หลวงพ่อพวง หลวงพ่อกวย หลวงปู่หมุน ธรรมะหลวงปู่เทพโลกอุดร

หลวงพ่อทองดำ วัดถ้าตะเพียนทอง พระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงชานหมาก​

​

หลวงพ่อทองดำ อินทฺวํโส พระเถราจารย์แห่งทุ่งทานตะวัน พระเกจิหนึ่งเดียวองค์นี้ผู้สืบสายวิทยาคมและปฏิปทาแห่งพระเกจิขลังเมืองปราสาทหิน คือ หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือผู้ทรงความเข้มขลังแห่งมนตรา กฤตยาคมของพระคัมภีร์ "พระธรรมเก้าโกฏิ" อันลึกล้ำ ความมหัศจรรย์และลี้ลับแห่งถ้ำตะเพียนทอง พลานุภาพแห่งพญาไม้งิ้วดำอันน่าพิศวง พิธีสมโภชวัตถุมงคลรุ่น ไตรมาสมหารวย 47 หลวงพ่อทองดำ จุดธูป เทียน อัญเชิญครูเทพ ครูฤาษี 108 ตน ครูทุกพระองค์ร่วมเสก เกิดเหตุมหัศจรรย์กระแสไฟฟ้าในถ้ำดับสนิท เหลือเพียงแสงเทียนในบาตรน้ำทิพย์มนต์เท่านั้น เสร็จพิธีหลวงพ่อทองดำกล่าวต่อศิษย์ ครูลงมาช่วยเสกทุก ๆ องค์ไม่ต้องการให้ใครเห็น ชุดนี้แหละจะดังและหายากเหมือนอาจารย์ของฉัน ต่อไปจะมีค่ามหาศาล เก็บไว้ให้ดีนะ

หลวงพ่อทองดำ วัดถ้าตะเพียนทอง พระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงชานหมาก ฝังตะกรุด 3 กษัตริย์ แช่ทิพย์น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จัดสร้าง 599 องค์ คัดสภาพสวยมาก

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

รูปหล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่พวง เนื้อสำริด​

หมายเลข ๗๘ ตอกโค้ต " พวง " จัดสร้าง ๓๙๙ องค์​

​

รูปหล่อหลวงพ่อ ด้านหลังรูปหล่อลงยันต์หัวใจแก้วสี่ดวง นะมะอะอุ เป็นเมตตามหานิยม เมื่อรวมกับแผ่นยันต์ 108 นะปถมัง 14 ของหลวงปู่พวงฉบับหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ก็ยิ่งเพิ่มความขลังเป็นมหาอุตม์คงกระพันชาตรี อีกทั้งมีชนวนมวลสารที่นำมาเทในรูปหล่อโบราณ อาทิ ฆ้องโบราณหลวงพ่อทบ ทองคำหนัก ๕ บาท รูปหล่อฐานสูงหลวงพ่อทบ หัวไม้ขีดหลวงพ่อทบ แหวนเพชรกลับหลวงพ่อทบ รูปหล่อหลวงพ่ออ้วน รูปหล่อหลวงพ่อเขียน รูปหล่อหลวงพ่อสี เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่พวง ผงนะปถมังหลวงปู่พวง เกษา จีวร ตะกรุด เหรียญบาทเก่าเงินยวงแผ่นยันต์จากคณาจารย์จำนวนมาก พระเครื่องที่คณะศิษย์ร่วมใจถวาย ตะกรุดหลวงพ่อทบและคณาจารย์ต่างๆ

ในวันที่หล่อพระเกิดพระอาทิตย์ทรงกรดตลอดพิธีเป็นนิมิตรหมายอันดี วันพุทธาภิเษกหลวงปู่พวงกำหนดวันที่ 1 สิงหาคม 2555 หลวงปู่พวง บอกว่า วันดีศรีธงชัยบารมีพระทั้งจักรวาลครูบาอาจารย์ทั้งหมดลงมาอำนวยอวยพรแผ่ธรรมรังสีให้การปลุกเสกนี้สำฤทธิ์ผลด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ตลอดพิธีลมพัดต้นโพธิ์เสียงใบโพธิ์ลู่ลมสนั่นหวั่นไหวฟ้าเปิดแดดออก บรรยากาศในวัดไม่ร้อนเลยลมพัดมาทุกทิศทาง ทุกอย่างโล่งปลอดโปร่งเหมือนที่หลวงปู่พวงได้พูดไว้ทุกประการ หลังเสร็จพิธีลูกศิษย์ได้สอบถามถึงพุทธคุณ หลวงปู่พวงอมยิ้มด้วยความเมตตา และได้กล่าวทิ้งท้ายก่อนออกจากวิหารว่า

"ทองคำมีค่าฉันใด... รูปหล่อข้ามีค่าฉันนั้น..."

"ถ้าไม่ดีข้าไม่สร้าง..."

"ถ้าทำแล้วช่วยเขาไม่ได้เราจะทำทำไม? เสียชื่อครูบาอาจารย์เรา..."

วัตถุมงคลหลวงปู่พวง ถ้าไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระจริงๆ ท่านไม่สร้าง ถ้าสร้างแล้วทำแล้วต้องเสกให้ถึง ให้เป็นของวิเศษ ที่พึ่งพาอาศัยได้จริง ยกชีวิต ยกฐานะได้ พลิกฟ้าพลิกดินได้จริง ท่านถึงจะสร้าง

ลูกศิษย์ลูกหารอวัตถุมงคลของท่านมานานนับสิบๆ ปี ทั้งที่วัดมีสภาพทรุดโทรมน่าบูรณะตั้งนานแล้ว ถามว่า เมื่อไม่มีวัตถุมงคลแล้วลูกศิษย์ที่นับถือท่านได้อะไรกลับไป ตอบได้ว่า ท่านหยิบอะไรได้ คว้าอะไรใกล้มือได้ เอามาเสกให้ทั้งนั้น ก้อนหินบ้างใบไม้บ้าง ก้านธูปบ้าง ซึ่งก็ปรากฏว่าของที่ท่านให้ไป มีพุทธคุณสูงส่ง ช่วยลูกศิษย์ได้ทั้งนั้น

จัดสร้างแต่ละครั้งก็สร้างแค่พอนำรายได้ไปใช้จริง สร้างจำนวนไม่เยอะ รูปหล่อโบราณรุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ และยังหล่อออกมาได้สวยงามเข้มขลัง เรียกได้ว่าอนาคตกลายเป็นของดีมีค่าที่หายากอีกรุ่นหนึ่ง ตามวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ที่กล่าวไว้ว่า "ทองคำมีค่าฉันใด... รูปหล่อข้ามีค่าฉันนั้น..."

