อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

เนื่องจากทางทีมงานเว็บวัดท่าขนุนจะย้ายที่วางเซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยจะดำเนินการในวันจันทร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. โดยประมาณ

อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานเว็บในช่วงวันเวลาดังกล่าว

IP Address ใหม่ คือ IP 210.1.51.131

ท่านที่บันทึกสถานีรับฟังถ่ายทอดสดไว้ในเครื่องมือสื่อสารของท่าน หลังจากที่ย้ายที่วางเซิร์ฟเวอร์แล้ว ท่านจำเป็นต้องเปลี่ยน IP Address เพื่อรับฟัง-รับชมการถ่ายทอดสดอีกครั้ง

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และกราบขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post158822">#post158822” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=158822 #post158822



ที่มา วัดท่าขนุน

 

เนื่องจากทางทีมงานเว็บวัดท่าขนุนได้ย้ายที่วางเซิร์ฟเวอร์ใหม่ เมื่อวันจันทร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

โดย IP Address ใหม่ คือ IP 210.1.51.131

ท่านที่บันทึกสถานีรับฟังถ่ายทอดสดไว้ในเครื่องมือสื่อสารของท่าน หลังจากที่ย้ายที่วางเซิร์ฟเวอร์แล้ว ท่านจำเป็นต้องเปลี่ยน IP Address เพื่อรับฟัง-รับชมการถ่ายทอดสดอีกครั้ง

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และกราบขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยครับ



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ข่่าวด่วนครับ…

พระอาจารย์ติดปฏิบัติธรรมของพระอุปัชฌาย์ใหม่ จึงขอยกเลิกงานบวงสรวงพุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชรในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙ ขออภัยต่อทุกท่านที่ได้รับผลกระทบด้วยครับ

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post159656">#post159656” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3271 #post159656



ที่มา วัดท่าขนุน

 

กำหนดการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๓/๒๕๕๙
วันพุธที่ ๑๓ – วันอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙

วันพุธที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ (หยุดราชการ งดบิณฑบาต)

เวลา ๐๖.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๐๘.๐๐ น. ตรวจสอบรายชื่อผู้สมัครบวชเนกขัมมะ
เวลา ๐๘.๓๐ น. พิธีบวชเนกขัมมะเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๓/๒๕๕๙
เวลา ๐๙.๐๐ น. ฟังพระธรรมเทศนาและทำบุญวันสงกรานต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๑๓.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย (เดินจงกรม – ภาวนา)
เวลา ๑๕.๐๐ น. พักผ่อน ทำธุระส่วนตัว
เวลา ๑๖.๓๐ น. ร่วมกันทำความสะอาดวัด
เวลา ๑๘.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบแรก
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบสอง
เวลา ๒๐.๐๐ น. พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ (หยุดราชการ งดบิณฑบาต)

เวลา ๐๔.๐๐ น. พระอาจารย์นำเจริญกรรมฐาน
เวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า
เวลา ๐๖.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๐๘.๐๐ น. สนทนาธรรมกับพระอาจารย์
เวลา ๐๙.๐๐ น. ฟังพระธรรมเทศนาและทำบุญวันสงกรานต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๑๒.๓๐ น. บังสุกุลอัฐิเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ
เวลา ๑๓.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย (เดินจงกรม – ภาวนา)
เวลา ๑๕.๐๐ น. แข่งขันก่อพระเจดีย์ทราย
เวลา ๑๖.๓๐ น. ร่วมกันทำความสะอาดวัด
เวลา ๑๘.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบแรก
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบสอง
เวลา ๒๐.๐๐ น. พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันศุกร์ที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ (หยุดราชการ งดบิณฑบาต)

