ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ren, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เงียบเลยนะคะ ช่วงนี้

    ลงไปอยู่ข้างสนามนี่เอง
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    คุยไปก็เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ

    เขาไม่ได้รู้เรื่องวิหารธรรม เหมือนเด้กน้อยเพิ่งหัดภาวนา
    คุยอธิบายมาก็มากแล้ว แต่ ยังอ่อนไม่มีปัญญาจะเห็น
    ก็ต้องให้เขาภาวนาจนเห้นจุดนัดพบนั่นแหล่ะ :D
     
  3. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626




    นาที 33.00.....เป็นต้นไป ถึงนาที 41.00

    ลองดูและพิจารณาครับ...
    นี่อาจารย์ผม...ที่ออเจ้าทักถึงบ่อยๆ
     
  4. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ที่ต้องให้ทำลายผู้รู้
    เหตุเพราะเข้าใจผิดเห็นว่าจิตคือผู้รู้
    ผู้รู้ของจริงไม่ใช่จิต
     
  5. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    ไม่จริงอ่ะฮับ...
    คุณแนนอ่ะพิศวารอะไรผม...หรือเปล่า
    หรือเป็น..."คู่แค้นแสนรัก"ฮับ

    ที่จำได้...
    วันก่อนโน้น...คุยกะคุณป.ปราบ
    คุณแนน....ก็เข้ามา...ชวนคุย
    ....เรียกร้องให้ผมสนใจ

    ล่าสุด...
    ผมคุยกับน้องชมพู...กับออเจ้า
    คุณแนน...ก็เข้ามา...ชวนผมคุยอีก

    เออเพิ่งสังเกตุ....นะนี่
    เอ้!!....มันชักยังไง.....หรือ?????o_Oo_O

    หยอกๆฮับ....
    สาวๆในสต๊อกผมเยอะล่ะ
     
  6. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ถามไม้หมูกับอาจารย์นะ
    จิตคืนสู่ธรรมชาติแล้ว
    เหลืออะไร
    อย่าบอกนะว่าไม่เหลืออะไรเลย
     
  7. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เคล็ดลับการประคองศีล
    คือมีเมตตาอยู่ตลอดเวลา
    คนเข้าถึงเมตตาจริงๆ
    แม้แต่มดตัวเล็กๆก็ไม่กล้าเหยียบ
     
  8. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เคล็ดลับการประคองศีล
    คือมีกรุณาอยู่ตลอดเวลา
    แม้เก็บของมีค่าได้
    ก็ส่งให้ตำรวจประกาศหาเจ้าของ
     
  9. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ศีลจะบริสุทธิ์บริบูณร์ได้
    ก็ด้วยปัญญา
    เพราะปัญญาจะตัดสินว่า
    สิ่งใดผิดศีล.สิ่งใดผิดธรรม
     
  10. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    คำว่า "ทำลายผู้รู้" มาจากสายพระวัดป่า พระท่านก้อสมถะนำ มีที่พักจิตก่อนพินา วิปัสสนา แบบหมูไหม้นั่นแหล่ะ

    ผู้รู้ก้อจิตอัตตา ที่ทำให้เราไม่เห็นตรงไตรลักษณ์ หากไม่มีจิตอัตตามาแต่แรก เราก้อคงไม่ต้องมาเสียเวลาฝึกกันหรอก

    แล้วสายวิปัสสนา ก้อไม่ได้ฝึกแบบที่ หมูไหม้หรืออ.ประเสริฐ มโนไปเองด้วย พระท่านที่สอน เขาก้อมีดีของเขาแหล่ะ มาจากทางพระวัดป่า เข้าชานตัวแข็งมาก่อนก้อเยอะ ไอ้การไปสร้างรู้ซ้อนรู้ คือมโนไปเอง

    คำว่า "กำหนดรู้ ตามรู้" เป็นคำสมมุติ พระทางวิปัสสนาท่านนิยมคำนี้ แต่เวลาฝึก ไม่ใช่ไปบิ้วอารมณ์ โลภ โกรธ หลง ขึ้นมา หรือไปจ้องรอดับ อะไร ...วิปัสสนานำ เขากำหนดเร็ว กระทบแล้วรู้ รู้ รู้ แล้วผ่านเลย ไม่แทรกแซงอะไร เร็วเท่าๆ กับ ลมอานาปานั่นแหล่ะ ...จิตมันกระทบตลอดเวลา ไม่มีว่างเว้นหรอก คำว่า รู้แล้วไปไหนต่อ ของหมูไหม้ที่เคยถาม << รู้แล้วก้อไป ระลึกรู้การกระทบตัวต่อไปไง

