มุ่งเต็มใจ เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ด้วย

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 18 มกราคม 2011.

  1. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    ..........................................................
    ขออภัยล่วงหน้าครับ
    ขอที่อ้างอิงของข้อความข้างบนหน่อยครับเป็นพระสูตร(ตถาคตภาษิต)ก็จะดีมากครับ
    แต่ถ้าอ้างจากเอกสารทั่วไป(สาวกภาษิต)ก็พอรับได้
    ผมสงสัยเรื่อง ทุกรกิริยา ครับ
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

    อยู่ตรงหมายเลข20ครับ อ้างอิงจากเวบพลังจิตครับ ผมลงพร้อมกันแล้วตัวอักษรหายครับ ดีครับมีประเด็นน่าสนใจก็ลงความเห็นได้เลย


    เรื่องธรรมดาของพระพุทธเจ้า

     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ถามมาก็ เลยเป็นจังหวะตอบครับ

    แต่เป็นความฝันเฉพาะตนเมื่อมีข่าวมรณภาพของท่านใหม่ๆครับ คือได้จากฝันว่าการมรณภาพของท่านเป็นเพียงการทิ้งขันธ์5ในโลกที่หนักและรักษาได้ยาก แต่ท่านยังสามารถช่วยเหลือพระพุทธศาสนา และชาติ ในอีกสภาวะหนึ่งได้อยู่ และสะดวกคล่องตัวกว่าด้วยครับ

    ข้อพิจารณานี้ลึกซึ้งมีประเด็นที่ละเอียดอ่อนและเฉพาะตนครับ ผมเลยเก็บเรื่องราวนี้ไว้เงียบๆ พอดีท่านนักรบเงายกประเด็นนี้ขึ้นมาเลยเล่าความฝันนี้ให้ทราบกันครับ

    เคยได้ยินว่า หลวงตาท่านเองเคยรับปากบุคคลสำคัญไว้ว่าจะอยู่ให้ครบ120ปี ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง? จะพลิกแพลงวิจิตรพิสดารอย่างไรบ้าง?

    ผมเคยมีความฝันที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงตาหลายครั้ง ถึงแม้ว่าแทบไม่ได้มีโอกาสเจอกายเนื้อหลวงตาท่าน หากเจอก็อยู่ไกล แต่ก็รู้สึกว่า ได้รับความเมตตาคุ้มครองจากหลวงตาท่านบ่อยๆ เมื่อกราบไหว้หลวงปู่ครูบาอาจารย์รูปอื่นๆ หลายครั้งท่านก็มักพูดถึงหลวงตากับผม แม้พึ่งเจอกับท่านรูปนั้นเป็นครั้งแรกๆ (ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะลอคเกตพลาสติกห้อยคอรูปหลวงตาทุนสร้างไม่แพงที่มักมีการแจกประชาชนทั่วๆไปที่มางานบุญ ผมมักห้อยบ่อยๆ) อย่างน่าประหลาดใจ

    เมื่อผมนิมนต์หลวงตาไปทอดผ้าป่าช่วยชาติที่บมจ.ทีโอทีเป็นครั้งแรก ผมก็ต้องไปติดต่อกับพระอาจารย์ที่มีหน้าที่ตามขั้นตอนมาตรฐานการติดต่อทั่วไป มีผู้ร่วมงานที่ทีโอทีหลายท่าน ก็เกรงกันว่าท่านจะไม่มา ผมฝันเป็นเสียงว่า ไปงาน(ผ้าป่า?)พระโพธิสัตว์หน่อย ผมเลยค่อนข้างจะแน่ใจว่าท่านจะรับนิมนตร์และหลวงตาท่านก็รับมา และดำเนินการได้เสร็จสิ้นในที่สุด

    พิจารณา มหาพิจารณา
    หากบางท่านไม่ชอบถูกกับนิสัยหรือในกรณีใดๆก็ดี หรือหากผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาทุกๆท่านด้วยนะครับ


    http://palungjit.org/threads/นอกชานระเบียงบ้าน.258369/page-444#post4441144
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
     
  5. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    อนุโมทนาสาธุครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    :cool::cool::cool:


    สาธุในส่วนบุญกุศลโดยดีงามครับ

    วันศุกร์ไปทำบุญที่วัดพุรางบนงานวันเกิดท่านเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรีมาครับ พระอาทิตย์ทรงกลด เม็ดฝนโปรยปราย เย็นสดชื่นรื่นเริงใจครับ ขอเชิญอนุโมทนาบุญ ทาน ศีล ภาวนา ชำระหนี้สงฆ์ น้ำไฟ หนังสือธรรมะ เจ้าภาพบวชเณร เจริญพระพุทธมนตร์ธัมมจักกัปวัตนสูตร โดยพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์จำนวนมาก พิธีบวงสรวงพุทธาภิเษกมา พระอาจารย์ยุคลธรณ์ สำนักสงฆ์เจโตวิมุติ ก็ไปด้วยครับ พระบรมธาตเสด็จมาใสงดงามมากครับ
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    กระผมได้รับอาสาเป็นเจ้าภาพงานบวชพระ​สายธรรมยุติ1รูป ที่จังหว้ตชัยภูมิ คุณพ่อคุณแม่ของนาคท่านที่จะบวช​1พรรษา แจ้งผ่านมาทางท่านเจ้าอาวาส
    โดยรวมปัจจัยอุปัชฌาย์ คู่สวดพระอันดับด้วย นอกจากอัฐบริขาร ประมาณ7พันบาท ตั้งใจว่าจะบอกบุญเพื่อนๆที่ทำง​าน ขอเชิญเพื่อนๆและทุกท่านร่วมอนุ​โมทนาการบำเพ็ญบุญกุศลครั้งนี้ด​้วยกันนะครับ อาทิตย์ที่10 กค. นี้บวชครับ
     