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงพญางิ้วดำ หลวงพ่อทองดำ วัดถ้าตะเพียนทอง​

​

หลวงพ่อทองดำ อินทฺวํโส พระเถราจารย์แห่งทุ่งทานตะวัน พระเกจิหนึ่งเดียวองค์นี้ผู้สืบสายวิทยาคมและปฏิปทาแห่งพระเกจิขลังเมืองปราสาทหิน คือ หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือผู้ทรงความเข้มขลังแห่งมนตรา กฤตยาคมของพระคัมภีร์ "พระธรรมเก้าโกฏิ" อันลึกล้ำ ความมหัศจรรย์และลี้ลับแห่งถ้ำตะเพียนทอง พลานุภาพแห่งพญาไม้งิ้วดำอันน่าพิศวง พิธีสมโภชวัตถุมงคลรุ่น ไตรมาสมหารวย 47 หลวงพ่อทองดำ จุดธูป เทียน อัญเชิญครูเทพ ครูฤาษี 108 ตน ครูทุกพระองค์ร่วมเสก เกิดเหตุมหัศจรรย์กระแสไฟฟ้าในถ้ำดับสนิท เหลือเพียงแสงเทียนในบาตรน้ำทิพย์มนต์เท่านั้น เสร็จพิธีหลวงพ่อทองดำกล่าวต่อศิษย์ ครูลงมาช่วยเสกทุก ๆ องค์ไม่ต้องการให้ใครเห็น ชุดนี้แหละจะดังและหายากเหมือนอาจารย์ของฉัน ต่อไปจะมีค่ามหาศาล เก็บไว้ให้ดีนะ

หลวงพ่อทองดำ วัดถ้าตะเพียนทอง พระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงพญางิ้วดำ ฝังตะกรุด 3 กษัตริย์ แช่ทิพย์น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จัดสร้าง 599 องค์ คัดสภาพสวยมาก ​

ปิดรายการนี้แล้วครับ​

หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่หมุน หลวงปู่ลมัย หลวงปู่สุภา หลวงพ่่อไฉน (1 คน กำลังดูอยู่)( 12)
ศุภราช ​

 

รูปหล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่พวง เนื้อสำริด ที่จองใน pm โอนเงินวันพรุ่งนี้ครับ

 

06/05/57 เวลา 07.31 น. ผมโอนเงินแล้ว รายละเอียดในข้อความส่วนตัวครับ

 

ได้รับแล้วครับ พร้อมพระที่มอบให้ ขอขอบคุณครับ

 

เหรียญหนุมานเชิญธงทรงราชสีห์ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จ.สระแก้ว​

​

เหรียญพญาหนุมานนำทัพเชิญธงทรงราชสีห์ (เด้งดึ๋ง) รุ่น ไตรมาส 47 เนื้ออัลปาก้า หมายเลข ๑๐๖ หลังปิดตามหาอุตม์ มีประสบการณ์มากมาย พุทธคุณเด่นเรื่องคุ้มครองป้องกัน ชนะสิบทิศ ไม่มีใครต้านทานได้ และยังดีทางเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง มีสง่าราศรีดั่งพญาหนุมานนำทัพ เป็นมหาอำนาจ คุมคนคุมสัตว์ทั้งปวง แม้ว่าจะมีคุ่แข่งในการศึก หรือในทางธุรกิจก็ดี ไม่อาจสู้เราได้เลย
ท่านดำริให้จัดสร้างขึ้น เพื่อสืบสานตำนานความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในอดีต เพื่อให้คงอยู่ตราบชั่วลูกหลานสืบไป ทำการปลุกเสกในวันไหว้ครูเมื่อ พ.ศ.2547 เสกในไตรมาส ปี 2547 และ ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ 9 ขั้นตอน , พุทธาภิเษกวันเพ็ญเดือน 12 และอธิษฐานจิตประจุพุทธาคม ปลุกเสกเดี่ยวหน้าศาลท้าวมหาพรหมสุริยเทพ วัดเขาแหลม และยังได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้ายอีกครั้งด้วย
พุทธคุณ เหรียญหนุมานเชิญธงทรงราชสีห์ ด้านหลังประทับด้วยยันต์องค์พระตัวเฑาะมหาอุด สุดยอดแห่งชัยชนะเหนือคนทั้งปวง เพื่อให้มีพละกำลังต่อสู้ เอาชนะข้าศึกอริราชศัตรู หมู่คนพาลต่างๆ ก็ปรากฏเฉพาะยันต์ลิงหนุมานอยู่ในตำราของท่าน
สำหรับตำราหนุมานนี้เป็น วิทยาการโบราณที่ถือเป็นสุดยอดของ วิทยาการฝ่ายนักรบ ในวิชาธนุเวทแห่งตำรา นีติประกาศิตา ซึ่งเป็นคัมภีร์ฝ่ายไสยศาสตร์ที่ผูกร่วมกับตำราพิชัยสงคราม โดยปรากฏครั้งแรกในรัชสมัย สมเด็จพระรามธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา ในช่วง พ.ศ. 2041 โดยที่เคล็ดของวิชานี้เป็นวิทยาการโบราณที่สร้างความผสมผสานพละกำลังระหว่าง จิตใจกับร่างกาย แล้วดึงผลสำเร็จที่เกิดขึ้นมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้สำเร็จวิชานี้สามารถออกกำลังได้ถึง หนึ่งพันเท่าของกำลังชายฉกรรจ์ ผู้แข็งแรงตามปกติ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

คุณอาชัญ ผมจัดส่งพระพร้อมของสมนาคุณให้แล้ววันที่ 19 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.49 น. EMS เลขที่ EK 9128 5855 5 TH

ขอบคุณครับ

 

ครับ

 

