**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9495


    เหรียญรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2500
    เนื้อฝาบาตร


    จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2500 เป็นเหรียญรูปไข่เนื้อฝาบาตร

    #ด้านหน้าของเหียญเป็นรูปเหมือนนั่งเต็มองค์
    ด้านบนเป็นอักษรล้านนา เขียนว่า ครูบาพรหมจักร
    ด้านล่างเป็น ตัวหนังสือภาษาไทย เขียนว่า พระครูพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทต้ากผ้า อ ป่าซาง จลำพูน

    #ด้านหลังของเหรียญเป็นอักษรล้านนา
    #พระคาถาด้านบน นะมะพะธะยะ หรือ นะโมพุทธายะ” เป็นอักขระที่ใช้แทนพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในกัปป์นี้ และ ยังแทนความหมายของแม่ธาตุใหญ่ที่ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งอีกด้วย จึงถือได้ว่า เป็นคาถาหลักๆที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีความเชื่อว่าหากผู้ใดบริกรรมคาถาบูชาสรรเสริญพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ สวด “นะโมพุทธายะ” ด้วยจิตอันสงบ มั่นคง แน่วแน่ จะเกิดพุทธคุณครอบจักรวาลทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด คงกระพัน มีกำลังกาย กำลังใจที่ดี ไม่เกรงกลัวต่อภยันตรายต่างๆ
    ทั้งนี้ยังได้มีการนำพระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์มาสร้างเป็นยันต์ “พระเจ้าห้าพระองค์” อีกด้วย โดยลงอักขระด้วย “ นะโมพุทธายะ” ใช้ได้ครอบจักรวาล
    "นะโมพุทธายะ" 1f64f-png.png
    สำหรับความหมายของ “นะ โม พุท ธา ยะ” มีดังนี้
    1f64f-png.png นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ หรือ อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒ ใช้ในการปลุกเสกให้เกิดพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม
    1f64f-png.png โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน หรือ ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ ใช้ในการปลุกเสกให้เกิดพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี
    1f64f-png.png พุท หมายถึง พระกัสสปะ ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ หรือ เตโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖ ใช้ในการขับไล่สิ่งอัปมงคล หรือสะเดาะเคราะห์
    1f64f-png.png ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม หรือ วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗ ใช้ด้านการล่องหน กำบังตน
    1f64f-png.png ยะ หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐ เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖

    #พระคาถาด้านล่าง
    นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เป็นคาถาเมตตามหานิยม
    จัดเป็นเหรียญยอดนิยมของจังหวัดลำพูนที่น่าเก็บไว้บูชามากๆครับ
    เหรียญนี้ผิวแห้งเก่าดูง่ายครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_96.jpg Clip_97.jpg Clip_98.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9496

    เหรียญครูบาขาวปี. บ้านปวงปี2518 สวยดูง่าย

    ท่านครูบาอภิชัยครูบาขาวปี ได้อธิฐานจิตปลุกเสกทางคณะกรรมการจัดสร้างได้นำเหรียญให้ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในองค์ท่านครูบาได้ร่วมทำบุญ มีผู้นำไปใช้ เกิดประสบการณ์ มากมาย จนกลายเป็นเหรียญยอดนิยม
    ของเบาๆน่าใช้ครับ


    ราคา 950 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_10.jpg Clip_11.jpg Clip_12.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9497

    เหรียญรุ่นแรกสมเด็จพระทามหาชัย จ.ลำพูน

    พระสมเด็จพระทามหาชัย เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร โดยมีท่านครูบาขาวปี ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิชัยและชาวประชาชน อ.แม่ทา ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำพูนขึ้นมา สร้างเมื่อปี 2515 เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและป้องกันเหตุเภทภัยต่าง ๆ ไม่ให้เกิดขึ้น หรือหากเกิดขึ้นก็ไม่มีการสูญเสียชีวิตแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นจุดรวมเพื่อ สร้างความสงบสุขและมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้ ประดิษฐ์สถานอยู่บนเขาหลังที่ว่าการอำเภอแม่ทา ข้างซุปเปอร์ไฮเวย์สาย เชียงใหม่ - ลำปาง ตรงสามแยกสายแม่ทา - ท่าจักร ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสมของ อำเภอแม่ทาให้ผู้ที่ขับขี่ยวดยานบนถนนสายนี้จะได้ไม่ประมาท และได้ตั้งนาม พระพุทธรูปองค์นี้ว่า "สมเด็จพระพุทธามหาชัย" แปลว่าผู้ให้ชัยชนะอันใหญ่ หลวงแก่ผู้มากราบไหว้บูชา ดังนั้นศรัทธาประชาชนในอำเภอแม่ทาจึง มีความเคารพนับถือ กราบไหว้สมเด็จพระพุทธามหาชัยเป็นที่พึ่งทางใจตลอด เวลา เขาที่พระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐ์สถานอยู่จึงเรียกกันว่า "ดอยพุทธา มหาชัย"
    “สมเด็จพระพุทธามหาชัย” แปลว่าผู้ให้ชัยชนะอันใหญ่หลวงแก่ผู้มากราบไหว้บูชา เป็นพระพุทธรูปประจำอำเภอแม่ทา ปางห้ามสมุทร สมัยเชียงแสน สูง 9 ศอก ประทับยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ด้านถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เป็นการป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายให้แก่ผู้ผ่านไปมาได้พบเห็นและกราบไหว้บูชา สร้างเสร็จ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2517 เป็นพุทธสถานที่ประชาชนชาวแม่ทาเคารพสักการะบูชา เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขและมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป้องกันภัยพิบัติทั้งปวงและเป็นมงคลแก่ผู้ที่มาสักการะบูชากราบไหว้ ตั้งอยู่ ณ วัดศรีบุญเรือง หมู่ที่ 8 บ้านดอนชัย ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ในเดือน 6 เป็ง (เดือนหกเหนือ) เทศบาลตำบลทาสบเส้าได้จัดให้มีงานประเพณีสรงน้ำสมเด็จพระพุทธามหาชัย และมีงานฉลองสมโภชน์เป็นประจำทุกปี

    #พุทธคุณเต็มเปี่ยมนำชุดนี้ขึ้นคอสบายใจได้เลยครับ
    #หายากมากครับประวัติการสร้างชัดเจนพุทธคุณหลักล้านผมนำมาแบ่งท่านครับ
    #ท่านใดที่กำลังศึกษาหรือสะสมไม่ควรพลาดเลยครับองค์นี้
    #ราคาไม่แพงจับต้องได้ครับขึ้นคอเเล้วสบายใจเเน่นอนครับชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวงแหนมากครับหายาก
    #พิธีจัดสร้างดีพิธียิ่งใหญ่แบบนี้น่าบูชาครับ
    #พระหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน
    #พระดีปีลึกน่าเก็บสะสมบูชามากครับ

    บูชาแล้วครับ

    Clip_13.jpg Clip_14.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9498

    เหรียญพระพุทธนาคปรก รุ่นแรก หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

    เป็นเหรียญที่ระลึกในวันคล้ายวัดเกิดของหลวงพ่อประสิทธิ์ในปี 2546 สร้างถวายโดยคณะศิษย์จากจังหวัดแพร่
    สร้างโดย คุณวิเชียร เจริญชัย สร้าง ๒ เนื้อ คือ นวะโลหะ และ ทองแดง
    เนื้อทองแดง จำนวน ๒,๒๐๐ เหรียญ และ เนื้อนวะโลหะ จำนวน ๕๑ เหรียญ
    พระยอดนิยมของหลวงพ่อประสิทธิ์ ครับ

    ราคา 2900 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    d.jpg nbvn.jpg xcxo.jpg