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ขอขอบคุณข้อความดีๆที่ได้ช่วยมาเผยแพร่ในกระทู้นี้และขอให้ผลบุญนี้จงบังเกิดปรากฏแก่ผู้ที่คิดดี กล่าวดี ปฏิบัติดี ด้วยเทอญ.........สาธุ.........สาธุ.........สาธุ

    และขอแจ้งข่าวสารแก่ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ด้วยครับ
    วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่จะถึงนี้ เป็นวันคล้ายวัดเกิดของหลวงพ่อจรัญ และปีนี้เป็นปีพิเศษคือ เป็นวันคล้ายวันเกิด ครบ ๗ รอบ (๘๔ พรรษา )ของหลวงพ่อครับ ลูกศิษย์ลูกหาท่านใด หรือผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อ เชิญร่วมทำบุญได้ที่วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี ครับ... และขออนุโมทนาบุญกุศลบารมีกับทุกท่านด้วย ...สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    http://palungjit.org/threads/เชิญหล...ดสระพัง-วันอาทิตย์ที่-๒๑-สิงหาคม-๒๕๕๔.293422/

    เนื่องด้วยกระผมรับเป็นเจ้าภาพทองคำ1บาท ในงานหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ องค์นี้ (เจ้าภาพมีทั้งหมดประมาณ14ท่าน รวมกระผมด้วยครับ) เมื่อหล่อสำเร็จแล้ว ท่านเจ้าอาวาส วัดสระพัง อ.กำแพงเสน นครปฐม จะได้นำไปบรรจุในพระสมเด็จองค์ปฐมทันใจ องค์ใหญ่หน้าตักประมาณ10เมตร หรือ20เมตร ในสถานที่ๆเหมาะสม เป็นบุญใหญ่ร่วมสร้างพุทธเจดีย์อีกชั้นหนึ่ง(เข้าใจว่า ตามปกติพระอาจารย์ท่านบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ทำให้กลายเป็นบุญใหญ่พระพุทธเจดีย์ทานอีกชั้นหนึ่งครับ) ภายในงาน มีบุญเลี้ยงพระเพลประมาณ พันรูปด้วย จึงใคร่เรียนเชิญทุกท่านมาร่วมบุญใหญ่เจ้าภาพทองคำสร้างพระพุทธรูปและพระพุทธเจดีย์กับกระผม เป็นดั่งบัญชีบุญทองคำดังกล่าวร่วมกันครับตามหมายเลขบัญชี ดังต่อไปนี้


    ธนาคารกรุงไทย สำนักงานสาขาย่อย ทีโอที (แจ้งวัฒนะ)
    บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 066-0-05697-6

    ขื่อ นายกุศลมงคล สุวรรณกูฏ


    พระอาจารย์ไพโรจน์ เป็นพระกรรมฐาน สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปรารถนาพุทธภูมิ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น รู้จักชื่อเสียงด้านสร้างพระพุทธรูปทันใจองค์ใหญ่ของท่านดีครับ พระอาจารย์สายหลวงปู่มั่นรูปหนึ่งเมื่อท่านอธิษฐาน ทองคำบาทนี้นั้น ท่านกล่าวว่า รู้จักท่านดี และกระผมเข้าใจว่าท่านเคยร่วมบุญพระใหญ่ทันใจกับ พระอาจารย์ไพโรจน์ด้วยครับ

    ขอให้โครงการสำเร็จเรียบร้อยโดยดีงามครับ

    พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง
    พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
    เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ด้วย
    โดยดีงามครับ




    ที่มา
    http://palungjit.org/threads/เชิญร่วมบุญเจ้าภาพทองคำองค์ปฐมทองคำ-วัดสระพัง-21-สิงหาคม.301379/
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
     
  13. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    มหาปุริสลักขณะ ๓๒


    ที่มา

    http://www.buddhadasa.org/html/life-work/dhammakot/01-buddha/1-13.html

    ประกอบด้วยมหาปุริสลักขณะ ๓๒

    ภิกษุ ท. ! มหาบุรุษ (คือพระองค์เองก่อนผนวช) ผู้ประกอบด้วย มหาปุริสลักขณะ ๓๒ ประการ ย่อมมีคติเป็นสอง หาเป็นอย่างอื่นไม่ คือ :-

    ถ้าเป็นฆราวาส ย่อมเป็นจักรพรรดิผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม มีแว่นแคว้นจดมหาสมุทรทั้งสี่เป็นที่สุด มีชนบทอันบริบูรณ์ ประกอบด้วยแก้ว ๗ ประการ. แก้ว ๗ ประการ ย่อมเกิดแก่มหาบุรุษนั้นคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คหบดีแก้ว และปริณายกแก้ว เป็นที่ ๗. มีบุตรผู้กล้าหาญ มีแววแห่งคนกล้าอันใครๆ จะย่ำยีมิได้ ตามเสด็จกว่า ๑๐๐๐. มหาบุรุษนั้นชนะแล้วครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นที่สุดโดยรอบ, ไม่มีหลักตอเสี้ยนหนาม มั่งคั่ง เบิกบาน เกษม ร่มเย็น ปราศจากเสนียดคือโจร, ทรงครอบครองโดยธรรมอันสม่ำเสมอ มิใช่โดยอาญาและศาสตรา.

