พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิด



พระปิดตาฝังตะกรุด เจ้าคุณผล ปี 2506

พระเนื้อผงพิมพ์พระปิดตา 2 หน้าเจ้าคุณผล คุตฺตจิตฺโต วัดหนังราชวรวิหาร

บูชา 500 บาท

 

ปืดครับ



เหรียญยืนถือไม้เท้า " หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข " ปี 2522 จัดสร้างตามพิธีเหรียญรุ่นแรก

เหรียญหลวงปู่เผือกเป็นเหรียญที่โด่งดังมากในขณะนั้น เพราะใครที่ห้อยเหรียญหลวงปู่เผือกส่วนใหญ่จะแคล้วคลาดปลอดภัย ฟันแทงไม่เข้า จนทำให้เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เผือกนั้นมีราคาสูงลิบลิ่ว

ใน ปี 2522 พลเอกสงัด ชลออยู่ เกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงปู่เผือก จึงจัดสร้างเหรียญหลวงปู่เผือกขึ้น โดยออกแบบให้เป็นรูปหลวงปู่เผือกยืนถือไม้เท้า ด้านหลังบรรจุอักขระยันต์ครบสูตร และนิมนต์หลวงพ่อสมภพ และเกจิอาจารย์ดังในยุคหลายรูปมาร่วมปลุกเสก โดยหลวงพ่อสมภพ ท่านปลุกเสกพระรุ่นนี้ด้วยพิธีและสะกดคาถาอาคมเฉกเช่นเดียวกับเหรียญรุ่นแรก หลังจากมีผู้นำไปลอง ก็เกิดอิทธิฤทธิ์อภินิหาร อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้าเช่นเดียวกับเหรียญรุ่นแรก อีกทั้งผู้ที่นำไปห้อยบูชาติดตัวก็พบกับประสบการณ์อภินิหารมากมาย จึงนับได้ว่าเหรียญยืนถือไม้เท้าของหลวงปู่เผือกก็เป็นเหรียญที่น่าเก็บสะสม อีกเหรียญหนึ่ง

บูชา 400 บาท

 

ปิด



พระพุทธชินราช วัดไลย์ จ.ลพบุรี พิมพ์เล็ก

เนื้อชินตะกั่วปี๒๔๖๐ (หลวงปู่ศุข ปลุก) พร้อมทองอย่างดี รับประกัน

บูชา 8,000 บาท

 

ปิด



เหรียญหลวงพ่อทวด เปิดโลกเศรษฐี ๕๕ วัดสะแก กรรมการ ปี 2555 เลข ๔๕๓๐ สร้าง 4,999 องค์

บูชา 500 บาท

สืบสานตำนานเหรียญอันลือลั่นของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก 2 รุ่นเปิดโลกเศรษฐี ๕๕

เหรียญรูปไข่ - เหรียญเปิดโลก
เหรียญกลมขอบสตางค์ - เหรียญเศรษฐี

หลวงพ่อทวด-หลวงปู่ดู่ รุ่น "เปิดโลกเศรษฐี ๕๕" จัดสร้างโดย วัดสะแก จ.อยุธยา

ร่วมสร้างประวัติศาสตร์รำลึก ๙ รอบหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยอภิญญาฤทธิ์ รุ่น "เปิดโลกเศรษฐี ๕๕" จัดสร้างโดย พระครูพิศาลธรรมรักษ์ เจ้าอาวาสวัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยาอยุธยา

พิธีพุทธาพิเษก ณ มณฑลพิธีอุโบสถวัดสะแก วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2555 (ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11)

โดย 9 สุดยอดพระเกจิคณาจารย์แห่งลุ่มเจ้าพระยา
หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน
หลวงพ่อรวย วัดตะโก
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรย์
หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ

วัตถุประสงค์เพื่อนำปัจจัยบำรุงเสนาสนะต่างๆ ของวัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา อีกส่วนหนึ่งเพื่อสมทบทุนสร้างศาลาอเนกประสงค์ "พิศาลธรรมรักษ์" ณ วัดเขาดิน จ.พระนครศรีอยุธยา ให้แล้วเสร็จ
เหรียญหลวงพ่อทวด เปิดโลกเศรษฐี ๕๕ รูปใข่ หลวงพ่อทวด-หลวงปู่ดู่ เนื้อทองแดงนอก รมผิวซาติน นี้จัดสร้าง 4,999 เหรียญ

มีเลเซอร์โค้ด และหมายเลขกำกับด้านหลังเหรียญ

 

