หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vU6lLrWtmH64y4Io" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/999/0sMDCl.JPG" /></a>

ในรูปคือ พระกสินพิมพ์ พระพุทธเจ้าปางลีลา องค์ในรูปเนื้อจัดแข็งและแกร่งมากครับ ผสมผงหลายอย่าง แน่นอนมีผงที่องค์หลวงปู่ลบ ผงธูปอธิฐาน ว่านต่างๆ ดอกไม้องค์หลวงปู่ไห้พระ ผงวิเศษต่างๆที่องค์หลวงปู่และคณะได้เก็บรวบรวมไว้ พระพิมพ์นี้ทําได้ออกมาสวยงาม ตามประวัติว่าไว้ว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมด้วยเหล่าเทวดาและพรหมที่ตามมาส่งเสด็จนั้น ขบวนตามเสด็จมาหยุด ณ ประตูสังกัสสนคร เมืองที่พระสารีบุตรจำพรรษาอยู่ พระพุทธองค์ทรงมีพุทธลีลาและพระสิริงดงามยิ่ง ครอบงำรัศมีของเหล่าเทวดาและพรหมทั้งหลาย เป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย เป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่พุทธบริษัทที่เฝ้ารับเสด็จ


"พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

 

พระกสิณในรูปจะเป็นพิมพ์ลีลาถ้ำหีบข้างเม็ด ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดศิลปะในตระกูลพระลีลาทั้งหมด ของสกุลช่างสุโขทัยอย่างแท้จริง

 

เนื้อสวยจริงๆครับ...

 

ขอบคุณที่มาชี้แนะครับและยินดีที่ได้รู้จักครับ พิมพ์นี้เป็นที่ถอดมาจากพิมพ์ลีลาถํ้าหีบแต่มาแก้บล็อคโดยเพิ่มฐานบัวเข้าไปแแบภูมิปัญชาวบ้านครับ :

 

ครับเนื้อพวกนี้จัดอยู่ในหมวดเดียวกับสมเด็จของท่านนายนํ้า 5 ครับ อย่างที่บอกวันหลังจะเฉลยเดี๋ยวผมต้องรอรูปถ่ายที่จะนํามาประกอบอยู่ครับ

 