    Clip_6.jpg

    หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เจ้าอาวาส วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ละสังขาร สิริอายุ 75 ปี 55 พรรษา
    หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เกิดที่บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2484 บิดาชื่อ พ่อสนธิ์ มารดาชื่อแม่มุก นามสกุล สิมมะลี มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 7 คน เป็นชาย และหญิง 4 คน ดังนี้
    1. นางสาวเสรี สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 25 ปี
    2. หลวงพ่อประสิทธิ์ ปญฺญมากโร อายุ 66 ปี (พ.ศ.2549)
    3. นายยสมคิด สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 36 ปี
    4. นายสวัสดิ์ สิมมะลี มีชีวิตอยู่ อายุ 62 ปี
    5. เด็กหญิงเสาร์ศักดิ์มน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 7 ปี
    6. นางทองใส คุนุ มีชีวิตอยู่ อายุ 54 ปี
    7. นางสาวหนูพวน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 28 ปี
    ชีวิตในวัยเด็ก
    หลวงพ่อประสิทธิ์ เท่ากับเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เมื่อมีอายุ 7 ปี ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ สอบไล่ได้ตำแหน่งที่ 1 หรือ ที่ 2 เป็นประจำทุกปี ตลอดจนจบชั้นประถมปีที่ 4 พอจบชั้นประถมแล้ว ครูใหญ่ชื่อ “ปรีชา” ให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมพิทยานุกุล ในตัวจังหวัดอุดรธานี หลวงพ่อได้ถามบิดาว่า “ จะเรียนดีหรือไม่เรียนดี” และเมื่อบิดาบอกว่า “ทำไร่ทำนาดีกว่า สบายใจดี” หลวงพ่อฯ จึงตัดสินใจช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา
    หลวงพ่อประสิทธิ์ เมื่อเยาว์วัย จึงเป็นแรงสำคัญช่วยงานบิดา มารดา อย่างเต็มความสามารถ ตั้งแต่ยังเรียนหนังสือชั้นประถม จนเช้าสู่วัยหนุ่มอายุ 19 ปี จึงเกิดความคิดอยากเข้าวัด เนื่องจากวัดป่านิโครธาราม ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อยู่ใกล้บ้าน ท่านได้ทบทวนชีวิตฆราวาส ผ่านมาได้ช่วยบิดามารดามา จนเป็นที่พอใจแล้ว ฐานะทางครอบครัวก็พอดีๆ ไม่รวยและไม่จน และพี่น้องต่างก็โต พอจะช่วยงานของครอบครัว พ่อแม่ได้แล้ว หลวงพ่อท่านคิดว่า ได้เกิดมาใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่พอที่ได้อาศัย ท่านมาเกิดในชาตินี้แล้ว จึงคิดมองหา เส้นทางจิต ที่คิด ไม่อยากกลับมาเกิดเป็นหนี้ภพชาติอีกต่อไป โดยเกิดศรัทธาปัญญาในทางพระพุทธศาสนา คิดจะบวชไม่มีกำหนดตลอดชีวิต หวังอยู่ปฏิบัติ ตนเพื่อหลุดพ้น ความเกิดจนถึงอมตะพระนิพพาน
    บรรพชาและอุปสมบท
    ต่อมาครอบครัว ได้พาหลวงพ่อเข้าไปฝากตัวกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2503 เวลา 19.00 น. และได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2503 ณ วัดโพธสมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2504 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันที่ 1 มิถุนายน โดยมีพระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    วัดป่าหมู่ใหม่ เป็นวัดป่าสายธรรมยุตที่สงบเงียบ หลวงพ่อประสิทธิ์ ได้อนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าเดิม พร้อมกับปลูกป่าเสริมเพิ่มต้นไม้ตลอดเวลา ทำให้วัดมีต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์ร่มรื่น โดยมีกุฏิไม้แทรกอยู่ระยะห่างกันพอสมควร นอกจากศาลาอเนกประสงค์สองชั้น ชั้นล่างใช้เป็นที่ไหว้พระสวดมนต์ ฟังเทศน์ เป็นโรงฉันพร้อมสรรพ ส่วนชั้นสอง ใช้เป็นอุโบสถ ยังมีศาลาโรงครัวอีกหลังหนึ่ง นอกนั้นเป็นกุฏิพระ และกุฏิสำหรับอุบาสา อุบาสิกา และญาติโยม มาพักเพื่อปฏิบัติธรรม วัดป่าหมู่ใหม่เป็นสถานที่สงบเงียบ เหมาะแก่การทำสมาธิภาวนา และเดินจงกรมเป็นอย่างยิ่ง
    ภายในวัดป่าหมู่ใหม่ มีไฟฟ้าใช้เฉพาะไฟส่องถนน และบริเวณศาลา-อุโบสถ กับห้องสุขาส่วนด้านหน้าเท่านั้น ส่วนกุฏิพระทั้งหมด ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าเข้าไป พระภิกษุสามเณร และญาติธรรม ใช้อาศัยแสงไฟจากไฟฉาย เทียนไข หรือตะเกียงในยามค่ำคืน ส่วนน้ำดื่ม น้ำฉันก็จากน้ำแทงค์น้ำเก็บน้ำฝน ส่วนน้ำใช้ก็จากน้ำ จากชลประทาน แม่แตงและจากน้ำบ่อที่ขุดไว้ ภายในวัดไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีการใช้โทรศัพท์พื้นฐาน หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นความ ประสงค์ของหลวงพ่อประสิทธิ์ ที่ต้องการให้มีการปฏิบัติภาวนา โดยไม่มีสิ่งอื่นมาล่อใจให้ไขว้เขวได้
    เมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลา 14. 23 น.หลวงพ่อ มึอาการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจฉับพลัน ทรุดลงไปไม่รู้ตัว หลวงพ่อจันทร์เรียนให้นำกลับไปวัดถ้าสหายฯ ขณะถอดอุปกรณ์จะเคลื่อนย้าย เข้าสูนิพพาน เวลาประมาณ 14.23 น.
    https://cdn.chiangmainews.co.th/.../07/07162513/5_776.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9499


    เหรียญรุ่นแรกครูบาต๋า วัดบ้านเหล่า ปี 2522 สวยๆ

    จัดสร้างในปี 2522 มีสองเนื้อ ๑.เหรียญเนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๒๒ จำนวนการสร้างน้อยมาก ๕๘ เหรียญ เท่ากับอายุของครูบาฯท่าน แจกกรรมการ ๒. เหรียญทองแดงสร้าง ๕,๐๐๐ เหรียญ แจกญาติโยมผู้มาร่วมทำบุญในงานฉลองพระวิหารวัดอุโบสถบ้านเหล่า ปลุกเสกโดย ๙ สุดยอดเกจิอาจารย์ล้านนา ผู้เป็นศิษย์สายตรง อาทิ ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ,ครูบาอินตา วัดห้วยไซ จังหวัดลำพูน ครูบาอินโต คันธะวังโส วัดบุญยืน จังหวัดพะเยา ฯลฯ ได้ทำพิธีวางเหรียญไว้บนศาตราวุธอันมีคมตามหลักตำราล้านนาโบราณ ปลุกเสก ๑ วัน ๑ คืน และครูบาต๋าท่านปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้ง แล้วนำมาแจกให้ญาติโยมในเช้าวันรุ่งขึ้นในงานฉลองพระวิหาร สุดยอดแห่งความเข้มขลังเฉกเช่นผ้ายันต์ม้านเสพนางอันโด่งดังของท่าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ครับ
    เจ้าตำหรับผ้ายันต์ม้าเสพนาง อันโด่งดังครับ

    บูชาแล้วครับ

    vcx.jpg i.jpg q.jpg

    Clip_4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9500


    ชุดตะกรุดยันต์หนีบยุคต้นจารมือ+ตะกรุดต่อเจ็ดเเม่ +เหรียญรุ่น 2 ครูบาต๋า วัดอุโบสถบ้านเหล่า ปี 2525 ครบชุด สวยเดิมๆ


    ท่านครูบาต๋าท่านได้รำเรียนศึกษาสืบทอด จากท่านครูบาชุ่มวัดวังมุยผู้เป็นอาจารย์และเป็นลุงของท่าน (เมตตาสุดๆ) ยันต์หนีบด้วยวิธีการสร้างที่สุดแสนจะพิเศษ เมื่อคืนใดเกิดราหูอมจันทร์ เมื่อถึงเวลาราหูเริ่มอมจันทร์ พิธีจึงเริ่มขึ้น ครูบาท่านจะเริ่มจารอักขรล้านนาลงบนแผ่นโลหะ เมื่อราหูอมจันทร์จนเต็มดวง สิ้นแสงจันทร์ในคืนนั้น ท้องฟ้ามืดมิด ครูบาท่านเริ่มบริกรรมคาถา ตำราราหูอมจันทร์อันลือเรื่อง ที่ได้รับสืบถอดมาจากท่านผู้เป็นอาจารย์ ท่านครูบาชุ่ม วัดชัยมงคล (วังมุย) พอพระจันทร์เริ่มกลับมามีแสงอีกครั้ง ครูบาท่านจะหยุดบริกรรมคาถา ส่วนที่เหลืออยู่เก็บไว้ทำในเช้าวันรุ่งขึ้น ท่านใดมียันต์หนีบราหูไว้ จะจูงใจให้คนรักใคร่เอ็นดู ยุคแรกของยันต์หนีบราหูจะเป็นแบบจารมือลงบนแผ่นโลหะต่างๆ แต่เมื่อญาติโยมมีมาก ความต้องการมากขึ้น ทางวัดจึงได้จัดสร้างแม่พิมพ์ปั๊ม เพื่อให้พอกับบรรดาศิษย์ที่มาคอยรับยันต์หนีบราหูจากมือของท่านครูบา
    วิธีการใช้ ให้เอา "ใบไม้หอม" เช่น "ใบดอกมะลิ"เขียนชื่อเรา และ คนที่เรา ต้องการให้เมตตา พับเข้าหากัน สอดไว้ใน ยันต์หนีบ แล้วเสก คาถาว่า - โอม นะ โม โห ติ - 108 จบ ให้ท่องคาถาตอน เที่ยงคืน(เป็นเวลา คาบวัน ระหว่างวันนี้กับวันรุ่งขึ้น) เอาไว้ใต้หมอนเรานอน คนที่เรา คิดถึง จะ" ฝัน "เห็นเรา - เสกคาถา 7-9 จบ ให้พกไว้ในกระเป๋าพกพา แล้วไปหา คนที่เราเขียนชื่อไว้ ต้องการให้ เมตตา เขาเห็นหน้าเรา จะ เมตตา เอ็นดูเรา "-... ตะกรุดพับ หรือ ยันต์หนีบ(ราหู) แผ่นนี้ เป็นยุคแรก ของท่าน มีใบฝอย คาถากำกับ ติดมาด้วย ว่า ...โอม- นะ -โม -โห -ติ -หญิงชายทั้งหลาย-เจ้านายทั้งหลาย- ยันต์หนีบ(ราหู) ยุคหลังของท่าน จะเป็นแบบ ปั๊ม ยันต์หนีบ (ราหู ) ทั้ง2แบบนี้ มี มหานิยมดีนัก ...
    ตะกรุดต่อ 7 แม่ของครูบาต๋าวัดอุโบสถบ้านเหล่า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นตะกรุดมี 7 ดอก ใช้คาดเอว คาดแขน ห้อยคอพุทธคุณเด่นทางด้าน คุ้มครอง ป้องกันภัย แคล้วคลาดดีด้าน คุ้มครอง ป้องกันภัย ต่าง ๆ ครับ
    มาพร้อมเหรียญรุ่น 2 ปี 2525
    #ครบชุดเดิม ๆ แท้ดูง่ายครับ

