สิ่งที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายควรทำไว้ในใจให้มั่นคง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ธัมมะสามี, 4 พฤษภาคม 2013.

  1. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... ไม่มีใครเกินศาสดาผู้เสาะแสวงหาความสุข เสาะแสวงหาความสุขนี้ตั้งความปรารถนามาเลย เช่น ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ปรารถนาเป็นสาวกพระพุทธเจ้า ล้วนแล้วแต่ตั้งหลักตั้งเกณฑ์ไว้ แล้วเดินตามหลักเกณฑ์นั้นมา ยากลำบากขนาดไหนก็เดินตามหลักเกณฑ์ที่เจ้าของกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วนั้น นั่น ท่านหาความสุขท่านมีกฎมีเกณฑ์หานะ ฯ. ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๕



    ..... สิ่งใดเลิศไม่เหมือนจิตใจกับธรรมที่ครองกันแล้วเลิศออกมา พระพุทธเจ้าเลิศแต่ก่อนมีกิเลสอยู่ก็ไม่เรียกว่า เลิศ มีการเกิดการตาย ตกหลุมตกบ่ออยู่เช่นเดียวกันกับพวกเรา ตั้งแต่เริ่มแรกก่อนที่ทรงทำความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์ ต้องมีการเกิดการตายเหมือนกันกับสัตว์ทั้งหลาย ตกนรกหมกไหม้ตลอดสวรรค์ พรหมโลก ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับเราๆ ท่านๆ นี้แหละ การเกิดการตายของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จึงไม่ได้น้อยกว่าบรรดาสัตว์ทั้งหลาย มีเหมือนๆ กัน พอๆ กัน เวลามาตรัสรู้แล้ว ก็เรียกว่ารื้อป่าช้าออกจากพระทัยโดยสิ้นเชิง ฯ. ๑๕ เมษายน ๒๕๔๕




    ..... หลักของกรรม คือ หลักพุทธศาสนาแท้ เชื่อบุญ เชื่อกรรม นี้คือเชื่อศาสนาโดยแท้ ถ้าไม่เชื่อบุญ เชื่อกรรม จะถือกี่ศาสนาไม่มีความหมาย หมดศาสนาพุทธของเราเป็นศาสนาชั้นเอกตั้งลงในหลักแห่งกรรม เชื่อบุญ เชื่อกรรม พระพุทธเจ้าทรงทำความปรารถนามาด้วยบุญด้วยกรรม เมื่อบุญกรรมสมบูรณ์แล้วเป็นศาสดาขึ้นมา เป็นศาสดาขึ้นมาด้วยอำนาจการบำเพ็ญตามบุญตามกรรมของพระองค์มา ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า สร้างแถวทางที่ให้เป็นศาสดา จนกระทั่งได้เป็นศาสดาตามแถวทางที่ถูกต้องนี้เรียกว่า กรรม เป็นศาสดาขึ้นมา บรรดาสาวกทั้งหลายก็เหมือนกัน ฯ. ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๕
     
  2. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... ครั้งเมื่อพระองค์เสด็จลงมาจากชั้นดาวดึงส์ ในตำราบอกไว้อย่างชัดเจน ใครๆก็กระหยิ่มยิ้มย่องอัศจรรย์พระพุทธเจ้า แล้วก็ปรารถนาพุทธภูมิเป็นพระพุทธเจ้า เป็นล้านๆ ปรารถนาพุทธภูมิ เพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้า แต่เวลาพระองค์รับสั่ง เออ ! การปรารถนานี้ก็เป็นความดีงาม ดี ว่าอย่างนั้นนะ เรื่องความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นเจตนาที่ดี เป็นความปรารถนาที่ดี ได้ผลตามกำลังของตน แต่ที่จะให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ ในจำนวนเหล่านี้อย่างมากไม่เลย ๒ คน ฯ. ๒๗ มกราคม๒๕๔๖
     
  3. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... การขึ้นลงสวรรค์ชั้นพรหมไม่มีใครเกินพระโพธิสัตว์ ที่ได้สร้างคุณงามความดีแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์ชั้นนั้นๆ ควรแก่การสร้างบารมีแล้วก็ลงมาสร้างบารมี เมื่อสร้างบารมีพอสมควรแล้ว สิ้นอายุขัยแล้วก็ไปเกิดสวรรค์ชั้นนั้นๆ อยู่อย่างนั้นแล้วก็ลงมา แล้วขึ้นๆ ลงๆ เหมือนเราลงบันไดบ้านนี้แล ระหว่างสวรรค์พรหมโลก กับแดนมนุษย์ ที่พระโพธิสัตว์ท่องเที่ยวไปมาด้วยการสร้างบารมีมาตลอด ผลสุดท้ายบารมีเต็มแล้วก็เสด็จออกทรงผนวช ตรัสรู้เป็นศาสดาเอกของโลกขึ้นมา ฯ. ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
     
