รับปรึกษาปัญหาเรื่องตรวจเลือดและส่งเสริมสุขภาพ โดย นักเทคนิคการแพทย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 1 มกราคม 2010.

  1. saradsawadee

    saradsawadee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดน่ะครับ

    พี่วสุธรรมครับ


    1. การตรวจ ด้วยวิธี EIA นี้ สามารถตรวจได้ 2 สายพันธ์เลยหรือไม่ครับ
    2. การตรจแบบ GPA สามารถตรวจได้ทั้ง สองสายพันธ์เลยไหมครับ
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    1. การตรวจ ด้วยวิธี EIA นี้ สามารถตรวจได้ 2 สายพันธ์เลยหรือไม่ครับ
    ตอบ EIA=Enzyme immunoassayวิธีนี้ตรวจได้ทั้ง1และ2
    2. การตรจแบบ GPA สามารถตรวจได้ทั้ง สองสายพันธ์เลยไหมครับ
    ตอบ วิธีGPA=Gelatin Particle Agglutinationตรวจได้เฉพาะสายพันธ์ที่1ที่พบเยอะที่สุดในคนไทย
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สวัสดีค่า คุณหมอวสุธรรม สอบถามหน่อยนะคะ พอดีหมอให้ยา Ferrous SULFATE (A.N.T) FeS04 Tab.200 mg. (Iron = 65 mg) ให้ทานเป็นเวลา 5 เดือน ตอนนี้ทานได้ 3 เดือนแล้ว เจาะเลือด 3 ครั้งแล้ว ตอนนี้เหลือยาต้องทานอีก 2 เดือน แล้วคุณหมอบอก ไม่ต้องทานแล้ว ให้หาผัก,ผลไม้เสริมแทน แต่รู้สึกอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กลัวถ้ายาหมดแล้ว จะสามารถหาวิตามิน ตัวไหนแทนได้บ้างคะ โดยไม่มีผลข้างเคียง เห็นเค้าบอกว่า วิตามินตัวนี้ ให้ทานคู่กับวิตามิน C จะช่วยในการดูดซึมดีขึ้น จริงหรือเปล่าคะ แล้วอย่าง วิตามิน B กับ Folic Acid สามารถทานแทน วิตามินตัวบนที่หมอให้มาได้ไหมคะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่าคุณหมอ พอดีหาข้อมูลจาก กูเกิ้ล อ่ะค่า แต่ก็ยังไม่กล้าทานตัวอื่น กลัวมีผลข้างเคียงอ่ะค่า:cool:
     
  4. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ตอบ
    1.คุณมีภาวะเลือดจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก หมอจึงให้คุณรับประทานธาตุเหล็ก/Ferrous SULFATE ต่อมาเมื่อรับประทานต่อเนื่องมานานประมาณ3เดือน หมอก็สั่งตรวจเลือดเพื่อติดตามผลการรักษาแล้ว ผลเลือดน่าจะเป็นปกติแล้ว หมอจึงไม่สั่งยาให้รับประทานต่อ และได้แนะนำให้รับประทานอาหารจากธรรมชาติทดแทนวิตามิน อาหารตามธรรมชาติที่มีธาตุเหล็กนั้น เท่าที่จำได้มีดังนี้
    -มีธาตุเหล็กมาก....ตับและเครื่องในสัตว์
    -มีธาตุเหล็กปานกลาง....ไข่แดง นม นมถั่วเหลือง
    -หรือคุณจะใช้บริการกูเกิ้ลก็น่าจะได้โดยใช้คำนี้ อาหารที่มีธาตุเหล็ก

    เรื่องรับประทานธาตุเสริมอาหารธาตุเหล็กนั้น หมอคงต้องการให้ร่างกายของคุณได้พักผ่อนจากภาวะเหล็กเกิน(จากการได้ธาตุเหล็กมายาวนาน)
    ...ควรทำตามคำแนะนำของหมอครับ หันมารับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กแทน หรือจะรับประทานวิตามินเสริมอาหารที่มีธาตุเหล็กทดแทนก็ได้ครับ

    2.Ferrous SULFATEและวิตามิน C นั้นผมไม่เคยทราบมาก่อนว่าเสริมช่วยในการดูดซึมดีขึ้น ตอบ ไม่ทราบ
    ที่เสริมและช่วยในการดูดซึมน่าจะเป็นพวกธาตุแคลเซียมกับวิตามินซี ครับ

