**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9582

    พระแก้วหยกวัดพระแก้ว เชียงราย ปี 34 ในหลวงร 9 เสด็จ รูปไข่


    สร้างในวโรกาศเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๓ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สวณฺณโชตมหาเถระ) เจ้าอาวาส วัดเบญจมบพิตรดุสิตวราราม กรรมการมหาเถระสมาคมและเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีบัญชาให้คณะสงฆ์ หนเหนือ (๑๖ จังหวัด ในภาคเหนือ) จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลทางพระพุทธศาสนาเพื่อ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดโครงการจัดสร้าง “พระแก้วหยกเชียงราย” ขึ้น เพื่อสนองบัญชาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณฯ) ดังกล่าว และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดังนั้นคณะ สงฆ์จังหวัดเชียงรายจึงจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” โดยมีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้เคยเป็นที่ค้นพบพระแก้วมรกตมาก่อน จึงได้สร้าง “ พระแก้ว หยกเชียงราย ” ขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สักการบูชา และเพื่อเป็นการรำลึกว่า “ วัดพระแก้ว จ.เชียงราย แห่งนี้ก็มีความสำคัญคู่พระบารมีแห่งองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ” ๒. เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐ พระชันษา ในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวเชียงรายเปรียบ พระองค์ดุจดังดวงประทีปยังความสว่างและนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ จ.เชียงราย ในการนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายและคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้าง “ พระแก้วหยกเชียงราย ” และ “ วัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ” จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระ พุทธรูป “ พระแก้วหยกเชียงราย ” ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๗.๙ เซนติเมตร ขนาดความสูง ๖๕.๙ เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับองค์ “ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ” หรือ “ พระแก้วมรกต ” องค์ดั้งเดิม โดยนำหยกเนื้อดีที่สุดจากประเทศแคนาดา ซึ่ง “ มิสเตอร์ ฮูเวิร์ดโลว์ ” เป็นผู้นำมาถวายท่านเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และมอบหมายให้ อาจารย์กนก วิศวะกุล แห่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย เป็นปฏิมากรผู้ปั้นหุ่นต้นแบบ แล้วส่งมอบให้ “ มิสเตอร์เหยน หวุนหุ้ย ” นายช่างแกะสลักหยกของโรงงานวาลินนานกู แห่งนครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้ดำเนินการแกะสลักตามต้นแบบ และในโอกาสนี้ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้รับการอุปถัมภ์การจัดสร้างจาก ฯพณฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) และ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เป็นประธานอุปถัมภ์และบริจาคเงินเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดสร้าง โดย ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เดินทางไปเป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์ในการเริ่มสร้าง เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบหุ่นต้นแบบ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ณ วัดพระแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 1 ณ วัดกว่างจี้ ประเทศจีน ครั้งที่ 2 ณ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม. เมื่อวันที่20กันยายน พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จมาเป็นประธานในพิธี ครั้งที่ 3 ณ วัดพระแก้วเชียงรายจ.เชียงราย ปี 2534 พระหยก สว.เชียงราย สร้างจากหยกชนิดเดียวกับองค์พระแก้วมรกตบูชา..ด้านหน้าแกะเป็นองค์พระแก้วด้านหลังแกะเป็นพระนามย่อ สว.ของสมเด็จย่า..จำนวนไม่ทราบแน่นอนแต่ไม่มากเพราะแกะจากหยกที่เหลือจากการแกะพระแก้วบูชาครับ หยกชนิดนี้(เนไพร์)ได้นำมาจากประเทศแคนนาดา เป็นหยกที่มีพลังมากกว่าหยกทั่วไปมีพลังวิเศษในตัวเอง...คุณค่าแก่การสะสมยิ่งด้านหลังมีพระนามย่อของสมเด็จย่าด้วย องค์นี้แกะได้ สวยมาก พระดีน่าใช้มากครับ


    ราคา 2999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_364เะดเะ.jpg Clip_364.jpg Clip_365.jpg Clip_366.jpg Clip_367.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9583

    ผ้ายันต์พระมหาโมคคัลลานเถระ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ปี 2527 พิธีตานใช้ตานแทนพร้อมตราปั๊มเดิมจากวัดครับ

    ตามตำราโบราณ
    ของเมือล้านนา
    อักขระเลขยันต์ที่เป็นคำสอน
    แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิทธัตถะโคตมะ
    ที่มีบันทึกอยู่และก็มีการบัญญัติไว้
    ว่าด้วยเรื่องการปราบแห่งพระพุทธศาสนา
    -------------------------
    พระมหาโมคคัลลานเถระ (บาลี: มหาโมคฺคลฺลาน) เป็นพระภิกษุอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา
    พระโมคคัลลานะไปดับไฟนรก
    เพื่อทำให้อสูรกายเปรต
    ได้รับทุกข์เวทนาน้อยหรือหายไป
    เพราะฉะนั้นบุญแห่ง
    พระโมคคัลลานะปราบนรกได้
    พุทธคุณ..
    ในเรื่อง โชคลาภ เมตตา คงกระพันธ์
    แคล้วคลาด มหาอำนาจ ปราบศัตรู
    ตามตำราโบราณ
    -------------------------
    วิธีการใช้ผ้ายันต์
    ในสมัยอดีตเขาจะมาติดในบริเวณบ้าน
    หันหน้าออก (ไม่จำเป็นว่าอยู่ตรงไหน)
    และนำมาพกติดตัวได้
    พุทธาภิเษกพิธีตานใช้ตานแทน วันที่ 1 มกราคม 2527 พิธีตานใช้ ตานแทน เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ท่านจะเป็นคนนำพวกลูกศิษย์ทำ เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ลดเคราะห์ วิบากกรรม ทำน้ำมนต์ เสริมดวงชะตา คุ้มครอง ป้องกันภยันอันตราย
    ผ้ายันต์ปั๊มพระชัยยะวงศาพัฒนา
    **สภาพสวยไม่ผ่านการใช้งาน ปั้มหมึกเห็นชันเจน น่าใช้มาก ครับ




    คุณ shaj บูชาแล้วครับ

    Clip_369.jpg Clip_370.jpg Clip_368.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9584

    เหรียญครูบาศรีวิชัย วัดพันอ้น ปี๒๑ เนื้อเงินลงยาแจกกรรมการ สวยเดิมๆ

    ราคา 3998 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_423.jpg Clip_424.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9585

