วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    เอ พี่ PCO แกให้พรจากหลวงพ่อแล้วนี่ ก็ครบอยู่แล้วคำผู้ใหญ่

    เอาอย่างนี้นะ ขึ้นชื่อว่าพรใด ๆ ก็ตาม ย่อมจะมีผลเมื่อเราทำดีแล้ว

    หากเราทำยังดีไม่พอ พร นั้นก็ย่อมมีผลน้อยลงไปตามลำดับ


    ขออย่าท้อถอยในการธรรมทั้งปวง

    งานมีเราก็ทำไปตามหน้าที่ของโลก

    งานธรรมเราก็ทำไปตามวิสัยที่พึงกระทำได้

    การคิดท้อนี่มีทุกคน กำลังใจจะเสียไปบ้างก็ช่าง

    เพราะขึ้นชื่อว่า เราเองเป็นผู้บกพร่องอยู่ ยังไม่ใช่พระอรหันต์

    มีเวลาก็นำกำลังใจไปจับ มรณานุสติกรรมฐาน ไว้เสมอ ๆ ศีล พิจารณาเข้าเพียรรักษาไว้อย่าให้ชอกช้ำ

    กำลังใจตั้งไว้ที่นิพพานโดยเฉพาะ ตั้งไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในชาตินี้ของเรา เป็นครั้งสุดท้าย

    สิ้นสุดกันชาตินี้ ชาติต่อไปไม่มีสำหรับเราอีก พิจารณาบ่อย ๆ ให้มันเคยชินจะได้ทรงตัว

    ยังขึ้น ๆ ลง ๆ นี่เป็นอาการของ ใจดื้อ "จริงใจ" ตัวนี้สำคัญ อย่าทิ้ง มันจะตายก็ให้มันรู้ไป

    แล้วจะทราบด้วยตนเองว่า "บุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นเห็นเราตถาคต" ที่ องค์สมเด็จพระจอมไตร ทรงตรัสไว้เป็นยังไง

    สงกรานต์นี้ ปีใหม่ไทยเรา ก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี รู้สึกตัวเองแก่ขึ้นรึเปล่า หรือว่ายังหนุ่มสาวอยู่

    เราก้าวเข้าหาความตายไปอีก ๑ ปี ตาย น่ะอยู่คู่ลมหายใจเราตลอด เห็นไหม

    ใน ๑ ปี ที่ผ่านไป เราก้าวหน้าบ้างหรือเปล่า ? นี่ เป็นพรที่ให้ตนเองได้ทุกขณะ ที่เรายังระลึกถึงและประพฤติอยู่

    ก็ธรรมใด ๆ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ดีแล้ว นั่นแหล่ะคือพรอันประเสริฐที่สุดใน ภพภูมิ ทั้งปวง

    ไม่มีพรใดในโลกหล้านี้ ที่จะทำให้ บุคคลพ้นจากวัฏสงสาร ไปได้ ใช่ไหมครับ

    ธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระจอมไตร นั่นแหล่ะ พร ประเสริฐที่สุด แต่อยากได้พรนี้ ต้องทำ

    ลงท้ายก็เลยไม่รู้จะให้ พร อะไรนอกไปจาก ธรรมแห่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้นเอง
     
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    "แล้วพระองค์ทรงตรัสโอวาทแก่เหล่าภิกษุเพื่อรำลึกถึงพระนางเป็นครั้งสุดท้าย

    “ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ตลอดเวลาอันยาวนานของการบำเพ็ญบารมีสะสมความดีเพื่อตรัสรู้ พระนางพิมพายโสธราเถรีซึ่งเป็นคู่รักเพื่อนชีวิต

    ในอดีตชาติได้เสียสละทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือ การสั่งสมบารมีของเรา เธอยอมสละแม้กระทั่งความสุขความสบายส่วนตน

    จนกระทั่งเราได้มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาตินี้ อันเป็นชาติสุดท้ายของเราทั้งสอง อันเป็นประโยชน์ที่จะได้เผยแผ่สัจธรรมสู่มวลมนุษย์

    เพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง จักมีใครที่สร้างคุณอยู่เบื้องหลังการบรรลุธรรมเทียบเท่ากับเธอเช่นนั้นแล้วไม่มีอีกแล้ว”




    มทนาสาธุกับพี่Amarmy อย่างยิ่งที่นำพระสูตรเรื่องราวของพระแม่เจ้าพิมพา สุดยอดพระนางแก้วที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีใจเดียวมั่นคงต่อชายอันเป็นที่รักตั้งแต่ตันจนถึงกาลอวสานต์ แม้ในวันสุดท้ายพระแม่เจ้าก็ยังมากราบทูลลาขอพระบรมพุทธานุญาติ ประกาศความดีแต่หนหลัง แล้วลาเข้าพระนิพพาน

    ขอขอบคุณพี่Amamyเป็นอย่างมากกี่นำเรื่องนี้ มาร่วมกันบันทึกไว้

    รู้สึกเป็นหนี้หลายบาท สองสามตอนที่พี่มาร่วมบันทึกนี้ผมคงต้องพิมพ์ใช้หนี้หลายตอน โดยฉเพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของนางแก้ว

    หลายท่านในเว๊ปผมก็ผ่านๆตา ที่ปรารถนาจะเป็นนางแก้ว ทีนี้การที่จะทรงความดีระดับนางแก้วนั้น ขอจงได้ศึกษาย้อนอดีตของพระแม่เจ้าพิมพา คำว่าแก้วโดยความหมายแปลว่าดี นางแก้วในที่นี้ คือเมียดี เมียแก้วของผู้ชายหนึ่งคนที่ปรารถนาในพระโพธิญาณ กำลังใจถึงพอหรือปล่าวที่จะต้องทนยอมรับกับทุกสภาวะความกดดัน ที่บางช่วงบางคราวถึงต้องเอาศักดิ์ศรี เอาชีวิตเลือดเนื้อเข้าแลก เข้าปกป้องครุ้มครองในชายที่เป็นหนึ่งเดียวในดวงใจ

    ง่ายๆแค่ตัวเองเกิดในศักดิ์ตระกูลสูง สวยสดงดงาม เพรียบพร้อมไปด้วยประการทั้ปวง แล้วเกิดว่าชายอันเคยเป็นสามีในอดีตเกิดมาในชาติปัจจุบันนั้นๆเจอกันเข้าแล้วระลึกได้จำได้ แต่เพราะกรรมในอดีตทำให้เป็นคนยากไร้อนาถา นางแก้วที่ว่านี่จะใจถึงลงมาจากปราสาท สมัยนี้สักสามสิบชั้นก็พอ ไหว้แค่แทบอกก็พอ ไม่ต้องถึงกับกราบแทบเท้าเพราะจำได้ว่านี่คือสามีในอดีต

    อย่างน้องนางหนึ่งที่อยู่แถวรัชดาอายุรุ่นลูกของผมทำนั่น แต่นั่นเขาก็ไม่ได้มาเกิดเป็นลูกสาวคนรวยแค่เขามาเกิดทีหลังหลายปี แต่แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับผม น้ำใจที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีชนิดข้ามภพข้ามชาติของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่ขนาดไม่ใช่แก้วใหญ่ด้วยซ้ำไป เขากราบเพราะคำว่าพระโพธิญาณความดีของคุณธรรมการบำเพ็ญ พระโพธิญาณเขาเข้าใจ เขาถึงได้กราบที่ตรงนั้น เขาไม่ได้กราบที่กายเนื้อของผม

