามมา เมื่อคนเราพยายามเค้นศักยภาพใน ตัวเอง ไปทุ่มเทในการทำความดีแล้ว ก็จะทำให้ไม่มีเวลาที่จะไปฟุ้งซ่าน ไม่มีเวลาที่จะไปอิจฉา ตาร้อนใคร มีแต่เวลาสำหรับการคิดดี พูดดี ทำดี แล้วสิ่งที่จะได้ตามมาก็คือ เขาจะได้ดี หรือว่าได้ความเจริญรุ่งเรือง
    [แก้ไข] ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี

    ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ส่งผลให้ครอบครัวและสังคมมีความสุขได้เพราะบิดามารดาจะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำอุปการคุณให้ก่อน และบุตร ธิดา ก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำดีตอบแทน สำหรับครูอาจารย์ก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำอุปการคุณคือสอนศิลปวิทยาอย่างเต็มที่ และศิษย์ก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเอง ด้วยการตั้งใจเรียน และให้ความเคารพเป็นการตอบแทน นอกจากจะใช้ในกรณีของบิดารมารดากับบุตร ธิดา และครูอาจารย์กับศิษย์แล้ว คุณธรรมข้อนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้แม้ระหว่าง พระมหากษัตริย์กับพสกนิกร นายจ้างกับลูกจ้าง เพื่อกับเพื่อนและบุคคลทั่วไป รวมทั้งมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
    คนมีความกตัญญูกตเวที คือ คนที่รู้คุณและรักที่จะประกาศคุณ ซึ่งเคยได้รับมาจากผู้อื่น ถ้าพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนที่มีความกตัญญูกตเวที เป็นคนโชคดีตั้งแต่เริ่มต้น ตรงที่เกิดมาก็ได้เจอคนดี คนมีน้ำใจ และเมื่อได้รับความมีน้ำใจมาแล้ว เขาก็รู้คุณค่าของความมีน้ำใจนั้นด้วย แต่ว่าบางคน ตลอดชีวิตไม่ว่าจะตกทุกข์ได้ยากอย่างไร ก็ไม่เคยมีใครยื่นมือมาโอบอุ้ม มาช่วยเหลือ มาหอบหิ้วเขาเลย เมื่อเป็นอย่างนี้ จึงเกิดความรู้สึกว่า โลกทั้งโลกมีแต่ความแห้งแล้ง มีแต่คนใจแคบ มีแต่ตัวใครตัวมัน หรือทั้งๆ ที่มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือ ทำให้ตัวพ้นทุกข์พ้นยาก แต่ว่ากลับนึกถึงพระคุณของเขาไม่ออก ก็ฟ้องว่า เจ้าคนนี้เป็นคนใจบอดเสียแล้ว คือแม้ว่าดวงตาของเขาอาจจะยังดีอยู่ แต่ใจของเขานั้นบอด ตรงที่มองความดีของคนอื่นไม่เห็น ทั้งที่ความดีนั้นได้ถูกหยิบยื่นมาให้ตัวเอง คนประเภทนี้จัดว่าเป็นคนที่อันตราย เพราะว่า
    • ประการที่ ๑ เขาจะมองคนทั้งหลายที่ไม่เคยหยิบยื่นความสุข ความสะดวกความสบายให้กับเขา เหมือนอย่างกับคนไม่รู้จัก หรือบางทีอาจจะเห็นเป็นศัตรูเสียอีก
    • ประการที่ ๒ แม้แต่คนที่เคยหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือ เขาก็ยังมองไม่เห็นความดีนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ โลกทั้งโลกจึงได้กลายเป็นโลกมืดสำหรับเขาเสียแล้ว ทำให้คนประเภทนี้ไม่มีความสุขตลอดชีวิต
    นี่คือสภาพจิตใจของคนเราที่แตกต่างกัน ระหว่างคนมีความกตัญญูกตเวที กับคนไม่มีความกตัญญูกตเวที
    ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงบุพการีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนาและทรงสอนทางพ้นทุกข์ให้แก่เวไนยสัตว์ พุทธศาสนิกชน รู้พระคุณอันนี้ จึงตอบแทนด้วยอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา กล่าวคือ การจัดกิจกรรมในวันวิสาขบูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวพุทธแสดงออก ซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ ด้วยการทำนุบำรุง ส่งเสริม พระพุทธศาสนา และประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - ธรรมะไทย
    - วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร
    - กัลยาณมิตร
    - สำนักราชเลขาธิการ