ปลาตะเพียน เนื้อชินสนิมแดงเก่า หลวงพ่อเนียม วัดน้อย

มีจาร เนื้อหาเก่า เจ้าของเดิม ตัดตลับสแตนเลสใส่อย่างดี รับประกัน ถ้าเอาไปแล้ว เช็คว่า เก่าไม่ถึงยุคจริง คืนเต็มครับ

บูชา 9,500 บาท

 

ปิด



เหรียญหลวงปู่สาม รุ่นแรก

สภาพผ่านการใช้มาครับ สวยๆ แพง รับประกันสากล

บูชา 2,500 บาท

เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก จังหวัดสุรินทร์ ออกปี 2512 เป็นพระสายกัมฐานศิษย์สายพระอาจารย์มั่น เหรียญรุ่นแรกของท่านค่อนข้างหายาก จึงไม่ค่อยมีหมุนเวียนในสนามพระซักเท่าไหร่นัก

 

ปิด



เหรียญพระพรหมรุ่น อนุสรณ์ 118 ปี หลวงปู่ศรี พินทุสุวัณโณ

เป็นเหรียญรูปไข่พิมพ์พระพรหมสี่หน้า แบบพิมพ์เหรียญหลวงปู่ศรี พินทสุวัณโณ "เนื้อทองแดง" จัดสร้างขึ้นโดยคณะศิษย์สายวัดสะแก ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2556 เวลา 13.00 น.ณ.พระอุโบสถ วัดสะแก โดยมีหลวงพ่อชะอ่อน และหลวงลุงดำพระลูกศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ท่านเมตตาอธิษฐานจิต ณ.พระอุโบสถวัดสะแก...

.....ซึ่งถ้ายุคย้อนไปซักช่วงประมาณปี 2500 นั้น หลวงปู่ศรี และหลวงปู่ดู่ท่านถือเป็นคณาจารย์ที่มีความสำคัญ ซึ่งทั้งสองรูปนั้นปัจจุบันเป็นที่รู้จักและยอมรับกันโดยทั่วไป ทั้งในส่วนพระเครื่องรุ่นต่างๆที่มีประสบการณ์มากมาย ซึ่งเป็นที่ประจักษ์และยอมรับถึงพุทธานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหลวงปู่ดู่กับหลวงปู่ศรีได้จัดสร้างวัตถุมงคลของวัดสะแกหลายวาระ อีกทั้งหลวงปู่ดู่ ยังได้นำแบบพิมพ์พระบางแบบพิมพ์ โดยเฉพาะพิมพ์รูปพระพรหมแบบต่าง ๆ ของหลวงปู่ศรี มาจัดสร้างเป็นวัตถุมลคลของท่านไว้มากมายเช่นกัน จะเห็นว่า คณาจารย์ทั้งสองท่าน มีความสำคัญต่อวัดสะแกและมีความสัมพันธ์โดยตรง ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ได้มีการจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ที่ระลึกครบรอบ 118 ปีของหลวงปู่ศรี เป็นพิมพ์พระพรหมสี่หน้าซึ่งถือเป็นแบบพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์ของทางวัด ถือเป็นแบบพิมพ์ที่มีความสวยงาม โดยด้านหน้าเหรียญจะจัดสร้างเป็นแบบพิมพ์ขององค์พระพรหม และส่วนด้านหลังเป็นยันต์สี่ (ยันต์พรหมวิหารสี่) ถือเป็นพระที่สร้างออกมามีจำนวนจัดสร้างที่ชัดเจน เงินจากจำนวนการจัดสร้างถวายวัดทำบุญทั้งหมด

บูชา 500 บาท

 