    ผมเองผมก็กราบในน้ำใจของคนที่เป็นนางแก้วทุกท่านกำลังใจของนางแก้ว แม้คนที่ปรารถนาในพระโพธิญาณก็ยังต้องก้มหัวให้ ต้องคุกเข่าให้ บางคราวสละทิ้งทุกอย่างเพื่อนางแก้ว บางคราวแม้ต้องสละชีวิต บางคราวก็ต้องยอมให้ตัดหัวตัวเองถวายเป็นพุทธบูชาทั้งเพื่อพระโพธิญาณ และเสียสละเพื่อนางแก้ว อย่างท่านโพธิอำมาตร หนึ่งในอนาคตวงค์นิยตโพธิสัตว์


    นี่ยังติดค้างไว้หลายคน ทั้งคุณน้อง03 คุณน้องธัมมะสามี พี่บุญทรง คุณน้องrungdao ซือเจ๊ และอีกหลายท่าน ก็ค่อยๆคุยกันไป ตายเมื่อไรเลิกกัน


    ค่อยมาต่อนะพี่วันนี้หยุดงานก็จริง แต่เที่ยงคืนอีกแล้ว แก้วใหญ่ลงมาตามบอกเด็กเส้นรอคุยกับพ่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 เมษายน 2014
  3. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 เมษายน 2014
  4. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณค่ะพี่ Armarmy :cool:
     
  5. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ขอขั้นรายการกลับมาบันทึกความน่ารักของน้องสาวตะเคียนที่วิหารน้ำน้อย เป็นการกันลืมของผม และคนทั่วไปแม้อยู่ใกล้ในเหตุการอาจมองไม่เห็น นึกไม่ถึง หากว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญ ก็ถือเสียว่าผมมั่วของผมเอง

    อย่างที่เล่าไว้ลมพัดจากทิศตะวันออกจากทางคลองเข้าหาวิหาร น้องสาวตะเคียนหักกลางลำต้นร่องรอยการหักการฉีกของเปลือกไม้ก็หักจากทางทิศตะวันออก การล้มก็ต้องล้มไปทางทิศตะวันตกที่วิหารตั้งอยู่ สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกลที่สุดคือห้องน้ำที่หลังคากระเบื้องมีสภาพเก่ามีอะไรไปกระทบนิดหน่ออยก็แตกหักง่ายๆ

    แต่น้องสาวตะเคียนสุภาวดีนี่ก็แน่มากเศษไม้แม้แต่น้อยก็ไม่มีตกบนหลังคาห้องน้ำ ส่วนของลำต้นท่อนบนปลิวสวนลมพายุแรงขนาดเสาไฟฟ้าโค่นล้มหลังคาบ้านพัง ไปตกที่ในคลอง

    ยอมหักลำต้นครึ่งหนึ่งกลายเป็นสาวตะเคียนหนูหิ่น คือเป็นสาวผมสั้นเสมอติ่งหูไปเลย ผมไปเห็นในตอนเช้า หากเป็นคนก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ จากที่เป็นสาวผมยาวสลวยสวยงามผมยาวถึงกลางหลัง แต่เพราะจะเป็นอันตรายจึงจำเป็นตัดออก เล่นเอาซะน้องสาวคะเคียนวัยรุ่นมองฆ้อนผมอยู่หลายวัน หากมีกายเนื้อก็คงจะถามผมว่าสั้นพอหรือยัง ก็เลยอย่างที่เห็น ผมและแม่ใหญ่แม่เล็กต้องหาผ้าสีมาฝากแล้วก็อยากกอดต้นตะเคียนโอ๋ๆๆแม่คุณเอ๋ยขอบพระคุณมากๆ สั้นแค่นี้พอแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04011.JPG
      DSC04011.JPG
      ขนาดไฟล์:
      555.1 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSC04069.JPG
      DSC04069.JPG
      ขนาดไฟล์:
      587.2 KB
      เปิดดู:
      39
    • DSC05805.JPG
      DSC05805.JPG
      ขนาดไฟล์:
      316.4 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSC05856.JPG
      DSC05856.JPG
      ขนาดไฟล์:
      564.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC05863.JPG
      DSC05863.JPG
      ขนาดไฟล์:
      602.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • DSC05896.JPG
      DSC05896.JPG
      ขนาดไฟล์:
      615.3 KB
      เปิดดู:
      40
    • DSC05897.JPG
      DSC05897.JPG
      ขนาดไฟล์:
      598.7 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF2016.JPG
      DSCF2016.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      67
    • DSCN7118.JPG
      DSCN7118.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      125
    • DSCN7119.JPG
      DSCN7119.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      84
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 เมษายน 2014
  6. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ช่วยเล่าเรื่องนางตะเคียนเสริมเข้าไปด้วยซี นางตะเคียน หรือ รุกขเทวดา

    ที่ประจำอยู่ที่วิหารน้ำน้อย ปัจจุบันท่านเป็นพระอริยเจ้าแล้วหรือยัง ย่อง ๆ ถามท่านดูหน่อยพี่

    เรื่องนางตะเคียน หรือ พวกผีเฮี้ยน ๆ แบบนี้ เดี๋ยวผมจะเล่าให้อ่าน พรุ่งนี้

    เรื่องที่ผม "ด่าเทวดาที่วัดท่าซุง" เรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ สนุก ๆ อยู่

    เจริญในธรรมครับ
     
  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่Amarmyผมก็จะขอดูวุฒิบัตรตามที่พี่ว่าเหมือนกัน ว่าแกจบ ป ใหน แต่ว่าแกเก็บมิดชิด เดี๋ยวกะว่าแกเผลอช่วงชุลมุนในงานประจำปี ในปีนี้จะมีการเจริญพระกรรมฐานกันในเวลากลางคืนที่วิหาร ปีนี้หลวงพี่พระครูท่านกำหนดว่าให้ทุกคนลองซักซ้อมอารมณ์ใจให้คิดว่าอีกสามวันเราจะตาย ให้ลองตั้งกำลังใจดู ว่าถ้าอีกสามวันจะตายนี่เราจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจยังไง

    เดี๋ยวจะขอแรงคนที่ตาดี ลองแกล้งตายแล้วไปถามดู ผีกับผีนี่หลวงพ่อบอกไม่หลอกกัน

    ส่วนเรื่องความเฮี้ยนที่พี่ว่า ที่วิหารนี่มีอะไรแปลกๆพอที่ใครก็ได้มาลองความแปลกได้

    แม่ใหญ่เองเมื่อวันอาทิตย์ต้นเดือนเมษานี่เองอยู่เวรเฝ้าวิหาร แปลกแต่เช้าเลยคือขณะที่กำลังไขกุญแจประตูหลังเพื่อเข้าวิหารก็มีเสียงคนเดินด้านในมีเสียงสิ่งของตกหล่นอย่างกับว่ามีคนกำลังรื้อค้นอะไรอยู่เสียงใกล้ๆชัดมาก แกก็รีบเข้าไปดู ก็มีแต่รูปหล่อเหมือนหลวงปู่่ หลวงพ่อ นั่งยิ้มของท่านอยู่สององค์บนแท่นที่เดิม จะว่าท่านพากันเดินจงกลมออกกำลังกายก็ไม่น่าจะกลับมานั่งเร็วขนาดนั้น