ไปอ่านกระทู้เก่าๆ มาคิดถึงองค์หลวงปู่มากเลยอย่างแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตที่องค์หลวงปู่ได้ช่วยชีวิตภรรยาไว้เหตุที่อ้างอิงกระทู้ของพี่ ธมฺมสิทโธ เพราะว่าวันเกิดเหตุเป็นวันเดียวกัน คือวันลอยกระทงและเป็นวันที่ทางวัดจัดให้มีพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตของวัดเทพธารทอง ลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่ไปร่วมงานกันเยอะมากกระผมกับครอบครัวไปกัน 4 คน แล้วก็มีญาติไปอีก 7-8 คน ไปถึงที่วัดตอนบ่ายๆ กระผม ภรรยากับ ลูก2คน และญาติๆ ขึ้นไปกราบองค์หลวงปู่ บนกุฏิ เพื่อที่จะกราบขออนุญาตองค์หลวงปู่เพื่อพักค้างคืนที่วัด กราบเสร็จผมเลยรีบพาลูกลงมาก่อน ตอนนั้นลูกสาวผมยังเล็กเริ่มงอแงแล้ว ปล่อยให้ภรรยากับพี่สาวเขานั่งกราบองค์หลวงปู่อยู่ ตอนนั้นองค์หลวงปู่ท่านเมตตาให้ข้าวหลามเสกคนละหนึ่งกระบอก ท่านให้รับประทานเลยทันที สักพักทุกคนก็มารวมกันที่โรงครัว เพื่อเตรียมสถานที่พักเช่นเตรียมมุ้ง หมอน
ผ้าห่ม แล้วก็เตรียมข้าวของเพื่อจะตักบาตรพระมหาอุปคุต ตอนเที่ยงคืน ตอนนั้นประมาณ18.00น.ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า ทานข้าวเย็น เรียบร้อยแล้วกำลังจะไปกราบองค์หลวงปู่ที่กุฏิอีก ภรรยาผม ก็เกิดอาการปวดท้องโดย
ไม่ทราบสาเหตุ ก็หายาต่างๆ มาให้ทานแล้วก็ไม่หาย จึงให้นอนสักพักจนอาการดีขึ้นไม่หนักมากยังทนไหวอยู่จึงไปกราบองค์หลวงปู่ช่วงนั้นองค์หลวงปู่เมตตาแจกเหรียญอุปคุตรุ่นแรกเนื้อทองเหลืองพร้อมผ้ายันต์อุปคุตสีเขียวรุ่น2 พอหลังจากนั้นภรรยาบอกกระผมว่าอาการปวดท้องเริ่มหนักขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แทบลุกไม่ไหว เวลาตอนนั้นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มเด็กๆ
ก็เริ่มง่วงนอน กระผมเลยพาไปนอนในมุ้งกับแม่ของเขา จนเวลาเริ่มใกล้เวลาตักบาตร เริ่มสวดมนต์กันกระผมก็สวดมนต์บางทีก็เดินไปโรงครัวไปดูอาการภรรยา สอบถามอาการ บอกว่าปวดมากจนนอนก็ไม่หลับ จะลุกไปสวดมนต์ก็ไม่ไหว จนกระทั่งตักบาตรพระมหาอุปคุตเสร็จ พี่ชายภรรยาเดินมาหาแล้วถามว่าไหวไหม ภรรยาบอกปวดมากไม่ไหวแล้ว จึงรีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลอำเภอเขาคิชกูฏ หมอมาดูอาการแล้วฉีดยาแก้ปวดให้ก็ยังไม่หาย หมอให้นอนรอดูอาการ ภรรยากระผมก็ร้องว่าปวดท้องมากจนจะไม่ไหวแล้ว... จนกระทั่งพี่ชายบอกว่าจะพาไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัด พี่ชายเป็นผู้ขับรถ ผมประคองภรรยานั่งอยู่ด้านหลังภรรยาร้องปวดไปตลอดทาง ตอนนั้นเวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ไปถึงโรงพบาลกรุงเทพฯจันทบุรี หมอเอาเปลนอนมารับตอนอยู่โรงพยาบาลภรรยาผมเรียกหาแต่องค์หลวงปู่พิศดู ตลอดเวลาพี่ชายจึงโทรศัพท์มาหาลูกศิษย์องค์หลวงปู่พิศดู บอกว่าให้กราบเรียนให้องค์หลวงปู่เมตตาสงเคราะห์ลูกศิษย์(ภรรยากระผม)ด้วยหลังจากนั้นภรรยาผมก็หลับไปจนกระทั่งตีห้าหมอเข็ญลงไปทำอัลต้าซาวน์ หมอบอกว่าเป็นใส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ต้องทำการผ่าตัดทันที หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นหมอเรียกกระผมไปพบพร้อมกับเล่าการผ่าตัดให้ฟัง และยื่นรูปภาพใส้ติ่งที่ตัดออกมาให้ดู กระผมเห็นแล้วตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นใส้ติ่งที่ไหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ขนาดประมาณใหญ่กว่านิ้วหัวแม่มือ และยาวกว่า 7 เซนติเมตร หมอยังบอกอีกว่าปกติใหญ่ขนาดนี้ใส้ติ่งน่าจะแตกไปแล้ว ถ้าแตกเป็นเรื่องที่ใหญ่มากต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อล้างลำไส้ทั้งหมดหมอบอกอีกว่าการผ่าตัดไม่ยุ่งยากเลยพอกรีดมีดลงไปพอเจอใส้ติ่งก็เด้งขึ้นมาเองเลย... แล้วผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน พักที่โรงพยาบาล 2 คืนก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงที่เกิดเหตุกระผมและภรรยาคิดถึงแต่องค์หลวงปู่พิศดูเพียงองค์เดียว ซึ่งบารมีของท่านคงช่วยชีวิตภรรยากระผมจึงรอดมาได้ถึงทุกวันนี้.......กราบนมัสการ องค์หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี อย่างสูงสุดหาที่สุดมิได้ สาธุ...​

 

สาธุ...เมตตาบารมีองค์หลวงปู่คุ้มครองโดยแท้ครับท่าน
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สีลเตโช<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5748298", true); </SCRIPT>

 

หวัดดีท่านเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีครับท่านแฝงจันทร์ ผมมานั่งรออย่างใจระทึกครับchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearr

 

บารมีหลวงปู่เหลือประมาณครับ ท่านสงเคราะห์ญาติโยมทุกคนจริงๆ กราบหลวงปู่ครับ ดีใจกับพี่สีลเตโช และพี่ธมฺมสิทโธ ที่ได้สัมผัสบารมีแห่งความเมตตาขององค์หลวงปู่ครับ

 

ได้อ่านเรื่องพี่ ธมฺมสิทโธ และพี่ สีลเตโช แล้วน่ายินดีมากๆครับ สุดยอดๆ หลวงปู่ท่านรักลูกศิษย์ทุกคนจริงๆครับ

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างอยู่ต่างจังหวัด อีกสักวัน สองวันก็คงได้กลับครับ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vUdS4Id5Feeavlw4" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/265/bGhhpC.jpg" /></a>

