หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมานอ.ด่านขุนทด นครราชสีมา

สุดยอดพระยอดธงของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
รุ่น 80 ปี และ รุ่น 5 (รุ่นเล็ก)
พระเทพวิทยาคม หรือ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระเกจิอาจารย์ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการสร้างวัตถุมงคลพุทธคุณด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี และมหานิยม
 
1. พระยอดธงรุ่น 5 (รุ่นเล็ก)
ท่านได้บรรจงสร้างวัตถุมงคล "พระยอดธง รุ่น 5" ซึ่งบางคนเรียกกันว่า รุ่นเล็ก แต่บางคนเรียกรุ่นนี้ว่า "พระยอดธง รุ่นท้ายิง" พระยอดธงรุ่นนี้ สร้างเมื่อประมาณปี 2543 มีทั้งเนื้อนวะโลหะ และเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อคูณจะเก็บเอาใว้ในลังไม้ภายในห้องจำวัดส่วนตัว ไม่มีการวางจำหน่ายภายในวัดบ้านไร่ ท่านปลุกเสกทุกๆ เช้าในเวลา 04.00 น.ของทุกวัน โดยเรื่องนี้ไม่มีศิษย์ใกล้ชิดคนไหนทราบแม้แต่คนเดียวว่าภายในลังไม้ที่ท่านประกอบพิธีปลุกเสกมาเป็นเวลาถึง 5 ปีนั้นคืออะไร

วันหนึ่งหลวงพ่อคูณได้เรียก พระมหาสุริยา อภิวฑฺฒโน หรือพระมหาโอเล่ ซึ่งเป็นพระที่หลวงพ่อคูณได้ส่งเสียให้ไปศึกษายังกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาในระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค โดยพระมหาโอเล่นี้ หลวงพ่อคูณได้เมตตาแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่แทนตัวท่าน ก่อนที่หลวงพ่อคูณต้องเข้ารับการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจที่รพ.ศิริราช กรุงเทพฯ

หลวงพ่อคูณกล่าวกำชับกับพระมหาโอเล่ว่า หากตนเองเกิดมรณภาพในการอาพาธในครั้งนี้ ให้นำของในลังไม้ที่ปลุกเสกมาทุกวันนำออกไปให้ใครลองยิงดู หากยิงออกก็ให้นำไปทิ้งแม่น้ำชี หากยิงไม่ออกให้แจกแขกผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมในพิธีงานศพของหลวงพ่อ ซึ่งในขณะนั้นพระมหาโอเล่ก็นึกแต่เพียงว่าท่านอาจจะพูดเล่น พูดหยอกให้ตกใจเล่นจึงไม่ได้คิดอะไร

แต่หลังจากที่หลวงพ่อคูณเข้ารับการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ สุขภาพท่านเริ่มดีวันดีคืน อารมณ์ของท่านแจ่มใส ยามที่มีคณะศิษย์ที่เป็นทหารตำรวจในระดับผู้นำหน่วย ท่านมักจะเรียกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของท่าน จากนั้นท่านจะถามว่า "พวกมึงพากันมากี่คน" โดยที่ไม่ยอมให้ศิษย์ใกล้ชิดตามเข้าไปด้วย จากนั้นท่านใช้ลูกกุญแจที่ผูกติดกับสายประคดรัดเอวท่านไขลังไม้ พร้อมหยิบพระยอดธง รุ่น 5 หรือที่เรียกกันว่า "รุ่นเล็ก" มอบให้กับมือ แล้วท่านจะพูดกับทุกๆ คนว่า "มึงรองเอาไปยิงดูเด้อหลาน" ทำให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลายคนเรียก พระยอดธง รุ่นนี้ว่า "รุ่นท้ายิง"