  4. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... พระพุทธเจ้าเป็นจอมปราชญ์ฉลาดแหลมคม และเป็นนักสร้างความดีทั้งหลายไม่มีใครเกินพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ พระองค์กล้าเสียสละ กล้าได้ กล้าเสีย กล้าเป็น กล้าตาย ทุกข์ยากลำบากเข็ญใจประการใด พระโพธิสัตว์จะไม่ท้อถอยอ่อนแอง่ายๆ บึกบึนจนถึงที่สุดไปตลอด จนกระทั่งพระบารมีแก่กล้าแล้วเป็นศาสดาทรงอรรถทรงธรรมอันเลอเลิศ แล้วนำอรรถธรรมอันเลอเลิศนั้นมาเป็นแนวทางของพวกเราทั้งหลาย เพื่อให้ไต่เต้าไปตาม ฯ. ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๖




    ..... พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงเล็งญาณดู ทั้งอดีต อนาคต ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย แต่ละพระองค์เล็งอย่างนั้นเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นการสอนโลก ท่านจึงสอนแบบเดียวกัน คือ เป็นความถูกต้องแบบเดียวกัน ตั้งต้นขึ้นถึงอริยสัจ รวงรังแห่งภพชาติของสัตว์อยู่ที่อริยสัจ ท่านตรัสรู้อริยสัจนี้เป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา แล้วก็ทรงสอนแบบเดียวกันหมด สอนด้วยความถูกต้องเหมือนกัน พระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านสอนแบบเดียวกัน ถูกต้องแบบเดียวกัน ขนสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากทุกข์โดยลำดับลำดา จนกระทั่งถึงพระนิพพานด้วยกันในพุทธศาสนาของท่าน ฯ. ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗
     
  5. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... เชื่อเถิด เชื่อพระพุทธเจ้า ไม่มีศาสดาองค์ใดที่จะตระหนี่ถี่เหนียวไม่ได้ทำบุญให้ทานมาก่อนแล้วมาเป็นพระพุทธเจ้า เป็นเอกมาด้วยกัน การให้ทานพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ พระองค์นี้เสียสละเป็นเอกๆ มาโดยลำดับ ไม่ให้ทานได้ยังไง การให้ทาน การเสียสละ การเห็นแก่สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี้ไม่มีใครเกินพระโพธิสัตว์ซึ่งยังมีกิเลสอยู่ เป็นผู้เด่นในเรื่องความเมตตามากก็คือ พระโพธิสัตว์ ฯ. ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๘




    ..... ใครพูดไว้ว่า นรกมี เปรต ผี อสุรกายมี ใครพูดไว้ คนตาบอดหูหนวกคนไหนสามารถพูดได้ ก็คือ พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ แต่ละพระองค์ทรงสร้างบารมีมาทุกข์แสนสาหัสก็คือ พระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า พระโพธิสัตว์ สัตว์เพื่อจะตรัสรู้เป็นศาสดาเอก เรียกว่า โพธิสัตว์ๆ พระโพธิสัตว์นี้เองที่สร้างบารมีเต็มแล้วตรัสรู้ขึ้นมานี้กระจ่างแจ้งไปหมด สิ่งเหล่านี้มีมาดั้งเดิมกี่กัปป์ กี่กัลป์ แต่ไม่มีใครเห็น ใครก็โดนเอาๆ ตกลงจมไปๆ ผู้ไปก็ไปแล้วไม่ได้มาบอกกัน ผู้ไปก็ไปเรื่อยตกนรกหมกไหม้ อันนี้คือศาสดาสอน ฯ. ๑๐ กันยายน ๒๕๔๘
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    นี่คือ คำสอนของหลวงตามหาบัวครับ สาธุสาธุสาธุครับ ธัมมะสามี นำธรรมของท่านมากล่าว ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สดับตับฟังกัน
     
  7. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... การเสียสละไปถึงไหนๆ นี้เป็นการสมานซึ่งกันและกัน ให้มีความตายใจสนิทสนมกันได้ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์จึงแสดงทานบารมีขึ้นต้นเลย จอมให้ทาน คือ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เวลาปรารถนาพุทธภูมิ ยกทานขึ้นเป็นพื้นฐานเลย อย่างอื่นค่อยตามกันมา สำหรับทานการเสียสละนี้ เป็นพื้นฐานของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ความร่มเย็นแก่โลกได้มากมายก่ายกอง มีทานเป็นพื้นฐานสำคัญ ฯ. ๒ สิงหาคม ๒๕๔๙




    ..... พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ แต่ละพระองค์ที่อุบัติขึ้นมาให้เราทั้งหลายได้กราบไหว้บูชาว่าถือศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธเป็นของเล่นเมื่อไร ท่านเสียสละเป็นตายทุกอย่าง ไม่มีใครเกินพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะได้เป็นศาสดา ท่านฝึกอบรมเสียสละทุกอย่าง บรรดาพระโพธิสัตว์ แล้วรอดตายมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ เมื่อบารมีเต็มสัดเต็มส่วนแล้ว ได้ตรัสรู้ขึ้นมาเป็นศาสดาของโลก แล้วเต็มไปด้วยความเมตตาสั่งสอนสัตว์โลกสงเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้าเลย ฯ. ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๐
     
