หลวงปู่มั่นแนะนำวิธีการถอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือผี เข้าทรง การนับถือเทพเจ้าต่างๆ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 3 มิถุนายน 2013.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    คำสอนของครูบาอาจารย์

    ขออนุญาตครับ

    จากการสนทนากับครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติ ล่าสุด ท่านได้เมตตาเตือนมาว่า


    "คำสอนของพระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุตินั้น ทุกๆท่านจะสั่งอย่างเด่นชัดว่า"
    "ห้าม แยกคำสอนของท่าน ออกจากกัน จากการแสดงธรรมในแต่ละครั้ง"
    "ห้ามนำธรรมส่วนใด ส่วนหนึ่ง ไปแสดง ไปอ้าง โดยแยกออกจาก ส่วนอื่นๆที่ได้แสดงเอาไว้ร่วมกัน"


    ดังนั้น การที่มีผู้หนึ่งผู้ใด ยกคำสอนของครูบาอาจารย์ พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุติ มาอ้าง

    จึงผิดเจตนาเดิมของ ครูบาอาจารย์ อย่างสิ้นเชิง

    ขอให้พิจารนาเพิ่มเติมด้วยว่า ท่านที่ยกคำสอนครูบาอาจารย์ส่วนใด ส่วนหนึ่ง
    มาอ้างเพื่อ ประโยชน์ใด ประโยชน์หนึ่งนั้น

    เป็นศิษย์ธรรมยุติ สายปฏิบัติหรือไม่

    เพราะองค์หลวงตามหาบัว เอง ท่านก็บอกว่า


    "บอกว่าเป็นศิษย์หลวงตาบัวๆ หลวงตาทำผ้าป่าช่วยชาติ ทำสถานีวิทยุเสียงธรรม มีผู้ร่วมทำบุญมากมาย"
    "ใครก็อ้างได้ว่าเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว"
    "ต้องดูว่า คนนั้นๆปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบหรือไม่"
    "ถ้าปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว"
    "ถ้าไม่ปฏิบัติดี ถ้าไม่ปฏิบัติชอบ ก็ไม่ใช่ลูกศิษย์หลวงตาบัว"



    ดูแค่นี้ก็เห็นชัดเจนแล้วละครับ
    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับผู้มัสัมมาทิฐิทุกๆท่าน
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคะตัณหา ผูกมัดรัดรึงอยู่ภายในใจ ใจหาความอิสระได้ที่ไหนแม้แต่ขณะหนึ่ง
    ถ้าไม่ตั้งใจแก้ไขถอดถอนหรือปราบปรามออกให้ได้แล้ว จิตจะหาความสงบร่มเย็นและหาอิสระไม่ได้เลยตลอดไป
    อย่าเข้าใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนจะมาช่วยแก้ช่วยถอดถอนกิเลสตัวศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์มหาศาลที่ครอบหัวใจอยู่เวลานี้ได้
    ถ้าไม่เอาความศักดิ์สิทธิ์จากวิริยธรรม สติธรรม สมาธิธรรม ปัญญาธรรมเหล่านี้เข้าแก้มัน
    ถ้าเชื่อธรรมก็ต้องเชื่อว่ากิเลสเป็นตัวก่อเหตุให้เกิดทุกข์แก่เราเรื่อยมา และแก้กันอย่างไม่ชักช้านอนใจ
    ด้วย อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นผู้ช่วยตัวเอง เป็นหลักใจในเวลาเข้าตาจนกับกิเลส

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เรื่องการพรมน้ำมนต์ หรือเจิมรถ เจิมบ้าน ร้านค้าอะไรต่างๆ แต่ก่อนหลวงปู่ไม่ยินดีทำเลย
    มาในระยะหลังๆ เห็นว่าบุคคลมีหลายระดับ เพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่เขา ให้เขาได้พ้นทุกข์เล็กๆน้อยๆ
    ท่านจึงปฏิบัติไปเพื่อโลกัตถจริยา เป็นการ อนุเคราะห์ อนุโลมตามความประสงค์ของทางโลกเท่านั้น

    ครั้งหนึ่ง มีพระภิกษุสงฆ์นำรถของตนมาให้ท่านเจิม หลวงปู่ไม่ยอมทำและดุเอาว่า
    “งมงาย”

    บางครั้งมีคนชอบขอชานหมากท่านก็ว่า
    “เอาไปทำไม ของสกปรก”

    มีคนมาขอให้เป่าหัว ท่านก็ว่า
    “เป่าทำไม เดี๋ยวน้ำลายเลอะ”

    เรื่องวัตถุมงคล เช่นเหรียญต่างๆ เป็นต้น หลวงปู่ไม่นิยมยินดีที่จะทำหรือให้ทำเลย
    แต่ภายหลังท่านก็อนุโลมตามบ้าง เมื่อมีลูกศิษย์ลูกหาจัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ต่างๆ
    ท่านก็อนุโลมแผ่พลังจิตให้ตามสมควร เพื่อไม่ให้เป็นการขัดศรัทธา ต่อทายกทายิกา
    และลูกศิษย์ลูกหา ที่มีความปรารถนาเช่นนั้น.

    พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สิ่งที่ยึดถือได้ไม่ผิดหวังก็คือพุทโธ ธัมโม สังโฆ ดังที่ท่านแสดงไว้ในธรรมว่า พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ สรณํ คตา.
    ผู้ใดมาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ได้โดยลำดับโดยไม่ต้องสงสัย
    การไปพึ่งที่นั่นที่นี่ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์วิเศษ มันศักดิ์สิทธิ์วิเศษแต่ความสำคัญเจ้าของเฉยๆ ไปไหว้เจดีย์ร้าง ต้นไม้ใหญ่
    ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะมาให้ความดีความชอบแก่เรา ต้นไม้ก็เป็นต้นไม้ อิฐปูนหินทรายที่ก่อเจดีย์ร้างเอาไว้มันก็เป็นอิฐปูนหินทราย
    ตั้งแต่ตัวมันเองก็ยังร้าง มันจะดิบดีที่ตรงไหน

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  5. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    อยากรู้จัง ว่าท่านอุรุเวลาเก่งแค่ไหนแล้ว
    ยังไกลจากอรหันต์ หรือใกล้ หรือเป็นแล้วกันน้า
    สั่งสอนใครๆ แบบยึดติดแน่นหนึบอย่างนี้ จะได้เรื่องรื้อ
    ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้จริงๆ หรือแกล้งทำตัวแบบนี้ ก็ไม่รู้นะ

    แพไม้น่ะ เค้าเอาไว้ใช้สำหรับตอนที่จะข้ามฟากเท่านั้นนะ ท่าน
    เมื่อยังไม่ถึงริมน้ำ จะแบกแพไม้เดินไปเดินมา ทำท่าสวยๆ ทำไมกัน
    แล้วคนจะข้ามฝั่งน่ะ เขาไม่ชักไม้ที่ทำแพ มาไล่ตีใครหรอกนะท่าน รู้ป่าว

    วิญญาณกระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2013
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมไม่ได้สั่งสอนใครผมนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ที่บอกสอนโดยสมเด็จพระสังฆราช หลวงปู่มั่น หลวงปู่ดูลย์
    หลวงตามหาบัว พระอาจารย์วิริยังค์ ท่านพระพุทธทาส ฯลฯ
    มาแสดงว่า ท่านสอนไว้อย่างไรบ้างเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    การนับถือเทพเจ้า ภูตผีปีศาล ศาลเจ้าที่ ทรงเจ้า เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ศาลพระภูมิ
    ท่านบอกว่าเป็นความนับถือที่งมงาย ท่านถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไข
    เพราะไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ทางปฏิบัติเพื่อความเป็นอริยะ
    พระอริยะท่านสร้างแพเสร็จแล้ว เหลือแต่ใช้กำลังในการถ่อแพพาตัวเองถึงฝั่ง
    แต่พวกที่ไม่สร้างแพ เอาแต่ขอพร ขอให้สิ่งนั้นสิ่งนี้บันดาล
    ไม่เชื่อกรรมดี กรรมชั่ว ไปทำชั่วมา ขอให้เทพเจ้าช่วย
    เทพเจ้า ผีเปรต เจ้าพ่อ เจ้าแม่ยังไม่พ้นนรกเลย มันจะช่วยใครได้
     
  7. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842

    อ๋อ...เข้าใจหละ ท่านไม่ได้สั่งสอนใครเลยซักคนเดียว
    ท่านทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง หวังดีแต่ประสงค์ดีด้วย

    เรื่องอย่างนี้ มันมีมุมที่กว้างเกินไปหน่อยมั้งท่าน
    ขอบเขตของเครือข่าย ไม่ได้มีแค่ซ้ายกับขวานะครับ

    การนับถือ กับการงมงาย ไม่ใช่สิ่งเดียวกันล่ะมั้ง นะ
    ธรรมชาติคือความหลากหลาย ไม่คับแคบนักหรอกนะ
    ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน

    ทางพ้นทุกข์หรือความเป็นอริยะ ไม่ได้มาง่ายๆ
    ด้วยการพูดหรือฟัง แบบที่ท่านกะลังทำอยู่
    หลายครั้งที่เราเห็นคนที่พูดหรือเขียนว่าขอให้ถึงนิพพาน
    เราต้องหัวเราะ บางทีก็โมโห มันจะง่ายไปหน่อยไม๊น้อง