    อิ่นหินล้านนา เก่า สุดยอดเครื่องรางสายเมตตามหานิยม

    "อิ่น" ... เป็นเครื่องรางของขลังทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ เป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์แห่งเมืองเหนือ อิ่นเป็นภาษาโบราณแปลว่า "รักมาก" อิ่นเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางล้านนา พระเถราจารย์ในสมัยโบราณจึงนำมาแกะเป็นอิ่นเพื่อส่งเสริมพลังให้ดียิ่งขึ้น อิ่นมีการสร้างด้วยวัสดุอาถรรย์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนอิ่นคู่นี้คือแกะจากหินที่ มีคุณวิเศษในตัว ชาวล้านนาตั้งแต่โบราณแต่เก่าก่อนเชื่อเล่ากันมาว่าได้นำหินที่ศักดิ์สิทธิ์ของทนสิทธิ์มีดีในตัวเอง นำเป็นอิ่น สามารถเก็บความเย็นส่งผลด้านให้ความชุ่มชื้นร่มเย็นเป็นสุขและด้านเมตตามหาเสน่ห์อย่างยิ่งอิ่นหินนาคกระสวยจัดว่ามีพลังมีอำนาจอย่างยิ่งและใช้ผลได้ดีและหายากมาก อิ่นชิ้นนี้นับได้ว่าเป็นอิ่นที่ทรงคุณค่ามากที่สุดชิ้นหนึ่งแห่งเเดนล้านนาครับ
    "อิ่น" จึงเป็นสุดยอดเครื่องรางแห่งแดนล้านนา ที่มีอายุมายาวนานนับร้อยปีเพราะเชื่อกันว่าอิ่นคือสุดยอดเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์เมตตานิยม มีประสบการณ์จากลูกผู้ชายแต่ครั้งอดีตสืบถอดมาถึงปัจจุบัน
    องค์นี้งานแกะมี เก่า ดูง่ายครับ


    ราคา 3598 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_427.jpg Clip_428.jpg Clip_429.jpg Clip_430.jpg Clip_431.jpg Clip_432.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  6. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,081
    ค่าพลัง:
    +6,791
    ขอจองครับ
     
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รับทราบการจองขอบพระคุณครับ
     
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9586

    แผ่นจารเงินหลวงพ่อประสิทธ์ วัดป่าหมู่ใหม่ เมตตาจารให้ครับ

    ลายมือหลวงพ่อชัดเจน

    หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เจ้าอาวาส วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ละสังขาร สิริอายุ 75 ปี 55 พรรษา
    หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร เกิดที่บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2484 บิดาชื่อ พ่อสนธิ์ มารดาชื่อแม่มุก นามสกุล สิมมะลี มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 7 คน เป็นชาย และหญิง 4 คน ดังนี้
    1. นางสาวเสรี สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 25 ปี
    2. หลวงพ่อประสิทธิ์ ปญฺญมากโร อายุ 66 ปี (พ.ศ.2549)
    3. นายยสมคิด สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 36 ปี
    4. นายสวัสดิ์ สิมมะลี มีชีวิตอยู่ อายุ 62 ปี
    5. เด็กหญิงเสาร์ศักดิ์มน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 7 ปี
    6. นางทองใส คุนุ มีชีวิตอยู่ อายุ 54 ปี
    7. นางสาวหนูพวน สิมมะลี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 28 ปี
    ชีวิตในวัยเด็ก
    หลวงพ่อประสิทธิ์ เท่ากับเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เมื่อมีอายุ 7 ปี ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล บ้านหนองบัวบาน ตำบลหนองบัวบาน อำเภอหนองวัวซอ สอบไล่ได้ตำแหน่งที่ 1 หรือ ที่ 2 เป็นประจำทุกปี ตลอดจนจบชั้นประถมปีที่ 4 พอจบชั้นประถมแล้ว ครูใหญ่ชื่อ “ปรีชา” ให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมพิทยานุกุล ในตัวจังหวัดอุดรธานี หลวงพ่อได้ถามบิดาว่า “ จะเรียนดีหรือไม่เรียนดี” และเมื่อบิดาบอกว่า “ทำไร่ทำนาดีกว่า สบายใจดี” หลวงพ่อฯ จึงตัดสินใจช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา
    หลวงพ่อประสิทธิ์ เมื่อเยาว์วัย จึงเป็นแรงสำคัญช่วยงานบิดา มารดา อย่างเต็มความสามารถ ตั้งแต่ยังเรียนหนังสือชั้นประถม จนเช้าสู่วัยหนุ่มอายุ 19 ปี จึงเกิดความคิดอยากเข้าวัด เนื่องจากวัดป่านิโครธาราม ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อยู่ใกล้บ้าน ท่านได้ทบทวนชีวิตฆราวาส ผ่านมาได้ช่วยบิดามารดามา จนเป็นที่พอใจแล้ว ฐานะทางครอบครัวก็พอดีๆ ไม่รวยและไม่จน และพี่น้องต่างก็โต พอจะช่วยงานของครอบครัว พ่อแม่ได้แล้ว หลวงพ่อท่านคิดว่า ได้เกิดมาใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่พอที่ได้อาศัย ท่านมาเกิดในชาตินี้แล้ว จึงคิดมองหา เส้นทางจิต ที่คิด ไม่อยากกลับมาเกิดเป็นหนี้ภพชาติอีกต่อไป โดยเกิดศรัทธาปัญญาในทางพระพุทธศาสนา คิดจะบวชไม่มีกำหนดตลอดชีวิต หวังอยู่ปฏิบัติ ตนเพื่อหลุดพ้น ความเกิดจนถึงอมตะพระนิพพาน
    บรรพชาและอุปสมบท
    ต่อมาครอบครัว ได้พาหลวงพ่อเข้าไปฝากตัวกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2503 เวลา 19.00 น. และได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2503 ณ วัดโพธสมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2504 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันที่ 1 มิถุนายน โดยมีพระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    วัดป่าหมู่ใหม่ เป็นวัดป่าสายธรรมยุตที่สงบเงียบ หลวงพ่อประสิทธิ์ ได้อนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าเดิม พร้อมกับปลูกป่าเสริมเพิ่มต้นไม้ตลอดเวลา ทำให้วัดมีต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์ร่มรื่น โดยมีกุฏิไม้แทรกอยู่ระยะห่างกันพอสมควร นอกจากศาลาอเนกประสงค์สองชั้น ชั้นล่างใช้เป็นที่ไหว้พระสวดมนต์ ฟังเทศน์ เป็นโรงฉันพร้อมสรรพ ส่วนชั้นสอง ใช้เป็นอุโบสถ ยังมีศาลาโรงครัวอีกหลังหนึ่ง นอกนั้นเป็นกุฏิพระ และกุฏิสำหรับอุบาสา อุบาสิกา และญาติโยม มาพักเพื่อปฏิบัติธรรม วัดป่าหมู่ใหม่เป็นสถานที่สงบเงียบ เหมาะแก่การทำสมาธิภาวนา และเดินจงกรมเป็นอย่างยิ่ง
    ภายในวัดป่าหมู่ใหม่ มีไฟฟ้าใช้เฉพาะไฟส่องถนน และบริเวณศาลา-อุโบสถ กับห้องสุขาส่วนด้านหน้าเท่านั้น ส่วนกุฏิพระทั้งหมด ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าเข้าไป พระภิกษุสามเณร และญาติธรรม ใช้อาศัยแสงไฟจากไฟฉาย เทียนไข หรือตะเกียงในยามค่ำคืน ส่วนน้ำดื่ม น้ำฉันก็จากน้ำแทงค์น้ำเก็บน้ำฝน ส่วนน้ำใช้ก็จากน้ำ จากชลประทาน แม่แตงและจากน้ำบ่อที่ขุดไว้ ภายในวัดไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีการใช้โทรศัพท์พื้นฐาน หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นความ ประสงค์ของหลวงพ่อประสิทธิ์ ที่ต้องการให้มีการปฏิบัติภาวนา โดยไม่มีสิ่งอื่นมาล่อใจให้ไขว้เขวได้
    เมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลา 14. 23 น.หลวงพ่อ มึอาการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจฉับพลัน ทรุดลงไปไม่รู้ตัว หลวงพ่อจันทร์เรียนให้นำกลับไปวัดถ้าสหายฯ ขณะถอดอุปกรณ์จะเคลื่อนย้าย เข้าสูนิพพาน เวลาประมาณ 14.23 น.