  8. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    การสร้างอรรถสร้างธรรมต้องตั้งใจจริง



    ..... ผู้ปฏิบัติเพื่อจะกำจัดสิ่งที่จอมปลอมทั้งหลาย เต็มไปด้วยโทษมีประการต่างๆ จึงควรตระหนักในใจ เราเชื่อกิเลส เราก็เชื่อมานาน กิเลสนี้ไม่ต้องมีใครเสกสรรปั้นยอ ไม่ต้องบำเพ็ญ ไม่ต้องทำหน้าที่ด้วยความจงใจ ตั้งหน้าตั้งตาสร้างเหมือนสร้างอรรถสร้างธรรม สร้างบารมี มันก็เป็นกิเลสขึ้นได้ เพราะพื้นเพของมันเป็นกิเลสอยู่แล้ว ภายในหัวใจล้วนแล้วแต่กิเลสห้อมล้อมหรือกลุ้มรุมอยู่หมด จนมองหาใจอันแท้จริงไม่เจอ เมื่อเป็นเช่นนั้นการแสดงออกแต่ละอาการของจิต จึงเป็นเรื่องของกิเลสทั้งมวล ไม่ต้องตั้งใจสร้างก็เป็นกิเลส




    ..... แต่เรื่องของธรรมนี้ต้องได้ตั้งจิตตั้งใจสร้าง ดังพระพุทธเจ้าทรงสร้างพระบารมีมา ๔ อสงไขยกำไรแสนมหากัปป์ นี่ก็คือหมายความว่ามากต่อมาก การสร้างจะไม่ทุ่มเทกำลังความสามารถทุกด้านทุกทาง จนเต็มกายเต็มใจของตนแล้วจะจัดว่าสร้างได้ยังไง อยู่เฉยๆ ไม่จัดว่าสร้าง ต้องได้พยายามเต็มที่เต็มฐาน การสร้างอรรถสร้างธรรม จึงเป็นความลำบากถ้าเราคิดในแง่ลำบาก แต่เราคิดกับเรื่องสร้างกิเลสสร้างความทุกข์ให้เรานั้น เราได้รับความทุกข์ ความลำบากแค่ไหน หรือตะเกียกตะกายไปตามกิเลสนั้นมีความลำบากมากน้อยเพียงไร เมื่อเทียบกันทางด้าน ความทุกข์ด้วยการประกอบความเพียรนี้มีคุณค่า มีน้ำหนัก เป็นสิ่งที่ควรเชื่อมากกว่าการเชื่อและทำตามกิเลสเป็นไหนๆ ฯ.
     
  9. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    การสร้างบารมีจนตรัสรู้ไม่พ้นจากพละ ๕


    ..... ธรรมครองใจนั้นทำใจให้ว่าง ว่างโดยหลักธรรมชาติ คือ ธรรมยุ่งโดยหลักธรรมชาติ คือ กิเลส อยู่ในใจดวงเดียวกัน เพราะฉะนั้นใจจึงไม่มีคำว่าว่างจากกิเลสแม้ดวงเดียว เว้นใจพระอรหันต์เท่านั้น แต่ก่อนใจของท่านก็บรรจุสิ่งทั้งหลายที่เป็นข้าศึกเหล่านี้เต็มอยู่เช่นเดียวกับเราๆ ท่านๆ แต่เพราะการชำระสะสางด้วยวิชาธรรมที่พระพุทธเจ้าประทานไว้โดยถูกต้องแม่นยำนี้ไม่ลดหย่อนอ่อนกำลังลง

    ... ศรัทธา ความเชื่อมั่นในธรรม พยายามเสริมขึ้นให้มากกว่าความเชื่อมั่นในกิเลส

    ... วิริยะ ความเพียร เพียรเพื่อถอดเพื่อถอนกิเลส มากยิ่งกว่าเพียรสร้างกิเลส

    ... สติ ตั้งท่าตั้งทางระมัดระวังจิตใจ กาย วาจาของตนให้มีกำลังมากขึ้นโดยลำดับ ยิ่งกว่าการระลึกไปตามแนวแถวของกิเลสซึ่งต้องใช้สติเช่นเดียวกัน เป็นแต่เพียงว่าใช้ในทางที่ผิดและถูกต่างกันเท่านั้น

    ... สมาธิ ให้มีความเหนียวแน่นมั่นคงในหน้าที่การงานของตน เพื่อถากถางถอดถอนกิเลสออกจากใจ ให้มากยิ่งกว่าความตั้งมั่นหรือสนใจความแน่วแน่ในกิเลสทั้งหลาย หรือความขยันหมั่นเพียรในกิเลสทั้งหลายพลิกกันไปคนละด้าน