    ราคา 2750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    bcbco.jpg vvc.jpg klj[.jpg zxz.jpg Clip_4.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2022
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9501

    กุมารทองอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก จ.เชียงใหม่ สุดขลัง


    กุมารทองแห่งล้านนากุมารทองเนื้อผงกระดูกผี อาจารย์เณร วิเศษสิงห์คำกล่าวถึงกุมารทองของล้านนา สำนักหนึ่งที่โด่งดังเรื่องการสร้าง กุมารทองจากกระดูกผีก็คือ สำนักสันป่าสัก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ หรือ รู้จักกันดี ในนามของ กุมารทองของอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ อาจารย์เณรท่านนี้ท่านมีความขมังเวทย์และเชี่ยวชาญการสร้างวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่องและเครื่องรางโดยเฉพาะเครื่องรางของท่านนั้นในยุคนั้นโด่งดัง มาก ไม่ว่า จะเป็น กุมารทอง วัวธนู ตะกรุด เสื้อยันต์ และ เครื่องรางอื่นๆท่านได้สร้างกุมารทองเนื้อผงอาถรรพ์ขึ้นเมื่อปี 2520
    ตำนานการสร้างกุมารทอง ให้เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ตำนานการสร้างแบบโบราณกาลได้นั้น ผู้สร้างต้องเป็นผู้ที่มีความรู้แตก ฉาน เกี่ยวกับวัตถุส่วนผสมต่าง ๆ ที่นำมาเป็นผงวิเศษของกุมารทอง ซึ่งเรียกว่า “วัตถุอาถรรพ์” อย่างละเอียดพิสดาร กุมารทองจึงจะบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้วัตถุอาถรรพ์ล้วนเป็นสิ่งที่หาได้ ยากยิ่งทั้งสิ้น หากไม่มีวิชาอาคม และของขลังแล้วจักไม่สามารถเสาหามาได้เลย ซึ่งมีถึงเจ็ดชนิดด้วยกันเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ดินเจ็ดวัดร้าง ดินเจ็ดทางสามแพร่ง ดินเจ็ดท่าน้ำ ดินเจ็ดสระน้ำ และดินเจ็ดสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อหาวัตถุเหล่านั้นได้ตามตำราแล้ว จึงนำมาผสมผง กระดูกเจ็ดป่าช้า และผงว่านที่มีคุณอิทธิฤทธิ์ทางเมตตา มหานิยมโชคลาภ ซึ่งประกอบด้วย ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ ว่านดินสอฤาษี ว่านเสน่ห์นางกวัก ว่านเสน่ห์มหาโชค ว่านกาหลง และว่านดอกสุวรรณ์ ซึ่งว่านเหล่านี้เป็นของที่หาได้ยากยิ่ง ต้องใช้เวลาในการเสาะหาเป็นเวลาหลายปีจึงจะได้ครบ เมื่อหาได้ครบตามตำราการสร้างแล้วจะกระทำพิธีปลุกเสก ด้วยเวทย์มนต์จนบังเกิดเป็นผงอันศักดิ์สิทธิ์ใช้บรรจุในองค์กุมารทอง
    การปลุกเสก
    ต้องประกอบพิธีปลุกเสกในบริเวณป่าช้าที่เงียบสงัดในยามค่ำคืนจนครบเจ็ด ป่าช้า จนกว่ากุมารทองจักเกิดความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผู้ปลุกเสกต้องเป็นผู้มีพลังจิต และสมาธิอันกล้าแข็ง และได้รับการถ่ายทอดศึกษาวิชาอาคมต่าง ๆ จากเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิทางวิชาไสยศาสตร์อย่างละเอียดลึกซึ้ง สามารถ่ายทอดอำนาจเวทย์ให้คงไว้ในกุมารทอง จนบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์สมประสงค์ต้องตามตำรา
    อิทธิปาฏิหาริย์พุทธคุณของกุมารทอง
    กุมารทองเป็นวัตถุมงคลเอกชนิดหนึ่ง ที่บรรดาเกจิอาจารย์ต่าง ๆ และผู้ที่มีความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์เชื่อถือว่าเป็นวัตถุที่มีอิทธิฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม สามารถช่วยดลบันดาลให้ผู้ที่มีไว้สักการบูชา หรือมีติดตัวอยู่เสมอบังเกิดโชคลาภทางเมตตาค้าขาย เป็นที่รักเสน่หาแก่บุคคลผู้พบเห็น หาศัตรูมิได้ทั้งช่วยป้องกันภยันตราย ภูตผีปีศาจได้อย่างมหัศจรรย์


    บูชาแล้วครับ

    Clip_30.jpg Clip_32.jpg Clip_33.jpg Clip_29.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9502

    เหรียญพระวิษณุกรรม หลังวัวธนูอาจารย์เณรวิเศษ สิงห์คำ วัดป่าสัก ปี 2522 อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สวยเดิมๆ หายากครับ

    รู้จักกันดี ในนามของ อาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ อาจารย์เณรท่านนี้ท่านมีความขมังเวทย์และเชี่ยวชาญการสร้างวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่องและเครื่องรางโดยเฉพาะเครื่องรางของท่านนั้นในยุคนั้นโด่งดัง มาก ไม่ว่า จะเป็น กุมารทอง วัวธนู ตะกรุด เสื้อยันต์ และ เครื่องรางอื่นๆ

    ลูกพระวิษณุกรรมน่าใช้มากๆครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_34.jpg Clip_35.jpg Clip_29.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9503

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาตั๋น สนฺตจิตฺโต วัดป่าลานผีเบื่อ
    (ผีไห้, ผีกลั๋ว) เนื้อกะไหล่ทองสวยๆ


    เหรียญรุ่นแรกของครูบาท่านหายากเพราะท่านสร้างน้อยและปลุกเสกยาวนานอีกทั้งท่านเป็นพระที่เรืองวิทยาอาคมต่างๆอย่าเอกอุ ทรงจำพระคาถาหลายร้อยหลายพันบทชนิดที่ว่าเปิดตำราของท่านมาเล่มไหนๆ ขึ้นมา ท่านจำได้หมดและคล่องแคล่วชำนาญ เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างปี2519ปลุกเสกถึงปี2523จึงออกให้ศรัทธา

    เหรียญรุ่นแรกของท่านจัดสร้างน้อย หายากมาก จัดเป็นเหรียญที่โด่งดังมาก พุทธคุณสูงมากทั้งป้องกันภูติผีปีศาจ แคล้วคลาดมหาอุดคงกระพันและกันคุณไสยอีกทั้งเด่นในด้านเมตตามหานิยมมหาลาภอีกด้วย..
    ครูบาตั๋นวัดป่าลาน ที่เก่งเรื่องปราบผีมาก จนชาวบ้านได้กล่าวขาน ท่าน ว่า ครูบาตันผีเบื่อ (ผีไห้, ผีกลั๋ว)

    เหรียญนี้สวยผิวไม่ผ่านการใช้


    ราคา 1750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_36.jpg Clip_40.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9504

    พระปิดตาเนื้อเมฆพัตร หลวงพ่อมี วัดทรงคนอง


    ราคา 1200 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900


    Clip_49.jpg Clip_50.jpg Clip_51.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9505

    รูปหล่อรุ่นแรก หลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม รุ่นมรดกโลก ปี 2540 เนื้นวะโลหะ หมายเลข 939

    พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวนนิเวศวิหาร โดยมี สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร เป็นประธานในพิธี