    https://cdn.chiangmainews.co.th/.../07/07162513/5_776.jpg

    ราคา 2999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    c_oc=AQnKOYcX5EoORrfImmknvC_eH8hoz8bizvLC8LBKqu6PQnLbgWO17A8AduGN4GQ25Ks&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    Clip_12.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9588

    เหรียญรุ่นแรกครูบาคำตั๋น วัดบ้านบุ้ง นาน้อย

    หลวงปู่ครูบาคำตั๋น
    เทพเจ้า แห่งลำน้ำแหง อ.นาน้อย จ.น่าน

    ในบรรดาเกจิรุ่นเก่าของเมืองน่านตั้งแต่อ.เวียงสาไปถึงนาน้อย นาหมื่นและเมืองลี

    ชื่อเสียงของหลวงปู่คำตั๋น วัดบุ้ง ไม่เป็นรองใครในด้านความเหนียว การอยู่ยงคงกระพัน

    เหรียญของท่านสร้างขึ้นในวาระเดียวกับ ครูบาเทพวงศ์(ตุ๊ลุงเต๊บ) และครูบาวัดหัวทุ่ง

    แต่เหรียญของหลวงปู่คำตั๋นท่านได้รับความนิยมมาก

    เป็นเหรียญหายาก

    เหรียญประสบการณ์ของอำเภอนาน้อย จังหวัดน่านสร้างน้อย หายาก


    บูชาแล้วครับ

    Clip_84.jpg Clip_86.jpg Clip_88.jpg Clip_89.jpg Clip_90.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9589

    พระบูชารุ่นแรกหลวงพ่อสายทอง วัดท่าไม้แดง ตาก ปี 2540ขนาด9นิ้ว

    หลวงพ่อสาย (ครูบาสาย) เกิดปี พ.ศ. 2480 ที่บ้านท่าไม้แดง หมู่ 3 ตำบลวังหิน อำเภอเมือง จังหวัดตาก บิดาชื่อ นายเจียน กันคุ้ม มารดาชื่อ นางระเบียบ กันคุ้ม มีพี่น้องรวมกัน 2 คน คือ นางทุเรียน กันคุ้ม เป็นพี่สาว ส่วนหลวงพ่อสายเป็นน้อง(เป็นพี่น้องคู่แฝดกันชายหญิง) ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา ในวัยเด็กเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดราชศรัทธาธรรม ในวัดท่าไม้แดง สมัยนั้นต้องเรียนในศาลาวัด เรียนจบประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วไม่ได้เรียนต่อ มาช่วยทำไร่ทำนากับครอบครัว หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาทำงานในตัวเมืองตาก โดยใช้จักรยานขี่ไปกลับระหว่างตัวเมืองตากกับบ้านท่าไม้แดง ซึ่งห่างกันประมาณ........กิโลเมตร ทำงานด้วยความขยันได้หลายปี
    การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    ช่วงชีวิตในวัยเด็กถึงวัยหนุ่มท่านมีเพื่อสนิทคนหนึ่งอายุรุ่นเดียวกัน มีศักดิ์เป็นญาติกัน ได้บวชเป็นพระที่วัดมณีบรรพต (วัดเขาแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดตาก เนื่องจากอายุ 21 ปี ถึงวัยที่จะต้องบวชเรียน และได้ชักชวนให้หลวงพ่อบวชตาม เพื่อนคนนี้ชวนกี่ครั้ง ๆ หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธบ่อยครั้งโดยอ้างเหตุผลว่า ต้นหมากที่ปลูกไว้หน้าบ้านยังไม่ออกดอก มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ชวนบวชอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้นหมากออกดอกแล้ว หลวงพ่อจึงปฏิเสธไม่ได้ และต้องบวชเรียนตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ โดยบวชที่วัดเขาแก้วเช่นเดียวกันกับเพื่อน โดยมีหลวงพ่อตุ่นเป็นพระอุปัชฌาจารย์ หลวงพ่อห้อนเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูทินเป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากเมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว หลวงพ่อได้ศึกษาเรื่องทางธรรมกับพระอาจารย์ทั้ง 3ท่านอย่างตั้งใจ โดยเฉพาะหลวงพ่อตุ่นและหลวงพ่อห้อน (หลวงพ่อห้อนเป็นพระรุ่นเดียวกันและสนิทกับหลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย) ศึกษาธรรมและเวทมนต์คาถาต่าง ๆ จนแจ่มแจ้ง แล้วท่านได้ขออนุญาตหลวงพ่อตุ่นไปศึกษาภาษาบาลีที่วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ที่กรุงเทพฯ เสร็จแล้วกลับมาประจำอยู่ที่วัดเขาแก้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อตุ่นไดให้ไปรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดปทุมคีรี ตำบลหนองหลวง อำเภอเมือง จังหวัดตาก วัดปทุมคีรีแห่งนี้เป็นวัดที่อยู่ใกล้กับบ้านของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านเป็นคนตากแต่โดยกำเนิด
    ในปี พ.ศ. 2508 หลวงพ่อได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้แดง ซึ่งหลวงพ่อมัด เจ้าอาวาสองค์ก่อนได้มรณภาพลง และ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้แดงตลอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันร่วม50ปี ในช่วงที่ท่านอยู่ที่วัดท่าไม้แดงได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก มีการสร้างโบสถ์, ศาลาวิหารต่าง ๆ สร้างโรงเรียนวัดท่าไม้แดง อีกทั้งสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิงที่หน้าวัดและสร้างอ่างเก็บน้ำที่ตำบลแม่ท้อ ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
    ในช่วงอยู่วัดท่าไม้แดง หลวงพ่อท่านได้ไปศึกษาจากเกจิอาจารย์ดัง ๆ หลายท่าน เช่น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ครูบาสร้อย วัดท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นต้น โดยเฉพาะครูบาวัง ท่านได้ได้ถ่ายทอดวิชาการทำตะกรุดโทนให้กับหลวงพ่อและคาถาเวทย์อีกหลายอย่างโดยเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม
    สำหรับหลวงพ่อปี้ วัดด่านลายหอย ท่านได้เดินทางไปหาหลวงพ่อปี้กว่าจะได้ศึกษาอักขระยันต์และคาถาต่างๆจะได้มาที่ละตัวต้องไปกันหลายรอบ ไปครั้งหนึ่งไปมาไม่กี่ตัวอักขระ เพราะหลวงพ่อปี้ท่านไม่ค่อยจะถ่ายทอดให้กับศิษย์ผู้ใดอย่างง่าย ๆ
    ลำดับชั้นสมณศักดิ์ที่ได้รับ โดยเริมจากเป็นพระครูพิพัฒน์กิตติคุณ (สาย), พระวิจิตรพิพัฒโนดม (สาย) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นพระราชวิทยาคม ธรรมาภรณ์มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี (หลวงพ่อสาย) เป็นเจ้าคณะอำเภอ และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตากจนปี พ.ศ. 2557
    พระเทพสิทธาคม หรือ “หลวงปู่สาย กิตติปาโล” เจ้าอาวาสวัดท่าไม้เเดง จ.ตาก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 5 หรือที่บรรดาลูกศิษย์ เรียกกันติปากว่า หลวงพ่อสาย เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มากด้วยพุทธาคมอีกรูปหนึ่ง มีชื่อเสียงด้านพุทธาภิเษก ณ ที่แห่งใด ต้องมีชื่อของท่านไปร่วมด้วยแทบจะทุกงาน ได้มรณภาพลงแล้วที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก ด้วยโรคประจำตัว ท่ามกลางความเศร้าโศกของบรรดาลูกศิษย์ สิริอายุ 83 ปี พรรษา 62 พรรษา

