หากภัยพิบัติขึ้น ผู้มีบุญอยู่ที่ไหนก็รอด ผู้ไม่มีบุญอยุ่ที่ไหนก็ไม่รอด

ผู้ที่ไม่คิดคดทรยศต่อแผ่นดินเกิด เทิดทูนสถาบันอันสูงสุด เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐ ย่อมต้องเกิดแต่ความผาสุข ด้วยความดีงามของจิตใจทุกๆท่าน ขอให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงด้วยเทอญ

 

สำหรับท่านที่อยากจะได้บูชาลูกแก้วพระรัตนตรัย นั้น คงจะต้องรอสักระยะนึง ผมเดาว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ครูบาอาจารย์ซึ่งท่านมีมหาเมตตาเต็มเปี่ยมอยู่แล้วนั้น คงจะอนุญาตให้แจกแก้วพระรัตนตรัยให้กับพุทธศาสนิกชน ทั่วไปได้

ผมสังเกตจากวันก่อนที่ผมสั่งลูกแก้วจากร้านนึง เมื่อไปคัดเลือก ทีแรกก็กะว่าจะคัดเอาลูกแก้วเฉพาะลูกที่ดูดีไม่มีตำหนิ คัดไปคัดมาพอจะจ่ายตังปรากฏว่ามีกระแสเสียงจากลูกแก้วที่ถูกคัดออก มาว่า "ขอพวกข้าน้อยไปสร้างบารมีกับท่านด้วย" ผมเองก็ลังเลว่าจะเอายังไงดี เพราะต้องใช้ปัจจัยพอสมควร พอดีได้ยินเสียงครูครูบาอาจารย์ท่านบอกมาว่า "เอาไปทั้งหมดแหละลูก เอาไปสร้างบารมี โปรดสัตว์ สงเคราะห์ผู้ที่ยึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย" จากที่ตั้งใจแค่คัดเลือกซื้อ ก็กลายเป็นการซื้อแบบเหมาไปเลย ก็เข้าใจว่าครูบาอาจารย์ท่านมีมหาเมตตามาก

สำหรับผู้ปฏิบัติ หากเข้าถึงพระรัตนตรัย ก็สามารถอธิษฐานเอาแก้วพระรัตนตรัยมาซ้อนอยู่กับกายทิพย์ของตัวเองได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีลูกแก้วนี้ก็ได้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ของง่ายที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะต้องมีบุญบารมีเข้าถึงพระอรหันต์ พระธรรมและพระพุทธองค์ได้ จึงจะสามารถอธิษฐานน้อมเอารัตนทั้งสามประการคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนและสังฆรัตนะ มารวมอยู่ในตัวได้ ใครทำได้แบบที่ว่าก็ขอกราบงามๆอนุโมทนาสาธุการ ด้วยครับ

 

คิดเสียว่าเป็นการ กระชอนคนไม่ดี ไมีมีศีล-ธรรม ออกไป

 

ผมสังเกตจากวันก่อนที่ผมสั่งลูกแก้วจากร้านนึง เมื่อไปคัดเลือก ทีแรกก็กะว่าจะคัดเอาลูกแก้วเฉพาะลูกที่ดูดีไม่มีตำหนิ คัดไปคัดมาพอจะจ่ายตังปรากฏว่ามีกระแสเสียงจากลูกแก้วที่ถูกคัดออก มาว่า "ขอพวกข้าน้อยไปสร้างบารมีกับท่านด้วย" ผมเองก็ลังเลว่าจะเอายังไงดี เพราะต้องใช้ปัจจัยพอสมควร พอดีได้ยินเสียงครูครูบาอาจารย์ท่านบอกมาว่า "เอาไปทั้งหมดแหละลูก เอาไปสร้างบารมี โปรดสัตว์ สงเคราะห์ผู้ที่ยึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย" จากที่ตั้งใจแค่คัดเลือกซื้อ ก็กลายเป็นการซื้อแบบเหมาไปเลย ก็เข้าใจว่าครูบาอาจารย์ท่านมีมหาเมตตามาก

ถ้าช่วยแบ่งเบาได้ยินดีช่วยเหลือครับ สาธุ สาธุครับ........