    สุดยอดพระดังเมืองสุดโขทัย

    น่าบูชามาก

    ราคา 1050 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900



    Clip_41.jpg Clip_42.jpg Clip_43.jpg Clip_52.jpg



    ประวัติหลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

    หลวงพ่อศิลา เป็นนามที่ชาวบ้านวัดทุ่งเสลี่ยมเรียกขาน พระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ สกัดจากหินทรายสีเทา ทรงกรองศอพาหุรัด กุณฑล สวมศิราภรณ์ สวมมงกุฎเทริด พระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยม ประทับนั่งขัดสมาธิราบ บนฐานขนาดนาค 3 ชั้น นาคที่ปรกอยู่เหนือพระเศียรนั้นมี 7 เศียร ด้านหลังหางนาคพาดขึ้นมาถึงลำตัว มีลวดลายแบบศิลปะลพบุรี องค์พระวัดจากฐานถึงปลายยอดเศียรนาคสูง 85.50 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 44 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 126.5 กิโลกรัม


    ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงประทานความเห็นไว้ว่า


    "..พระพุทธรูปองค์นี้ ที่กระบังหน้ามีแนวขึ้นมาตรงกลาง ลักษณะเช่นนี้เป็นรูปแบบของโบราณวัตถุที่ทำขึ้นในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า ศิลปะแบบลพบุรี เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากศิลปะเขมร เพราะแม้ลักษณะทั่วไปจะดูคล้ายกัน แต่พระพักตร์นั้นไม่เป็นแบบขอม"


    คำแนะนำที่ทรงประทานนี้ ได้รับการยืนยันโดย นายอาวุธ สุวรรณาศรัย หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งกรมศิลปากรได้ส่งมาตรวจพิสูจนอายุและคุณค่าทางศิลปวัตถุขององค์พระ ดังนี้


    "องค์พระพุทธรูปศิลานั้นแกะสลักจากหินทรายเทา มีความสมบูรณ์และมีลักษณะพิเศษที่ชัดเจนมาก กล่าวคือ มีผ้าทิพย์รองรับตัวองค์พระ ซึ่งปกติแล้วจะเดินเป็นเส้นตรงมากกว่า นอกจากนี้บริเวณด้านหลังมีลายดอกจันที่ขุดลึกลงไปในเนื้อหิน ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นลายขีดธรรมดา สาเหตุที่องค์พระมีความสมบูรณ์ไม่บุบสลายไปตามกาลเวลา น่าจะเป็นเพราะตั้งอยู่ในถ้ำ ไม่ได้จมอยู่ในดินเหมือนองค์อื่นๆ ที่เคยขุดพบ ลักษณะนั้นเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก สิลปะผสม ลักษณะสำคัญซึ่างบ่งชี้ว่า ไม่ใช่ศิลปะแบบบายนแท้ ก็คือ พระพักตร์จะไม่แย้มพระโอษฐ์ ผิดกับเทวรูปกษัตริย์ชัยวรมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะแย้มพระโอษฐ์ทุกพระองค์ จากการตรวจสภาพเนื้อหิน ยืนยันได้ว่าเป็นของแท้ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18-19 เป็นศิลปะลพบุรีที่ได้รับอิทธิพลจากเขมร มีคุณค่ามากด้านการศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะ …"


    แต่เดิมนั้นหลวงพ่อศิลาประดิษฐานอยู่ที่ถ้ำเจ้าราม ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า ชาวบ้านได้ไปหามูลค้างคาวในแถบถ้ำเจ้าราม ได้พบพระธุดงค์รูปหนึ่งซึ่งเล่าให้ฟังว่า ภายในถ้ำเจ้ารามมีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่หลายองค์ และองค์หนึ่งมีความงามโดดเด่นกว่าองค์อื่นใด เป็นพระพุทธรูปศิลานาคปรก


    เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านก็นำความมาเล่าให้พระอภัย เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยม ซึ่งได้หารือกับผู้ใหญ่บ้านว่า จะนำพระพุทธรูปมาไว้ที่วัดทุ่งเสลี่ยม แต่เนื่องจากพระอภัยนั้นสูงอายุ เดินทางไม่ไหว จึงได้เลิกล้มความตั้งใจ ความได้ล่วงรู้ไปถึงครูบาก๋วน เจ้าอาวาสวัดแม่ปะหลวง ตำบลแม่ปะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งท่านก็มีความศรัทธาจึงได้รวบรวมคนเดินทางไปอัญเชิญพระพุทธรูปปางนาคปรก ณ ถ้ำเจ้าราม เมื่อคณะเข้าสู่ภายในถ้ำเจ้าราม ได้พบพระพุทธรูปนาคปรก ซึ่งมีฦูงค้างคาวบินวนเวียนอยู่อย่างมากมาย ครูบาก๋วนจึงได้ทำพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปออกจากถ้ำ และเดินทางรอนแรมมาด้วยความยากลำบาก ผ่านหนองปลาซิว (บ้านห้วยทราย) หนองส้มป่อย (บ้านน้ำดิบ) จนกระทั่งถึงอำเภอทุ่งเสลี่ยม


    เมื่อชาวบ้านทุ่งเสลี่ยมรู้ข่าว จึงพากันจัดขบวนดนตรีพื้นเมือง และขบวนฟ้อนรำมาต้อนรับด้วยความปีติยินดีถ้วนหน้า จวบจนขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปนาคปรกเดินทางมาถึงวัดทุ่งเสลี่ยม ก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ท้องฟ้าที่แจ่มใส แสงแดดที่ร้อนแรงของเดือนเมษายนก็ถูกบดบังด้วยเมฆฝน เกิดฝนตกหนักเป็นเวลานาน เมื่อฝนหยุดตกก็มีฝูงค้างคาวบินมาวนเวียนเหนือบริเวณวัดทุ่งเสลี่ยมแล้วจึง บินกลับถ้ำเจ้าราม


    ชาวบ้านได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปศิลา จึงไม่ยอมให้ครูบาก๋วนอัญเชิญกลับไปยังอำเภอเถิน เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยมจึงได้หารือไปยังเจ้าคณะอำเภอสวรรคโลก ซึ่งเจ้าคณะอำเภอได้ตัดสินให้ประดิษฐานไว้ ณ วัดทุ่งเสลี่ยม ชาวบ้านได้ตั้งชื่อพระพุทธรูปนาคปรกนี้ว่า พระศิลา เพราะเห็นว่าแกะสลักมาจากหินทราย ครูบาก๋วนจึงได้จำลองพระศิลา กลับไปประดิษฐานไว้ที่วัดปะหลวง อำเภอเถิน จังหวัดลำปางด้วยใจศรัทธา


    ครั้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาโจรกรรมพระศิลาไปจากพระอุโบสถใหญ่ วัดทุ่งเสลี่ยม พระศิลาจึงได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย


    อีก 17 ปีต่อมาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2537 กลุ่มอนุรักษ์ชาวไทยในต่างแดนได้พบข่าวพระศิลาในประเทศอังกฤษจึงได้เขียน จดหมายถึงบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์มติชนว่า ได้พบภาพพระพุทธรูปปางนาคปรก ในหนังสือประมวลศิลปวัตถุ เพื่อประมูลขายของสถาบันโซธบี (Sotheby Institute) ในกรุงลอนดอน หน้า 52


    ความทราบถึงชาวอำเภอทุ่งเสลี่ยม ชาวบ้านจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และกรมศิลปากรเพื่อให้ทางราชการติดตามทวงถามพระพุทธรูปที่หายไป ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน กรมศิลปากรได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาหาแนวทางติดตามทวงคืนพระพุทธรูปศิลา


    ต่อมาหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษได้แจ้งให้ไทยทราบว่า มีผู้ประมูลพระพุทธรูปศิลาไปและถูกเคลื่อนย้ายไปที่สหรัฐอเมริกาแล้วทนาย ความของผู้ครอบครองได้ติดต่อเข้ามาว่า ผู้ครอบครองไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปที่ได้มาจากการโจรกรรม แต่จะคืนให้ประเทศไทยโดยเรียกร้องค่าชดเชยเป็นเงิน สองแสนเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,200,000 บาท ในครั้งแรกทางรัฐบาลไทยพยายามจะติดตามทวงคืนพระพุทธรูปศิลาโดยอาศัยกรณีที่ คล้ายคลึงกันกับการหายของรูปปั้นเทพีในประเทศอิตาลี ที่สามารถติดตามทวงคืนได้โดยดำเนินการผ่านทางกระทรวงยุติธรรมของประเทศสหรัฐ อเมริกา ตามสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่เมื่อคณะผู้แทนไทย นำโดยศาสตราจารย์อดุล วิเชียรเจริญ ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ทางหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา(เอฟ บี ไอ) ได้แจ้งให้ทราบว่า การติดตามเรื่องนี้มิใช่คดีอาญา จึงอยู่นอกเหนืออำนาจของเอฟบีไอ รวมถึงการยื่นฟ้องตามสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างสองประเทศก็ไม่สามารถกระทำ ได้