เวลา ๐๔.๐๐ น. พระอาจารย์นำเจริญกรรมฐาน
เวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า
เวลา ๐๖.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๐๘.๐๐ น. สนทนาธรรมกับพระอาจารย์
เวลา ๐๙.๐๐ น. ฟังพระธรรมเทศนาและทำบุญวันสงกรานต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๑๓.๐๐ น. สรงน้ำพระพุทธรูป รูปหล่อหลวงปู่พุก รูปหล่อหลวงปู่สาย
เวลา ๑๔.๐๐ น. พิธีอุ้มพระสรงน้ำ
เวลา ๑๕.๐๐ น. พักผ่อน ทำธุระส่วนตัว
เวลา ๑๖.๓๐ น. ร่วมกันทำความสะอาดวัด
เวลา ๑๘.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบแรก
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบสอง
เวลา ๒๐.๐๐ น. พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันเสาร์ที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ (หยุดราชการ)

เวลา ๐๔.๐๐ น. พระอาจารย์นำเจริญกรรมฐาน
เวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า
เวลา ๐๖.๐๐ น. พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาต อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรมไปใส่บาตรในตลาดได้
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๐๘.๓๐ น. ปฏิบัติธรรมช่วงเช้า (เดินจงกรม – ภาวนา)
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๑๓.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย (เดินจงกรม – ภาวนา)
เวลา ๑๕.๐๐ น. พักผ่อน ทำธุระส่วนตัว
เวลา ๑๖.๓๐ น. ร่วมกันทำความสะอาดวัด
เวลา ๑๘.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบแรก
เวลา ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรค่ำรอบสอง
เวลา ๒๐.๐๐ น. พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ (หยุดราชการ)

เวลา ๐๔.๐๐ น. พระอาจารย์นำเจริญกรรมฐาน
เวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า
เวลา ๐๖.๐๐ น. พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาต อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรมไปใส่บาตรในตลาดได้
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๐๘.๓๐ น. ปฏิบัติธรรมช่วงเช้า (เดินจงกรม – ภาวนา)
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด
เวลา ๑๓.๐๐ น. พิธีลาศีล ๘ รับศีล ๕ และรับวุฒิบัตรผู้ปฏิบัติธรรม
เวลา ๑๔.๐๐ น. เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4846



ที่มา วัดท่าขนุน

 

Cr. Bigbig Blue
วันงานหล่อพระสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๔๙ นิ้ว
รูปเหมือนหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
รูปเหมือนหลวงพ่อวัดท่าซุง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ภาพงานหล่อสมเด็จองค์ปฐม – หลวงปู่ปาน – หลวงพ่อฤๅษี

วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๙

ขอบพระคุณภาพสวย ๆ จากพี่มะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุนค่ะ

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post159775">#post159775” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=159775 #post159775



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ภาพงานวันมาฆบูชา
วันจันทร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙

ขอบพระคุณภาพจากพี่มะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุนค่ะ

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post159802">#post159802” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=159802 #post159802



ที่มา วัดท่าขนุน

 

แจ้งข่าวครับ…..

วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ พระอาจารย์จัดงานพุทธาภิเษกขอสับช้าง ให้กับตุ๊ป้อสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ ที่บ้านวิริยบารมี เวลา ๐๗.๓๐ น. ทุกท่านสามารถมาร่วมงานได้ แต่…ไม่รับฝากวัตถุมงคลเข้าพิธีครับ ไม่ต้องเสียเวลานำมา..!



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ถ่ายทอดสด งานพุทธาภิเษก จากบ้านวิริยบารมี วันที ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ เริ่ม ๗.๐๐ น. _/|_
https://youtu.be/lgmjBHgVCeM



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ภาพงานพุทธาภิเษกรอบพิเศษ ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙

งานพุทธาภิเษก ณ บ้านวิริยบารมี วันที่ ๕ เดือนมีนาคม ๒๕๕๙

พระอาจารย์กล่าวว่า “กราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ถามพระท่านก็บอกว่าทำได้ ก็จัดงานพุทธาภิเษกขึ้นมาสิ ปรากฏว่าจัดไปจัดมาปรากฏว่าหน้าตาออกตามที่เห็น ก็คือคำสั่งออกมาทีละอย่างสองอย่างไปเรื่อยๆ แรกๆ ก็สงสัยว่าทำไมท่านให้นำมีดหมอมาหมดเลย”