    3.วิตามิน B กับ Folic Acid สามารถทานแทน วิตามินธาตุเหล็กได้ไหม
    ตอบ คนละโรคกันครับ รับประทานแทนกันไม่ได้
    -วิตามินบี12 หรือโฟลิคแอซิด(Folic Acid) ใช้รักษาโรคโลหิตจางเหมือนกัน แต่โรคโลหิตจางเนื่องจากขาดวิตามินบี12นี้ ผู้ป่วยจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ีมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
    -ธาตุเหล็ก ใช้รักษาโรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็กนั้น ผู้ป่วยจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุค่ะคุณหมอ ขอบพระคุณมากๆ ค่า เกือบไปแล้ว วันนี้ก็ไป ด้อมๆ มองๆ วิตามินบี กับ โฟลิค มา ของยี่ห้อแบล็คมอลล์อ่ะค่า ใช่ค่ะผลตรวจเลือด เม็ดเลือดแดง มีขนาดเล็กกว่าปกติ เกือบแล้วๆ ุุถ้าผลตรวจเลือดออกมาแบบนี้ เราอาจเชื้อทารัสซีเมีย ได้ไหมคะ เพราะญาติทางฝั่งพ่อเป็นโลหิตจางทุกคนเลย:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2013
  6. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเป็นพาหะของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย หรือโรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็กครับ

    สามารถทราบได้โดยการตรวจเลือดดังนี้คือ
    1.วิธีประหยัด:ตรวจกรองว่าเราอยู่ในกลุ่มต้องสงสัยหรือไม่ โดย
    การตรวจดูความเปราะของเซลล์เม็ดเลือดแดง(Osmotic fragility test/OF)
    -ถ้าได้ผลลบ(Negative)=แสดงว่าปกติ
    ถ้าได้ผลบวก(Positive)=แสดงว่าอยู่ในกลุ่มที่อาจจะเป็นโรคนี้ จำเป็น
    ต้องตรวจเลือดเพื่อหาชนิดของฮีโมโกลบิน(Hemoglobin typing)ซึ่ง
    จะแบ่งเป็น2สายคือ
    1.1)สายเบต้า ธาลัสซีเมีย :พบเยอะมากในคนไทยภาคอีสานและเหนือ
    1.2)สายอัลฟ่า ธาลัสซีเมีย :สายนี้พบได้น้อย
    2.ตรวจเลือดเพื่อหาชนิดของฮีโมโกลบิน(Hemoglobin typing)เลย
    หมายเหตุ
    -ค่าบริการการตรวจดูความเปราะของเซลล์เม็ดเลือดแดง(Osmotic fragility test/OF)จะถูกกว่ามากประมาณ80-100บาท
    -ค่าบริการตรวจเลือดเพื่อหาชนิดของฮีโมโกลบิน(Hemoglobin typing)จะแพงกว่า สายเบต้า ธาลัสซีเมียประมาณ250-350บาท
    สายอัลฟ่า ธาลัสซีเมีย ประมาณ750-850บาท
     
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ขอบพระคุณมากๆ ค่าคุณหมอ เดี๋ยวไปตรวจดู แล้วมีอะไรไม่เข้าใจจะมารบกวนสอบถามคุณหมออีกรอบนะคะ:cool:
     
  8. atta454

    atta454 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    131
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +263
    ขออณุญาติถามนะครับ อ. วสุธรรม
    ผู้ที่ติดเชื้อhiv สามารถ ท้องและมีลูกได้ใช่ใหมครับ
    -แล้วเด้กที่เกิดมาจะเป็นยังไงครับ
    มีคำถามแค่นี้ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  9. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ครับใช่ สามารถตั้งครรภ์และคลอดบุตรได้ตามปกติ
    หากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อฯอยู่ในการดูแลของแพทย์
    เด็กจะมีโอกาสไม่ติดเชื้อครับ โดยแพทย์จะระวังมิให้เด็กทารก
    สัมผัสเลือดของมารดา หรืออาจให้ยาต้านไวรัสเพื่อมิให้ติดเชื้อฯได้
     
  10. atta454

    atta454 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    131
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +263