    ในที่สุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2539 คณะกรรมการติดตามพระพุทธรูปศิลา นำโดยร้อยตำรวจโท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการขณะนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบพระพุทธรูปตาม รอยตำหนิ และมอบค่าชดเชยรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนเงินสองแสนหนึ่ง พันเหรียญสหรัฐ ซึ่งนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารฯ เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบให้การสนับสนุนค่าชดเชยนำพระพุทธรูปล้ำค่าของไทยกลับ คืนมา


    วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ขบวนอัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับถึงประเทศไทย ณ สนามบินดอนเมือง มีชาวทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัยได้เหมารถบัสจำนวนกว่า 10 คัน มารอรับองค์หลวงพ่อศิลา ภาพมหัศจรรย์ที่ปรากฏ คือ มีค้างคาวบินวนเวียนในสนามบินดอนเมือง ทั้งทั้งที่ความสว่างไสวของไฟสปอต์ไลท์ในสนามบินดอนเมืองนั้นไม่แพ้แสงแดด เวลากลางวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานหลายคนได้ยืนยันว่า เท่าที่ทำงานมาหลายสิบปีไม่เคยเห็นเช่นนี้มาก่อน


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะดำเนินการอัญเชิญหลวงพ่อศิลา นำโดยร้อยตำรวจโท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ และผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ นำโดยนายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าเฝ้าเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายหลวงพ่อศิลา เนื่องในปีกาญจนาภิเษก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 และรับพระราชทานคืน พร้อมทั้งอัญเชิญกลับไปประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยมดังเดิมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540


    ชาวทุ่งเสลี่ยมจึงได้จัดงานสมโภชเฉลิมฉลองหลวงพ่อศิลาเป็นประจำทุกปีในวัน ที่ 24 กุมภาพันธ์ ปัจจุบันหลวงพ่อศิลาประดิษฐานอยู่ในมณฑปวิหารวัดทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย โดยมีประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมากราบไหว้ด้วยความศรัทธาเป็นประจำตลอดมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2022
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9506

    พระกริ่งตั๊กแตนเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    เนื้อนวะ กรรมการตอกโค๊ด "ฤกษ์" โค๊ดพัดยศ โค๊ด "ฤกษ์"


    เนื้อชนวนโลหะ นำฤกษ์ มีโค้ด

    พระกริ่งตั๊กแตน เนื้อชนวนโลหะ นำฤกษ์ มีโค้ดและหมายเลข พร้อมกล่องเดิมจากวัด ยอดจัดสร้างน้อย คราบแป้งสภาพเดิมๆ จากวัดเลยค่ะ สภาพสวยกริ๊ป ยังไม่ได้ใช้ค่ะ เททองหล่อที่วัดชายนา โดยหลวงพ่อตัด เททองหล่อในฤกษ์ .. ราชาฤกษ์.. ถือเป็นฤกษ์เวลาที่ดี จะทำให้พระที่เททองมีความศักดิ์สิทธิ์และมีพุทธคุณสูงมากค่ะ .. ชื่อรุ่นความหมายดี รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ค่ะ ใครอยากได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนฐานะ ต้องมีติดตัวไว้บูชาค่ะ ..

    หลวงพ่อตัด (พระพุทธวิริยากร)
    รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ วัดชายนา จ.เพชรบุรี

    หลวงพ่อตัดถือเป็นอีกหนึ่งเกจิชื่อดังเมืองเพชรบุรี
    ชื่อเสียงของท่านโด่งดังไม่แพ้ หลวงพ่ออุ้นวัดตาลกงค่ะ
    วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกมีประสบการณ์มากมายให้เห็นค่ะ
    แทบทุกด้าน เมตตา โภคทรัพย์ แึคล้วคลาด ปลอดภัย มหาำอำนาจ โดยเฉพาะ ด้านเมตตา โภคทรัพย์ สุดยอดเลยค่ะ เครื่องรางยอดนิยมของท่านคือ ปลัดขิก เพ็ชรพญาธร เป็นที่เสาะหากันมากในบรรดากลุ่มลูกศิตย์ท่าน เพราะมีพุทธคุณด้านเมตตา



    บูชาแล้วครับ

    Clip_46.jpg Clip_47.jpg Clip_48.jpg Clip_56.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9507

    เหรียญพัดจีน(โป้ยเซียน) พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี จ.สุมทรสงคราม
    (ศิษย์เอก หลวงพ่อ เนื่อง วัดจุฬามณี)

    เหรียญพัดจีน 8 เซียน (โป้ยเซียน) ปีพ.ศ. 2545
    พระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺทจาโร (พระครูโสภิตวิริยาภรณ์)
    วัดจุฬามณี จ.สุมทรสงคราม

    ปลุกเสกพร้อมเหรียญจำปีท้าวเวสฯ ออกแบบสมบูรณ์ทรงความหมาย แก้ดวงตก-ปีชง ๑๑๑

    โป๊ยเซียน เป็นคำจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงแบบจีนกลางคือ ปาเซียน หมายถึงเซียนแปดองค์แห่งสำนักหลีเล่กุน เขาขั่วซัว ตามความเชื่อในลัทธิเต๋า เป็น 8 เทพแถวหน้าที่ได้รับนับถืออย่างกว้างขวางมาช้านาน โดยทั่วไปมักเห็นภาพวาดทั้งแปดอยู่เป็นกลุ่ม โดยมี

    เซียนองค์ที่ 1 หลีทิก๊วย
    ขอทานขาพิการมีไม้เท้า น้ำเต้าและยารักษาโรค
    เซียนแห่งยาและการรักษา – หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

    เซียนองค์ที่ 2 ฮั่นเจ็งหลี
    รูปร่างสูงใหญ่ อ้วนเปิดพุง หน้าผากกว้าง ผมแกละ ขนคิ้วดกยาว จมูกใหญ่
    เซียนแห่งโชคลาภ การบริการ กิจการและการปกครอง – กล้าหาญ เข้มแข้ง ชนะศัตรู

    เซียนองค์ที่ 3 ลื่อทงปิน
    หูยาว คิ้วยาว ตายาว หนวดเครายาว แก้มเป็นพวง คอยาว สูงแปดฟุตกับสองนิ้ว
    เซียนแห่งธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม ปัญญาชน – ค้าขายมีกำไร ร่ำรวยเป็นเศรษฐี

    เซียนองค์ที่ 4 เตียกั๊วเล้า
    นักพรตสวมหมวก ถือลูกท้อและกระบอกไม้ไผ่ มีลาเผือกที่ขี่โดยหันหน้าไปทางหางลา
    เซียนแห่งความมั่นคง ความมีอายุยืน สุขภาพดี – มีเสน่ห์ เป็นที่นิยมรักใคร่

    เซียนองค์ที่ 5 น่าไช่ฮั้ว
    หน้าตาเป็นอมตะเหมือนเด็ก ชอบใส่เสื้อผ้าขาด รองเท้าข้างเดียว ถือตะกร้าดอกไม้และกรับเที่ยวร้อง
    เซียนแห่งบุปผชาติ ความอุดมสมบูรณ์ – เป็นศิลปินที่มีผู้คนนิยม

    เซียนองค์ที่ 6 ฮ่อเซียนโกว
    เทพีหนึ่งเดียว อ่อนโยน เดินเหินได้รวดเร็วเหมือนเหาะ
    เซียนแห่งความดีงาม กตัญญู เกษตรกรรม – อายุยืนนาน รูปร่างสวยงามและสติปัญญาดี

    เซียนองค์ที่ 7 ฮั่นเซียงจือ
    รูปงาม หน้าตาคมเข้ม เป่าขลั่ย
    เซียนแห่งการพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และการดนตรี – เป็นนักประพันธ์และนักกวีที่มีชื่อเสียง

    เซียนองค์ที่ 8 เช่าก๊กกู๋
    ชุดขุนนางเต็มยศ ประพฤติงาม ถือสันโดษ
    เซียนแห่งตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ ราชการและความซื่อสัตย์ – ไม่ให้ภูตผี พาลมากล้ำกลายรบกวน

    ------------------------------------------------

    เหรียญพัดจีน 8 เซียน (โป้ยเซียน) พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี จ.สุมทรสงคราม (ศิษย์เอกหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี) ออกแบบเป็นรูปพัดจีน พัดสิ่งไม่ดี ออกไป แก้ดวงตก แก้ปีชง เนื้อทองแดง บล็อกกษาปณ์-ตอกโค้ด จัดสร้าง ปี พ.ศ. 2542

    เหรียญพัดจีน 8 เซียน (โป๊ยเซียน) ปี45 พิธีเดียวกับเหรียญจำปีที่มีมากประสบการณ์ พิมพ์อักษรจีนที่อ่านว่า"ซิ้ง" มีรูป 8 เซียนบนตัวอักษร จัดสร้างโดย หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี


    เหรียญเป็นรูปพัดจีน พัดสิ่งไม่ดี ออกไป แก้ดวงตก แก้ปีชง เนื้อทองแดง


    สวยตอกโค๊ตเดิมๆครับ

    ราคา 2550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_12.jpg Clip_23.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2022
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9508

    ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน พิมพ์ตโปนหลังจาร ตราปั๊ม คม ชัด สวยเดิมๆ


    พระ อธิการจันต๊ะ อนาวิโล ( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบา อาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนท่านมรณะภาพเมื่อวันพฤหัสบดีที่26 ก.ค.2544 รวมสิริอายุได้ 76 ปี พรรษา56 เมื่อท่านมรณะภาพ ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อฝูงผึ้งได้เข้ามาทำรังในโลงของท่านรังใหญ่ด้วยกัน ต่อเมื่อจะทำการพิธีพระประชุมเพลิง ฝูงผึ้งเหล่านั้นกลับได้ออกไปเองโดยไม่ มีใครไปทำลายแต่อย่างใด
    ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    ขุนแผนครูบาจันต๊ะ อนาวิโล จังหวัดลำพูน พระมาแรงแห่งยุค
    ขุนแผน ครูบาจันต๊ะ(รุ่นแรก) สร้างในปีปีพ.ศ.๒๕๓๗ มีส่วนผสมผงสมเด็จหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐและผงพรายกมารของปู่ทิมที่ลูกศิษย์เก็บไว้นำผสมกับพระคง พระเปิม ที่หักด้วย คุณวิเศษไปทางด้านเมตตา มหานิยม ถือเป็นขุนแผนแห่งเมืองเหนือครับ ใครมีไว้ใช้บอกสุดยอดมากเลยครับ สาวรักสาวหลงครับ พุทธคุณที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระเชียงใหม่ลำพูน จำนวนสร้างชัดเจน และมีจำกัด ของเก๊ยังนับวันยิ่งพัฒนาฝีมือขึ้นมา ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว เพราะคนพากันหันมาเก็บกันมากขึ้น ด้านหลังองค์พระมีทั้งปั้มตราวัด จาร และไม่มีตราวัดครับ
    เปิดตำนานเรื่องจริงยอดขุนแผนพลายกุมารอันดับ1ของทางเหนือที่เด่นเรื่องเมตตามหาลาภ
    สุดยอดขุนแผนยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองเหนือครับ


    บูชาแล้วครับ

    470_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-5&_nc_sid=5cd70e&_nc_ohc=9HN_IsAqTe4AX8shS6T&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    Clip_57.jpg Clip_60.jpg Clip_61.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9509

    พระรอดครูบาแสงต๋า(พระรอดแสงตา)วัดมหาวัน


    หน่อเนื้อเชื้อมหาวันโดยแท้ สร้างขึ้นในยุคปี2400กว่าๆ โดยพระภิกษุชื่อว่า "เเสงตา" ท่านสร้างไว้เพื่อบรรจุในกรุเเท่นเเก้วเเละกรุที่ฝังดินบริเวณในสิ่งก่อสร้างของวัดมหาวัน ลำพูนพระรอดเเสงตาสร้างขึ้นโดยการเเกะพิมพ์ใหม่ไม่เหมือนพิมพ์อื่นๆของวัดมหาวันเลย เเต่จะสร้างจากเศษพระที่ชำรุดเเตกหัก เช่น พระรอด พระคง พระเปิม พระเลี่ยง พระสิบสอง ฯลฯขนาดขององค์พระจะเท่าๆกับพระรอดโดยทั่วไป เเต่คางหรือใบหน้าจะเเหลมยาว คอจะเป็นลำ ตั้งเเต่คางจนถึงหน้าอก

    ถือเป็นหน่อเนื้อเชื้อสาย"วัดมหาวัน"แท้ๆใช้แทน พระรอด ที่มีราคาแพงหลักแสนหลักล้านได้อย่างสบายใจ อีกหน่อยจะหายากและราคาแพงขึ้นเรื่อยๆแน่นอนครับ

    ราคา 1350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    sf.jpg y.jpg uu.jpg de.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9510

    รูปหล่อบูชารุ่นเเรกครูบาอินตา วัดห้วยไซ รุ่นไตรมาส
    ฐาน 6 เหลี่ยม ปี 2537 หน้าตักกว้าง 5 นิ้ว ความสูงรวมฐาน 6 นิ้ว


    ใต้ฐานอุดผงและจีวรพร้อมปั๊มตราของวัด สุดยอดความหายาก สร้างน้อยมาก สวยสมบูรณ์ เดิมๆ ครับ

    #สวยแป้งเจิมเดิมๆครับ


    ราคา 8999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_57.jpg Clip_60.jpg Clip_61.jpg Clip_62.jpg Clip_63.jpg Clip_64.jpg

    "หลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ"
    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)
    วัดห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
    อัตโนประวัติของหลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ วัดห้วยไซ ท่านเกิดเมื่อวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ ปี มะเส็ง(งูเล็ก) ตรงกับ วันเสาร์ ที่ ๖ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘ ณ บ้านห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน มีนามเดิมว่า อินตา นามสกุล ปาลี เป็นบุตรของ นายก๋อง นางก๋ำ นามสกุล ปาลี เป็นคนที่มีเชื้อสายยอง มารดาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเด็กไม่รู้ความ ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูจากบิดาจนอายุท่านได้ ๙ ขวบ จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัด(ขะโยม)ที่วัดห้วยไซเพื่อจะได้รับการศึกษาเล่า เรียน ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนเช่นปัจจุบัน เด็กชายอินตา จึงได้เรียนภาษาพื้นเมืองตามแบบสมัยนิยม และได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรขณะอายุได้ ๑๓ ปี พ.ศ.๒๔๖๑ ณ วัดห้วยไซ โดยมีพระภิกษุพุธเป็นผู้บวชให้ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้วจึงได้ไปศึกษาภาษาไทยกลางเพิ่มเติมที่สำนักวัด สันก้างปลา(วัดทรายมูลในปัจจุบัน) อำเภอสันกำแพง โดยมีพระครูอินทนนท์ เจ้าอาวาส (ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่เก่งกล้ามากได้ปรมัติสูญสตาอรรถพยัญชนะทรงอภิ ญาชั้นสูง)เป็นอาจารย์ผู้สอนให้ ด้วยความเป็นผู้ไผ่เรียนท่านยังมีความสนใจเรื่องของภาษาอื่นๆด้วยเช่น อักษรขอมโบราณ ภาษาอังกฤษ และจีนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น เมื่อพออายุครบบวชจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดห้วยไซ พ.ศ.๒๔๖๙ โดยมีครูบาอินทจักร วัดป่าลาน เป็นพระอุปัชฌาย์(เป็นศิษย์ครูบาหลวงวัดฝายหิน จบสตาปรมัติรู้ภาษานกกาได้ เจนจบ 9 มัด) พระอธิการชื่น สันกอแงะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “อินฺทปัญฺโญภิกขุ”
    หลัง จากอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วจึงได้ตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัยและสรรพวิชา ตามจริตวิสัยที่ชอบศึกษาหาความรู้อันเป็นทุนเดิมของท่าน ทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในเรื่องของวิชาพลังจิตที่สูงมากตลอด ถึงในวิชาอาคมแขนงต่างๆ ประกอบกับการปฏิบัติสมถะวิปัสสนาธุระควบคู่กันไประหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยท่านได้มาเป็นประธานในการบูรณะพระธาตุดอยห้างบาตร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดห้วยไซมากนัก หลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้ไปร่วมในการบุญครั้งนั้นด้วยและได้พบกับครูบาศรี วิชัยและถือโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ หลังจากนั้นขณะที่ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นประธานในการสร้างทางขึ้นดอยสุ เทพหลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้มีโอกาสไปร่วมในการสร้างทางด้วยเช่นกัน เมื่อครูบาศรีวิชัยมรณภาพไปหลังเสร็จสิ้นงานพระราชทานเพลิงศพ ผ้าขาวดวงต๋า ได้นำอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัยมาบรรจุและสร้างกู่อัฐิขึ้นที่บนดอยง้ม เขตติดต่อระหว่างอำเภอสันกำแพงกับอำเภอบ้านธิ หลวงปู่ครูบาอินตาท่านก็ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการนำสร้างด้วย ที่วัดห้วยไซเองท่านถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่มีส่วนร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส ของวัดห้วยไซองค์ก่อนๆในการนำสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด โดยเฉพาะสมัยของพระครูดวงดี จนกระทั้งครูบาดวงดีท่านมรณภาพไป หลวงปู่ครูบาอินตาท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยไซ เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ และได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็น พระครูถาวรวัยวุฒิ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๖ ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ได้ฝากผลงานทางด้านพระพุทธศาสนาและ สาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ พัฒนาถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างต่างๆของวัดห้วยไซจนเป็นที่เจริญรุ่งเรือง สาธารณะประโยชน์เช่นโรงเรียน สถานีอนามัย โรงพยาบาล ห้องสมุด ที่อ่านหนังสือพิมพ์ ตลอดจนฌาปนกิจสถานประจำหมูบ้าน นอกจากนั้นท่านยังทำนุบำรุงพระศาสนาไปยังวัดวาอารามต่างๆที่มาของความเมตตา อนุเคราะห์จากท่าน เช่น ถาวรวัตถุต่างที่วัดเปาสามขา วัดวังธาน อำเภอแม่ออน วัดโป่งช้างคต อำสันเภอกำแพง วัดเวียงแห่ง อำเภอเวียงแห่ง จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีชัยชุม บ้านห้วยไซเหนือ
    พระพุทธรูปยืนวัด ศรีดอนชัย อำเภอบ้านธิ ประธานสร้างตึกสงฆ์อาพาสโรงพยาบาลบ้านธิ และผลงานชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ศิษย์ได้สารงานต่อคือพระวิหารของวัดห้วยไซ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยชราภาพ เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี ๗๗ พรรษา พระเถระที่หลวงปู่ครูบาอินตาท่านสนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็มี ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ครูบาสิริ วัดปากกองสารภี(ครูบาผีกลัว)ครูบาแก้ว สันกำแพงครูบาดวงทิพย์ วัดสันคะยอม(เป็นพระที่ครูบาพรหมาจักรนับถือมากๆ) ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ครูบาดวงจันทร์ วัดป่าเส้า ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาอินตา วัดวังทอง สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลังจากศิษยานุศิษย์ได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ครูบาอินตาไว้เป็นเวลาหลาย ปีแต่รางของท่านก็มิได้มีการเน่าเปื่อยแต่อย่างใด เมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จจึงได้ของไฟพระราชทานและประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐
    สำหรับวัตถุมงคล ของหลวงปู่ครูบาอินตา ท่านได้สร้างขึ้นในยุคแรกๆก็จะมีเพียงยันต์และตระกุดเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา ไว้ใช้ป้องกันตัวอิทธิวัตถุมงคลต่างๆก็มีประสิทธิผลจนเป็นที่ลำลือ
    หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ เอกองค์พระอาจารย์ที่ให้ดวงกรรมฐานกับครูบากฤษดา ตั้งแต่เป็นสามเณร ที่ท่านสามารถปราบความคิดที่อยากรู้อยากเห็น ซุกซนโลดเเล่นแก่นแก้วสามารถดักทางความคิดจิตของครูบากฤษดา ได้ทั้งหมดตั้งแต่เป็นสามเณรร่ำเรียนอยู่ในสำนักวัดห้วยไซใต้ ถือว่าเป็นพระอาจารย์องค์แรกครับ และก็มีครูบาชัยวงค์ได้ไปกราบคารวะสนทนาเป็นบางครั้งคราว และมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ครูบากฤษดาเทิดเหนือหัวคือหลวงปู่พิสดู ธัมมจารี เป็นที่สุดครับ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9511