    แล้วเมื่ออาทิตย์แรกของเดือนมกราคมปีนี้ ก็เป็นเวรเฝ้าของแม่ใหญ่ วันนั้นประมาณบ่ายๆแล้วแม่ใหญ่แกง่วงมาก นั่งก็ง่วงยิ่งกำหนดจิตสมาธิมันจะหลับอย่างเดียว แกก็โทรมาหาขอให้ผม หรือแม่เล็กก็ได้ไปเปลี่ยนหรือนั่งรับแขกแทน แกขอหลับสักห้านาทีสิบนาทีแค่พอหายง่วง

    ผมก็บอกว่าทั้งผมและแม่เล็กติดงานสำคัญและกว่าจะมาถึงจะใช้เวลามาก ก็บอกว่าฝากกับพ่อปู่หรือหลวงปู่หลวงพ่อไว้ก่อน ขอไปนอนชั้นล่างแล้วล๊อคกุญแจประตูชั้นล่างนอนที่นั่น สักแค่พอหายง่วง แกก็ทำตาม ก็เอนหลังหลับไปประมาณครึ่งชั่วโมงแกก็ตื่นแต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นนั่ง

    เสียงข้างบนปิดหน้าต่างปึงปังเสียงดังมากคล้ายลมพัดหน้าต่างกระทบกับ หรือคล้ายคนเอามือทุบหน้าต่าง แกก็รีบลุกขึ้นไปดู ก็มีแต่รูปหล่อหลวงปู่กับหลวงพ่อนั่งยิ้มของท่านอยู่ ประตูหน้าต่างไม่มีร่องรอยกระดุกกระดิก ลมสักกะหน่อยก็ไม่มี

    แล้วก็มีเรื่องเล่าจากลุงเกื้อที่เฝ้าประจำวิหาร มีนักลองของลองดีเข้ามางัดแงะขะโมยของที่วิหาร รายนั้นนั่นถึงตาย ทางเราสืบทราบรางๆว่าเป็นพวกนั้นพวกนี้ ผมเองก็บอกว่าได้แต่เวทนา ขอให้เป็นกฏของกรรมก็แล้วกัน แต่ก็ยังมีบางคนเอาเรื่องไม่ยอม คำว่าไม่ยอมนั้นไม่ได้จะไปทำอะไร ไม่ยอมอโหสิกรรมให้จะขอตามเป็นจ้าวกรรมนายเวร ไล่เตะมันเล่นในชาติต่อไป สักชาติสองชาติ นี่ขนาดคนที่จะเข้าพระนิพพานชาตินี้ ยังฝากให้ผมไปหวดก้านคอมันสักป้าบหนึ่งเป็นการสั่งลาชาติสุดท้าย

    ฝากบอกว่าพี่ช่วยเตะมันก่อน แล้วค่อยสั่งสอนทีหลัง อย่าสอนก่อนแล้วเตะทีหลัง มันจะผิดขั้นตอน ของการสั่งสอนนี่เขาฝากไว้อย่างนี้ แต่ตัวคนฝากไม่อยู่เตะซะเอง ฝากแล้วก็จะเผ่นเข้าพระนิพพาน โน่นไปแอบตั้งหลักอยู่ข้างหลังหลวงพ่อโน่น แล้วจะปล่อยให้ผมยืนเท่อยู่คนเดียว มันจะกลายเป็นโดนเขาไล่ขับเตะกลับมาซิทีนี้

    พรรคพวกเข้าพระนิพพานกันหมด

    ก็คิดก็พูดกันไปต่างๆนาๆแล้วก็หาทางป้องกัน ด้วยการติดตั้งสัญญานกันขะโมย ชนิดดีที่สุดในขณะนั้น ใช้ทั้งกล้อง ใช้ทั้งแสงเลเซ่อร์ติดทั่ววิหารแค่นกบินผ่านสัญญานก็จับได้ ไฟสปอรตไล๊จะสว่างทันที พร้อมเสียงสัญญาน จะดังมาก สัญญาญโทรศัพย์จะไปดังบอกเหตุที่เจ้าหน้าตำรวจที่ใกล้ที่สุด และคณะกรรมการวิหารทุกคน แต่ตอนขะโมยเข้าสัญญานดันเงียบสนิท ต้อนรับขะโมย

    นักลองของมาอีกเป็นครั้งที่สอง ตัดสัญญาน ตัดสายลำโพง ทุกอย่างมันทำลายหมด ยกเอาเครื่องส่งสัญญานกันขะโมยไปด้วยแล้วมันก็เอาอย่างเดียวนั่นแหละ อย่างอื่นไม่เอาเป็นการโชว์ว่ามืออาชีพ

    อีคราวหลังนี่กรรมการบางคนถึงกับเสียใจ ไม่มาที่วิหาร นานเป็นเวลาหลายปีเพราะอธิบายใครไม่ได้ว่าทำไมวิหารที่ว่าสักดิ์สิทธิ จึงถูกขะโมยงัดได้ หนำซ้ำครั้งที่สองนี่มันเหมือนแค่โชว์ความเหนือชั้นโดยการทำลายแค่เครื่องป้องกันอย่างเดียว

    น้องสาวตะเคียน มัวหลับยาม หรือพ่อปู่เผลอมวนยาเส้นอีท่าใหนขะโมยเข้าขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่อง น้องสาวตะเคียนแค่นั่งหวีผมให้มันเห็นหน่อยก็ไม่ได้ ต่างคนต่างก็คิดกันไป

    เมื่อเวลานานไปหลายคนก็ลืมเรื่องนี้กันไป อยู่ๆมาลุงที่เฝ้าวิหารก็เล่าให้ฟังถึงความเป็นไป ว่าพอรู้แล้วว่ากลุ่มใหน ใครเป็นคนทำ ผมเองก็อย่างที่บอกคือได้แต่นึกเวทนาไม่ช้าก็เร็ววันใดวันหนึ่ง กฏแห่งกรรมไม่เคยละเว้นใคร ก็เมื่อปีที่แล้วนี่เองที่ตัวหัวหน้า อยู่ๆก็วิ่งหนีไม่มีใครเห็นว่าหนีอะไรหายเข้าไปในป่าขึ้นไปบนภูเขาหลังหมู่บ้าน แล้วก็หายไปเลย หากันอย่างไรก็ไม่พบ จนผ่านไปหลายวัน ก็มีคนไปพบเป็นเป็นศพที่ลักษณะเหมือนหนีใครไปจนมุม หนีไม่ได้ติดผนังเป็นหินตายตาเหลือกลานอยู่ตรงนั้น

    ผมเองนั้นกับแม่ใหญ่มาบูรณะตั้งแต่ปี2536ก็พบเหตุการต่างๆมาจนชิน ยิ่งช่วงถมดินทำกำแพงกันน้ำช่วงนั้นทำอยู่คนเดียวกลางคืนดึกๆถึงเที่ยงคืนแทบทุกวัน น้องสาวตะเคียนนี่ อย่างกับมายืนอยู่ข้างๆชนิดได้กลิ่นเพิ่งอาบน้ำสระผมมาเลยละ ไอ้ผมเองก็เย็นสันหลังบ้าง บางคราวก็ขนลุกขนชันตามเรื่องตามราว ตามแต่คุณน้องแกจะทำของแก