วันหนึ่งได้มีคนโทรศัพท์มาจากจังหวัดชลบุรี โทร.มาถามหลวงพ่อคูณว่า"หลวงพ่อครับพระยอดธงที่อยู่ในห้องหลวงพ่อหมดแล้วหรือยัง" หลวงพ่อคูณ ตอบว่า "ยัง มึงจะทำไม" คนที่โทร.มาตอบว่า "ผมอยากได้ครับ" หลวงพ่อคูณตอบไปเล่นๆ ว่า "เอาไหมเล่ากูจะขายให้มึง" คนโทร.มาถามว่า "หลวงพ่อให้เช่าองค์ละเท่าไหร่" หลวงพ่อคูณตอบเล่นๆ ว่า องค์ละ 5 หมื่นบาท คนที่โทร.มาตอบว่า "เอาครับ ผมต้องการ 4 องค์"
ครั้นวันรุ่งขึ้น เมื่อเวลา 04.00 น. หลวงพ่อคูณตื่นจากจำวัด ต้องพบกลับความแปลกใจ เมื่อคนที่โทร.จากชลบุรีมานั่งรอหลวงพ่อคูณที่หน้าประตูห้องนอน พร้อมกล่าวว่า "หลวงพ่อครับผมมาเอาพระยอดธงที่ผมได้โทร.มาจากชลบุรีเมื่อวานนี้" หลวงพ่อเห็นถึงความอยากได้ของลูกหลานที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาจากชลบุรีถึงวัดบ้านไร่ จึงเดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมทั้งหยิบพระยอดธงมาให้จำนวน 4 องค์ จากนั้นคนที่โทร.มาได้นับเงินจำนวน 2 แสนบาท ถวายให้แก่หลวงพ่อคูณ และได้กราบลาเดินทางกลับไป

หลวงพ่อคูณ กล่าวให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังอย่างชอบใจว่า "มันขายได้ด้วยหรือ" จากนั้นเป็นต้นมาหากใครอยากจะได้พระยอดธง หลวงพ่อคูณมักจะให้บูชาเอากับตัวหลวงพ่อคูณเอง คือองค์ละ 1 หมื่นบาท ซึ่งหลวงพ่อคูณจะบอกว่า "กูจะเอาเงินไปสร้างที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาล และสถานีตำรวจที่หนองบุญนาค"

แม้แต่ทุกวันนี้ใครจะเช่าบูชาต้องขอเช่ากับตัวหลวงพ่อโดยตรง ในราคาองค์ละ 1 หมื่นบาท ซึ่งหลวงพ่อคูณจะนำเงินที่ได้จากการเช่าบูชาไปสร้างสาธารณกุศลที่ยังสร้างค้างคาเอาไว้ ซึ่งพระยอดธง รุ่น 5 นี้ หลวงพ่อคูณสร้างจำนวน 1 หมื่น 5 พันองค์ (รวมทั้ง 2 เนื้อ) โดยใช้เวลาปลุกเสกในทุกๆ เช้าเป็นเวลานานกว่า 5 ปี

2. พระยอดธงรุ่น 80 ปี
ส่วนวัตถุมงคล "พระยอดธง รุ่น 80 ปี" หลวงพ่อคูณสร้างเมื่อตอนอายุได้ 80 ปี โดยการสร้างเป็นเนื้อนวโลหะกับเนื้อตะกั่วเถื่อนเช่นกัน จำนวน 1 หมื่น 5 พันองค์  วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อที่จะปลุกเสกแล้วเก็บเอาไว้เป็นพระกรุ ซึ่งหลวงพ่อคูณคิดว่าตนเองก็ชราภาพมากแล้ว คงจะอยู่ไปได้ไม่นาน ท่านจึงได้สร้างพระยอดธงรุ่น 80 ปีเอาไว้อีก เมื่อยามที่ท่านมรณภาพไปแล้ว และวัดบ้านไร่ต้องมีการชำรุดทรุดโทรมเป็นธรรมดา เกรงว่าเมื่อไม่มีท่านอยู่ในโลกนี้จะไม่มีเงินบูรณะวัดบ้านไร่เมื่อยามทรุดโทรม จึงได้สร้างเอาไว้ โดยเก็บเข้ากรุเป็นทุนบูรณะวัดบ้านไร่ หรือมีใครมาเช่าบูชาก็ให้เช่าในราคาองค์ละ 1 หมื่นบาท ท่านก็จะเก็บเอาเข้าบัญชีวัดบ้านไร่เพื่อบูรณะวัด

แต่เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้น ลูกหลานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภาคใต้หลายคนเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากหลวงพ่อคูณ ซึ่งหลายคนอยากจะเดินทางมากราบขอพรจากหลวงพ่อ แต่ก็ไม่มีโอกาสจะมา ท่านจึงตัดสินใจมอบให้แก่ลูกหลานที่เป็นทหารตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งมอบผ้าจีวรที่ท่านห่ม ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แจกจ่ายไปคู่กับพระยอดธง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจอีกด้วย

พระยอดธงรุ่นครบรอบ 80 ปี จำนวน 5 พันองค์ มอบให้กับ "พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ" รอง ผบช.ตร. นำไปมอบให้ตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า "กูขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขอให้ภาวนา "พุทธสังมิ" ภาวนาอยู่ในใจทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ให้ใครได้ยิน ไปไหนก็ภาวนา เราเป็นชาวพุทธต้องเอาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง"
 