    เป็นไปได้ จริงๆ ใช่ใหมครับที่เด็กมีโอกาสไม่ติดเชื้อ
    รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที
    ...คือญาติของผม ติดเชื้อมานานหลายปีแล้วครับ ตอนนี้ก็กินยาต้านไวรัสของหมออยู่ครับ
    แล้วโอกาาที่จะติดเชื้อมีสูงใหมครับ เพราะผมเข้าใจ ว่า เลือดที่หล่อเลี้ยงลูกในท้องก็คือเลือดแม่ ผมรู้สึกสงสัยในข้อนี้
    ...ตอนแรก เขาบอกจะเอาเด็ก ออก แต่ช่วงหลังๆนี้ ผมแนะนำให้เขาสวดมนต์ ไหว้พระรู้จากบาป บุญ เวร กรรม เขาจึงไม่ทำแท้ง เพราะเขากลัวจะมีปัญหาหลายๆด้านหลังจากเด็กเกิด ..สุขภาพ การดำเนินชีวิตในสังคม...แต่บาปบุญ ก็สามารถเปลี่ยนใจเขาได้...
    ขอบคุณและอนุโมทนาสาธุครับ..
     
  11. Minuz

    Minuz สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมมีคำถามครับอาจารย์

    ผมเป็นพวกชายรักชายแล้วไปมีความเสี่ยงมาได้ 5 วันรู้สึกกังวลเลยไปตรวจ Hiv วันนี้
    ที่คลินิกแห่งหนึ่ง คนตรวจก็ไม่น่าจะใช่นักเทคนิคการแพทย์เพราะผมถามเขาเกี่ยวกับ
    Western blot หรือ ELISA เขาก็บอกผมไม่ได้แต่เขาบอกว่าเขาตรวจ rapid test ให้ ซึ่งใช้ strip ที่อ่านค่าเป็นขีดที่อ่านได้สองครั้ง
    ครั้งแรกมีสองขีด ขีดที่สองจางๆ เลยทดสอบอีกวิธี เขาบอกว่าเป็นวิธีดีเทอมีน อะไรสักอย่างอ่ะครับ ได้สองขีดชัดเจนเลย อันนี้ฟันธงได้รึยังครับว่าผมติดเชื้อแล้ว หรือว่ายังไม่เพียงพอ ตอนนี้ผมจิตตกมากเลย รบกวนตอบด้วยนะครับ

    ปล. ตอนนี้ผมกินยา isotretinoin รักษาสิวอยู่ แล้วก็เพิ่งหยุดยา amoxicillin ไปมะวานครับ ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะเป็นหนองในด้วย
     
  12. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    รบกวนคุณวสุธรรม จากไอ

    คุณวสุคะ หากมีผุ้บริจาก ไขกระดูกสันหลัง จะสามารถเปลี่ยนกรุ๊ปเลือดไปเองได้มั้ยคะ

    ในกรณีที่เม็ดเลือดไม่สามารถนำพาออกซิเจนได้ ต้องใช้วิธีไหน เพื่อให้ออกซิเจนไหลไปในร่างกาย

    เพราะปัจจุบัน ไอเจาะเลือดออกมามีแต่เกล็ดเลือดข้นๆ พยาบาลต้องรีบเอาไปใส่เครื่อง centrifuge