    เหรียญรุ่นแรกพระบรมธาตุหริภูญไชย จ.ลำพูน ปี2460 เนื้อเงิน


    ประวัติพระธาตุหริภุญไชย

    ครั้งหนึ่งพระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้ช่างสร้างปราสาท แล้วปลูกหอจัณฑาคาร (ที่พระบังคน) ไว้ใกล้กับปราสาทนั้น โดยพระองค์มิได้ทรงทราบว่าที่นั้น มีพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว เวลาพระองค์เสด็จไปลงพระบังคนครั้งใด ก็จะมีกาตัวหนึ่งที่เฝ้าอยู่ นั้น บินมาถ่ายมูลต้องพระเศียร กระพือปีกบินโฉบพระเศียร ทำกิริยาขับไล่พระองค์ให้ไปพ้นจากที่นั้น พระเจ้าอาทิตยราช ทั้งทรงพิโรธ ทั้งอัศจรรย์ พระทัย จึงรับสั่งให้ข้าราชบริพาร ช่วยจับกาตัวนั้นมาให้ได้ แต่ทำอย่างไรก็จับกาตัวนั้นไม่ได้ จนพระเจ้าอาทิตยราช ต้องบนบานต่อเทวดาผู้รักษา พระนครให้จับกาตัวตั้น ในที่สุดก็จับได้ แล้วนำไปขังไว้ คืนนั้น ทรงพระสุบินว่า เทพยดามาแจ้งแก่พระองค์ว่า ให้เอาทารกเกิดได้ 7 วัน ไปขังรวมกับกา ทารกได้ฟังเสียงกาทุกวัน ก็จะฟังภาษากาออกครั้งบรรทมตื่นแล้ว พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ทำตามที่ทรงพระสุบินทุกประการ เมื่อทารกอายุได้ 9 ขวบ ก็สามารถรู้ภาษา และพูดกับกาได้ พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ถามสาเหตุที่กาประพฤติต่อพระองค์แต่หนหลัง ก็ทรงทราบว่า บริเวณหอจัณฑา คาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา และกาได้รับคำสั่งให้เฝ้ารักษาสถานที่นี้ จึงได้ทำอาการทักท้วง พระเจ้าอาทิตยราช ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระบรมศาสดาเป็นอันมาก จึงโปรดให้รื้อหอจัณฑาคาร และขุดดินไม่ดีออกไปทิ้งนอกพระนคร แล้วนำดินดีมาถมปราบพื้น ให้เรียบ แล้วโรยด้วยทราย ตั้งพิธีมณฑลปักราชวัตรฉัตรธง แต่งด้วยดอกไม้หอม และจุดเทียนทำการสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งยังป่าว ประกาศชาวเมือง ให้มาสักการะบูชาด้วย เมื่อประกอบพิธีสักการะบูชาแล้ว ผอบแวขนาดเท่าปลีกล้วย ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ให้เห็นเป็นปาฏิหาริย์ทั่วกัน ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น ต่างปีติยินดีอย่างยิ่ง พระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้สร้างพระธาตุ สูง 3 วา เป็นแบบเจดีย์มอญ แล้วสร้าง พระวิหารการเปรียญ มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน ครอบโกศทองคำสูง 3 ศอก ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วสร้างพระวิหารการเปรียญ ศาลาน้อยใหญ่ขึ้น ประกอบ จึงกลายเป็นวัดสำคัญประจำพระนคร เสร็จแล้ว โปรดให้จัดงานฉลองใหญ่ โดยเหตุนี้ จึงให้ถือกันในโบราณว่า หากผู้ใดจะปลูกบ้าน สร้างเรือน ในเมืองลำพูนนั้น จะต้องมีความสูง ไม่เกิน 3 วา เพราะเกรงว่า จะสูงกว่าพระธาตุ

    ในรัชกาลพระเจ้าสัพพสิทธิ โปรดให้สร้างโกศทองเสริมต่ออีก 1 ศอก และสร้างมณฑปเสริมต่อพระธาตุขึ้นไปอีก 2 วา กษัตริย์ รัชกาลหลัง ๆ ทรงทะนุบำรุง จนกระทั่งเมืองหริภุญชัย ตกอยู่ในอำนาจของพ่อขันเม็งรายมหาราช พระองค์โปรดให้สร้างมณฑปเสริมต่อพระบรมธาตุขึ้นอีก 10 วา และเอาทองสักโก (ทองที่ตีเป็นแผ่น ๆ) หุ้มพระธาตุ ตั้งแต่ชานจนถึงยอดแลดูเหลืองอร่ามงดงาม ต่อมามีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุนี้อีกหลาย ครั้ง ในรัชกาลพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ. 1986 ได้โปรดให้เสริมพระธาตุเป็น 23 วา ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก ยอดมีฉัตร 7 ชั้น ต่อมาพระเมืองแก้ว ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ และสร้างระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วล้อมเมืองแก้ว 500 เล่ม แล้วทรงสร้างวิหารหลวง พ.ศ. 2329 ซึ่งพระเจ้ากาวิละทรงทำการ บูรณะพระบรมธาตุ และทรงสร้างฉัตรหลวงขึ้น 4 มุม พร้อมกับสร้างฉัตรยอดเจดีย์ด้วยทองคำเป็น 9 ชั้น ฐานพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 10 วา และสร้างรั้วทองเหลืองล้อมรอบองค์เจดีย์ ด้านในองค์พระธาตุเป็นสีทองอร่าม

    พระธาตุหริภุญชัย เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา(ไก่)

    จัดเป็นเหรียญประจำปีสำหรับคนเกิดปีระกา สร้างเพื่อหารายได้บูรณะวัดเมื่อคราวถูกพายุพัดวิหารจนพังเมื่อปี 2458

    #เป็นเหรียญเก่าที่หายากของเมืองลำพูนครับ

    บูชาแล้วครับ

    เหรียญพระธาตุหริภุญไชย เงิน a.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย เงิน เหรียญพระธาตุหริภุญไชย เงิน c.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย เงิน d.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย เงิน e.jpg Clip_65.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9512

