หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ติสาโร, 12 มิถุนายน 2018.

  1. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... บางคนสุขสบาย เพราะผลบุญเก่ามันส่งผล จึงนิ่งนอนใจ จึงคิดว่าบุญ ไม่สำคัญ ครั้นผลบุญเก่าเริ่มหมด ผล กรรมเก่า ที่วิ่งตามอยู่จะตามทัน ส่งผล ความทุกข์ ความยากลำบาก จะส่งผลในทันที... "
    หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    16.jpg
     
  2. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .

    #หลวงปู่บุญส่ง ท่านปรารภว่า "ทำไปเถอะ ทำบุญกับพระอย่างเรา เมื่อถึงเวลาแล้วเธอจะเห็นเอง รู้เอง เราจะไม่ให้ศิษย์เราต้องลำบากหรอก..."
    .
    ดังที่องค์ท่าน ได้อบรมพระเณรให้อยู่ในพระธรรมวินัยมาโดยตลอด โดยมักให้ข้อคิดเตือนสติพระเณรเสมอๆว่า
    .
    “เราบวชมา เราต้องปฏิบัติภาวนาไม่เอาเปรียบญาติโยม ผู้ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ได้บวชมานั่งมานอนบวชเล่นบวชเรียน บวชต้องปฏิบัติ คนมาทำบุญที่นี่ต้องได้ผลบุญเต็ม เราต้องภาวนาแผ่เมตตาปฏิบัติให้เค้าอย่างเต็มที่”
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า 1f49b.png
    .
    .
    ภาพ : เมื่อครั้งอดีตของหลวงปู่บุญส่ง 2728.png

    17.jpg
     
  3. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    รูปภาพนี้คือยันต์ประจำตัวของ
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และเป็นลายมือขององค์ท่านเอง...
    .
    .
    #ยันต์พุฒซ้อน หรือ ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ความหมาย ความเชื่อ เป็นยันต์ที่โด่งดังมากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นมหายันต์สูงสุดกว่ายันต์ทั้งปวง อุปเทห์ใช้ได้ สารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะยันต์พุฒซ้อนได้นำมาใช้ในการลงนะหน้าทอง เมตตามหานิยม โชคลาภ ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา ต้องการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เป็นมหาเสน่ห์ 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png
    .
    .
    Cr.คณะศิษย์ฯ

    18.jpg 19.jpg
     
  4. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #ภาพมหามงคล 2728.png
    .
    #หลวงปู่จาม มหาปุญโญ พระมหาเถระผู้มากมีบุญ
    วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย
    อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร (ซ้ายหลวงปู่จาม)
    วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    .
    #หลวงพ่อประสงค์ สุสันโต (ขวาหลวงปู่จาม)
    วัดใหม่เขาปูน อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
    .
    .
    ภาพครั้งอดีตเมื่อตอน "หลวงปู่บุญส่ง" และ"หลวงพ่อประสงค์" เข้ากราบสักการะ "หลวงปู่จาม มหาปุญโญ" พ่อแม่ครูอาจารย์พระมหาเถระผู้มากมีบุญ
    .
    .
    ___________
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง #หลวงพ่อประสงค์
    .
    .
    #หลวงพ่อประสงค์ สุสันโต นั้น โดยอุปนิสัยแล้วท่านไม่ค่อยอยู่วัดใดนาน ๆ จะไปๆมาในแต่ละวัด แต่ละพรรษาท่านจะหมุนเวียนเปลี่ยนที่พำนัก จะไม่อยู่วัดใดเป็นหลัก ก่อนหน้านี้อยู่วัดใหม่เขาปูน จ.อุทัยธานี ก่อนนั้นก็อยู่วัดป่าประจงจิตร จ.ชัยภูมิ ไม่นานมานี้ก็อยู่ที่วัดป่าตำลึงทอง จ.จันทบุรี และมีบ่อยครั้งที่จะไปพักที่วัดป่านาบุญ กับ หลวงปู่กวง โกสโล หรือ วัดป่าหมู่ใหม่ ของพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    .
    .
    พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เป็นสายธารธรรมออกธุดงค์ในยุคหนึ่งกับหลวงพ่อประสิทธิ์วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จะมี 3 รูปที่หลวงพ่อประสิทธิ์จะคุ้นเคยและไว้ใจ
    .
    1.หลวงปู่กวง วัดป่านาบุญ
    2.หลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม
    3.หลวงพ่อประสงค์ สุสันโต
    .
    .
    ในภาพ : หลวงพ่อประสงค์ นวดถวายให้กับหลวงปู่บุญส่งด้วยความเคารพ โดยทุกคราวที่เจอกับหลวงปู่บุญส่ง หลวงพ่อประสงค์ท่านอ่อนน้อมเป็นที่สุด โดยจะเรียกหลวงปู่บุญส่งว่า ""ท่านอาจารย์" เสมอ ๆ ...
    .
    บ่อยครั้งที่ไปงานกิจนิมนต์แล้วเจอกัน หลวงพ่อประสงค์ท่านจะถวายปัจจัยที่ทางเจ้าภาพถวายให้ท่าน ถวายร่วมบุญกับหลวงปู่บุญส่งทั้งหมด
    .
    โดยหลวงพ่อประสงค์เคยบอกให้ฟังว่า ให้ดูแลหลวงปู่บุญส่งให้ดี ทำบุญกับท่านมาก ๆ ท่านมีบารมี หลวงพ่อประสงค์ยังปิดท้ายว่า ท่านเองอยากมีโอกาสได้ดูแลหลวงปู่บุญส่งบ้าง ใครได้ดูแลท่านมีบุญมากแล้ว ...
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
    #ภาพนี้เมื่องานมุฑิตาจิตหลวงปู่ไมอินทสิริที่วังน้ำเขียวนครราชสีมาในอดีต
    .
    .
    โดยหลังจากนวดถวายแล้ว ในงานวันนั้น #หลวงพ่อประสงค์ขอโอกาสปลงเกศาถวายให้กับหลวงปู่บุญส่งด้วยองค์ท่านเอง
    "
    .
    .
    และขณะที่ปลงเกศานั้น ท่านจะใช้มือเพียงข้างเดียวจับมีดโกน ส่วนมืออีกข้างท่านจะไม่มาแตะศรีษะของหลวงปู่บุญส่งเลย ท่านปรารภว่า
    .
    ".. ไม่ควร ศรีษะครูบาอาจารย์ ท่านปลงเกศาให้กับหลวงปู่บุญส่ง ด้วยมือข้างเดียวที่ถือมีดโกน และไม่มีสิ่งไหนโดนศรีษะของหลวงปู่บุญส่ง เว้นแต่มีดโกน ..."
    .
    หลวงพ่อประสงค์ท่านเคารพหลวงปู่บุญส่งมาก ๆ และเมตตาแสดงให้เห็นถึงข้อวัตรข้อปฏิบัติอันงดงามที่พ่อแม่ครูอาจารย์สายพระป่ากรรมฐานท่านถือปฏิบัติมาตั้งแต่ครั้งอดีต
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยความเคารพ

    3.jpg 21.jpg 22.jpg 253253334_2283506381786705_302496181315494036_n.jpg
     
  5. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    ". ..พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยเลือกใคร จะโปรดแต่คนจนซะโดยมากด้วยซ้ำไป พระจริงไม่มีวุ่นวายหรอก..."
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    13.jpg
     
  6. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .

    " อย่าได้ประมาทในบุญ ไม่ว่าจะบุญเล็กบุญน้อย บุญปลาซิว บุญปลาสร้อย แต่เมื่อทำบ่อย ๆ กุศลมันก็มากได้ กำลังใจเรามากพอ อานิสงส์ก็มากด้วย ไม่ใช่อยู่ที่จำนวนหรือขนาดของปัจจัย กำลังใจและความตั้งมั่นต่างหากที่สำคัญกว่า "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    6.jpg
     
  7. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... โทสะความโกรธคือเชื้อโรคร้ายถ้าเราไม่รู้จักทำลายมัน มันก็จะทำลายเรา ยกตัวอย่างเช่น ผัวเมียกันทะเลาะกันเพราะมีอารมณ์โทสะครอบงำ ทำลายข้าวของมั่ง ทุบหม้อข้าวทุบตุ่มแตกมั่ง พอหายโกรธกันต้องมาเสียเงินซื้อของใหม่อีก ก็เพราะไอ้ตัวโทสะตัวโกรธนี้แหละมันบงการ เห็นพิษร้ายมันกันบ้างมั้ยล่ะ ถ้าไม่รู้ลดมันลงบ้าง มันก็จ้องทำลายเราเรื่อยไป พอความโกรธหายเราก็มานั่งเสียใจเพราะได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างปี้ป่นจนหมดแล้ว เพราะว่าเเพ้ความโกรธกัน.... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรีี

    18.jpg
     
  8. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... คนเราหากยึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างสูงสุดแล้ว จะมีเทพเทวดาที่รักษาความดีคอยคุ้มครองรักษา
    .
    ไปแห่งหนตำบลใดหากไปตกทุกข์ได้ยากตกระกำลำบากอยู่ในที่คับขัน หากผู้นั้นได้อ้างอิงถึงบุญกุศลที่ตนกระทำมาให้มาช่วย
    .
    เทพเทวดาเหล่าใดที่สถิตย์อาศัยอยู่ทั่วไปเมื่อได้ยินจะต้องรีบเข้าช่วยเหลือทันที... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    21.jpg
     
  9. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "อัปปมาทธรรม
    เมื่อพระพุทธองค์ใกล้จะเสด็จปรินิพพานแล้ว ก่อนจะปิดพระโอษฐ์ ได้รับสั่งเป็นปัจฉิมวาจา ซึ่งเป็นพระวาจาสุดท้ายก่อนปรินิพานไว้ว่า :
    “หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ”
    “ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอพูดกับเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม”
    คืออะไร ... คือ ความประมาทเป็นทาง แห่งความตาย ชนผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย ชนเหล่าใดประมาทแล้ว ย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว บัณฑิตทั้งหลายตั้งอยู่ในความไม่ประมาท... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    2.jpg
     
  10. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "...ทุกข์ทุกรูปแบบต้องชนะให้ได้ ... ไม่ว่าเสียงก่นด่าหรือว่าสรรเสริญเยินยอ ก็นิ่งเฉยกับมันให้ได้... อย่างอาจารย์เนี่ย ต่อให้ยกคนทั้งจังหวัดมาก่นด่าต่อว่าต่อหน้าที่กำลังนั่งฉันข้าวอยู่ ก็นั่งเฉยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรมาทำอะไรเราได้ เราปล่อยวางนิ่งเฉย พอปล่อยวางได้ มันก็สบาย... เจอทุกข์น่ะดีแล้ว จะได้เข้าใจมัน... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    11.jpg
     
  11. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "ทานบารมีอย่าให้ขาดอย่าให้พร่อง พยามเติมกันให้เต็ม ดีเล็กดีน้อยก็ค่อยทำกันไป ไอ้ตัวนี้จะเป็นอานิสงส์ส่งให้เราไม่มีลำบากขาดแคลนในเรื่องของปัจจัยสี่ตลอดทั้งความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิต จะไม่ขัดสนอดอยาก ถ้าถึงคราวจะจนก็จนไม่นาน เติมกันให้เต็มเมื่อผลทานมันแก่กล้าใช้เท่าไหร่ก็ใช้ไม่หมด จะหมดๆเดี๋ยวมันมีมาเอง"
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    253253334_2283506381786705_302496181315494036_n.jpg
     
  12. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
  13. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    " หนทางเตียนเวียนสู่นรก
    หนทางรกวกขึ้นสู่สวรรค์...
    ทางขึ้นสวรรค์ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
    แต่ทางลงนรกนั้นมันง่ายเหลือเกิน
    เลือกกันให้ดีว่าจะไปทางไหน "
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    7.jpg
     
  14. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    " ...บาปอย่าไปทำ คิดอย่าให้เป็นบาป
    พูดอย่าให้เป็นบาป ทำอะไรอย่าให้เป็นบาป... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    13.jpg
     
  15. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .

