ร่วม เสวนา กันครับว่า...จิตสงบ กับ จิตตั้งมั่น เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รีล มาดริด, 31 กรกฎาคม 2012.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ผู้ที่สอนหรือถ่ายทอดความรู้ใดใดก็ตาม ถ้าไม่คิดถึงตัวเอง มันก็แค่พวกโง่แล้วอวดฉลาดคนหนึ่งเท่านั้น (ขออภัยไม่ใช่เป็นการด่าใครนะขอรับ) และไม่ใช่โง่ธรรมดาด้วย โง่แล้วยังมีหน้าสอนให้คนอื่นโง่ตามอีกนะขอรับ
    ถ้าไม่ยึดติดกับหลักเกณฑ์ใดๆของภาษา แล้วคุณจะรู้เรื่อง หรือมีความเข้าใจในภาษาที่เขาบัญญัติหรือเขียนขึ้นมาหรือขอรับ เขาเรียกว่า "พูดหรือเขียนอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบ" คือคิดเหมือนกัน คิดแบบคนปัญญาน้อยนะขอรับ ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า....
     
  2. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แค่สีแดงที่คุณกล่าวมาก็ผิดแล้วครับ " ฌาณ " ไม่ใช่จิตเกิดปรุงแต่ง

    จิตปรุงแต่งเขาเรียกว่า " ฟุ้งซาน " ในขณะนั่งกรรมฐานต้องมีสมาธิที่ดี

    ฌาณจะเกิดต่อจากจิตที่สงบนิ่ง และ ตื่นขึ้นจากภวังค์ มีความรู้สึกในรูปแบบที่ไม่มีร่างกาย

    ฌารเป็นผลจากการแยก " กายและจิต " ควรที่จะศึกษาใหม่นะครับ

    จิตปรุงแต่งตามการสัมผัส ก็ไม่ใช่สติปัญญา แต่เป็นการไหลตาม

    ถึงแม้ว่าไม่ได้นั่งกรรมฐาน ก็มีจิตปรุงแต่งตามการสัมผัสอยู่แล้ว ศึกษาใหม่ดีกว่าครับ

    ปัญญาจะเกิดขึ้นได้ คือ ผู้ที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของจิตตนเองอย่างชัดเจน

    ไม่ว่าจิตจะเคลื่อนไหวด้วยสติ หรือ เคลื่อนไหวด้วยสัมปชัญญะ หรือ เคลื่อไหวพร้อมกัน

    จึงจะมีปัญญารับรู้ความเป็นจริงของโลก และ เกิดการยอมรับด้วยใจจริง

    สาธุครับ
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แค่แยกการตักเตือน กับ การสบประมาท คุณยังแยกไม่ออกเลย

    -การตักเตือนนั้นจะยกเหตุ-ผลมาชี้ให้เห็น

    -การสบประมาทนั้นจะต่อว่าให้ผู้อื่นต้อยต่ำ

    ผมอธิบายแล้ว หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

    สาธุครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณยังปกติดีอยู่ไหมครับ ถึงได้ไม่เข้าใจที่เขาสื่อ หากพระอาจารย์ท่านคิดเช่นคุณ