ด้านซ้ายล่างก็คือมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ถัดไปทางด้านซ้ายบน มีดหมอหลวงปู่ทองเฒ่า แล้ววนไปด้านขวาบนมีหมอหลวงปู่ทบ วนมาขวาล่างมีดหมอหลวงปู่รุ่ง ส่วนตรงกลางที่อยู่ใกล้กับแก้วอินทนิล เป็นพระขรรค์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เรียกว่าพระขรรค์ปราบไตรโลก

จากด้านบนลงมาก็เป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เล่มที่ ๒ เล่มถัดลงมาติดกับพระขรรค์ คือมีดหมอหลวงปู่บุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี ท่านเรียกมีดหมอปราบไพรี เล่มถัดมาที่อยู่ใต้พระขรรค์ คือมีดหมอ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามหรือที่ชาวบ้านเรียกวัดบ้านแค เล่มนี้วันเอามาหนีไปนอนไหนก็ไม่รู้ อาตมาคิดว่าคนเอามาลืมหรือเปล่า ปรากฏว่าพอถึงพิธีแล้วก็อยู่ตรงนั้นแหละ ท่านล้อเล่น วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่ ท่านเป็นเจ้าของคาถานะโมตาบอดที่อาตมาเรียนมา

เล่มถัดมาเป็นมีดหมอดาบฟ้าฟื้น หลวงพ่อฤาษี อาจารย์ของอาตมาโดยตรง ส่วนบนผ้าขาว ๓ เล่ม เป็นของหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล เล่มด้านล่าง มีดหมอเพชราวุธ พิเศษตรงที่ด้ามเป็นงากวัก ฝักเป็นงางอก ส่วนด้ามตรงกลาง พระขรรค์ ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ส่วนแก้วสีเขียวนั่น ท่านปู่ประทานมาให้เรียกว่า “แก้วอินทนิล”

ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ท่านบอกว่าที่ต้องจัดพิธีขนาดนี้ เพราะอีก ๔ วัน ตามตำราโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูทับดวงเมือง หากไม่ทำพิธีแบบนี้อาจจะมี “เลือดนองท้องช้าง” แล้วถามว่าประโยชน์ทางด้านอื่น ท่านบอกว่าเศรษฐกิจแย่มาก ๆ ฉะนั้น รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคล “รุ่นฝ่าวิกฤติ” ละกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรช่างมัน เพราะว่าพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเอง “เรื่องมหาลาภ มหาปราบ” ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่า “ไปรอดแล้วยังต้องรวยด้วย”

ถ้าถามว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีวันนี้มีอะไร ก็มีขอสับช้างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่เป็นต้นเรื่องเลย มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ตุ๊พ่อท่านบอกว่าเหลือไว้อย่างละ ๑๐๐ นอกนั้นเขาจอง ขนาดเล็ก ๙๐๐ บาท ขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ บาท ขึ้นราคาหน่อยได้ไหม (หัวเราะ) หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ กราบเรียนตุ๊พ่อท่านบอกว่าเอาจำหน่ายตรงนี้เลย โยมที่ต้องการจะได้ไม่ต้องไปจองในเว็บ ไม่ต้องไปที่วัด มีอย่างละร้อยเดียวห้ามจองคนเดียว ๙๙ อัน

ส่วนของวัดท่าขนุนมีขุนแผนเกราะเพชร ที่จะออกในงาน ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤาษี ขุนแผนรุ่นนี้ทำด้วยผงยานัตถ์หลวงพ่อฤาษีที่อาตมาเก็บสะสมไว้ ก็จะมีพิมพ์ใหญ่ ตะกรุดหัวใจขุนแผนเนื้อทองคำ ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อนาค ๓,๐๐๐ องค์เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์ ส่วนพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุด เพราะว่าขนาดตะกรุดถ้าฝังลงไปแปลว่าลดขนาดองค์พระ พิมพ์เล็กมี ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อผงยานัตถุ์อย่างเดียว