    " กตัญญูกตเวทีแสนดีเลิศ
    เป็นเครื่องเชิดชูสง่าเพิ่มราศี
    เป็นรากแก้วขวัญตนของคนดี
    เป็นสักขีชี้ให้เห็นว่าเป็นคนฯ "
    .
    #ความกตัญญูกตเวทิตา
    #เป็นเครื่องหมายแห่งคนดี 1f49b.png
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    11.jpg
     
  16. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    " องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยทรงตรัสไว้ในขุททกนิกาย ธรรมบทว่า
    .
    " จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา "
    เมื่อจิตเศร้าหมอง จำหวังได้คือทุคติ
    .
    นั่นคือ เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ขณะเรากำลังจะจากโลกนี้ไป ทุคติเป็นที่หวังได้เลย ไม่เป็นอย่างอื่น ถ้าจิตเศร้าหมองแล้วไปทุคติ นั่นคืออบายภูมิทั้ง ๔ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน อบายภูมิทั้ง ๔
    .
    กับพุทธวจนะ ธรรมบทภาษิตคำเทศน์คู่กันอีกบทซึ่งว่าไว้คือ
    .
    “จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา"
    เมื่อจิตไม่เศร้าหมอง จำหวังได้คือสุคติ
    .
    นั่นคือ หากเราทำอะไร คิดหรือพิจารณาอะไรแล้ว ถ้าจิตเราไม่เศร้าหมอง ขณะเรากำลังจะจากโลกนี้ไป สุคติ คือสิ่งที่หวังได้เลยไม่มีทางเป็นอย่างอื่น จิตผ่องใส อิ่มเอิบเบิกบาน สิ่งนี้จะทำให้เราไปสู่สุคติไม่ตกอบายภูมิ เพราะจิตเราไม่มีความเศร้าหมองแล้ว
    .
    .
    สองสิ่งนี้ คือสิ่งทำได้ไม่ยาก และเราเลือกได้หากจะให้เป็นอย่างไหน เราทำได้ นั่นคือ หมั่นดูใจเรา หมั่นพิจารณาเอา เราเลือกได้ว่าต้องการแบบไหน สุคติ หรือ ทุคติ ดูใจตัวเองอย่างเดียว ไม่ต้องไปดูคนอื่น"
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    10.jpg
     
  17. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    " ยอดไม้ยังอ่อนไหว ยอดคนต้องอ่อนโยน "
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี กราบทำวัตรคารวะ #หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู

    9.jpg
     
  18. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #พระอาจารย์โสภา สมโณ ประธานสงฆ์วัดป่าแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เดินทางเข้ากราบทำวัตรคารวะ #หลวงปู่บุญส่ง ที่วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี โดยไม่มีการส่งข่าวให้ทราบล่วงหน้า เมื่อวานนี้ (31/7/62)
    .
    ท่านปรารภว่ามากราบคารวะและกราบขอบพระคุณในความเมตตาที่หลวงปู่บุญส่งได้เดินทางไปร่วมงานตอนพิธีสมโภชฉลอง “พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล” ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงวันที่ 15 และ 16 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
    .
    ซึ่งก่อนหน้าจะเดินทางมากราบหลวงปู่บุญส่งองค์ท่านได้ปรารภไว้ว่า
    .
    “ จะมากราบหลวงปู่ที่วัด แต่จะไม่บอกและไม่แจ้ง ว่ามาวันไหน ..... จะมาแบบ เซอร์ไพรส์ ถ้าแจ้งและบอกใครๆ จะไม่ได้เข้ากราบ กลัวลูกศิษย์ จะติดตามกันเยอะ .. “
    .
    และก่อนหน้านั้นยังได้ปรารภไว้ว่า
    .
    “ ... หากหลวงปู่บุญส่งผ่านมาทางนี้(วังน้ำเขียว-โคราช) ให้นิมนต์ท่านเข้ามาพักที่นี่เลย วัดแสงธรรมฯแห่งนี้ เป็นมงคลที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านมาเมตตา โดยคณะสงฆ์ของทางวัดจะดูแลเอง ขอนิมนต์มาพักที่วัดแห่งนี้ได้ทันที ... “
    .
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
    .
    .
    ขอบคุณเจ้าของภาพ
    .
    .
    ======================
    .
    .
    #พระอาจารย์โสภา สมโณ 2728.png
    ประธานสงฆ์วัดป่าแสงธรรมวังเขาเขียว
    อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    "..ภาวนากันบ้างสิของดี ๆ ก็มีแต่ให้พระแต่กิเลสรับเอาหมดทุกคนเลยฟังเทศน์จนพอแล้วไปหาหลวงปู่หลวงตามาหมดแล้วไม่เห็นเอาท่านเป็นแบบอย่างบุญมันอยู่ที่ตัวเจ้าของกับไม่ทำกันแข้งขาก็มีเหมือนท่าน ขันธ์ห้าก็มีเท่ากันไม่เอาไปเร่งภาวนามีแต่เอาไปตักแต่กิเลสกัน ปัญญามันไม่น้อยหรอกลองไปสบประมาทว่าโง่ดูสิจ้างให้ก็ไม่พอใจ คือความไม่ยอมรับว่าตนเองมีปัญญาน้อย มีแต่คนฉลาดทั้งนั้นแหละแต่มันเรียนเกินวิชาทางโลกเรียนมากก็ยิ่งส่งออกมากเท่านั้นไม่น้อมเข้ามาดูตัวเองรู้มากเท่าไหร่ยิ่งสังหารโลกนี่แหละปัญหาโลกแตกทรัพยากรของชาติยิ่งจะไม่เหลือโลกไม่ได้เจริญหรอกมันเสื่อมลงกินอะไรก็กลัวแต่มะเร็งฉีดยากันไปหมด ไปทำบุญไม่ได้นั่งล้อนั่งเกวียนกันเมื่อไหร่ก็ยังบอกไม่มีเวลาคิดดูกิเลสมันคว้าเอาไปกันหมด ถ้าไม่เอาใจฝากไว้กับพระพุทธเจ้ายังไงก็ไม่ปลอดภัยนะพวกเรา.." โอวาทธรรมคำสอนท่านพระอาจารย์โสภา สมโณ
    ประวัติโดยย่อ ท่านพระอาจารย์โสภา สมโณ ท่านอุปสมบทครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๗ ที่วัดบ้ายฝ่ายมหานิกายใน จ.สุรินทร์ และได้เดินทางธุดงค์ จากจ.สุรินทร์ มาพักที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ประมาณ ๓ เดือน จากนั้นจึงเดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง ๑ เดือน ๒๕ วัน และได้ไปกราบรับฟังข้ออรรถข้อธรรมจากหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ทำให้เกิดศรัทธา จึงญัตติเป็นพระฝ่ายธรรมยุต ณ วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้ ๕ พรรษา ภายหลังได้ญัตติซ้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ ณ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์ อีก ๖ วันต่อมาจึงเดินทางไปอยู่ศึกษากรรมฐานกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นเวลา ๑๐ ปีจึงออกจากวัดป่าบ้านตาดวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ แล้วไปอยู่ที่วัดทัพไทย ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์
    ปี พ.ศ.๒๕๔๙ พระอาจารย์โสภา มีอาการอาพาธจึงเดินทางมาจำพรรษาบนเขาสลัดได อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพราะสถานที่แห่งนี้นอกจากอากาศสัปปายะต่อธาตุขันธ์แล้วยังดีต่อการภาวนา แต่เนื่องจากสถานที่นี้อยู่ในเขตอุทานแห่งชาติทำให้ไม่สามารถอยู่ถาวรได้ พระอาจารย์โสภา ท่านจึงคิดหาสถานที่ที่ไม่ไกลจากบริเวณนี้มากนักอยู่แทน ประกอบกับท่านเกิดนิมิตฝันว่า.. แบกบาตรสะพายกลดไปถึงภูเขาสองลูก เมื่อไปยืนหน้าภูเขาก็ปรากฏมีภาษาเขมรขึ้นมาซึ่งแปลเป็นคำภาษาไทยว่า “กระเทือนเลื่อนลั่น” องค์ท่านเองก็ไม่ทราบว่านิมิตนี้หมายถึงกระเทือนเลื่อนลั่นทางดีหรือทางไม่ดีอย่างไร
    เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ ท่านพระอาจารย์โสภา ได้มาพบที่ดินบริเวณที่ตั้งวัดในปัจจุบันมองเห็นภูเขาเขียวเหมือนกับที่เคยนิมิตเห็นภูเขาสองลูกมาก่อน จึงคิดทำอาศรมสำหรับพักอาศัยชั่วคราว ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๐ พระชินวงศาจารย์ เจ้าคณะอำเภอปักธงชัย-วังน้ำเขียว (ธรรมยุต) ออกหนังสือรับรองที่พักสงฆ์ ที่ จอ. ๐๒/๒๕๕๐ ภายหลังจากนั้นเจ้าของบ้านไร่ปลายตะวันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสงฆ์บอกถวายไม้ แต่พระอาจารย์โสภา ท่านก็บอกปัดถึง ๓ ตรั้ง อยู่มาวันหนึ่งพระอาจารย์ท่านเกิดนิมิตฝันว่า.. พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน นั่งรถมาจอดในบริเวณที่พักสงฆ์แห่งนี้ ท่านจึงให้พระอาจารย์อำนวย สุขวัฑฒโน ไปพิจารณาดูว่าไม้นั้นจะสามารถเกิดประโยชน์แก่สมณธรรมอย่างใดได้บ้าง พระอาจารย์อำนวยพิจารณาเห็นว่าไม้นั้นสามารถทำเสาได้ ๓๒ ต้น ท่านพระอาจารย์โสภา ได้พิจารณาใคร่ครวญเกี่ยวกับนิมิตที่พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว นั่งรถมาจอดในบริเวณที่พักสงฆ์แห่งนี้ ดังนั้นท่านจึงดำริให้นำไม้นั้นมาสร้างศาลาโดยใช้เวลาเพียง ๔ เดือน
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นวันที่ฉลองศาลาเสร็จเพียง ๑๕ วันและเป็นวันที่พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน นั่งรถมาที่พักสงฆ์แห่งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกับในนิมิต ท่านอาจารย์จึงทราบทันทีว่า “กระเทือนเลื่อนลั่น” นั้นหมายความว่าอย่างไร
    “..วันนี้มีคนมามากนะ เต็มศาลาเลย พวกเราถ้ามีตาทิพย์เราจะได้เห็นคนเต็มแผ่นดิน เทวดาบนฟ้าเต็ม แต่นี่พวกเราพวกตาบอดไม่เห็น ยกแต่ว่าคนมามากคนมามาก เทวดามามากกว่านี้อีกไม่เห็น พวกเราเข้าใจหรือเปล่าล่ะ..” ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แสดงธรรมโปรดญาติโยม ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๑๒.๕๐ น.
    ความสัมพันธ์ระหว่างหลวงตาพระมหาบัว กับวัดแสงธรรมวังเขาเขียว
    ปากช่อง-เขาใหญ่-เขาเขียว-เขาสะแกราช ถึงอ.ปักธงชัย เป็นเส้นทางเดินธุดงคกรรมฐานของพระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาทิ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่มหาปิ่น ปัญญาพโล, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่คำดี ปภาโส, ท่านพ่อลี ธัมธโร, หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต,หลวงปู่มี ญาณมุนี, หลวงปู่ทา จารุธัมโม เป็นต้น รวมถึงหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ขณะในวัยหนุ่มเมื่อมีเวลาว่างจากการศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดคีรีวัลลิ์ วัดศาลาทอง วัดสุทธจินดาวรวิหาร ระหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๙-๒๔๘๒ องค์ท่านมักจะปลีกวิเวกมาปากช่อง-เขาใหญ่-เขาเขียว-เขาสะแกราช
    การที่องค์หลวงตาอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดจะมีผู้คนเดินทางมาหาตลอดเวลาทำให้ไม่มีเวลาได้พักผ่อนซึ่งองค์ท่านจะได้พักผ่อนร่างกายต่อเมื่อเดินทางอยู่บนรถ เมื่อวัดแสงธรรมวังเขาเขียวก่อตั้งขึ้นโดยลูกศิษย์พระธุดงคกรรมฐาน หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน จึงเดินทางมาโดยมุ่งหวังประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นดังนี้
    ๑.เพื่อเมตตาต่อคนกรุงเทพฯ คนภาคกลาง และคนภาคตะวันออกที่ต้องการพบองค์ท่านจะได้ใช้เวลาเดินทางน้อยลงไม่ต้องเดินทางไปถึงจ.อุดรธานี
    ๒.เพื่อเมตตาต่อเทวดาบริเวณปากช่อง-เขาใหญ่-เขาเขียว-เขาสะแกราช สืบต่อปฏิปทาหลวงปู่มั่น ที่เคยมาเมตตาเทวดาที่ถ้ำสาริกาซึ่งเป็นหัวหน้าเทวดาในบริเวณนี้ด้วย
    ๓.เพื่อเมตตาต่อลูกศิษย์ลูกหาได้มีกำลังใจในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต่อไป
    พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตาเดินทางมาวัดแสงธรรมวังเขาเขียว ตั้งแต่ครั้งแรกวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงครั้งสุดท้ายวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๓ รวมแล้ว ๒๖ ครั้ง
    ครั้งสุดท้าย คือวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๓ วันนั้นหลังจากที่องค์พระหลวงตามหาบัว ฉันจังหันที่วัดป่าบ้านตาดเสร็จแล้ว องค์ท่านเดินทางมาวัดแสงธรรมวังเขาเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้แสดงธรรมเทศนาโปรดฆราวาส โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า.. “วันนี้ได้มาพบกับพี่น้องทั้งหลายเต็มศาลาวันนี้ เราก็พอใจกับพี่น้องทั้งหลาย แสดงเรื่องธรรม มีธรรม จิตใจมีแต่ธรรมทั้งนั้นเต็มอยู่นี่ วันนี้เรามาสู่ธรรมมาเห็นครูบาอาจารย์ แล้วก็เห็นธรรมด้วยกัน เราก็พอใจ พี่น้องทั้งหลายก็คงจะพอใจ ไม่พอใจมาไม่ได้ มานี้แสดงว่าพอใจมา เราก็ใจเสียสละมาจากอุดรวัดป่าบ้านตาดกี่ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง ๔๐ นาที เกือบ ๔ ชั่วโมง มานี้เราก็เสียสละมา เราก็สบายมา แล้วมาพบพี่น้องทั้งหลาย อีกก็สมใจกับเราเสียสละเพื่อพี่น้องทั้งหลายเหมือนกัน นี่เราก็จะกลับหละ กลับวัดเราได้พบกันได้เห็นได้ยินได้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม วันนี้ก็ชื่นตาชื่นใจนะ ทีนี้กลับไปก็ด้วยความชุ่มเย็นในหัวใจเป็นบุญเป็นกุศลหละ”