    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
    <!-- Saved in parser cache with key panyathai_wiki:pcache:idhash:1816-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090330143902 -->Retrieved from "http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/ความกตัญญู"
    <!-- end content -->
    <!-- end --><!-- end maincontent -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทำอย่างไร..เมื่อคนในบ้านติดน้ำเมา!
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000035990
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 มีนาคม 2552 17:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากwww.bloggang.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นับว่าเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับคนในครอบครัวและสังคมเป็นอย่างมากสำหรับปัญหาคนรอบข้างหรือคนที่เรารักชอมดื่มสุรา เบียร์ และแอลกอฮอล์ต่างๆ รวมไปถึงสารเสพติดด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เป็นสาเหตุอันดับแรกๆที่นำไปสู่การถูกทารุณกรรม อุบัติเหตุต่างๆและครอบครัวแตกร้าวมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

    ทั้งนี้พ.ท.น.พ.พิชัย แสงชาญชัย กองจิตเวชและประสาทวิทยาโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้เผยว่าข้อสงสัยว่าคนที่คุณรักอาจเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์นั้นเราต้องดูหลายประการคือ

    1.สุขภาพกายเสื่อมโทรมลง ผอมลงน้ำหนักลด
    2. การนอนผิดปกติไป นอนมาก หรือ นอนไม่หลับ
    3.อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด โกรธโมโหได้ง่ายๆ
    4.มีอาการเมา สลับไปมากับอาการขาดยา
    5.ใช้จ่ายเงินมากผิดปกติ
    6.ขาดความรับผิดชอบ การเรียนหรือการงานแย่ลง
    7.พฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้น
    8.ความสัมพันธ์กับญาติพี่น้องแย่ลง
    9.มีกลุ่มเพื่อนที่ข้องเกี่ยวกับอบายมุข ได้แก่ ดื่มเหล้า ใช้ยาเสพติด เที่ยวกลางคืน เล่นการพนัน เป็นต้น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากwww.tonkit.org</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หากคนๆนั้นมีพฤติกรรมเข้าข่ายตามที่กล่าวมา สิ่งที่เราควรทำคือ พูดคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา อาจเริ่มต้นสะท้อนถึงสุขภาพที่เสื่อมโทรม สภาพอารมณ์จิตใจที่เปลี่ยนแปลง การเรียนการงานที่แย่ลง หรืออาจแสดงถึงความห่วงใยที่คุณมีต่อตัวเขา แสดงถึงความจริงใจที่จะรับฟังและช่วยเหลือ พยายามชวนพูดคุยเพื่อมองหาสาเหตุของปัญหา อาจโยงไปถึงยาเสพติด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง และเสนอความช่วยเหลืออย่างจริงใจ หากเขามารับฟังหรือมีปฏิกิริยาต่อต้านเรา อีกทางเลือกหนึ่งคือชักชวนให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเราอาจแจ้งแพทย์เป็นการส่วนตัวว่าเราเองเป็นห่วงใยผู้ป่วยเรื่องแอลกอฮอล์ว่าอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งหรือไม่ ขอให้แพทย์ช่วยตรวจประเมินเรื่องยาเสพติดร่วมด้วย ซึ่งกรณีที่ญาติไม่สามารถพาผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้ อาจไปขอคำปรึกษากับแพทย์ก่อนได้ เพื่อนำผู้ป่วยเข้าสู่การบำบัดรักษาต่อไป

    เมื่อเขาติดแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด…ควรทำอย่างไร
    ไม่ว่าบุคคลนั้นๆจะเป็นลูกสาว ลูกชาย สามี หรือญาติๆ เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เขาติดแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดแน่นอนแล้ว พ.ท.น.พ.พิชัยแนะว่า “เราควรเรียนรู้เรื่องโรคติดแอลกอฮอล์ วิธีการดูแลบำบัดรักษา อาจเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง และหยุดการส่งเสริมพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ทางอ้อม โดยระลึก-ทบทวนถึงการกระทำที่เป็นการสนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าว และหยุดการกระทำนั้น รวมไปถึงส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับผิดชอบในผลของพฤติกรรมจากการดื่มแอลกอฮอล์ด้วยตนเอง ทั้งนี้เราควรหมั่นดูแลตนเองด้วย โดยทั่วไปสมาชิกในครอบครัวอาจดูแลผู้ติดสุราจนลืมดูแลตนเอง การดูแลตนเองของญาติผู้ป่วย ได้แก่