    คงไม่มีการสั่งสอนมาจนทุกวันนี้หลอกครับ หากท่านคิดถึงแต่ตนเองเท่านั้น

    คนที่คิดถึงแต่ตนเองนั้น เป็นเพียงแค่คนเห็นแก่ตัวครับ อธิบายแค่นี้คงเข้าใจนะครับ

    สาธุครับ
     
  5. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134

    อยากทราบว่า จิตตัวไหนเป็นตัวที่สั่งให้กายสังขาร พิมพ์ คำว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ออกมาครับ แล้วจิตตัวนั้น กำเนิดมาจากอะไร อะไรเป็นเหตุทำให้พิมพ์คำว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ออกมาได้ครับ ผมพิจารณาในจิตของผมเองแล้ว ผมมองไม่เห็นครับ
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    เฮ้อ...เฮ้อ...เฮ้อ.... สอนคนที่มีทิฏฐิ ไม่รู้จริง ไม่รู้ความหมาย ก็คล้ายกับการสอนสุนัขเหมือนกันแฮะ(ขออภัยนะขอรับ ไม่ได้ด่าคุณเพียงยกตัวอย่างเท่านั้น)
    สังขาร คือ การปรุงแต่ง ถ้าคุณคิด นั่นคือการปรุงแต่ง ถ้าคุณฟุ่งซ่าน นั่นคือการปรุงแต่ง
    ถ้าคุณไม่คิด ร่างกายของคุณ ก็ยังมีการปรุงแต่ง อันนี้คุณอาจไม่เข้าใจ เพราะคุณยังศึกษาและมีความเข้าใจน้อย แต่ทำเป็นอวดรู้ อวดฉลาด
    ฌาน คือ ลักษณะงานรูปแบบหนึ่ง ที่เกิดขึ้น เมื่อนั่งกรรมฐานหรือปฏิบัติสมาธิ หากเกิด วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข อุเบกขา นั่น่คือ การปรุงแต่ง
    ที่คุณกล่าวว่า ถึงแม้ไม่ได้นั่งกรรมฐาน ก็มีจิตปรุงแต่งตามการสัมผัส ปัดโธ่..มันของแน่นอนอยู่แล้ว แล้วคุณว่า ถ้าคุณนั่งกรรมฐาน จิตไม่ได้ปรุงแต่งตามการสัมผัสอย่างนั้นหรือ ไปศึกษาและทำความเข้าใจกับระบบทำงานของร่างกาย(ภวังค) ให้ดีเถอะ ระดับคุณยังเป็นเพียงระดับอนุบาลเท่านั้น (นี้ไม่ได้กล่าวดูหมิ่นคุณนะขอรับ) เพราะคุณกล่าวเพ้อเจ้อ จ้อ ไม่ได้รู้ตามเหตุตามผล
    ไม่รู้แม้กระทั่งคำว่า "ปัญญา" คืออะไรบ้าง
    จะโปรดสัตว์ฯอย่างคุณเอาไว้ว่า แม้คุณได้สัมผัสสิ่งใดก็ตาม และสามารถระลึกรู้ได้ว่า สิ่งที่คุณสัมผัสนั้นคืออะไร นั่นแหละ คือ "ปัญญา"ชนิดหนึ่ง ขอรับ
    ไม่อยากจะอธิบายอะไรมากนัก คุณไปศึกษาสิ่งที่ข้าพเจ้าสอนให้พอเป็นสังเขปให้ดีเถอะนะ เจ้าเด็กอนุบาล(ประชดขอรับ)
    การปรุงแต่งตามการสัมผัส เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นสติปัญญา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสัมผัสความเย็น คุณก็จะรู้สึกว่าเย็น ความเย็นที่คุณรู้สึก นั่นคือ สติปัญญา ที่มีอยู่ในสมองของคุณ
     
  7. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ความจริงแล้วข้าพเจ้าหัวเราะเมื่อได้อ่านข้อแสดงความคิดเห็นนี้ ระดับคุณนะเหรอ จะรู้เรื่องจิต คุณไม่มีความรู้อะไรดอกขอรับ และข้าพเจ้าก็จะไม่อธิบายเรื่องของ "จิต"ภายในร่างกายมนุษย์ดอกนะ คุณอยากเห็นไหมละว่า จิต ของมนุษย์ที่ ไม่มีกิเลส เป็นอย่างไร มาดูซิ มาซิ มาหาข้าพเจ้าแล้วจะได้เห็น
    ไม่หัวเราะนะ ขอรับ
     
  8. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    งั้นขอถามต่อเลยครับ คุณผู้มีปัญญา ทำไมจิตจึงรู้สึกว่าเย็น เริ่มตั้งแต่กระบวนการทำงานของร่างกายเลยครับ

    แค่เรื่อง" ฌาณ "คุณก็ยังเพ้อไม่รู้เรื่องเลย ผมได้อธิบายถึงกายแยกจากจิตแล้ว

    ก็ยังไม่เข้าใจอีก การที่จะมีอารมณ์เดียวได้ จิตนั้นไม่รับรู้ถึงกายแล้วครับ

    และกว่าจะเข้าถึงฌาณได้ ก็ต้องก้าวข้ามภวังค์เสียก่อนอีกด้วย

    สาธุครับ
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แค่ไหลไปตามอารมณ์ ก็บ่งบอกชัดเจนแล้ว ว่าไม่ใช่ผู้ที่เห็นจิต

    น้อยครั้งนักผู้ที่เห็นจิตจะหัวเราะ แต่คุณหัวเราะแทบทุกโพสเลยครับ

    ยังไม่รู้สึกตัวอีก เขาทักแล้วยังไปน้ำขุ่นๆอีก สติน่ะมีไหมครับ

    สาธุครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การหัวเราะเยาะผู้อื่นด้วยนึกคิดว่าเขานั้นมีความรู้ที่ต้อยต่ำ เป็นกริยาของผู้ที่มีจิตดูหมิ่น

    หาใช่ผู้ที่มีธรรมในตนไม่ แต่เป็นเพียงผู้ที่หลงตนเองว่ามีความรู้มาก แต่หาได้รู้จักตนเองไม่

    ผู้ที่เจริญในธรรมนั้น ย่อมมีแต่เมตตาต่อผู้อื่นเป็นนิตย์ คอยแต่จะเอื้อประโยชน์แก่ผู้อื่น

