หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ติสาโร, 12 มิถุนายน 2018.

  1. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "...คนเราเกิดมามีบุญทุกคนแหละ แต่ก็เจือไปด้วยกรรม โลกมนุษย์เค้าให้เวลาเราเพียงสั้นๆ ให้มาต่อยอดบุญจากทุนเก่า ให้เรามาสร้างมาทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ ฉะนั้นเกิดมาแล้วอย่าให้เสียชาติที่ได้เกิดมาเป็นคน เวลามันสั้นนัก จะได้ไม่ไปทนทุกข์อยู่ในอบายภูมิที่มีแต่ทุกข์อย่างแสนสาหัส..."
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    10.jpg
     
  2. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... กายสังขารเป็นแบบนี้ แก่แบบนี้ มีเจ็บมีป่วยแบบนี้ ไม่แน่นอนแบบนี้ ยังอยากจะเป็นแบบนี้อยู่มั้ย อยากจะกลับมาเกิดอยู่อีกมั้ย ... ถ้าไม่อยากก็หาหนทางแห่งการดับทุกข์กันนะ ชีวิตนี้มันสั้น มันไม่ยาว ... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    .
    ..................................
    .
    ภาพเมื่อครั้ง "#หลวงปู่บุญส่ง" เมตตาเข้าชม "วัดถ้ำชินสวี (Chin Swee Caves Temple)" ซึ่งตั้งอยู่ในเขต "เก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highland)" ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานที่ขึ้นชื่อของระเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในป่าหินกว้างขวางขนาด 28 เอเคอร์ ระดับ 4,600 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล
    .
    ด้วยความที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทำให้ "วัดถ้ำชินสวี" แห่งนี้มีอากาศที่หนาวเย็น และมีหมอกตลอดทั้งปี มีความสวยงามของธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ ประกอบไปด้วยทัศนียภาพที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
    .
    ที่สำคัญภายในวัดประกอบไปด้วยเจดีย์ 9 ชั้นแบบจีน พระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ รูปแกะสลักเจ้าแม่กวนอิม หอชมวิว สถานปฏิบัติธรรม และ ร้านอาหารเจ รวมไปถึงรูปปั้นต่างๆ ที่เรียงรายตามทางเดินเลียบภูเขามากมาย โดยวัดแห่งนี้ใช้เวลาสร้างกว่า 18 ปี จึงแล้วเสร็จ
    .
    หลวงปู่บุญส่ง ท่านได้เข้าพิจารณาสถานที่แห่งนี้ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้องค์ท่านจะเดินทางกลับสู่ประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นศาสนกิจนิมนต์
    .
    .
    สาธุอนุโมทนาบุญ

    17.jpg
     
  3. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    " จำไว้สำหรับเรา เรามองว่าคนที่ลงมือก่อน
    หรือทำร้ายผู้อื่นก่อน
    .
    คน ๆ นั้นคือผู้ที่อ่อนแอและขี้กลัวเสียจริง ๆ
    เป็นคนที่ขี้ขลาด มีแต่ความกลัวอยู่เต็มในหัวใจ คนที่กล้าหาญจริง ๆ เขาจะไม่ทำใคร
    เขาจะอดทน อดทนจนถึงที่สุด
    .
    รู้มั้ยคนที่นิ่งเฉยและวางเฉยน่ะ
    ไม่ใช่คนที่อ่อนแอหรอกนะ
    แต่คนที่นิ่งเฉยและวางเฉยนั้น
    มันเต็มไปด้วย ความเข้มแข็ง ความกล้าแข็ง
    .
    .
    และความเข้มแข็งที่ว่านี้
    คือ #ความอดทนอดกลั้น
    ที่มันเต็มไปด้วยตบะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
    ที่จะช่วยแผดเผาความอ่อนแอให้มลายหายไปเสียสิ้น นี่คือคนที่เข้มแข็งจริง ๆ กล้าหาญจริง ๆ ต้องเป็นแบบนี้
    .
    .
    สำหรับเราน่ะคนที่เข้มแข็ง คือ คนที่อดทน
    .
    .
    ไม่ใช่คนที่ไปเที่ยวทำร้ายหรือทำลายคนอื่นก่อน คนพวกนั้นน่ะคือคนขี้ขลาด คือคนที่หวาดกลัว คือคนที่น่าสงสาร ...
    .
    .
    เพราะด้วยว่าตนเองนั้น
    เต็มไปด้วยความกลัว เต็มไปด้วยความขี้ขลาด ที่เกาะกุมอยู่เต็มหัวใจ
    .
    กลัวว่าอีกฝั่งฝ่ายจะมาทำอะไรเรา กลัวไปเสียหมด กลัวมากจนกระทั่งตนเองต้องชิงลงมือก่อนนั่นไง
    .
    .
    คนพวกนี้เราไม่เคยคิดจะยกย่องเอาเสียเลย
    เรามองว่าเป็นคนอ่อนแอที่น่าสงสารเอามาก ๆ
    .
    .
    บริเวณวัดที่เราอยู่น่ะ ...
    เจอกับความกดดันเจอกับความเลวร้ายต่าง ๆ นานา ที่เราถูกกระทำจากกลุ่มคนต่าง ๆ โดยไม่เลือกวิธีการ
    .
    จะเอาเราออกจากพื้นที่ตรงนั้นกันให้ได้
    ใช้วิธีต่าง ๆ สารพัดกับเรา
    คนแล้วคนเล่า กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า
    .
    .
    แต่เชื่อมั้ยทุกคนที่เข้ามาทำอะไรกับเรา
    ต่างก็มีอันเป็นไปล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
    .
    .
    จนปัจจุบันก็เหลือแค่เราที่ยังอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น และพื้นที่บริเวณนั้นปัจจุบันก็กลายเป็นวัดอย่างที่เห็น ที่ปัจจุบันคนทุกคนได้มาร่วมบุญสร้างโบสถ์กันนั่นแหละ
    .
    .
    จำไว้นะถ้ามีอะไรให้ใช้ความอดทน ใช้ขันติ
    ใช้ความนิ่งและการวางเฉยเข้าสู้
    .
    เพราะ #ความอดทนอดกลั้น คือ ตบะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ที่จะช่วยแผดเผาความอ่อนแอ
    ให้มลายหายไปเสียสิ้น
    .
    .
    นี่แหละคือวิถีของคนที่เข้มแข็ง
    และกล้าหาญจริง ๆ ต้องเป็นแบบนี้ ... "
    .
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
    11.jpg
     