    ... ปัญญา ใช้เพื่อการถอดถอนกิเลสประเภทต่างๆ ออกจากใจ ให้มากยิ่งกว่าที่จะนำไปใช้เพื่อเป็นเครื่องมือของกิเลสไปทำงานเพื่อทำลายตัวเราเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2013
  10. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... นี่แหละที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลก เป็นลาภอันประเสริฐของสัตว์และเป็นธรรมชาติที่อุบัติได้ยาก ก็เพราะธรรมต้องมีครู มีแบบมีฉบับ สัตว์โลกที่ถูกกล่อมอยู่ด้วยเพลงของกิเลส ใครเล่าจะสนใจต่ออรรถต่อธรรม ต่อวิชาที่จะมาทำลายกิเลส นอกจากสนใจต่อการส่งเสริมรายได้ ให้กิเลสนำผลนั้นเข้ามาเผาลนตนทุกถ้วนหน้าไปเท่านั้น



    ..... ด้วยเหตุนี้การอุบัติของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น จึงเป็นของยากของลำบากที่สัตว์โลกทั้งหลายจะได้พบ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง เพราะพระวาจาพระโอวาทของพระพุทธเจ้านั้น ไม่ได้นำมาจากผู้หนึ่งผู้ใดในสามแดนโลกธาตุนี้ แต่นำมาจากหลักธรรมชาติแห่งความสามารถ ที่เป็นสัพพัญญูของพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น การที่ได้อรรถได้ธรรมขึ้นมาสั่งสอนโลก พร้อมทั้งพระองค์ก็หลุดพ้นจากแหล่งแห่งกองทุกข์ที่กดขี่บังคับทั้งหลายได้ ก็เพราะพระบารมีที่ทรงสั่งสมมาไม่หยุดไม่ถอย และไม่พ้นจากพละ ๕ ที่กล่าวมาในเบื้องต้นนั้นว่า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา นี้เลย



    ..... เมื่อได้ทรงพยายามบำเพ็ญเต็มสติกำลังความสามารถไม่หยุดไม่ถอย เพราะมีแต่การบำรุงส่งเสริมโดยถ่ายเดียว ธรรมซึ่งเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นของดีและเป็นของดีเลิศ ย่อมปรากฏขึ้นในพระทัยโดยลำดับลำดา จนถึงได้ผ่านพ้นขึ้นมาเป็นความตรัสรู้ กลายเป็นศาสดาเอกของโลกให้เราทั้งหลายได้กราบไหว้บูชาและได้ยินได้ฟังคำว่าธรรมๆ มาจนกระทั่งบัดนี้ จึงเป็นของยากของลำบากมาก สำหรับพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ที่จะมาอุบัติตรัสขึ้นในโลก และรื้อขนสัตว์โลกให้พ้นโอฆะกันดารทั้งหลายเหล่านี้ ฯ.

     
  11. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ไม่มีใครตะเกียกตะกายเกินพระพุทธเจ้า



    ..... ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นศาสดาของโลก ทรงตะเกียกตะกายมาเสียมากต่อมาก ไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ในการตะเกียกตะกายพระองค์เรื่อยมา ตั้งแต่ครั้งปฐมโพธิญาณ คือ ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก นับแต่บัดนั้นก็ก้าวเดินตามเข็มทิศที่ได้ตั้งความปรารถนาเอาไว้



    ..... ทุกข์ยากลำบากขนาดไหน ก็ต้องอดต้องทน ต้องต่อสู้ ต้องตะเกียกตะกายเรื่อยมา เช่นเดียวกับเราเดินทาง ทางราบรื่นก็ต้องไป ทางขรุขระก็ต้องไป ทางยาก ทางคด ทางอ้อมที่ไหนก็ต้องไป ลำบากลำบนแค่ไหนก็ต้องไปเพราะสายทางอยู่ที่นั่น สายทางอื่นไม่มี เพื่อจุดหมายปลายทางก็ต้องไป นี่ก็สายทางที่จะให้ถึงความเป็นศาสดาและความพ้นทุกข์ มีอยู่กับทางดำเนินที่จะทรงตะเกียกตะกายเรื่อยมาทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาแต่ละพระองค์ๆ แห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นความลำบากมากแค่ไหน เรียกว่า นับอ่านไม่ได้เลย ฯ.
     
  12. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ

    พระคาถาเงินล้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา

    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวพระคาถาต้องว่าทั้งหมด
     
  13. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ใครจะเกิน ใครจะแข่งกับองค์ศาสดา




    ..... ใครจะเกินศาสดาในการแนะนำสั่งสอนโลก เรานี่ตัวเท่าหนู เราเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ไม่เป็นอื่นว่างั้นเลย คอขาด-ขาดไปได้เรื่องความเชื่อนี้ไม่มีถอน ยอมขนาดนั้นจึงเรียกว่ายอม กราบขนาดนั้น พระพุทธเจ้ามีกี่ล้านๆ พระองค์ เรายอมหมดไม่มีเหลือเลย พระพุทธเจ้ามีเป็นล้านๆ องค์มีได้ไหม ยอมรับว่ามีได้ว่างี้เลย ทำไมจะมีไม่ได้ เครื่องยืนยันคืออะไร คือ อริยสัจ