แล้วก็มีวัตถุมงคลเก่าของวัด ก็มีเหรียญของขวัญปีใหม่ เนื้อตะกั่ว ๔,๐๐๐ เหรียญ เอาไปออกในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤาษีแล้ว ๑,๐๐๐ นึง ใครจองไปถือว่าเฮงมากเลยเพราะตอนนั้นลดราคาให้ครึ่งนึง พอเอาเข้าพิธีแล้วคงต้องเพิ่มราคาครึ่งนึง

แล้วก็มีเหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ เหรียญ ก็จองกันไป ๑,๐๐๐ นึงแล้ว เนื้อทองคำ ๓๐๐ จองกันไป ๑๐๐ กว่า ใครไม่ได้จองไม่ต้องเสียใจเพราะอาตมาตั้งใจขึ้นราคาอยู่แล้ว
แล้วก็มีผงงาช้าง ๖๐ กิโลกรัม เอาไว้สร้างพระ ได้มาจากโอท๊อปที่สุรินทร์ ปกติเขาขายกันแพงมาก แต่คณะของคุณหญิง ณญาดา ไม่รู้ไปตีซี้ออีท่าไหนไปโกยมาหมดเลย บอกว่าเอาให้หลวงพ่อไว้สร้างพระ ยังไม่มีอารมณ์จะสร้าง นึกลูกเล่นไม่ออกว่าจะสร้างอะไรดี

แล้วก็เมื่อวานนี้ท่านอานนท์ วัดบึงลาดสวาย เอาพระอุปคุตชัยวัฒน์มาเข้าพิธี พระอุปคุตชัยวัฒน์รุ่นนี้สร้างด้วยแร่ขี้นกเขาเปล้า ถือว่าเป็นโลหะอาถรรพ์อย่างหนึ่ง ท่านถวายไว้ ๑๐๐ องค์ แล้วนำมาเข้าพิธีใหม่ เดี๋ยวไปแอบ ๆ ดูกันในกระทู้งานอุปสมบท ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤาษีละกัน ถ้าใครไม่รู้จักแร่ขี้นกเขาเปล้าก็ไปเสิร์ซดูในกูเกิ้ลน่าจะมีรายละเอียดอยู่
ส่วนของอื่น ๆ ก็น่าจะไม่มีอะไร เพราะท่าน “ไม่ให้รับวัตถุมงคลอื่นเข้าพิธี” ตั้งใจจะสงเคราะห์ตุ๊พ่ออย่างเดียว เดี๋ยวตอนทำพิธีก็อธิษฐานเอาเองตามอัธยาศัย ใครจะฝ่าวิกฤติมากวิกฤติน้อยก็อธิษฐานเอา

เวลาพระหรือครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำงาน งานบางอย่างก็แปลก ๆ ในความรู้สึกของพวกเราแต่ว่าต้องทำ เพราะคำสั่งนี้ห้ามสงสัยเด็ดขาด ทำไปเถอะ แล้วคำสั่งนี้จะมีเฉลยทีหลังทุกทีเลย แล้วพอเฉลยมา บางทีก็นั่งง ๆ ว่าอ๋อที่แท้อย่างนี้นี่เอง งานนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นคุณความดีที่ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกระเป๋าฉีก จ่ายเกินตัว ไม่อย่างนั้นก็ต้องจะมีงานอีกที ๙ กรกฎาคมเลย ก็คืองานเป่ายันต์เกราะเพชร
ในเมื่อเรามีงานนี้ขึ้นมาก่อน ตามที่ท่านบอกอย่างน้อย ๆ ก็คือ ผ่อนสถานการณ์ประเทศชาติจากหนักให้เป็นเบา เมื่อวานก็ยังสงสัยว่าปลุกเสกพระอุปคุตชัยวัฒน์ แร่ขี้นกเขาเปล้าให้ท่านอานนท์ ทำไมพระท่านเต้นระบำได้ ท่านเตรียมเอาไว้สำหรับงานนี้ นานๆ อาตมาจะปลุกของให้เต้นได้สักที ปกติมักจะหลับ ต้องรอคนอื่นมาปลุก

