ภาพดวงกลมๆในภาพถ่ายงานพระราชทานเพลิงหลวงตามหาบัว

มันคือฝุ่นละอองในอากาศ เมื่อมีควันในอากาศ มีคนเดินมากละอองก็กระจาย ให้มองเป็นเรื่องปรกติ วางใจให้เป็นกลางๆ
กล้องดิจิตอลสามารถเก็บรายละเอียดแบบนี้ได้ง่ายขึ้น และการใช้แฟลตยิ่งสะท้อนได้ดี

 

มันไม่เกี่ยวกับฝุ่นในกล้องครับ เกี่ยวกับฝุ่นนอกกล้อง แลไอน้ำเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น ทีนี้เวลากล้องถ่ายใช้ไฟแฟลต มันก้ไปสะท้อนเท่านั้นเอง เขาก็พิสูจน์ให้เห็นตอน องค์จตุคามดังๆ อะครับ

 

ลองทำเล่นๆ ที่บ้านได้นะครับ เอาอะไรฉีดเป็นละอองน้ำ หรืตบแป้ง ให้ลอยกระจาย แล้วใช้กล้องถ่าย แฟลตกลางคืนจะเห็นมาที่กล้องเพียบครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

 

เราเชื่อเรานับถืออย่างเดียวพอเหรอ ?? ไม่ต้องใช้ปัญญาเหรอ เชื่อในสิ่งที่เข้าใจผิดเป็นโทษหรือประโยชน์ ?? ศาสนาเราสอนให้เชื่ออย่างเดียว ??

 

สิ่งนี้เค้าเรียกว่า ปรากฏการณ์ Orb effect
อยากรู้เพิ่มเติมเสริจในgoogle ครับ ช่างกล้องจะเข้าใจดี

สิ่งแปลกๆพวกนี้ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่จริง
แต่คำสอนของหลวงตา นี่ของจริงแน่นอน

 

ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์ เกิดจากฝุ่นครับ (มีการทดลองและพิสูจน์ว่าจริง)
ถ้าเป็นทางศาสนา เป็นเทพ หรือเทวดา ครับ

แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผม มีทั้งสองอย่างในงานหลวงตา...........

 

เป็นธรรมชาติของกล้องดิจิตอลเมื่อใช้แฟลตถ่ายรูป แสงแฟลตจะสะท้อนผงฝุ่่นให้ปรากฏในรูปน่ะครับ

 

ภาพถ่ายจากกล้องราคาค่อนข้างดี(แต่คนถ่ายไม่ค่อยมีภูมิรู้เรื่องถ่ายภาพมากนัก)เป็น งานมรดกโลกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี2552 ช่วงแสดงแสงสีแสงเสียง งานนี้ฝุ่นมี แสงมี แต่แปลกที่ภาพที่เป็นดวงๆจะบังเอิญปรากฏเฉพาะฉากสำคัญ เช่นฉากที่มีพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยเฉพาะที่บังเอิญกว่าคือว่าเที่ยวมาตั้งแต่เย็น ถ่ายรูปจนแบตเตอรี่ในกล้องหมด พอได้เข้ามาดูแสงสีเสียง เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าจะเข้ามาดู(เพราะดูมาแล้วแทบทุกปี)มีเพื่อนนำบัตรเข้าชมฟรีซึ่งมีอยู่2 ใบมาใส่ให้ในมือ บอกไม่ได้ใช้ช่วยเข้าไปดูหน่อย เราก็คิดว่า ไหนๆก็ได้บัตรมาฟรีเลยเข้าไปดู แล้วที่บอกแบตเตอรรีในกล้องมันหมดแล้ว พอถึงฉากสวยๆก็เลยนึกอยากถ่ายภาพเก็บไว้อีก เลยลองเปิดกล้อง แต่เปิดแล้วถ่ายได้ทีละภาพ แล้วก็ดับ เป็นอย่างนี้อยู่หลายภาพ (แบตมันหมดจริงๆ)ถ่ายเสร็จปิดตัวเองตลอด แล้วลองเปิดถ่ายได้ที่ละภาพแล้วดับอีก ลองขอดูคนข้างๆที่เขาถ่ายรูปเหมือนกันก็ไม่ปรากฏดวงๆในภาพเขาเลย
แหม มันบังเอิญจริงๆ

 

มองด้วยตาก็เห็น มองด้วยปัญญาก็เห็น มองตามคนอื่นบอกก็เห็น ล้วนแล้วแต่เห็นสิ่งเดียวกัน แต่รับรู้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ ความรู้ ความเข้าใจ ที่ได้สะสมมา แต่ขอแค่ เห็น ก็รู้ว่าเห็น พอแล้ว

 

ในงานของหลวงตาผมเชื่อมั่นว่ามีเหล่าเทพ เทวดาต่าง ๆมาเฝ้าแน่นอนหาสงสัยไม่
แต่เรื่องภาพที่เสนอมานั้น คนส่วนใหญ่เขาทราบมาตั้งนานแล้วครับว่าอะไรเป็นอะไรยิ่งคนเล่นกล้อง(digital)ยิ่งทราบดี ตัวผมเองก็เคยทดสอบโดยเทแป้งลงมือแล้วตบให้มันฟุ้งในอากาศแล้วให้อีกคนถ่าย ผลที่ออกมาก็เป็นเหมือนภาพที่เสนอมาครับไม่ผิดเพี้ยน และเหตุผลตรงนี้เองที่ทำให้ ธุรกิจ จตุคามรามเทพค่อย ๆเสื่อมความนิยมลง หลังจากถูกออกมาเปิดเผยว่าดวงกลม ๆนั้นมาจากฝุ่นละออง นั้นและครับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จริงอย่างนั้นไม่ต้องสงสัย