  4. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #วิธีหนีความขัดสนยากจนให้พ้น
    #ต้องรู้จักการให้ทาน 2728.png
    .
    "... ทานคือให้การเสียสละ ให้อย่างไม่หวงแหน ให้ด้วยความเต็มใจ ให้อย่างไม่เสียดายในภายหลัง บางคน จะให้ทานแก่ใครทีคิดแล้วคิดอีก เพราะใจมันยังหวงแหน เหมือนเราเดินไปเจอคนขอทาน ก็ดูว่ามือดีตีนดีมาขอทานทำไม ทำไมไม่ไปทำมาหากิน นี่ใจมันยังหวง ก็คิดไปต่างๆนานา สุดท้ายเลยไม่ได้ทำทาน แต่บางคนกับให้ไปโดยไม่ต้องคิดอะไร เพราะใจมันไม่หวง มันจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของมัน เลยได้ทำทาน
    .
    ขอทานนี่นะแม้จะดูว่ามือดีตีนดี แต่ก็อาจจะมีสมองพิการหรือมีความบกพร่อง ผิดปกติอะไรสักอย่าง ถ้าเราให้เขาได้กินอิ่มสักมื้อ ให้ได้เท่ากับข้าวสักจาน เราคงไม่ถึงขั้นจนไปตลอดชีวิตหรอก ถ้าไม่มีไอ้คนพวกนี้เราจะได้ทำทานกันมั้ยล่ะ
    .
    ขนาดให้ทานแก่สุนัขสักครั้งหนึ่ง ยังได้อานิสงส์ช่วยตัดภพตัดชาติที่เราต้องไปเวียนว่ายตายเกิดได้ครั้งละ500ชาติ
    .
    ขอทานนี่เป็นคนแม้ไม่มีศีล อานิสงส์ก็จะได้มากกว่าทำกับเดรัจฉาน อานิสงส์ก็ย่อมเกิดมีขึ้นแก่เราเช่นกัน ดีไม่ดีไอ้ขอทานนั่นเกิดมีเทวดามาสวมร่างชั่วครู่ลองใจเราให้สละทรัพย์ รวยเลยทีนี้ได้ทำบุญกับเทวดา เดินไปซื้อรางวัลต่อฟลุ๊คได้รางวัลใหญ่ อานิสงส์ทานส่งผลให้ทันที
    .
    .
    ทานคือการให้ ให้เเล้วเสียดายนั่นไม่ใช่ทาน จะหลีกหนีความทุกข์ยากขัดสน ต้องกล้าสละ ตัดความตระหนี่ความโลภออกจากใจให้หมด ให้ทานอย่ากลัวจน
    .
    อานิสงส์ของการให้นี้แหละจะทำให้เป็นผู้มั่งมี พ้นความขัดสนยากจนได้ไว แต่ต้องเป็นผู้ให้อย่างมีปัญญาให้ด้วยใจที่เป็นกุศลให้แล้วสบายใจ ต้องหมั่นทำไปเรื่อยไม่ใช่ให้แล้วมันจะรวยขึ้นมาทันตาเห็นเลยเมื่อไหร่กัน
    .
    ทานบารมี ทำมากเข้าเมื่อผลมันแก่กล้า จะรับผลไม่หวาดไม่ไหว ผู้ที่อยู่ในกระเเสแห่งความดี ต้องมี ทาน ศีล ภาวนา ปฏิบัติได้ตามนี้ รับรองว่าไม่จน... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    7.jpg
     