    ช่วงนี้น้องสาวตะเคียนคงจะกลัวตกงาน หากหลับยามอีก เลยโชว์แม่ใหญ่บ่อยๆว่าแกไม่ได้หลับนะ แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนั่งห้อยขา บนกิ่งหลังพิงลำต้นตะเคียนเกากีต้าร์ครางเพลงรักเอยนะ หากพี่PCOเห็นเข้าก็เผ่นกับเขาได้เหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 เมษายน 2014
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814





    :cool:({) สวัสดีปีใหม่ไทย ครับ หลานรุ้งดาว พี่พี่ซีโอ อาซือเจ๊ Armarmy ท่านธัมมะสามี คุณ ธรรมวิวัฒน์ คุณ ดาบหัก คุณ และพี่ๆน้องทุกๆท่านครับ ปีใหม่ของไทย และ อีกหลายๆประเทศ ที่อยู่ ในแถบ เอเซียของเรานี้ ปีใหม่ไทยนี้ ขอต้องขอพร บารมี ขององค์ มสเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกะพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมที่ทุกๆพระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายอดีดถึงปัจจุบัน ตลอด จนพระสงฆ์ ที่ปฏิบัติดีและชอบ ทุกพระองค์ พรหมเทวดา ทั้งหมด ตลอดจน บิดามารดา คุณครูอุปฌาอาจารย์ เจ้าทุกๆพระองค์ ที่ของทุกๆท่าน เคารพ บารมีหลวงปู่หลวงพ่อ ให้ทุกท่าน ได้ประสบแต่ ความสุข ทั้งทางโลกและทางธรรม มีความสมบูรณ์ ทุกด้าน ตามกำลังบุญ ของทุกๆคน มีทั้ง อิทธิ์ฤทธิ์ บุญญาฤทธิ์ ปัญญาฤทธิ์ ทุกๆท่านทุกคนเทอญ สาธุ สาธู สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมธามิ:cool:



    สงกรานต์ ปีนี้ ก็ไปเสดาะเคราะ ต่อชตา ที่วัดท่าซุง ตอนเช้า รอบแรก เคย เสดาะเคราะ วันที่ ๑๕ ของทุกปี แต่ปีนี้ ทางวัดท่าซุง มาจัด วันแรก ต้นสงกรานต์ คือ วันที่ ๑๓ เมษายน ๕๗ และวันนี้ ก็ได้ อาบน้ำแม่ บังเกิดก้าวเหมือนเช่นเคยทุกๆปี พาลูกเมีย อาบน้ำ ขอขมากรรมต่อท่าน ซื้อเสื้อ ผ้าถุง เปลี่ยนใหม่ให้ ท่าน และสงฆ์น้ำ อบ น้ำหอม ดอกไม้ ดาวเรือง ดอกมะลิ พระพุทธรูป หลวงพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่เนียม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อ ซึ่งประดิษฐานไว้หน้าบ้าน ๔ องค์ จริงๆ สงฆ์น้ำพระก่อน แล้วอาบน้ำท่านแม่ครับ


    วันนี้ก็วันพระอีกเช่นเคย ได้ให้ภรรเมียพาแม่ไป ตักบารต ตอนเช้าฟังธรรมตามเคย:cool:
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:({) สวัสดีปีใหม่ไทย สงกรานต์ ครับคุณ พี่พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ปีนี้ และปีที่ผ่านมา ได้ ถวายพระ ไปแล้ว เกือบครบทุก วัดทุกภาค ของประเทศ เหลืออยู้เพียงวัดเดียว ไม่ฝากใครไปทั้งนั้น ที่แล้วๆมา ฝากเขาไปถวายบ้าง ถวายเองบ้าง แต่วัดท่าขนุนนี้ ต้องไปเอง เพราะท่านเคยสงเคราะ และเคยไปธุดงค์กับท่าน ในห้วยขาแข้ง และอีกประการหนึ่ง วัดท่าขนุน ที่ พระอ.เล็ก สุธรรมมะปัญโญ ไปอยู่นี้ ยังไม่เคยไปเลย เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายนที่ผ่านมา ก็เลย ให้ลูกชายคนโต ขับรถออกจากอุทัย ก่อนตี ๕ มุ่งสู่ เมืองกาญบุรีทันที ระยะทางก็เกิน ๓๕๐ กิโลเมตร ไปกลับก็ ๗๐๐ กว่าโล



    ก็ได้ถวายสมเด็จองค์ปฐม-องค์ปัจจุบัน ถวายท่าน ๙๑๙ องค์ เงินอีก ๒ คน ๕๐๐ บาท พร้อมแตงโม คุยกับท่านไม่ นานสัก ๑๐ กว่านาที เพราะท่านต้อง อบรมพระเณร ท่านบอก จะอยู่สงฆ์น้ำพระก็ได้ บ่าย ๒ โมง แต่ผมตัดใจไม่อยู่ เพราะเดี๋ยวกับบ้านดึก ทางอันตราย คดเขี้นวเลี้ยวลด และจะไปแวะ พระพุทธบาทเขาน้อย เมืองกาญ อีก ๑ วัด ๑ จุด ต้องทำเวลา ท่านบอกตอนสงกรานต์ ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่วัด ถ้าเราทิ้งเขา เดี๋ยวเขาก็ทิ้งเรามั่ง ก็เลยต้อกราบลาท่านเลย ท่านบอก ต่อหน้า ท่านแม่ผมว่า รุ่นเดียวกัน บวชก็รุ่นเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน ทำให้ผมนี้ อายท่าน ไม่รู้จะพูด สถานะใด ไม่อยาก พูดเลยพูดไม่ออกจริงๆ ผมพยายาม ให้ลูกผม เรียกท่านว่า หลวงพ่อ แต่ท่านดันพูดกบเกลื่อนหมดเลย


    ผมมาถึง วัดพระบาทเขาน้อย เขาสงฆ์น้ำ พระเสร็จพอดี ถวายปัจจัย อ.วันชาติ พระ อีก ๒๐๐ องค์ เจ้าอาวาส พระบาทเขาน้อย กำลังสร้างพระใหญ่ หน้าตัก ๑๐ กว่าวา ๒๐ กว่าเมตร พระอ.เล็ก ช่วยมา ๒-๓ ล้านบาทแล้ว และสร้าพระหน้าตัก ๑๑ ศอกอีก ๕-๖ องค์ทาสีเสร็จแล้ว ทาสีแบบ รถยนต์

    ผมว่าในประเทศไทยนี่ ยังไม่เห็นที่ไหน ทาสีได้แบบนี้เลยครับ เนียบจริงๆ ๑๐ กว่าปี สีก็ไม่ลอกครับ ยังสดเหมือนเดิมคุ้มจริงๆ องค์หน้าตัก ๔ ศอกอีก ตก ๓๐ องค์ มีพิมเชียงแสนกับ พิมองค์ปฐม และข้อ สำคัญ พระ อ.ยุทธ ซึ่งเป็นพี่ชายของท่านมรณะไปแล้ว ไม่เน่าเปื่อย แข็งเหมือนหินเลยครับ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ องค์นี้ เคยบวชอยู่ด้วยกันพักหนึ่ง ท่านพูดแบบขี้เล่น ทีจริง