    ขนาด9 นิ้วสร้างน้อยหายากมาก ออกแบบได้งดงามากๆครับ


    เปิดให้บูชา 12999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_57.jpg Clip_61.jpg Clip_83.jpg Clip_90.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9590

    พระบูชารุ่นแรกครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ขนาด 5 นิ้ว ปี 2533

    “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ
    ใต้ฐานอุด เกศา จีวร พร้อมโค๊ต หมายเลข207ผิวเดิม

    จัดเป็นรูปหล่อ1ในตำนานของหลวงปู่ครูบาอินอินโท ครับ

    บูชาแล้วครับ


    Clip_42.jpg Clip_43.jpg Clip_47.jpg Clip_44.jpg Clip_48.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9591

    พระปิดตาภควัมบดี (ปิดตาพ้นบ่วงมาร) พระภควัมบดี ปิดตาพ้นบ่วงมาร ปี 2526 พิมพ์กลาง สวยเดิมๆ

    เป็นพระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณอีกหนึ่งที่คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้สร้างถวายให้วัดพระพุทธบาทตากผ้า และครูบาหล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แต่ก่อนที่จะถวายพระชุดนี้ไปให้ครูบาหล้านั้น ทางคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ได้ขอเมตตาจากหลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้าได้ปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยน้อย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โดยท่านก็ได้เข้านิโรธสมาบัติตามแบบพระอริยะเจ้าที่เคยกระทำมาแต่พุทธกาลและท่านก็เมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลชุดพระปิดตาชุดนี้ครั้งสุดท้ายในชีวิท่านเช่นกัน ก่อนที่ท่านจะมรณะในอีก3 วันต่อมา(ถือว่าเป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลของพระอริยะเจ้าอย่างแท้จริง) และหลังจากนั้นก็ให้หลวงปู่หล้า(ตาทิพย์) วัดป่าตึง ปลุกเสก เมื่อหลวงปู่หล้าปลุกเสกแล้ว ทางคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้นำพระปิดตาชุดนี้ไปขอความเมตตาจาก หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยองปลุกเสกเป็นครั้งสุดท้าย จึงได้ตั้งชื่อพระปิดตาชุดนี้ว่า พระปิดตาพ้นบ่วงมาร
    มวลสารที่สร้างพระปิดตาชุดนี้ประกอบไปด้วยผงพุทธคุณแก้ว3ดวงของหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค ผงพุทธคุณแก้ว3ดวงครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ผงปัจเจกโพธิ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และได้ผสมผงพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย และน้ำพระพุทธมนต์อีก5วัด คือ...1.วัดช่องแค 2.วัดวังมุย 3.วัดพระพุทธบาทตากผ้า 4.วัดน้ำบ่อหลวง 5.วัดสันพระเจ้าแดง ด้านหลังโรยไหมเจ็ดสีที่หลวงพ่อพรหมปลุกเสก ข้างหลังเป็นยันต์พระควัมปติ และตัวขอมเป็นพระคาถา หัวใจของพระไตรปิฏก มะ อะ อุ ซึ่งเป็นยอดพระคาถาทั้งหมด มีอุณาโลม9ยอดข้างบนเปรียบเสมือนนิพพาน 1 ซึ่งถือว่าพระปิดตาชุดนี้เป็นพระปิดตาที่สมบูรณ์มากชุดหนึ่งที่มีการปลุกเสกจากพระอริยะเจ้าที่ขึ้นชื่อว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ ทั้ง3รูปเลยทีดียว พุทธคุณเป็นเมตตาโชคลาภ หนุนดวงชะตา อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ทำกิจการงานอันใดก็เจริญงอกงาม จะมีจิตใจที่เยือกเย็น สุขุม กันภยันตรายทั้งปวงประดุจดังวิสัยแห่งพระอริยะเจ้าทั้ง3องค์คือ ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ครูบาหล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ที่ได้ปลุกเสกมาอย่างดีที่สุดแล้วนั้นเอง ขอบคุณข้อมูล จากร้านอักษรธรรมด้วยครับ


