พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

อ่า พี่เปี๊ยกครับ

เดี๋ยวผมส่งรูปหลวงพ่อเงิน ที่ผมบอกว่า เป็นพิเศษไปให้ทางEmailครับ



.

 

ผมส่งให้แล้วครับพี่

และขออนุญาตส่งให้กับสมาชิกชมรมพระวังหน้า และผู้สนับสนุนฯด้วยน๊ะครับ

.

 

งามจริงๆครับพี่หนุ่ม ช่วงนี้บ้านผมฝนตกหนักมากๆ เป็นห่วงชาวหาดใหญ่

 

เมื่อ ๒ ปีก่อน ผมได้ไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมสิริกิตต์ ผมตั้งใจไปที่บูธหนังสือเก่า(ป้ายสีเหลือง)เท่านั้น ด้วยความรู้สึกว่าจะได้พบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ที่ตามหามานาน และก็พบจริงๆครบทุกรายการที่เคยต้องการมาก่อน แต่เวลา หรือวาระยังไม่ใช่ หรือยังไม่ได้เวลานั่นแหละครับ อาการที่พบคล้ายกับเมื่อหลายปีก่อนพบบาตรน้ำมนต์ที่สร้างเป็นที่ระลึกหอสมุดสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส คือพบบาตรก่อน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่มาที่ไปว่าใครสร้าง สร้างที่ไหน จำนวนเท่าไหร่ ทำด้วยมวลสารอะไรบ้าง และพิธีใด สร้างเมื่อไหร่ จนหลัง ๖ เดือนที่ได้บาตรน้ำมนต์แล้ว จึงพบตำราการสร้างบาตรน้ำมนต์ซ่อนอยู่ในชั้นหนังสือตั้งวางซ้อนๆกัน และเป็นวันสุดท้ายของการจัดมหกรรมหนังสือ อีกทั้งเหลือเวลาอีกครึ่งชม.ร้านหนังสือก็จะปิดแล้ว ผมยกกองหนังสือขึ้นเพียงครั้งเดียว ก็พบหนังสือเล่มนี้วางอยู่ หยิบดูแต่ไม่ได้เปิดซองพลาสติก เพียงเห็นว่าบาตรน้ำมนต์สมเด็จโตเท่านั้น จากนั้นก็ไม่เคยได้เปิดดูว่าตำรานั้นเเขยนไว้ยังไงด้วยความไม่สนใจยังไงยังงั้น วันหนึ่งเปิดออกดู ก็พบว่า คือรายละเอียดประกอบบาตรน้ำมนต์ใบนี้นั่นเอง...

ใจพาไปที่ร้านนี้ เหมือนจะพาไปเอาอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร เหลือบตาดูข้างบน ใจนี้แป้วเลยครับ "ตำราพระร่วง" ของคุณพร้อม สุทัศน์ ณ อยุธยาเป็นผู้เขียน และรวบรวมไว้ เล่มนี้เปิดไม่ระวังขาดแน่ๆครับ ภายในมีประวัติของพระร่วงเจ้า ที่ละเอียดอย่างที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้ พร้อมภาพเก่าโบราณพระร่วง พระลือ วัดตระพังทองครั้งสุโขทัยนั่นเอง ต่างจากที่ไปชมมาแล้วมากมายจริงๆ อีกทั้งแผนที่เมืองสวรรคโลก ก่อนรวม และหลังรวมกับสุโขทัย ทั้งที่เมื่อไม่กี่วันนี้เกิดความรู้สึกคิดถึงองค์พระร่วงเจ้าพระอาจารย์อย่างมาก ....

