พระเครื่องบ้านๆ ราคาเบาๆครับ ภาค 3 ส่งฟรีทุกรายการ (สารบัญพระอยู่หน้าแรกนะครับ)

ยังอยู่ครับ รับพร้อมกันเลยไหมครับ

 

รับทราบครับผม ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 1,101
เหรียญหล่อดวงโพธิญาณกำลังแผ่นดิน พิมพ์เล็ก (องค์ที่ 2)
รุ่นเงินทองไหลมาเทมา เนื้อสำริด
หลวงตาม้า วิริยธโร วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่





ด้านหน้า รูปลักษณ์หลวงปู่ดู่ (ครึ่งลำตัว) มีพระพรหมอยู่ด้านล่างตรงกลาง ด้านหลัง ดวงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อยู่เหนือฐานบัว และพญานาคล้อม ใต้เหรียญบรรจุมวลสารต่างๆจากวัด และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ หลวงตาม้าท่านใช้เวลา 3 ปีในการรวบรวมมวลสาร จึงเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่นดวงโพธิญาณ กำลังแผ่นดิน อีกทั้งยังมีข้าวก้นบาตรหลวงปู่ดู่ เกศาของหลวงตาม้าบรรจุอยู่ในองค์พระด้วย หลวงตาจารด้านหลังหนึ่งจุด

หลวงตาม้า ท่านเป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา ท่านเป็นผู้เผยแพร่การสวดบทพระมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ วัตถุมงคลที่หลวงตาท่านสร้างจะเน้นไปทางรูปลักษณ์พระพุทธรูปทรงเครื่อง หรือรูปลักษณ์หลวงปู่ทวด-หลวงปู่ดู่ เพราะหลวงตาท่านกล่าวว่าหลวงปู่ดู่คือองค์เดียวกันกับหลวงปู่ทวด บารมีท่านเต็มแล้ว ขออะไรไม่เกินกรรมท่านก็ให้ เพราะท่านคือพระมหาโพธิสัตว์ที่กำลังจะลงมาจุติเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตครับ

รูปลักษณ์สวยงาม อนาคตพระหลักของสายนี้ครับ
แบ่งบูชา 349 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน

 

รายการที่ 1,102 (ปิดรายการ)
ผ้าจีวรปั้มยันต์ตุ๊กตา
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา




หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา เป็นพระปฏิบัติดีที่น่านับถือรูปหนึ่ง อภินิหารของท่านมีเยอะมาก ท่านเป็นพระที่ปรารถนาในโพธิญาณ ดังนั้นหลวงปู่ดู่ จึงบำเพ็ญบารมีในชาตินี้ มิได้มุ่งหวังเป็นพระอรหันต์ คำสอนในการปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ น่าสนใจมาก เข้ใจง่าย ไม่ซับซ้อนทุกคนสามารถฝึกกรรมฐานแนวของหลวงปู่ คำภาวนาที่ท่านสอนลูกศิษย์ในการภาวนาให้ยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ โดยบริกรรมว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เพื่อให้จิตใจเกิดความสงบเป็นสมาธิพอสมควร จากนั้นน้อมจิตพิจารณาให้เห็นไตรลักษณ์ สำหรับวิธีปฏิบัติอย่างละเอียดขอแนะนำให้ไปหาหนังสือของวัดมาศึกษาดูครับ ผมขอแนะนำว่าท่านสอนได้ดีมากทีเดียว หลวงปู่ดู่ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง ตรงกับวันวิสาขบูชา เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ณ อุโบสถวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า “ พรหมปัญโญ ” ในพรรษาแรกๆ นั้น หลวงปู่ดู่ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัด ประดู่ทรงธรรม (ในสมัยนั้นเรียกว่าวัด ประดู่โรงธรรม) โดยศึกษากับ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น ในด้านการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน นั้น หลวงปู่ดู่ ได้ ศึกษา กับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ผู้เป้นพระอุปัชฌาย์ และ หลวงพ่อเภา ซึ่งเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น และ มีศักดิ์เป็นอาของ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากตำราที่มีอยู่ จากชาดกบ้าง ธรรมบทบ้าง และด้วยความที่ท่านเป็นผู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจาก พระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี สระบุรี ฯลฯ หลวงปู่ดู่ ให้ความนับถือหลวงปู่ทวดมาก มีลูกศิษย์หลายคนเชื่อว่าหลวงปู่ดู่ เป็นภาคหนึ่งของหลวงปู่ทวด ที่ลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมี หลวงปู่ดู่ มีพระสหธรรมิกที่สนิทกันหลายองค์เช่น หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ เป็นต้น แต่ที่แปลกคือ หลวงปู่ดู่ ไม่เคยพบหน้าหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง แม้แต่ครั้งเดียว แต่หลวงปู่ดู่ ให้การยกย่องหลวงพ่อเกษม เป็นครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ส่วนหลวงพ่อเกษม ก็เคยแนะนำลูกศิษย์ให้หาพระเครื่องหลวงปู่ดู่ รุ่นเปิดโลก ไว้บูชากัน หลวงปู่ดู่ ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันพุธที่ 17 มกราคมพ.ศ. 2533 รวมสิริอายุได้ 85 ปี 8 เดือน 65 พรรษา ยังความเศร้าโศกเสียใจแก่ลูกศิษย์อย่างยิ่ง ปัจจุบันเท่าที่ทราบลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ยังมีหลายท่านที่น่าไปกราบสักการะเช่น หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ หลวงพ่อติ้ว วัดมณีชลขันธ์ ครูบาบุญชุ่ม เป็นต้น