  5. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    " นั่งภาวนา ให้ใจสงบ
    แค่ไม่กี่นาที อานิสงส์ก็มาก
    ใจก็มีกำลัง จิตก็ได้พัก
    หมั่นภาวนากันนะ มันช่วยเรา "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    9.jpg
     
  6. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "... ดูใจตัวเองอย่างเดียว
    อะไรต่ำ ก็ต่ำไป
    แต่อย่าให้ใจตกไปในที่ต่ำเท่านั้นพอ
    ยกใจให้สูง ดูใจตัวเอง ... "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    10.jpg
     
  7. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
    .
    ช่วงประมาณกลางปีที่แล้วผมมีปัญหาที่หนักอกหนักใจอย่างมาก ไม่รู้จะแก้อย่างไร จนสุดท้ายตัดสินใจสอบถามกับหลวงปู่บุญส่ง
    ผมเล่าให้ท่านฟังคร่าวๆถึงเรื่องราวที่ผมประสบพบเจอ ด้วยมีคนทายทักว่าผมจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ จะเจออย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งบอกตรงๆเลยผมโดนทายทักแบบนี้มาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว แต่ผมหาได้สนใจไม่ เพราะผมไม่ได้คิดจะเป็นแบบนั้น หรืออยากจะทำอย่างนั้น (ขออภัยนะครับที่ไม่ขอเล่าว่าคืออะไร อย่างไร)
    -
    -
    -
    ท่านไม่ได้ตอบคำถามของผม แต่ท่านเล่าเรื่องราวให้ผมฟังเรื่องหนึ่ง
    เรื่อง........คนอัปลักษณ์
    ในประเทศจีนสมัยก่อน มีครอบครัวอยู่ครอบครัวนึงได้ให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งหมอดูและซินแสหลายสำนักของเมืองนั้นต่างก็ทำนายทายทักว่าเด็กคนนี้มีลักษณะอัปลักษณ์ต้องตามตำราโหราศาสตร์ทุกอย่าง เด็กคนนี้จะไม่มีทางเจริญ จะตกต่ำย่ำแย่ตลอดไป
    -
    -
    ครอบครัวของเด็กอัปลักษณ์เป็นครอบครัวยากจน จึงไม่สามารถส่งเด็กอัปลักษณ์เรียนหนังสือได้ ทุกวันเด็กอัปลักษณ์จะนำวัวไปเลี้ยงใกล้ๆโรงเรียน ซึ่งเด็กในเมืองนั้นจะนั่งเรียนหนังสือกันที่นี่ เด็กอัปลักษณ์จะอาศัยครูพักลักจำฟังคำสอนของคุณครูที่สอนเด็กชาวบ้าน ถ้าอันไหนเด็กอัปลักษณ์ไม่เข้าใจ จะรอจนโรงเรียนเลิก และวิ่งเข้าไปสอบถามพวกเด็กๆชาวบ้าน เด็กชาวบ้านบางคนก็ตอบ บางคนก็พูดจาดูถูกเด็กอัปลักษณ์ แต่เด็กอัปลักษณ์ก็จะทำแบบนี้เสมอ ยามที่เค้าไม่เข้าใจ
    -
    -
    ผ่านไปหลายปี มีการสอบจอหงวน ทุกคนในเมืองก็เดินทางไปสอบจอหงวน รวมทั้งคนอัปลักษณ์ด้วย ผลการสอบปรากฏว่าคนอัปลักษณ์สอบติดจอหงวน
    -
    -
    หมอดูและซินแสต่างแปลกใจที่คนอัปลักษณ์สอบติดจอหงวน จึงลอบส่งคนไปเป็นคนใช้ในบ้านของจอหงวนอัปลักษณ์ไปสืบดูการกิน การนอน การขับถ่ายของจอหงวนอัปลักษณ์ ซึ่งผลก็คือยังต้องตำราอัปลักษณ์ หาความเจริญไม่ได้อยู่ดี
    -
    -
    ซินแสดังท่านนึงอดรนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจไปบ้านของจอหงวนด้วยตัวเอง เพื่อขอเข้าพบกับจอหงวนอัปลักษณ์
    -
    -
    จอหงวนอัปลักษณ์ก็ต้อนรับซินแสอย่างดี เชิญซินแสนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน หลังจากทานอาหารเสร็จ ซินแสก็เอ่ยปากขอสอบถามจอหงวนอัปลักษณ์
    -
    -
    ซินแส : ท่านจอหงวน ข้าศึกษาตำราโหราศาสรต์มาอย่างดีและช่ำชอง ซึ่งตามตำราโหงวเฮ้งก็ดี การกิน การนอน การขับถ่ายก็ดี ท่านจอหงวนเข้าตำราคนอัปลักษณ์ทุกอย่าง ซึ่งก็คือหาความเจริญไม่ได้ จะตกต่ำตลอดชีวิต แต่ไฉนท่านกลับเจริญรุ่งเรือง จนเป็นถึงจอหงวน ซึ่งขัดกับตำราโหราศาสตร์
    -
    -
    จอหงวน : ท่านซินแส ข้าจำได้...ท่านก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำนายทายทักข้าเมื่อครั้งยังเด็กว่าข้าต้องตำราคนอัปลักษณ์ ที่ท่านถามเหตุผลว่าทำไมข้าถึงมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองได้ ซึ่งขัดกับตำรา นั่นอาจเป็นเพราะว่า "ข้ารู้ตัวเอง"
    -
    -
    -
    หลวงปู่บุญส่งท่านเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังจนจบ พอฟังจนจบเท่านั้นแหละครับ ผมงี้รีบกราบท่าน 3 ครั้งทันที โดยไม่ต้องถามอะไรต่อแล้ว ความกังวล ความมัวหมองในจิตใจของผมหายไปทันที ผมเอ่ยกับท่านเพียงแค่ว่า "ผมจะทำตามที่หลวงปู่เมตตาสั่งสอน จะจำให้ขึ้นใจเลยครับ"