    ราคา 1898 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_91.jpg Clip_92.jpg Clip_93.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9592

    พระรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงปู่ครูบา บุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ วัดร้องขุ้ม ปี 2515 หลังเรียบ


    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม สันป่าตอง เชียงใหม่ เป็นพระอริยะสงฆ์รูปสำคัญของเชียงใหม่ ศีลาจริยวัตรงดงาม มีเมตตาสูงมาก

    เจ้าตำราวิชาเทียนเศรษฐีล้มลุกอันโด่งดัง

    วิชา"เศรษฐีล้มลุก"นี้ ถือว่าเป็นวิชาคู่บุญบารมีครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มก็ว่าได้ มีอานุภาพส่งเสริม"แก้ดวง หนุนดวง" และ"ส่งเสริมโชคลาภ"ให้บังเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ใดมีบูชาไว้ ไม่มีจน เป็นเศรษฐี ไม่มีวันล้ม เพราะล้มแล้วก็ลุก


    พระผงปิดตาครูบาเจ้าบุญปั๋น สร้างจากเนื้อผงวิเศษผสมเกศา ผสมว่านและเกศาของท่านแล้วกดพิมพ์เอง สร้างในยุคแรก เมื่อปี พ.ศ2515 ที่ท่านหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น เริ่มทำวัตถุมงคลแจกญาติโยม พระผงที่เป็นสูตรเฉพาะของหลวงปู่ สร้างแจกยุคแรกครับ(ปี๑๕-๓๐)ประมาณไม่เกิน ๑๐ พิมพ์โดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ถอดพิมพ์จากพระกรุเก่าต่างๆ เท่าที่ผมพบ จะมีพิมพ์พระประธาน (สามปลื้ม) พิมพ์พระปิดตาใหญ่-เล็ก พิมพ์พระรอดจิ๋ว พิมพ์พระเปิม พิมพ์พระคง พิมพ์ที่หายากมากก็คือพิมพ์พระปิดตาครับ ส่วนเนื้อพระจะเป็นสูตรพิเศษของหลวงปูฯครับ กล่าวคือ ใช้ทรายจากแม่ทา อ.แม่ทา ,ผงพระกรุเก่า,เกสรดอกไม้บูชาพระ,ผงข้าวก้นบาตร โดยใช้น้ำมันละหุ่งเป็นตัวประสานครับ ตอนปลุกเสกหลวงปู่ฯ ท่านจะจุดเทียนเศรษฐีล้มลุกไว้ทั้งแปดทิศ เอาพระทั้งหมดไว้ตรงกลางครับ

    เด่นด้านเมตตาโชคลาภ เจริญโภคทรัพย์ เสริมดวง หนุ่นดวง ) และแคล้วคลาด ปลอดภัย
    องค์นี้เส้นเกศาเยอะมากครับ

    องค์นี้ หลังเรียบ เกศาเยอะมาก ครับ

    ราคา 899 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_96.jpg Clip_97.jpg Clip_98.jpg Clip_106.jpg Clip_107.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9593

    เหรียญรุ่น2หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ปี 2512 บล็อกวงเดือนของดีน่าใช้ สวยเดิมๆ


    พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองลำปางน้อยคนที่จะรู้จัก
    .ประวัติ หลวงพ่อเมืองวัดท่าแหนเกจิแดนล้านนายุค250ถึง251กว่า ที่ร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำคัญ ๆ ในยุคนั้นทั่วประเทศ
    ท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทิมวัดช้างให้

    ท่านหลวงพ่อเมืองท่านเก่งทางมองเห็นอดีตและอนาคต (จากบรรทึกการสนทนาของหลวงพ่อเกษม เขมโกที่ถวายตอบข้อซักถามขององค์ในหลวงเราเมื่อคราวเสด็จเยือนอาการอาพาธของหลวงพ่อเกษม ที่สุสานไตรลักษณ์)ท่านเป็นประธานปลุกเสกหลวงพ่อแช่มวัดฉลองภูเก็ตปี12ที่นายหัวไมตรี บุญสูงเศรษฐีเจ้าของเหมืองแร่เป็นประธานฆราวาสสร้างและฮือฮาโด่งดังเพราะหลวงพ่อเมืองมองเห็นว่าหลวงพ่อแช่มมาร่วมพิธีปลุกเสกจึงให้จัดอาสนะเพิ่มอีก1ที่สำหรับหลวงพ่อแช่มเป็นที่ฮือฮากันมากคิดดูว่าถ้าไม่ดีจริงคนทางใต้คงไม่นิมนต์พระทางเหนือไปเป็นประธานปลุกเสกวัตถุมงคลโดยเฉพาะของหลวงพ่อแช่มวัดฉลองซึ่งชาวใต้นับถือท่านมาก..คิดดูครับ..ขออนุญาตเล่าเกล็ดเล็กๆน้อยๆจากประสบการณืจริงเมื่อยุคปีพ.ศ251กว่าเป็นต้นมาหมู่บ้านที่ผมอยู่ห่างจากหมู่บ้านท่าแหนของหลวงพ่อเมืองประมาณ5ก.มช่วงฤดูฝนคือประมาณระยะช่วงนี้ชาวบ้านนอกชนบทยุคนั้นอุปกรณืทำนาที่สำคัญยิ่งคือควายชึ่งมีกันแทบทุกครัวเรือนเอาไว้ไถนาบางบ้านมีเยอะเลี้ยงกันแทบทุกหลังไอ้พวกโขมยโจรขี้ลักควายจะจ้องโขมยควายชาวบ้านก็ช่วงหน้านี้แหละเพราะหลังจากทำงานไถนาเหน็ดเหนื่อยทั้งวันตอนเย็นเสร็จงานชาวบ้านมักตั้งวงก๊งส.ร.ถ(สุราต้มกลั่น)กันแก้ปวดเมื่อยชึ่งเหนื่อยกันมาทั้งวันพอกลางคืนฝนตกตลอดบรรยากาศให้..หลับเป็นตาย..ตื่นเช้าสีหูสีตาลงกระไดบ้านมาเตรียมไถนาต่อปรากฎว่าคอกโล่งเกลี้ยงโจรลักไปหมดไม่รู้ถูกต้อนไปถึงไหนแล้วบางคนถึงกะลมจับเพราะนาก็ยังไม่เสร็จต้องถือพานดอกไม้ธูปเทียนไปหาหลวงพ่อเมืองที่วัดท่าแหนขอหลวงพ่อช่วยดูให้ว่าไอ้โจร500มันเอาไปทางไหนชึ่งหลวงพ่อมักจะบอกให้ไปทางทิศไหนก็จะเกณฑ์ชาวบ้านออกติดตามและไม่พลาดเจอแทบทุกรายจริงๆแต่จะเจอสภาพตัวเป็นๆหรือซากแค่นั้นและครับและเสือร้ายโขมยยุคนั้นส่วนใหญ่อยู่เขตติดต่ออ.แม่ทะทางทิศตะวันตกมีอยู่2อำเภอเยอะจริงมีหลายก๊กบ้างขโมยไปเรียกค่าไถ่บ้างขโมยไปชำแหละเป็นที่รู้กันในยุคนั้น..หลวงพ่อเมืองเป็นที่กล่าวขวัญรู้กันในยุคนั้นของหายไม่รู้พึ่งใครวิ่งไปหาหลวงพ่อเมืองให้หลวงพ่อนั่งทางในดูให้และมักเจอตามที่หลวงพ่อบอกทุกรายจึงเป็นที่ศรัทธาของคนสมัยนั้นมา หลวงพ่อเมือง หรือที่ชาวบ้านรู้กัน คือท่านหยั่งรู้ ฟ้าดิน