ผ้าปั๊มยันต์ตุ๊กตาจัดเป็นวัตถุมงคลอีกชิ้นหนึ่งของหลวงปู่ดู่ที่มีมาตรฐานการเล่นหาที่ชัดเจน เนื่องจากมียันต์ตุ๊กตาของทางวัด และน่าอาราธนาใช้เป็นอย่างมากเนื่องจากจัดสร้างมาจากผ้าที่คนได้นำมาถวายหลวงปู่ไว้ บางผืนที่ได้นำมาใช้ บางผืนเป็นผ้าที่จัดเก็บไว้ หลังจากท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตแล้วทางวัดได้นำไปปั๊มยันต์ตุ๊กตาใหญ่ บ้างยันต์ตุ๊กตาเล็กบ้าง ซึ่งโดยมากแล้วศิษย์มักจะนำเข้ากรอบบูชาไว้ตามเคหสถาน และที่ทำงาน บางท่านม้วนเป็นตะกรุดใส่ในหลอด หรือแม้แต่พับใส่ซองไว้ในกระเป๋าเสื้อ ผ้ายันต์ตุ๊กตาผืนนี้เนื้อเหลือง ปั๊มยันต์ดูง่ายมากๆ น่าบูชา

พร้อมเลี่ยมขึ้นคอให้แล้วครับ
แบ่งบูชา 549 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

ขอบคุณครับ ส่งให้วันนี้ครับผม

 

รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
10/06/2564

- คุณ ชูชาติ RU917189129TH

ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบครับผม

 

รายการที่ 1,103 (ปิดรายการ)
พระเจ้าเพชรเงินล้านด้านหลังบรรจุปฐวีธาตุ (องค์ที่ 8)
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่




หลวงพ่อประสิทธิ์ ถ้าใครที่อยู่ในวงการพระป่ากรรมฐานคงได้ยินและได้ทราบข่าวของท่านมาเหมือนกัน เรื่องที่ท่านไป x-ray ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ปรากฎว่าเมื่อหมอมองดูฟิล์ม x-ray ก็ต้องตกใจเพราะกระดูกของท่านเป็นแก้วใสไปหมด เป็นที่ตะลึงของบรรดาหมอและพยาบาล และเป็นเหมือนการเปิดเผยถึงบารมีธรรมของท่าน หลวงตามหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด ท่านยังเคยกล่าวชมไว้ว่า หลวงพ่อประสิทธิ์ นี้ท่านไม่ธรรมดา ท่านได้ธรรมชั้นสูง แค่หลวงตาฯท่านยืนยันแบบนี้ก็ไม่ต้องหาคำอะไรมาบรรยายมากแล้วครับ