พระพุทธไชยะพรหม เนื้อทองเหลือ ปี 2551​

​

หลวงตาม้าเปิดให้บูชาพระพุทธไชยะพรหม สร้างเมื่อปี 2551 เนื้อทองเหลือแท้ทั้งองค์ มีอักขระที่ศักสิทธิ์มากมาย และ หลวงตาได้ทำการจาร และตอกโค้ดไว้ที่องพระทุกองค์ ขนาดกว้าง 2 * 3 ซม.
ด้านหน้า เป็นรูปลักษณ์พุทธไชยะพรหม มีพระพุทธรูปปางสมาธิอยู่เหนือเศียรพระมหาพรหม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ หลวงปู่ดู่ และวัดถ้ำเมืองนะ และมีตัวอักขระ นะล้อม ของ วัดถ้ำเมืองนะ ที่หลวงตาม้าท่านได้เป็นผู้คิด และออกแบบเอง สวยงามมาก
ด้านหลัง มีรูปอักขระลงยันต์ศักสิทธิ์ไว้อย่างมากมาย และมีตัวอักขระ นะล้อม ที่สำคัญของหลวงตาม้า เพราะว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัดถ้ำเมืองนะอีกส่วนนึง ถือว่าหลวงตาม้าท่านได้ออกแบบมาได้งดงามมากครับ
หลวงตาม้าท่านได้เป็นประธานในพิธีปลุกเสกอธิฐานจิต และจารเองทุกองค์ เรื่องพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ นั้นมี มิประมาณครับ เหรียญทุกเหรียญหลวงตาม้าได้เมตตาบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธ์ ให้ทุกเหรียญครับ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

เหรียญหล่อใครจะใหญ่เกินกรรม (หน้าพรหม-หลังฝ่ามือหลวงปู่ดู่) หลวงตาม้า​

เนื้อชนวนล้วน หมายเลข ๔๙๓​

​

เหรียญหล่อใครจะใหญ่เกินกรรม หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) เนื้อชนวนล้วน หน้าพระพรหม-หลังฝ่ามือหลวงปู่ดู่ หล่อในวันเกิดหลวงตาม้า ประมาณ 5 ปีก่อน จำนวน 1,000 เหรียญเท่านั้น หลวงตาม้าท่านจารด้านหน้าเหรียญให้ 2 ตัว ด้านซ้าย-ขวา ของพระพรหม พร้อมกล่องเดิม หายากแล้วครับ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

รูปหล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่พวง เนื้อทองผสม​

หมายเลข ๑๙๙ เลขสวยยิ่งมงคล ตอกโค้ต " พวง " จัดสร้าง ๗๙๙ องค์​

​

รูปหล่อหลวงพ่อ ด้านหลังรูปหล่อลงยันต์หัวใจแก้วสี่ดวง นะมะอะอุ เป็นเมตตามหานิยม เมื่อรวมกับแผ่นยันต์ 108 นะปถมัง 14 ของหลวงปู่พวงฉบับหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ก็ยิ่งเพิ่มความขลังเป็นมหาอุตม์คงกระพันชาตรี อีกทั้งมีชนวนมวลสารที่นำมาเทในรูปหล่อโบราณ อาทิ ฆ้องโบราณหลวงพ่อทบ ทองคำหนัก ๕ บาท รูปหล่อฐานสูงหลวงพ่อทบ หัวไม้ขีดหลวงพ่อทบ แหวนเพชรกลับหลวงพ่อทบ รูปหล่อหลวงพ่ออ้วน รูปหล่อหลวงพ่อเขียน รูปหล่อหลวงพ่อสี เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่พวง ผงนะปถมังหลวงปู่พวง เกษา จีวร ตะกรุด เหรียญบาทเก่าเงินยวงแผ่นยันต์จากคณาจารย์จำนวนมาก พระเครื่องที่คณะศิษย์ร่วมใจถวาย ตะกรุดหลวงพ่อทบและคณาจารย์ต่างๆ

ในวันที่หล่อพระเกิดพระอาทิตย์ทรงกรดตลอดพิธีเป็นนิมิตรหมายอันดี วันพุทธาภิเษกหลวงปู่พวงกำหนดวันที่ 1 สิงหาคม 2555 หลวงปู่พวง บอกว่า วันดีศรีธงชัยบารมีพระทั้งจักรวาลครูบาอาจารย์ทั้งหมดลงมาอำนวยอวยพรแผ่ธรรมรังสีให้การปลุกเสกนี้สำฤทธิ์ผลด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ตลอดพิธีลมพัดต้นโพธิ์เสียงใบโพธิ์ลู่ลมสนั่นหวั่นไหวฟ้าเปิดแดดออก บรรยากาศในวัดไม่ร้อนเลยลมพัดมาทุกทิศทาง ทุกอย่างโล่งปลอดโปร่งเหมือนที่หลวงปู่พวงได้พูดไว้ทุกประการ หลังเสร็จพิธีลูกศิษย์ได้สอบถามถึงพุทธคุณ หลวงปู่พวงอมยิ้มด้วยความเมตตา และได้กล่าวทิ้งท้ายก่อนออกจากวิหารว่า

"ทองคำมีค่าฉันใด... รูปหล่อข้ามีค่าฉันนั้น..."

"ถ้าไม่ดีข้าไม่สร้าง..."

"ถ้าทำแล้วช่วยเขาไม่ได้เราจะทำทำไม? เสียชื่อครูบาอาจารย์เรา..."

วัตถุมงคลหลวงปู่พวง ถ้าไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระจริงๆ ท่านไม่สร้าง ถ้าสร้างแล้วทำแล้วต้องเสกให้ถึง ให้เป็นของวิเศษ ที่พึ่งพาอาศัยได้จริง ยกชีวิต ยกฐานะได้ พลิกฟ้าพลิกดินได้จริง ท่านถึงจะสร้าง

ลูกศิษย์ลูกหารอวัตถุมงคลของท่านมานานนับสิบๆ ปี ทั้งที่วัดมีสภาพทรุดโทรมน่าบูรณะตั้งนานแล้ว ถามว่า เมื่อไม่มีวัตถุมงคลแล้วลูกศิษย์ที่นับถือท่านได้อะไรกลับไป ตอบได้ว่า ท่านหยิบอะไรได้ คว้าอะไรใกล้มือได้ เอามาเสกให้ทั้งนั้น ก้อนหินบ้างใบไม้บ้าง ก้านธูปบ้าง ซึ่งก็ปรากฏว่าของที่ท่านให้ไป มีพุทธคุณสูงส่ง ช่วยลูกศิษย์ได้ทั้งนั้น

จัดสร้างแต่ละครั้งก็สร้างแค่พอนำรายได้ไปใช้จริง สร้างจำนวนไม่เยอะ รูปหล่อโบราณรุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ และยังหล่อออกมาได้สวยงามเข้มขลัง เรียกได้ว่าอนาคตกลายเป็นของดีมีค่าที่หายากอีกรุ่นหนึ่ง ตามวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ที่กล่าวไว้ว่า "ทองคำมีค่าฉันใด... รูปหล่อข้ามีค่าฉันนั้น..."