    แล้วคนน่ะ ถ้าจะเชื่อกรรมดี กรรมชั่ว แล้วจะขอพรไม่ได้รึไง
    จะขอให้เทพหรือเปรตวัดหลังคาครืน ซึ่งเจ๋งมาก มาช่วยไม่ได้ด้วยรึ
    ใครบอกท่านอย่างนั้น กฏเกณฑ์นี้ใครกำหนด เราไม่เชื่อหรอก
    โลกนี้ไม่สมประกอบ เพราะบางคนชอบ เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน
    โลกนี้ มีซักกี่คน เป็นบัวหลุดพ้นดั่งคนชื่อบัวลอย

    โดยเฉพาะในประเทศไทยที่รักของพวกเรานี้
    ซึ่งมีเทพเทวดาเยอะแยะยั้วเยี้ยยุบยับ
    เป็นแผ่นดินวิเศษ ไม่มีที่ใดในโลกเสมอเหมือน
    แม้แต่กรุงเทพนี้ ก็มีเทพมาร่วมสร้างด้วยตั้งแยะ รู้ไว้ซะบ้าง


    เล็บครุฑ / พลทหารรักษาพระองค์

    .
     
  8. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    หากอ่านข้อความที่คุณอุรุเวลาหยิบยกมาแล้ว ความงมงายที่ว่าคือความงมงายในสิ่งที่ไม่ช่วยทำให้พ้นทุกข์ เชื่อในสิ่งที่ไม่ใช่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

    กายทิพย์ทั้งหลายไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ในการปฏิบัติธรรมแล้วจะขอร้องจากใครไม่ได้นอกจากการทำเอง

    ผมสลดมากเวลาบางคนยกเทพมาเหนือพระรัตนตรัย ถ้ามีเทพที่ยกตนเหนือพระรัตนตรัย กรุณาตรองดูด้วยว่าตัวเราโดนล่อลวงให้ห่างจากธรรมอยู่หรือเปล่า
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ของจริงมีแค่ซ้าย ขวา และทางตรง การนับถือก็เหมือนกัน ทางพุทธคือทางตรง
    มีทางตรงให้เดิน แต่อยากถึงช้า ไปซ้ายที ขวาที บางคนไปซ้ายก็หลงซ้าย
    บางคนไปขวาก็หลงขวา หลงกันเป็นกัลป์ เป็นมหากัลป์
    ทางพ้นทุกข์หรือนิพพาน คนธรรมดานี่แหละที่จะไปนิพพาน ไม่ใช่เทพเจ้า
    พระภูมิเจ้าที่ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ที่ไหน คนธรรมนี่แหละที่ไปนิพพาน
    ไปได้ด้วยอยู่ในศีลธรรมด้วยธรรรม ไม่ใช่ไปนิพพานด้วยการขอ
    กรรมมีสี่อย่าง ทำกรรมอย่างไรก็ได้ผลแห่งกรรมอย่างนั้น
    คนหนึ่งทำกรรมดี คนทั้งหลายขอให้ตกนรก แต่เมื่อเขาตายเขาก็ไปสวรรค์เพราะเขาทำกรรมดี
    คนหนึ่งทำกรรมไม่ดี คนทั้งหลายขอให้ไปสวรรค์ แต่เมื่อตายเขาก็ไปนรกเพราะทำกรรมไม่ดี
    คนที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมดี กรรมชั่ว ปฏิเสธนรก สรรรค์ คนประเภทนี้ทำความชั่วได้ง่าย
    เมื่อก่อนคนดีเยอะกรุงเทพสมัยก่อนมีเทวดาเยอะ แต่กรุงเทพสมัยนี้ผียังไม่อยากอยู่
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พิมพ์ไทย ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธสาวกที่ทรงปาฏิหาริย์บ้าง ทรงฤทธิ์เดชบ้าง ทรงเป็นปราชญ์บ้าง ทำให้ศาสนาแผ่ขยายไปกว้างไกล ให้คนได้รู้จักพุทธศาสนา ได้มีที่พึ่ง ในสมัยของหลวงตาบ้าง หลวงตามีฤทธิ์

    หลวงตา แม้แต่ครั้งพุทธกาลมีฤทธาศักดานุภาพอย่างนั้นก็จริงนะ แต่ผู้ที่จะสำเร็จเป็นผู้ที่เลิศเลอด้วยการปฏิบัติบรรลุมรรค ผล นิพพาน ไม่ได้บรรลุเหาะเหินเดินฟ้า เหาะเหินเดินฟ้านกมันก็เหาะได้บินได้เข้าใจไหม ดำดินเรือมันก็ไปได้ อะไรมันก็ไปได้ บินบนนกมันก็ไปได้ อันนี้ท่านไม่ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์วิเศษอะไร ยิ่งกว่าการปฏิบัติตามศีลตามธรรมเพื่อมรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพานเลิศเลอจากการปฏิบัตินี้ต่างหาก ปาฏิหาริย์ภายในจิตใจ สลัดสิ่งที่พัวพันสกปรกนี้ออกให้หมด จิตใจสว่างจ้า นี่ท่านผู้เลิศเลอ