    ..... ความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ พระองค์ท่านปรารถนามาแล้ว เราไม่ได้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าจะไปรู้เรื่องได้ยังไง พระพุทธเจ้าปรารถนา การกระทำของพระพุทธเจ้า ใครทำให้เกินพระพุทธเจ้า เกินพระบรมโพธิสัตว์เล่า ไม่มีใครเกิน พวกเรามีแต่พวกขี้เกียจขี้คร้านท้อแท้อ่อนแอ ทำนิดๆหน่อยๆ มีแต่จะเป็นจะตาย
     
  14. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... พระโพธิสัตว์ท่านไม่เป็นอย่างนั้น ฟังซิ ใน ๑๐ ชาติสุดท้ายที่เป็นสุวรรณสามเป็นดาบส เป็นอะไรต่ออะไร นั่นดูซิ ใครทำได้ไหม เอ้า ! เรายกประมวลเข้ามานี้เลยว่า มีใครทำได้ไหม ท่านทำได้แล้ว ท่านทำมาแล้วจนเป็นเครื่องหนุนให้ท่านได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามาแล้วๆ



    .....เฉพาะองค์ศาสดาของเราปัจจุบันนี้ก็เห็นแล้ว ใครทำได้ไหม ใครจะเป็นคู่แข่งพระพุทธเจ้าไหม เรายังไม่เห็นใครเป็นคู่แข่งได้ เหตุใดความเป็นมาของพระพุทธเจ้าเราจะไปแข่ง ความรู้ของพระพุทธเจ้าเราจะไปแข่ง การเทศนาของพระพุทธเจ้าใครจะไปแข่ง จะไปแข่งได้ยังไง มันต่างกันอย่างนั้นเรียกว่าฟ้ากับดินก็ยังใกล้ ภูมิของศาสดาเลยนั้นไปอีกจะว่ายังไง



    .....นี่ละการนำธรรมมาสอนโลก จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยของศาสดาแต่ละองค์ เวลารู้ก็รู้สมเหตุสมผล รู้สมความเป็นศาสดา สมความปรารถนามาใครจะไปรู้ได้อย่างนั้น เพราะเราไม่ได้ทำอย่างนั้นนี่ เวลารู้ก็รู้อย่างนั้นซิ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าศาสดายังไง ถ้าเหมือนเราๆ ท่านๆ ใครจะกราบได้ลงคอ กราบไม่ได้ ไม่กราบ เมื่อถึงเหตุถึงผลที่ควรจะกราบ ไม่บอกก็กราบ



    .....ดังที่ว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายนี่เรายอม หัวขาดก็ขาดเลย เพราะมีเครื่องยืนยันอยู่ ที่จะผลิตพระพุทธเจ้าขึ้นมาได้ เพราะบารมีของท่าน ท่านทำได้นี่ว่าไง ท่านทำได้ ท่านสร้างได้ จึงเต็มได้ซิ ทำไมเต็มไม่ได้ ตั้งแต่เทน้ำลงในโอ่งมันยังเต็ม เทน้ำใส่ในแก้วมันยังเต็ม ทำไมสร้างบารมีไม่เต็ม ท่านพูดมาได้ยังไง ท่านเคยสร้างมาแล้ว เป็นมาแล้ว เต็มมาแล้ว เมื่อเวลาได้ตรัสรู้แล้วย้อนหลังพิจารณารู้หมด เคยเป็นมาแล้วเพราะอันนั้นๆ จึงได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างนี้ นั่น ท่านทำมาแล้วจนสำเร็จเต็มภูมิของพระศาสดา เอ้า ! ใครจะเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็สุดวิสัยเท่านั้นเอง
     
  15. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็จะมาสอนแบบเดียวกันนี้ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นของมีอยู่ เป็นอยู่ ไม่มีคำว่ากาล สถานที่ เวล่ำเวลา บาปไม่มีกาล สถานที่ เวล่ำเวลา เอ้า ! ทำลงไป ถ้าใครเก่ง บุญก็เหมือนกัน นรกสวรรค์มีอยู่เป็นหลักธรรมชาติของตัวเองอยู่อย่างนั้นไม่มีเคลื่อนมีคลาด พระพุทธเจ้าปรินิพพานกี่หมื่น กี่แสน กี่ล้านพระองค์ ธรรมชาติเหล่านี้ก็มีอยู่อย่างนั้น ใครจะมาลบล้างได้



    ..... การมาแนะนำสั่งสอนสัตว์โลก ท่านก็มาสั่งสอนตามความมี ความเป็น ท่านไม่ได้มาลบล้าง ท่านไม่ได้มาทำลายนรกอเวจีที่ไหน ไม่ได้มาทำลายนรกสวรรค์นิพพานที่ไหน มีแต่มาเสริมผู้ที่จะเข้าไปสัมผัสสัมพันธ์ในสิ่งที่ดีและดัดแปลงแก้ไขหรือฉุดลากผู้ที่จะไปสู่ความชั่วช้าทั้งหลาย มีนรกเป็นสำคัญให้ออกเท่านั้นเอง ที่ท่านจะทำลายนรก ท่านไม่ได้ทำ นี่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ท่านเป็นมาอย่างนี้