จากการได้ฟังและพูดคุยกับผู้รู้ทราบว่ารุ่นนี้มีประสบการณ์เพียบ มีผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดและเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ซึ่งท่านมีอายุคราวเดียวกับหลวงพ่อคูณ และรู้จักคุ้นเคยกับหลวงพ่อเป็นอย่างดี (ปัจจุบันท่านอยู่อำเภอหนองบุญมาก) บอกผมว่า ถ้าจะแขวนพระหลวงพ่อคูณให้แขวนพระยอดธงรุ่น 5 นี้ ซึ่งตัวแก่เองมีพระหลวงพ่อคูณตั้งแต่เหรียญปี 12 ปี17 ปี19 และอีกหลายรุ่น แต่ผู้ใหญ่ท่านนี้กลับไม่แขวน ท่านบอกว่าพระยอดธงรุ่น 5 ดีที่สุด ปลุกเสกนานที่สุด และที่สำคัญยังไม่มีรุ่นใดของหลวงพ่อที่หลวงพ่อจัดสร้างเองแล้วใส่ลังไม้ล็อกกุญแจเก็บไว้ในห้องนอนอย่างดี โดยไม่มีศิษย์คนใดในวัดบ้านไร่ล่วงรู้

อ้างอิง ฅนโคราชผู้นับถือหลวงพ่อคูณ

 

หลวงพ่อปรารถว่าอยากจะสร้างพระยอดธงอีกสักรุ่นเป็นเนื้อตะกั่วที่เขานำมาถวาย พอดีลูกศิษย์สายด่านขุนทดทราบข่าวก็เลยไปพบหลวงพ่อและขออาสานำเนื้อตะกั่วเถื่อนที่ชาวบ้านนำมาถวายท่านไปหล่อเป็นพระยอดธงให้ หลวงพ่อก็อนุญาตและในการหล่อพระยอดธงในตอนนั่นก็ได้พระจำนวนไม่มากนัก ส่วนหนึ่งหลวงพ่อเก็บเอาไว้และอีกส่วนหนึ่งก็แจกจ่ายลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดไป ต่อมาในปีนั้นก็มีชาวต่างชาติเดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อ และร่วมทำบุญกับหลวงพ่อจำนวนหลายคนและหลายครั้ง ในบางครั้งชาวต่างชาติที่มาทำบุญจำนวนมากๆ ซึ่งผมก็เคยเห็นชาวมาเลย์จำนวนหลายคนรวบรวมเงินกันมาทำบุญที่วัดเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาท หลวงพ่อท่านถามว่ามากันกี่คน ลูกศิษย์ที่อยู่ในห้องหลวงพ่อก็ตอบหลวงพ่อไปว่า 5 คนครับหลวงพ่อ เงิน 5 หมื่นครับ หลวงพ่อก็ลุกขึ้นเดินไปที่ลังไม้แล้วก็ไขกุญแจเปิดฝาหยิบพระยอดธงเนื้อตะกั่วเถื่อนขึ้นมาจำนวน 5 องค์ แล้วยื่นให้กับชาวต่างชาติคนละองค์ ก็เลยเป็นที่มาของการพูดต่อมาเรื่อยๆว่าถ้าใครอยากได้พระยอดธงรุ่น 5 (ไม่มีโค๊ด) ก็ต้องทำบุญหนึ่งหมื่นบาทเรื่อยมา ซึ่งผมก็โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการพูดแบบนั้น เพราะว่าในเวลาต่อมาหลายต่อหลายเหตุการณ์พวกตำรวจทหารที่ไปนมัสการหลวงพ่อก็จะได้รับแจกพระรุ่นนี้่จากหลวงพ่อแทบทุกคน ไม่เห็นมีใครต้องทำบุญคนละหนึ่งหมื่นบาทเหมือนที่ได้ยินมาเลยครับ บางคนเป็นคนเดิืนทางมาจากต่างจังหวัดไกลๆไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน เข้าไปหาท่านๆก็เมตตาให้เงินค่ารถกลับบ้านแล้วยังให้พระยอดธงรุ่นนี้อีกหนึ่งองค์