มวลสารที่ใช้สร้างพระรุ่นนี้ครับ
1.ปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
2.ผงพุทธคุณ พระธาตุเจดีย์นพีสีพิศาลมงคล-ผงเบ้าหลอมพระเจ้าเพชรเงินล้าน
3.ผงธูปพุทธคุณ เสาร์ ๕
4.ผงดอกไม้ บูชาพระเจ้าเพชรเงินล้าน ตั้งแต่ปี ๕๐-๕๒ หลวงพ่อประสิทธิ์ เสกทุกวาระ ที่มีการเสกพระ-งานเสกมวลสารพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และหล่อพระเจ้าเพชรเงินล้านวิสาขะพ.ค.๕๐-งานเสกพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และเสกพระเจ้าเพชรเงินล้าน ๕ ธ.ค. ๕๐-งานเสกรูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ๑๖ ม.ค. ๕๒ -งานกฐินมหากุศล และเสกประเจ้าเพชรเงินล้าน รุ่นแรก ๒๒ ต.ค.๕๒ -งานเสกพระสิวลี (ต่ออายุ) ๑๕ เม.ย. ๕๓-งานบรรจุหัวใจพระสิวลี(ต่ออายุ) ๒๕ ก.ค. ๕๓(เป็นองค์พระแล้ว)
5.ทรายเสก เสาร์๕
6.กล้วยน้ำหว้า เสาร์๕
7.ข้าวก้นบาตร เสาร์๕
8.น้ำมนต์ เสาร์ ๕
9.ผงตะไบพระสิวลี(ต่ออายุ) องค์ใหญ่ โรยหลังพระทุกองค์



ข้อมูลของพระผงรุ่นนี้ดังต่อไปนี้ครับ ปฐวี ธาตุ หรือก็คือธาตุดิน แต่ถ้าบอกว่าปฐวีธาตุเจ้าคุณนรฯ กลับกลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ ที่มีอานุภาพครอบคลุมคุ้มครองผู้บูชาอย่างเอกอุ กันได้กระทั่งกัมมันตภาพรังสี หรือนิวเคลียร์ สืบต่อจากท่านเจ้าคุณนรฯ ก็มีอีกหลายองค์ที่สามารถทำก้อนหินธรรมดาให้กลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่คำพัน และหลวงปู่อ่อนสา ทุกวันนี้ปฐวีธาตุเหล่านี้ล้วนเป็นตำนาน ที่พอหาได้และมั่นใจ ก็ต้องยกให้ ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ ที่ บรรจุอยู่ในพระเครื่องท่านบางรุ่นและปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสา ที่บรรจุอยู่ในพระปิดตาสมจินตนา นอกนั้นอาศัยความเชื่อใจทั้งสิ้น หิน เก็บตรงไหนก็เหมือนๆกัน พลังจากเนื้อในหาใช่สิ่งที่ปุถุชนเช่นเราจะรับทราบ