 

น่าจะเป็นดวงธรรมของเหล่าทวยเทพทั้งหลายมาร่วมกันน้อมส่งดวงจิตหลวงตาสู่แดนนิพพานครับ

 

ความชื้นสัมผัส

 

ซึ้งใจครับ หัวใจของหลวงตาแก่ๆรูปหนึ่งที่ไม่มีสมบัติ อะไรติดตัวนอกจากธรรมะเต็มหัวใจ เพียงดวงเดียวเท่านั้น สามารถช่วยให้คนไทย60กว่าล้านคน พ้นจากการเป็นทาสทางเศรษฐกิจและช่วยให้ลูกหลานคนไทยที่จะเกิดอีก หลายล้านคน อยู่เย็นเป็นสุข

ผิดกับหัวใจของคนหลายๆคนที่เป็นคนมั่งมีเรียนจบ ถึงป.เอก ดอกเตอร์ แต่กลับนำความรู้มาเถียง กันไปโต้กันมาให้ชีวิตดีกรีปริญญาของเขาหมดไป โดยไม่ได้ช่วยประเทศชาติเจริญเลย เผลอจะดึงชาติไทยให้ล่มจมอีก

 

มองด้วยสมองก็ได้ มองด้วยใจก็ดี dannce_

 

ช่วยไปเอาภาพถ่ายที่ว่ามาแสดงด้วย
ช่วยถ่ายที่บ้านนะในห้องน้ำก็ได้ห้องนอนก็ได้
ว่ามันเป็นดวงๆอยา่งนี้หรือป่าว
เป็นดวงสีม่วงๆบ้างหรือไม่
หรือเป็นดวงสกปรก
เอามีให้ดูเป็นขวัญตาหน่อยหน่อ

 

ด้วยความเคารพนะครับ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่นะครับ
ถ้าไปถ่ายกลางคืนช่วงที่มีไอน้ำมากหรือมีควัน
ก็จะถ่ายภาพในลักษณะนี้ได้นะครับ ปกติผมก็เคยสงสัยนะครับ
ถ้าถ่ายย้อนแสงในลักษณะดังกล่าวก้อจะเกิดขึ้นได้

ด้วยความเคารพในองค์หลวงตา โดยส่วนตัวก็ศรัทธาและ
คิดว่า เทพ-พรหมทุกองค์ ก็มาร่วมงานนะครับ

แต่ภาพแบบนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ประจำครับ

ลองอ่านตามเอกสารนะครับ
http://www.kalyanamitra.org/board/in...?showtopic=940 <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hma : วันนี้ เมื่อ 08:47 AM



ช่วยถ่ายเป็นดวงๆที่บ้านคุณให้ดูหน่อยนะ
เอางี้กันเลยไม่ต้องแสดงความรู้กันมาก

 

ภาพถ่ายจากกล้องราคาค่อนข้างดี(แต่คนถ่ายไม่ค่อยมีภูมิรู้เรื่องถ่ายภาพมาก นัก)เป็น งานมรดกโลกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี2552 ช่วงแสดงแสงสีแสงเสียง งานนี้ฝุ่นมี แสงมี แต่แปลกที่ภาพที่เป็นดวงๆจะบังเอิญปรากฏเฉพาะฉากสำคัญ เช่นฉากที่มีพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยเฉพาะที่บังเอิญกว่าคือว่าเที่ยวมาตั้งแต่เย็น ถ่ายรูปจนแบตเตอรี่ในกล้องหมด พอได้เข้ามาดูแสงสีเสียง เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าจะเข้ามาดู(เพราะดูมาแล้วแทบทุกปี)มีเพื่อน นำบัตรเข้าชมฟรีซึ่งมีอยู่2 ใบมาใส่ให้ในมือ บอกไม่ได้ใช้ช่วยเข้าไปดูหน่อย เราก็คิดว่า ไหนๆก็ได้บัตรมาฟรีเลยเข้าไปดู แล้วที่บอกแบตเตอรรีในกล้องมันหมดแล้ว พอถึงฉากสวยๆก็เลยนึกอยากถ่ายภาพเก็บไว้อีก เลยลองเปิดกล้อง แต่เปิดแล้วถ่ายได้ทีละภาพ แล้วก็ดับ เป็นอย่างนี้อยู่หลายภาพ (แบตมันหมดจริงๆ)ถ่ายเสร็จปิดตัวเองตลอด แล้วลองเปิดถ่ายได้ที่ละภาพแล้วดับอีก ลองขอดูคนข้างๆที่เขาถ่ายรูปเหมือนกันก็ไม่ปรากฏดวงๆในภาพเขาเลย
แหม มันบังเอิญจริงๆ

<fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>

</fieldset>

ฝุ่นบ้านคุณมันมีเม็ดเดียวเหรอ

 

ลองทำเล่นๆ ที่บ้านได้นะครับ เอาอะไรฉีดเป็นละอองน้ำ หรืตบแป้ง ให้ลอยกระจาย แล้วใช้กล้องถ่าย แฟลตกลางคืนจะเห็นมาที่กล้องเพียบครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น



ช่วยเอาภาพที่ว่ามาแสดงด้วยครับ

 

ผมก็ถ่ายได้เหมือนกันครับ ก็ไม่รู้ว่าคืออารายเหมือนกันครับ

 

เคยมีผู้เอาภาพถ่ายแบบนี้ไปให้หลวงตามหาบัวดู
แล้วท่านตอบว่าอย่างไรไปฟังคำตอบกันน่ะครับ
http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=35066