    ถ้า ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีประโยชน์เกื้อกูลด้วยเรือน ยอมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีกิเลสเครื่องปกปิดอันเปิดแล้ว ในโลก.

    ภิกษุ ท.! มหาปุริสลักขณะ ๓๒ ประการนั้น เหล่าไหนเล่า? คือ :-

    ๑. มหาบุรุษ มีพื้นเท้าสม่ำเสมอ.
    ๒. มหาบุรุษ ที่ฝ่าเท้ามีจักรเกิดแล้ว, มีซี่ตั้งพัน พร้อมทั้งกงและดุม.
    ๓. มหาบุรุษ มีส้นเท้ายาว.
    ๔. มหาบุรุษ มีข้อนิ้วยาว.
    ๕. มหาบุรุษ มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนละมุน.
    ๖. มหาบุรุษ มีลายฝ่ามือฝ่าเท้าดุจตาข่าย.
    ๗. มหาบุรุษ มีข้อเท้าอยู่สูง.
    ๘. มหาบุรุษ มีแข้งดุจแข้งเนื้อทราย.
    ๙. มหาบุรุษ ยืนไม่ย่อตัวลง แตะเข่าได้ด้วยมือทั้งสอง.
    ๑๐. มหาบุรุษ มีองคชาตตั้งอยู่ในฝัก.
    ๑๑. มหาบุรุษ มีสีกายดุจทอง คือมีผิวหนังดุจทอง.
    ๑๒. มหาบุรุษ มีผิวหนังละเอียด ละอองจับไม่ได้.
    ๑๓. มหาบุรุษ มีขนขุมละเส้น เส้นหนึ่งๆ อยู่ขุมหนึ่งๆ.
    ๑๔. มหาบุรุษ มีปลายขนช้อนขึ้น สีดุจดอกอัญชัน ขึ้นเวียนขวา
    ๑๕. มหาบุรุษ มีกายตรงดุจกายพรหม.
    ๑๖. มหาบุรุษ มีเนื้อนูนหนาในที่ ๗ แห่ง (คือหลังมือหลังเท้าบ่าคอ).
    ๑๗. มหาบุรุษ มีกายข้างหน้า ดุจราชสีห์.
    ๑๘. มหาบุรุษ มีหลังเต็ม (ไม่มีร่องหลัง).
    ๑๙. มหาบุรุษ มีทรวดทรงดุจต้นไทย กายกับวาเท่ากัน.
    ๒๐. มหาบุรุษ มีคอ กลมเกลี้ยง.
    ๒๑. มหาบุรุษ มีประสาทรับรสอันเลิศ.
    ๒๒. มหาบุรุษ มีคางดุจคางราชสีห์.
    ๒๓. มหาบุรุษ มีฟัน ๔๐ ซี่บริบูรณ์.
    ๒๔. มหาบุรุษ มีฟันเรียบเสมอ.
    ๒๕. มหาบุรุษ มีฟันสนิท (ชิด).
    ๒๖. มหาบุรุษ มีเขี้ยวสีขาวงาม.
    ๒๗. มหาบุรุษ มีลิ้น (ใหญ่และยาว) เพียงพอ.
    ๒๘. มหาบุรุษ มีเสียงดุจเสียงพรหม พูดเหมือน นกการวิก.
    ๒๙. มหาบุรุษ มีตาเขียวสนิท (สีนิล).
    ๓๐. มหาบุรุษ มีตาดุจตาวัว.
    ๓๑. มหาบุรุษ มีอุณาโลมหว่างคิ้ว ขาวอ่อนเหมือนสำลี.
    ๓๒. มหาบุรุษ มีศีรษะรับกับกรอบหน้า.

    ภิกษุ ท. ! นี้เป็นมหาปุริสลักขณะ ๓๒ ประการ ของมหาบุรุษ.

    บาลี ลักขณสูตร ปา. ที. ๑๑/๑๕๗/๑๓๐.
    ตรัสแก่ภิกษุ ท. ที่เชตวัน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2011
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    บุรพกรรมของการได้มหาปุริสลักขณะ

    ที่มา


    บุรพกรรมของการได้มหาปุริสลักขณะ

    ....ภิกษุ ท.! พวกฤๅษีภายนอก จำมนต์มหาปุริสลักขณะได้ก็จริง แต่หารู้ไม่ว่า การที่มหาบุรุษได้ลักขณะอันนี้ๆ เพราะทำกรรมเช่นนี้ๆ :

    (ก) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ในภพที่อยู่อาศัยก่อน ได้เป็นผู้บากบั่นในกุศล ถือมั่นในกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต, ในการบริจาคทาน การสมาทานศีล การรักษาอุโบสถ การปฏิบัติมารดา บิดาการปฏิบัติสมณพราหมณ์ การอ่อนน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล และในอธิกุศลธรรมอื่น. เพราะได้กระทำ ได้สร้างสม ได้พอกพูน ได้มั่วสุมกรรมนั้นๆ ไว้, ภายหลังแต่การตาย เพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์. ตถาคตนั้นถือเอายิ่งกว่าในเทพเหล่าอื่นโดย ฐานะ ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณะทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ สัมผัสทิพย์; ครั้นจุติจากภพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือ มีฝ่าเท้าเสมอ จดลงก็เสมอ ยกขึ้นก็เสมอ ฝ่าเท้าถูกต้องพื้นพร้อมกัน... (ลักขณะที่ ๑), ย่อมเป็นผู้ไม่หวาดหวั่นต่อข้าศึกทั้งภายในและภายนอก คือราคะ โทสะ โมหะ ก็ตาม สมณะพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ก็ตาม ในโลก ที่เป็นศัตรู.