หลังจากสิ้นหลวงปู่คำพันธ์ก็พอทราบว่าท่านพ่อเมือง ท่านพอทำปฐวีธาตุได้ แต่ปัจจุบันทราบว่าท่านได้งดเสียแล้วและโบ้ยให้ไปหาปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสาแทน จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนคนหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ซึ่งบังเอิญวันนั้นท่านเอก เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมืองก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์เช่นกันเป็นการไป โดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อนได้กราบเรียนถามหลวงพ่อประสิทธ์ว่า หลวงพ่อครับ หลวงพ่อเคยได้ยินเรื่องปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันธ์รึเปล่าครับ เคยได้ยินอยู่ หลวงพ่อทำได้รึเปล่าครับปฐวีธาตุ ทำได้อยู่ เขาว่าปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันธ์ กันนิวเคลียร์ได้ ถ้าหลวงพ่อทำจะกันได้เหมือนกันรึเปล่าครับ หลวงพ่อพยักหน้ารับ ท่านเจ้าคุณนรฯใช้หินบางบ่อ หลวงปู่คำพันธ์ใช้หินแม่น้ำโขง ไม่ทราบของหลวงพ่อจะต้องใช้หินที่ไหนครับ ปฐวีธาตุก็คือธาตุดิน หินที่ไหนก็ใช้ได้หมด หลังจากนั้นท่านเอกก็ได้นำหินชุดแรกที่มีผู้ศรัทธานำมาจากแม่น้ำโขงชุดแรก พร้อมทรายและมงคลวัตถุต่างๆ ไปขอเมตตาหลวงพ่อประสิทธิ์อธิษฐานในวันเสาร์ห้า โดยการนำปฐวีธาตุไปอธิษฐาน ได้กราบเรียนขอให้หลวงพ่ออธิษฐาน ให้เป็นปฐวีธาตุเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯและหลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งหลวงพ่อก็พยักหน้ารับแต่เนื่องจากปฐวีธาตุชุดแรกได้แต่หินก้อนใหญ่ ไม่สามารถบรรจุลงในพระได้จึงเกิดปฐวีธาตุชุดที่สอง โดยนำหินจากแม่น้ำโขงเหมือนเดิมแต่เป็นขนาดเล็ก นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเศกพระสิวลีเมื่อพญาวันที่ผ่านมา แต่ไม่ได้กราบเรียนเรื่องขอให้อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ และ ปฐวีธาตุในชุดที่สองนี้ได้นำมาบรรจุใน พระผงพระเจ้าเพชรเงินล้านพิมพ์หกเหลี่ยม ซึ่งหลวงพ่อประสิทธิ์ได้เมตตาอธิษฐานจิต ในวันอาทิตย์ที่25ก.ค.ที่ผ่านมา และการขอเมตตาหลวงพ่อในครั้งนี้ได้กราบเรียนหลวงพ่อเรื่องอธิษฐานให้เป็น ปฐวีธาตุด้วยซึ่งหลวงพ่อก็เมตตา พยักหน้ารับ หลวงพ่อประสิทธิ์ เมตตาอธิษฐานจิตเมื่อ วันที่ 25 ก.ค.2553 ปัจจุบันหลวงพ่อละสังขารแล้ว เมื่อวันที่ 30 กค 59 ที่ผ่านมา สิริอายุรวม 75 ปี

องค์นี้บิ่นนิดนึงด้านหลังมุมขวา ลดราคาให้ครับ
แบ่งบูชา 199 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 1,104 (คุณ wangbao บูชาแล้วครับ)
เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นมหากุศล ( อย.)
เนื้อทองแดง วิสาขบูชา ปี 2532
หลวงพ่อเกษม เขมโก + หลวงปู่ดู่ (เดินญาณมาปลุกเสก)




เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นมหากุศล ( อย.) วิสาขบูชา ปี 2532 นี้ จัดสร้างขึ้นโดยคุณสุธันย์ สุนทรเสวี เมื่อปี 2532 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาสถานีอนามัยวัดน้อยแสงจันทร์ สมุทรสงคราม พิธีอธิษฐานจิตจัดขึ้นเมื่อวันวิสาขบูชาที่ 19 พฤษภาคม 2532 ในพิธีมหากุศลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข โดยหลวงพ่อเกษมได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างยาวนานเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม และในขณะเดียวกัน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา ก็ได้เริ่มเดินญาณส่งจิตมายังมณฑลพิธี เพื่อร่วมเสกในครั้งนี้ตามที่ทางคุณสุธันย์ได้นิมนต์ไว้ในเวลาดังกล่าวอีกด้วย

เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นมหากุศล ( อย.) วิสาขบูชา ปี 2532 นี้ จึงเป็นวัตถุมงคลที่น่าบูชาอย่างยิ่ง ดีนอกดีใน ทั้งเจตนาดี มวลสารดี อีกทั้งยังได้พระอริยะสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึง 2 รูปร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้อีกด้วย