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

"พระปทุมมาศ"รุ่นแรก หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ ​

เนื้อชินตะกั่วพระเนื้อชินเก่า ตอกโค้ด"นาม"หมายเลข ๑๐๗๗​

​

พระครูสุวรรณศาสนคุณ หรือ หลวงปู่นาม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 88 ปี พรรษา 67 ด้วยท่านเป็นพระที่มากเมตตา ชาวสุพรรณฯ จึงให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก
"หลวงปู่นาม" สืบสายพุทธาคมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ และจากหลวงปู่สืบ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว, หลวงพ่อขำ, หลวงพ่อเหมือน, หลวงพ่อจ่าง, หลวงพ่อคง อมตปรมาจารย์วัดน้อยและวัด ชมภู่
ครั้งหนึ่งหลวงปู่นามท่านเคยนำพระงบน้ำอ้อยใส่รถไปให้หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย ปลุกเสกให้ พอเปิดกล่องท่านบอกว่า "เสกไม่เข้าแล้ว ท่านเสกจนจะแน่นแล้ว" ตอกย้ำคำพูดของหลวงพ่อดี วัดพระรูป ที่หยิบพระงบน้ำอ้อยกำพระไว้ยกมือจบยกแล้วบอกว่า "เสกจนหมุนได้แล้วนี่ จะให้ผมทำอะไรอีก"
ชาวสุพรรณบุรีรู้ดีว่าหลวงปู่นามเป็นยอดพระเกจิอาจารย์ที่เก่งจริงๆ ท่านสืบพุทธาคมสายลุ่มแม่น้ำท่าจีน และสายสุพรรณมาอย่างครบถ้วน ท่านบวชกับพระเมธีธรรมสาร วัดบ้านกร่าง รูปนี้เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ ท่านบวชและได้รับถ่ายทอดวิชาสายนี้มาครบถ้วน
ในพรรษาที่ 4 หลวงปู่นามมาอยู่วัดน้อยชมภู่ เรียนวิชากับหลวงปู่ขำ ซึ่งเป็นตอนบั้นปลายชีวิตแล้ว หลวงปู่ขำท่านเป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว กับหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขาโน้น และต่อมาก็มาอยู่กับหลวงปู่เหมือน ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อเนียม แห่งวัดน้อย และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยเฉพาะหลวงปู่เหมือนนั้นอยู่กับหลวงปู่นามมาร่วม 50 ปี ท่านเป็นพระอภิญญา ว่ากันว่าสมัยนั้นท่านเสกต่อให้เต็มวัดเพื่อไล่ขโมยก็ได้ เสกข้าวให้ออกรวงทั่ววัดเพื่อเลี้ยงพระทั้งวัดก็ได้ เสกใบมะขามเป็นฝูงผึ้งไล่ลิงที่เมื่อก่อนมีอยู่เต็มวัดก็ทำมาแล้ว
หลวงปู่นามจึงได้วิชาในสายนี้มาอย่างเอกอุ พุทธาคมแน่น ตอนที่หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่ คนมาขอพระท่านยังบอกว่า "ที่สุพรรณหมดหลวงพ่อมุ่ยต้องไปหา อาจารย์นาม วัดน้อยฯ โน่น เขาเก็บไว้หมด"
ตอนหลวงปู่นามหนุ่มๆ ท่านยังไปเรียนพระปริยัติที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งวิชาต่อยอดในสายสมเด็จโต พระพุทธบาทปิลันท์ มาเต็มองค์ ตอนไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ท่านบอกว่า "ท่านนามเอ๋ย ถ้าเราทำจริงเสกจริงๆ มันขลังแน่ และขลังอยู่ไปเป็นร้อยๆ ปี ถึงรุ่นลูกหลานเหลนเขาได้จริงๆ" หลวงปู่นามตอบว่า "ฉันกับหลวงพี่มุ่ยเห็นตรงกัน ฉันต้องทำเองและเสกเองให้ขลังนั่นแหละจึงเอาออกได้ ถ้าให้คนอื่นทำจะออกจำหน่ายท่าเดียว ไม่ดูดำดูดีเลยว่าใช้ได้มั้ย"
หลวงปู่นามเคยเจิมหน้ารถด้วยดินสอพอง รถวิ่งจากสุพรรณบุรีไปกรุงเทพฯ เจอพายุฝนต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเบอร์ 3 แต่ถึงจุดหมายรอยเจิมแป้งยังอยู่ครบ ไม่หาย เรื่องจริงสอบถามที่ศิษย์บอกต่อด้วยความทึ่ง หลวงปู่นามท่านบอกว่า "ฉันลงนะปัดตลอดไว้"
ขณะนี้หลวงปู่นามกำลังซ่อมหลังคาพระวิหารใช้งบตั้ง 2 ล้าน สาธุชนอยากร่วมบุญกับท่านไปที่วัดได้โดยตรง ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้สมนาคุณเป็น "พระปทุมมาศ" สร้างย้อนตำนานของเก่าดั้งเดิม ซึ่งเป็นพระในฝันหายากที่สุดแห่งเมืองสุพรรณ เป็นพระในกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แตกกรุ พร้อมพระผงสุพรรณ ที่ปัจจุบันสนนราคาเล่นหาหลักล้านแซงหน้าพระมเหศวรซะอีก
"อ.มนัส โอภากุล" ปรมาจารย์พระเครื่องพระบูชาเมืองสุพรรณ เขียนไว้ในหนังสือ "พระฯ เมืองสุพรรณ" ว่า พระปทุมมาศเป็นการตั้งชื่อได้เหมาะสมมาก ปทุมแปลว่าดอกบัว มาศ แปลว่าทอง ปทุมมาศจึงมีความหมายถึงดอกบัวทอง เป็นดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ มีองค์พระประทับอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว แสดงถึงความเจริญงอกงาม ออกดอกออกผล สำเร็จสมหวังทุกอย่าง
"พระปทุมมาศ" รุ่นเก่าหายาก หลวงปู่นามจึงสร้างรุ่นนี้ขึ้น เป็นครั้งแรกของเมืองสุพรรณบุรีที่มีการสร้างขึ้น เป็นพระปทุมมาศครั้งที่ 2 นับแต่แตกกรุครั้งแรก พระปทุมมาศนี้ หลวงปู่นามบอกว่า "ขลังมาก พุทธคุณเน้นในทางเจริญงอกงามแรงที่สุด"
ตอนหล่อเนื้อชินลูกศิษย์มีชิ้นพระปทุมมาศชำรุดไม่ถึงครึ่งองค์หล่อไปด้วย ผสมกับพระชินกรุสุพรรณเก่าๆ ที่ไม่สวยอีกมาก เนื้อผงใช้ผงพุทธคุณเก่าที่สะสมมากว่า 50 ปีนำมาสร้าง คนรุ่นเก่าเล่าให้ฟังว่า หาพระมเหศวรหลายสิบองค์ยังหาง่ายกว่าหาพระผงสุพรรณสักองค์ แต่หาพระปทุมมาศสักองค์ให้หาพระผงสุพรรณสักยี่สิบองค์ดีกว่า แสดงว่าพระปทุมมาศนั้นหาดูกันยากมาก
"พระปทุมมาศ" เนื้อชินตะกั่วพระเนื้อชินเก่า ตอกโค้ดหมายเลขกำกับ สร้างจำนวน 2,599 องค์
ขอขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ หลังเลนส์ส่องพระ เอกอุ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