    สาธุครับ
     
  11. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    ขอกล่าวตามหลักภาษาไทยโดยทั่วไป ว่า
    (ไม่)ใช่ ผม โง่ แล้ว อวดรู้ อวดฉลาด ไม่มีหัวคิด มีสมองเอาไว้ กิน ข.. ป.... นอน ...นั้นแหละขอรับ โง่ แล้วอวดรู้ อวดฉลาด คำนี้ซื้อได้ที่ไหนจะไปหาซื้อบ้าง เพราะหลงในความไม่รู้ มานานแระ
     
  12. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500


    รบกวนกรุณา พิจารณาในบทความอีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง จนกว่าจะเข้าใจ
    แล้วค่อยสื่อออกมานะครับ คนอ่านไม่ใช่มีแค่คนเดียว
    ประเดี๋ยว เด็ก ๆ ที่เพึ่งจะเริ่มหัดเดิน จะหลงทางไปเพราะคุณ

    ผมไม่ได้ฉลาด หรือ อวดรู้ ใด ๆ สักแต่ว่าอ่านมันไป ก็แค่นั้น

    เห็นประโยชน์ก็จัดเก็บ เห็นมัดเห็บก็จับทิ้งครับ
     
  13. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    แล้วถ้าตามจขกท.ไป ไปเจอแระพบว่ามีกิเลสละคับ จะให้ทำไงต่อ คำว่าไม่มีกิเลส กับมีกิเลส มันก้เส้นแบ่งกั้นของมันอยู่เหมือนกันนะคับ... ก้เหมือนการปฏิบัติให้ถึงมรรค กับการปฏิบัตินอกมรรค ผลสำเร็ที่ได้รับก้ย่อมคนละเรื่อง คนละราวไปเลย

    ที่หัวเราะได้ ก้เพราะได้ว่าใครบางคน ในกท.นี้ไง ก้เลยอารมณ์ดี อ่านแล้วผมก้ขำๆๆ

    คุณบุดดา กท.นี้ ที่ตั้งผมว่า จิตสงบ กับ จิตตั้งมั่น ผลที่ได้มันเหมือนกันนะ...
    สงบ ตั้งมั่น หรือสมาธิ คุณบุดดา พิมและโต้ตอบกท. กับผู้ร้ในนี้ ก้ต้องใช่ความสงบในการนึกคิด และก้ต้องจดจ่ออย่กับสิ่งที่จะโพสท์ก้คือตั้งมั่น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก้คือ คุณก็ร้สึกไปตามสิ่งที่มีคนมาโต้ตอบไว้ และในนี้ก้มีหลายคนตอบไว้ดี ก้น่าจะที่เปนที่พอใจของคุนบุดดานะ..... ผมอยากร้จังว่า คุนบุดดาคิดว่า ระหว่างจิตจะสงบก่อน หรือตั้งมั่นก่อนดี ....
    เหนชอบถามๆ
    อันไหนสำคัญกว่าอันไหน... คำว่า ."สงบ" สำหรับนักปฏิบัติมือใหม่นี่ผมว่าสำคัญมากๆเรย... ใช่ว่าใครจะสงบก้จะสงบได้ กายสงบ ก้ใช่ว่าจิตจะสงบ
    แต่ก้เริ่มจากกายก่อนนั่นแหละ หรือเริ่มจากสมองก่อนดี คุณบุดดาคิดว่าไง กับความคิดผมอันนี้
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    สาธุๆๆ

    เพราะระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ ว่ายังเดินไม่ถึง จึงพยายามเดินต่อไปเรื่อยๆ สักวันนึง จะถึงที่หมาย

    และ เพราะลำพองว่าตนถึงที่หมายแล้ว จึงไม่ก้าวเดินต่อ หากจุดที่หยุดอยู่ยังไม่ใช่ที่หมายแท้จริง ก็ย่อมจะไม่มีวันถึงที่หมาย
     
  15. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    สาธุ ๆ คุณปุณ

    เดิน ก็รู้ว่ากำลังเดิน ถึงที่หมายแล้ว ก็รู้ว่าถึงแล้ว
    แต่หากขณะที่ก้าวเดินอยู่ จะขอเวลาแวะซื้อของข้างทางหน่อยนึง
    เผื่อว่าเดิน ๆอยู่ แล้วเกิดหลงทางขึ้นมา จะได้ใช้ของที่ซื้อมาว่า
    โง่ แล้วอวดรู้ อวดฉลาด ไว้เป็นเครื่องเตือนสติ ให้ไม่หลงทางไปไกล
    (คำนี้ ก็มีประโยชน์ดีเนอะครับ)
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมไม่รู้ว่าใคร คือ คุณบุดดาครับ แต่ขอตอบครับ การปฎิบัติธรรมนั่งกรรมฐานนั้น