    ในการมาครั้งสุดท้ายนี้องค์หลวงตาได้พูดบอกพระอาจารย์โสภาว่า “เฮาจะไปแล้วเด้อ ต่อไปเฮาซิบ่อได้มาอีก” (เราจะไปแล้วนะ ต่อไปเราจะไม่ได้มาอีก) หลังจากนั้นองค์หลวงตาได้อาพาธและได้เข้าสู่อนปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔
    เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๓ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ประทานนามวัดว่า “วัดแสงธรรมวังเขาเขียว” พร้อมทั้งประทานพรว่า ขอวัดที่ให้นามแล้วนี้ จงอำนวยประโยชน์เป็นที่พักผ่อน ปฏิบัติธรรม สงบกาย สงบใจ เจริญเป็นอุดมมงคล ให้เกิดความสวัสดีแก่พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ตลอดจิรกาล
    วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่องตั้งวัดในพระพุทธศาสนา อาศัยความตามข้อ ๔ แห่งกำกับกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดแสงธรรมวังเขาเขียว” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป วัดแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ ๒๖ หมู่ที่ ๑๙ บ้านบุตะโกเมืองใหม่ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ถนนสายกบินทร์บุรี – นครราชสีมา แยกตรงถนน กม. ๖๖ เข้าไปประมาณ ๑ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๓๗ ไร่ แปลงที่ใช้ก่อสร้างวัด ๒๓ ไร่ และแปลงที่ใช้ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล ๑๓ ไร่เศษ พระอาจารย์โสภา สมโณ เป็นประธานสงฆ์ พระอาจารย์อำนวย สุขวัฑฒโน เป็นเจ้าอาวาส
    การที่พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ให้ความเมตตาคณะศิษย์และชาวบ้านทั้งที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลอันนำมาซึ่งความปลาบปลื้มเป็นสุขแก่ทุกดวงใจ “ด้วยสำนึกในพระสังฆคุณอันหาที่สุดประมาณมิได้ที่องค์ท่านเมตตาอบรมสั่งสอนคุณงามความดีทุกสิ่งทุกประการ สอนกรรมฐานทางสู่มรรค ผล นิพพานอย่างแจ่มแจ้ง ทั้งสงเคราะห์โลกด้านต่าง ๆ และทั้งช่วยชาติไทยให้พ้นจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทำอย่างไรเราจึงจะตอบแทนพระคุณขององค์ท่านได้อย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุด” เมื่อคณะศิษย์มีโอกาสได้รับมอบอัฐิธาตุขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จากวัดป่าบ้านตาด จักนำมาประดิษฐานไว้บนศาลาวัดแสงธรรมวังเขาเขียวเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการสร้างพระมหาเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุเป็นการถาวรสืบไป
    วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔ ท่านพระอาจารย์โสภา สมโณ คณะศิษยานุศิษย์ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งชาวบ้านหมู่บ้านบุตะโกเมืองใหม่ ได้ประชุมหารือการจัดทำประชาคมร่วมกันภายในวัดแสงธรรมวังเขาเขียว โดยข้อสรุปการทำประชาคม ทุกท่านยืนยันเจตนาเดิมที่จะสร้างอนุสรณ์ คือพระมหาเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ และเป็นเสมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคณะศิษย์และชาวพุทธทั่วไป เพื่อการสร้างคุณงามความดีตามรอยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และตามคำสอนขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนองค์หลวงตาฯ เสมือนว่ายังอยู่คู่กับชาวอำเภอวังน้ำเขียวตลอดไป และเพื่อความเป็นสิริมงคลของทุกท่านที่ได้มาสักการบูชาหรือปฏิบัติบูชาที่วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    “...บุญกฐินมันไม่ได้ทำทุกวัน มันไม่ได้ทำทุกเดือนหรอก มันเป็นกาลทาน พี่น้องทั้งหลายไปกฐินวัดนั้นไปกฐินวัดนี้ กระเป๋าแห้งหล่ะ จริง แบ่งไปวัดนั้น แบ่งไปวัดนี้ เดือนทั้งเดือน ถือว่าเดือนนี้เป็นเดือนของเจ้าของแล้วกัน เดือนของวัฏฏะมันตั้ง ๑๑ เดือนหรอก เดือนนี้เป็นเดือนของตัวเอง ทำบุญให้กับเจ้าของ ทำเอาเถอะ อย่าขี้เกียจทำบุญ ถ้าขี้เกียจทำบุญแล้วบุญจะน้อย