 

มีกิจใดให้ช่วย ที่สามารถแบ่งเบาภาระกิจได้ แจ้งได้นะขอรับ ยินดีช่วยเช่นกันขอรับ

 

งงว่าจะเกี่ยวอะไรกันยังไง แม้แต่พระอรหันต์ พระพุทธเจ้า ก็ยังละสังขาร หรือใช้คำว่าตาย ในภาษาบ้าน ดังนั้นไม่ว่าเป็นคนดี เลว มหาจักรพรรดิ หรือยาจก ต่างตายกันทั้งหมดเป็นเรื่องแน่นอน คงร่างกายไว้ไม่ได้

นี่เอาภัยพิบัติ มาเป็นเกณฑ์วัดว่ารอดคือมีบุญ มึนมาก

 

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน เอาไว้ให้มีโอกาส ถ้าจะให้ท่านช่วยในส่วนไหนแล้วผมจะบอกล่วงหน้าครับ ช่วงนี้มีงานที่ครูบาอาจารย์เบื้องบนท่านให้สืบทอดอริยะประเพณี อย่างช่วงออกพรรษา ท่านให้จัดประเพณีชักพระ ไหลเรือไฟและปล่อยสัตว์ ท่านให้รวมเอาอริยะประเพณีต่างๆมารวมไว้ในเขตพุทธาวาสของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ในกาลอื่นๆก็จะมีกิจกรรมต่างๆกันไป เป็นการเพิ่มพูนบุญญาบารมีอีกทางหนึ่ง

นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องของการเดินทางไปโปรดสัตว์(ภพภูมิโลกวิญญาณ)ในสถานที่ต่างๆ เช่น ลาว เขมร พม่า เป็นต้น ทีแรกเรื่องการโปรดสัตว์นี่ ผมจะของด จะไม่ทำเพราะเป็นภาระมากเกินไป แต่ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าบางภพภูมิที่เขาเกี่ยวข้องกับเรามาเขาไม่ยอม เขารอกันมายาวนานเป็นพุทธันดร หรือหลายๆพุทธันดรแล้ว หากเราไม่ไปสงเคราะห์ พวกเขาจะไปสู่สุขคติภูมิกันไม่ได้เพราะส่วนหนึ่งที่เขาต้องอยู่ในสภาพแบบนั้นก็เกี่ยวพันกันมากับกรรมหรือการกระทำของเราในพุทธันดรก่อนๆ แล้วท่านก็เทศน์ร่ายยาวเรื่องการกระทำของเราในสังสารวัฏฏ์ ก็เหมือนกับกรรมที่เราทำไว้ในอดีต เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องใช้บุญบารมีที่สั่งสมไปคลี่คลายให้เกิดอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน กรรมวิบากต่างๆก็จะได้เบาบางไป

การเกิดภัยพิบัติต่างๆ ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำมาซ้ำไปในสังสารวัฏฏ์ทั้งนั้น เหตุการณ์ขณะนี้เป็นเหมือนการค่อยๆจำลองให้เห็นสถานที่ที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยจากน้ำและภัยอื่นๆ เป็นการย้ำเตือนให้เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท จะได้พิจารณาหาสถานที่ปลอดภัยในอนาคต

ครูบาอาจารย์เบื้องบน ท่านบอกว่าปีหน้าภัยพิบัติต่างๆก็จะหนักกว่านี้อีก จะค่อยหนักและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆและจะไม่มีอะไรหยุดยั้งมวลกรรมรวมของมนุษย์ได้ แม้แต่บุญญาบารมีของพระพุทธองค์ก็จะแผ่พระบารมีสงเคราะห์เฉพาะผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลธรรมอันดีเท่านั้น