แล้วที่สงสัยกันว่าพระยอดธงรุ่น 5 ท้ายิง ที่ลงประมูลขายกันอยู่ในเว็ปในขณะนี้ทำไมราคาถึงต่ำกว่าในโบว์ชัวร์ ก็ต้องขออธิบายแบบนี้ครับ โบว์ชัวร์ที่พูดถึงนี้เป็นคนล่ะรุ่นกับที่ลงประมูลครับ พระที่อยู่ในโบว์ชัวร์นั่นก็เป็นรุ่นห้าเหมือนกันแต่หลวงพ่อเห็นแล้่วไม่ชอบใจด้วยเหตุผลอะไรผมไม่ทราบแต่ไม่มีวางจำหน่ายที่วัด จะมีวางจำหน่ายอยู่บนวัดก็เป็นเพียงพระยอดธงรุ่น5 เนื้อตะกั่วกับเนื้อนวโลหะที่มีสองโค๊ดที่มีการลงประมูลกันในขณะนี้ครับ สำหรับราคาเช่าบูชาจากวัดในขณะนั่นเนื้อตะกั่วทางวัดให้บูชาองค์ละ 300 บาท สำหรับเนื้อนวโลหะบูชาองค์ละ 1000 บาท ครับ เท่าที่ผมทราบก็มีแค่นี้ครับ

ดาบนายด่านขุนทด

 

ขอบคุณข้อมูลครับที่สละเวลารวบรวมข้อมูลมางไว้ เยี่ยมครับข้อมูลแบบนี้นับเป็นอีกด้าน

อีกมุมที่ให้ศึกษา.......เดี๋ยวคงต้องเอาที่เก็บไว้มาดูเปรียบเทียบ

 