เรื่องราวเกี่ยวกับ หลวงพ่อเกษม และ หลวงปู่ดู่



วันหนึ่ง มีเรื่องราวที่ผู้คนกล่าวถึงหลวงพ่อเกษมในทางที่อาจเกิดการปรามาสท่านได้ นั่นก็คือเรื่องที่ หลวงพ่อเกษมฉันอาหารในยามวิกาล...ในบางคราว หลวงปู่ดู่ ตั้งคำถามกับลูกศิษย์คนหนึ่งว่า แกเห็นว่ายังไง เข้าใจยังไง กับการที่หลวงพ่อเกษม ท่านฉันอาหารในยามวิกาลในบางคราว ลูกศิษย์ก็ไม่กล้าแสดงทัศนะ เพราะกลัวบาป หลวงปู่จึงเมตตาอธิบาย ให้ทราบถึงเหตุผลของเรื่องนี้ว่า หลวงพ่อเกษมท่านต้องการสงเคราะห์ดวงวิญญาณ ที่มาขอส่วนบุญในเวลานั้น ๆ โดยการนำอาหารที่ญาติของเขานำมาถวายไว้ (ตั้งแต่ตอนเช้า) มาฉันให้เขาได้บุญ แล้วจึงค่อยอุทิศส่วนบุญไปให้...ดวงวิญญาณนั้น จึงเป็นอันว่า หลวงพ่อเกษมท่านทำเพื่อ "สงเคราะห์ผู้อื่น" หาใช่ทำเพราะความมักมากในอาหาร หากเราได้ศึกษาข้อวัตรของท่านให้ดี ก็จะทราบว่า โดยปรกติแล้ว ท่านจะฉันเอกา (ฉันวันละครั้งเดียวเท่านั้น) รวมทั้งฉันสำรวม (คือเอาอาหารคาวหวานมารวมกันในบาตร) องค์ท่านเองก็ผอมเหลือเกิน จึงไม่น่ามีเหตุผลที่มาที่ไปว่า ท่านเป็นผู้มักมากในอาหารแต่อย่างใด เรื่องที่ "หลวงปู่ดู่" ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ได้ฟัง จึงทำให้ศิษย์ทั้งหลาย ณ ที่นั้น ได้เรียนรู้ว่า เรามิพึงด่วนสรุปอะไร ๆ จากภาพที่เห็นภายนอก เพราะยังมีหลายสิ่งหลายอย่าง...ที่เกินสติปัญญาความรู้ของเรา แต่อย่างไรก็ดี จะสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวนี้ (หมายถึง การฉันอาหารยามวิกาล) องค์หลวงพ่อเกษมเอง ก็มิได้ทำเป็นกิจวัตร หากแต่นาน (แสนนาน) จะทำสักหนหนึ่ง และก็มิได้กระทำอย่างผู้มีแผล คือ ต้องแอบ ๆ ทำ เพราะ "หลวงปู่ดู่" กล่าวยกย่องท่านว่า...เป็นผู้ไม่มีแผลแล้ว เป็นผู้ที่ใคร ๆ จะปรับอาบัติท่านไม่ได้แล้ว เฉกเช่นเดียวกับ...พระผู้หลุดพ้นแล้วทั้งปวง ความเป็นอยู่ของท่านเหล่านั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่สัตว์โลกโดยฝ่ายเดียว ซึ่งหากเป็นผู้ที่ยังไม่หมดกิเลส ทำอย่างเดียวกันกับท่าน ย่อมไม่พ้นอาบัติ และย่อมเป็นความเศร้าหมองแก่ตนเองโดยถ่ายเดียว