 

เอาทีล่ะเรื่องครับ ตาลุงเล่าให้ฟังว่าสมัย 3ปีกว่าก่อนนั้นดูไม่เป็นหรอกครับ ปูนสอเป็นไง ก็ได้ดูจาก ปู่ ลุงหนุ่ม และพี่ไฟดูด ที่มีเยอะมากจน ค่อยๆเข้าใจถึงความแตกต่าง แล้วก็เริ่มล่า โดยเฉพาะองค์อัศนี ซึ่งว่ากันว่าหายากจริงๆ ช่วงนั้นก็ไม่ต้องดูหุ้นกันล่ะ ทุกวันอังคารจะเสียเวลาไป3ชั่วโมงในการ หา ก็ประสบความสำเร็จครับ ก็เล่าให้ฟังสนุกกันครับ แต่ที่แน่ๆผมรู้แล้ว จุดอ่อน ลุง อ.เพชรอยู่ที่ ปูนสอนี่เองครับ ตาลุงน่าจะนำปูนสออัศนีมาโชว์สัก 4-5องค์ ยั่ว ลุง อ.เพชร นะครับ หุ หุ

 

ก๊ากกกกก ผมว่า น่าจะเรียกว่า 'จุดซ่อนเร้น' มากกว่าครับ ลุงกูรูน้องนู๋
'จุดบอด' คือ จุดที่เราไม่เห็น แต่..ชาวบ้านเห็น
ส่วน'จุดซ่อนเร้น' คือ จุดที่เรารู้ แต่..พยายามซ่อนเอาไว้ไม่ให้ชาวบ้านเห็น...

หลายปีก่อน ผมได้รับคำแนะนำจากพี่ท่านหนึ่งในสายธรรมหลวงปู่จวน ท่านทำร้าน jewelly อยู่ที่ SCB Park ท่านชี้แนะว่า จะหาอะไรซักชิ้น ขอให้หาแบบที่สุด ของที่สุดไปเลย จะได้ไม่ต้องไปมัวหาอะไร แบกอะไรพะรุงพะรังให้เมื่อย และเต็มบ้านไปหมด แต่ก็ยังหาไปเรื่อย แสดงว่า ที่มีอยู่ยังไม่สุดยอด....

ปูนสอในจินตนาการของผม..เนื้อน้ำตาล เกศซ้อน ซุ้มขนาน อัสนี...๔ เด้ง หากนับองค์เสก พิธีเสก ๖ เด้ง..

 

ยินดีต้อนรับสู่กรุงเทพมหานคร

พี่จะไปรับที่สุวรรณภูมิครับ

เตรียมกระเป๋ามาใส่พระด้วยน๊ะครับ

.

 

ลืมบอกไปว่า หลังจากที่เอาของออกแล้ว ก็ยังเป็นไมเกรนจนถึงปัจจุบันครับ
โรคของกรรม...แต่หลังๆมาดื่มกาแฟทุกวัน ก้อดีขึ้นเยอะ ไม่บ่อยและรุนแรงเหมือนก่อนครับ

 

อ่า จัดหนักให้ลุง อ.เพชรไปเลยครับ
1.ด้านหลังองค์คุณขอมาครับ
2.พระกรุที่เพชรบูรณ์ ไม่ต้องหาเห็นยังยากครับ เพราะพบอยู่ไหเดียว ไม่กี่ร้อยองค์เชิญมาได้ หนึ่งเดียวครับ
3.พระเนื้อดินธรรมดาครับ
4.แบบเก่าของวัดแค หาบ่ได้ครับ มีแบบนี้ครับ 2497พิมพ์กรรมการครับ หุ หุ

 

ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยครับ

 

อ่า ตอนนี้ผู้อ่านก็ทราบว่า พระวังหน้ามีเนื้อปูนสอ แล้วสิเนี่ย

ปิดกันมาตั้งนาน


เหอๆๆ แต่อย่าพึ่งอุตริไปหากัน เดี๋ยวโดนเก๊

เพราะถ้าจะนำมาให้ดูว่า ใช่หรือไม่ ผมไม่ดูให้แน่

.

 

แล้ว องค์ที่จารโดยปู่....ไม่สุดยอดหรือครับ หุ หุ

 

4444 อันนี้ ๗ เด้งครับหากเนื้อน้ำตาล เกศซ้อน ซุ้มขนาน อัสนี...๔ เด้ง หากนับองค์เสก พิธีเสก องค์ผู้จารหลัง ๗ เด้ง.. ...