พระสมเด็จข้าวก้นบาตร รุ่นร่มเย็น เป็นสุข รวย รวย รวย กรรมการ ​

หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต วัดกุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี​

องค์นี้พิเศษหลวงปู่จารหมึกแดงเพิ่มให้ตอนไปสักหลังกับท่านครับ ​

​

พระสมเด็จข้าวก้นบาตร รุ่นร่มเย็น เป็นสุข รวย รวย รวย กรรมการ หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต วัดกุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
เนื่องจากว่าหลวงปู่มีดำริให้จัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพื่อหาปัจจัยสบทบทุนสร้างวิหารธรรมเจดีย์สีชมภูที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และบูรณะปฏิสังขรณ์ปูชนีวัตถุภายในวัดสืบต่อไป ความตั้งใจของหลวงปู่อยากให้วิหารแล้วเสร็จในป๊นี้ แต่เนื่องจากยังขาดทุนทรัพย์และฟ้าฝนไม่เป็นใจจึงทำให้การทำงานของช่างต้องเลื่อนออกไป วิหารจึงยังไม่เสร็จตามเป้าหมายของหลวงปู่ แต่พอถามหลวงปู่ว่าวิหารจะแล้วเสร็จเมื่อไร หลวงปู่ก็ตอบว่าปีหน้าเสร็จแน่ ท่านอยากให้เสร็จก่อนงานวันเกิดของท่าน คือ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จะได้ฉลองเปิดวิหารพร้อมกับงานวันเกิดของท่านเลย

การสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้นั้น หลวงปู่ได้ออกแบบและได้กำหนดฤกษ์พิธีเททองหล่อพระและพุทธาภิเษก คือ วันที่ ๙ เดือน ๙ เป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง และยังตั้งชื่อรุ่นของวัตถุมงคลว่า ร่มเย็น เป็นสุข รวย รวย รวย ดังนั้นวัตถุมงคลชุดนี้ได้ภายการดำริให้จัดสร้างโดยหลวงปู่ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบ
พิธีกรรม ชื่อรุ่น และมวลสารต่าง ๆ ของศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงมีก็นำมาร่วมในงานนี้ทั้งหมดครับ
มวลสารพระผงสมเด็จ , ข้าวก้นบาตรหลวงปู่คำบุเสก , ผงเขียนลบตามสูตรโบราณ ( หลวงปู่เขียนเอง ) ,
ผงดินจากปูชนียสถานสี่แห่ง , ผงดินหน้าโบถ์วัดกุดชมภู , ผงพัทสีมาวัดกุดชมภู , ผงมหาว่าน ๑๐๘ ,
ผงไม้มงคล ๙ อย่าง , ผงดอกไม้ธูปเทียนที่หลวงปู่บูชาพระพุทธ,ชานหมาก , จีวร , เกศา , เล็บมือเล็บเท้าหลวงปู่ ,
เทียนชัย , สีผึ้ง , ผงสมเด็จพระบางขุนพรหม , ผงจูงนาง , ผงหางช้างเผือก , ผงนิลเก่า , ไม้รักตายพันธ์ , ผงปัทมัง ,
ผงกระเบื้องหลังคาโบถ์ , ผงรังนกสาลิกา, เม็ดพระธาตุสีวลี , เม็ดข้าวสารหินพันปี , และมวลสารอื่นอีกมากมาย

หลวงปู่ได้ผูกยันต์ ด้านหลังสมเด็จด้วยตัวท่านเอง ให้ใช้ยันต์ที่ท่านเขียนนำมาไว้ที่ด้านหลังพระสมเด็จ พุทธคุณพระสมเด็จ หลวงปู่บอกว่าใช้ดี ในด้านโชคลาภเป็นหลัก มีกินมีใช้ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เหมาะกับสถานะการเมืองในตอนนี้ ซึ่งบ้านเมืองในตอนนี้ทุกคนลำบากมากทำอะไรก็ติดขัด เงินทองหายากมาก หลวงปู่ท่านก็เลยทำของดีมาให้ใช้ โดยการนำข้าวก้นบาตรที่หลวงปู่เสกมาผสมกับเนื้อพระสมเด็จในครั้งนี้นั้น
หลวงปู่บอกว่า ข้าวก็คือความหมายของความอุดมสมบูณ์ มีกินมีใช้ ร่ำรวยเงินทอง และมวลสารอื่น ๆ ที่นำมาผสมในครั้งนี้ก็เป็นสิ่งของที่เป็นมงคลอยู่ในตัวเองอยู่แล้วเมื่อนำ มาเสกอีกที่โดยหลวงปู่ก็จะเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เข้าไปอีก
จึงทำให้มีอนุภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ที่นำพระผงสมเด็จไปใช้นั้น ก็จะทำให้มีกิน มีใช้ มีโชคมีลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่มีโรคภัยไขเจ็บ ร่างกายแข็งแรง คิดการสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่หลวงปู่ยังบอกอีกว่าการที่จะใช้ของให้ดีนั้น เราต้องศรัทธาก่อนและต้องเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี ของจึงจะใช้ได้ดีตามที่ใจเราศรัทธาด้วย