งานที่ปลุกของแล้วเต้นได้เห็น ๆ ก็คือ มีดหมอเพชราวุธ แล้วก็มางานนี้ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ให้คนเห็นเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน เพราะคนจะเห็นเป็นอัศจรรย์ แล้วต่อไปจะมากวนกันหัวไม่วางหางไม่เว้น

เมื่อก่อนอาตมาสอนหนังสืออยู่วัดไร่ขิง มีโยมคนนึงเดินตัวเอียงมาเลย ถามว่าเป็นไร รถชนกระดูกไหปลาร้าหัก แล้วมาทำอะไร มาให้พระอาจารย์เล็กช่วย ก็ถามว่ากระดูกหักแล้วทำไมไม่ไปหาหมอ เขาบอกอาจารย์เล็กเก่ง มันสมควรตายจริง ๆ ฉะนั้น เรื่องพวกนี้บางทีเราก็นึกไม่ถึงว่า ศรัทธาโยมไปบังปัญญาเสียหมด เขาเรียกอธิโมกขศรัทธา น้อมใจเชื่ออย่างเดียวโดยไม่มีปัญญาประกอบ เขาคงคิดว่าอาตมารักษาได้ทุกโรคจริง ๆ
แต่ถ้าโยมสังเกตเห็นแม้กระทั่งเรื่องของไสยศาสตร์ เรื่องของอะไรที่มา อาตมาจะให้รอไปเข้าพิธีงานเป่ายันต์เสมอ เพราะว่าอาตมาไม่ได้มีหน้าที่รักษาโรคทางไสยศาสตร์ ต่อให้ทำได้ก็ไม่รักษา อย่าว่าแต่ไม่เคยเรียนวิธีรักษามา วิธีรักษาโรคของอาตมาไม่มีอะไรมา ตบร่วงก็หาย ทีนี้คนดันเห็นว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์รักษาได้ ในเมื่อไม่ได้มีหน้าที่รักษา ก็ให้โยมไปรอเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรดีกว่า

ฉะนั้น งานนี้ของพวกเราพอพุทธภิเษกเสร็จก็ช่วยกันบูชาขอสับช้างปลดหนี้ให้ตุ๊พ่อสิงห์ท่านหน่อยละกันนะ วิธีการใช้ขอสับช้างไปเสิร์ซหาในกูเกิ้ลเอานะ ท่านลงไว้หมดแล้ว ถ้าหาในกูเกิ้ลไม่เจอก็ไปดูในเฟซบุควัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

เนื่องจากพิธีครั้งนี้เป็นของพิเศษ ก็คือมาเองโดยมิได้นัดหมาย การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลชุดนี้คงจะก็ไม่เหมือนใคร ในเมื่อไม่เหมือนใคร ก็คงไม่ต้องไปรอหาของใหม่ เพราะว่าเสกใหม่ก็ไม่เหมือน มีทางเดียวถ้าต้องการคือ บูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้ไปเลย เสร็จแล้วก็ทำเครื่องหมายไว้ ว่าเข้าพิธีชุดนี้

เมื่อเช้าอาตมาเขียนตะกรุดมหาสะท้อน เนื้อทองคำ ๒ ดอก รหัสไม่เหมือนใคร โค๊ตงวดนี้ก็คือ ๕๓๕๙ เป็นวันที่ ๕ มีนาคม ๕๙ มีแค่ ๒ ดอกในโลกเท่านั้นที่เป็นโค๊ดนี้ โค๊ดอื่นก็ไม่มี และตะกรุดมหาสะท้อนที่อาตมาเอาเข้าพิธีก็มีรุ่น ๕ เนื้อทองคำ ๔๖ ดอก แล้วก็เนื้อเงิน ๔๔ ดอก แล้วที่เขียนใหม่ ๒ ดอก นอกเหนือจากนี้ไม่มี ว่าจะไปเขียนติดซองเอาไว้ว่าฝ่าวิกฤตกู้โลก (หัวเราะ) เอาแค่ฝ่าวิกฤติก็พอนะ อย่าถึงกับกู้โลกเลย กู้โลกเดี๋ยวดอกเบี้ยมันเยอะ