เช้ามืดวันหนึ่งที่กุฏิหลวงปู่ เมื่อราวสี่สิบปีมาแล้วพระลูกศิษย์ ของหลวงปู่มากราบนมัสการหลวงปู่ตอนเช้าอย่างที่ทำเป็นปรกติทุกวัน แต่วันนั้น มีสิ่งผิดแผกไปจากเดิม คือ หลวงปู่ยังไม่ออกมานอกกุฏิสักที ทำให้พระองค์นั้นนึกสงสัย และสงสัยมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหลวงปู่สนทนากับใครอยู่ในกุฏิ ซึ่งธรรมดาแล้วท่านไม่เคยรับแขกที่ในกุฏิเนื่องจากภายในกุฏิท่านนั้นแคบมาก พระองค์นี้จึงยอมเสียมารยาทแอบมองหลวงปู่ผ่านทางช่องข้างฝากุฏิหลวงปู่ จึงพบว่าหลวงปู่นั่งสนทนากับพระรูปร่างผอม ๆ อีกองค์หนึ่งอยู่ ซึ่งท่านไม่รู้จัก กระทั่งวันรุ่งขึ้นได้เห็นรูปพระองค์นี้ในหนังสือพิมพ์ ท่านจึงอุทานว่า องค์นี้แหล่ะ พระที่หลวงปู่นั่งสนทนากันในกุฏิ จากรายละเอียดในหนังสือพิมพ์ พระลูกศิษย์หลวงปู่ท่านนั้นจึงทราบว่า พระที่ท่านเห็นสนทนากับหลวงปู่ในกุฏิก็คือ หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ นั่นเอง ไม่มีใครทราบความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่ดู่ กับหลวงปู่เกษม เพราะท่านไม่เคยเดินทางไปมาหาสู่กัน แต่ก็แปลกอย่างยิ่งที่ท่านทั้งสองมักกล่าวถึงกันเสมอ ๆ ช่างต่างจากทางโลกที่ว่าเมื่อฉันเก่งแล้ว ฉันก็จะเก่งที่สุดอยู่คนเดียว เก่งเหนือใครทั้งหมด ทิฐิมานะของผู้ปฏิบัติกับผู้ไม่ได้ปฏิบัติจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน หากยังมีใครสงสัยว่าเมื่อหลวงปู่ดู่ไม่เคยย่างกรายออกนอกวัดสะแกเลย เหตุใดหนังสือเอกสารประกอบวัตถุมงคลจึงชอบเขียนกันนักว่า หลวงปู่ดู่ วัดสะแกมีรายนามพระเกจิในพิธี อย่างเช่นพิธีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอายุครบ ๕๐ ปีนั้นก็ได้มีการนิมนต์หลวงปู่ดู่มาในพิธี มาร่วมอธิษฐานจิตเหรียญพระพุทธสิหิงค์จำลอง ที่จัดสร้างเป็นที่ระลึกและเพื่อจัดหาปัจจัยบำรุงมหาวิทยาลัยฯซึ่งประกอบพิธีที่อาคารหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีการนิมนต์พระเถระจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นหลวงปู่รับนิมนต์ที่จะร่วมพิธี แต่หลวงปู่ขอที่จะไม่เดินทางไป (ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติปรกติของหลวงปู่ที่งดรับนิมนต์ออกนอกวัด) หลวงปู่กล่าวกับท่านอธิการบดีว่า ขอให้ปูอาสนะและผ้าขาวในส่วนที่นั่งสำหรับหลวงปู่ จากนั้นหลวงปู่ได้สอบถามถึงกำหนดวันเวลาที่เริ่มพิธี เพื่อท่านจะได้นั่งกรรมฐานจากที่วัดในวันเวลาดังกล่าว จึงเป็นข้อยืนยันได้ว่า หลวงปู่ดู่นั้นไม่ได้นั่งปลุกเสกในพิธี จะมีก็เพียงการปลุกเสกแบบเดินญาณมาเท่านั้น
(นำมาจากกระทู้ในสวนขลัง เพิ่มเติมเมื่อ ๓ สค. ๒๕๕๒)

กล่องเดิมๆหายากครับ
แบ่งบูชา 299 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 1,105 (ปิดรายการ)
พระยอดธง รุ่น ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ เนื้อสำริด (สัมฤทธิ์)
สำนักปฎิบัติธรรมพระราชพรหมยาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา



พระยอดธง รุ่น ยอดเศรษฐีรัตนโกสน์ เนื้อสำริด (สัมฤทธิ์) ผสมผงตะไบมวลสาร และผงตะไบแร่โคตรเศรษฐี .. ใต้ฐาน (ตอกโค๊ด / เลเซอร์ “ยอดเศรษฐี” ส.) พระยอดธง เป็นพระพุทธพิมพ์ที่งดงาม องอาจ อาจหาญ ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัย และเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ไม่ว่าโดยพระพุทธานุภาพเอง โดยพระพุทธลักษณะที่งดงาม หรือ โดยพระนามที่สูงส่งยิ่ง

สัมฤทธิ์ คืออะไร .. ทำไมต้องสัมฤทธิ์ พวกเราอาจจะเข้าใจได้ แต่อาจจะไม่เข้าใจบางประเด็น
(สัมฤทธิ์ มีข้อความที่ “ตรียัมปวาย” เคยเขียนไว้ ว่า) คำว่า สัมฤทธิ์ ตามพจนานุกรม หมายความว่า ส. ความสำเร็จ ถ้าหมายถึงโลหะ ก็จะหมายถึงโลหะเจือชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย ทองแดง กับ ดีบุก ทองสัมฤทธิ์ หรือสัมฤทธิ์ ก็เรียก .เขียนว่า สำริด ก็มี โลหะผสมที่นำมาสร้างพระพุทธรูป หรือพระรูปหล่อลอยองค์ .โดยมาก ใช้โลหะธาตุทองแดง ผสมกับ ดีบุก และ โลหะธาตุอื่น ๆ .แล้วแต่จะผสมกันไป ตามสูตรของใครของมัน ในปัจจุบัน เรียกกันว่า "เนื้อสัมฤทธิ์"

แต่ถ้าจะพูดถึงโลหะสัมฤทธิ์ตามสูตรโบราณแท้ ๆ นั้น เขามีหลักมีเกณฑ์ในการผสมโลหะ และเพื่อให้เป็นสิริมงคล..จึงได้ใช้คำเรียก โลหะผสม ชนิดนี้ว่า "สัมฤทธิ์" (- ซึ่งหมายถึง การสัมฤทธิ์ผล หรือ สัมฤทธิ์ประโยชน์ ตามความปรารถนา -) พระยอดธง รุ่นนี้ ทางสำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ท่านแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ได้มอบให้มาเพื่องานบุญก่อสร้างอุโบสถ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เพื่อตอบแทนพระคุณครูอาจารย์ (หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ)



พระรุ่นนี้ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง ในวันเสาร์ ๕ วันที่ ๗ เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๔ โดยได้รับอนุญาติอย่างถูกต้อง.

แบ่งบูชา 299 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 1,106 (คุณ wangbao บูชาแล้วครับ)
เหรียญดวงโพธิญาณกำลังแผ่นดิน
พิมพ์ใหญ่ เนื้อสัมฤทธิ์ พ.ศ.2551
หลวงตาม้า วิริยธโร วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่





เหรียญดวงโพธิญาณกำลังแผ่นดิน พิมพ์ใหญ่ (รุ่นดวงเหนือดวง) ด้านหน้า เป็นรูปลักษณ์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ(ดู่) ด้านล่างมีรูปเศียรพรหม ด้านหลัง มียันต์และดวงของหลวงปู่ดู่และพญานาคล้อม ใต้ฐานบรรจุมวลสารต่างๆ จากสถานที่สำคัญ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ หลวงตาม้าท่านใช้เวลา 3 ปี ในการรวบรวมมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังมีข้าวก้นบาตรหลวงปู่ดู่ เกศาของหลวงตาม้าบรรจุอยู่ในองค์พระด้วย หลวงตาม้าท่านอธิษฐานจิตและจารให้ทุกเหรียญ การนำดวงของหลวงปู่ดู่มาไว้ในเหรียญนั้น เมื่อนำมาห้อยหรือกำภาวนา เหมือนกับเราฝากดวงไว้กับหลวงปู่ดู่ ไม่มีดวงตก ไม่มีปีชง เป็นดวงเหนือดวง เป็นดวงจักรพรรดิ พุทธคุณของเหรียญดวงโพธิญาณนั้นเกี่ยวกับเรื่องค้าขาย การทำงานธุกิจ และการอยู่ในดวงหลวงปู่ดู่ตลอดเวลา ระลึกถึงท่านบ่อยๆ สวดมนต์แผ่บุญบ่อยๆ ช่วยปิดอันตรายทั้งปวง ช่วยคลี่คลายปัญหาทั้งทางโลกและทางธรรม ถือเป็นเหรียญที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวัดถ้ำเมืองนะ