มาดูพระกสินกันต่อครับ ในรูปคือ พระกสินพิมพ์รูปเหมือนทาทองครับเนื้อจริงๆจะเป็นสีขาวอมชมภู องค์นี้เป็นพระขนาดจัมโบ คือใหญ่แต่ก็สามารถแขวนคอบูชาได้ครับ ขนาดประมาณฝ่ามือแต่ไม่รวมนิ้วได้ ปัจจุบันพระองค์นี้ไม่ได้อยู่กับผมแล้วครับ ขณะนี้อยู่ในครอบครองของเพื่อนผมที่มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ครับ คงจะเป็นโชคของเค้าที่ทําบุญมาดีพออราธนาท่านขึ้นคอบูชาไม่นานก็ถูกหวยได้ไปหลาย ไอ้เราฟังก็อิจฉาทําใมไม่ได้บ้าง สงสัยจะจริงอย่างที่คนโบราณว่าแข่งอะไรก็แข่งได้แต่แข่งวาสนาไม่ได้ :'(

 

สวดยวด...

มีเอกลักษณ์ ด้านหน้ามีฉายาท่านด้วย พิมพ์นี้จะมีตัวหนังสือหลังทุกองค์มั้ยครับท่านแฝงจันทร์หรือเจ้าของทำไว้เอง...

 

กราบองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี
และสวัสดีพี่ๆ ทุกท่านครับ

 

ผมเคยสังสัยในเรื่องนี้เหมือนกัน ได้โอกาสก็เลยไตร่ถามพระอาจารย์ตามสมควร ได้ความว่า วาสนาบุญบารมีที่สั่งสมของคนเราดุจดังภาชนะที่ติดตัวกันมา พระอริยเจ้าท่านจะสงเคราะห์แต่อย่างใดก็คงจะไม่เกินภาชนะประจำตนได้ทำมา อย่างเช่น ฝนตกในที่เดียวกัน บางคนเอาตุ่มไปรอง บางคนเอาขันไปรอง น้ำที่ได้ย่อมไม่เท่ากัน อีกทั้งเรื่องของโชคลาภยังมีบุญจรที่มาเกื้อหนุนอีกด้วย หากอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่บุญจรมาเกื้อหนุนโชคลาภพอดิบพอดี พระอริยเจ้าท่านสงเคราะห์เมื่อนั้นก็ถูกกันไปเต็มๆ หากมิใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม มีบุพกรรมมาตัดรอน ต่อพระอริยเจ้าเมตตาเขียนเลขหกตัวเปะ ก็ใช่ว่าจะได้เป็นเศรษฐีกันนะครับ ดังนั้น จึงอยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมเสียมากกว่า ดังนั้นพวกเรามาสร้างภาชนะใหญ่ๆ รองรับน้ำฝนแห่งความเมตตากันดีกว่า ตามแนวทางที่ท่านอบรมสั่งสอนไว้ครับ

 

พิมพืแบบนี้หรือคล้ายๆอย่างนี้แต่เล็กกว่าส่วนมากจะมีตัวหนังสือครับ ตัวหนังสือด้านหลังน่าจะเป็นคณะสมัยนั้นเป็นคนเขียนครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน

 

สวยงามอีกหนึ่งองค์ครับ ชอบมากๆโดยเฉพาะตัวหนังสือด้านหลัง ดูแล้วคลาสสิคจริงๆครับ(good)

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vUmYKIKIo2ffPBmw" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e2a/HGFpzo.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/vUmYQopCVoUL4luo" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/440/gb5T9.JPG" /></a>

วันนี้จะขออัญเชิญพระสมเด็จกสิน ในหมวดที่เป็นมงคลสูงสุดในบรรดาพระชุดนี้ขององค์หลวงปู่ครับ ที่ว่าเป็นมงคลสูงสุดคือ จะเป็นเนื้อหัวเชื้อ หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า โคตรผง คือในบรรดาพระยุคแรกนั้นจะเนื้อจัดอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ทุกองค์จะผสมผงที่มีทุกอย่าง เหตุผลเพราะผงบางอย่างมีน้อย จึงมีไม่กี่องค์ที่เนื้อจะอยู่ในหมวดนี้ แถมความพิเศษของพระองค์นี้คือ เป็นองค์ที่ิงค์หลวงปู่กดพิมพ์เองครับ คนแก่เล่าอย่างนี้ครับ สมัยก่อนลูกศิษย์จะปั้นผงทุกผงไว้แล้วนําให้หลวงปู่กดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ คือเกือบทุกพิมพ์ที่สร้าง โดยเฉพาะสมเด็จและรูปเหมือนทุกพิมพ์ องค์หลวงปู่จะประเดิมกดครับ บางพิมพ์องค์เดียว บางพิมพ์สองหรือสามองค์ครับแล้วแต่ท่านจะเมตตาครับ อีกอย่างบางองค์ถึงกดออกมาแล้วไม่สวยท่านจะไม่ให้ทําลายนะครับ ท่านจะสั่งให้แก้ในพิมพ์ขณะพระยังเปียกอยู่เลย ถ้าจะให้สันนิษฐานคิดว่าองค์พระคงศักสิทธิ์ตั้งแต่ตอนกดอีกอย่างท่านอาจอัญเชิญเทวดามาคุ้มครององค์พระแล้วจึงไม่ทําลายหรืออาจจะบอกถึงอุปนิสัยขององค์หลวงปู่ที่ต้องการสอนถึงลูกศิษย์ว่าท่านไม่ชอบทําลายแต่ชอบสร้างสรรครับ