    การรู้ตามอายตนะ คือสร้างความว่าง จากโลภ โกรธ หลง เข้าจิต ยิ่งทำเยอะ ยิ่งดี เพราะจิตอุเบกขา กับกำลังตั้งมั่น จะเกิดเร็ว < วิธีนี้ใช้ขณิกะก้อเพียงพอ แบบ ลพ.ปราโมทย์บอกนั่นแหล่ะ จิตมันจะสะสมความรู้สึกตัวเล็กๆ เป็นขณะๆ แบบนี้ ไปสู่ของที่ใหญ่ได้

    คำว่า "ตามรู้ กำหนดรู้" มันก้ออาการเดียวกับ หยุดที่รู้... รู้เฉยๆ ระลึกรู้ ...พระบางรูปใช้คำว่าสติก้อมี << ภาษาพวกนี้การใช้เปลี่ยนแปลงตามท้องถิ่นที่พระท่านอยู่ แต่ทั้งหมดก้อคืออาการรู้เฉยๆ ไม่พากษ์ ไม่แทรกแซงนั่นแหละ
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ศึกษาและตีความเกี่ยววิหารธรรมและเลือกปฏิบัติกันตามควรแก่คุณของตน ดังนี้
    คับ
    วิหารธรรม คือ ธรรมเป็นคุณเครื่องอยู่ของผู้บรรลุธรรม ขั้นต่าง ๆ ซึ่งเป็นไปตามระดับของผู้ภาวนา ควรนับตั้งแต่

    1.วิหารธรรมจากการเจริญสติในเบื้องต้น เรียกว่า สติญาณ

    2.วิหารธรรมจากการเจริญฌาน เรียกว่า สมาปัตติญาณ

    3.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอริยะบุคคลตั้งแต่พระโสดาบัน เป็นต้นไป เรียกว่า ผลสมาปัตติญาณ

    4.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอริยะบุคคตั้งแต่พระอนาคามี ขึ้นไป อันประกอบด้วยสมาปัตติญาณเรียกว่า นิโรธญาณ

    5.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอิรยะบุคคตั้งแต่พระอรหันต์ ขึ้นไป อันประกอบด้วย สมาปัตติญาณ เรียกว่า สัญญาเวทยิตนิโรธ

    6.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอริยะบุคคลแบบวิปัสสก ในการประกอบด้วยสติญาณ เรียกว่า สุญญตมหาวิหารสมาปัตติญาณ

    7.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอริยะบุคคลแบบเจโตวิมุิตติ อันปราศจากนิมิต เรียกว่า เจโตสมาธิอนิมิตสมาปัตติญาณ

    ยังมีอธิบาย ใน ญาณ 72 ในพระไตรปิฏก ปฏิสัมภิทามรรค อีก
    เเละ ยังมี วิหารธรรม อันเป็น ญาณเฉพาะองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะอีกด้วยคับ
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    นักปฏิบัติผู้มีทิษฐิอันเคร่งครัด
    ย่อมมีศัตรูหลักที่ถาวร
    มันถึงขนาดนั้นรึยังฮัญ 55
     
  13. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ขอย้อนตอบให้อีกสักประเด็นนี้นะคะ


    การเห็นอารมณ์ที่กระเพื่อมขึ้นมา ทำไมมันคือการกระโดดลงไปดูล่ะ
    ในเมื่อมันโผล่มาให้เห็นเอง เหมือนคนเดินผ่านหน้าบ้าน ตามันเห็นเอง ไม่ได้ไปเรียกเขามาให้เดินผ่านซะทีไหน

    ถูกต้องการเพ่งจ้องรอให้จิตกระเพื่อม มันจะไม่กระเพื่อม เพราะจิตเปลี่ยนเป็นเพ่งแบบสมถะไปเรียบร้อย จะเจอแต่จิตนิ่งๆว่างๆ ซึ่งไม่ถูกต้องในการภาวนาเพื่อเดินปัญญา และไม่จำเป็นว่าต้องเพ่งแค่จิตหรอก เพ่งอะไรก็ตาม ผลไม่ต่างกัน นิ่งๆว่างๆ ไม่เห็น กาย จิต ทำงานอย่างแท้จริง