    รบกวนด้วยนะคะ และขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    ไอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  13. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ขออภัยที่มาตอบช้าครับ
    จากข้อมูลที่คุณได้ให้มาประเด็นที่สำคัญคือ
    1.ผลการตรวจเป็นผลบวกโดยวิธีอิมมูโนโครมาโตกราฟฟิก
    (Immunochromatographic test) ซึ่งจะอ่านผลในระยะเวลา
    ประมาณ10นาที โดยใช้แถบตรวจ 2บริษัท แถบแรกน่าจะใช้เป็นตัวคัดกรอง
    ว่าบวกหรือลบ จากนั้นเมื่อเป็นผลบวกอย่างอ่อน จึงได้นำแถบตรวจยี่ห้อ
    Determineมาใช้ตรวจยืนยันว่า ยังเป็นผลบวกอีกไหม เพื่อเป็นการยืนยันผล
    ตรวจครั้งแรกครับ
    สรุปว่า ทางแลบเขาน่าจะรายงานผลแก่คุณว่าคุณติดเชื้อฯ
    ตอบ จากระยะเวลาเสี่ยงที่พึ่งเสี่ยงมาเพียง5วัน หากคุณ
    ได้รับเชื้อมาจริง ผลตรวจanti-HIV น่าจะเป็นผลลบ คือแอนติบอดีย์ยังมีปริมาณ
    ความเข้มข้นต่ำ หมายถึง โดยวิธีการตรวจหาสารแอนติบอดีย์ต่อไวรัส
    HIV ทุกวิธีจะตรวจไม่พบ จำเป็นจะต้องรอระยะเวลาการเสี่ยงให้ได้สัก45วัน
    ขึ้นไป จึงน่าจะตรวจพบแอนติบอดีย์ เป็นผลบวกอย่างอ่อนๆ จากประสบการณ์
    ของผมเอง เคยพบว่าแถบตรวจยี่ห้อDetermineมีผลบวกปลอมได้ครับ
    **1.แนะนำให้ไปตรวจanti-HIVซ้ำๆ เพื่อความสบายใจครับ แต่อย่าไปแลบ
    เก่า ให้ไปตรวจที่คลินิกนิรนาม หรือตรวจที่โรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ผลตรวจ
    น่าจะเป็นผลลบครับ เพราะระยะเวลาเสี่ยงน้อยเกิน ควรรอให้ครบ45-90วัน
    จึงจะแสดงผลที่ถูกต้องได้ หากเป็นผลบวกแสดงว่าคุณได้ติดเชื้อมานานแล้ว
    จากการเสี่ยงในครั้งก่อน ก่อนหน้านี้
    2.ยาที่รับประทานเพื่อรักษาโรคติดเชื้อจุลชีพ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องแต่ภาวะ
    ความเจ็บป่วย อาจทำให้ร่างกายมีสารผิดปกติเกิดผลบวกปลอมได้ **

    หากมีข้อสงสัยใดๆอีก ลองย้อนกลับไปอ่านในกระทู้นี้ เคยตอบไปหลายครั้งแล้วครับ
     
  14. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สวัสดีครับน้องไอ
    1.หากได้รับการเปลี่ยนไขกระดูก หมู่เลือดอาจจะเปลี่ยนไปเป็นหมู่ของผู้
    บริจาคได้ครับ แต่ตามปกติแพทย์จะต้องเลือกหมู่เลือดABOและอื่นๆให้ใกล้
    เคียงกันมากที่สุด
    2.ต้องให้เลือดใหม่สดๆของผู้บริจาค จึงจะจับอ๊อกซิเจนได้ดีครับ เลือดเก่า
    เก็บในตู้เย็นนานๆ จะต้องรอเวลาหน่อย จึงจะปรับตัวเอง เพื่อทำงานให้ดีขึ้น
    3.เซลล์เม็ดเลือดในร่างกายจะมี3ชนิด คือเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและ
    เกล็ดเลือด ดังภาพด้านล่าง หากเจาะเลือดออกจากร่างกาย เลือดจะถูก
    กระตุ้นให้แข็งตัวเป็นลิ่มเลือด แต่ถ้าเจาะเลือดใส่หลอดที่มีสารกันเลือดแข็ง
    ตัว เลือดก็จะไม่แข็งตัวครับ
    [​IMG]
    หากยังตอบไม่ตรงคำถามรบกวน เล่ารายละเอียดที่ต้องการถามให้มากหน่อย
    ครับ น้องไอถามมา ผมอ่านก็งงๆอยู่เหมือนกัน
     
  15. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    กราบขอบพระคุณพี่วสุ จากไอ

    ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้ความรู้

    เรื่องมีอยู่ว่า ไอค้นพบว่าเลือดของไอมีความหนืดสูง รวมทั้ง แข็งตัวเร็ว ไอไปเจาะเลือดมาค่ะ

    ไอสันนิษฐานเองว่า เลือดของไอไม่สามารถนำพาออกซิเจนได้

    ประกอบกับเคยทราบว่า ที่เปอเตอริโก้ เขามีคลินิคที่พวกผู้ก่อการร้ายชอบไปซื้ออวัยวะ ไขกระดูก และส่วนอื่นๆของร่างกาย

    เพื่อให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ทำศัลยกรรม และหลุดจากคดี