 

ครับ...ช่วงนี้เข้ากะกลางคืน กลางวันนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเร็ว นอนน้อย
ลำบากเหมือนกันครับ ก็ไปเรื่อยๆครับ

 

สำหรับงานพบกันในวันอาทิตย์นี้

ผมคงไปถึงที่หมาย ประมาณ 11 โมงเช้า

ประมาณ บ่ายโมงครึ่ง คงเดินทางออกมาเพื่อไปอีกที่หมายนึง

แต่ในระหว่างที่อยู่ ณ ที่หมายแรก หากมีปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวย อาจจะเดินทางออกมาก่อนกำหนดการที่ผมแจ้งนะครับ

ขอบคุณครับ

.

 

ของหายากอยู่ในนี้..ยังว่าธรรมดา..หุ..หุ..

 

อ่า ลุง อ.เพชร หา...พบมาข่มตาลุงผมยังครับ หุ หุ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“พระสังฆราช” แนะผู้ใหญ่ในชาติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มกราคม 2555 14:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




สมเด็จพระสังฆราชประทานพระวรธัมโมวาท วันเด็กแห่งชาติ ปี 2555 แนะผู้ใหญ่ในชาติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก ให้เด็กดู ให้เด็กรู้ ให้เด็กเห็น จนฝังจิตฝังใจ รับไว้เป็นนิสัยปฏิบัติ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธัมโมวาท เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช 2555 ความว่า วันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาติ คือวันเด็กแห่งชาติ ที่ผู้ใหญ่คือคณะรัฐมนตรีประกาศยอมรับความสำคัญของวันเด็ก ด้วยการให้จัดเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม

เด็กเป็นอนาคตของชาติ จริงดังที่รู้กันและกล่าวถึงกันอยู่ตลอดมา นับเป็นความสำคัญอย่างยิ่งของเด็ก แต่ผู้ใหญ่เป็นอนาคตของเด็ก ผู้ใหญ่จึงเป็นความสำคัญที่สุดของชาติ เห็นได้ชัดเจนเป็นลำดับดังนี้ อนาคตของชาติอยู่ในมือของเด็กและอนาคตของเด็กอยู่ในมือของผู้ใหญ่ นั่นก็เท่ากับชาติอยู่ในมือของผู้ใหญ่ในชาตินั่นเอง ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างอย่างไรให้เด็กดูให้เด็กรู้ให้เด็กเห็น จนฝังจิตฝังใจ จนรับไว้เป็นนิสัยใจคอการปฏิบัติของเด็กไปโดยไม่รู้ตัวเป็นอนาคตของเด็ก นั่นก็คือเป็นอนาคตของชาติด้วย

ผู้ใหญ่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตของชาติจะเป็นเช่นนั้น โดยมีเด็กในปัจจุบันนั่นเองเป็นผู้สืบสานเด็กในปัจจุบันที่จะเป็นอนาคตของชาติหรือเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตก็คือเป็นผู้ที่รับสิ่งที่พบเห็นเป็นการพูดการทำของผู้ใหญ่ไว้เป็นแบบอย่าง คิดตามพูดตามทำตามตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ คือเป็นอนาคตของชาตินั่นเอง

สรุปว่า ยุคสมัยปัจจุบันเป็นยุคที่เรามองโลกทั้งใบ เด็ก ๆ ทุกคนถือว่าเป็นสมบัติของมนุษยชาติ เด็กยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เปรียบเหมือนผ้าขาว เอาสีอะไรไปใส่ย่อมเป็นสีนั้น จึงขอฝากเด็ก ๆ ไว้กับผู้ใหญ่ ฝากอนาคตของชาติไว้กับเด็ก ๆ เพราะเขาเป็นความหวังของประชาชน การศึกษาถึงโลกในใจของเด็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของพวกเขา เป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดที่สำคัญที่สุดของผู้ใหญ่



-http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000005499-

.<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบพระคุณมากครับพี่ท่าน เกรงใจพี่ท่านจริงๆครับ ว่าแต่เอากระเป๋าเลยรึครับพี่ท่าน แบบนี้เอาใบใหญ่รึใบเล็กดีครับพี่ 555

 

งามจริงๆครับพี่เพชรช่างฝี มืองามมาก