    15.jpg
     
  8. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    15.jpg
     
  9. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    งานมุฑิตาจิต 5 มีนาคม 2565

     
  10. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน
    เมื่อวานนี้ เวลา 08:51 น. ·

    วันนี้วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๕ เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เจริญอายุวัฒนมงคลครบ ๘๕ ปี ๕๕ พรรษา
    ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ กราบอาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยขอให้หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร มีธาตุขันธ์แข็งแรงอยู่เป็นร่มโพธิธรรม สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาสืบนานเท่านานเทอญ
    หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ท่านอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๐ ท่านถือกำเนิดเกิดมาจากบ้านที่มีลูกมากและยากจน ผ่านการต่อสู้ชีวิตที่มีทั้งทางผิดและถูกก่อนการบวช แม้บวชแล้วก็ยังต้องต่อสู้กับความอดอยาก ไม่มีแม้แต่คนจะใส่บาตรให้ฉัน และที่สำคัญท่านถูกคนระดับนายทุนสั่งเก็บ ด้วยการยิงด้วยปืนอาก้าชนิดเผาขน แต่ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม จีวรที่ห่มเต็มไปด้วยรูกระสุน แต่ท่านรอดชีวิตดั่งปาฏิหาริย์ กลับมาเป็นเนื้อนาบุญให้เราได้กราบไหว้กันจนทุกวันนี้
    หลวงปู่ฯ ท่านเคยไปอยู่ศึกษากับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่ดอยแม่ปั๋ง และครูบาอาจารย์อีกหลายต่อหลายรูป หลวงปู่แหวน เป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านประทับใจมากที่สุด หลวงปู่ฯท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า
    “สมัยอยู่กับหลวงปู่แหวน เป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุด พระทุกรูปที่อยู่จะต้องแย่งกันรับใช้หลวงปู่แหวน เช่น ต้มน้ำร้อน ซักผ้าสบงจีวร และอื่นๆ โดยไม่เกี่ยงว่าอันนี้หน้าที่ใคร เพราะมีแต่แย่งกันทำ เอาบุญ”
    หลังจากออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อฝึกตนและเพื่อกราบครูบาอาจารย์แล้ว ท่านก็ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดสันติวนาราม (เขาน้ำตก) เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ เป็นสถานที่ที่หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่จันทา ถาวโร และครูบาอาจารย์อีกหลายรูป ได้เคยเดินทางมา หลวงปู่บุญส่ง ได้อบรมพระเณรให้อยู่ในพระธรรมวินัยมาโดยตลอด โดยมักให้ข้อคิดเตือนสติพระเณรเสมอๆว่า
    “เราบวชมา เราต้องปฏิบัติภาวนาไม่เอาเปรียบญาติโยม ผู้ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ได้บวชมานั่งมานอนบวชเล่นบวชเรียน บวชต้องปฏิบัติ คนมาทำบุญที่นี่ต้องได้ผลบุญเต็ม เราต้องภาวนาแผ่เมตตาปฏิบัติให้เค้าอย่างเต็มที่”
    #๕_ปีกับการแสวงหา