ถ้าถามว่าพระเนื้อจัดๆแบบนี้องค์หลวงปู่กดทุกองค์หรือเปล่าครับ ขอตอบว่าไม่ครับแต่ก็จัดอยู่ในหมวดมวลสารหัวเชื้อ ทีนี้จะถามว่าแล้วจะแยกยังไงผมก็ขอตอบว่าพระสามารถแยกออกได้ว่าเป็นขององค์หลวงปู่แต่ถ้าถามผมว่าองค์ใหนองค์หลวงปู่กด ขอบอกอย่างนี้ครับ ถ้าผมไปเจอข้างนอกก็คงตอบลําบากครับ ต้องแล้วแต่ที่มา ตามประวัติที่คนแก่เล่าว่า พระที่องค์หลวงปู่กดพิมพ์เองมีแค่บุคคลสามคนที่ได้ไปครับ แถมสามบ้านนั้นก็นํามาเก็บไว้ไม่ได้ให้ใครหรือแบ่งใครไปบูชา โดยจะแบ่งพระไว้อีกถาดต่างหาก ขณะที่ผมและคณะไปเจอแกก็แยกถาดและเขียนกํากับไว้ว่า พระที่องค์หลวงปู่กด จะเป็นแบบนี้ทั้งสามบ้านครับ โดยจะแยกออกจากกันแต่วิธีต่างกันนิดหน่อย จริงๆก็มีพระเนื้อเดียวกันนี้แต่อยู่ในถาดอื่นเหมือนกันแต่แกว่าเนื้อเดียวกันแต่หลวงปู่ไม่ได้กดแกจึงแยกไว้ ซึ่งถ้าแกจะมั่วก็ได้ผมคงไม่รู้ อีกอย่างพวกคนแก่ไม่ได้เสนอขายนะครับ ที่ได้มาเพราะช่วยค่าศึกษาเล่าเรียนเด็ก ผมเล่ามาอย่างนี้แล้วคงไม่ต้องบอกนะครับว่าพระชุดนี้ของทั้งสามบ้านถูกนิมนต์ไปใหน อิ อิ จะเรียกว่าย้ายที่จําวัดเกือบ 100% ก็ว่าได้ มันเป็นไปตามแรงอธิฐานของคนแก่ครับ อย่างที่เคยบอกว่าของชุดนี้เป็นมรดกตกทอด จริงๆแล้วก็คือมรดกตกทอดจากองค์หลวงปู่สู่ลูกหลานต่อๆกันมา อย่างว่าสมบัติผลัดกันชม อยู่ที่ว่าท่านจะไปหาใครเท่านั้นเอง

"]อย่างของท่านนายนํ้า 5 ตอนผมหยิบว่าจะเอาไรให้ดีปรากฏว่าก็หยิบได้องค์ที่ท่านนํามาลง ถามว่าใจก็เสียดายเพราะจริงๆก็ไม่รู้จักันส่วนตัว แถมเป็นคน pm ว่าจะให้เองเค้าไม่ได้มาขอ ปรากฏว่าถึงจะเสียดายยังไงลองหยิบองค์อื่นแล้วก็คิดว่าเอาองค์นั้นแหละให้ไปครับ แต่พระของท่านนายนํ้าผมก็ขอบอกตามความจริงว่า เป็นพระที่ผมได้มาแรกๆซึ่งตอนนั้นคนแก่แกหยิบให้แล้วลืมบอกทําให้ผมเอาพระเนื้อหัวเชื้อกับที่องค์หลวงปู่กดมาปนกัน ส่วนชุดหลังที่ผมได้มาผมจะเขียนแยกไว้ จึงมีพระเนื้อนี้บางส่วนที่ผมแยกไม่ออกว่าองค์ใหนหลวงปู่กด ถ้าจะให้รู้แน่ชัดผมคงต้องนําพระกลับไปถามคนแก่ครับ แต่ยังไงท่าน นายนํ้่า 5 ก็ได้พระชุดเนื้อมวลสารหัวเชื้อแน่นอนครับ เก็บไว้ดีๆนะครับ ถ้ามีโอกาสผมจะนํารูปไปถามแกให้นะครับ

 

อ๋อหลังเป็นรอยเขียน ผมนึกว่าเป็นแบบจมลึกไปในเนื้อพระ...