ติดตามวีดีโอย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/lgmjBHgVCeM

เครดิตถอดเทป คุณ Tachapol TU
ขอบพระคุณภาพจากคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว้บวัดท่าขนุน

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post160714">#post160714” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=160714 #post160714



ที่มา วัดท่าขนุน

 

เหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ส่วนหนึ่งจากเก็บตกงานพุทธาภิเษกรอบพิเศษ (ฝ่าวิกฤติ) ณ บ้านวิริยบารมี

“ส่วนพานล่างที่วางอยู่บนผ้าขาว ๓ เล่มนั่นของหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ทั้งหมดเลย แปลว่าอาตมามีมีดหมอของหลวงปู่รุ่งอยู่ ๔ เล่ม

ถัดมาด้านล่างก็คือมีดหมอเพชราวุธ แต่เล่มนี้พิเศษตรงที่ด้ามเป็นงากวัก ฝักเป็นงางอก เคยได้ยินไหม ? งากวักก็คืองาช้าง ซึ่งปกติแล้วงาช้างจะแหลมยาวออกไปเฉย ๆ แต่งากวักคือปลายจะงอกลับเหมือนตะขอ พอดีทำด้ามมีดเลย ส่วนงางอกคืองาช้างที่มี “คด” งอกอยู่ข้างในโพรงงา

ส่วนด้ามตรงกลางเล่มใหญ่ ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกำลังหมายตาอยู่ คือ พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ที่อาตมาสร้างถวายในหลวงเพื่อประคองให้พระองค์ท่านอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนแก้วสีเขียว ๆ นั่น ท่านปู่พระอินทร์ประทานมาให้เรียกว่า “แก้วอินทนิล” ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ? ท่านบอกว่าที่ต้องจัดพิธีขนาดนี้ เพราะอีก ๔ วัน ตามตำราโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูจะทับดวงเมือง สยดสยองไหม ? ถ้าไม่ทำพิธีแบบนี้อาจจะมีเลือดนองท้องช้าง..! แล้วถามว่าประโยชน์ทางด้านอื่น ท่านบอกว่าปีนี้เศรษฐกิจแย่มาก ๆ

ฉะนั้น…รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นฝ่าวิกฤติก็แล้วกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าพวกเราพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเองนี่เด่นเรื่องมหาลาภ มหาปราบ เรื่องนี้ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่าไปรอดแล้วยังต้องรวยอีกด้วย”

สามารถติดตามอ่านทั้งหมดได้ที่ http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4887&page=3

ขอบพระคุณภาพจากคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน



ที่มา วัดท่าขนุน

 

กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๔๕

เดือนมีนาคม ๒๕๕๙
โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
วัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

เล่มอื่น ๆ ตามไปอ่านได้ที่
http://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=60
และ
http://www.grathonbook.net/book/ นะคะ



ที่มา วัดท่าขนุน

 

“การที่พวกเราดำรงชีวิตอยู่นั้น แม้แต่คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายก็ยังเป็นความประมาทจนเกินไป เพราะวันหนึ่งมีถึง ๒๔ ชั่วโมง

จะว่าไปแล้วก็คือ ชีวิตของเรามีแค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น หายใจเข้าถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายแล้ว เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใส ปฏิบัติตามธรรมะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ แปลว่าเราเป็นผู้ที่มีบุญญาบารมีมาเพียงพอต่อการไปพระนิพพานแล้ว

ถ้าหากว่าเราละทิ้งโอกาสนี้ไป ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่แน่ว่าเราจะได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาอีก ไม่แน่ว่าเราจะเกิดมาพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีก และการเกิดแต่ละชาติล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ทั้งสิ้น ดังนั้น..เราจึงต้องฉวยโอกาสในชาตินี้ ปัจจุบันนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ กอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุด”

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2685
ขอบพระคุณภาพจากคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน



ที่มา วัดท่าขนุน

 