    จากข้อมูลที่พี่วสุตอบให้ ไอเห็นความเป็นไปได้ของพวกผู้ก่อการร้ายค่ะ

    ไอมาเอาคำตอบช้าเพราะติดหลายกระทู้ ต้องขออภัยค่ะ

    ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ
    ไอ
     
  16. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    [​IMG]
    เซลล์เม็ดเลือดแดง คืออะไร
    เซลล์เม็ดเลือดแดง (red blood cell หรือ erythrocyte) เป็นเซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียส และมีรูปร่างแตกต่างจากเซลล์โดยทั่วไป เมื่อดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ จะเห็นว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมีลักษณะคล้ายกับโดนัทที่ไม่มีรูตรงกลาง โดยส่วนกลางจะมีลักษณะบางกว่าส่วนขอบของเซลล์ ลักษณะดังกล่าวเมื่อดูผ่านกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงจะทำให้ปริมาณแสงส่องทะลุผ่านได้ไม่เท่ากัน เกิดเป็นภาพคล้ายกับโดนัทที่เห็นกันจนคุ้นตา

    [​IMG]
    เซลล์เม็ดเลือดแดงทำหน้าที่นำออกซิเจนส่งไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย โดยอาศัย “ฮีโมโกลบิน (hemoglobin)” เป็นตัวนำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ต่างๆ และพาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจากเซลล์เพื่อกำจัดออกจากร่างกายต่อไป (รายละเอียดอ่านได้ในเรื่องการรักษาดุลภาพของร่างกาย หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานและเพิ่มเติมชีววิทยา เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4) การที่เซลล์เม็ดเลือดแดงมีสีแดงก็เนื่องมาจาก ฮีโมโกลบินภายในเซลล์ซึ่งเมื่อจับกับออกซิเจนแล้วจะทำให้เกิดสีแดงขึ้น

    สำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดชนิดต่างๆ (รวมทั้งเซลล์เม็ดเลือดแดง) ในช่วงแรกของระยะเอ็มบริโอ เซลล์เม็ดเลือด (เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ เซลล์เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด) จะถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) ในบริเวณตับ (liver) ม้าม(spleen) และไขสันหลัง (bone marrow) ต่อมาในช่วง 3-6 เดือนของทารกในครรภ์ การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง (และ granulocyte monocyte และ megakaryocyte ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่จะเจริญต่อไปเป็นเกล็ดเลือด) จะถูกสร้างที่ตับและม้ามเป็นหลัก จากนั้นเมื่อทารกคลอดมาแล้วการสร้างเซลล์เม็ดเลือดก็จะถูกสร้างที่ไขสันหลังเป็นหลัก ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับการเจริญของเนื้อเยื่อและเซลล์ที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่ไขสันหลังด้วย
    ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่

    ทำไมเซลล์เม็ดเลือดแดงถึงมีรูปร่างไม่กลมเหมือนเซลล์อื่นๆ ประเด็นแรกก็คือ การที่เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างของเซลล์ในลักษณะนี้ก็เพื่อใช้ประโยชน์ในการเพิ่มพื้นที่ผิวของการแพร่ของออกซิเจนผ่านเข้า-ออกเซลล์ ทำให้ประสิทธิภาพในการขนส่งออกซิเจนทำได้รวดเร็วขึ้นกว่าเซลล์โดยทั่วไป โปรตีน Spectrin แยกออกจากกันจะเกิดเป็นโพรงภายในเซลล์และทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงสามารถยืดตัวและรอดผ่านหลอดเลือดฝอยไปได้

    นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่ทำให้เห็นความสัมพันธ์ของโครงสร้างกับหน้าที่ของเซลล์เม็ดเลือดแดง เพื่อทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงปกติและภาวะการเกิดโรคเกี่ยวกับเซลล์เม็ดเลือด โดยทำการศึกษาการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดแดงผ่านหลอดเลือดฝอย เพื่อดูว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมีการเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างไรเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ผ่านหลอดเลือดฝอยที่มีขนาดของท่อเล็กกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง (เซลล์เม็ดเลือดแดงมีขนาด 8 ไมโครเมตร หลอดเลือดฝอยที่สมองเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 ไมโครเมตร) ซึ่งจากลักษณะดังกล่าวทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในเพื่อให้รูปร่างภายนอกของเซลล์เปลี่ยนไปด้วย (เหมือนลักษณะของลูกโป่งกลมๆ ถูกดันให้ผ่านท่อที่มีขนาดเล็ก) โดยโปรตีนที่มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงคือโปรตีนที่เรียกว่า Spectrin โดยพบว่าเมื่อแขนงโปรตีน Spectrin แยกออกจากกันจะเกิดเป็นโพรงภายในเซลล์และทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงสามารถยืดตัวและรอดผ่านหลอดเลือดฝอยไปได้