พระสมเด็จพิมพ์คะแนนพระเนื้อผงชานหมาก หลังติดหนังเสือ

หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี รุ่นแรก ปี2510

บูชา 900 บาท

ประวัติ และเมตตาอภินิหาร
หลวงพ่อเที่ยง (พระครูจันทสโรภาส) วัดม่วงชุม กาญจนบุรี

ผู้เขียน • ร.ต.ท. ชูศักดิ์ ตรงการดี •
อภินิหารหลวงพ่อเที่ยง
ทั้งหมดนี้คัดมาจากหนังสือ “ ฟ้าเมืองไทย ” รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๒๓๒ ทางคณะกรรมการ และผู้เขียน ขอขอบพระคุณ คุณชินพร สุขสถิตย์ และหนังสือ “ ฟ้าเมืองไทย ” ที่ได้ร่วมกุศลกับเราครั้งนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาด กระผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
พระชานหมาก หลวงพ่อเที่ยง-เหาะได้
สาโรจน์ ชวนะลิขิกร
ร.พ.เขื่อนวชิราลงกรณ์
อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เนื้อชานหมากผสมว่าน สีน้ำตาลเเก่ รูปสี่เหลี่ยมเล็บมือ กว้าง ๒ ซม. ยาว ๓ ซม. ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนของท่านเจ้าของ นั่งขัดสมาธิ ใต้รูปยันต์เป็นตัวหนังสือไทย อ่านได้ความว่า "หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม" ......... พระเครื่องที่ผม กล่าวลักษณะข้างบนนี้คือ
พระชานหมากอันลือชื่อของหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี รุ่นล่าสุด คือออกเมื่อวันงานฉลองอายุครบ ๗ รอบของหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม (พระครูจันทสโรภาส) เมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค. ๒๕๑๖ นี้ พอเอ่ยชื่อว่า พระชานหมากหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุมเเล้วไซร้ บรรดาเซียนพระเมืองกาญจน์ หรือจังหวัดใกล้เคียงย่อมรู้จักกันดีว่ามีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยมเพียงใด เเม้ชื่อนี้จะไม่ค่อยคุ้นหูกับบางท่าน นักเลงพระเครื่องนัก เเต่ลองอ่านเรื่องที่ประสบมาเเล้วกับตัวเองของผู้เขียนดูเองบ้าง เเละลองพิจารณาดูซิว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในทำนางนี้จะจัดว่า เป็นอภินิหารของพระชานหมากหลวงพ่อเที่ยงหรือไม่ .... เเละเพียงใด.........
เย็นวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๖ (ปีนี้เอง) ผมปีนต้นมะพร้าวข้างบ้านขึ้นไปตัดลูกอ่อนลงมาหลายลูกเพื่อแจกเด็กลูกๆ ของผมสู่กินกัน การขึ้นต้นมะพร้าวกับต้นตาลนี้ ผมมีความชำนาญมากเพราะเมื่อยังเด็กผมเป็นลูกชาวสวนโดยแท้ แม้เมื่อโตจะได้มารับราชอยู่หลายปี จนห่างเหินกับสิ่งเก่าๆ ไปบ้าง ก็หาได้ทำให้ผมลืมชีวิตลูกบ้านสวนของผมไปไม่ได้ แม้ในระยะหลังๆ นี้สังขารของผมมันจะล่วงโรยไปบ้าง ความกระฉับกระเฉงว่องไวดูลดน้อยกว่าแต่ก่อนไปแยะก็ตาม ถึงอย่างนี้ผมก็ยังสามารถขึ้นต้นมะพร้าว ต้นตาลได้เหมือนเก่า โดยไม่ต้องใช้ไม้พะองพาดโคนต้น สาเหตุที่ทำให้ผมขึ้นต้นมะพร้าวเป็นลิงเป็นค่างครั้งนี้นั้น ก็สืบเนื่องมาจากความอยากของเจ้าลูกสมุนน้อยๆ ทั้งสี่ของผมรวมทั้งแม่เขาด้วย พวกเขาอยากจะกินเนื้อกับน้ำมะพร้าวอ่อนกัน ผมมันเป็นคนตามใจลูกตามใจเมียเสียด้วย ประกอบกับต้นมะพร้าวเหล่านี้หลวงท่านซื้อเป็นที่ชลประทานหมดแล้ว จึงไม่มีเจ้าของหวงห้าม …….. เสียงเจ้าคนตัวเล็กส่งเสียงแจ้วๆ อยู่โคนต้นว่า “เอาอีกพ่อ ........ เอาอีกพ่อ ........” ผมมันก็บ้ายุเหมือนกัน ฟันฉับๆ ลูกแล้วลูกเล่าจนมาถึงลูกสุดท้ายก็พอดีได้เรื่อง คือพอผมฟันลูกมะพร้าวจวนขาด มีดก็กระเด็นหลุดมือผมทันที มันหล่นเอาปลายแหลมลงเสียด้วย ผมมองตามด้วยความตกตะลึงตัวชาไปหมด เพราะพื้นดินที่มีดเหน็บเล่มโตจะลงไปนั้น ลุกชายคนเล็กของผมแกนั่งแหงนคอมองอยู่พอดี เสียงร้องอย่างตกอกตกใจของเมียผมดังขึ้น ผมเองก็ลืมอะไรทั้งหมด รีบกระโดดตามมีดลงมาทันที โดยหาคำนึงสักนิดไม่ว่าจากพื้นดินขึ้นไปถึงยอดมะพร้าวที่ผมนั่งอยู่นั่น มันสูงหลายวาเหลือเกินไม่ต่ำเลย และแน่นอนผมลงแบบดิ่งพสุธา คือเอาหัวลงเสียด้วย ถ้าไม่คอหักตาย ผมก็ต้องพิการไปตลอดชีวิตแน่ ผมรีบหลับตาเมื่อรู้ว่าตูนี้เห็นจะดับดิ้นเป็นแม่นมั่น พื้นล่างโคนต้นมะพร้าวนั้น นอกจากดินจะแข็งปั๋งแล้ว ยังมีก้อนหินก้อนย่อมๆ ตกอยู่เกลื่อนกลาดอีกด้วย ผมคิดว่าผมต้องตายจริงๆ เเต่ ..คุณพระคุณเจ้าช่วย .... เหมือนหนังแขกจริง ๆ ครับ ผมตกถึงพื้นด้วยความปลอดภัย ไม่มีรอยช้ำ ขาไม่หัก คอไม่บิด ทุกอย่างอยู่ครบประการ ๓๒ มีแต่รอยถลอกเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น (เหลือเชื่อนะครับ แต่มันเป็นความจริง) ........ ขณะที่หัวผมกระแทกพื้นดินนั้น ผมได้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับกองนุ่น หรือสำลีที่อ่อนนุ่ม ผมไม่เป็นอะไร แต่เมียเค้าตกใจกำลังสองจนเป็นลม มีดที่หล่นลงมาก่อนก็ไม่ถูกลูกผม มันกระเด็นไปปักกับพื้นดินห่างจากเด็กสักร่วม ๓ วา เห็นจะได้ ยังความประหลาดใจให้กับผมเป็นที่สุด ท่านผู้อ่านครับเหตุการณ์ที่ผมเล่ามานี้ ต้องเป็นอภินิหารของพระชานหมากหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุมแน่ ๆ เพราะที่สร้อยคอของผมกับลูกคนนั้น มีท่านแขวนอยู่คนละองค์ องค์เดียวอย่างเดียวกัน ผมได้มาไว้เป็นกรรมสิทธิ์เมื่อคราวไปตรวจเยี่ยมไข้ท่าน ตอนที่ท่านอาพาธด้วยความดันโลหิตและเหน็บชา หลังจากที่ท่านฉลองอายุครบ ๗ รอบได้ไม่กี่วัน พออาการป่วยของท่านทุเลา ท่านก็มอบพระชานหมากของท่านให้ผมเพื่อเป็นสิริมงคล ๒ องค์ ผมก็เลยไปอัดกรอบพลาสติกแขวนสร้อยคอองค์หนึ่ง อีกองค์ที่เหลือผมให้ลูกชายคนเดียวของผมแขวนคอ (ผมมีลุกสี่คนเป็นหญิงสาม) อันอภินิหารพระชานหมากหลวงพ่อเที่ยงนี้ นอกจากแคล้วคลาด ยังมีอภินิหารในทางรักษาตะขาบกัด แมลงป่องต่อยได้อีกด้วย แม้งูกัดก็เคยมีผู้ที่ได้ไปอาราธนาให้รักษา และ หายได้ผลมาแล้วหลายราย เป็นที่อัศจรรย์ใจของผู้ได้พบเห็นมาแล้วด้วยตนเอง นี่แหละคืออภินิหารส่วนหนึ่งของพระเครื่องใหม่ รุ่นหลังที่หลายคนไม่รู้จัก และอีกหลายคนแสวงหาไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของตน เมื่อได้ประจักษ์กับความจริงในอำนาจพุทธคุณ ของพระชานหมาก หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้ประสบเหตุการณ์ และอภินิหารอันระทึกใจอีกได้แก่ คุณวีรพงษ์ สายสุวรรณ คุณสมัย สุขเกษม คุณสะอาด อินเปี่ยม และอีกหลายท่านที่เราไม่ได้กล่าวถึง ทั้งนี้เพราะหน้ากระดาษจำกัด ฉะนั้นเหรียญดีราคาถูก และเป็นการร่วมกุศลของท่านอีกด้วย เชิญหาบูชาได้ ช้าหมด
ที่มา : หนังสือ " ฟ้าเมืองไทย " รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๒๓๒, หนังสือ " อภินิหารและพระเครื่อง " หน้า ๒๒-๒๓, ร.ต.ท.ชูศักดิ์ ตรงการดี, ทินกร ปลาทอง เเละ นครินทร์ เนตรน้อย