พระยอดธงหลวงพ่อคูณนับได้ว่าเป็นพระเครื่องยอดนิยมพิมพ์หนึ่ง ที่บรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลายต่างหมายปองจ้องเก็บกันเป็นจำนวนมาก เนื่องในโอกาสที่จะเวียนมาถึงอีกรอบในวันที่ ๔ ตุลาดม ๒๕๔๐ ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่๗๕ ของหลวงพ่อคูณ ประกอบกับหลวงพ่อคูณได้เอ่ยปากปรารภกับศิษย์ว่าอยากให้วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธสร้างเสร็จสมบูรณ์โดยเร็ววัน ซึ่งงบประมาณที่ยังขาดกว่า ๑๐๐ล้านบาท เป็นปัญหาทำให้งานไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ท่านจึงมอบหมายให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ท่านไว้วางใจ คือโรงงานคูณลาภ คูณเงิน คูณทอง ที่เคยเป็นผู้ออกแบบและสร้างพระยอดธงรุ่นแรกทูลเกล้าฯ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง พระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) นี้ขึ้น อีกทั้งยังมอบชนวนพระยอดธงรุ่นแรกทูลเกล้าฯ และตะกั่วเถื่อนที่ท่านเก็บรักษาอย่างดีไปเป็นส่วนผสม จึงเป็นที่มาของพระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) ด้วยประการนี้ พระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕)นี้จัดสร้างพิมพ์เดียว มีด้วยกัน๒เนื้อ คือเนื้อนวะและเนื้อตะกั่ว จำนวนสร้างเนื้อนวะ ๑๐,๐๐๐ องค์ เนื้อตะกั่ว ๑๐,๐๐๐ องค์ พระยอดธงรุ่นนี้หลังจากสร้างออกมาปรากฎว่าพระชำรุดไม่สมบูรณ์เป็นจำนวนมากทั้ง๒เนื้อรวมประมาณ๕,๐๐๐องค์ คงเหลือพระสภาพสมบูรณ์ประมาณ๑๕,๐๐๐องค์ และเปิดให้จองวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๐ เนื้อนวะราคาจององค์ละ ๒,๐๐๐บาท เนื้อตะกั่วราคาจององค์ละ ๑,๐๐๐บาท ปิดจองวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๐ รับพระได้ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๐ เป็นต้นไป สำหรับการตอกโค้ตนั้น เริ่มแรกตอกโค้ตที่เดือย แต่เกิดปัญหาเนื่องจากการตอกโค้ตที่เดือยนั้นตอกยาก ใช้เวลามากและทำให้พระชำรุด จึงมีการเปลี่ยนที่ตอกโค้ตใหม่ โดยตอกโค้ต ๒โค้ตที่ใต้ฐานคือโค้ต “คูณ” และโค้ต “นะ” ดังนั้นพระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕)นี้ จะต้องมีโค้ตทุกองค์ พระจำนวนน้อยตอกโค้ตที่เดือย ส่วนใหญ่จะตอกโค้ตที่ใต้ฐาน หลวงพ่อคูณปลุกเสกตลอดไตรมาสปี ๒๕๔๐ ครับ หลังจากเปิดให้รับพระ คณะกรรมการวัดได้นำพระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕)นี้มอบให้หลวงพ่อคูณจำนวนหนึ่ง หลวงพ่อคูณได้นำไปเก็บไว้ในลังไม้รวมกับพระพิมพ์อื่นๆอีกหลายพิมพ์ภายในห้องจำวัดส่วนตัว ซึ่งท่านทำวัตรทุกๆ เช้าในเวลา ๐๔.๐๐น.ของทุกวัน ก่อนที่หลวงพ่อคูณต้องเข้ารับการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ ที่รพ.ศิริราช กรุงเทพฯ หลวงพ่อคูณกล่าวกำชับกับลูกศิษย์ว่า หากตนเองเกิดมรณภาพในการอาพาธในครั้งนี้ ให้นำของในลังไม้แจกแขกผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมในงานพิธีศพของหลวงพ่อ แต่หลังจากที่หลวงพ่อคูณเข้ารับการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ สุขภาพท่านเริ่มดีวันดีคืน อารมณ์ของท่านแจ่มใส ยามที่มีคณะศิษย์ที่เป็นทหารตำรวจในระดับผู้นำหน่วย ท่านมักจะเรียกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของท่าน จากนั้นท่านจะถามว่า "พวกมึงพากันมากี่คน" โดยที่ไม่ยอมให้ศิษย์ใกล้ชิดตามเข้าไปด้วย จากนั้นท่านใช้ลูกกุญแจที่ผูกติดกับสายประคดรัดเอวท่านไขลังไม้ พร้อมหยิบพระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) มอบให้กับมือ แล้วท่านจะพูดกับทุกๆ คนว่า "มึงรองเอาไปยิงดูเด้อหลาน" ทำให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลายคนเรียก พระยอดธงรุ่นนี้ว่า "รุ่นท้ายิง" เมื่อมีผู้มีจิตศรัทธามากราบและบริจาคเงินร่วมทำบุญกับหลวงพ่อคูณ ไม่ว่าจะบริจาคเงินมากหรือน้อย หลวงพ่อคูณก็จะแจกพระให้ แล้วแต่ว่าหลวงพ่อคูณจะหยิบพระอะไรในลังไม้ให้ บางคนได้พระกริ่ง บางคนได้พระยอดธงรุ่น๘๐ ปี บางคนได้พระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) บางคนได้พระยอดธง๒๐๐๐ ฯลฯ หลวงพ่อคูณท่านไม่เคยเรียกร้องหรือกำหนดการรับบริจาคเงินทำบุญว่าบริจาคเท่านี้ถึงจะได้พระรุ่นนี้ หลังจากออกพระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕)ไม่นาน ปรากฏว่าเป็นที่ต้องการของประชาชน จึงมีผู้ลักลอบนำพระจากกุฏิหลวงพ่อคูณออกไปจำหน่ายข้างนอก พอหลวงพ่อคูณทราบเรื่องประกอบกับมีปัญหาเรื่องขัดผลประโยชน์วัตถุมงคลภายในวัด หลวงพ่อคูณจึงให้กรรมการวัดนำพระในลังไม้ทั้งหมดและวัตถุมงคลทั้งหมดที่มีอยู่ในวัด พร้อมทั้งเรียกให้นายทุนและผู้สร้างในแต่ละรุ่นมารับพระคืน ครั้นนายทุนและผู้สร้างมารับพระคืน ก็จะรับคืนไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็มอบให้กับทางวัด วัตถุมงคลที่นายทุนและผู้สร้างมอบให้กับทางวัด หลวงพ่อคูณให้กรรมการวัดนำออกให้บูชาทั้งหมดโดยลดราคาวัตถุมงคลทั้งหมดลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้วัตถุมงคลหมดไปจากวัด และเพื่อเป็นการยุติปัญหาความขัดแย้งเรื่องขัดผลประโยชน์วัตถุมงคลภายในวัด หลวงพ่อคูณจึงไม่อนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลอีกเป็นเวลานานหลายปี พระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) นี้มีประสบการณ์ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของทหาร ตำรวจและประชาชนทั่วไป ใช้เวลาไม่นานนักพระชุดนี้ถูกบูชาไปจนหมด หลังจากนั้นไม่นานของเก๊ก็ออกมามากมาย พระยอดธงปริสุทโธ รุ่นพิเศษ (รุ่น๕) โดยเฉพาะเนื้อนวะได้นำชนวนพระยอดธงรุ่นทูลเกล้าฯมาเป็นส่วนผสม ราคาเช่าบูชาในปัจจุบันยังไม่แพง และของแท้-เก๊แยกแยะกันไม่ยาก จึงเป็นพระดีที่น่าใช้และเก็บสะสมครับ ประชาชนส่วนใหญ่มักเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณไว้ติดตัวจนลืมนึกถึงคติธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณ แม้หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ จะไม่ใช่พระนักเทศน์ แต่จากคำพูดตรงๆง่ายๆ ของหลวงพ่อคูณก็ได้แทรกหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ เป็นการเตือนสติในการประพฤติปฏิบัติ เพื่อพัฒนาจิตใจของพุทธศาสนิกชนให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อจะเกิดประโยชน์สุขในการดำรงชีวิต ซึ่งจะเป็นผลต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม ท้ายนี้ผมขอนำคติธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณมาปิดท้ายครับ “คนที่ไปพูดไปถามเขามามากๆ อย่างมึงนี่ เคยสอนตัวเองบ้างไหม ก่อนจะสอนเขามึงต้องสอนตัวเองก่อน เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนจะไปเอาชนะใจคนอื่น... คนมีความรู่ เขาจะไม่ดุ๊ ไม่บ่นไม่พูดจากระทบกระเทียบเปรียบเปรย เสียดสีใดๆ เป็นอันขาด ต่อหน้ายกย่องลับหลังนินทานั้นอย่าได้ทำใครได้ยิน...เขาจะตำหนิเอาได้ พระสงฆ์ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นพระจริงๆจะฉันง่าย อยู่ง่าย ส่วนพระเล่นๆ นั้นฉันก็ยากอยู่ก็ยาก”