องค์พระมีขนาด ๓.๘ x ๒.๕ ซ.ม. ด้านหลังตอกโค๊ดกรรมการ ฝังหัวนะ โรยมวลสาร สายสิญจน์จีวรสายไหม สภาพสวยสมบูรณ์ หายากมากครับ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

วัตถุมงคลรุ่นแรกเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อยกห้อง​

วัดสลักป่าใหม่ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา จัดสร้างเนื้อ นวโลหะแค่เนื้อเดียว​

ชุดกรรมการเล็กหมายเลข 36 รวมได้ 9 เลขมงคล​

​

​

ปลุกเสกวาระที่ 1 วันที่ 10 ธันวาคม 2554 ช่วงจันทรุปราคา ตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่มครึ่ง ที่ วัดโคกสูง สงขลา ปลุกเสกพร้อมพระราหูวัดโคกสูง ไม่รีบจองจะเสียใจภายหลังนะครับ

1.พ่อท่านผล วัดทุ่งนารี พัทลุง
2.พ่อท่านผัน วัดทรายขาว สงขลา
3.พ่อท่านยกห้อง วัดสลักป่าใหม่ สิงหนคร สงขลา ท่านเป็นศิษย์พ่อท่านคงโดยตรงครับ
4.พ่อท่านตุด ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง รัตภูมิ สงขลา
5.พ่อท่านมหาวิเชียร วัดโคกสูง สงขลา
6.และเกจิสายสงขลาอื่นๆๆอีกที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ

สถานที่ใกล้ๆๆฝนตกทั้งหมดแต่ที่พิธีปลุกเสกไม่มีฝนตกครับ เก็บไว้เสริมบารมีดีนักครับ
วันหลังจะประมวลภาพพิธีปลุกเสกมาให้ดูครับ

วาระที่ 2 ที่วัดสลักป่าใหม่ สิงหนคร สงขลา วันที่ 25 ธันวาคม 2554
1.พ่อท่านแสง วัดศิลาลอย สทิงพระ สงขลา ต้นตำหรับผู้ผสมมวลสารวัดพะโคะ ปี 06
2.พระมหาวรรณ วัดจะทิ้งพระ สทิงพระ สงขลา
3.พ่อท่านผ้อง ที่พักสงฆ์นาเปล สทิงพระ สงขลา
4.พ่อท่านยกห้อง วัดสลักป่าใหม่ สิงหนคร สงขลา ศิษย์พ่อท่านคงที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ
5.พระอาจารย์คลังแสง สำนักสงฆ์เขากุฏิ สงขลา ท่านปิดวาจา ไม่พูดมา 7 ปีแล้วครับ

วันที่ 25 ธันวาคม 2554 ยังมีสุดยอดเกจิแห่งเมืองพัทลุงอีก 2 ท่านปลุกเสกเพื่อความเข้มขลังคือ พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม พัทลุง และ พ่อท่านเงิน วัดโพรงงู พัทลุงครับ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

แมงมุมเรียกทรัพย์ตาเพชร รุ่นมหาเศรษฐี หรือรุ่นกระโดดพาน​

หลวงปู่สุภา เนื้อเงิน ปี 2547​

​

หลวงปู่สุภาบวชเณร ตั้งแต่ 9 ขวบ เดินธุดงค์ตั้งแต่เป็นเณร หลวงปู่สีทัตต์ ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน (ร่วมสำนักสำเร็จลุนประเทศลาว และ ร่วมสมัยสมเด็จโต วัดระฆัง) เป็นอาจารย์รูปแรกและทำการอุปสมบทให้หลวงปู่ที่ถ้ำภูเขาควาย หลวงปู่สภาเดินธุดงค์เรียนวิชากับหลวงปู่สีทัตต์ตลอดภาคอีสานข้ามไปลาว พม่า เขมรจนทั่วจากนั้นมาศึกษาวิชาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (หลวงปู่สุภาเป็นศิษย์ร่วมสำนักแต่รุ่นร้องกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) จากนั้นเดินทางไปเรียนวิชาจากโยคีที่อินเดีย (ธิเบต) ชื่อนารายณ์ หลวงปู่ไปฝึกฌานและสมาธิ จากนั้นท่านเดินทางไปเมืองจีนเรียนวิชาจากอาจารย์เฒ่า วัดเส้าหลิน อาจารย์จริง ๆ หลวงปู่ มี 4 องค์นี้ ส่วนเพื่อนที่ร่วมเดินทางธุดงค์แลกเปลี่ยนวิชาทำเครื่องรางของขลังกันมีดังนี้ 1. หลวงปู่มั่น (อาจารย์ใหญ่ฝ่าวิปัสสนาธุระ) 2. หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ร่วมทำผ้ายันต์กัน 3. หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา 4. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน 5. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก (ทำผ้ายันต์ ตะกรุดแจกสงครามอินโดจีนด้วยกัน) 6. หลวงพ่อโอภาษี(เคยร่วมทำพิธีบูชาไฟ) 7. หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง (ร่วมเดินธุดงค์) 8. หลวงพ่อสังข์ วัดนำเต้า (เป็นอุปัชฌาย์หลวงพ่อทิม วัดพระขาว) หลวงปู่เดินธุดงค์มาตลอดชีวิต เคยสร้างพระเสด็จกลับทิ้งลงทะเลและเรียกกลับได้ เคยทำพิธีถึง 2 ครั้งที่วัดสารอดและที่เกาะสิเหร่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยพระราชทานแววพระเนตร (ดวงตานิล) ถวายหลวงปู่ แม้วันปัจจุบันที่หลวงปูอยู่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงพระราชทาน ชื่อวัด “สีลสุภาราม” ถวายหลวงปู่ หลวงปู่เก็บตัวเงียบอยู่นาน สร้างวัดมาแล้ว 39 วัด (ไม่มีมหาบารมีทำไม่ได้เด็ดขาด) ในเกจิยุคปัจจุบันหลวงปู่สุภาได้รับขนานนามว่า “สุดยอดที่สุด” อย่างมิต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย

แมงมุมเรียกทรัพย์ เป็นวิชาสุดยอดสร้างชื่อเสียงให้หลวงปู่สุภาจนดังทะลุฟ้า หลวงปู่เรียนวิชาแมงมุมเรียกทรัพย์จากหลวงปู่ศุข และสืบทอดอยู่เพียงรูปเดียว แมงมุมชักใยดักเหยื่อฉันใดเหมือนเราเปิดกิจการร้านค้าดักลูกค้าฉันนั้น แมงมุมของหลวงปู่จึงดีทางเรียกทรัพย์ ค้าขายดี ดักทรัพย์สินเงินทองเป็นเศรษฐีเร็วไว

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

จองรูปหล่อหลวงปู่พวงโค๊ด 199 นะครับผม

 

พระสมเด็จรุ่นแรก เนื้อว่าน ๑๐๘ หลังยันต์หมึก หลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว​

​

พระสมเด็จรุ่นแรก หลังยันต์หมึก หลวงปู่หมุน ออกวัดป่าหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เป็นสมเด็จยุคแรกของวัดป่าหนองหล่ม มีมวลสารสำคัญหลายอย่างอาทิเช่น ว่าน 108 ตามตำราโบราณ เนื้อผงผสมเกศา, จีวร, ชานหมากหลวงปู่หมุน ฯลฯ ปลุกเสกหลายพิธีใหญ่ เป็นพระยุคแรกๆ สมัยที่หลวงปู่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื้อเข้มสวย ไม่แพ้พระผงแบบอื่นๆ ที่สำคัญ เริ่มหายากแล้วครับในตอนนี้

พระสมเด็จหลังยันต์ห้า ของหลวงปู่หมุน ราคาไปเป็นหมื่นแล้วครับ...หลังยันต์หมึกก็มวลสารเดียวกันไม่ผิดเพี้ยนครับ

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

พระผงรูปไข่ หลวงปู่หมุน รุ่นดวงเศรษฐี เสาร์ ๕ ผงผสมเกศา จีวร ชานหมาก​

ออกวัดป่าหนองหล่ม ปี 43 สภาพสวย​

​

สร้างโดย วัดป่าหนองหล่ม ฯ ปลุกเสกเดี่ยว ไตรมาส และพิธีใหญ่ ๕ พิธี (วัดสร้างเองครับ)

ด้วยคณะกรรมการวัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และพระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต เจ้าอาวาสศิษย์เอกที่อุปัฏฐาก ดูแลหลวงปู่หมุนมาโดยตลอดตั้งแต่หลวงปู่ยังไม่มีใครรู้จักจนได้รับความไว้วางใจ จากหลวงปู่ให้จัดสร้างวัตถุมงคล ชุดพิเศษซึ่งในอดีตจวบจนปัจจุบัน “ไม่เคยมีครูบาอาจารย์ท่านใดเคยจัดสร้างมาก่อน” เพื่อนำรายได้จัดสร้างกุฏิสงฆ์และเสนาสนะที่ยังขาดแคลน โดยวัตถุมงคลชุดพิเศษมีธาตุโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องชื่อ “ เหล็กน้ำพี้ ” เป็นธาตุหลัก
สร้างโดย วัดป่าหนองหล่ม ฯ ปลุกเสดเดี่ยว ไตรมาส และพิธีใหญ่ ๕ พิธี ด้วยคณะกรรมการวัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และพระอาจารย์จ่อย สิริคุตโต เจ้าอาวาสศิษย์เอกที่อุปัฏฐาก ดูแลหลวงปู่หมุนมาโดยตลอดตั้งแต่หลวงปู่ยังไม่มีใครรู้จักจนได้รับความไว้วางใจ จากหลวงปู่ให้จัดสร้างวัตถุมงคล ชุดพิเศษซึ่งในอดีตจวบจนปัจจุบัน “ไม่เคยมีครูบาอาจารย์ท่านใดเคยจัดสร้างมาก่อน” เพื่อนำรายได้จัดสร้างกุฏิสงฆ์และเสนาสนะที่ยังขาดแคลน โดยวัตถุมงคลชุดพิเศษมีธาตุโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องชื่อ “ เหล็กน้ำพี้ ” เป็นธาตุหลัก

ครั้งที่ ๑ ทำพิธีเททองหล่อพระรูปเหมือน ๙ นิ้ว ๕ นิ้ว ๓ นิ้ว รูปหล่อพิมพ์เบ้าทุบ ครอบน้ำพระพทุธมนต์ รูปหล่อครึ่งซีกที่ติดข้างขันน้ำมนต์ พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงปู่หมุนอธิษฐานจิตเดี่ยวและเป็นประธานเททองที่ วัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓

ครั้งที่ ๒ ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถ วัดสุทัศน์ฯ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๓ โดยมีหลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ (อายุ ๑๐๑ ปี),หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี ,หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา ,หลวงปู่ผล วัดโนนทอง ลพบุรี , หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู หลวงพ่อสินธิ์ชัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์,หลวงพ่อถนอม คณะ ๒ วัดสุทัศน์ฯ

ครั้งที่ ๓ เสาร์ ๕ ณ วัดป่าหนองหล่ม วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๓ โดย เวลา ๐๒.๓๐ น.ของวันพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระเกจิอาจารย์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา เทพเจ้าแห่งบ้านละลม อ.ขุนขันธ์ จ.ศรีษะเกษ ได้มาถึงวัดป่าหนองหล่ม ท่านได้กำหนดจิตปลุกเสกเดี่ยวก่อนเป็นปฐม แล้วท่านก็ได้กลับไปในเวลา ๐๔.๓๐ โดยประมาณเป็นที่ปลาบปลื้มแก่ผู้ที่อยู่ร่วมในพิธีในขณะนั้น