    ..... นี่ล่ะธรรมะที่ว่าจริง จริงอย่างนี้ ให้เห็นหัวใจนี้เสียก่อน เพียงหัวใจพวกเรานี่ตัวเท่าหนูก็เถอะ อย่างไรก็เป็นเครื่องยันกันได้ทีเดียว สิ่งที่ยันกันได้มีนี่ของให้ทำความบริสุทธิ์ใจให้ปรากฏเถอะ ความบริสุทธิ์ใจปรากฏแล้วเป็นยังไง และสิ่งที่จะตามมากับความบริสุทธิ์ของใจนี้มีอะไรอีกบ้าง นั่น มากขนาดไหน นอกจากว่าจำนำมาเทศน์ไม่ได้ พูดไม่ได้เท่านั้น



    ..... บรรดาพระอรหันต์ท่าน สิ่งที่อยูในวิสัยของท่าน ที่รู้ที่เห็นนี้เปิดไว้หมดในหัวใจ อันใดที่ควรแสดงหรือไม่ควรแสดง ใครจะฉลาดยิ่งกว่าพระอรหันต์ท่าน ของไม่เป็นประโยชน์พูดทำไม อย่างที่ท่านแสดงไว้อันไหนที่เป็นอจินไตยพระองค์ ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง อจินไตย คือ เลยความคิดความอ่านไปแล้วมันเสียเวลา อย่าไปยุ่ง เอาปัจจุบัน เอาวงปัจจุบัน ท่านก็บอกแล้ว ฯ.
     
  16. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    เหตุที่พระพุทธเจ้าท้อพระทัยในการแนะนำสั่งสอนสัตว์



    ..... การบำเพ็ญพระองค์ในการสละจากกษัตริย์ ลงสู่ภาวะแห่งความเป็นคนขอทานนี้ รู้สึกจะเป็นสิ่งที่บุคคลทำได้ยากอย่างยิ่ง แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงดำเนินมาแล้ว อดพระกระยาหารถึง ๔๙ วัน ใครบ้างจะสามารถทำได้และอดได้เหมือนอย่างพระพุทธเจ้า อดเพียงวันหนึ่งเท่านั้น ก็มองเห็นใบไม้สดใบไม้แห้งกลายเป็นผักไปหมด เพราะเข้าใจว่าเป็นอาหาร เนื่องจากความหิวโหยบังคับ



    ..... สำหรับพระพุทธเจ้าเสด็จออกบวชในครั้งนั้น ศาสนาไม่ปรากกว่ามี จึงไม่มีใครให้ทานด้วยศรัทธา นอกจากให้ตามประเพณีนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นพระองค์จะได้ของดิบของดีจากที่ไหนมาเสวย แม้ลำบากทรมานเช่นนั้นก็ทรงอุตส่าห์บำเพ็ญพระองค์ โดยไม่มีความลดละท้อถอย มีความทุกข์ความลำบากด้วยสิ่งอาศัยทั้งมวล



    ..... ปัจจัยทั้ง ๔ คือ ผ้าเครื่องนุ่งห่มอาศัย บิณฑบาต คือ อาหารการเสวย เสนาสนะ คือ ที่พักผ่อนนอนหลับ ตลอดจนยาแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไม่มีสิ่งใดติดพระองค์ไปเลย ทั้งไปอยู่ในสถานที่แร้นแค้นกันดารอีกด้วย ทรงบำเพ็ญไปตามสภาพแห่งความกันดานนั้นๆ สมกับพระองค์เป็นนักรบชั้นเอกที่ยกพระองค์เป็นศาสดาองค์เลิศ และนำสัตว์โลกออกจากวัฏฏะสงสารให้ถึงพระนิพพานจริงๆ ทรงบำเพ็ญจนได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา ในท่ามกลางแห่งความลำบากทรมานทั้งหลาย



    ..... ความอัศจรรย์แห่งความพากเพียร ไม่มีใครเสมอเหมือนพระพุทธเจ้าเวลาได้ตรัสรู้แล้ว ธรรมที่ทรงรู้ทรงเห็นเป็นธรรมอัศจรรย์นั้น ก็ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในโลกทั้งสามนี้ได้บรรลุหรือได้ตรัสรู้เหมือนพระพุทธเจ้าในเวลานั้น



    ..... ศาสนธรรมเป็นสิ่งอัศจรรย์ได้ปรากฏในโลกพร้อมกันขณะที่ตรัสรู้ แต่เพราะความลำบากทรมานก่อนตรัสรู้ และความอัศจรรย์แห่งธรรมที่ทรงเห็นว่าสุดวิสัยที่ใครๆ จะรู้ตามเห็นตามได้ แม้ทรงทำความปรารถนามาเป็นเวลานานว่าจะเป็นศาสดาสอนโลก แต่เมื่อได้ตรัสรู้แล้ว ทำให้ทรงท้อพระทัยในการที่จะสั่งสอนสัตว์ เพราะธรรมที่ทรงรู้เห็นประจักษ์แจ้งในพระทัยนั้นเป็นธรรมอัศจรรย์เหนือโลก เกินกว่าที่ใครๆ จะสามารถรู้ตามเห็นตามได้ ทรงเกิดความท้อพระทัย ทำให้มีความขวนขวายน้อย อยากจะเสด็จอยู่ลำพังพระองค์เดียวเท่านั้น
     