    ประวัติหลวงพ่อเมือง อุตฺตโม วัดท่าแหน
    หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม
    วัดท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

    "พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้"

    พระครูอุดมเวทวรคุณ (นามเดิม เมืองใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ

    1. พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง)
    2. นายมูล ใจทาหลี
    3. นางเกี๋ยง โยธา
    4. นายซุน ใจทาหลี
    5. นางคำใส ฟูชุม

    เมื่อเยาว์วัยได้เข้าเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์คันธรฐ ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาภาคพายัพ (ภาษาพื้นเมือง) จนจบหลักสูตร เมื่อท่านได้เรียน อักขระพื้นเมือง ตลอดจนเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจบแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีอาจารย์ตันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันทะรต เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง โดยมีหลักฐานจากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา อาทิเช่น

    1. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    2. ไปจำพรรษา ณ วัดพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    3. ไปจำพรรษา ณ วัดศรีหมวดเกล้า อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    4. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    ซึ่งทั้งนี้ไปเพื่อค้นคว้าศึกษาด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงพ่อเมือง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปแทบทั่วทุกแห่ง เมื่อครั้งที่พระเทพวิสุทธิโสภณ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) ในปี พ.ศ.2473 ขณะนั้นยังเป็นพระสิงห์คำได้ไปตรวจตราคณะสงฆ์แทน เจ้าคณะมณฑลพายัพกับพระมหาปู อัตตลีโว อดีตเจ้าคุณอุบาลีคณูปมาจารย์ วัดพระสิงห์เจ้าคณะภาค 5 ได้ตรวจไปจนถึงวัดท่าแหน พบหลวงพ่อเมืองอยู่ในกุฎิมืดทึบไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเล็กๆ ประมาณคืบเศษ มีเนื้อตัวผอมเหลือง จึงได้ถามหลวงพ่อเมืองว่าเป็นโรคอะไร หลวงพ่อเมืองก็ได้ตอบว่าไม่เป็นอะไร และภายหลังได้ทราบว่า หลวงพ่อเมืองท่าเป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้เป็นพบคำภีร์โบราณ (หนังสือภาคพายัพ) ในตู้พระไตรปิฎก ณ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในขณะที่อ่านนั้น ท่านก็ได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมมาก หลวงพ่อเมืองไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นหลวงพ่อเมืองจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไป วัดท่าแหน เพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานอยู่ 6 ปี จึงสามารถกระทำจิตใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิได้ คือสามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางใน จนสามารถนั่งทางในมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาให้ท่านนั่งทางในดู หลวงพ่อเมืองก็สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง

    หลวงพ่อเมือง ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยความกรุณา โดยไม่เลือกชั้นวรรณะมีหรือจน ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมทั่วกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ท่านช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ และเดือดร้อนประการอื่นๆ ด้วยการนั่งสมาธิแล้วแจ้งให้ผู้มาขอความช่วยเหลือได้ทราบถึงมูลเหตุ และแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำบุญให้ทาน หรือกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นมูลเหตุให้เกิดความเดือดร้อนที่ได้ขุดพบ ซึ่งทั้งนี้เป็นผลที่พอใจของทุกคน ฝูงชนจึงได้หลั่งไหลไปสู่วัดท่าแหนไม่ขาดสายบางวันก็มาเต็มคันโดยสาร และค้างคืนที่วัดก็มี ที่กรุงเทพมหานครก็เช่นกันหากหลวงพ่อเมืองมาพัก ณ วัดใด ฝูงชนจะพากันไปวัดนั้นอย่างคับคั่ง

    ถึงแม้นท่านจะมีความเมตตาธรรมต่อผู้อื่นทั่วไปอย่างไรก็ตาม แต่ทุกชีวิตที่เกิดย่อมที่จะหนีไม่พ้นสังขารไปได้ ดังนั้นเมื่อปลายแห่งชีวิต โรคภัย ไข้ เจ็บ ก็เริ่มคุกคามหลวงพ่อเมือง จนกระทั่งศิษยานุศิษย์ได้นำท่านไปรักษายังโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายได้นำท่านไปทำการผ่านตัด และรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการของหลวงพ่อก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านกลับมายังวัดท่าแหนและแล้วหลวงพ่อเมืองก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ญาติพี่น้องและคณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนทั่วไป ที่ได้สูญเสียท่านพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม)ไปอย่างไม่มีวันกลับ

    อ้างอิงจากหนังสือ พระเครื่องเมืองลำปาง 2556 หน้า 119-120 โดย ธีรเดช จังตระกูล(ต้น ลำปาง)
    ดูน้อยลง


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    efr.jpg fo.jpg pp.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9594

    เหรียญตานใช้ตานแทนครูบาชัยวงค์ ปี 35 เนื้อเงินผิวกระจก

    จัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพิธีสำคัญ เป็นพิธีชำระหนี้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร (ตานใช้ตานแทน) เน้นทางการต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล

    ปลุกเสกในพิธีชำระหนี้สงฆ์ตานใช้ตานแทน ปี 2535 มีเกจิคณาจารย์ ร่วมปลุกเสกดังนี้

    1 . หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    2 . หลวงปู่ดาบส สุมโณ สำนักสงฆ์ไผ่มรกต เชียงราย
    3 . ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ ลำพูน
    4 . หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    5 . หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    6 . ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
    7 . ครูบาน้อย วัดบ้านปง
    8 . ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