    (ข) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....* ได้เป็นผู้นำสุขมาให้แก่มหาชน เป็นผู้บรรเทาภัยคือความสะดุ้งหวาดเสียว จัดการคุ้มครองรักษาโดยธรรม ได้ถวายทานมีเครื่องบริวาร. เพราะได้กระทำ....กรรมนั้นๆ ไว้....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือ ภายใต้ฝ่าเท้ามีจักรทั้งหลายเกิดขึ้น มีซี่ตั้งพัน พร้อมด้วยกงและดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง มีระยะอันจัดไว้ด้วยดี....(ลักขณะที่ ๒), ย่อมเป็นผู้มีบริวารมาก : ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ย่อมเป็น บริวารของตถาคต.

    (ค) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต วางแล้วซึ่งศาสตราและอาชญา มีความละอาย เอ็นดู กรุณาเกื้อกูลแก่สัตว์มีชีวิตทั้งปวง. เพราะ...กรรมนั้นๆ... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะทั้ง ๓ ข้อนี้ คือ มีส้นยาว มีข้อนิ้วยาว มีกายตรงดุจกายพรหม.... (ลักขณะที่ ๓,๔,๑๕), ย่อมเป็นผู้มีชนมายุยืนยาวตลอดกาลนาน; สมณะหรือพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม ก็ตาม หรือใครๆ ที่เป็นศัตรู ไม่สามารถปลงชีวิตตถาคตเสียในระหว่างได้.

    (ง) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ให้ทานของควรเคี้ยว ควรบริโภค ควรลิ้ม ควรจิบ ควรดื่ม มีรสอันประณีต. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือมีเนื้อนูนหนาในที่ ๗ แห่ง คือที่มือทั้งสอง ที่บ่าทั้งสอง และที่คอ.. (ลักขณะที่ ๑๖), ย่อมได้ของควรเคี้ยว ควรบริโภค ควรลิ้ม ควรจิบ ควรดื่มอันมีรสประณีต.

    (จ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้สงเคราะห์ผู้อื่นด้วยสังคหวัตถุทั้งสี่ คือ การให้สิ่งของ วาจาที่ไพเราะ การประพฤติประโยชน์ผู้อื่น และความมีตนเสอมกัน. เพราะ.. กรรม นั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้คือ มีมือและเท้าอ่อนนุ่มมีลายฝ่ามือฝ่าเท้าดุจตาข่าย.... (ลักขณะที่ ๕,๖), ย่อมเป็นผู้สงเคราะห์บริษัท คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ย่อมได้รับความสงเคราะห์จากตถาคต.

    (ฉ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้กล่าววาจาประกอบด้วยอรรถด้วยธรรม แนะนำชนเป็นอันมาก เป็นผู้นำประโยชน์สุขมาให้แก่ชนทั้งหลาย ตนเองก็เป็นผู้บูชาธรรม. เพราะ....กรรมนั้นๆ.... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้ คือ มีข้อเท้าอยู่สูง มีปลายขนช้อนขึ้น.... (ลักขณะที่ ๗,๑๔), ย่อมเป็นผู้เลิศประเสริฐเยี่ยมสูงกว่าสัตว์ทั้งหลาย.

    (ช) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้บอกศิลปวิทยา ข้อประพฤติ และลัทธิกรรมด้วยความเคารพ ด้วยหวังว่าสัตว์เหล่านั้นพึงรู้ได้รวดเร็วพึงปฏิบัติได้รวดเร็ว ไม่พึงเศร้าหมองสิ้นกาลนาน. เพราะ....กรรมนั้นๆ ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือ มีแข้งดังแข้งเนื้อทราย(ลักขณะที่ ๘), ย่อมได้วัตถุอันควรแก่สมณะ เป็นองค์แห่งสมณะเป็นเครื่องอุปโภคแก่สมณะ โดยเร็ว.

    (ซ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นผู้เข้าไปหาสมณพราหมณ์แล้วสอบถามว่า 'ท่านผู้เจริญ ! อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ ทำอะไรไม่มีประโยชน์ เป็นทุกข์ไปนาน ทำอะไรมีประโยชน์ เป็นสุขไปนาน'. เพราะ ....กรรมนั้นๆ.... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือมีผิวละเอียดอ่อน ธุลีไม่ติดอยู่ได้....(ลักขณะที่ ๑๒), ย่อมเป็นผู้มีปัญญาใหญ่ มีปัญญาหนาแน่น มีปัญญาเครื่องปลื้มใจ ปัญญาแล่น ปัญญาแหลม ปัญญาแทงตลอด,ไม่มีสัตว์อื่นเสมอ หรือยิ่งไปกว่า.