“การที่จะใช้วัตถุมงคลให้ได้ผลจริง ๆ นอกจากจะต้องมีศรัทธาเลื่อมใสแล้ว ถ้ามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงอุปเท่ห์ หรือว่าสาเหตุที่ท่านได้สร้างวัตถุมงคลนั้น ๆ ขึ้นมา ก็จะทำให้สามารถเข้าถึงและใช้วัตถุมงคลได้เต็มที่ เต็มกำลัง เหมือนที่อาตมาเคยบอกว่า พระคาถาแต่ละบท ถ้าเราสามารถเข้าถึงตัวพระคาถาได้จริง ๆ ก็จะใช้ให้เกิดผลได้มากกว่าคนอื่น

อย่างเช่นพระคาถาเมตตาที่ว่า “พระอรหัง สุคโต ภควา นะ เมตตาจิต” เป็นต้น ก็คือ พระอรหันต์มีความเมตตาขนาดไหน ไปถึงที่ใดก็ล้วนแล้วแต่ไปดี ถ้าเราสามารถเข้าใจถึงลึกซึ้งถึงวาจาประโยคนี้ได้ก็จะเข้าใจ คนอื่นเห็นพระอรหันต์แล้วเกิดความเมตตาอยากจะสงเคราะห์ เพราะท่านประกอบไปด้วยความดี ความบริสุทธิ์อย่างยิ่งแบบไหน ถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้แล้วใช้พระคาถานี้ภาวนา นึกถึงกำลังใจแบบนั้น คนที่ได้พบได้เห็นเราก็จะเกิดความเมตตาให้การสงเคราะห์อนุเคราะห์ลักษณะนั้นเช่นกัน

ฉะนั้น..ในเรื่องของวัตถุมงคลหรือตัวบทพระคาถาใด ๆ ถ้าเราเข้าใจถึงอุปเท่ห์และวิธีการ ตลอดจนกระทั่งเข้าใจลึกซึ้งถึงพื้นฐานของพระคาถาหรือการสร้างวัตถุมงคลนั้น ๆ ขึ้นมา เราก็จะสามารถใช้วัตถุมงคลนั้นได้มากกว่าคนที่ไม่เข้าใจ”

เก็บตกงานฉลองบ้านวิริยบารมี ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4398
ขอบพระคุณภาพจากคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน



ที่มา วัดท่าขนุน

 

พระอาจารย์เข้ากรรมฐานของพระอุปัชฌาย์ใหม่ ๑๕ วัน ออกมางานทำบุญบ้านวิริยบารมีพอดี ท่านใดไปทำบุญกับพระอาจารย์ในงานวันที่ ๒๗ นี้ ท่านฝากแจ้งว่า ช่วยหิ้วน้ำดื่มไปถวายคนละ “แพ็ก” จะขวดเล็กหรือขวดใหญ่ก็ได้ครับ

ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post161847">#post161847” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=161847 #post161847



ที่มา วัดท่าขนุน

 

คนเราถ้าหากว่าทำได้ถึงปฐมฌาน ถ้ารู้จักคิดจะไม่มีการตกต่ำอีก เพราะว่าทันทีที่จิตเข้าสู่ระดับของปฐมฌาน ตัวรัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นไฟใหญ่ ๔ กอง เผาเราอยู่นั้น จะโดนอำนาจฌานกดทับลงชั่วคราว จะเกิดความสุขเยือกเย็นอย่างชนิดที่พรรณนาเป็นคำพูดไม่ถูก

คราวนี้ถ้าคนมีปัญญา เขาจะคิดว่า โอหนอ..แค่ปฐมฌานที่เราทรงได้ยังมีความสุขขนาดนี้ คนที่ได้ ฌาน ๒ ฌาน ๓ ฌาน ๔ เขาจะสุขขนาดไหน ?
บุคคลที่ได้ฌาน ๒ ฌาน ๓ ฌาน ๔ ได้สมาบัติ ๘ ถึงสุขขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสิบหกของความเป็นพระโสดาบัน
เป็นพระโสดาบันสุขมากขนาดนั้นแล้ว พระสกิทาคามีที่เหนือกว่าจะสุขขนาดไหน ? พระอนาคามีที่เหนือยิ่งขึ้นไปจะสุขขนาดไหน ?