    คำว่ากระโดดเข้าไปดู ตัดออกไปเลย แนนไม่เคยเจตนาเพ่งอะไรระหว่างวัน แนนเพ่งแค่ตอนนั่งสมาธิ ขนาดตั้งใจนั่งสมาธิเพ่ง มันยังแฉลบออกมากลายเป็นตามเห็นกายใจแทนเลย เพ่งไม่ค่อยถึงความนิ่งตามรูปแบบสมถะเท่าไหร่แต่ก็ไม่ซีเรียสอะไร มันก็สงบไปอีกแบบนึง

    ส่วนเรื่องตามดูเพื่อให้มันดับ ไม่เคยบังคับดับ ดับบ้างไม่ดับบ้าง ไม่ได้กังวล ก็ ปกติ ของจิต เหตุมันยังอยู่ เห็นแล้วฟู เห็นแล้วฟู แบบนั้น มันย่อมมีจังหว่ะที่ทันและไม่ทัน เพราะจิตมันไว อีกอย่างส่วนตัวเราไม่ได้มาเห็นแค่อารมณ์อย่างเดียว มันเห็น วนไปทุกอย่าง กาย ใจ ไม่ได้เจาะจง ว่าต้องมาเอาแต่อารมณ์เท่านั้น ช่วงไหนกระเพื่อมชัดก้อเห็นจิต ช่วงไหนทำกิจกรรมในบ้านอยู่ก้อเห็นกาย ระหว่างนี้ถ้าจิตกระเพื่อมก้อเห็นจิต วนเวียนไปไม่เลือก

    ข้อดีของการฝึกใช้ให้เป็นทุกฐาน จะตีลังกา เดิน นั่ง นอน ทำได้หมด ใช้ประโยชน์จากกายใจทุกวินาทีให้คุ้มค่า ก่อนหมดโอกาส


    ปกติค่ะ ถ้ารู้หลักการทำงานของจิต เพราะจิตเราสามารถรับรู้ได้ที่ละอย่าง ถ้าจิตที่คิดถึงA สลับไปรู้B การรับรู้เรื่องของ A ย่อมจบลงไป เป็นปกติ แต่การภาวนาพิเศษกว่านั้น คือมันสลับมารู้จักตัวมันเอง มันถึงได้เห็นตัวมันเองดับไปตะกี้

    แนนขอบอกอีกรอบ 3 ว่าที่เห็นทันตอนมันเกิด ตอนจิตตั้งมั่นเท่านั้น มันถอยมาเห็นเอง ไม่ได้ตามไปดู รู้จักสภาวะที่มันถอยออกมาเห็นมั้ยคะ เห็นกายเหมือนก้อนวัตถุเคลื่อนที่ได้ เห็นใจมันทำงานแบบอัตโนมัติวิ่งไปไปมาไม่มันหยุด รับรู้ทุกสัดส่วนที่เกิดขึ้นในกายใจแบบทั่วถึงไม่มีพลาด กายใจทำงานเป็นเอกเทศไปหมด …พูดแบบนี้ คนที่เคยเจอ จะอ๋อ ตั้งแต่พูดครั้งแรกแล้ว จิต ปิติสุข อุเบกขา มันจะเกิดขึ้นนับจากตรงนี้ …ที่สัมผัสได้คือ จิตมันอลังการเบ่งบาน แบบคนกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในจิต ไม่กลัวสิ่งใด มันมีความยิ้มให้กิเลสที่มันแทรกมาไม่ได้ ส่วนอุเบกขาแต่ละครั้งนานไม่เท่ากัน บางครั้งแปบๆ บางครั้งเป็นสัปดาห์
     
  14. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไหน ลองอธิบายให้ดูหน่อย

    รู้ตามอายตนะทำไง
     
  15. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ."แนนขอบอกอีกรอบ 3 ว่าที่เห็นทันตอนมันเกิด ตอนจิตตั้งมั่นเท่านั้น มันถอยมาเห็นเอง ไม่ได้ตามไปดู รู้จักสภาวะที่มันถอยออกมาเห็นมั้ยคะ เห็นกายเหมือนก้อนวัตถุเคลื่อนที่ได้ เห็นใจมันทำงานแบบอัตโนมัติวิ่งไปไปมาไม่มันหยุด รับรู้ทุกสัดส่วนที่เกิดขึ้นในกายใจแบบทั่วถึงไม่มีพลาด กายใจทำงานเป็นเอกเทศไปหมด …พูดแบบนี้ คนที่เคยเจอ จะอ๋อ ตั้งแต่พูดครั้งแรกแล้ว จิต ปิติสุข อุเบกขา มันจะเกิดขึ้นนับจากตรงนี้ …ที่สัมผัสได้คือ จิตมันอลังการเบ่งบาน แบบคนกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในจิต ไม่กลัวสิ่งใด มันมีความยิ้มให้กิเลสที่มันแทรกมาไม่ได้ ส่วนอุเบกขาแต่ละครั้งนานไม่เท่ากัน บางครั้งแปบๆ บางครั้งเป็นสัปดาห์"

