ลำนำเพลงรักของนักกลอน

แมวเหมียว เมียงมองมา น่าตระหนก
โอ้หัวอก เป็ดน้อย แสร้งเมินหมาง
ชม้ายตา ชำเลืองมอง จ้องห่างห่าง
จะหนีไป ทางไหน อย่างไรดี

 

วันนี้ไป ขนทราย ที่ท้ายวัด
เพื่อจะจัด สร้างเจดีย์ ที่บนเขา
หิ้วถังทราย ป่ายปีนเขา มิใช้เบา
นับขั้นเอา ร่วมสองร้อย หรือถอยดี

ในที่สุด ก็บรรลุ ถึงจุดหมาย
เหนื่อยแทบตาย ลายตา ว่าม่ายไหว
หรือว่าเรา ส.ว. ถ่อร่างไป
ลมแทบใส่ ใจก็สั่น มุ่งมั่นธรรม
วันนี้ไปก่อเจดีย์ทรายต้องตักทรายใส่ถังเดินขึ้นบันไดไปอีกสองร้อยกว่าขั้นเกือบไม่รอดค่ะ คนอื่นเค้าหิ้วทีละ 2 ถัง ตัวเองตักทรายแค่ครึ่งถังเลยได้เจดีย์ เล็กๆเอง สงสัยว่าจะ ส.ว.แล้วค่ะ

 

ประมวลภาพการเปลี่ยนโลงแก้วหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๖ ค่ะ

 

ขอบคุณภาพจากคุณคมน์นะคะ
เพิ่งทราบว่ามีเพื่อนๆ จากเว็บพลังจิตไปกันหลายคน น่าเสียดายจริงๆ ไม่งั้นคงได้พาไปเลี้ยงข้าว

 

วันที่สิบเจ็ดเมษามาร่วมกราบรำลึก ถึงหลวงปู่โต แห่งวัด ระฆังโฆสิตาราม ครับ

 

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี) มีประวัติเป็นที่ประทับใจประชาชนคนไทยอย่างไรเห็นจะไม่ต้องพูดกัน เพราะหลายท่านทราบกันดีอยู่แล้วในกิตติศัพท์อันเลื่องลือของ "สมเด็จโต" โดยที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี)
สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรสี)
ชาตะ วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2331 ตรงกับเดือน 5 ขึ้น 12 ค่ำ ปีวอก จ.ศ. 1150 เวลา พระบิณฑบาต 06.45 น. (ย่ำรุ่ง 9 บาท )
บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 13 ปี ณ วัดใหญ่เมืองพิจิตร ต่อมาย้ายมาศึกษาพระปริยัติธรรม ณ เมือง ชัยนาทพออายุได้ 18 ปี ก็ย้ายมาศึกษากับอาจารย์แก้ว วัดบางลำพู กรุงเทพฯ และยังได้ ศึกษาพระปริยัติธรรมกับเสมียนตราด้วง ขุนพรมเสนา ปลัดเสนา ปลัดกรมนุท เสมียนบุญ และพระกระแสร์ต่อมาได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอดิศร สุนทร พระ บรมโอรสาธิราชให้ทรงโปรดมาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุ บวชเป็นพระภิกษุ พอถึง พ.ศ. 2351 อายุ 21 ปี สมเด็จเจ้าฟ้าพระบรมราชโอรสทรงรับภาระบรรพชาเป็น นาคหลวงโดยให้ไปบวชที่วัดตะไกร จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งโยมแม่และญาติมีภูมิลำเนาอยู่ที่นั่น แล้วมาประจำอยู่กับพระสังฆราชวัดมหาธาตุต่อไป
เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สวรรคตลง เจ้าฟ้าทูลกระหม่อม ซึ่ง บวชตลอดรัชกาลที่ 3 ที่วัดบวรฯ ก็ลาสิขาบทขึ้นเสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี ก็ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้เป็น "พระธรรมกิตติ" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ระฆัง เมื่อ พ.ศ. 2395 ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ไม่นาน พอถึง พ.ศ. 2397 ก็โปรด เกล้าฯ ให้เป็น "พระเทพกวี" ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2407 ก็โปรดเกล้าฯ ให้เป็น "สมเด็จพระ พุฒาจารย์" ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปเรียกกันว่า "สมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆัง" เรียกไปเรียกมา เหลือเพียง "สมเด็จโต" ในทีสุด ขณะที่โปรดเกล้าฯ เป็นสมเด็จนั้น มีอายุได้ 78 ปี อายุ พรรษาได้ 56 พรรษาแล้ว
มรณภาพ สมเด็จโต มรณภาพเมื่อวันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 (ต้น) ปีวอก จ.ศ. 1234 ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน 2415 เวลาประมาณ 24.00 น.เศษ บนศาลา ใหญ่วัดอินวรวิหาร บางขุนพรหม สรุป สมเด็จโตมีสิริรวมชนมายุของท่านได้ 85 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ได้ 20 ปี บริบูรณ์ ดำรงฐานันดรศักดิ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์โตมาได้ 7 ปี เศษ 65 พรรษา

 

ลงภาพเพื่มเติมค่ะ