    อยู่มาวันหนึ่งตอนนั้นเป็นพรรษาที่ ๔ พักจำพรรษาอยู่ที่วัดตรีวนาราม ปี พ.ศ.๒๕๑๓ – ๒๕๑๔ หัวค่ำก็ทําความเพียรไปเรื่อยๆ สมัยนั้นปฏิบัติธรรมอยู่ตามสํานักปริยัติ มีพระโง่ ๆ อย่างเราอยู่รูปเดียวเท่านั้น ทั้งสํานักงุ่มง่ามกว่าเขา ปฏิบัติอยู่ คนนั้นก็เสียดสี คนนี้ก็นินทาว่าสารพัด เราก็ไม่เถียง พยายามอดกลั้นทําความเพียรไป จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง คืนนั้นเป็นวันโกน อาตมานั่งสมาธิอยู่ สงบจิตสงบใจนิ่ง โรงฆ่าสัตว์ก็ไม่ใช่อยู่ใกล้ๆ นะ ไกลมากเลยจากวัด แต่เสียงหมูมัน ร้องอี๊ดๆ อี๊ดๆ มาในความสงัดของยามดึก อาตมาก็นั่งฟังเสียง ได้สติตรงนั้นเอง
    เราขณะนี้มันเหมือนกับหมูนะ โยมขุนเราอยู่ด้วยอาหาร ที่แสนจะปราณีตเช้าขึ้นมาก็อุดมสมบูรณ์ไปหมด เขาเลี้ยงเราถ้าเราอ้วนๆ เหมือนหมูเขาก็จะเอาเราไปเชือด ถ้าเราถูกเขาจับขึ้นเขียงก็จะร้องอี๊ดๆ แบบหมูนี่แหละ
    โอ้..อยู่ไม่ได้ซะแล้ววัดนี้ ทุรนทุราย ยังไม่ทันออกพรรษา อาตมาก็เตรียมล้างกลดล้างอะไรไว้เรียบร้อย ออกพรรษาแล้วจะเข้าป่า เข้าดงไปตามเรื่อง เราไม่เอาแล้ว เราอยู่นี่มันเหมือนกับหมูที่โยมขุนไว้ในคอก มันอ้วนขึ้นมา วันหนึ่งเขาจับไปเชือดแล้วจะต้องร้องทุรนทุรายแบบหมู โอ้ไม่ไหว แล้ว... อยู่ไม่ได้ ร้อนใจจริงๆ เลย เป็นพรรษาที่ ๔ ใกล้ครบอธิษฐาน ๕ ปีที่บวชมา ก็คิดว่า ๕ ปีเราจะพิสูจน์หลักธรรมคําสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่ากําหนดไว้ห้าปีนี่ไม่ใช่อะไร เพราะว่าแต่ก่อนไม่มีเส้นทางเลย พระพุทธเจ้าออกจากปราสาทราชวัง ยังไม่มีทาง พระองค์ก็ออกมาจนกระทั่งแผ้วถางทางทุกสิ่งทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว จนพระองค์สําเร็จมรรคผลนิพพาน อริยสาวกเจ้าทั้งหลายก็ติดตามพระองค์ไปจนทางลื่นแล้ว ทําไม ปัญญาของเราจะไม่เพียงพอที่จะรู้ทางคําสอนเหล่านี้ได้หรือ เรื่องนี้ทําให้อาตมาคิดหนัก คิดตลอดเวลา ว่าทางเส้นนี้พระพุทธเจ้าเดินไปแล้ว เราจะต้องเดินให้ถึง ก็พยายามที่จะปฏิบัติ
    #อยู่กับหลวงปู่แหวน_สุจิณโณ
    จากนั้นก็ไปอยู่กับพระกรรมฐานรูปแรก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราได้พบครูบาอาจารย์ในฝ่ายปฏิบัติเป็นรูปแรก ก็ได้ไปศึกษากับท่านอยู่พักหนึ่ง สวดปาติโมกข์ถวายท่าน ปฏิบัติภารกิจต่างๆ กับท่าน ซึ่งเราไม่เคยปฏิบัติมาก่อน เพราะสํานักปริยัติต่าง ๆ เขาไม่มีอาจาริยวัตร บูชาวัตรก็ไม่ค่อยมี เดี๋ยวนี้ที่จะปรนนิบัติครูบาอาจารย์ สรงน้ำล้างบาตร หรือ ว่าเช็ตกุฏิวิหาร เช็ดเท้า เช็ดอะไร ไม่ค่อยมี แต่ว่าไปเห็นที่นั่น คุณธรรมของท่านนําให้เราเกิดการปฏิบัติขึ้นโดยที่เราไม่มีการเคอะเขิน หรือว่าเข้าไปอย่างชนิดที่เรียกว่าเงอะๆ เงิ่นๆ ไม่มีหรอก ไปด้วยความเต็มใจ ความเยือกเย็น และความมีธรรมะในหัวใจของท่านที่เปี่ยมล้นนั่นเองดึงดูดให้เราทํากิจวัตรได้อย่างไม่มีความเคอะเขินอะไรเลย เพราะความเต็มใจ และกิจวัตรครูบาอาจารย์ สมัยก่อนนี้ไม่ใช่ว่าจะเกี่ยงกันนะ แย่งกัน ถ้าไม่แย่งไม่ได้ทํา