    ตื่น รู้ เบิกบาน ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ........
    พอมันเป็นแบบนี้ได้ เราก็จะเริ่มรู้ว่าเราแพ้ตรงไหน ไม่ตื่น ไม่รู้ตรงไหน
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ใช่ค่ะ เห็นจุดอ่อน ตัวเองชัดขึ้นค่ะ รู้เลยว่ามันเหนียวจิงๆ

    รึไม่เรานี่ล่ะที่โหลยโท่ยเอง
     
  17. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    เสียง รู้แค่เสียง ไม่เลยไปถึงเสียงอะไรเป็นต้น เวลากำหนดรู้ จะเหมือนหยุดหายใจแป๊บนึง

    หรือถ้าใครจะเลยไปถึงเสียงอะไร ก้อรู้ต่อไปได้เรื่อยๆ << แต่อันนี้ระลึกช้าไปหน่อย
     
  18. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถ้าหยุดอยู่ที่รู้ แค่ตามนั้น

    ไม่ว่าอายตนะไหน มันก้พุ่งไปหาจิตหมดนั่นแหล่ะ เรียก ว่า เงา ก่อนเหมือนกัน
    แม้แต่จะบอกว่า กำหนดรู้ที่จิต ก็ยังไม่ใช่ จิต เงาเหมือนกัน

    จนกว่าจะรู้ทัน การรู้ทันมันจึงจะเรียกว่า ทันจิตไม่ใช่เงา

    แต่อาศัยเงา ตามหาต้นตอของเงา

    จึงเรียกว่า ต้องมีความเพียรกันแบบไม่หยุดหย่อน
     
  19. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ผมสังเกตว่า บางครั้ง ครู ก็ให้เราสังเกตตัวเองว่า และ บอกตัวเองในใจว่า กำลังเดิน กำลังกิน กำลังได้กลิ่น กำลังได้ยิน กำลังสัมผัส กำลังคิด ให้พยายามทุก ผัสสะ แล้วให้หน่วงช่วงเวลานั้นนิดๆ

    เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจ ไม่เห็นประโยชน์ใดๆเลย มาถึงวันนี้พอเริ่มมองออก ครูเห็นว่าเราไม่มี สติ สมาธิพอ
    ให้เราหน่วงไว้ก่อนมาจิต ก่อนปรุง จนกว่าสติจะทันถึงให้ทำแบบอื่นต่อ

    เมื่อก่อนเวลา ผัสสะอะไรนี่ เหมือนกับเกิด พล็อต ละครสั้นขึ้น 1 เรื่องเลย ปรุงเร็วมาก แล้วไม่รู้ตัวด้วย
     
  20. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ใจไม่ตั้งมั่น ไม่เกิดปัญญา

    “เวลาเรารู้สภาวะอะไรทั้งหลาย ใจเรามักจะเคลื่อนไปอยู่ที่ตัวสิ่งที่เรารู้ อย่างตาเห็นรูป ใจก็เคลื่อนไปอยู่ที่รูป หูได้ยินเสียงก็เคลื่อนไปที่เสียง ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสก็เคลื่อนไป เวลาใจมันคิด ใจก็เคลื่อนไปในความคิด เวลาคิดถึงการปฏิบัติอยากปฏิบัติ ใจก็เคลื่อนไปแสวงหาว่าจะดูอะไรดี มันเคลื่อนตลอดเวลาใจมันไม่ตั้งมั่น ใจไม่ตั้งมั่นมันไม่เกิดปัญญา จิตมันไหลไปรวมเข้ากับอารมณ์ หรือจิตเที่ยวแสวงหาอารมณ์ จิตแสวงหาอารมณ์ก็ส่ายไปส่ายมา พอไปเจออารมณ์ที่ชอบใจก็โดดจับเอาไว้ เจออารมณ์ที่ไม่ชอบใจก็โดดจับเอาไว้อีก ใจก็ถลำลงไป ไม่สามารถแยกตัวเอง ออกมาเป็นผู้รู้ผู้ดูได้ การฝึกตัวเองให้จิตเป็นผู้รู้ขึ้นมาให้ได้เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนมากก็ทำไม่ค่อยได้ คนไม่เคยรู้จักเลยว่าจิตมันเป็นผู้รู้ได้อย่างไร”

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
    Youtube : Dhamma.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...