    ถวายพระ ทำบุญไม่เท่าไหร่ แต่เสียค่าน้ำมันมากกว่าเยอะตก ๓,๐๐๐บาท แต่ก็คุ้มครับ สวัสดี:cool:
     
  11. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุนะพี่ นี่หากว่าเราไม่มีพ่อ ไม่มีแม่อยู่กับเรา ความดีประเภทนี้เราจะไปหาทำได้ที่ใหน ความดีแบบนี้ ไม่ได้มีวางขายตามห้างร้านขายยาทั่วไป ผ้าขาวม้า แม้กองเท่าภูเขา ผ้าถุง แม้จะมีกองเท่าภูเขา ก็ไม่มีความหมายสำหรับเราเลย หากเราไม่มีพ่อ แม่ผู้รับที่จะชื่นชมยินดีกับเรา คนบนโลกนี้แม้จะมีหลายพันล้านคน นั่นก็ไม่ใช่พ่อ หรือแม่ของเรา แม้แต่คนเดียว แต่แค่ผ้าถุงหนึ่งผืนนี่แหละ จะมีความหมายมาก หากเป็นแม่บังเกิดเกล้าในแต่ละชาติที่รับจากมือเรา แล้วก็ชื่นชมยินดีอวยชัยให้พร ที่ลูกของท่านเป็นคน กตัญญู กตเวที คือรู้คุณ และก็ตอบแทนคุณท่านตามกาลตามสมัย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เท่านี้ที่ต้องการ

    ในวันสงกรานต์ปีนี้พี่มีโอกาสดีมากที่มีแม่ให้อาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนผ้าใหม่ให้แม่ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือแม่พี่รู้จักวัดท่าซุง มีโอกาสได้ทำบุญให้ทานกองการกุศลทั้งปวงที่นี่ สถานที่ ที่มีพระสุปฏิปันโน เป็นเนื้อนาบุญอันอุดมไพบูล ผมขอโมทนาสาธุกับพี่อีกครั้ง และโมทนาสาธุ กับทุกๆท่านที่ได้ทำการ กตเวทิตา กับพ่อ กับแม่ ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ซ้าย ขวา คือทางฝ่ายสามี และภรรยา แบบที่พี่บุญทรงทำ

    สำหรับผมเองปีนี้ก็เฝ้าวิหาร ส่วนที่บ้านต่างจังหวัดก็มีบรรดาน้องๆ แล้วก็ลูกสาว และหลานๆเขาจัดการทำบุญกันที่เจดีย์บรรจุกระดูก พ่อ แม่ น้องสาว แล้วก็ลูกสาวคนโตของผมกัน หากปีใหนผมไม่ได้กลับไปภูมิลำเนาเดิม พวกน้องๆเขาก็จะจัดงานกันแทนไม่ขาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2014
  12. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    หายไปหลายวัน ติดค้างเรื่องด่าเทวดาไว้กับ พี่ ๆ น้อง ๆ

    ก่อนอื่นก็ ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญความดีใดที่ทำมาแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในอนาคตกาล

    ให้แก่ "นกน้อย" ที่ข้าพเจ้าไปยับยั้งไว้จากการตกเป็นอาหารของ บริวารข้าพเจ้า คือ แมว

    ขอ ท่านพยายมราช ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ โปรดจงเป็นพยาน

    ถ้าหากพบเจอเขาก็ช่วยบอกกล่าวด้วยว่า ข้าพเจ้ายกกุศลทั้งหมดให้แก่เขา ขอให้เขาโมทนา

    และโปรดฝากบอกเขาด้วยว่า ฉันขออภัยแทนบริวารของฉันด้วย และขออภัยที่ช่วยเธอไว้จากความตายไม่ได้

    เอาล่ะ มาเข้าเรื่องเลยครับ

    เรื่องของการด่าเทวดาที่ทำไปนี้ พ.ศ. อะไร ก็จำไม่ได้

    เรื่องเริ่มจาก ตอนเช้าวันหนึ่ง แถว ๆ หลังพระอุโบสถ วัดจันทาราม (ท่าซุง)

    ตอนเช้านี่ก็จะมีการให้ข้าวให้น้ำหมาที่แกเฝ้าอยู่รอบวัด ตัวผมเองนี่ก็ย่อง ๆ ไปด้วย

    วันนั้นอากาศแจ่มใสมาก แดดออกดี ฟ้าแจ้ง มีเมฆไม่มากนัก

    ก็ตอนที่ให้ข้าวแล้วนี่ผมก็ยืนเฝ้าดูอยู่ด้วย เพราะต้องคอยดูตัวที่ตัวใหญ่กว่าเขานิสัยเกเรหน่อย

    แกจะข่มขู่แย่งตัวเล็ก ๆ กิน ในมือถือไว้สองอย่าง ไม้กับอาหาร หากไม่ดูแกก็ตีกันก็จำเป็นต้องกำกับ

    แต่ตอนที่ผมเริ่มออกมายืนกำกับแล้วเดินดูว่าตัวไหนแกกินข้าวอิ่มหรือไม่อิ่ม

    แล้วก็ดูด้วยว่าแกกินได้มากหรือน้อยเจ็บป่วยอะไรหรือเปล่า ถ้าป่วยก็จะได้รักษาได้ทันที

    ก็พอเดินออกมาดู ๆ อยู่ดี ๆ ฝนตกมาเอาซะจั๊ก ๆ ๆ เม็ดโป้ง ๆ เดี๋ยวนั้นทันที ไม่มีการบอกกล่าวกันเลย

    ปกติฝนนี่ถ้าจะลง แกก็ต้องมีระดับ คือ ไล่จากเล็ก ๆ ก่อนค่อยหนักขึ้น แล้วก็ค่อยเบาลงจนหมด

    แต่นี่แกตกมาคล้ายเทน้ำลงมาเอาดื้อ ๆ นี่แหล่ะ

    ผมแหงน ๆ มองก็แปลกใจว่า ฟ้าแจ้งแบบนี้ฝนมันเทมาได้อย่างไรวะ

    ตกมาทั้ง ๆ ที่แดดออกฟ้าใสแจ๋วนี่แหล่ะ นี่ต้องเรียกว่า ฝนนักเลงใหญ่

    ก็เดินดู ๆ ข้าวหมา ปรากฏว่า น้ำในชามนี่ หมาแกกินข้าวเสร็จไม่ต้องกินน้ำตามเลย

    เพราะมันเป็นแบบข้าวต้มหมดแล้วเละเทะหมด หมาแกก็กินลำบากบางตัวก็เลิกกินเลยหนีฝนหมด

    ผมก็ยืนพิจารณาว่านี่มันเรื่องอะไรหว่า แต่อยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่าจะต้องมีใครอยู่เบื้องหลังแน่

    ก็ตอนนั้นแหล่ะ ผมลืมตัวไปว่าตัวเองก็แค่คน ด่าโขมงโฉงเฉงทันที

    แต่ด่าในใจนะครับ เพราะเทวดาท่านเรานึกในใจก็ทราบไม่ต้องไปแหกปากโวยวายสร้างความหนวกหูให้คนอื่นหรอก