 

สวัสดีครับสามชิกทุกท่าน
ผมเป็นสมาชิกใหม่ได้ไม่นาน ได้มีโอกาสเข้ามาติดตามข้อมูลใน webพลังจิตมาระยะหนึ่ง แตไม่ได้มีความรู้หรือเข้าใจในภาษาธรรมมากนัก แต่รุ้สึกดีเสมอเวลาได้บฟังบทความ ข้อความดีๆ จากผู้ทรงภูมิทุกท่าน อยากถามผู้รู้น่ะครับ ช่วงเสาร์-ทิตย์ที่ผ่านมากลับบ้าน นั่ง เล่นกับคุณแม่อยู่หน้าบ้าน(มืดแล้วยังหัวค่ำอยู่ ) มองไปตรงหน้าเห็นดาวสว่างตรงหน้า(เป็นดาวที่สว่งมากเมื่อเทียบกับดวงอื่น)รู้สึกสะดุดตา เลยชวนคุณแม่ให้ดู (คุณแม่ตาไม่ค่อยดี สั้นมาก) ท่านก็ถามว่าไหน ไม่เห็นเลย ก็ชี้ให้ดู ท่านก็ว่าไม่เห็น ท่านก็พูดยิ้มๆ "อย่าไปทักดาวจะตก เดี๋ยวไปเกิดที่ท้องหมา" ตนเองไม่ค่อยเชื่อ แล้วคุณแม่ก็ว่า "แปลก เห็นเหรอปรกติเค้าไม่ค่อยให้เห็น ดวงไฟหรือเล่า" "ดาวจริง แยกออกนะดวงไฟกับดาวน่ะ" จากนั้นคุยโน่นนี่ต่อ แล้วเหลือบตาไปมองอีกที่ ดาวหายไปแล้ว หายไปจริงๆ
ฟังแล้วดูไม่เป็นเรื่องนะครับแต่อยากทราบว่ามันคืออะไร เป็นความเชื่ออย่างที่คุณแม่บอกจริงหรือไม่ หรืองนที่โดนคุณแม่อำกันแน่ครับ
ขอบคุณนะครับ

 

ภาพพระพุทธเจ้าองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าวิปัสสี) ท่านสร้างบารมีมา 120 อสงไขย ถือกำเนิดในดอกบัว ครับ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่เมตตาลงมาสอนธรรมให้เป็นประจำ


สัปดาห์ก่อนพระศรีอริยเมตตรัย ท่านมีเมตตาลงมากำชับให้ลูกหลานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จัดงานบุญออกพรรษาให้สมพระเกียรติ์ เพราะงานนี้มีพระรัตนตรัย เป็นประธาน รวมทั้งเทพเทวาต่างๆขอมาร่วมงานกันทั้ง 31 ภพภูมิ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายพระองค์ ท่านสื่อสารผ่านเข้ามาทางลูกหลานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์หลายคนขอมาร่วมงานออกพรรษา ซึ่งมีนัยยะว่าคณะฯต้องจัดหารูปหล่อ ที่เป็นสัญญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์นั้นๆ แล้วอัญเชิญไปที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในวันออกพรรษา ซึ่งสัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะเชื่อมญาณของเทพพรหม พระองค์ต่างๆเพื่อมาร่วมสร้างบารมีในวาระต่อไปด้วย

ในขณะนี้ปู่อนันตนาคาช ท่านได้มารออยู่แล้วที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เพราะผมได้เตรียมพญานาคไม้แกะ 2 ตนเพื่อประกอบในพิธีชักพระ ทีแรกก็ยังไม่ทราบว่าพญานาคตนใดจะมารับ ปรากฏว่าเมื่อตอนที่ไปรับพระพุทธเจ้าองค์ปฐมกับพญานาคมานั้น เมื่อมาถึง กทม. ก็ได้อาราธนาปู่ทวดกับปู่โต รวมทั้งปู่ทองทิพย์ ท่านลงมาทำพิธีรับพระพุทธฯ จากนั้นปู่อนันตนาคราชก็มา ก่อนกลับปู่ทองทิพย์ท่านก็บอกให้ผมจุดธูปบอกให้ปู่อนันตนาคราชไปอยู่ที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์และให้ท่านคุ้มครองดูแลลูกหลานของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ทุกคนให้ปลอดภัยจากภัยทั้งปวง