หลวงตาม้า ท่านเป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา ท่านเป็นผู้เผยแพร่การสวดบทพระมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ วัตถุมงคลที่หลวงตาท่านสร้างจะเน้นไปทางรูปลักษณ์พระพุทธรูปทรงเครื่อง หรือรูปลักษณ์หลวงปู่ทวด-หลวงปู่ดู่ เพราะหลวงตาท่านกล่าวว่าหลวงปู่ดู่คือองค์เดียวกันกับหลวงปู่ทวด บารมีท่านเต็มแล้ว ขออะไรไม่เกินกรรมท่านก็ให้ เพราะท่านคือพระมหาโพธิสัตว์ที่กำลังจะลงมาจุติเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตครับ ศิษย์สายนี้นิยมมากครับเนื้อนี้ หลวงตาจารด้านหน้าสองจุดหายากแล้วครับ



เลี่ยมพร้อมใช้จากวัด
แบ่งบูชา 499 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน

 

รายการที่ 1,107 (ปิดรายการ)
เหรียญอนุสรณ์ครบ 100 ปี สิงห์บุรี เนื้อทองแดง
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี




หลวงพ่อแพ เขมงกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี นามเดิมว่า แพ บิดาชื่อ เทียน มาดารชื่อ หน่าย นามสกุล ใจมั่นคงเกิดเมื่อวันจันทร์เดือนยี่ ขึ้น 9 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2448 ที่บ้านสวนกล้วย ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ท่านมีพี่น้องร่วมมารดา 4 คน ท่านเป็นคนสุดท้องเกิดได้ 8 เดือน มารดาก็ได้ถึงแก่กรรม นายบุญ และ นางเพียร ขำวิบูลย์ จึงรับเลี้ยงดูท่านเป็นบุตรบุญธรรม บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2463 และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2469 ณ.พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมี พระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักวรรดิราชาวาสกรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับ ฉายาทางสมณเพศว่า เขมงกโร หลวงพ่อแพถือได้ว่าเป็นผู้ที่ได้พัฒนาวัดพิกุลทองให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง รูปที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2474 เป็นต้นมา ท่านได้ใช้สติปัญญา ความสามารถพัฒนาวัดให้เจริญทั้งทางด้านวัตถุสิ่งก่อสร้าง ด้านการศึกษาพระปริญัติธรรมแด่พระภิกษุสามเณร และเผย แผ่ธรรมปฏิบัติแก่ญาติโยมทั่วไป พัฒนาทั้งภายในวัด และสาธารณประโยชน์ให้เจริญยิ่งขึ้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนทั่วไป ด้านวัตถุมงคลท่านก็สร้างได้ขลังหลายรุ่นทั้งสมเด็จแพพันรุ่นต่างๆ เหรียญรุ่นเอ็ม 16 เป็นต้น

เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี รุ่น 100 ปี จังหวัดสิงห์บุรี ปี 2539 จัดสร้างโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ตอกโค๊ดหลังเหรียญทุกองค์ อธิฐานจิตโดยหลวงพ่อแพ เป็นเหรียญทองแดงขัดเงา สภาพสวย ในตลับเดิมๆ

แบ่งบูชา 149 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

ปิดรายการนี้ให้หลังไมค์ ขอบคุณคร้าบบ

 

รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
15/06/2564

- คุณ นฤมล RH093421343TH

ขอบคุณมากครับ

 

รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
18/06/2564

- คุณ สักกราวุฒิ ED339668641TH

ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบการจอง ขอบคุณคร้าบ

 

หลังไมค์มาจอง 2 รายการนี้ ขอบคุณมากคร้าบ