อ้างอิง คุณเขียวเหลือง

 

ด้วยความยินดีครับ พี่ Jumbo A
การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลนี่แหละที่เป็นความสนุกอย่างนึง
ในการสะสมพระเครื่อง แต่ไม่ว่าข้อมูลจะแตกต่างกันไปบ้าง
ส่วนตัวผมก็ยังเชืิ่อว่าพระรุ่นนี้ดี และผ่านการปลุกสร้างจากหลวงพ่อคูณ
ที่เราศรัทธาอย่างแน่นอนครับ

 

อ่านเรื่องพระยอดธงแล้ว เหมือนว่าเคยได้จากมือหลวงปู่คูณ ตอนไปนิมนต์ท่านมาปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดเขาตำบล

แต่จำได้ว่า..... ให้คนอื่นไปแล้ว เพราะเห็นว่าตัวเองได้ฝังตะกรุดใต้แขนมาแล้ว

มาอ่านข้อความนี้ รู้สึกเสียดาย คิดแต่ว่า..... เราคงไม่ใช่เจ้าของ :'''(

 

ด้วยความยินดีครับท่านการได้รับข้อมูลแตกต่างกันสำหรับผมก็ถือว่าดีทำให้เรา

มาวิเคราะห์ต่อไปและใช้ความเชื่อประสบการณ์ประสบเกินของตนเอง มา

ประกอบ สนุกดี เพลินดี มีความสุข

พระของหลวงพ่อสำหรับผมก็ขอให้ท่านได้เสกผมว่าดี รุ่นไหนก็ได้ดีกว่ารุ่นนิยม

แล้วไม่ได้เสก แต่ก็มีที่สนองความอยากได้อยากมีของตนเองผมก็ไปตามรุ่นปี

เก่าๆลึกๆเช่น 12 17 และปีสองกว่าๆ มันเป็นความชอบส่วนตัวและตาม

อัตถภาพไม่ได้เดือดร้อนตนเอง....พระหลวงพ่อที่เลี่ยมทองสององค์ของผมก็

ไม่ได้รุ่นนิยมอะไร มีให้เห็นทั่วไปบูชาองค์ละไม่ถึง300บาท หลังๆมานี้ชอบ

เก่าดีปีลึกราคาเบาๆ......

อย่าไปเสียดายเลยให้เขาไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ คนได้รับไปมาอ่านเขาก็ปิติ

ยินดี ว่าเขาได้ของดีจากเราไปผมให้พระรุ่นน้องไปหลายคน เขาเอาไปเลี่ยม

ทองแขวน บ้างก็เล่าว่าเอาไปเจอพระท่านจับพลุงพลังอะไรได้ บอกของดีมาก

เขามาเล่าให้เราฟังก็ยินดีไปกับเขาด้วย......เขาก็ว่าเราให้ของดี

ยินดีมีความสุขไปดีกว่าที่เราได้ให้ของดีแก่เขาไป............