สมัยที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านทรงขันธ์อยู่ ปู่อนันตนาคราช ท่านก็เคยมาหาปู่ทองทิพย์ ท่านมาเป็นปู่ฤษีห่มหนังเสือมา มีคนเห็นกันหลายคน หลายคนก็ได้ยินสองท่านสนทนากัน

เรื่องพวกนี้เข้าข่ายอาจินไตย เป็นเรื่องของพระโพธิสัตว์ สร้างบารมีกัน ซึ่งลูกหลานของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ส่วนใหญ่เป็นพระโพธิสัตว์ลงมาสร้างบารมี ยุคนี้ลงมากันเยอะ ทั้งปรมาจารย์เขาอ้อ(สหธรรมิกของหลวงปู่ทวด) พระมหาเถรคันฉ่อง พระเอกาทศรถ ฯลฯ ล้วนลงมาใช้ธาตุขันธ์สร้างบารมี ทำนุบำรุงพระศาสนากัน มีครูบาอาจารย์หลายๆพระองค์ท่านวนเวียนกันมาชี้แนะ เด็กบางคนที่สภาวจิตดีๆก็สามารถสัมผัสญาณพระพุทธองค์ได้

สำหรับพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มข้นแล้วนั้นพระพุทธองค์ท่านจะเป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการสร้างบารมี

เดือนก่อนไปเจอพระโพธิสัตว์อีกองค์นึง อายุแค่ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 คนนี้ปู่โต ท่านดูแลอยู่ มีตาทิพย์ทะลุตาเนื้อ(เห็นทิพย์ด้วยตาเปล่า)ปู่โตท่านบอกว่าองค์นี้เคยอยู่ในสำนักของพระพุทธเจ้าสมณโคดมในสมัยพุทธกาล เขาก็ลงมาสร้างบารมีที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์เช่นกัน(ออกพรรษานี้คงจะถึงเวลาที่เขาจะต้องมาที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์) โพธิสัตว์องค์นี้มีตรีศูนย์เป็นอาวุธประจำกาย เขาไปอธิษฐานเอามาจากสถานที่นึงในภาคอีสาน เขาคว้าตรีศูนย์มาอากาศ เมื่อเจอกันโพธิสัตว์น้อยได้เขาเอาตรีศูนย์มาอวดผม(เป็นทองสำริดแก่ทองคำ) เขาบอกว่าไปกันหลายคน เห็นกันหลายคน หลายคนอธิษฐานจะเอาตรีศูนย์จากอากาศ แต่เอาไม่ได้ เขาตัวเล็กสุดอธิษฐานแล้วก็สามารถคว้าตรีศูนย์จากอากาศเอามาได้เลย ก็เป็นของคู่บารมีเขาน่ะ และยังมีของศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นนึงเป็นของคู่บารมีของพระอินทร์ ปู่โตท่านบอกว่า เจ้าตัวเล็กว่างเมื่อไหร่ให้เขาพาผมไปแล้วให้ผมไปอธิษฐานเอาของชิ้นนั้นมาถวายที่รูปปั้นพระอินทร์ ในอดีตพระอินทร์ท่านเคยให้ผมครอบครองของชิ้นนี้ พอหมดยุคสมัยของก็กลับไปอยู่ที่เดิม

ยุคภัยพิบัติ คนศักดิ์สิทธิ์ มากด้วยบุญญฤทธิ์ จุติลงมาสร้างบารมีกันเยอะ ครับ