    (ฌ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ไม่มักโกรธ ไม่มากไปด้วยความแค้น แม้ชนเป็นอันมาก ว่ากล่าวเอา ก็ไม่เอาใจใส่ไม่โกรธ ไม่พยาบาท ไม่คุมแค้น ไม่แสดงความโกรธ ความร้ายกาจ ความเสียใจให้ปรากฏ. ทั้งเป็นผู้ให้ทานผ้าเปลือกไม้ ผ้าด้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ สำหรับลาดและนุ่งห่ม อันมีเนื้อละเอียดอ่อน. เพราะ....กรรมนั้นๆ.... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือ มีกายดุจทอง มีผิวดุจทอง....(ลักขณะที่ ๑๑), ย่อมเป็นผู้ได้ผ้าเปลือกไม้ ผ้าด้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์สำหรับลาดและห่ม มีเนื้อละเอียดอ่อน.

    (ญ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้สมานญาติมิตร สหายชาวเกลอ ผู้เหินห่างแยกกันไปนาน, ได้สมานไมตรีมารดากับบุตร บุตรกับมารดา บิดากับบุตร บุตรกับบิดา พี่น้องชายกับพี่น้องหญิง พี่น้องหญิงกับพี่น้องชาย, ครั้นทำความสามัคคีแล้ว พลอยชื่นชมยินดีด้วย. เพราะ.... กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ข้อนี้คือ มีคุยหฐาน(อวัยวะที่ลับ) ซ่อนอยู่ในฝัก.... (ลักขณะที่ ๑๐), ย่อมเป็นผู้มีบุตร (สาวก) มากมีบุตรกล้าหาญ มีแววแห่งคนกล้า อันเสนาแห่งบุคคลอื่นจะย่ำยีมิได้ หลายพัน.

    (ฎ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นผู้สังเกตชั้นเชิงของมหาชน รู้ได้สม่ำเสมอ รู้ได้เอง รู้จักบุรุษธรรมดา และบุรุษพิเศษว่าผู้นี้ ควรแก่สิ่งนี้ๆ, ได้เป็นผู้ทำประโยชน์อย่างวิเศษในชนชั้นนั้นๆ. เพราะ....กรรมนั้นๆ.... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้ คือมีทรวดทรงดุจต้นไทร, ยืนตรงไม่ย่อกาย ลูบถึงเข่าได้ด้วยมือทั้งสอง....(ลักขณะที่ ๑๙,๙), ย่อมมั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก. ทรัพย์ของตถาคตเหล่านี้คือ ทรัพย์คือศรัทธา ทรัพย์คือศีล ทรัพย์คือหิริ ทรัพย์คือโอตตัปปะทรัพย์คือการศึกษา (สุตะ) ทรัพย์คือจาคะ ทรัพย์คือปัญญา.

    (ฐ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ใคร่ต่อประโยชน์ ใคร่ต่อความเกื้อกูล ใคร่ต่อความผาสุข ใคร่ต่อความเกษมจากโยคะแก่ชนเป็นอันมาก ว่า 'ไฉนชนเหล่านี้พึงเป็นผู้เจริญด้วยศรัทธา ด้วยศีล ด้วยการศึกษา ด้วยความรู้ ด้วยการเผื่อแผ่ ด้วยธรรม ด้วยปัญญา ด้วยทรัพย์และข้าวเปลือก ด้วยนาและสวน ด้วยสัตว์สองเท้าสี่เท้า ด้วยบุตรภรรยา ด้วยทาสกรรมกรและบุรุษ ด้วยญาติมิตรและพวกพ้อง'. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๓ ข้อนี้ คือมีกึ่งกายเบื้องหน้า ดุจสีหะ,มีหลังเต็ม, มีคอกลม.. (ลักขณะที่ ๑๗,๑๘,๒๐), ย่อมเป็นผู้ไม่เสื่อมเป็นธรรมดาคือไม่เสื่อมจากศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา, ไม่เสื่อมจากสมบัติทั้งปวง.

    (ฑ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ด้วยฝ่ามือก็ตาม ก้อนดินก็ตาม ท่อนไม้ก็ตาม ศาสตราก็ตาม. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือมีประสาทรับรสอันเลิศ มีปลายขึ้นเบื้องบน เกิดแล้วที่คอ รับรสโดยสม่ำเสมอ....(ลักขณะที่ ๒๑), ย่อมเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย มีความร้อนแห่งกายเป็นวิบากอันสม่ำเสมอ ไม่เย็นเกินร้อนเกิน พอควรแก่ความเพียร.

    (ฒ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ....ได้เป็นผู้ไม่ถลึงตา ไม่ค้อนควัก ไม่จ้องลับหลัง, เป็นผู้แช่มชื่นมองดูตรงๆ มองดูผู้อื่นด้วยสายตาอันแสดงความรัก. เพราะ....กรรมนั้นๆ... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้ คือมีตาเขียวสนิท; มีตาดุจตาโค.... (ลักขณะที่ ๒๙, ๓๐), ย่อมเป็นที่ต้องตาของชนหมู่มาก เป็นที่รักใคร่พอใจของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์.

    (ณ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นหัวหน้าของชนเป็นอันมาก ในกุศลธรรมทั้งหลาย ได้เป็นประธานของชนเป็นอันมาก ในกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต, ในการจำแนกทาน การสมาทานศีลการรักษาอุโบสถ การประพฤติเกื้อกูลในมารดาบิดา สมณพราหมณ์, การนอบน้อมต่อผู้เจริญในตระกูล ในอธิกุศลธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้ คือมีศีรษะรับกับกรอบหน้า....(ลักขณะที่ ๓๒), ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนประพฤติตาม คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ประพฤติตาม.