จากนั้นเมื่อถึงเวลาฤกษ์ พิธีพุทธาภิเษก เวลา ๐๘.๐๙ น. หลวงปู่หมุน ก็ได้จุดเทียนชัยมงคลนำฤกษ์ และได้เริ่มกำหนดจิตอธิฐานปลุกเสก โดยในพิธีนี้ได้มีพระปรมาจารย์มหาเถระ ร่วมพุทธาภิเษกทั้งสิ้น ๕ รูป อันประกอบด้วย
๑. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ ๑๐๕ ปี วัดบ้านจาน โดยขณะนั้นท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว
๒. หลวงปู่อิง โชติโย อายุ ๑๑๔ ปี สำนักสงฆ์โคกคมคงคา จ.บุรีรัมย์
๓. หลวงปู่กอง จันทวังโส อายุ ๑๐๒ ปี วัดสระมณฑล จ.อยุธยา พระเกจิผู้แตกฉานและสืบทอดวิชาทำตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆสายวิชา วัดประดู่ในทรงธรรมสำนักตักศิลา แห่งเมืองเก่าอยุธยา
๔. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ ๑๐๑ ปี วัดโพธิ์เย็น จ.เพชรบูรณ์ ผู้สำเร็จวิชาปรอท และโด่งดังมากในวิชาสมุนไพรและวิชาปรอท
๕. หลวงปู่เที่ยงธรรม โชติธัมโม สำนักเวฬุวัน จ.ศรีสะเกษ

ครั้งที่ ๔ ที่วัดซับลำไย ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๓ ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยหลวงปู่หมุน อธิษฐานปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ หมุนธาตุ ชักยันต์ ครอบมณฑลพิธีอย่างตั้งใจ (ซึ่งหลวงปู่ ทำกิริยา คว้ามือจากอากาศเหวี่ยงเข้าเบ้าพระและชักยันต์กลางอากาศรอบมณฑลพิธีทั้งหมด อันเป็นสุดยอดแห่งตำรับพิชัยสงครามโบราณ)

ครั้งที่ ๕ วัดสุทัศน์ฯ ในวันอาทิตย์ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๓ เวลา ๐๙.๑๙ น.ที่อุโบสถ์

จำนวนวัตถุมงคลที่จัดสร้าง ๙,๐๐๐ องค์

วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ "..ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคลาภ ร่ำรวย ตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน"

คำบูชาหลวงปู่หมุน ตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วกล่าวว่า “ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้ แล้วว่า " อิ มะ มะ มา มา " (รวม ๗ ครั้ง)

ปิดรายการนี้แล้วครับ

 

เหรียญโต๊ะหมู่ หลวงตาบุญหนา เนื้อทองแดงชุดกรรมการ

ตอกโค้ด ก หมายเลข 352


​

หลวงตาบุญหนา ปลุกเสกเดี่ยว วันที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 15.49 น. ณ กุฏิกลางน้ำ วัดป่าโสตถิผล ทำลายบล็อกทันทีหลังเสร็จพิธีปลุกเสก ต่อหน้าศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมพิธี

ประวัติหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร ศิษย์ธรรมสาย"หลวงปู่มั่น" หลวงตาบุญหนา ธัมมทินโนพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยชื่อดังรูปหนึ่งแห่ง เมืองสกลนคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้ายที่ยังดำรงอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
อัตโนประวัติหลวงตาบุญหนา ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเอง หลวงปู่บุญหนา ท่านได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์นานถึง 12 ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยเป็นสามเณร เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นหลวงอาได้นำท่านมาอยู่ด้วย และโดยเฉพาะกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในช่วงที่เป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนเคยไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ โดยมีพระอาจารย์อ่อนนำพาไป สาเหตุที่ได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้าน หนองโดก (ปัจจุบันคือวัดป่าโสตถิผล หรือวัดป่าบ้านหนองโดก) ตอนนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร แต่เป็นฝ่ายมหานิกาย พักอยู่วัดแจ้ง บ้านหนองโดก เป็นวัดบ้านของท่านเอง และไม่ไกลจากป่าช้าที่พระอาจารย์อ่อนไปพักอยู่นั้นมากนัก
หลวงปู่บุญหนาท่านบอกว่า ตอนที่ไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) ครั้งแรกไปกับพระอาจารย์อ่อน พร้อมกับสามเณรอีกรูปหนึ่งและญาติโยม 4-5 คน เดินมุ่งหน้าสู่เทือกเขาภูพานที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านหนองโดก ก่อนเดินทางถึงวัดป่าบ้านหนองผือ เวลาประมาณบ่าย 3 โมง พอเข้าไปภายในบริเวณวัด รู้สึกว่าภายในวัดร่มรื่นสงบเงียบ เหมือนกับไม่มีพระเณรทำให้ตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรก เห็นพระเณรกำลังทำกิจวัตรกวาดลานวัดด้วยไม้ตาด ส่วนพระอาจารย์อ่อน พร้อมคณะ เข้าไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่นบนกุฏิ เสร็จแล้วก็กลับที่พัก ปัดกวาดลานวัด ตักน้ำใช้น้ำฉันจากบ่อน้ำ เสร็จจากนั้นก็เตรียมรอสรงน้ำพระอาจารย์มั่นบริเวณหน้ากุฏิ ซึ่งมีพระเตรียมน้ำสรงไว้โดยใช้น้ำร้อนผสมพอให้อุ่น เมื่อพระอาจารย์มั่นเข้ามานั่งบนตั่งแล้ว คราวนี้พระเณรทั้งหลายห้อมล้อม เพื่อเข้าไปถูหลังขัดไคลถวายอย่างเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา ส่วนสามเณรบุญหนา มีโอกาสเข้าไปร่วมสรงน้ำท่านพระอาจารย์มั่นในครั้งนี้ด้วย
เมื่อพระอาจารย์มั่นเห็นท่านซึ่งเป็นสามเณรมาใหม่ พระอาจารย์มั่นจึงพูดสำเนียงอีสานขึ้นว่า "เณรมาแต่ไส..." แต่สามเณรบุญหนาไม่ทันตอบ มีพระอาจารย์ทองคำตอบแทนว่า "เณรมากับครูบาอ่อน ข้าน้อย" จากนั้นท่านไม่ได้ว่าอะไรต่อไป จนเสร็จจากการสรงน้ำท่านในวันนั้น นอกจากนี้ ท่านยังได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีก เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เป็นต้น
หลวงตาบุญหนา ได้มาพำนักจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป หนึ่งที่ยังเหลืออยู่ หลวงปู่บุญหนา ได้ให้สติแก่ญาติโยมผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกาย วาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่นครั้งนั้นว่า "กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์"
หลวงปู่บุญหนาจึงเป็นเนื้อนาบุญของชาวสกลนครเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่องโดยแท้

ให้บูชา 400 บาท