    อักขระ ยันต์ด้านหลังของเหรียญทำน้ำมนต์ตาน ใช้ตานแทนนี้ เป็นอักขระยันต์พระโมคคัลลานะ เป็นเหรียญที่อยู่คู่กับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง มีอานุภาพ คลายกฏแห่งกรรมเช่นเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง พระดีน่าใช้ สวยเดิมๆ ราคาเบา ๆ "ต่ออายุ เสริมดวงชะตา จะช่วยให้กรรมนั้นๆ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ จากเบาจนไม่มีผล"

    #เนื้อเงินจัดสร้างน้อยมากผิวสวยใสเดิมๆครับ


    ราคา 15500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_108.jpg Clip_109.jpg Clip_110.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9595

    เหรียญมหาลาภครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ปี2518 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต สวย ๆ

    เหรียญมหาลาภครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ปี2518 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต สวย ๆ พระอริยสงฆ์อีกองค์ของเมืองลี้ ศิษย์เอกของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย เหรียญครูบาขาวปีรุ่นมหาลาภ เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ในการใช้บูชาของจริงที่มีสูงมากๆดีในเรื่องเมตตา มหานิยมและในด้าน คุ้มกันภยันตรายต่างๆได้ดี ครูบาขาวปี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของครูบาเจ้าศรีวิชัยฯ ครูบาเจ้าฯท่านบวชให้ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยได้รับฉายาว่า พระอภิชัย แต่ถูกกลั่นแกล้งคล้ายครูบาเจ้าฯ ถูกทางเจ้าคณะพระครูจับสึกถึง 2 ครั้ง ครูบาขาวปีท่าน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยนำชาวกะเหรี่ยงและ ชาวเขา เผ่าต่างๆ หลายพันคนมาช่วยสร้างทางจนเสร็จสำเร็จ หลังจากการสร้างทางเสร็จ ครูบาเจ้าฯได้ทำพิธีอุปสมบท ให้อีกครั้งเป็นพระภิกษุอภิชัย ณ วัดศรีโสดา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ #ถือเป็นเหรียญที่ประสบการณ์สูงมากเหรียญ เหรียญของท่านมีประสบการณ์มากล้นเกินคำบรรยายครับ
    เหรียญดีน่าใช้มากๆท่านใดชอบเก็บของสวยไม่ควรพลาดครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_112.jpg Clip_113.jpg Clip_114.jpg Clip_115.jpg Clip_111.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9596

    รูปถ่ายเณรยุคต้นครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร กระดาษหนังไก่เลี่ยมเดิม


    บูชาแล้วครับ

    Clip_116.jpg Clip_117.jpg Clip_118.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9597

    ประคำสร้อยสังวาลย์เก้ากุ่ม ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ

    "หลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ" พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ) วัดห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน อัตโนประวัติของหลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ วัดห้วยไซ ท่านเกิดเมื่อวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ ปี มะเส็ง(งูเล็ก) ตรงกับ วันเสาร์ ที่ ๖ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘ ณ บ้านห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน มีนามเดิมว่า อินตา นามสกุล ปาลี เป็นบุตรของ นายก๋อง นางก๋ำ นามสกุล ปาลี เป็นคนที่มีเชื้อสายยอง มารดาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเด็กไม่รู้ความ ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูจากบิดาจนอายุท่านได้ ๙ ขวบ จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัด(ขะโยม)ที่วัดห้วยไซเพื่อจะได้รับการศึกษาเล่า เรียน ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนเช่นปัจจุบัน เด็กชายอินตา จึงได้เรียนภาษาพื้นเมืองตามแบบสมัยนิยม และได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรขณะอายุได้ ๑๓ ปี พ.ศ.๒๔๖๑ ณ วัดห้วยไซ โดยมีพระภิกษุพุธเป็นผู้บวชให้ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้วจึงได้ไปศึกษาภาษาไทยกลางเพิ่มเติมที่สำนักวัด สันก้างปลา(วัดทรายมูลในปัจจุบัน) อำเภอสันกำแพง โดยมีพระครูอินทนนท์ เจ้าอาวาส (ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่เก่งกล้ามากได้ปรมัติสูญสตาอรรถพยัญชนะทรงอภิ ญาชั้นสูง)เป็นอาจารย์ผู้สอนให้ ด้วยความเป็นผู้ไผ่เรียนท่านยังมีความสนใจเรื่องของภาษาอื่นๆด้วยเช่น อักษรขอมโบราณ ภาษาอังกฤษ และจีนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น เมื่อพออายุครบบวชจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดห้วยไซ พ.ศ.๒๔๖๙ โดยมีครูบาอินทจักร วัดป่าลาน เป็นพระอุปัชฌาย์(เป็นศิษย์ครูบาหลวงวัดฝายหิน จบสตาปรมัติรู้ภาษานกกาได้ เจนจบ 9 มัด) พระอธิการชื่น สันกอแงะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “อินฺทปัญฺโญภิกขุ” หลัง จากอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วจึงได้ตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัยและสรรพวิชา ตามจริตวิสัยที่ชอบศึกษาหาความรู้อันเป็นทุนเดิมของท่าน ทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในเรื่องของวิชาพลังจิตที่สูงมากตลอด ถึงในวิชาอาคมแขนงต่างๆ ประกอบกับการปฏิบัติสมถะวิปัสสนาธุระควบคู่กันไประหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยท่านได้มาเป็นประธานในการบูรณะพระธาตุดอยห้างบาตร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดห้วยไซมากนัก หลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้ไปร่วมในการบุญครั้งนั้นด้วยและได้พบกับครูบาศรี วิชัยและถือโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ หลังจากนั้นขณะที่ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นประธานในการสร้างทางขึ้นดอยสุ เทพหลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้มีโอกาสไปร่วมในการสร้างทางด้วยเช่นกัน เมื่อครูบาศรีวิชัยมรณภาพไปหลังเสร็จสิ้นงานพระราชทานเพลิงศพ ผ้าขาวดวงต๋า ได้นำอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัยมาบรรจุและสร้างกู่อัฐิขึ้นที่บนดอยง้ม เขตติดต่อระหว่างอำเภอสันกำแพงกับอำเภอบ้านธิ หลวงปู่ครูบาอินตาท่านก็ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการนำสร้างด้วย ที่วัดห้วยไซเองท่านถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่มีส่วนร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส ของวัดห้วยไซองค์ก่อนๆในการนำสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด โดยเฉพาะสมัยของพระครูดวงดี จนกระทั้งครูบาดวงดีท่านมรณภาพไป หลวงปู่ครูบาอินตาท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยไซ เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ และได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็น พระครูถาวรวัยวุฒิ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๖ ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ได้ฝากผลงานทางด้านพระพุทธศาสนาและ สาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ พัฒนาถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างต่างๆของวัดห้วยไซจนเป็นที่เจริญรุ่งเรือง สาธารณะประโยชน์เช่นโรงเรียน สถานีอนามัย โรงพยาบาล ห้องสมุด ที่อ่านหนังสือพิมพ์ ตลอดจนฌาปนกิจสถานประจำหมูบ้าน นอกจากนั้นท่านยังทำนุบำรุงพระศาสนาไปยังวัดวาอารามต่างๆที่มาของความเมตตา อนุเคราะห์จากท่าน เช่น ถาวรวัตถุต่างที่วัดเปาสามขา วัดวังธาน อำเภอแม่ออน วัดโป่งช้างคต อำสันเภอกำแพง วัดเวียงแห่ง อำเภอเวียงแห่ง จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีชัยชุม บ้านห้วยไซเหนือ พระพุทธรูปยืนวัด ศรีดอนชัย อำเภอบ้านธิ ประธานสร้างตึกสงฆ์อาพาสโรงพยาบาลบ้านธิ และผลงานชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ศิษย์ได้สารงานต่อคือพระวิหารของวัดห้วยไซ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยชราภาพ เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี ๗๗ พรรษา พระเถระที่หลวงปู่ครูบาอินตาท่านสนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็มี ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ครูบาสิริ วัดปากกองสารภี(ครูบาผีกลัว)ครูบาแก้ว สันกำแพงครูบาดวงทิพย์ วัดสันคะยอม(เป็นพระที่ครูบาพรหมาจักรนับถือมากๆ) ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ครูบาดวงจันทร์ วัดป่าเส้า ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาอินตา วัดวังทอง สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลังจากศิษยานุศิษย์ได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ครูบาอินตาไว้เป็นเวลาหลาย ปีแต่รางของท่านก็มิได้มีการเน่าเปื่อยแต่อย่างใด เมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จจึงได้ของไฟพระราชทานและประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐ สำหรับวัตถุมงคล ของหลวงปู่ครูบาอินตา ท่านได้สร้างขึ้นในยุคแรกๆก็จะมีเพียงยันต์และตระกุดเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา ไว้ใช้ป้องกันตัวอิทธิวัตถุมงคลต่างๆก็มีประสิทธิผลจนเป็นที่ลำลือ หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ เอกองค์พระอาจารย์ที่ให้ดวงกรรมฐานกับครูบากฤษดา ตั้งแต่เป็นสามเณร ที่ท่านสามารถปราบความคิดที่อยากรู้อยากเห็น ซุกซนโลดเเล่นแก่นแก้วสามารถดักทางความคิดจิตของครูบากฤษดา ได้ทั้งหมดตั้งแต่เป็นสามเณรร่ำเรียนอยู่ในสำนักวัดห้วยไซใต้ ถือว่าเป็นพระอาจารย์องค์แรกครับ และก็มีครูบาชัยวงค์ได้ไปกราบคารวะสนทนาเป็นบางครั้งคราว และมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ครูบากฤษดาเทิดเหนือหัวคือหลวงปู่พิสดู ธัมมจารี เป็นที่สุดครับ
    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง พุทธคุณลูกศิษย์ทุกท่านต่างทราบกันเป็นอย่างดีเป็นที่กล่าวขาน ไว้เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา และแจกทหารกล้า พุทธคุณ ข่ามคงกระพัน (เหนียว) เมตตามหานิยมแคล้วคลาด และ กันภูตผีปีศาจทั้งหลาย สวยเดิมๆครับ