 

ลูกอมผงจินดามณี ผสมผงพรายกุมารและเส้นเกศา หลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่ จ.ระยอง

บูชา 2,000 บาท

 

เหรียญหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร รุ่นเยือนอินเดีย ปี2519

สภาพผ่านการใช้ รับประกันสากลทุกสนาม สวยๆ สองหมื่นขึ้นครับ

บูชา 6,500 บาท

 

หนุมานเนื้อครั่งแก้ว หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ธนบุรี

ชิ้นนี้ เลี่ยมวินเทจเก่ามา รับประกัน ของดีราคาเบา
....

อีกหนึ่ง เครื่องราง ของท่านที่ได้รับความนิยม..


: เป็นเครื่องรางที่หลวงพ่อโอภาสีสร้างไว้ทำมาจากครั่งแก้วเป็นรูปหนุมานในกรอบสี่เหลี่ยม

มีสีแดงและสีดำ ด้านหลังจะเรียบและเจาะรูไว้สำหรับร้อยเชือก ด้ายเจ็ดสี หรือสายสิญจน์ ในการปลุกเสกพระเครื่องของหลวงพ่อโอภาสี ในทุกพิธีท่านจะนำวัตถุมงคลห่อผ้าแล้วผูกห่อวัตถุมงคลเหล่านั้นด้วยเชือกด้ายเจ็ดสีมีสายสิญจน์ระโยงระยางมาสู่แท่นต่างๆในปรัมพิธีปลายสายสิญจน์สุดท้ายจะมีหนุมาณเนื้อครั่งแก้วร้อยติดอยู่ เมื่อเสร็จพิธีลูกศิษย์มักจะต่างรอกันตัดเก็บไว้บูชา นับเป็นอีกสุดยอดเครื่องรางที่ปัจจุบันพบเจอได้น้อยแล้วครับ

บูชา 900 บาท

 

แหนบเหน็บพระ ทองคำแท้

หนัก 7.6 กรัม

19,500 บาท

 

แหนบเหน็บพระ ทองคำแท้

หนัก 2.6 กรัม

7,500 บาท

 

ปิด



ล๊อคเก็ตหลวงปู่มหาอำพัน (พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์) วัดเทพศิรินทราวาส ปี2528

หลังล๊อคเก็ตประกบบูรพาจารย์ของท่าน ด้านในบรรจุเกศาหลวงปู่มหาอำพันและเกศาหลวงพ่อฤษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมตตาอธิษฐานจิตให้ด้วย หายากมากมาก สร้างน้อย สายหลวงพ่อฤาษีไม่ควรพลาด

บูชา 800 บาท

: หลวงปู่มหาอำพันกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
หลวงปู่มหาอำพัน

ท่าน ที่ไปปฏิบัติพระกรรมฐานที่บ้านสายลม สมัยเมื่อกว่า 20 ปี มาแล้ว จะเห็นว่าทุกครั้งพ่อ(หลวงพ่อฤาษีฯ) ไปสอนพระกรรมฐาน จะมีพระภิกขุอายุเกิน 70 ปี รูปร่างอ้วนขาว ผิวทั่วกายมีริ้วรอยด่างไปทั้งตัว นั่งพริ้มตาเปล่งรอยยิ้มอมสุขร่วมปฏิบัติอยู่ด้วยเสมอไปไม่เคยขาด ไม่เคยมาสาย พระคุณเจ้ารูปนั้นคือ หลวงปู่พระมหาอำพันแห่งวัดเทพศิรินทร์ อันเป็นวัดที่สถิตย์ของพระสุปฏิปันโนองค์สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ผู้ระบือนามความดี

ท่านผู้อ่านเอย... เขียนถึงองค์นี้แล้วกลัวว่าภาษาไทยจะมีอักษรไม่พอเขียนบรรยายคุณชาติมารยาท พระของหลวงปู่พระมหาอำพัน เพราะดูไม่ออกว่าท่านจะมีความดีงามความเด่นเห็นชัดอะไรนักหนา แต่เมื่อมาดูมาหาความบกพร่องของท่านกลับหาเค้าหาร่องรอยความเลวไม่ได้

นี่แหละ...เขียนยากตรงนี้แหละ

หลวงปู่ท่านเป็นพระธรรมยุตินิกาย ที่น่าสนใจมากก็คือท่านเป็นทั้งสหายและศิษย์ในทางธรรมของท่านเจ้าคุณนรฯ คือ ท่านบวชก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ 8 เดือน สนิทสนมชอบพอกันแบบพี่น้องในทางธรรม และเคารพยกย่องท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นพระอาจารย์สอนพระกรรมฐาน อยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ด้วยกัน จน ท่านเจ้คุณนรฯ ทิ้งสังขารละโลกอันวุ่นวาย เสวยสุข สงบไปแล้ว แต่หลวงปู่ยังตามไปไม่ได้ ยังคงสถิตย์อยู่วัดเทพศิรินทร์ และมาปฏิบัติธรรมถวายตัวเป็นศิษย์พ่อ (หลวงพ่อฤาษีฯ) ซึ่งเป็นพระมหานิกาย และมีอายุพรรษาอายุขันธ์ห้าอ่อนกว่าหลวงปู่มากมายหลายปี