    ผมด่าว่า

    ไอ้ที่ทำแบบนี้นี่เป็นอันธพาลจริง ชีวิตเขาต้องกินข้าวกินน้ำก็มาทำให้เขากินไม่ได้

    หรือเป็นเพราะว่า เสวยสุขจนลืมสภาพของความทุกข์ที่ต้องกินข้าวกินน้ำไปเสียหมดแล้ว

    จึงได้ทำแบบนี้ เห็นเป็นของสนุกหรืออย่างไร ไอ้แบบนี้นะมันต้องให้มาเกิดมาทุกข์

    อีกมาก ๆ จะได้รู้จักว่าทุกข์มันเป็นไง คิดว่าเป็นเทวดาแล้วจะอยู่ถาวรตลอดกาลหรือยังไง

    ไม่สงสารผู้อื่นบ้าง สนุกบนความทุกข์ของผู้อื่น แทนที่จะช่วยกันดันมาแกล้งกันเสียได้

    เขายังมีร่างกายอยู่ก็ต้องกิน ตัวเองไม่มีร่างกายแล้ว สบายดีนี่ ว่างมากเลยมาแกล้งกันใช่มั้ย

    พอผมด่าไปได้เท่านี้ ฝนแกหยุด ขาดเม็ดเดี๋ยวนั้นทันทีเหมือนกัน

    หยุดเอาดื้อ ๆ นี่แหล่ะ ตอนตกก็ตกแบบนั้น หยุดก็เอาเสียเฉย ๆ แบบนั้นแหล่ะ

    แต่ตอนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นจุดสำคัญเท่าไรนัก มาตอนเย็นเจริญพระกรรมฐานซีขอรับ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ เทศน์เรื่อง เทวตานุสสติกรรมฐาน แล้วก็ท่านก็สอนว่า

    เทวดา พรหม ที่ท่านตามสงเคราะห์เรานี่นะ

    ส่วนใหญ่ท่านก็เป็น พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ป้า น้า อา พี่ น้อง เราทั้งนั้นแหล่ะ

    แล้วก็เทศน์ให้ฟังอีก ตัวผมรู้สึกเหมือนท่านเน้นมาที่ผมเลยเชียว

    แต่ผมไปเปิดเทปบันทึกชุดนี้อีกตอนหลัง ไม่เจอหรอกคำนี้

    ไม่รู้ว่าเสียงหลวงพ่อท่านไม่ได้บันทึกไว้หรือว่า . . . ฮ่า ๆ ๆ ๆ

    หลวงพ่อสอนเรื่อง เทวตานุสสติกรรมฐาน

    คือให้ตามนึกถึง ความดีของ เทวดา พรหม

    แล้วพิจารณาด้วยว่าท่านทำความดีอะไรจึงมีความสุขแบบนั้น

    ระลึกแล้วก็ทำด้วยเราก็จะมีโอกาสมีความสุขแบบนั้นได้ เหมือนกัน

    ตัวผมเองก็ พิจารณาตามไป ก็เอะใจว่า ที่เฉ่งไปตอนรอบเช้า นี่น่ากลัวจะไม่ใช่ใครอื่นเสียแล้ว

    ดีไม่ดี ไปจ้ำเอาท่านผู้มีคุณเข้า คงจะจัญไรใหญ่เสียแล้วเรา

    แล้วที่ฝนหยุดตกคงเพราะจะให้เราหยุดด่าหรือเปล่าเพื่อตัวเราเองจะได้ไม่มีโทษประเภทนี้ ?

    นึกได้เท่านี้ผมก็สลดใจกับการกระทำของตัวเอง ก็ดอกไม้ธูปเทียนแพนั้นแหล่ะครับ

    พอหาได้ ไปก็ไปทันที ขึ้น นะโม ฯ แล้วก็แปลกอย่าง

    ตอนขอขมานี่ ผมได้ยินเสียงหรือว่าหูฝาดก็ไม่รู้ครับ ได้ยินเสียงมาว่า

    "พ่อแม่ก็ตามช่วยลูกอยู่ตลอด เราจำไม่ได้ แต่พ่อแม่จำลูกได้"

    ก็หูฝาดหรือเปล่าไม่รู้นะครับ ไม่รับรองอะไรในสิ่งนี้ แต่คำนี้กินใจผมมาก

    ก็เลยบอกท่านไว้ว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การกระทำประเภทนี้เลิกไม่ทำอีกต่อไปแล้ว

    จะไม่ปรามาสท่านผู้มีคุณอีกต่อไป แม้แต่พูดเล่นก็ไม่เอา เลิก

    ถึงโทษมันจะเห็นผลไม่ถนัดแต่ในด้านความเลวต่อไปภายหน้านี่ซิขอรับ มหาศาล

    เพราะ เป็นการปลูกฝังสันดาน เนรคุณ ไว้ในกำลังใจ

    ที่ไปของบุคคลประเภทนี้คือ อเวจี กับ โลกันต์ ในภายหน้าแน่นอน ผมเข้าใจว่าแบบนั้น

    สรุปตอนท้ายที่เล่าไปก็คือ เป็นตัวอย่างของ คนเลว

    การปรามาสท่านผู้มีคุณที่ใครก็ตามเคยกระทำไปแล้วก็ตาม

    ถ้าแก้ไขได้ก็ควรแก้เสียเถิดครับ อย่ารอให้ตายแล้วจึงทำ

    นี่ก็เป็นเรื่องราวที่ผมได้ทำมาเอง อาจเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นก็ช่างเถอะ เล่าไปแล้วนี่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

    เจริญในธรรมทุกท่านครับ
     
  13. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    โมทนากับ คุณ บุญทรงติดเครื่อง ทุกรายการด้วยครับ

    ว่าแต่ เครื่องแบบไหนครับ แรงม้าไม่สูงพอหนีไม่ทันนะนี่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

    พูดถึงว่า บางทีก็น่าอายเหมือนกันนะครับ บวชมารุ่นเดียวกันแต่เราก็ไปไม่ได้ขนาดท่านใช่ไหมครับ เรายังคลานขี้อยู่เลย

    ไม่เป็นไร ๆ ผมด้วยที่ยังหาดีไม่ได้อยู่ ไม่ต้องอายเรามีพวก ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

    เจริญในธรรมครับ
     
  14. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุครับพี่Amarmy

    ก่อนอื่น เอ้าผมก็เซ็นเชคให้นกน้อย ที่แมวของพี่สะแง่ม เอาไปทำซาซิมิ ซะต้องไปเกิดใหม่ คู่นี้ทั้งนกและแมว ก็ตามไปคิดบัญชีกันเอาเอง

    แต่ตอนนี้จะให้ทุนนกน้อย ไปทำทุนก่อนเช็คลงวันที่นี้ แต่ไม่จำกัดทรัพย์สิน ไปใส่ตัวเลข เบิกเอาเองตามชอบใจ เอาไปใช้แบบชั่วคราวหมดเมื่อไรมาขอเช็คใหม่

    เช็คใบนี้เขียนว่าอย่างนี้
    อิทัง ปุญญะ ผลัง ผลบุญใดที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้น จนถึงบัดนี้ ขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ให้กับนกน้อย ที่ถูกแมวทำให้ตายตัวนี้ ขอนกน้อยจงโมทนา ส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ขอจงพึงได้รับ ซึ่งประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพระพุทธเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    นกน้อย เอ๊ย ก็ไปขึ้นเช็คเอาเองนะ ฝากไว้ให้แล้วไปถามเอาที่ท่านลุงนั่นแหละ