    ท่านไม่จำเป็นหาปีกหาอะไรมาบิน เข้าใจไหม นี่อยากบินหรือนี่ถึงมาถาม อยากบินก็ไปสนามบินดอนเมืองนั่นซี ที่นี่ไม่ใช่สนามบิน ไปดอนเมืองนั่นซิ

    พิมพ์ไทย ที่ผมถามผมอยากทราบว่า มีพระลูกศิษย์ของหลวงตาเก่งๆ บ้างไหมครับที่จะออกมา

    หลวงตา ไม่จำเป็นจะต้องพูด พูดไปหาอะไร ตั้งแต่สิ่งที่เก่งๆ เอามาพูดมันก็ไม่ยอมฟังเสียง ถ้าหากว่าอันนี้เก่งก็ไปถามนกดูซิน่ะ มันเก่งไหมนกนั่นน่ะ อันนี้เป็นสิ่งปลีกย่อย ตามนิสัยวาสนาของท่านแต่ละองค์ๆ มีได้ เช่นอย่างนั่งนี้ ตัวลอยขึ้นอย่างนี้ท่านก็มีได้อย่างทุกวันนี้ แต่จำเป็นอะไรที่ท่านจะมาพูดสิ่งเหล่านี้ เป็นของเล็กน้อย ไม่มีน้ำหนักยิ่งกว่าศีล สมาธิ ปัญญา วิชชาวิมุตติหลุดพ้น เพื่อมรรค ผล นิพพาน อันนี้ต่างหากที่ท่านสนใจ ท่านปฏิบัติ อยู่ด้วยกันด้วยความสนิทเพราะธรรมเหล่านี้ต่างหาก ไม่ได้สนิทด้วยการเหาะเหินเดินฟ้า ถ้าอยากเหาะเหินเดินฟ้าก็ไปดอนเมืองก็ได้ ถ้าอยากดำน้ำลงไป ไปหาปลาก็ได้ มันอดอยากอะไร

    Luangta.Com -
    (คัดลอกมาบางส่วน)
     
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขอเรียนเชิญท่าน ติโลกเหลน แสดงความคิดเห็นด้วยครับ

    ขออนุญาตครับ

    ขอเรียนเชิญท่าน ติโลกเหลน แสดงความคิดเห็นด้วยครับ
    คงไม่มีท่านผู้ใดในเว็บนี้ กล้าตอบปัญหาของท่านหรอกครับ

    เมื่อท่านคิดคำถามขึ้นมาได้ ท่านก็คงจะมีคำตอบอยู่แล้ว

    ขอเมตตาด้วยนะครับ

    ความอดทน ความอดกลั้น เป็น คุณสมบัติเบื้องต้นของชาวธรรมยุติ
    และ มีแต่ศิษย์ระดับยอดๆ จึงได้รับคำชมเชยจากครูบาอาจารย์

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ในบุญวาสนาบารมี สติ ปัญญาของท่านด้วยนะครับ
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  12. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .

    เออ ช่างหัวมันก็ได้ เวลามีน้อย ใช้สอยประหยัด

    ปล.ไม่ได้พูดกับคนนะจ๊ะ นะจ๊ะ
    ผีเสื้อสื่อสาร กับท่านฝั่งโน้น


    ค้างคาวแห่งแสง / เล็บครุฑ
    .
     
  13. ติโลกเหลน

    ติโลกเหลน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +86
    ขอขอบคุณที่ให้เกียรติครับ
    เจตนาของผมเองจะถามเจ้าของกระทู้นะครับ จึงไม่ได้เตรียมเหตุผลไว้ แต่หากเป็นความคิดในส่วนของผม ผมจะตอบแบบเปรียบเทียบตามความถนัดและตามความเข้าใจของผมนะครับ

    1. เหตุใดในภาคอีสานนิกายธรรมยุติจึงเฟื่องฟู
    แต่ภาคใต้และภาคกลางกลับมีพระวิทยาคมแพร่หลาย
    และภาคเหนือแม้อาจารย์ใหญ่จะมาอยู่หลายปีก็ไม่เป็นที่นิยมศรัทธาของคนท้องถิ่น