แต่ว่าท่านเอย..สิ่งอัศจรรย์อันงามตาสบายใจได้ตามหลวงปู่มาด้วย นั่นคือความเคารพนอบน้อมถ่อมตนช่างสูงช่างยิ่งใหญ่อะไรอย่างนั้น หลวงปู่พระมหาอำพันผู้สูงวัย ผู้สงบเยือกเย็น ก้มกราบกรานมือ นบหน้าแนบเท้าพ่อผู้อ่อนวัยอ่อนพรรษา ความเคารพนอบน้อมกับความเมตตาอาทรมาพบกันตรงนั้น..ที่บ้านซอยสายลม เมื่อปี 2518 ได้เกิดตำนานสังฆานุสสติขึ้นในจิตใจของท่านทั้งหลายในยุคนั้น ซึ่งมีผู้เขียนรวมอยู่ด้วยคนหนึ่งด้วย

มีสิ่งหนึ่งซึ่งอยากจะเขียนเล่าให้ฟังจริงๆนั่นคือ..ปรกติแล้วเวลาพ่อให้ ไตรสรณาคมณ์ ทั้งพระและฆราวาสก็พนมมือว่าตามเวลาพ่อให้ศีลห้า ฆราวาสจะพนมมือน้อมใจว่าตามศีล แต่พระจะลดมือลงสำรวมจิตใช่ไหม ? แต่...ไม่ใช่ ! หลวงปู่พระมหาอำพันพนมมือว่ารับศีล ห้าไปกับเขาด้วย และทำอย่างนี้ตลอดมาไม่เคยขาด ไม่เคยพลาดพลั้งเผลอ ประหนึ่งว่าทุกคำ ทุกกระแสความดี ที่พ่อให้ลูกๆนั้น หลวงปู่รับเอาไปประดุจทรัพย์ที่สูงค่ามหาศาล พ่อพูดถึงกริยาของหลวงปู่ทีทำอย่างนั้น ดังนี้..

" คนที่ดีจริงจนไม่มีความเลวค้างใจ เขาทำกันอย่างนี้แหละ "

นับแต่วันนั้นมา พระวัดท่าซุงก็พนมมือเวลาพ่อให้ศีลห้าด้วยความเต็มใจ นี่..เล่าให้ฟัง ! ไม่ได้เกณฑ์ว่าใครๆ จะต้องทำตามนี้เสมอไป



หลวงปู่พระมหาอำพันคลานเข้าไปกราบใกล้ๆ องค์หลวงปู่บุดดา พนมมือกล่าวขอพรว่า

" ธรรมใดที่หลวงปู่เข้าถึงแล้ว ขอให้กระผม..(ท่านคงกล่าวให้จบว่า..ขอให้กระผมได้เข้าถึงธรรมนั้นด้วยเถิด..)

แต่หลวงปู่พระมหาอำพันยังพูดไม่ทันจบ หลวงปู่บุดดาก็จี้นิ้ว จ้องตามาที่หลวงปู่พระมหาอำพัน จ้องตาแจ๋ว พูดเสียงชัดใสเชียวว่า

" จะมาเอาอะไรกันอีก..ใจออกใสเป็นแก้วหมดแล้วนี่... จะมาหลอกกันเสีย เล้ยย... ."

 

ปิดครับ



พระผงพิมพ์จันทร์ลอยวัดสรรเพชร พิมพ์ใหญ่ ปีพ.ศ. 2512
วัดสรรเพชญ นครปฐม

บูชา 600 บาท

พระผงวัดสรรเพชญ จัดสร้างด้วยกันหลายพิมพ์ มีทั้งพิมพ์สมเด็จ พิมพ์ขุนแผนสมาธิ-มารวิชัย ส่วนพิมพ์จันทร์ลอย เป็นพิมพ์ที่แจกกรรมการ มี 2 แบบ คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก

ลักษณะองค์พระ-พิมพ์ใหญ่ เป็นพระพิมพ์กลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 ซม.
ด้านหน้า : เป็นพระพุทธปางมารวิชัยประทับเหนือสิงห์ตรงกลางกลีบบัว และมีการวางยันต์ต่างๆ ไว้
ด้านหลัง : ตรงกลางเป็นนะล้อมโลก และ มีการวางอักขระยันต์ไว้มากมายในรอบวงกลม และ ในกลีบบัว
ซึ่งสัดส่วนต่างๆ นั้นลงตัว และมีความคมชัดมาก