    ฉันข้าวเราต้องรีบฉันให้เสร็จก่อนเขา เดี๋ยวจะเอาบาตรหลวงปู่ไปล้าง พอหลวงปู่ฉันเสร็จเราต้องไปหยิบไปจองไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้ล้าง คนอื่นเอาไป นี่แหละ กิจวัตรครูบาอาจารย์แต่ก่อน ล้างบาตรนี้ต้องล้างให้ดีนะ บาตรหลวงปู่ พระครูชินเทพล้าง ๔ หน กว่าจะได้ที่หรือว่าสะอาดล้างเสร็จต้องส่งให้อาจารย์หนูดูนะ ส่องดูกับแสงอาทิตย์ เอาไปล้างใหม่ ท่านไม่บอกว่าอะไร เอาไปล้างใหม่ พระครูชินเทพก็ล้าง ๆ ๆ เอาไปส่งให้อาจารย์หนูอีก เอาไปล้างใหม่...
    ครั้งที่สองพระครูชินเทพจมูกแดงขึ้นมาหน่อยละ อาตมาสังเกตดู พอครั้งที่สาม พอล้างเสร็จเอาไปส่งให้อาจารย์ หนูดู อาจารย์หนูก็ส่องดูกับแสงอาทิตย์อีก เอาไปล้างใหม่ ทีนี้พระครูชินเทพบอกท่านไปล้างเองสิ พระครูชินเทพทนไม่ไหว อาตมาก็ยืนฟังอยู่เป็นเพราะอะไร ก็เห็นพระครูชินเทพล้างๆ ถูๆ อยู่ แต่ทําไมถึงโชคร้ายต้องล้างสามที ยังไม่ยอมสะอาดอีก อาจารย์หนูท่านก็เลยเรียกว่า นี่.. นี่... ท่าน มาดูบาตรหลวงปู่จะมีหลุมอยู่หลุมหนึ่ง มันจะติดยางข้าวเหนียว ถ้าท่านล้างผ่านๆ ไปอย่างนี้มันจะไม่มีโอกาสหลุดหรอก นอกจากท่านเอาผ้านุ่มๆ มาล้าง นี่นะ... ของมองด้วยตาเห็น ถ้าของที่ตามองไม่เห็นท่านจะทำยังไงได้ กิเลสเป็นของไม่เห็นนะ ท่านบอกพระครูชินเทพถึงได้หยุดกึกเลย อาตมาถึงได้ระวังตัวตั้งแต่บัดนั้นว่าเออ..ถ้าเราล้างบาตรหลวงปู่แหวนมั่ง เราจะต้องระมัดระวังที่สุดเลย
    แล้วการทํากิจวัตรของหลวงปู่ ไม่มีการว่าจะเกี่ยงกันหรอกนะ ต้องรีบถึงกุฏิท่านจึงจะได้ทํา หลวงปู่ ชอบสรงน้ำตากแดด อาตมาก็ต้องไปตักน้ำตากแดดไว้ ท่านจะสรงตรงเวลาเป๊ะเลย สามโมงครึ่ง ก็สามโมงครึ่ง ลงมาปั้บผ้าผ่อนท่อนสไบ ผ้าอาบก็ดี ผ้าเปลี่ยนก็ดี สบงสําหรับเปลี่ยน แปรง สบู่ ยาสีฟัน เตรียมพร้อม ทางบ้านยังไม่เห็นมีใครทําให้พ่อให้แม่อย่างนี้นะ แต่ว่าในกิจวัตรของสํานักปฏิบัติสมัยก่อนเป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีการรังเกียจ ไม่ได้มีการเกี่ยงกันเลย บางคนเอากระโถนพ่อแม่ไปเทยังปิดจมูก แต่ที่นี่ไม่มีปิดจมูกหรอกนะ อาตมาเห็นอาจารย์หนูปฏิบัติกับหลวงปู่แหวนมา แล้ว อาตมาว่า อาจารย์หนูนี้ทําถูกต้อง จึงทําให้ศรัทธาแก่ลูกศิษย์ลูกหาทําตาม สรงน้ำเสร็จอะไรเสร็จก็ยังนวดเฟ้นหลวงปู่อย่างทะนุถนอม นี่ เราถึงเห็นว่าคุณธรรมของครูบา อาจารย์ พระที่ท่านปฏิบัติมาจริง ๆ เห็นอานิสงส์บั้นปลาย คือท่านไม่มีลูก ท่านต้องมีบารมี ตัวบารมีนี่เองแทนลูกท่าน ดีเสียกว่าลูกที่เราคลอดออกมาจากตัวเอง ลูกโยมตามบ้าน มองดูแล้ว ยังให้ทุกข์ให้โทษกับพ่อกับแม่เยอะแยะ แต่ในศาสนามองดูแล้ว นุ่มนวลนะ ที่ไปเห็นมาตามสํานักปฏิบัติจริงๆ ทางอีสาน อาตมาไปอยู่ทางอีสานสบายจริงๆ ไม่ต้อง ตัวดําตัวเกรียมเหมือนอย่างนี้ อยู่ทางใต้นี้ลําบากมาก พระที่อยู่อย่างนี้ต้องเข้มแข็งทั้งกายทั้งใจ ก็ไม่ต้องละเมอเพ้อบ่นอะไร ถือว่ามันเป็นวิบากกรรมอันหนึ่งที่เรายังต้องมาข้องเกี่ยวกับสถานที่เหล่านี้