    ตอบ จากประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนคือ อาณาจักรล้านช้างในช่วงสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เป็นอาณาจักรเอกราชเพียงแห่งเดียวที่ไม่ถูกพระเจ้าบุเรงนองพิชิตได้ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชพระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ไม่ยอมพ่าย และทรงมีขัติยมานะอย่างยิ่ง จึงได้ชื่อว่า ไชยเชษฐา แปลว่า ผู้ชนะพี่ชาย นัยคือ ผู้ชนะพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งบุเรงนอง แปลว่าพระเชษฐานั่นเอง ซึ่งพระองค์เป็นมหาราชที่ไร้เทียมทานและสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
    แต่สมัยพระมหาธรรมราชาที่ 3 แห่งสุโขทัย พระองค์ทรงยกพระธิดา ให้กับพระเจ้ากรุงอยุธยา ภายหลังพระนัดดาก็ได้ครองอยุธยาและรวมแผ่นดินเหนือ(สุโขทัย)ใต้(อยุธยา)สำเร็จ ทั้งนี้ทั้งนั้นใช่ว่าสุโขทัยจะไร้กำลังต่อสู้โดยสิ้นเชิงแต่เพราะเล็งเห็นการณ์ไกลนั่นเอง ซึ่งภายหลังราชวงศ์สุโขทัย (ราชวงศ์พระร่วง) ก็ได้ครองอยุธยาจนสืบต่อมาจนถึงรัตนโกสินทร์
    จะเห็นได้ว่าการไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่ทิ้งทายาทนั้นก็เท่ากับทำลายทุกสิ่งที่มีมาแต่อดีตและจบอนาคตในยุคของตนเองเช่นกัน

    2. เหตุใดพระที่มาจากสายธรรมยุติ จึงได้ยศขุนนางพระฐานันดรศักดิ์ใหญ่ที่สุด
    ทั้งที่มหานิกายมีวัดและจำนวนพระในปกครองมากกว่า

    ตอบ สมัยนั้นพระเจ้าบุเรงนอง ทรงเป็นศิษย์ของพระมหาเถระวัดกุโสดอ พระองค์จึงให้การอุปถัมภ์พระสงฆ์และศิษย์สายนี้ เช่นเดียวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์เป็นศิษย์พระมหาเถรคันฉ่อง พระองค์ก็ทรงอุปถัมภ์แก่พระสงฆ์และศิษย์สายนี้เป็นพิเศษเช่นกัน

    3.เหตุใดพระที่สรีระไม่เน่าเปื่อย จึงมีจำนวนมากกว่าพระที่มีอัฐิธาตุเป็นแก้วใส

    ตอบ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้น อาณาจักรละโว้ มีอำนาจและเป็นญาติกันกับอาณาจักรมอญโบราณและเป็นพื้นที่แรกของการประดิษฐานพระพุทธศาสนาในภูมิภาคนี้ อันมีที่มาจากพระสงฆ์นิกายหินยานที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้ส่งมาเผยแผ่ หลังจากนั้นหลายร้อยปีเมื่อสมัยขอมพระนครเรืองอำนาจ พระสงฆ์ฝ่ายมหายานที่มาจากทิเบตได้เป็นที่นับถือของคนในสมัยนั้นมาก เมื่อขอมพระนคร สามารถครองพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้งหมด จึงได้เผยแผ่ลัทธินี้เข้ามา วิชานั่งตาย (ไม่เน่ากลายเป็นหิน) ก็เป็นของมหายาน หินยานจึงได้ปนกับมหายานจนแยกกันไม่ออก ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยประกาศเอกราชได้ จึงได้รับการฟื้นฟูโดยการไปรับเอา (หินยาน) มาจากลังกามา จึงมีหินยานเดิมกลับมาอีก แต่เมื่ออาณาจักรอยุธยามีอำนาจมากขึ้นได้รวมเอาสุโขทัยไว้ในอำนาจ ก็ได้รับเอาวัฒนธรรมของขอมพระนคร กลับเข้ามาใช้ในดินแดนนี้อีก ศรัทธาในมหายานที่ผสมหินยานได้ผสมกันอย่างลงตัวจึงกลายเป็นของถูกใจคนในดินแดนนี้อย่างลงรากลึก แม้ในสมัยรัตนโกสินทร์จะพยายามนำหินยานแบบดั้งเดิมกลับมาใช้อีก เมื่อเทียบความสำเร็จก็ยังเติบโตไม่เท่ากับมหายานที่มีมายาวนานนั่นเอง

    4.เหตุใดปัจจุบันสถานปฏิบัติธรรม ที่สร้างมาจากพระสาวกที่มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวกัน จึงมีมากขึ้น
    แทนที่จะปฏิบัติตามแนวพระอาจารย์มั่นแต่ฝ่ายเดียว