    (ด) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นผู้ละเว้นจากมุสาวาท พูดคำจริง หลั่งคำสัจจ์ เที่ยงแท้ ซื้อตรง ไม่หลอกลวงโลก. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้ คือมีขนขุมละเส้น, มีอุณาโลมหว่างคิ้วขาวอ่อนดุจสำลี, …. (ลักขณะที่๑๓,๓๑), ย่อมเป็นผู้ที่มหาชนเป็นไปใกล้ชิด คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ ใกล้ชิด.

    (ต) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน.... ได้เป็นผู้ละเว้นวาจาส่อเสียด (คือคำยุให้แตกกัน), คือไม่ฟังจากข้างนี้แล้วไปบอกข้างโน้นเพื่อทำลายชนพวกนี้, ไม่ฟังจากข้างโน้นแล้วมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายชนพวกโน้น, เป็นผู้สมานพวกแตกกันแล้ว และส่งเสริมพวกที่พร้อมเพรียงกัน; เป็นผู้ยินดีในการพร้อมเพรียง เพลินในการพร้อมเพรียง กล่าวแต่วาจาที่ทำให้เกิดความพร้อมเพรียง. เพราะ....กรรมนั้นๆ....ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้วจึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ อย่างนี้ คือมีฟันครบ ๔๐ ซี่ มีฟันสนิท ไม่ห่างกัน....(ลักขณะที่ ๒๓, ๒๕), ย่อมเป็นผู้มีบริษัทไม่กระจัดกระจาย คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ เป็นบริษัทไม่กระจัดกระจาย.

    (ถ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ละเว้นการกล่าวคำหยาบ, กล่าวแต่วาจาที่ไม่มีโทษ เป็นสุขแก่หู เป็นที่ตั้งแห่งความรักซึมซาบถึงใจ เป็นคำพูดของชาวเมือง เป็นที่พอใจและชอบใจของชนเป็นอันมาก. เพราะ....กรรมนั้นๆ.... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ ย่อมได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนี้ คือมีลิ้นอันเพียงพอ, มีเสียงเหมือนพรหม พูดเหมือนนกการวิก.... (ลักขณะที่ ๒๗,๒๘), ย่อมเป็นผู้มีวาจาที่ผู้อื่นเอื้อเฟื้อเชื่อฟัง คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ เอื้อเฟื้อเชื่อฟัง.

    (ธ) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ละเว้นการพูดเพ้อเจ้อ, เป็นผู้กล่าวควรแก่เวลา กล่าวคำจริง กล่าวเป็นธรรม กล่าวมีอรรถ กล่าวเป็นวินัย กล่าวมีที่ตั้ง มีหลักฐาน มีที่สุด ประกอบด้วยประโยชน์. เพราะ....กรรมนั้นๆ .... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว ย่อมได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้ คือมีคางดุจคางราชสีห์....(ลักขณะที่ ๒๒), ย่อมเป็นผู้ที่ศัตรูทั้งภายในและภายนอกกำจัดไม่ได้ : ศัตรู คือ ราคะ โทสะ โมหะ หรือ สมณะ พราหมณ์เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก กำจัดไม่ได้.

    (น) ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน....ได้เป็นผู้ละมิจฉาชีพ มีการเลี้ยงชีพชอบ เว้นจากการฉ้อโกงด้วยตาชั่ง ด้วยของปลอม ด้วยเครื่องตวงเครื่องวัด จากการโกงการลวง เว้นจากการตัด การฆ่า การผูกมัด การร่วมทำร้าย การปล้น การกรรโชก. เพราะ....กรรมนั้นๆ... ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์อย่างนี้ จึงได้มหาปุริสลักขณะ ๒ ข้อนั้น คือมีฟันอันเรียบเสมอ, มีเขี้ยวขาวงาม....(ลักขณะที่ ๒๔,๒๖), ย่อมเป็นผู้มีบริวารเป็นคนสะอาด คือมีภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ เป็นบริวารอันสะอาด.

    บาลี ลักขณสูตร ปา. ที. ๑๑/๑๕๙-๑๙๓/๑๓๐-๑๗๑.

    * ที่ละไว้ด้วยจุด .... ดังนี้ ทุกแห่งหมายความว่า คำที่ละไว้นั้นซ้ำกันเหมือนในข้อ (ก) ข้างบน. เติมเอาเองก็ได้ แม้ไม่เติมก็ได้ความเท่ากัน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2011
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พระพุทธบาทประดับมุกภาพมงคล ๑๐๘ ตรงกลางเป็นรูปกงจักรตามตำรามหาปุริสลักษณะ

    [​IMG][/IMG]

    พระพุทธบาทประดับมุกภาพมงคล ๑๐๘ ตรงกลางเป็นรูปกงจักรตามตำรามหาปุริสลักษณะ

    - slice of life
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อนุโมทนา สาธุครับ


    นำข้อเขียนนี้มาจาก FaceBook
    คุณเกเก้ ธัญชรินทร์
    กลุ่มธรรมะออนไลน์ เจริญธรรมสวัสดี