    [​IMG]

    ลักษณะพิเศษอีกอย่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงก็คือ เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่มีนิวเคลียส ซึ่งจะทำให้ภายในเซลล์มีที่ว่างเหลือสำหรับการเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบิน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงสามารถขนส่งออกซิเจนได้มากขึ้น นอกจากนี้เซลล์เม็ดเลือดแดงยังไม่มีไมโทคอนเดรีย ซึ่งเราก็ทราบหน้าที่ของไมโทคอนเดรียดีว่าเป็นออร์แกเนลล์ที่ทำหน้าที่สร้างพลังงานให้กับเซลล์ แต่ถึงเซลล์เม็ดเลือดแดงจะไม่มีไมโทคอนเดรีย มันก็ยังสามารถสร้าง ATP เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ภายในเซลล์ได้ โดยสร้างจากกระบวนการเมแทบอลิซึมแบบที่ไม่ใช้ออกซิเจน (anaerobic metabolism) ซึ่งเป็นการปรับตัวเพื่อทำให้ออกซิเจนที่เก็บไว้ในเซลล์ถูกขนส่งไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกายโดยไม่ถูกใช้ไปในเมแทบอลิซึมของเซลล์แบบที่ใช้ออกซิเจน (aerobic metabolism) จะเห็นได้ว่ามันเป็นการปรับตัวเพื่อทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงทำหน้าที่ขนถ่ายออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

    [​IMG]
    ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง

    ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงมีหลายชนิด เช่น เม็ดเลือดแดงขนาดผิดปกติ เม็ดเลือดแดงติดสีผิดปกติ เม็ดเลือดแดงรูปร่างผิดปกติ เม็ดเลือดแดงมีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในเซลล์ และเม็ดเลือดแดงเรียงตัวผิดปกติ

    การตรวจรูปร่างลักษณะของเม็ดเลือดแดงโดยกล้องจุลทรรศน์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยในการวินิจฉัยโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี ความผิดปกติบางอย่างอาจจำเพาะเจาะจงสำหรับโรคบางอย่าง ในขณะที่ความผิดปกติบางอย่างอาจไม่จำเพาะเจาะจงแต่อย่างใด จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่นๆ มาประกอบการวินิจฉัยโรค

    เม็ดเลือดแดงขนาดผิดปกติ

    ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงในด้านขนาด เรียกว่า anisocytosis

    เม็ดเลือดแดงขนาดเล็ก เรียกว่า microcyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวแก่ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ มักพบว่ามีบริเวณติดสีจางกลางเซลล์กว้างกว่า 1/3 ของเซลล์ เม็ดเลือดแดงขนาดเล็กสามารถพบได้ในโรคธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก และในโรคโลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแตก
    ม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ เรียกว่า macrocyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวแก่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยมีขนาดประมาณ 9-12 ไมครอน เม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก และโรคตับ ในกรณีของโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดวิตามิน B12 หรือเกิดจากการขาดกรดโฟลิก อาจพบเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นรูปไข่

    เม็ดเลือดแดงติดสีผิดปกติ

    เม็ดเลือดแดงติดสีน้อยกว่าปกติ เรียกว่า hypochromia เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีบริเวณติดสีจางกลางเซลล์กว้างกว่า 1/3 ของเซลล์ เนื่องจากปริมาณของฮีโมโกลบินภายในเซลล์ลดลง สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก และโรคโลหิตจางชนิดเรื้อรัง

    เม็ดเลือดแดงรูปร่างผิดปกติ

    ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงทางด้านรูปร่าง เรียกว่า poikilocytosis สามารถแบ่งออกได้เป็น