    40.jpg
     
  11. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
  12. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    41.jpg
     
  13. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    253253334_2283506381786705_302496181315494036_n.jpg
     
  14. dilok.ch

    dilok.ch สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2017
    โพสต์:
    792
    ค่าพลัง:
    +1,254
    "อย่าทำตัวเหมือนไมยราพ โดนอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ราบซะเเบนเเป๊ด เหมือนคนด่าเราว่าเรานิ่งทนไม่ได้ ก็ราบลงซะเเล้ว หมดท่า จงมีใจหนักแน่นมั่นคง มีอารมณ์ใดมากระทบจงชูชันอย่างมั่นคงไม่หวั่นไหว ไม่ว่าใครจะว่าผิดหรือถูก นิ่งดูใจนั้นเสียก่อน ... อย่าให้เป็นเหมือนไมยราพ"

    โอวาทธรรม
    หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
  16. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ไชยวรรณ สโรบล
    .
    น้อมกราบนมัสการ
    พระเดชพระคุณหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    เนื่องด้วยวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๕ เป็นวันครบรอบ อายุวัฒนะมงคล ๘๕ ปี
    ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยทั่วสากลโลกโปรดดลบันดาลให้สุขภาพพลานมัยของพระเดชพระคุณหลวงปู่แข็งแรงสมบูรณ์ และอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรและศูนย์รวมใจให้เราชาวพุทธตราบนานเท่านานสาธุ สาธุ สาธุ
    #น้อมกราบหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    ๔ มีนาคม ๒๕๖๕

    33.jpg 34.jpg 35.jpg
     
  17. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
    .
    อุปัฏฐาก

    27.jpg 28.jpg 29.jpg 30.jpg 31.jpg 32.jpg 33.jpg 37.jpg
     
  18. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
    .
    "...ศีลนั้นเป็นข้อห้าม ธรรมเป็นข้อปฏิบัติ ศีลเป็นข้อห้ามเป็นระเบียบวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วนำเอามาเผยแพร่แก่มนุษยชาติ คำว่ามนุษยชาตินั้นหมายถึง มนุษย์ที่มีบุญวาสนาเกิดมาได้เป็นมนุษย์เพราะได้บุญกุศลแต่หนหลังส่งผลมาเป็นมนุษย์ แต่อย่าลืมว่าถึงเป็นมนุษย์แล้วบาปก็ยังมีอยู่
    .
    ตราบใดที่ยังเกิด ตราบใดที่ยังเกิดอยู่นี่บาปก็ยังตามเรามา ติดเรามาตลอดแต่บาปมีกำลังอ่อน ไม่สามารถให้ผลได้ กำลังบุญทำให้เราได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ว่า อย่าไปต่อยอดบาป เพราะเรามีสองยอด ยอดบุญต่อยอดบุญไป
    .
    จะต่อยอดบาปเอายอดบุญไปใช้ต่อยอดบาปก็เท่ากับต่อยอดบาป แม้จะได้สิ่งที่เรามุ่งมาดปรารถนาสมใจนึกแต่ว่ามาด้วยความทุจริตทางกายวาจาใจ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่น่าจะปลื้มใจเพราะมันปนเปื้อนมาด้วยบาปอธรรม ถ้าเรารู้จักวิธีการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง..."
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

    23.jpg
     
  19. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    42.jpg

    ในวันที่(๑๘ ธ.ค. ๕๙)ที่ผ่านมานั้น ได้มีงานหล่อพระประธานประจำอุโบสถของวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไปร่วมงานมากมาย สำคัญสุดคือ สมเด็จพระสังฆราช ประเทศศรีลังกาซึ่ง หลวงปู่น้อย และ หลวงปู่บุญส่ง ท่านก็ได้ถูกเชิญให้ไปร่วมในงานนี้ด้วย ก่อนเริ่มงาน หลวงปู่บุญส่ง นั้นได้เข้าไปพักในสถานที่รับรองที่ทางเจ้าภาพได้จัดไว้ โดยภายในสถานที่รับรองนั้น องค์หลวงปู่น้อย ท่านได้นั่งพักอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อเข้าไปด้านใน หลวงปู่น้อยก็ได้ไหว้ทำวัตรคารวะหลวงปู่บุญส่งก่อน โดยขณะนั้นหลวงปู่บุญส่งท่านก็ยังไม่ทราบว่าหลวงปู่น้อยท่านอาวุโสภันเตมากกว่า