    ต้องเริ่มจากจิตที่สงบเสียก่อนครับ หาไม่แล้วจะให้จิตนั้นตั้งมั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ

    ส่วนการหัวเราะนั้น ผมได้อธิบายเอาไว้แล้วครับ ผู้ที่เห็นจิตจะหัวเราะนั้น น้อยครั้งครับ

    และ ที่หัวเราะจะเป็นเรื่องที่ผู้อื่นนั้นไม่ขำ เพราะมุมมองนั้นไม่เหมือนกัน คุณคงเข้าใจนะครับ

    โดยทั่วไปคนเราจะหัวเราะในเรื่องตลกขบขัน แต่ผู้ที่เห็นจิตจะไม่หัวเราะในเรื่องขบขัน

    แต่จะหัวเราะต่อเมื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ ไม่ว่าจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่หัวเราะที่ได้ทำอยู่

    สาธุครับ
     
  17. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณขอรับ คุณคิดว่าข้าพเจ้าตอบคุณไม่ได้อย่างนั้นหรือขอรับ เรื่องจิ๋บจ้อยขอรับ แต่ข้าพเจ้าไม่ตอบ เพราะไม่อยาก เสวนากับคุณอีก
    คุณจะคิดอย่างไรก็เรื่องของคุณขอรับ
    แค่เรื่อง ฌาน คุณยังเพ้อเจ้อ จ้อแถไปก็แถมา อธิบายให้แล้วยังไม่เข้าใจดันกลับบอกว่าข้าพเจ้าไม่เข้าใจ แล้วข้าพเจ้าจะอธิบายเรื่อง จิตให้คุณได้รับความรู้อีกหรือ เสียเวลาขอรับ
    คุณหาอ่านเอาในเวบฯนี้ คงจะยังมีอยู่ ชื่อกระทู้ " การปรุงแต่งของจิต" "จิต หรือ จิตวิญญาณ" ลองหาดูถ้าเขาไม่ลบทิ้งก็คงจะมีอยู่
     
  18. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ telwada
    เพ้อเจ้อ...จ้อไม่เข้าที จะนั่งฯ หรือเลิกนั่ง ก็เรียกว่า สมาธิ หรือ จิตตั้งมั่นเหมือนกันนั่นแหละ (ในที่นี้หมายเอาเฉพาะ คำว่า สมาธิ หรือ จิตตั้งมั่น) ทำเป็นอวดรู้ อวดฉลาด ไม่ศึกษาให้เกิดความรู้ความเข้าใจให้มากเถอะขอรับ

    คุณทำไมไม่สอนตัวคุณเองละขอรับ คุณมีความเข้าใจในความหมายของภาษาหรือไม่ ที่คุณกล่าวมา ก็อวดรู้ อวดฉลาด อยุ่ดีนั่นแหละ
    คุณขอรับ
    คุณยังมีความรู้น้อย แต่ทิฏฐิมาก ไม่มีสมองสติปัญญา นี้ไม่ใช่คำดูหมิ่นนะขอรับ
    ถ้า เป็นขณะนั่งกัมมัฏฐานอยู่
    จิตเกิดปรุงแต่ง ทางศาสนา เขาเรียกว่า เกิด"ฌาน"
    คือ เกิดลักษณะการทำงานรูปแบบหนึ่ง
    ถ้าจิตสงบ คือ ไม่ปรุงแต่งขณะนั่งสมาธิ(กัมมัฎฐาน) เรียกว่า สมาธิ หรือ เอกัคคตา
    ถ้าไม่นั่งสมาธิ(กัมมัฏฐาน)
    จิตปรุงแต่ง ตามการสัมผัส เรียกว่า สติปัญญา รู้เท่าทันด้วยความมีสมาธิ
    ถ้าจิตไม่ปรุงแต่ง ตามการสัมผัส
    เรียกว่า มีสมาธิดี
    สามารถควบคุม ความคิด การระลึกนึกถึง อารมณ์ ความรู้สึก ไม่ไหลตามสิ่งที่มากระทบ มีสติสัมปชัญญะ อยู่ตลอด
    ไม่ใช่ข้อแตกต่าง และเป็น ลักษณะการทำงาน ของระบบสรีระร่างกายของมนุษย์
    (ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์)
    และหมายเอา
    เฉพาะผู้ที่ปฏิบัติ สมาธิ(กรรมฐาน)
     
  19. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
     
  20. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แค่ข้ออ้างที่จะหลีกเลี่ยงในการตอบคำถามเท่านั้น และ ใครกันแน่ที่ไม่เข้าใจในเรื่อง " ฌาณ "

    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...