    ...พวกเรานี่มันขี้เกียจนั่งภาวนาเอาแต่หลับเอาแต่แผ่นหลังภาวนา ให้นั่งภาวนาไม่ค่อยจะนั่งภาวนา ต้องเอาแผ่นหลังภาวนา คือนอนหน่ะชอบ(หัวเราะ) อริยบทนี้เป็นอริยบทที่เด่นมากเลย ถ้านั่งเนี่ย นั่งภาวนาไม่ถึง ๕ นาที ลืมตาแล้ว (หัวเราะ) เฮ้อ...ขี้เกียจนั่งภาวนา เอาแต่แผ่นหลังภาวนา อย่างงี้หรอกิเลสมันจะหลุด มีแต่มันเพิ่มกิเลสหน่ะซี่ กิเลสมันไม่กลัวนะ มันกลัวแต่คนขยัน กิเลสมันชอบคนขี้เกียจ กิเลสมันชอบคนอ่อนแอ คนเข้มแข็งใส่มันมันไม่ชอบหรอก จริงๆ ยิ่งอ่อนแอเท่าไหร่ เหมือนโรคหน่ะ ยิ่งภูมิต้านทานยิ่งน้อย โรคยิ่งแทรกแซงได้เยอะ ยิ่งแทรกแซงได้เร็ว คนยิ่งอ่อนแอยิ่งขี้เกียจเท่าไหร่ กิเลสยิ่งได้ท่าใหญ่เลย ระวังให้ดีเราเป็นทาสกิเลสหน่ะ...
    ...พวกเรามันเห็นกิเลสเป็นคุณ เห็นธรรมเนี่ยเป็นภัยเลยนะ เพราะฉะนั้น พอภาวนาซิ โอ๊ย..ไม่เอาหรอก หงุดหงิด(หัวเราะ) เพราะฉะนั้น ครูบาอาจารย์กว่าท่านจะนั่นเน๊าะ ท่านรอดล้มรอดตายมา พวกเราไม่มีอะไรจะตาย มีแต่ธรรมตาย พวกเรานี่กิเลสไม่หงาย มีแต่เท นอนหงายผึ่งเลย(หัวเราะ) เออ เอาซิ ทีนี้มันบอกว่าไง เอาแค่ทำบุญ พอไม่ตกนรกพอแล้ว ไปแล้วนะทีนี้ เอ้า จริงๆ เรื่องนี้
    ...โอ๊ย มีโอกาสพยายาม ทำไมพวกเราไม่เร่งเอา พี่น้องทั้งหลาย ธรรมของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่ ไม่ได้เสื่อม ได้สูญไปไหน มรรคผลก็มีอยู่ ทำไมไม่เอากัน อยู่รอบกาย มันก็อยู่ใกล้กับกิเลสหล่ะ ไล่กิเลสออกไปได้เมื่อไหร่ ธรรมก็เข้าเมื่อนั้น เหมือนความร้อนหน่ะ เอาความเย็นเข้าไปเมื่อไหร่ ความร้อนก็จางไปตรงนั้น ความมืดเหมือนกันนั่นแหละ เอาความสว่างเข้าไปอยู่ตรงไหน ความมืดก็หายไปเอง คนสิ้นกิเลส คนไม่มีกิเลส คนกิเลสบอบบาง ก็มาจากคนกิเลสหนาทั้งนั้นแระ แต่พอปฏิบัติก็บอกกิเลสหนา เนี่ยนะ ถ้าจะปฏิบัติก็บอกวาสนาเราน้อย เนี่ยแระ มันไม่น้อยหรอก มันได้เท่ากันหมดแล้ว ขันธ์ ธาตุสี่ ขันธ์ห้า มันได้เท่ากันหมดแล้ว เวลาก็ได้เท่ากันแล้ว ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบหรอก นอกจากกิเลสมันจะซุกใจของใครอยู่ใต้อุ้งมือของมันเนี่ยหล่ะ เร่งภาวนาเอา บุญมันถึงได้หลาย
    ..บุญทอดกฐินมันก็มากอยู่เหมือนกันนั่นแระ ไม่ใช่น้อยหรอก แต่น้อมบุญน้อมกุศลให้ผลักดันหัวใจออกไปให้ได้ อย่าไปปรารถนาขอให้มาเกิดเป็นลูกเศรษฐี ไม่งั้นมันก็จะมาเกิดมาตายอีก คุณงามความดีทุกประเภท เอามาเป็นพลังหนุนใจให้ออกจากวังวนให้ได้ นี่ยังมาปรารถนาให้อยู่ในวังวนอยู่ เศรษฐีมันจะไม่ตายหรอ จนก็ตาย รวยก็ตาย โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย ตายหมด เห็นไหม ในหลวงท่านก็ยังสวรรคต ไม่มีอะไรจะไปหักห้ามความตายได้ เพราะฉะนั้น เวลาทำบุญเนี่ย น้อมบุญให้เป็นพลังสู่ใจทำลายขวากหนาม สิ่งที่มันกั้นในจิต ให้มันออกให้หมดให้ได้ ไม่งั้นมันก็จะติดอยู่อย่างเนี้ย ไปเป็นเทพเทวดาก็จะไม่ลงมาเกิดเร้อ ยิ่งเป็นมนุษย์ด้วยแล้ว มันจะไม่ตายหรอ เพราะว่าโลกทั้งสามนี่ มันเปลี่ยนไปหม๊ด มันไม่อยู่คงที่หรอก เอาความดีนั้นหนุนใจไปให้ได้ ถ้าเราไม่เอามาหนุนตรงนี้นะ เราเอาไปหนุนกิเลส ฟังให้ดีนะ สาธุ..ขอให้ได้เกิดเป็นลูกมหาเศรษฐี พอมาเกิดเป็นลูกมหาเศรษฐี ก็มาหลงกับการมีมหาสมบัติ แล้วบุญมันก็ไม่ทำ มีเศรษฐีคนไหนมันหิ้วตะกร้าไปทำบุญ ก็เห็นแต่ว่ายุ่ง เห็นแต่ว่าให้ลูกน้องเอาไปให้ เท่านั้นเอง เป็นเทพเทวดาก็เสวยแต่ทิพยสมบัติ ไม่คิดว่าตนเองจะมีทุกข์ ไม่คิดว่าตนเองจะหมดบุญ ก็อยู่เสวยทิพยสมบัติอยู่นั่น พอสุดท้ายมาบุญหมด เหงื่อโซมแล้ว พอเหงื่อโซม ร่างกายเริ่มเศร้าหมองลง จึงรู้ว่าตนเองจะหมดบุญ พอรู้ก็สายเกินแก้ อย่างพวกเราเหมือนกันนะ ตอนเป็นหนุ่มเป็นแน่น ก็ไม่รีบทำบญ พอแก่เฒ่ามาก็หมดหวังแหละ คือมามัวเมากับของพวกเนี้ย สุดท้ายมา พอถึงเวลาแล้วก็ไปหล่ะที่นี้
    ...เร่งภาวนาเข้า เดินจงกรมเข้า บางคนสมัยปัจจุบัน ฟังมามาก แต่กิเลสก็ละไม่ได้ เรียนมามาก แต่กิเลสหนาเหมือนเก่าเหมือนเดิม ครูบาอาจารย์ท่านบางทีท่านเทศน์ไม่ถูก เทศน์แทนท่านก็มี ทำเป็นเก่งอีก เพราะบางทีท่านใช้คำพูดในทางสมมุติ ท่านไม่คล่อง ก็เทศน์ให้ท่านเลย เรื่องสมมุติ มันเป็นการใช้ธาตุใช้ขันธ์ บางทีท่านก็จำไม่ได้ ความอัจฉริยะพวกนี้มันเป็นสมมุติ แต่เร่งจิตของท่าน เป็นด้วยเรื่องอรรถเรื่องธรรมของท่าน อันนั้นท่านไม่ลืม เรื่องอริยสัจสี่ในหัวใจของท่าน เราจำอริยสัจสี่ได้แต่ในนวโกวาท ได้แต่ในหนังสือ อันนั้นงัดกิเลสไม่ได้หรอก ยิ่งคนฟังมามาก จำมามาก ยิ่งทิฐิสูง ยิ่งภาวนาไม่ได้เลย ความจำมาก เพราะงั้นครูบาอาจารย์ หลวงตามหาบัว เข้าหาหลวงปู่มั่น ท่านว่า ท่านมหา เห็นมั้ย หรือครูบาอาจารย์องค์ไหน เข้าไปหาหลวงปู่มั่น วางวิชาความรู้ที่ท่านเรียนมาก่อน แบบเดียวกับหลวงปู่ใหญ่หลวงตามหาบัวเลย วิชาความรู้ที่ท่านเรียนมาให้วางเสียก่อน ให้ไปปฏิบัติ