    43.jpg

    โดยหลวงปู่บุญส่ง แม้ท่านจะมีอายุมากกว่าหลวงปู่น้อยแต่กระนั้นท่านก็บวชหลังหลวงปู่น้อย ตามธรรมเนียมแล้วพระที่บวชก่อนย่อมจะอาวุโสกว่า โดยเมื่อองค์ท่านทั้งสองได้นั่งพักอยู่ในห้องรับรองสักพัก หลวงปู่บุญส่งท่านก็ถามกับเราว่า “หลวงปู่น้อยท่านพรรษมากกว่าเราหรือเปล่า” เพราะท่านไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่แม้จะเจอกันบ่อยตามงานที่มีกิจนิมนต์ เราเองก็ได้ตอบท่านไปว่า
    หลวงปู่น้อยมีพรรษา ๕๐ กว่าพรรษาเกือบจะ ๖๐ พรรษา น่าจะมากกว่าหลวงปู่ขอรับ (หลวงปู่บุญส่งบวชตอนอายุ๒๙ ปัจจุบัน อายุ ๘๐ ปี) จากนั้นหลวงปู่ก็ปรารภว่า งั้นเราต้องไหว้ท่านสิ เมื่อกี้เราไม่รู้ ท่านอาวุโส(ทางพรรษา)มากกว่าเราจากนั้นเมื่อทางเจ้าภาพได้นิมนต์ครูบาอาจารย์ให้เข้าประจำที่ภายในพิธี ก่อนออกจากห้องรับรองนั้น หลวงปู่บุญส่ง ท่านก็รีบเดินไปที่ หลวงปู่น้อย ทันที และก็ทำวัตรคารวะ หลวงปู่น้อย ด้วยความนอบน้อม โดยไม่มีการถือตัว พร้อมกล่าวว่า“กระผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ทราบ ทำให้ท่านต้องไหว้ผม ...” โดยหลวงปู่น้อย ท่านก็ทำวัตรคารวะคืนพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง เสร็จแล้วหลวงปู่บุญส่งท่านก็เดินออกจากห้องก่อน และหลวงปู่น้อยก็เดินออกมา แต่เมื่ออยู่บริเวณหน้าห้องรับรอง ระหว่างทางที่จะเดินไปเข้าในพิธี
    เราเองสังเกตเห็นว่า องค์หลวงปู่บุญส่ง ท่านก็หยุดยืนนิ่ง ไม่ยอมเดินทั้งที่ออกมาจากห้องก่อน แล้วก็ยืนรอให้ องค์หลวงปู่น้อย เดินออกมาและให้ท่านเดินนำหน้าก่อน แล้วหลวงปู่บุญส่งท่านก็จะเดินตามหลังหลวงปู่น้อย ตั้งแต่หน้าห้องรับรอง จนไปถึงบริเวณพิธีตามภาพ หลวงปู่บุญส่งจะรอหลวงปู่น้อยก่อนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือการนั่งจะรอให้หลวงปู่น้อยท่านนั่งก่อน แล้วท่านจะนั่งตาม และเมื่อเริ่มงานพิธี ขณะที่หลวงปู่ทั้งสอง ท่านจะต้องเข้านั่งประจำที่นั้น หลวงปู่บุญส่งท่านก็ยังไม่ยอมนั่ง ท่านรอให้หลวงปู่น้อยนั่ง แล้วท่านก็ทำวัตรคารวะกราบหลวงปู่น้อยอีก ๓ ครั้ง ถึงท่านจะนั่งลงได้ อีกทั้งก่อนกลับองค์ท่านก็กราบลาหลวงปู่น้อย ก่อนที่จะทำวัตรคารวะอีกครั้ง และหลวงปู่น้อยก็ทำวัตรคารวะกลับเช่นกัน

    44.jpg

    ซึ่งรายละเอียดเล็กน้อย ๆ นี้ หากใครไม่สังเกตก็จะไม่ได้สนใจอะไร หากแต่ผู้ที่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายนนี้นั้นจะรับรู้กันเป็นอย่างดีว่าครูบาอาจารย์ท่านค่อนข้างเคร่งครัดและสำรวมเป็นอย่างมากในเรื่องของอาวุโสภันเต หากแต่สำหรับผู้ที่พบเห็นและเฝ้าติดตามการแสดงออกกันของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ชั้นผู่ใหญ่นั้น ย่อมนำมาซึ่งความปิติและอิ่มเอมใจ ในความงดงามในวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายไม่ถือตัว แต่เต็มไปด้วยความเคร่งครัด เป็นความงดงามในศีลาจารวัตรที่ผู้พบเห็นก็ทำเกิดความเลื่อมใส และอิ่มเอมใจ หนึ่งในนั้นก็คือตัวของเราเอง ที่อย่างน้อยได้มีโอกาสปวารณาตัวรับใช้อุปัฏฐากในองค์ท่านทั้งสอง ซึ่งเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้ง ๒ รูป ที่เป็นเนื้อนาบุญ ในยุคปัจจุบันที่ควรค่าแก่การบูชาเป็นอย่างยิ่ง
    ที่มา FB : เพจหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
     
  20. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Passakorn Waingbal
    .
    สมัยก่อนๆเราไปกราบหลวงพ่อดาบสที่สำนักสงฆ์ไผ่มรกตอยู่หลายครั้งกระแสจิตภายในท่านสว่างเย็นคล้ายดั่งแก้วหมอกมุงเมืองยังไงยังงั้น แหละ จิตท่านน่ะ จนได้มากราบมาพบหลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวณารามนิ จิตในท่านก็สว่างเย็นทีเดียวน่ะ พระผู้ข้ามโลก แต่เรา(ครูบา) ยังรอบโลกอยู่ ด้วยของเก่ายังปรากฏชัดในจิตดั่งเงาตาม ลบไม่ออก ""ครูบากฤษดา สุเมโธ ท่านกล่าวไว้ .....สาธุ สาธุ สาธุ

    45.jpg 46.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...