    เรื่องการปรามาส เราก็อดที่จะประมาทพลาดพลั้งกันไม่ได้
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจึงตั้งเป็นกฏกติกากันเลยให้ลูกหลานขอขมาพระรัตนไตร ก่อนที่จะทำพิธีการอะไร

    เมื่อเราขอขมาบ่อยๆจิตมันชักจะเชื่อง มันชักจะเยือกเย็นลงไปเรื่อยๆ ความซ่าของจิตชักจะเบาบาง มันจะกลายเป็นคนดีกะเขาไปนะพี่ อย่าเผลอเชียวนา ไงๆ ก็เหลือความซ่าไว้นิดหน่อยพองาม เผื่อไว้ป้องกันตัว ไม่ซ่าซะเลยก็ถูกข่มเหงรังแกได้ง่าย ภาษาทางบ้านผมสาวๆเขาบอกว่าไอ้ประเภทเหยียบหัวแล้วยังไม่แฮ่นี่ เขาบอกว่าเอาไปทำพันธุ์อะไรไม่ได้ นั่นสมัยก่อนนะ แต่ตอนนี้พันธุ์ทางยังไงมันก็แพร่พันธุ์ของมันได้ ก็แล้วแต่เขา

    นั่นก็หมายความว่าธรรมดาคนเราที่เป็นผู้ชายมันก็ต้องมีเดชอำนาจบ้างไม่มากก็น้อยติดตัว พอให้ชาวบ้านเขาเกรงใจบ้าง คือมันต้องมีดีไม่อะไรก็ต้องอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเลง หรืออันธพาล

    ทีนี้เกิดมีนักเลงดีอยู่ๆก็มาเทน้ำใส่ชามข้าว พี่หมาน้องหมาเป็นการรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าต่อหน้า ต่อตา ดีว่ายายไม่อยู่ ไม่งั้นต่อยายเข้าไปอีก มันก็ต้องมีการวางมวยกันเป็นธรรมดา ดีว่าไม่ได้พกปืนไปด้วยไม่งั้นสงสัยได้ยิงเทวดาหนวดกระจาย

    นี่ถ้าเทใส่หัวเราคนเดียวจะไม่ว่าอะไรซักคำ รู้ก็รู้ว่าไอ้ที่เราจำเป็นต้องสู้นี่เพราะชาวบ้านเขาหรอกนะ ลำพังตัวเอง เทลงมาสักเท่าไรก็ไม่เดือดร้อนเท่าไรปากเดียวท้องเดียว หิวมากๆเข้าไม่มีอะไรจะกิน หรือว่ามี แต่กินไม่ได้ ตายมันซะส่งเดชก็ยังได้ เพราะไม่ได้มีห่วงที่จะต้องดูแลใคร พุทธภูมิเรามันคอยจะเสียท่าเขาก็อีตรงนี้ ถึงต้องสู้กันเลือดท่วม ยังไงก็ตายไม่ลงหากว่าพี่นวลยังไม่ปลอดภัย

    ไม่วางมวยไม่ได้ ไม่สู้คนไม่ได้ เดี๋ยวสาวๆไม่เอาไปทำพันธุ์ มันก็จะทำให้พันธุ์ของพ่อกำนันจันทร์มาจบเห่ที่เรา สาวก็ดูถูกดูหมิ่นเอาได้ว่าเป็นผู้ชายซะปล่าวเขาเหยียบหัวเอาอย่างนี้ยังไม่สู้ หากเป็นหมาเขาถึงได้ว่าเอาได้ ดูถูกเอาได้ว่าเหยียบหัวแล้วยังไม่แฮ่ใส่ เพราะธรรมดาของพี่หมา เอาที่วัดท่าซุงนี่แหละ มีเป็นร้อยฝูงใหญ่มาก อย่าว่าแต่จะมีใครเหยียบหัวเลย เงาของพี่ใหญ่จะมีใครกล้าเข้าไปเหยียบหรือปล่าว แค่พี่ใหญ่ของฝูง หรือน้องเล็กของฝูงมองแล้วยิ้มหวานหยดย้อยกับใคร คนที่ถูกมองก็เย็นสันหลังเหมือนกันเชียวแหละ หรือใครที่คิดว่าหนังดี ลองไปเหยียบหางของน้องเล็ก เอาฝูงในวิหารร้อยเมตร หรือฝูงตรงเมรเก่าดูก็ได้

    หากไม่แฮ่ซะเลย มันจะเสียหายใหญ่โตไปถึงพ่อกำนันจันทร์เอาได้ หากเป็นผมบ้างก็ทำแบบพี่นี่แหละ

    คราวหลังจะมาจะสงเคราะห์อะไรเรานี่ ขอให้มาอย่างตรงไปตรงมา หลวงพ่อสอนพวกเรามามากแล้ว เลยพอที่จะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เทวดา เราก็รู้จัก พรหมเราก็รู้จัก ผีสางนางสาวตะเคียน สาวตานี พอจะรู้จัก แล้วเราก็ดันแอบไปรู้เพราะหลวงพ่อบอกอีกว่า แค่อำนาจของเทวานุภาพนี่ก็บันดาลอะไรต่อมิอะไรได้มาก เช่นทรัพย์สินที่ฝังดินตรงนั้นตรงนี้ หากเรารู้ว่ามีจะไปขุดเอามาเป็นสินสอดขอลูกสะไภ้ให้พ่อซะหน่อย เวลาขุดเข้าจริงๆกลับบันดาลขนทรัพย์สินหนี แล้วบอกหน้าตาเฉยว่าไม่ใช่ของเรา ให้ไม่ได้ แหมมันเป็นซะแบบนี้

    ถ้าเป็นพ่อเป็นแม่ ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา มาหาเรา มาสงเคราะห์ เราจะได้วิ่งอ้าวเข้าไปกอดแข้งกอดขา ขอสตางค์เป็นอันดับแรกด้วยรักด้วยคิดถึง อย่างอื่นคุยทีหลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 เมษายน 2014
  15. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    สวัสดีพี่ๆและกัลยาณมิตรทุกท่านครับ

    เข้ามาฟังพี่ๆคุยและอ่าน "พระนางพิมพานางแก้วคู่บุญบารมีพระพุทธเจ้าทูลลาเข้านิพพาน"ที่พี่Armarmy นำมาโพสต์

    การเดินทางอันแสนยาวนานและแสนยาวไกล การร่วมเดินทางกับคนรู้ใจนั้นก็สำคัญอย่างยิ่งยวด...กำลังใจ...
     