  17. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... แต่เมื่อทรงพิจารณาย้อนเข้ามาถึงปฏิปทา คือ เครื่องดำเนินที่พาให้ทรงรู้ทรงเห็นนั้น ว่าพระองค์เองรู้ได้เห็นได้เพราะเหตุใด ก็เพราะปฏิปทาข้อปฏิบัติเครื่องดำเนิน เมื่อดำเนินให้ถูกตามแนวทางแห่งธรรมแล้ว ก็ย่อมรู้ได้ดังที่ประจักษ์อยู่ในพระทัยเวลานี้ เมื่อนำข้อปฏิบัติ คือ แนวทางอันถูกต้องนี้สั่งสอนสัตว์โลก ทำไมสัตว์โลกซึ่งมีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับเราจะไม่สามารถรู้ได้เห็นได้เล่า ต้องรู้เห็นได้เช่นเดียวกับเรานี้แน่นอน



    ..... เมื่อทรงพิจารณาทบทวนโดยละเอียดทั่วถึงแล้ว จึงมีแก่พระทัยที่จะสั่งสอนสัตว์โลก เพราะอำนาจเมตตาที่มีเต็มพระทัยอยู่แล้ว เป็นเพียงพิจารณาหาช่องทางอันเหมาะสมอยู่เท่านั้น เมื่อเห็นสมควรแล้วก็ทรงปลงพระทัยในการสั่งสอนสัตว์โลกตามปณิธานที่ทรงปรารถนาไว้ ทั้งนี้เนื่องจากความอัศจรรย์แห่งธรรมให้เกิดความสงสารสัตว์โลก โดยที่ทรงเห็นว่าปฏิปทาเครื่องดำเนินมีอยู่ จุดหมายปลายทางที่จะพึงได้พึงถึงนั้นก็มีอยู่ จึงได้ปลงพระทัยจะสั่งสอนสัตว์โลกต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2013
  18. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    พระเวสสันดร(มหาโพธิสัตว์)




    ..... วันนี้จะมีการเทศน์มหาชาติของพระพุทธเจ้า ครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร

    ... แปลว่า ชาติที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ทรงก้าวผ่านวัฏฏะสงสารมาด้วยทรงบำเพ็ญมหาทาน ซึ่งเป็นทานใหญ่และอัศจรรย์ แปลว่า ชาติสุดท้ายที่ทรงทุ่มเทพระกำลังลง เพื่อพระสัพพัญญูด้วยความกล้าหาญต่อแดนพ้นทุกข์(คือพระนิพพาน)

    ... และแปลว่า การประมวลภพชาติซึ่งเป็นสมบัติของพระองค์ที่ทรงท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน ลงในพระชาติของพระเวสสันดร


    ..... พระพุทธเจ้าครั้งเป็นพระเวสสันดร พระองค์ทรงทำอย่างไร ในพระคาถาของพระเวสสันดรชาดกมีมากมาย(ถึงหนึ่งพันพระคาถา) แต่จะยกมาแสดงเพียงย่อๆ ว่า


    ... ๑. ทานัง เทติ พระเวสสันดรท่านทรงให้ทาน

    ... ๒. สีลัง รักขะติ พระเวสสันดรท่านทรงรักษาศีล

    ... ๓. ภาวะนาวัง ภาเวตฺวา พระเวสสันดรท่านทรงเจริญภาวนา




    ... จึงเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา และกลายเป็นศาสดาของโลกทั้ง ๓ ( คือ มนุสสโลก เทวโลก พรหมโลก )

    ... นี่คือหลักธรรมเครื่องดำเนินของพระเวสสันดรที่ทรงดำเนินมาเป็นลำดับ

    ... จนบรรลุถึงความเป็นพระพุทธเจ้าอย่างสมบูรณ์

    ... ธรรมทั้งนี้ท่านประทานไว้เพื่อพุทธบริษัท คือ

    ... พวกเราจะตามเสด็จพระองค์ท่านตามกำลังภูมินิสัยวาสนาของแต่ละท่าน

    ... ถ้าจะกล่าวถึงการบำเพ็ญบารมี และฝ่าฝืนความทุกข์ทรมานในคราวเป็นพระเวสสันดรนั้น

    ... จะเห็นได้ว่าเป็นการยากลำบากแสนสาหัส และไม่มีใครกล้าทำได้เหมือนอย่างพระองค์

    ... การบำเพ็ญทานก็เป็นความอัศจรรย์

    ... อาจจะกล่าวได้ว่าพระองค์คว้าประวัติศาสตร์แห่งการเสียสละของคนสมัยนั้น โดยไม่มีใครสามารถจะเป็นคู่แข่งได้