    บุญเกิดจากการไหว้พระสวดมนต์

    การไหว้พระสวดมนต์ คือ
    การที่เราตั้งใจปฏิบัติบูชาองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวสรรเสริญ ระลึกนึกถึงคุณงามความดีผู้ที่มีบุญบาระมีเต็มสมบูรณ์ ให้คำสั่ง คำสอนมาเป็นที่พึ่งของเรา

    ... เป็นพระบิดาพระศาสดาสิ่งดีงามของเรา เพราะว่าการที่จิตเราหมั่นระลึกถึงคนที่สร้างความดีมามากเต็มสมบูรณ์ นั้น บุญกุศล สติปัญญา คุณงามความดีจะบังเกิดขึ้นแก่ตัวเราเองด้วย จิตที่

    เคารพศรัทธา นอบน้อมเอาคำสอน คำสั่ง มาปฏิบัติตาม ด้วยกิริยามารยาทที่เรียบร้อยงดงาม ปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่องโดยสม่ำเสมอความพ้นทุกข์ พ้นเวร พ้นกรรม จักมีแก่เราทุกคนบุญ

    กุศล ผลดีของการไหว้พระ สวดมนต์ จะทำให้จิตใจของเราผ่อนคลาย ความคิดความนึกความไม่สบายจิต ความไม่สบายใจ คลายความวิตกกังวลคลายความหงุดหงิดฟุ้งซ่าน รำคาญ

    ใจที่มาคลอบงำจิตใจให้เร่าร้อน รู้สึกผ่อนคลายออกไปเรื่อยๆ คืออารมณ์จะออกทางปากทางเสียงที่เราสวดมนต์ออกมา โดยอัตโนมัติ เป็นปกติธรรมชาติ ให้ทดลองสังเกตุดูจะรู้เอง

    ความเครียดทั้งหลาย ขยะอารมณ์ทั้งหลาย สิ่งชั่วร้ายที่มีอยู่ในจิตใจจะค่อยๆ ผ่อนคลายออกไปเรื่อยๆ จนหมดสิ้นไปแม้แต่เวรกรรมความทุกข์ที่อยู่ในจิตใจและดวงจิตวิญญาณของเจ้า

    กรรมนายเวรก็จะหมดสิ้นไปด้วยเหมือนกัน เมื่อสิ่งไม่ดีออกจากจิตใจแล้วสิ่งดีงามความรู้สึกที่ดีที่เปี่ยมไปด้วยจิต อันบริสุทธิ์สะอาด มีจิตเมตตาโดยธรรมชาติ ให้เราทุกคนตั้งจิตอธิษฐาน

    แผ่เมตตา ส่งกระแสจิตที่ดีๆไปให้กับบุคคลอื่นๆ จะเกิดผลดีมากมายอย่างมหาศาล ส่วนตัวเรานั้นจะบังเกิดปิติความสุข - ขนลุก ขนชัน อิ่มอกอิ่มใจรู้สึกผ่อนคลาย ตัวเบาสบาย บางทีปิ

    ติจนน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ต้องไปฝืนให้ผ่อนคลายแผ่ออกไปเรื่อยๆ มากเท่าไหร่ยิ่งดีไม่มีประมาณเหล่าดวงจิตวิญญาณทั้งหลายดวงจิตเจ้ากรรมนาย เวรทั้งหลาย ดวงจิตความ

    รู้สึกนึกคิดคำพูดคำจา คำด่า คำแช่ง เสนียดจัญไร จะกระเด็นออกไปจากร่างกายและจิตใจของเราทันที นี่คือพุทธานุภาพ บุญบาระมีของพระพุทธะเจ้าและพลังบุญบาระมี คุณงาม

    ความดี ที่เราได้สร้างสะสมมา ด้วยความอดทน จนได้พบและเจอะเจอในที่สุด
    (อย่าคิดว่าติดสุข ถ้ายังไม่เคยเจอเมื่อสุขแล้วจะวางได้ เอง)


    สาธุๆๆ
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    กระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท เสถียร โพธินันทะ
    http://palungjit.org/threads/กระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท-เสถียร-โพธินันทะ.309323/

    [​IMG]



    พระอาการวัตตาสูตร


    เป็นสูตรโบราณนับถือกันมาว่าศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ไม่ปรากฏมีอยู่ในพระไตรปิฎกเลย เนื้อเรื่องก็เป็นทำนองพระพุทธภาษิต ตรัสแสดงแก่พระสารีบุตร ณ ภูเขาคิชฌกูฎ แขวงเมืองราชคฤห์ พระเถรเจ้าได้เล็งญาณเห็นส่ำสัตว์ผู้หนาด้วยกิเลส ได้ประกอบอกุศลกรรมต้องไปอบาย จึงมีความปริวิตก กรุณาในส่ำสัตว์ทั้งหลายยิ่งนัก เห็นอยู่แต่พระบารมี ๓๐ ทัศ ซึ่งพระบรมศาสดาบำเพ็ญมาเท่านั้นจะช่วยป้องกันสัตว์เหล่านั้นได้ จึงกราบทูลถามพระผู้มีพระภาค พรรณนาความปริวิตกของท่านให้ทรงทราบ สมเด็จพระบรมศาสดาจึงทรง แสดงพระอาการวัตตาสูตร กำหนดด้วยวรรค ๑๗ วรรค คือ อรหาทิคุณ ๑ อภินิหารวรรค ๑ คัพภวุฏฐานวรรค ๑ อภิสัมโพธิวรรค ๑ มหาปัญญาวรรค ๑ ปารมิวรรค ๑ ทสปารมิวรรค ๑ วิชชาวรรค ๑ ปริญญาณวรรค ๑ โพธิปักขิยวรรค ๑ ทสพลญาณวรรค ๑ กายพลวรรค ๑ ถามพลวรรค ๑ จริยาวรรค ๑ ลักขณวรรค ๑ คตัฏฐานวรรค ๑ ปเวณีวรรค ๑ รวม ๑๗ วรรค มีข้อความพิสดาร แต่ล้วนเป็นคำสรรเสริญพระพุทธคุณว่า พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทรงบริบูรณ์ด้วยพระคุณอย่างนี้ ๆ เช่น ในอรหาทิคุณวรรค มีข้อความดังนี้