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ก็สวัสดีครับ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก นางแก้วกัลยายอดนารีที่รู้ใจนี่แหละที่ทำให้มีแรงกำลังไปต่อ....คนเดียวนี่เองที่อยู่ข้างเราเสมอต้นเสมอปลาย พ่อ แม่ญาติมิตรมีนับไม่ถ้วนในการเดินทางที่ยาวไกลนี้ แต่หนึ่งเดียวเท่านั้นคือน้องนางแก้วที่ร่วมเดินทางกับเราตั้งแต่ต้น ด้วยใจที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี กำลังใจของเราที่ว่าแกร่งแล้ว หากเทียบกำลังใจกับนางแก้วแล้วนี่น่าคิด
     
  17. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัดดีท่านทั้งหลาย

    ก่อนอื่นก็ต้องขออนุโมทนา ในกุศลเจตนา ที่ทุก ๆ ท่านในที่นี้ได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    พระท่านว่า สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ด้วยแนวคิดแบบนี้ ก็ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาได้ ในบางครั้งที่ก็ท้อเหมือนกัน แต่เมื่อไรที่คิดได้ว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ต้องตายเหมือนกัน ความสงสารก็กลับคืนมาในจิตใจ เห็นว่า หากสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังคงต้องเวียน ว่าย ตาย เกิดในวัฏฏะสงสารนี้เพียงไร ก็ยังต้องทุกข์ทรมานกันไม่มีที่สิ้นสุดเพียงนั้น เราเองก็ขอเป็นหนึ่งในผู้ที่จะนำพา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ก้าวพ้นไปเสียจากกองทุกข์นี้

    และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา คือเรื่องที่ว่า สัตว์ทั้งหลาย เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ทิฐิมานะต่าง ๆ มันก็ลดน้อยลงไป ความรักความเมตตา มันก็เพิ่มพูลขึ้นมา ด้วยเห็นว่า ดวงจิตทั้งหลาย หากยังไม่หมดกิเลส ก็ยังต้องทุกข์ทรมานอยู่ เพราะ การเวียนว่าย ในห้วงแห่งวัฏฏะ

    และการที่จะช่วยสัตว์ทั้งหลาย ก็มิใช่เรื่องง่าย ตลอดจนแนวทางนี้ ก็มิได้มุ่งหวังสิ่งใด ใครจะรู้ ใครจะไม่รู้ ใครจะเข้าใจ ใครจะไม่เข้าใจ ใครจะดูถูกเหยียดหยาม อย่างไร สรุปคือ ไม่ว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไร กับพวกเรา

    สิ่งเดียวที่เป็นกำลังใจให้พวกเราที่เดินไปในเส้นทางแห่งพระพุทธภูมินี้ ก็คือ ความเมตตา กรุณา ต้องการนำพาสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ให้พ้นไปเสียจาก การเวียน ว่าย ตาย เกิด

    พวกเราไม่มุ่งหวังสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติต่าง ๆ เกียรติยศ การยอมรับนับถือ หรือว่าสิ่งใด ๆ ในทั้งสามโลกนี้ พวกเราไม่เคยมุ่งหวัง (จะมีอยาก ๆ ไปบ้าง ก็แค่ชั่วคราว) สิ่งที่มีคุณค่าเป็นที่สุด และพวกเรายอมเอาชีวิตเข้าแลกได้ ตลอดไป ก็คือ พระโพธิญาน

    หลายคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจอยู่ดี คิดว่าคนที่มุ่งพระโพธิญาน ต้องการความดีเลิส ความเป็นหนึ่งเดียว ความสมบูรณ์ในทุก ๆ อย่าง แต่เปล่าเลย ที่จริงพระโพธิญาน ไม่ต้องการสิ่งใด ๆ เลยทั้งนั้น ต้องการเพียงสิ่งเดียว คือได้ช่วยเหลือ สรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์

    เพียงแต่ว่า จะช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้ตนเองก็ต้องถึงพร้อมเสียก่อน ต้องพร้อมในทุก ๆ สิ่ง และทุกสิ่งที่มีพร้อม บารมีที่ต้องทำให้ครบถ้วน ตลอดจนบุญญาธิการต่าง ๆ ที่ต้องเต็มเปี่ยม ก็มิใช่เพื่อสิ่งใดเลย เพื่อสิ่ง ๆ เดียว คือการได้ช่วยเหลือบรรดาสรรพสัตว์ น้อย ใหญ่ทั้งหลาย ให้พ้นทุกข์

    ไม่มีความรักอันใดในจิตใจของเรา จะยิ่งใหญ่ไปกว่า รักในพระโพธิญาน ซึ่งท่านทั้งหลาย ที่เดินทางสายนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน

    ความเพียบพร้อมต่าง ๆ ที่จะพึงมี ก็มีเพื่อผู้อื่นนั่นเอง
     
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤษภาคม 2014
  19. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    กลับเข้าบ้านพี่ PCO ต่อล่ะ ไปเดินเล่นมาเสียหน่อย
     
  20. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    การที่ไปทำบุญให้ทานในที่ไกลๆ ในส่วนตัวของผมนี่ ผมหยุดตั้งแต่พบหลวงพ่อ ตอนหลวงพ่อทรงขันท์ห้าอยู่ ทุกงานที่วัดท่าซุงผมต้องไปทุกครั้ง

    ตอนหลวงพ่อไม่อยู่ก็นานๆไปครั้งเพราะผมอยู่ไกลมาก แต่ส่งสตางค์ไปร่วมทำบุญตลอดมา

    อย่างที่พี่ว่าการเดินทางไกลได้ทำบุญไม่เท่าไร แต่เสียค่าใช้จ่ายอื่นๆเยอะ บางครั้งบางคราว พากันไปเกิดอุบัติเหตุล้มตาย เจ็บป่วยพิการ ก็มีให้เห็นบ่อยๆ สตางค์ทุกบาททุกสตางค์ก็อยาก ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    แต่เรื่องแบบนี้ผมเองไม่ห้ามใครแม้ในครอบครัว ลูกๆผมบางทีเขาพากันไปโน่นไปนี่ อย่างเมื่อตอนสงกรานต์ เขาขับรถพาแม่เขาไปพิษณุโลกไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่จำสถานที่ไม่ได้ ไหว้พระพุทธชินราช นั่นก็ค่าน้ำมันรถหลายบาท ทำบุญได้ไม่มาก

    ผมเองปักหลักของผมอยู่วิหารใช้สตางค์ไม่มาก ลงทุนซื้อชาเขียวหนึ่งถุงยี่สิบบาท เป็นค่าแรงสองแม่เช็ดถูทำความสะอาดวิหาร ทั่วทั้งบริเวณ นอกนั้นเราก็มีโอกาสทำบุญได้มาก แล้วไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากกายมากในการเดินทาง ที่อื่นน่ะก็อยากไปกับเขา แต่ขอให้พร้อมมากกว่านี้ ค่อยว่ากัน

    อีกอย่างคือเนื้อนาบุญอันอุดมไพบูล หากเป็นสถาน ที่มันน้ำท่วม หรือที่มันแห้งแล้ง กันดาร ปลูกอะไรลงไปหากไม่ใช่ ที่ควรปลูก แม้จะเป็นไม้ตระกูลใหญ่อย่างไร เมื่อเกิดขึ้นในสถานที่ไม่ควรเกิด แต่เพราะไม่ได้เลือกเนื่้อนาบุญที่ดี มันก็จะมีสภาพแบบนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN4870.jpg
      DSCN4870.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN4871.jpg
      DSCN4871.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.2 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSCN5793.jpg
      DSCN5793.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.9 KB
      เปิดดู:
      38
    • DSCN6912.jpg
      DSCN6912.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.2 KB
      เปิดดู:
      37
    • DSCN7357.jpg
      DSCN7357.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.7 KB
      เปิดดู:
      30
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤษภาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...