    1.ปล่อยวางความคิดความรู้สึกที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวของผู้ป่วย
    2.กลับมาดูแลจิตใจของตนเองให้เป็นสุขตามที่ควรจะเป็น
    3.หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง
    4.กระทำตามบทบาทหน้าที่ที่ควรจะเป็นในครอบครัว เช่น การดูแลสมาชิกอื่นในครอบครัว
    5.แสวงหาความช่วยเหลือ การแก้ปัญหาสมาชิกในครอบครัวซึ่งติดแอลกอฮอล์ มักไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง ดังนั้นอาจต้องได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ให้การปรึกษา เป็นต้น”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากwww.baanmaha.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อย่างไรก็ดี การส่งเสริมพฤติกรรมเสพติดแอลกอฮอล์ (Enabling) หมายถึง พฤติกรรมจากบุคคลรอบข้างที่เอื้อให้ผู้ป่วยยังคงดื่มแอลกอฮอล์ หรือช่วยให้หลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ เหมือนเป็นเงื่อนไขให้ผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่อง ในทางพฤติกรรมศาสตร์ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการให้รางวัลหรือช่วยให้หลีกเลี่ยงผลร้ายที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ โดยปกติ ญาติที่ใกล้ชิดมักไม่ได้มีเจตนาร้ายในการมีพฤติกรรมดังกล่าว แต่อาจเกิดจากความสงสาร พยายามชดเชยความผิดที่มีต่อผู้ป่วย หรือทนผู้ป่วยรบเร้าไม่ไหว อย่างไรก็ตาม การคงพฤติกรรมดังกล่าวไว้จะทำให้ปัญหาการเสพติดรุนแรงขึ้น จนถึงขั้นญาติท้อแท้สิ้นหวังและละทิ้งผู้ป่วยไปในที่สุด

    ตัวอย่างของการส่งเสริมพฤติกรรมเสพติดแอลกอฮอล์
    -เพื่อนที่ดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับผู้ป่วยเพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา
    -ลูกที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นเพื่อนกับพ่อที่ติดแอลกอฮอล์ เพื่อจะได้ใกล้ชิดพ่อ
    -แม่ที่ให้เงินลูกไปซื้อแอลกอฮอล์ เพราะทนรำคาญหรือทนอารมณ์ลูกติดแอลกอฮอล์ไม่ไหว
    -ญาติซื้อแอลกอฮอล์ให้ผู้ป่วย เพราะสงสารผู้ป่วยเวลาขาดยา
    -ภรรยารอสามีที่ไปเมามาจากนอกบ้าน โดยจัดอาหารรอรับไว้ เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หลังจากสามีอาเจียน
    -สามีซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ภรรยา เพราะกลัวภรรยาจะลงแดงตายเมื่อขาดแอลกอฮอล์
    -พ่อที่ไปซื้อแอลกอฮอล์แทนให้ เพราะกลัวลูกถูกตำรวจจับ
    -พ่อแม่ไม่พาผู้ป่วยไปรักษาโรคติดยา เพราะกลัวลูกจะเรียนไม่จบ
    -ภรรยาที่ช่วยโทรไปที่ทำงานเพื่อลาป่วยแทนสามีเนื่องจากป่วยจากการเมามาเมื่อคืนนี้
    -แม่ที่ช่วยปิดความลับของลูกที่ไปใช้แอลกอฮอล์ เพราะกลัวว่าลูกจะถูกพ่อลงโทษ
    -แม่ที่คอยแก้ตัวให้ลูกเรื่องพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์
    -พ่อแม่ไปให้สินบนตำรวจเพื่อจะได้ไม่ต้องดำเนินคดีกับลูกตนเองจากข้อหาดื่มแล้วขับ
    -แม่ให้เงื่อนไขแก่ลูกว่า ถ้าเลิกแอลกอฮอล์ได้ มารดาจะซื้อรถยนต์ให้
    -เมื่อลูกเลิกแอลกอฮอล์แล้ว พ่อแม่ก็มีเวลากับผู้ป่วยน้อยลง เพราะวางใจผู้ป่วยมากขึ้น
    -เมื่อลูกเลิกแอลกอฮอล์ได้แล้ว พ่อก็มีภรรยาน้อย
    -ภรรยาที่ยอมทำตามสามีติดแอลกอฮอล์ทุกๆอย่าง เพราะกลัวถูกทอดทิ้ง