    ตอบ ในแคว้นภูกามยาว สำนักอิสิเทพ แห่งดอยด้วน พญางำเมือง เป็นศิษย์สำนักนี้ สมัยยุคอาณาจักรละโว้ สำนักเขาสมอคอน ของสุกกทันตฤาษี ก็เป็นสำนักหนึ่งที่สอนศิลปะวิทยาให้กับบุตรของเจ้าผู้ครองนครต่างๆในดินแดนสุวรรณภูมิ แต่ที่ทราบกันดีคือ มีพญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหง เป็นศิษย์สำนักนี้ และภายหลังสำนักเหล่านี้ได้ย้ายหรือยุบไปเมื่อใดไม่สามารถหาหลักฐานที่บันทึกในประวัติศาสตร์มายืนยันได้
    ขณะเดียวกันสำนักเขาอ้อ ก็ได้สอนศิลปะวิทยาให้กับบุตรเจ้าเมืองในดินแดนทางใต้มาตั้งแต่ยุคศรีวิชัยเช่นกัน แต่ที่ทราบกันดี มีพระยาทุกขราษฎร์ ที่เดิมชื่อ ช่วย เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนบุตร 3 คนของขุนศรีสัจจัง เป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงและยศสูงที่สุดของสำนักนี้ ถึงจะมีบางตำนานที่ว่า พระเจ้าเสือก็เป็นศิษย์สำนักนี้ แต่พระองค์ก็มิได้เป็นองค์รัชทายาทในพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงศรีอยุธยา ที่มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะขึ้นครองบัลลังค์ ถึงกระนั้นสำนักนี้ก็มีการสอนสืบทอดต่อมาได้จนถึงปัจจุบัน
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผู้ปฏิบัติจะต้อง โอปนยิโก ต้องปฏิบัติย้อนเข้ามา ๆ จนถึงจิต แล้วภัยอะไร ๆ ที่เกิดจากจิต เห็นโทษกันในจิต
    ความคิดความปรุงความสำคัญมั่นหมายใด ๆ ที่จิตไปเกี่ยวข้อง จิตปรุงแต่ง ไปสำคัญมั่นหมายกับสิ่งใด ๆ
    นั้นเป็นไปจากจิต อาการของจิตที่แสดงออกโดยที่เจ้าตัวไม่ทราบทางด้านสติปัญญา เพราะสติปัญญา
    ยังไม่สมบูรณ์ก็หลงสิ่งนั้น ๆ เมื่อสติปัญญาซึ่งได้รับการอบรมอยู่เสมอ มีความแกล้วกล้าสามารถไปโดยลำดับแล้ว
    แม้แต่ขณะจิตที่แสดงออกปรุงถึงรูปนั้น เสียงนี้ กลิ่นนั้นอะไรอย่างนี้ มันรู้ทันที ๆ ไม่มีอะไรเป็นภัยนะ
    มันมีตั้งแต่เรื่องขันธ์ ๕ นี่เป็นภัยต่อจิตใจอยู่เท่านี้

    รูปเขาก็เป็นรูปมีมาแต่ดั้งเดิมตั้งแต่เรายังไม่เกิด เสียงก็มีมาตั้งแต่เรายังไม่เกิด ผลัดเปลี่ยนวนเวียนกันไปมาอยู่เช่นนี้
    กลิ่น รส เครื่องสัมผัสก็เหมือนกัน มันอยู่ตามสภาพของมัน เราจะว่ามันมีไม่มี ว่ามันดีไม่ดีมันก็ไม่มีความรู้สึก
    มีความหมายในตัวเองของมัน นอกจากจิตเจ้าตัวจอมโง่และจอมมายาสาไถยหลอกลวงตัวเองให้ไปติดกับมัน
    โดยสำคัญว่าสิ่งนั้นเป็นนั้น สิ่งนี้เป็นนี้ อันนั้นดีอันนี้ดี ไม่มีอย่างอื่นที่มาหลอก

    นี่ปัญญาเมื่อเวลาพิจารณาแล้วตะล่อมเข้ามา มันรู้ตัว ทีนี้จิตจะไปคิดให้เสียเวล่ำเวลาอะไร รูปก็รูปแล้วนั่น
    จะคิดให้มันเป็นอะไร ปรุงขึ้นมาทำไม เสียงก็เสียง กลิ่นก็กลิ่น รสก็รส มันมีอยู่ตามหลักธรรมชาติของมัน
    เวลานอนหลับสนิทไม่เห็นไปคิด ไม่มีฝันแล้วไม่เห็นสิ่งเหล่านี้มันเกี่ยวข้อง เหมือนกับมันไม่มี มันไปอยู่ไหน
    เวลาจิตดับกิเลสอย่างสนิทแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่เห็นเข้าไปเกี่ยวข้อง ใจเป็นยังไงเวลานี้มันถึงเกี่ยวข้องนัก
    ก็เพราะว่ามันมีสายโยงกันยุ่งอยู่ภายใน เราตัดมันยังไม่ขาด ปัญญาจึงย้อนเข้ามาพิจารณาให้เห็นตามความจริงของมัน