และจะน่ายินดีอย่างมากถ้าไปค้นเจออีกองค์แล้วมาให้ผม............555

 

เข้ามารอติดตามข้อมูลเงียบๆครับ

 

รูปหล่อหลวงพ่อคูณ

รุ่น ลายเซ็นใต้ฐาน มหามงคล19 สร้างปี 2539 พี่ๆมีข้อมูลรุ่นนี้ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

[/u

 

หลวงพ่อคูณ - ศูนย์รวมข่าวหลวงพ่อคูณ

อาการอาพาธหลวงพ่อดีขึ้นครับ ติดตามอ่านได้ครับ

 

ขอให้หลวงพ่อหายไวๆ นะครับ

 

กราบหลวงตาครับ

 

กราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ



จีวรและตะกรุด สมเด็จหลวงพ่อคูณ

 

---------------------ถ้าจะไปเยี่ยมหลวงพ่อคูณ ตอนนี้ท่านอยู่ไหนครับ

 

หลวงพ่อคูณ - ศูนย์รวมข่าวหลวงพ่อคูณ

ข่าวหลวงพ่อกลับ

ข่าวว่ากลับวันนี้นะครับช่วงบ่าย แต่ก็งดเยี่ยมครับอาทิตย์แรก คงไปกราบไหว้ได้บริเวณศลาหน้ากุฎิท่านครับ

 

ติดตามข่าวหลวงพ่อมาตลอด ท่านกลับวัดได้แล้ว แต่ห้ามเยี่ยมเพราะอาจทำให้ท่านติดเชื้อซ้ำอีก

เมื่อคืนฝันดีมากๆ ฝันแปลก ฝันว่าได้สร้างพระถวายหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จำนวนหนึ่งเนื้อว่านผสมผง คำหมาก สักประมาณ๕พันองค์ ในจำนวนนี้มีพระกริ่งเนื้อโลหะ ๒ องค์ พอท่านรับพระเสร็จ หลวงปู่คำพันธ์ท่านก็เสกพระให้

ภาพให้มองเห็นหลวงพ่อองค์หนึ่งกำลังจารแผ่นเงินหนึ่งแผ่น จารเสร็จก็ตัดแบ่งครึ่ง ยื่นให้ไปติดที่ก้นพระกริ่ง ผมก็แปลกใจก็หลวงปู่คำพันธ์กำลังเสกพระผง องค์ไหนจารยันต์พอเงยหน้าขึ้น เห็นเป็นหลวงพ่อคูณเป็นองค์จารตะกรุดให้ ฝันดีที่เดี่ยว

กราบหลวงปู่คำพันธ์ กราบหลวงพ่อคูณ...ตีความฝัน ท่านคงหายดีแล้วล่ะ สาธุ

 

ฝันดีมีตัวเลข............

เล่าหลายครั้งแล้วจนจืดถูกหวยครั้งเดียวตั้งแต่เกิด ก็เพราะบารมีหลวงพ่อ แม้

น้อยนิดแต่ก็ทำให้ซึ้งในหัวจิตหัวใจ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะว่าฟลุคก็ได้แต่มันชั้งเหมาะเจาะ

ชัดเจนสิ้นดี มันก็เป็นแค่ความเชื่องมงายส่วนบุคคลไม่มีเ้หตุผลอะไรยืนยันได้

 

ดีใจครับที่เห็นหลวงพ่อได้กลับวัด
แม้จะกราบท่านได้ในระยะห่าง ๆ 2 เมตรก็ตามครับผม
กราบเทพเจ้าแห่งทีราบสูงครับผม

 

นำมาให้อ่านครับ เป็นเรื่องที่ท่าน เฒ่า สุพรรณเขียนเอาไว้ในหนังสือหลายปีก่อน

เกี่ยวกับ หลวงพ่อคูณ.......ปริสุทโธ....จริงๆมีหลายตอนที่เคยกล่าวในข้อเขียนของ

ท่านเฒ่า สุพรรณ ตอนที่นำเอาวัตถุมงคลหลวงพ่อกวย ไปให้หลวงพ่อคูณเสก...

..........ขออนุญาตินำมาเผยแพร่ตรงนี้.....ถ้ามาเจอคงไม่ว่ากัน.......