พระผงพิมพ์จันทร์ลอย วัดสรรเพชญ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก 2 วาระ
วาระที่ 1 - ที่วัดชิโนรส กทม. มีพระเกจิคณาจารย์ นั้งปรกปลุกเสก อาทิ
o หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง
o หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
o หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชญ
o หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
o หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
o หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
วาระที่ 2 - ที่วัดเทพศิรินทร์ กทม. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2512
ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตเดี่ยวครั้งใหญ่และครั้งสุดท้าย เมื่ออธิษฐานเสร็จท่านได้เปล่งเสียงดังๆ ว่า
“พระเมตตา พระมหานิยม พระอุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด พระแคล้วคลาด พระคงกระพันชาตรี พระล่องหนหายตัวได้ ”
----------------------------------------

การจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดสรรเพชญ สืบเนื่องมาจากการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เมื่อปีพ.ศ. 2512 และในช่วงดังกล่าวนั้น พุทธศาสนามีความเป็นปึกแผ่น สามัคคีกลมเกลียวกันอย่างดียิ่ง จึงมีการให้ความช่วยเหลือในศาสนกิจกันเป็นอย่างดีในหมู่ของสงฆ์ รวมถึงการสร้างจัดสร้างพระเครื่อง เพื่อนำปัจจัยมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รวมถีงในครั้งการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดสรรเพชญด้วย

พิมพ์พระที่จัดสร้างโดยวัดสรรเพชญ มีความงดงาม วิจิตรปราณีต ด้วยประวัติศาสตร์ของการสร้างวัดตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ทำให้อิทธิพลของศาสนศิลป ยังมีปรากฏบนพิมพ์พระอย่างชัดเจน และในปัจจุบัน พระอุโบสถ และ พระพุทธรูป อันเป็นพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า ตรงฐานชุกชีมีลวดลายปูนปั้นปิดทองประดับกระจกสีเปลือกแมลงทับสวยงามมาก จัดเป็นสกุลศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลายที่มีเหลือเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในเขตอำเภอสามพราน

พระผงพิมพ์จันทร์ลอย วัดสรรเพชญ เกจิอาจารย์ที่ร่วมงานถึงกับออกปากว่าเป็นของดี ที่น่าใช้ และทำให้ศิษย์สายหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง สะสมกัน เนื่องจากหลวงปู่สุข ธมมโชโต ได้นำพระบางส่วน กลับมาทำการปลุกเสกเดี่ยวให้อีกครั้ง

(ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ และขออนุญาติเผยแพร่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ ด้วยความเคารพ)

 

ปิด



พระกริ่งพุทธวิโมกข์หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ,หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยาร่วมอธิฐานจิต สร้างปี2528

ก้นวงเดือนนิยม พิมพ์นี้หลวงปู่ดู่วัดสะแกปลุกเสกให้ด้วยครับ เมื่อปี 2528 หลวงปู่โง่น ได้มีดำริ ที่จะจัดสร้างพระพุทธรูป ไว้แจกจ่าย ตามโรงเรียน ต่างๆ ที่ขาดแคลน พระพุทธรูปบูชาที่หน้าเสาธง จนถึง วันที่ หลวงปู่ละสังขาร ท่านได้สร้างพระพุทธรูป ไว้แจกจ่าย ตามโรงเรียน ไม่ต่ำกว่าสามแสนองค์ โดยที่ไม่คิดมูลค่าใดๆทั้งสิ้น ในปีเดียวกันกับที่หลวงดำริจัดสร้างพระพุทธรูปบูชา ท่านก็ได้สร้างพระพุทธรูปขนาดห้อยคอ เพื่อแจกจ่ายแด่ เหล่าทหารตามฐานที่มั่น ตามแนวชายแดน,ภูหินร่องกล้า เป็นต้น พระกริ่งพุทธวิโมกข์ เป็นที่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่ดู่มากครับ เพราะถือว่าราคาไม่แพงจนเกินไป

บูชา 600 บาท

 

ปิดครับ



สมเด็จจตุรพิธพรชัยปี2518

บูชา 1,600 บาท รับประกันแท้สากล ราคานี้เลยครับ เมื่อก่อนไม่ได้แน่นอน

 

ปิด



พระหูยาน จปร ปี2513

บูชา 500 บาท

 

เหรียญโชคดี พระอาจารย์สุริยันต์ -วัดป่าวังน้ำเย็น ยกฉัตรมหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม

บูชา 800 บาท

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา “วัดพุทธวนาราม” หรือ วัดป่าวังน้ำเย็น บ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งมี พระครูภาวนาชยานุสิฐ หรือ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน ประธานคณะสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น จัดงานบุญยกยอดฉัตรมหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม สำหรับยอดฉัตรสร้างจากทองคำแท้ น้ำหนักถึง 241 บาท โดยมีพระเทพเมธี เจ้าคณะภาค 9 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่ ร่วมงานบุญครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

วันงานยกยอดฉัตรมหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดของพระอาจารย์ สุริยันต์ ปีนี้จึงมีความพิเศษกว่าทุกปี วัดป่าวังน้ำเย็นจึงจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญรุ่นโชคดี ส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิก ชนที่มาร่วมงานมุทิตาสักการะและร่วมยกยอดฉัตรมหาเจดีย์ศรีมหาสารคามครั้งนี้ รวมทั้งหารายได้สมทบทุนก่อสร้างองค์มหาเจดีย์ศรีมหาสารคามให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ในคืนวันที่ 12 ก.พ. ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกขึ้นตลอดคืน พระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรก อาทิ พระอาจารย์ สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น, หลวงปู่หนูอินทร์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นต้น

เหรียญรุ่นโชคดี มีลักษณะเป็นเหรียญกลม ไม่มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญยกขอบ บนสุดมีอักขระยันต์ 3 ตัวอ่านว่า มะ อะ อุ เป็นคาถาตั้งธาตุ บริเวณกลางเหรียญเขียนว่า “โชคดี” ด้านล่างมีอักขระยันต์อ่านว่า นะ ชา ลิ ติ เป็นคาถาหัวใจพระสีวลี และมีอักษรภาษาจีนแปลว่าโชคดี ร่ำรวย ล่างสุดตัวอักษร เขียนคำว่า “พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ”

ส่วนด้านหลังเหรียญ ยกขอบจากด้านขวาของ เหรียญวนขึ้นไปด้านบนวนไปด้านซ้ายเขียนคำว่า “วัดป่าวังน้ำเย็น มหาสารคาม” ด้านล่างสุดเขียนคำว่า “๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐” เป็นวันเดือนปีที่จัดสร้าง ส่วนบริเวณกลางเหรียญจะเป็นอักขระยันต์มหาปรารถนา

จำนวนการสร้าง เนื้อทองคำ สร้าง 139 เหรียญ เปิดบูชา 16,599 บาท เนื้อเงินลงยา สร้าง 599 เหรียญ บูชา 1,200 บาท เนื้อเงินสร้าง 599 เหรียญ บูชา 1,000 บาท นวโลหะ 1,999 เหรียญ บูชา 500 บาท เป็นต้น เนื้อทองแดง สร้าง 5,000 เหรียญ จัดไว้เตรียมแจกในวันยกยอดฉัตรมหาเจดีย์และทุกเหรียญตอกโค้ดพร้อมหมายเลขกำกับ พระอาจารย์สุริยันต์ ได้ทำลายบล็อกด้วยมือท่านเอง จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีออกมา

ภายหลังแล้วเสร็จพิธีการยกยอดฉัตรพระมหาเจดีย์ พระอาจารย์สุริยันต์นำเหรียญรุ่นโชคดีเนื้อทองแดง กว่า 5,000 เหรียญ แจกจ่ายให้กับญาติโยมที่มาร่วมงาน ปรากฏว่าเหรียญไม่พอแจก เนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมนับหมื่นคน ทำให้ญาติโยมจำนวนมากที่พลาดโอกาสพากันแห่เช่าหาวัตถุมงคลรุ่นนี้จากทางวัด เพื่อนำไปสักการบูชา

สำหรับความเป็นมาของวัดป่าวังน้ำเย็นแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2549 ขณะที่พระอาจารย์สุริยันต์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบูรพาเทพนิมิต อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ท่านเป็นพระปฏิบัติดีสืบสายธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังภาคอีสาน จ.นครพนม ทำให้ญาติโยมชาวมหาสารคามมีความเลื่อมใสศรัทธาร่วมกันบริจาคที่ดิน ให้พระอาจารย์สุริยันต์สร้างวัด

ซึ่งพระอาจารย์สุริยันต์ก็รับนิมนต์ โดยร่วมแรงร่วมใจกับญาติโยมและคณะศิษยานุศิษย์พัฒนาที่รกร้างว่างเปล่าผืนนี้ จนกลายสภาพเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง

 

ปิด



เหรียญหลวงพ่อกวย ปี2556

ช่วงแรงๆ ต้องมี 3-4,000 บาทครับ

บูชา 2,400 บาท