    “อิติปิ โส ภควา อรหํ อิติปิ โส ภควา

    สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิติปิ โส ภควา วิชฺชาจรณสมฺ-

    ปนฺโน อิติปิ โส ภควา สุคโต อิติปิ โส ภควา

    โลกวิทู อิติปิ โส ภควา อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ

    อิติปิ โส ภควา สตถา เทวมนุสฺสานํ อิติปิ โส

    ภควา พุทฺโธ อิติปิ โส ภควา ภควาติ”

    ในอภิสัมโพธิวรรค มีข้อความดังนี้

    “อิติปิ โส ภควา อภิสมฺโพธิปารมิสมฺปนฺโน

    สิลขนฺธปารมิสมฺปนฺโน สมาธิขนฺธปารมิสมฺปนฺ-

    โน ปญฺญขนฺธปารมิสมฺปนฺโน ทฺวตฺตึสมหาปุริส

    ลกฺขณปารมิสมฺปนฺโน อภิสมฺโพธิวคฺโค จตุตฺโถ”

    พระบรมศาสดา ได้ตรัสพรรณนาคุณานิสงส์ของพระสูตรนี้ว่า “ดูก่อนสารีบุตร ครั้งเมื่ออาการวัตตาสูตรนี้ ชนทั้งหลาย เหล่าใดเหล่าหนึ่งได้กล่าวอยู่เป็นอัตราแล้ว บาปกรรมทั้งหมด ก็จะไม่ได้ช่องที่จะหยั่งลงไปในสันดาน แม้ถึงผู้นั้นกล่าวอยู่สักครั้งหนึ่งก็ดี ได้บอกกล่าวก็ดี หรือได้เขียนเองก็ดี และได้ให้ผู้อื่นเขียนก็ดี หรือได้ทรงจำไว้ได้ก็ดี หรือได้กระทำสักการบูชานับถือก็ดี หรือได้ระลึกเนือง ๆ โดยเคารพพร้อมด้วยไตรประณามก็ดี จะปรารถนาสิ่งใด ๆ ก็จะสำเร็จแก่บุคคลผู้นั้น ตามประสงค์พร้อมทุกสิ่งสรรพ์ ฯลฯ ก็ถ้าหากว่าบุคคลผู้ใดมีศรัทธาจะระลึกตามอาการวัตตาสูตรนี้เนือง ๆ บุคคลผู้นั้นเมื่อละเสียซึ่งอัตภาพร่างกายในปัจจุบันชาตินี้แล้ว จะปฏิสนธิในภพเบื้องหน้าในภพใดภพหนึ่ง ก็จักไม่เกิดในเดรัจฉาน ในเปตวิสัย จักไม่เกิดในชีพนรก ในอุสุทะนรก ในสังฆาฏะนรก ในโรรุวะนรก ในมหาโรรุวะนรก ในดาบนรก ในมหาดาบนรก ในอเวจีนรก ฯลฯ และไม่ไปเกิดเป็นอสุรกาย กำหนดนับถึง ๙๐ แสนกัปป์เป็นประมาณ ฯลฯ จะได้ไปเกิดในสุคติภพ บริบูรณ์ด้วยสุขารมณ์ต่ำ ๆ มีอินทรีย์ผ่องใสสมบูรณ์ มีปัญญาเป็นสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ จะได้เกิดเป็นพระอินทร์กำหนดถึง ๓๖ กัปป์โดยประมาณ จะได้สมบัติจักรพรรดิราช เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ มีทวีปน้อย ๒,๐๐๐ เป็นบริวาร กำหนดนานถึง ๓๖ กัปป์ ฯลฯ ในปัจจุบันภพ ก็จะเป็นผู้ปราศจากภัยเวรต่าง ๆ ปราศจากโรคาพยาธิเบียดเบียน มีอายุมั่นขวัญยืนอยู่เย็นเป็นสุข ฯลฯ” เมื่อพระผู้มีพระภาค ตรัสประกาศคุณเดชานุภาพ และอานิสงส์ผลของพระสูตรนี้จบลง ธรรมาภิสมัยก็บังเกิดแก่หมู่ชนที่ได้สดับ ประมาณแปดหมื่นโกฏิ ด้วยประการฉะนี้
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    กระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท เสถียร โพธินันทะ
    http://palungjit.org/threads/%E0%B...B0.309323/

    http://palungjit.org/threads/มุ่งเต...วยให้ผู้อื่นได้ด้วย.276215/page-2#post5225644

    เห็นอยู่แต่พระบารมี ๓๐ ทัศ ซึ่งพระบรมศาสดาบำเพ็ญมาเท่านั้นจะช่วยป้องกันสัตว์เหล่านั้นได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...