    เม็ดเลือดแดงตัวเล็กกลม เรียกว่า spherocyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวเล็กกว่าปกติ มีลักษณะกลม ติดสีชมพูเข้มทึบทั้งเซลล์ ไม่มีบริเวณติดสีจางกลางเซลล์ เม็ดเลือดแดงตัวเล็กกลมสามารถพบได้ในโรคโลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแตก โรคโลหิตจางที่เกิดในทารกแรกเกิด และโรคโลหิตจางตัวกลมเล็กที่เป็นแต่กำเนิด
    เม็ดเลือดแดงรูปเป้า เรียกว่า target cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เห็นมีจุดกลมสีชมพู อยู่ตรงกลางคล้ายรูปเป้า สามารถพบได้ในภาวะความผิดปกติของฮีโมโกลบิน และโรคตับ
    เม็ดเลือดแดงรูปปาก เรียกว่า stomatocyte เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง ที่บริเวณติดสีจางกลางเซลล์มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรืออาจคล้ายรูปปาก ในภาวะปกติบริเวณติดสีจางกลางเซลล์จะมีลักษณะกลม เกิดขึ้นเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีการสูญเสียโครงรูปบนด้านหนึ่งของสบริเวณผิว เม็ดเลือดแดงรูปปากสามารถพบได้ในโรคตับ โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะเสียสมดุลของสารเกลือแร่ และความผิดปกติชนิดที่เป็นมาแต่กำเนิด
    เม็ดเลือดแดงรูปไข่ เรียกว่า ovalocyte เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะคล้ายรูปไข่ บางเซลล์อาจเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะคล้ายซิการ์ เรียกว่า elliptocytes เซลล์ทั้งสองชนิดนี้สามารถพบได้มากในโรคชนิดเป็นมาแต่กำเนิด นอกจากนี้ยังสามารถพบได้บ้างในภาวะโลหิตจางชนิดต่างๆ
    เม็ดเลือดแดงรูปหยดน้ำตา เรียกว่า teardrop เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายหยดน้ำตา เม็ดเลือดแดงรูปหยดน้ำตาสามารถพบได้ในภาวะไขกระดูกเป็นพังผืด โรคโลหิตจางขาดวิตามิน B12 โรคของไขกระดูกบางชนิด โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และโรคโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแตก
    เม็ดเลือดแดงรูปหนามแหลม เรียกว่า burr cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีหนามแหลมกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอบนผิวของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดงรูปหนามแหลมสามารถพบได้ในภาวะไตวายเรื้อรัง ภาวะเสียเลือดเฉียบพลัน มะเร็งกระเพาะอาหาร และโรคขาดเอนไซม์บางชนิด
    เม็ดเลือดแดงรูปเศษเสี้ยว เรียกว่า schistocyte เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะเป็นเศษชิ้นต่าง ๆ รูปร่างไม่แน่นอน เม็ดเลือดแดงรูปเศษเสี้ยวสามารถพบได้ในภาวะเม็ดเลือดแตกในหลอดเลือดเล็ก แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกรุนแรง และ ภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดชนิดแพร่กระจาย
    เม็ดเลือดแดงรูปหนามสั้นยาวไม่เท่ากัน เรียกว่า acanthocyte เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีหนามสั้นยาวไม่เท่ากัน และการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ยื่นออกมาจากขอบของเม็ดเลือดแดง นอกจากนั้นยังมีขนาดเล็กกว่าเม็ดเลือดแดงปกติ และไม่เห็นบริเวณติดสีจางกลางเซลล์ สามารถพบได้ในโรคสารไขมันในร่างกายผิดปกติ และโรคตับบางชนิด
    เม็ดเลือดแดงรูปเคียว เรียกว่า sickle cell เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเคียว หรือพระจันทร์เสี้ยว เกิดขึ้นเนื่องจากมีการก่อตัวขึ้นของโพลิเมอร์ของฮีโมโกลบิน เอส เกิดเป็นรูปร่างคล้ายแท่งภายในเม็ดเลือดแดง สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางเม็ดเลือดแดงรูปเคียว โรคฮีโมโกลบิน เอส ซี และโรคฮีโมโกลบิน เอส บี
    เม็ดเลือดแดงมีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในเซลล์

    การที่พบลักษณะบางอย่างผิดปกภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง เรียกว่า inclusions