    เพื่อป้องกันปัญหาครอบครัวอ่อนแอเพราะแอลกอฮอล์ คนในครอบครัวต้องมีความรัก ความเข้าใจ และดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแรงที่สุดค่ะ

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ประกาศจากเว็บพลังจิต

    วันพุธที่ 1 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 3 ทุ่ม เว็บจะปิด

    PaLungJit.com > ประกาศ
    http://palungjit.org/announcement.php?a=135



    <TABLE class=tborder id=post135 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" colSpan=2>30-03-2009 until 01-04-2009 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_135", true); </SCRIPT>
    เว็บมาสเตอร์, ผู้ก่อตั้ง (วีระชัย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    ข้อความ: 6,897
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 20
    Groaned at 51 Times in 24 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,888
    ได้รับอนุโมทนา 53,424 ครั้ง ใน 4,607 โพส
    พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_135 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title --><CENTER>วันพุธที่ 1 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 3 ทุ่ม เว็บจะปิด

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    <!-- / icon and title --><!-- message -->--------------------------

    ประกาศจากเว็บพลังจิต วันพุธที่ 1 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 3 ทุ่ม เว็บจะปิด เนื่องจากจะทำการย้ายตู้เซิฟเวอร์ แต่เอาจจะเสร็จก่อน 3 ทุ่ม จึงเรียนมาเพื่อทราบ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถ้าจะคุยกันในช่วงเวลานี้ หรือ ช่วงเวลาอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปคุยกันได้ที่ เว็บอกาลิโก "พระวังหน้า อกาลิโก"(เป็นลิงค์ตามลายเซ็นผม)ครับ

    hello11

    fishh_ ;38
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ที่ผมโดนไปอบรม และถูกสอบมา

    ผลออกมาแล้วครับ ผ่านโลด ไม่มีปัญหาใดๆ

    แต่ก็ยังไม่ทราบว่า หลังจากโดนไปอบรมเนื่องจากนิสัยไม่ดี แล้วผ่านแล้วเนี่ย จะทำให้นิสัยดีขึ้นหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบได้ ผมต้องรอดูพฤติกรรมของผมเองไปก่อน เหอๆๆๆ

    .

    .
     
  7. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ขอแสดงความยินดีที่สอบผ่านด้วยค่ะ


    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่ะ...ยินดี ครับยินดี ร่วมลุ้นเหนื่อยเลย หุ หุ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=1465

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    ผมทานอาหารเช้ากับกุ๊กท่านนี้ทุกวัน ตอนที่ไปถูกอบรม ขอบคุณครับสำหรับอาหารอร่อยๆ

    นำมาให้ชมกันอีกรอบครับ
     
  12. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอร่วมแสดงความยินดีกับคุณหนุ่ม ด้วยครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณครับ

    .
     
  15. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สงสัยกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งแน่เลย ยินดีด้วยนะคะ
    [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นิติชัย [​IMG]
    ขอบคุณสำหรับผู้มาเยือนเขาใหญ่ และป๋าเขมครับ ที่ช่วยกดดัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ขอแสดงความยินดีกับคณะที่ไปพร้อมกัน(5ท่าน) พี่ติ ,พี่โอ๋ ,พี่น้อง ที่สอบผ่าน

    ส่วนพี่หมวย ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผมทราบว่าพี่เครียดหลายเรื่อง สู้ๆครับ

    ขอบคุณป๋าเขมที่โทร.มาหาผมตอน 5 ทุ่ม เพื่อให้กำลังใจครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมว่า ไม่น่าจะเกินเดือนสิงหาคม 2552 นี้ครับ
    hello11
    สงสัยว่า ต้องได้ฉลองกันในเดือนสิงหาคม 2552 ที่สถานที่นัดพบกันประจำเดือนแน่เลยครับ
    fishh_

    ;38

    .
     
  20. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ผมตั้งใจไว้อย่างนั้นเช่นกันครับ พอดียังไม่มีจังหวะโทรไปคุยครับ อะไรที่แบ่งเบาได้ผมยินดีเสมอครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...