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สิ่งที่ยึดถือได้ไม่ผิดหวังก็คือพุทโธ ธัมโม สังโฆ ดังที่ท่านแสดงไว้ในธรรมว่า พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ สรณํ คตา.
    ผู้ใดมาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ได้โดยลำดับโดยไม่ต้องสงสัย
    การไปพึ่งที่นั่นที่นี่ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์วิเศษ มันศักดิ์สิทธิ์วิเศษแต่ความสำคัญเจ้าของเฉยๆ ไปไหว้เจดีย์ร้าง ต้นไม้ใหญ่
    ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะมาให้ความดีความชอบแก่เรา ต้นไม้ก็เป็นต้นไม้ อิฐปูนหินทรายที่ก่อเจดีย์ร้างเอาไว้มันก็เป็นอิฐปูนหินทราย
    ตั้งแต่ตัวมันเองก็ยังร้าง มันจะดิบดีที่ตรงไหน

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  16. โคกปีป

    โคกปีป สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +20
    แค่อ่านและฟังธรรมจากพระอรหันต์สามารถบรรลุธรรมได้หรือครับ มีคนที่ผมรู้จักคนหนึ่งแม้จะอ่านพระไตรปิฏกจนจบ เข้าใจในอภิธรรมและปราช์ญาแม้แต่เรื่องนิพพาน แต่ผมก็เห็นเขาเอาคนอื่นมาเล่าว่าไม่ดีอย่างงั้นไม่ดีอย่างงี้ เขาสอนคนอื่นได้แต่ตัวเขาเองยังร้อนอยู่ดี เหมือนพัดลมเลยครับ พัดคนอื่นเย็นแต่ตัวเองร้อน ผมว่าเหมือนจขกท.เลยครับ ผมไม่ชอบเลยคนที่ทำตัวเป็นคนดี แต่ชี้หน้าคนอื่นว่าเลว เขาเรียกว่ายกตนข่มท่าน โบราณว่าคบไม่ได้
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมไม่ได้ว่าใครดีหรือเลวครับ ความชอบเป็นคนดีไม่ชอบเป็นคนเลวความคิดคุณแคบมาก คนไม่ชอบผมไม่ได้หมายความว่าเป็นคนเลว
    คุณคิดเอาเอง คิดมากไปครับ "ชอบ" คือชอบไปในทางดีก็ได้ ชอบไปในทางไม่ดีก็ได้ "ไม่ชอบ" คือ ไม่ชอบไปในทางดีก็ได้ ไม่ชอบไปในทางไม่ดีก็ได้
    คุณไม่พอใจผม ไม่ชอบผม แต่ไม่ได้หมายถึงผมเลวหรือหมายถึงคุณเลว มันเป็นแค่ความรู้สึกชอบกับไม่ชอบ คนดีคนเลวเขาดูกันที่การประพฤติปฏิบัติครับ
    ผมยกคำสอนของครูบาอาจารย์มาให้อ่าน คนที่ชอบเขาก็อนุโมทนา คนที่ไม่ชอบเขาก็ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติ
    ลาภ ยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ เป็นเรื่องปกติของโลก มันเป็นอย่างนี้และจะเป็นอย่างนี้และจะไม่เป็นอย่างอื่น
    ความเย็นมีหลายระดับหลายเบอร์ ใจร้อนเอาพัดลมเป่ามันไม่หายร้อน ไปพึ่งเจ้าพ่อเจ้าแม่ไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นมันยิ่งร้อนไปใหญ่
    วิ่งไปรดน้ำมนต์ ไปสะเดาะห์เคาะห์ เซ่นสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่ เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเปล่าประโยชน์ ขอไปเหนื่อยเปล่า
    คนสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิขึ้นมาด้วยมือแล้วไปงมงายว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ ทั้งที่ตัวเองสร้างขึ้นมากับมือแต่มองไม่เห็น ไม่เรียกงมงายแล้วเรียกว่าอะไร
    อยากหายร้อนต้องพึ่งธรรม ต้องใช้อริยสัจครับ ต้องพึ่งธรรมพึ่งตนเอง ครูบาอาจารย์ก็ช่วยใครไม่ได้ท่านแค่บอกทาง ที่เหลือต้องพึ่งตนครับ
     
  18. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    อย่าคิดมากเลยครับท่านทั้งหลาย เปิดใจกว้าง