อาจารย์อีกองค์หนึ่งที่ผมควรกล่าวถึงคือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณนี้ถึงจะไม่ใช่พระปฏิบัติแบบในสายคุณพ่อมั่นก็ตาม แต่ถ้าสิ้นท่านผมว่าโคราชก็วังเวงชอบกล หลายปีมาแล้วผมขอเกศาท่าน ท่านให้มาทั้งศีรษะเลย มีก้นบุหรี่มวนโตมาด้วย มีสำลีที่ใช้เช็ดในการปลงผมมาด้วย ทีนี้เมื่อได้เกศามา ผมได้เก็บเกศาเอาไว้เป็นอย่างดี แต่เกศาที่ติดสำลีเอาไม่ออก คือเอาออกไม่หมด ได้ตากแดดแล้วค่อย ๆ เลือกก็เอาออกไม่หมด พอดีผมมีหลานผู้ชายมาบ้าน ผมเลยให้ช่วยเลือกเกศาออกจากสำลี เขาอยู่ ป.๓ – ป.๔ ได้ เขาถามผมว่า“ผมใคร”ผมตอบว่า“ผมพระ” เขาเลือกไป ๆ ก็คุยไปคุยมา เขาถามอีกว่า “เก่งไหม พระองค์นี้” ผมก็ตอบว่า “เก่ง” เขาพูดว่า “ถ้าเก่งจริง ต้องเผาไม่ไหม้” เขาพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่ได้สนใจ มาเจออีกที เขาเอาไม้ขีดมาจุดที่สำลี แปลกมาก สำลีไม่ติดไฟ ได้แต่หดดำไปเฉย ๆ แต่เกศานั้นไม่ไหม้ไฟ โผล่ออกมาพ้นสำลี ซึ่งปกติจะต้องไหม้ทั้งหมด ผมเห็นก้านไม้ขีดถูกจุด ๓ – ๔ ก้าน ผมเลยบอกพัก ๆ ๆ ขี้เกียจเลือกเกศาก็ไม่ต้องเผา เข้าใจว่าแกจะเผาให้ไหม้จะได้ไม่ต้องเลือกเกศาออก ผมมาคิดดูพระองค์นี้ก็ชอบกลอยู่ อยากจะไปกราบท่านสักที เดือนตุลาคม ๒๕๓๔ ผมได้ไปกราบท่าน ไปทางสิงห์บุรี ลพบุรี แยกเข้าอำเภอบ้านหมี่ไปทางโคกสำโรง ไปลำนารายณ์ ไปด่านขุนทด วัดท่านทางเข้าอยู่ติด สภ.อ.ด่านขุนทด เข้าไปสิบกว่ากิโลเมตร ถึงวัดบ้านไร่ มีป้ายแผ่นใหญ่มากติดอยู่ เข้าอำเภอด่านขุนทด เขาใช้ภาษาลาว วัดท่านเจริญใหญ่โต เมื่อเข้าไปกราบ ท่านเห็นลูกชายผม เพิ่งเข้า ป.๑ ท่านถามว่า “มาจากใส เด็กน้อย”ลูกผมก็ตอบว่า“มาจากสุพรรณ”ท่านได้เอ็นดูลูกชายผมพอสมควร เรียกไปเป่าหัวให้ ผมดูวัตถุมงคลมีแต่รูปนั่งยอง ๆ กับรูปสูบบุหรี่ เลยไม่ได้เอาอะไรมา เช่า สีผึ้งมา ๕ ตลับ ๑๐๐ บาท เลยทำบุญกับท่าน ๔๐๐ บาท ท่านถามว่า“ทำบุญมาก จะเอาอะไร” ผมบอกอยากได้เกศา ท่านบอกว่า“ไม่มี มีแต่ขนหัว” ผมเลยขอก้นบุหรี่ ท่านถามว่า“ด่านบ๊อ”ผมตอบไปว่า“ไม่รีบครับ” ท่านได้นั่งยอง ๆ เสกให้นานมาก แล้วว่าคาถาบ้วนน้ำลายใส่ก้นบุหรี่ น้ำลายเหนียวมากเป็นก้อนเลย ผมคิดในว่าหลวงพ่อองค์นี้น้ำลายต้องดี ถ้าได้กินต้องหนังเหนียวแน่ แต่ก็คิดว่าใครจะกล้า เลยกราบลามา ท่านให้พรว่า“โชคดี มีเฮงเด้อ”เรื่องท่านนั่งยอง ๆ นั้น ท่านนั่งของท่านตามสบาย ท่านไม่ชอบหลอกลวงใคร ท่านไม่สนใจด้วยว่า วัตถุมงคลท่านจะขายได้หรือไม่ได้ เขาว่าท่านไม่เลือกรวย เลือกจน เลือกเล็กเลือกใหญ่ บางทีผู้ว่ามากราบท่าน ท่านยังพูดมึงกูหน้าตาเฉย ผมคิดว่าพระอย่างนี้หาได้ยากเหมือนกัน นึกถึงคำพรท่าน ท่านพูดว่า โชคดีมีเฮง ไม่รู้ว่าจะขลังแค่ไหน เพราะคนอื่นที่มากราบท่านก็ไม่เห็นพูดอะไร เลยนึกในใจอยากจะให้ขายของดี