    ราคา 1999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    wwqw.jpg q[.jpg p.jpg Clip_41.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9598

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ปัน วัดแม่ยะ จ.ตากปี 18 เนื้ออัลปาก้า


    ท่านเป็นคู่ธุดงค์ เข้าป่ากับครูบาศรีวิชัย เจอเรื่องราวอภินิหารมากมาย ในคราวที่ครูบาศรีวิชัยสร้างทางเดิน ขึ้นดอยสุเทพ หลวงปู่ปันก็ได้มีส่วนช่วยและยังได้รวม..... ปลุกเสกเหรียญครูบาศรีวิชัย ราคาเรือนแสนมาแล้ว...ครั้นเมือวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ครูบาศรีวิชัยก็ได้จากโลกนี้ไป ล.ป.ปัน ท่านก็ได้เดินธุดงค์เข้าป่าไปรูปเดียว เเละได้กลับมาสร้างปฏิสังขรณ์ วัดแม่ยะ จนเจริญ มาถึงทุกวันนี้ ท่านมรณภาพไปแล้วแต่ไม่เน่าไม่เปื่อย วัตถุมงคล ของท่านออกวัดแม่ ยะรุ่นแรก ปี 18 ครับ น่าเก็บมากๆ เป็นเกจิที่ไม่ธรรมดาครับ ท่านเกิด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2434 ปีเถาะ ท่านเป็นเด็กอ่อนโยน ว่านอนสอนง่าย
    มีเมตตาต่อสัตว์เข้าวัดบ่อยๆ ครั้นอายุ 13ปี ก็ได้บวชเป็นสามเณร ที่วัดสังฆรามวรวิหาร
    จ. ลำพูน อยู่ได้ 1พรรษา ก็ย้ายมาอยู่ วัดไชยชนะมงคล จ.ลำพุน ระหว่างเป็นสามเณร
    อยู่นั้นก็ได้ศึกษาภาษาบาลี สันสกฤต พื้นเมืองและภาษาไทย จนแตกฉาน เมือ อายุได้
    20 ปีก็บวชเป็นพระภิษุ ได้ฉายาว่า โพธิรังสี พระอุปัชฌาของท่านคือ หลวงพ่อ กันธา
    วัดไชชนะมงคล เมือบวชเป็นพระภิษุก็หมั่นเพียร ร่ำเรียนวิชาอาคม ทางวิปัสสนาสมธะ
    จาก พระอาจารกันธา ถึง 10 พรรษา พระอาจารย์กันธาก็ได้ พาไปฝากตัวเป็น ลูกศิษย์ ของ
    หลวงปู่ ฟ้าเลื่อน จ.เชียงใหม่ ได้เรียนรู้วิชาอีกมากมาย โดยเฉพาะ วิชา บังฟัน ที่หลวงปู่
    ฟ้าเลือนหวงแหนมาก


    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ff.jpg v.jpg ol.jpg Clip_40.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...