    เหรียญรุ่นแรกพระบรมธาตุหริภูญไชย จ.ลำพูน ปี2460 เนื้อทองแดงหายากมาก


    ประวัติพระธาตุหริภุญไชย

    ครั้งหนึ่งพระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้ช่างสร้างปราสาท แล้วปลูกหอจัณฑาคาร (ที่พระบังคน) ไว้ใกล้กับปราสาทนั้น โดยพระองค์มิได้ทรงทราบว่าที่นั้น มีพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว เวลาพระองค์เสด็จไปลงพระบังคนครั้งใด ก็จะมีกาตัวหนึ่งที่เฝ้าอยู่ นั้น บินมาถ่ายมูลต้องพระเศียร กระพือปีกบินโฉบพระเศียร ทำกิริยาขับไล่พระองค์ให้ไปพ้นจากที่นั้น พระเจ้าอาทิตยราช ทั้งทรงพิโรธ ทั้งอัศจรรย์ พระทัย จึงรับสั่งให้ข้าราชบริพาร ช่วยจับกาตัวนั้นมาให้ได้ แต่ทำอย่างไรก็จับกาตัวนั้นไม่ได้ จนพระเจ้าอาทิตยราช ต้องบนบานต่อเทวดาผู้รักษา พระนครให้จับกาตัวตั้น ในที่สุดก็จับได้ แล้วนำไปขังไว้ คืนนั้น ทรงพระสุบินว่า เทพยดามาแจ้งแก่พระองค์ว่า ให้เอาทารกเกิดได้ 7 วัน ไปขังรวมกับกา ทารกได้ฟังเสียงกาทุกวัน ก็จะฟังภาษากาออกครั้งบรรทมตื่นแล้ว พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ทำตามที่ทรงพระสุบินทุกประการ เมื่อทารกอายุได้ 9 ขวบ ก็สามารถรู้ภาษา และพูดกับกาได้ พระเจ้าอาทิตยราช ก็โปรดให้ถามสาเหตุที่กาประพฤติต่อพระองค์แต่หนหลัง ก็ทรงทราบว่า บริเวณหอจัณฑา คาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา และกาได้รับคำสั่งให้เฝ้ารักษาสถานที่นี้ จึงได้ทำอาการทักท้วง พระเจ้าอาทิตยราช ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระบรมศาสดาเป็นอันมาก จึงโปรดให้รื้อหอจัณฑาคาร และขุดดินไม่ดีออกไปทิ้งนอกพระนคร แล้วนำดินดีมาถมปราบพื้น ให้เรียบ แล้วโรยด้วยทราย ตั้งพิธีมณฑลปักราชวัตรฉัตรธง แต่งด้วยดอกไม้หอม และจุดเทียนทำการสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งยังป่าว ประกาศชาวเมือง ให้มาสักการะบูชาด้วย เมื่อประกอบพิธีสักการะบูชาแล้ว ผอบแวขนาดเท่าปลีกล้วย ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ให้เห็นเป็นปาฏิหาริย์ทั่วกัน ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น ต่างปีติยินดีอย่างยิ่ง พระเจ้าอาทิตยราช โปรดให้สร้างพระธาตุ สูง 3 วา เป็นแบบเจดีย์มอญ แล้วสร้าง พระวิหารการเปรียญ มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน ครอบโกศทองคำสูง 3 ศอก ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วสร้างพระวิหารการเปรียญ ศาลาน้อยใหญ่ขึ้น ประกอบ จึงกลายเป็นวัดสำคัญประจำพระนคร เสร็จแล้ว โปรดให้จัดงานฉลองใหญ่ โดยเหตุนี้ จึงให้ถือกันในโบราณว่า หากผู้ใดจะปลูกบ้าน สร้างเรือน ในเมืองลำพูนนั้น จะต้องมีความสูง ไม่เกิน 3 วา เพราะเกรงว่า จะสูงกว่าพระธาตุ

    ในรัชกาลพระเจ้าสัพพสิทธิ โปรดให้สร้างโกศทองเสริมต่ออีก 1 ศอก และสร้างมณฑปเสริมต่อพระธาตุขึ้นไปอีก 2 วา กษัตริย์ รัชกาลหลัง ๆ ทรงทะนุบำรุง จนกระทั่งเมืองหริภุญชัย ตกอยู่ในอำนาจของพ่อขันเม็งรายมหาราช พระองค์โปรดให้สร้างมณฑปเสริมต่อพระบรมธาตุขึ้นอีก 10 วา และเอาทองสักโก (ทองที่ตีเป็นแผ่น ๆ) หุ้มพระธาตุ ตั้งแต่ชานจนถึงยอดแลดูเหลืองอร่ามงดงาม ต่อมามีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุนี้อีกหลาย ครั้ง ในรัชกาลพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ. 1986 ได้โปรดให้เสริมพระธาตุเป็น 23 วา ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก ยอดมีฉัตร 7 ชั้น ต่อมาพระเมืองแก้ว ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ และสร้างระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วล้อมเมืองแก้ว 500 เล่ม แล้วทรงสร้างวิหารหลวง พ.ศ. 2329 ซึ่งพระเจ้ากาวิละทรงทำการ บูรณะพระบรมธาตุ และทรงสร้างฉัตรหลวงขึ้น 4 มุม พร้อมกับสร้างฉัตรยอดเจดีย์ด้วยทองคำเป็น 9 ชั้น ฐานพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 10 วา และสร้างรั้วทองเหลืองล้อมรอบองค์เจดีย์ ด้านในองค์พระธาตุเป็นสีทองอร่าม

    พระธาตุหริภุญชัย เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา(ไก่)

    จัดเป็นเหรียญประจำปีสำหรับคนเกิดปีระกา สร้างเพื่อหารายได้บูรณะวัดเมื่อคราวถูกพายุพัดวิหารจนพังเมื่อปี 2458

    #เป็นเหรียญเก่าที่หายากของเมืองลำพูนครับ

    บูชาแล้วครับ


    เหรียญพระธาตุหริภุญไชย ทองแดง b.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย ทองแดง c.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย ทองแดง d.jpg เหรียญพระธาตุหริภุญไชย ทองแดง e.jpg Clip_65.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9513

    เหรียญปล้องอ้อยใหญ่ หลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน (พระพุทธวิถีนายก) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ปี พ.ศ. 2518 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวยเดิมๆ เลี่ยมพร้อมใช้

    เหรียญนี้สร้างเนื่องในโอกาสหาทุนสร้างอาคารเรียนโรงเรียนเพิ่มวิทยา และเป็นวาระที่มูลนิธิเพิ่มวิทยา ครบรอบ 33 ปี งานนี้มี 5 พระสมเด็จ ประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ (องค์ก่อน) สมเด็จพระญาณสังวร (สมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน) สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ สมเด็จพระธีรญาณมุณี สมเด็จพระวันรัต และ 219 เกจิอาจารย์ชื่อดังในขณะนั้นมอบแผ่นทอง เพื่อหลอมเป็นทองชนวน สำหรับสร้างวัตถุมงคลนี้ มูลนิธิเพิ่มวิทยาจัดพิธีมหาพุทธาภิเษก 3 ครั้ง มีเกจิอาจารย์ทั้งหมด 108 องค์มาร่วมพิธีดังรายนาม ดังนี้
    -หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    -พ่อท่านเขียว วัดหรงบน
    -หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    -หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
    -หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    -หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    -หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุฯ
    -หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    -หลวงพ่อเต๋ (คงทอง) วัดสามง่าม
    -อาจารย์ นำ วัดดอนศาลา
    -หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    -หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    -หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา
    -พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    -อาจารย์นอง วัดทรายขาว
    -หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
    -หลวงพ่อ แดง วัดแหลมสอ
    -หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    -หลวงปู่หิน วัดระฆังฯ
    -หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
    -หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    -หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง
    -หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    -หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    -หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    -หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    -หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก ฯลฯ


    บูชาแล้วครับ

    tr.jpg fdi.jpg cc.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9514

    ขุนแผนรุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน ฝังตะกรุดเงิน หลังจาร ติดเม็ดพระธาตุ เม็ดพลอย จีวร เส้นเกศา

    ขุนแผนดวงดีมหาลาภ เนื้อขนมจ๋อก พระเครื่องยุคแรก ยอดนิยมของท่านครูบาดวงดี ยติโก พุทธคุณทางด้านเมตตาหมานิยม ลูกศิษย์หลวงปู่ทราบถึงพุทธคุณกันเป็นอย่างดี หลังเส้นเกศา ติดเม็ดพระธาตุ เม็ดพลอย ฝังตะกรุดเงินหลังหมึกเดิมๆจากวัดครับ
    หายากมาก


    ราคา 2999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_57.jpg Clip_67.jpg Clip_60.jpg Clip_61.jpg Clip_62.jpg Clip_63.jpg Clip_64.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022

แชร์หน้านี้

Loading...