    Basophilic stippling จะพบลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ อาจเล็กหรือใหญ่ ติดสีฟ้า-เทา อยู่ภายในเม็ดเลือดแดง เกิดขึ้นเนื่องจากมีการรวมกลุ่มกันของไรโปโซม สามารถพบได้ในภาวะตะกั่วเป็นพิษ ภาวะการสังเคราะห์ฮีโมโกลบินผิดปกติ โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก
    Pappenheimer bodies เป็นสิ่งผิดปกติภายในเม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ มักมีหลายเม็ด ติดสีม่วงแดง หากนำเม็ดเลือดแดงนี้ไปย้อมหาเหล็ก จะให้ผลบวก สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางซิเดโรบลาสติก โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะหลังการตัดม้าม และโรคฮีโมโกลบินผิดปกติ
    Howell-Jolly bodies มีลักษณะเป็นเม็ดกลมติดสีม่วงแดงขนาดค่อนข้างใหญ่ภายในเม็ดเลือดแดง เป็นส่วนที่หลงเหลือของนิวเคลียส สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางเม็ดเลือดแตก ภายหลังการตัดม้าม และโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก
    Cabot rings เป็นเส้นสายใยบาง ๆ ย้อมติดสีม่วงแดง มักมีลักษณะเป็นรูปวงแหวน หรือรูปเลข 8 เชื่อว่าอาจเป็นส่วนของสปินเดิลไฟเบอร์ สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางขาดวิตามิน B12 และภาวะตะกั่วเป็นพิษ
    เม็ดเลือดแดงเรียงตัวผิดปกติ

    Rouleaux formation เป็นการที่เม็ดเลือดแดงมาจับซ้อนทับกันเป็นสายยาว เกิดขึ้นเนื่องจากมีปริมาณของโกลบูลินหรือไฟบริโนเจนผิดปกติ โดยมีเพิ่มมากขึ้นในกระแสเลือด สามารถพบได้ในโรคมัลติเปิลมัยอีโลมา และแมโครโกลบูลินนีเมีย
    Agglutination เป็นการที่เม็ดเลือดแดงมีการจับกลุ่มกัน สามารถพบได้ในภาวะที่มีแอนติบอดีชนิดเย็น และในภาวะเม็ดโลหิตแตกจากโรคออโตอิมมูน
    ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2014
  17. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ตอบคุณklangprai
    การวิเคราะห์ค่าสารเคมีในเลือดดูการทำงานของไตนั้น หากเป็นโรคไตจริงๆ
    จะต้องสูงทั้งBUN และCreatinine จากผลการตรวจที่ให้มาแปลผลได้ว่า
    มีค่าสูงทั้งสองตัว แสดงว่าเป็นโรคไตจริงๆ และมีภาวะเลือดจางจากภาวะไตเสื่อมด้วย มีภาวะไตเสื่อมรุนแรงปานกลาง แต่หากรับการรักษาอย่างถูกต้อง
    ก็ยังไม่อันตรายถึงขั้นไตวายครับ หากสูงมากๆ แพทย์จะแนะนำให้ไปฟอก
    เลือดครับ
     
  18. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอบพระคุณมากเลยค่ะ
    ฟอกเลือดไม่ใช่ฟอกไตใช่ไหมคะ
    พอดีแฟนไปรับการรักษาแพทย์ทางเลือกมา
    ใช้เวลา 12 วันในการรับประทานยา
    แล้วก็ไปตรวจเลือดอีกรอบนึงค่ะ
    เดี๋ยวพรุ่งนี้จะอัพผลเลือด รบกวนให้ช่วยวิเคราะห์อีกรอบนึงนะคะ

     
  19. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    การฟอกเลือดกับฟอกไต เหมือนกันครับ
    หากการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกได้ผลดี คุณสามารถดูค่าปริมาณสารBUN
    และCreatinine ควรมีค่าลดลงครับ ด้วยความยินดี จะช่วยเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  20. anuput

    anuput สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    คุณหมอคับผมมีเรืองปรึกษาคับ ผมเสียงมา ปี ม.ค.59 ผมตรวจคลีนิกแลปในจังหวัด นม. (ในสลิปพิมพ์ว่า Anti-hiv ) ระหว่างนั้น ก็ตรวจ 3 เดือน 6 เดือน และมาปีหนึ่งตรวจอีก เป็น negative มันจะมีข้อผิดพราดไหม หรือ ผมปลอดภัยแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...