    แต่ทุกวันนี้ ไปเรียนมาไปท่องมา ท่องมาจนกิเลสไม่ถลอกปอกเปิก มันต้องแลกกันด้วย.. เหมือนเราจะออกกำลังกาย เราอยากได้กำลัง เราก็ต้องแลกด้วยการออกกำลัง ทำไมท่านจึงสอนให้มีสมาธิ รวมกิเลสมันให้มาจุดเดียวก่อน ไม่อย่างงั้น มันเป็นน้ำไหลบ่า ดูตรงช่องไหนมันก็เต็มไปหมด การทำสมาธิเพื่อดึงจิตให้มารู้ในจุดเดียว เหมือนตะล่อมกิเลสทั้งหลายให้มาอยู่ในจุดเดียว เหมือนน้ำที่ตะกอนมันขึ้นเต็มขวด แต่พอมันนิ่ง ตะกอนมันก็ลงไปอยู่ที่ก้นขวด การภาวนาด้วยจิต จิตมันสงบแล้วมันจึงมองเห็นกิเลสได้ชัด เหมือนจะการฆ่าวัว ใครมันจะไปฆ่าได้ทีละร้อยตัว มันต้องจับมาฆ่าที่ละตัวซิ กิเลสเหมือนกัน ต้องฆ่าทีละนั่นซิ โอ๊ย..ไม่มีสมาธิ ไม่เอาสมาธิแล้วทุกวันนี้ มันจะเอาแต่มรรคแต่ผล จิตที่ไม่มีสมาธิคือจิตที่ไม่คม ปัญญาก็ไม่เฉียบ เหมือนคมมีดไม่คมแล้วจะไปฟันไม้มันก็ไม่ขาด รู้อันนี้ อจิจจัง ทุกขัง อนัตตา รู้กิเลสน้อยใหญ่ รู้หม๊ด แต่ละไม่ได้ เพราะมันรู้ภายนอก รู้ในความทรงจดทรงจำ มันไม่ใช่รู้ภายใน ถ้ารู้ภายในมันจะแก้ของมันเอง ทีเนี้ย ยังไงก็ไม่รู้ กิเลสหนาก็ไม่รู้ ยังจะไปสู้ ยังจะไปฆ่าอวิชชาอีก นั่นแระตัวอวิชชา มันรู้เร้อ ท่องก็ท่องไปซิ ปฏิจจสมุปบาท ท่องไปซิ สติปัฏฐานสี่ ท่องไปซิ อริยสัจสี่ ถ้าจิตไม่ลงดิ่งสู่ความสงบเมื่อไหร่นะ จะไม่เห็นพลังของจิต ปัญญาจะไม่เกิด ปัญญาที่เรานำมาใช้เป็นปัญญาของกิเลสไป ใช่ภาวนามยปัญญาเมื่อไหร่ ถ้าภาวนามยปัญญามันจะหมุนเป็นอัตโนมัติ นั่นมันถึงจะไปฆ่ากิเลสภายในได้..
    ...มาจะให้พร อนุโมทนาเน้อไปทอดกฐินมา อย่าให้บุญหายนะ นั่งรถไปอย่าให้บุญหายไป..ไปทอดกฐินวัดไหน ไปทำบุญวัดไหนมันก็เป็นบุญเหมือนกัน บุญมันไม่ได้อยู่ที่วัดหรอก มันอยู่ที่จิตของคนนั้นทำ แต่สถานที่เป็นต้นเหตุเฉยๆ เหมือนพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ที่ประเทศอินเดีย เป็นเพียงสถานที่เท่านั้น จริงๆ แล้วพระพุทธองค์ตรัสรู้ภายในพระหทัยท่านต่างหาก แล้วสถานที่อินเดียเป็นเครื่องหมาย เป้าหมายของพระองค์ท่านอยู่ในพระหทัยของท่านต่างหาก บุญทำตรงไหนก็ได้บุญ บาปเหมือนกันทำตรงไหนก็บาปเหมือนกันนะ ไปทำอยู่อวกาศ ก็ได้บาปอยู่อวกาศเหมือนกันแหละนะ ไปทำอยู่ใต้ดินบาปก็อยู่ใต้ดินนั่นแระ เป็นสถานที่เฉยๆ แต่บาปมันอยู่ที่ใจ มา จะให้พร พี่น้องเดินทางมาไกลจะได้ไปทำบุญวัดอื่นต่อ ไปนะไปใหคุ้มเลย ออกมาทั้งทีแล้ว พรุ่งนี้ก็วัดหลวงปู่แบน (หลวงปู่แบน ธนากโร วัดวังเพิ่ม-พระภาวนา) หลวงปู่อุทัย(กฐินวัดป่าเขาใหญ่ฯ) ก็ผ่านมาแล้วนี่ ไปทำกับหลวงปู่แบนนั่น ไปนะครูบาอาจารย์ดีๆ อยากให้ไปทำบุญกับพระดีๆ หาโอกาสใช่ว่าจะมีนะ
    บางทีมีวัดแต่ไม่มีศรัทธา บางทีมีวัด มีศรัทธา แต่ไม่มีเวลาจะไปทำบุญก็มี พอจะมีเวลา มีทรัพย์ มีศรัทธา แต่ไม่มีครูบาอาจารย์ที่สว่างด้วยธรรม เราจะไปทำบุญที่ไหน อย่างเนี้ย เรามีองค์ประกอบของมันแล้ว ไปทำเถอะ อย่างหลวงปู่แบนหน่ะ ทุ่มไป อย่างหลวงปู่จันทร์เรียนหน่ะ หลวงปู่ลีหน่ะ ทำเข้า ถ้าเรามีโอกาสหน่ะทำเข้า ถ้าพลาดโอกาสแล้ว เราจะไปทำบุญกับใคร ไปเกิดเป็นฝรั่งหน่ะมันจะรู้จักทำบุญที่ไหน เป็นพ่อค้าวาณิชย์เนี่ยมันคิดแต่จะหาแต่เงิน จะมีโอกาสทำบุญที่ไหน นี่พวกเรายังมีศรัทธาอยู่ จะจนก็ตาม จะรวยก็ตาม โง่ก็ตาม ฉลาดก็ตาม ขอให้ได้ทำบุญ นอกนั้นนะจะฉลาดขนาดไหน หากไม่ได้ทำบุญก็โง่นั่นเอง หากโง่ขนาดไหนไม่ได้ทำบุญก็คนอาภัพนั่นเอง จะโง่ฉลาดขลาดอวดเก่งขนาดไหนก็ขอให้ได้ทำบุญเถอะ ให้อยู่กับบุญ...เอ้าให้พรนะ...อนุโมทนากับทุกคนๆ นะ...”
    โอวาทธรรมคำสอนท่านพระอาจารย์โสภา สมโณ
    เมตตาให้ไว้กับคณะท่องถิ่นธรรม ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๙
    ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    กราบ กราบ กราบ
    _/\_ _/\_ _/\_
    .
    .
    Cr.คุณเอ ท่องถิ่นธรรมฯ

    13.jpg 14.jpg 15.jpg 16.jpg 17.jpg
     
  19. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บูญส่ง
    .
    " อย่าย่อท้อในอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามา
    เพราะมันคือยาชั้นดี
    ที่จะมารักษาความมั่นคงในจิตใจเรา
    อย่ามองว่ามันคือปัญหา
    แต่ให้มองว่า คือ #ความท้าทาย
    ต่อกำลังใจ วาสนาและบารมีของเรา
    ที่กำลังก้าวขึ้นสูงต่อไป"
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    12.jpg
     
  20. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... เงินน่ะมันหาง่ายกว่าความดี คนเราน่ะถ้าจะหาความดีแล้วเอาปนมากับเงินน่ะ ยาก บางทีหาเงินมาได้มากแต่ก็ปนมากับความชั่วเพราะความโลภ ความชั่วอย่าไปทำมันสิ ถ้าเราไม่ไปทำมันๆจะชั่วได้ยังไง... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    2.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...