    ธรรมมะนั้นดีที่สุด
    แต่ว่าแต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตน
    มีระดับจิตระดับภูมิธรรมเป็นของตน
    เราอาจจะอยากแสวงหาความพ้นทุกข์
    คนอื่นๆอาจจะแค่ให้ชีวิตนี้สบาย
    แต่ทั้งสองฝ่ายก็ล้วนสร้างกรรมดี
    เป็นคนดีคิดดีทำดีก็น่าจะพอแล้ว
    คนที่ยังไม่หวังความหลุดพ้น
    ให้เขาเสพสุขสร้างบุญบารมีไปเรื่อยๆ
    เดี๋ยวชาติใดชาติหนึ่งที่บารมีถึงพร้อม
    พวกเขาก็คิดได้ว่า การเวียนว่ายตายเกิด
    ถึงมีความสุขบ้าง ก็ยังน่าเบื่ออยู่
    ถามว่าเทพเทวดา ก็คือดวงจิต
    เราตายไป เราก็เป็นดวงจิต
    ดวงจิตมาเกิด ก็เป็นคน
    ฉะนั้น จะเป็นคน เทพ ผีเปรต อสุรกาย
    หรืออะไรก็แล้วแต่
    ทั้งหมดทั้งมวลเท่าเทียมกันครับ
    การจะกราบไหว้ดวงจิตระดับไหน
    ก็สามารถทำได้ เรามีสิทธิจะเคารพวิญญาณ
    ให้มองเหมือนกับ เรากราบไหว้ิวิญญารบรรพบุรุษ
    ปู่ ย่า ตา ยาย ท่านเป็นที่รักของเรา
    ท่านมีพระคุณต่อเรามาก
    ทำไมไม่มีใครบอกว่างมงายล่ะ

    ฉะนั้น การกราบไหว้จิตวิญญาณ
    ไม่ใช้เรื่องที่ผิดหรืองมงาย
    ความงมงายที่แท้จริงคือ
    เราปล่อยให้คนไม่ดีใช้เราเป็นเครื่องมือ
    จิตวิญญาณก็มีทั้งวิญญาณที่ดีและไม่ดี
    ถ้าเราไปเคารพกราบไหว้วิญญาณที่ไม่ดี
    แล้วไปปฎิบัติตามคำสั่งที่เขาให้ทำ
    แบบนี้ถึงเรียกงมงาย
    เรากราบไหว้พี่ป้าน้าอาเพื่อให้เขาอนุเคราะห์ช่วยเหลือ
    การกราบไหว้ผีสางนางไม้
    ถ้าพวกเขาช่วยเราได้ ก็เป็นเรื่องดี
    แต่เราทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า
    เราจะเอาแต่แบมือรอคอย
    ให้คนอื่นช่วยอย่างเดียวตลอดไปไม่ได้
    เราต้องสร้างบุญสร้างบารมีด้วยตนเองบ้าง
    หากเราปฏิบัติตามคำสอนของพุทธองค์อย่างดี
    เป็นคนดีเต็มขั้น
    อยากจะกราบจะไหว้สิ่งใด
    ให้มีสติ ทำได้ครับ ไม่ผิดเลย

    มองว่าจิตเหล่านั้นเคารพได้
    แต่อย่ายกให้สูงจนเกินไป
    เพราะท่านทั้งหลายที่เป็นดวงจิต
    อาจมีทั้งผู้ที่ปฏิบัติดีและไม่ดี
    ยังไงเสียการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธต้องมาก่อน
    อะไรที่ขัดแย้งกับคำสอน ต้องงดเสีย มิฉะนั้นเป็นงมงายทันที
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่มีพระเจ้า ไม่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่นับถือภูตผีปีศาจ ไม่นับถือเทพเจ้า ไม่นับถือศาลพระภูมิ ไม่นับถือต้นไม้ใหญ่
    พระพุทธเจ้าเจ้าทรงมอบพระธรรมเป็นศาสดา พระองค์ทรงให้นับถือพระธรรมและวินัยเป็นศาสดา พระพุทธศาสนาสอนให้พึ่งธรรมพึ่งตนเอง
    ไม่ใช่การสวดมนต์ขอพร คนขอพรเดินเวียนรอบก้อนหิน ขอให้ก้อนหินลอยเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับการขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอง
    โดยที่คนเอาแต่ขอ แต่ไม่ทำด้วยตนเอง อาศัยแต่ความเชื่อที่งมงาย ที่ฟังตามกันมาว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มี
    ใครป่วยอยากตาย ไปขอก้อนหินหรือขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ใครป่วยไม่อยากตาย ไปขอก้อนหินหรือขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ใครจนอยากรวย ไปขอกับก้อนหินไปขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ใครทุกข์อยากสุข ไปขอกับก้อนหินไปขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ไม่ต้องมีศาสนา ไม่ต้องมีวัด ไม่ต้องมีพระ ไม่ต้องมีโรงพยาบาล ไม่ต้องมีหมอ
     
  20. โคกปีป

    โคกปีป สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +20
    ถามครับ แล้วพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ในลานสวนโมกข์ของท่านพุทธทาส มีไว้ใช้ประโยชน์อันใดครับ ตอบด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...