    ... ประหนึ่งว่าฟ้าดินอันแสนกว้างจะถล่ม เพราะความเลื่องลือกิตติศัพท์กิตติคุณฟุ้งขจรไปทุกแห่งทุกหนทั้งเบื้องบนเบื้องล่าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2013
  19. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ..... ชาวเมืองเกิดความไม่ยินดีและไม่พอใจในการบำเพ็ญของพระองค์ (พระเวสสันดร)ถูกกล่าวหาว่าให้ทานช้างมงคลประจำเมืองประจำแผ่นดิน จนเกิดฟ้องร้องกันขึ้น โดยตั้งข้อหาว่า พระเวสสันดรเป็นคนขวางโลก ไม่สมควรเป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดินต่อไป ถ้าฝืนให้อยู่บ้านเมืองและแผ่นดินจะล่มจม ฝ่ายพระบิดาซึ่งเป็นเป้าหมายแห่งการรับฟ้องร้องของคนทั้งแผ่นดิน ด้วยพระปรีชาฉลาดท่านก็ทรงบรรเทาเหตุร้ายซึ่งกำลังเกิดขึ้น โดยพระอุบายให้พระเวสสันดรพระลูกรักเหมือนดวงหทัย ขยับขยายออกจากเมืองตามเหตุการณ์ก่อน พอมีทางแก้เหตุร้ายให้สงบลง



    ..... ฝ่ายพระเวสสันดรหน่อพระสัพพัญญูผู้ทรงธรรม มีพระทัยเต็มไปด้วยพระเมตตาต่อสัตว์ผู้ยากจน และมีพระราชศรัทธาอันกว้างขวางเหมือนท้องฟ้ามหาสมุทร เมื่อทรงสดับพระดำรัสจากพระราชบิดาผู้บังเกิดเกล้าแล้ว ทรงน้อมพระเศียรรับและปฏิบัติตามด้วยความพอพระทัยมิได้ขัดขืน แม้เช่นนั้นก่อนจะเสด็จอออกจากพระนคร ยังทรงขอยับยั้งไว้ชั่วกาล (๗ วัน) พอได้ให้บริจาคทานให้พอพระทัยก่อน แล้วก็เสด็จออกจากพระนครด้วยพระอาการยิ้มแย้มแจ่มพระทัย ซึ่งสมกับพระองค์เป็นพระเวสสันดรผู้เป็นจอมให้ทานในโลก อันไม่มีใครเสมอเหมือน ไม่ทรงมีพระอาการหวั่นไหว เพราะความไม่พอใจและการขับไล่ของชาวเมือง ทรงเปี่ยมด้วยพระราชศรัทธาทั้งการเสด็จไป เสด็จอยู่ในป่า และเสด็จกลับสู่พระนครตามคำทูลให้เสด็จกลับ




    ..... การเสด็จออกจากพระนคร มีพระนางมัทรีและพระราชโอรสพระธิดาดวงหทัยตามเสด็จ การเสด็จออกจากพระนครทั้งนี้ พระเวสสันดรทรงปฏิบัติให้เป็นที่พอใจของชาวเมือง แต่การบริจาคซึ่งเป็นธรรมประจำพระนิสัยของหน่อพระโพธิญาณ ผู้จะทรงรื้อขนสัตว์โลกให้ข้ามตามเสด็จ พระเวสสันดรไม่เคยลดหย่อนอ่อนพระทัยตามใคร และไม่ทรงยอมอยู่ใต้อำนาจของผู้ใดทั้งนั้น แม้จะเสด็จเข้าอยู่ในดงหนาป่าทึบแร้นแค้นกันดารเหมือนแดนนรก อันใครๆไม่พึงปรารถนาก็ตาม พระองค์ยังพอพระทัยในที่เช่นนั้น และทรงบำเพ็ญทานไม่เคยลดละ เมื่อไม่มีอะไรจะทรงบริจาคก็ทรงยกพระลูกรักทั้งสอง บริจาคให้แก่พราหมณ์(ชูชก)ผู้จนมุมมาร้องขอ และไม่ทรงถือพระลูกรักทั้งสองให้เป็นอุปสรรคต่อทานบารมีเพื่อความเป็นศาสดาของโลกเลย
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    vo6 อนุโมทนาสาธุครับ ท่านธัมมะสามี ที่เอา พระธรรมชาดก มาให้อ่านกัน ก็ขอให้ท่านสำเร็จผล ตามเจตนา ที่ท่านได้ตั้งใจไว้ เพื่อรื้อสัตว์ ขนสัตว์ออกจาก วัฏจักสงสาร แล้วท่าน พอจะรู้ ได้ด้วยใจของท่าน บ้างไหมว่า จากพระศรีอารย์ ไป ท่านเป็นองค์ที่เท่าใด พอจะเล่า หรือ อะบายให้ พี่ๆน้องๆ ทราบได้อนุโมทนาสาธุ กันบ้างบ้าง ขอบารมีพระรัตนตรัย มีพระพุทธรัตน พระธรรมะรัตน พระสังฆรัตน ทั้ง สามดวง พรหม เทวดา พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย จงมาปกป้องคุ้มครอง ให้ได้สมความปราถนา จงทุกๆประการ สาธู สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมธามิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...