กำลังใจก็จะเห็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถ้าหากว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ก็จะเป็นการเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกาย วาจา ใจ อย่างเที่ยงแท้ ไม่สักแต่ว่ากราบด้วยมือ ด้วยกาย ตอนนี้ปากว่าไปใจก็จะน้อมตามไปด้วย

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้ายึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ก็ยึดจริง ๆ ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้ายึดพระธรรมเป็นที่พึ่ง ก็ยึดจริง ๆ ด้วยกาย วาจา ใจ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอยึดพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ก็ยึดจริง ๆ ด้วยกาย วาจา ใจ

ในเมื่อยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้น ไม่ล่วงเกินด้วย กาย วาจา ใจ แล้ว แค่ไล่ศีลให้บริสุทธิ์ก็เป็นพระโสดาบันแน่แล้ว เพราะว่าเขาต้องคิดอยู่แล้วว่า เราเคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพราะเราต้องการไปนิพพาน เรารักษาศีล เพราะต้องการไปนิพพาน สรุปแล้วที่เขาบอกว่า ถ้าหากว่าเข้าถึงปฐมฌานสามารถเป็นพระโสดาบันได้จริง ๆ ก็คือในลักษณะอย่างนี้ ใช้ปัญญาเพิ่มขึ้นนิดเดียวเท่านั้นเอง

ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเทศน์ว่า พระโสดาบันมีสมาธิเล็กน้อย ปัญญาเล็กน้อย แต่มีศีลบริสุทธิ์ หลักเกณฑ์การเป็นพระโสดาบัน คือ
๑. ต้องเคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ
๒. เคารพพระธรรมจริง ๆ
๓. เคารพพระสงฆ์จริง ๆ
๔. มีศีลบริสุทธิ์
๕. คิดว่าตายแล้วจะไปนิพพาน

คราวนี้เราก็สรุปรวบยอดลงมาว่าเรารักษาศีลเพราะเราเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรารักษาศีลเพราะจะไปนิพพาน ก็เลยกลายเป็นว่า มีปัญญาเล็กน้อย มีสมาธิเล็กน้อยแต่ศีลบริสุทธิ์ ยิ่งสรุป ยิ่งง่าย เดี๋ยวก็เป็นกันหมดเท่านั้นเอง..!

สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3549
ขอบพระคุณภาพจากคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน



ที่มา วัดท่าขนุน

 

“ขอให้เราทุกคนรู้ว่า ความยากลำบากในการปฏิบัติภาวนาของเรานั้น ยากเพราะเรายังไม่เอาจริง ลำบากเพราะเรายังไม่เอาจริง ไม่เกิดผลเพราะเรายังไม่เอาจริง ถ้าหากท่านทั้งหลายทุ่มเทอย่างจริงจังแล้ว คำว่ายาก คำว่าลำบาก คำว่าไม่เห็นผล จะไม่มีสำหรับเราเลย

ดังนั้น..หน้าที่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การตามรู้ลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ พยายามสร้างสมาธิให้ทรงตัวให้ได้ ถ้าใครบอกว่าไม่มีเวลา ก็อยากจะบอกกับทุกท่านว่า ถ้าตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ ตราบนั้นเราต้องมีเวลา เพราะเราแค่เอาความรู้สึกกำหนดรู้ตามลมหายใจไปเท่านั้นเอง เมื่อทำได้แล้ว ใช้ปัญญาประกอบเข้าเล็กน้อย ความเป็นพระอริยเจ้าก็อยู่แค่เอื้อมมือถึง”

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

ภาพโดยคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน
ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1941



ที่มา วัดท่าขนุน

 

เหรียญพุทธบารมี เนื้อนาก เนื้อทองคำ และเนื้อเงิน
ขอบพระคุณภาพจากคุณ Kay Pay Run ครับ



ที่มา วัดท่าขนุน

 

ถาม : วันพระต่างจากวันอื่น ๆ อย่างไรครับ การทำบุญในวันพระอานิสงส์ต่างจากในวันอื่น ๆ หรือไม่ครับ ?

ตอบ : จริง ๆ แล้วมันไม่ต่างหรอกนะ เพียงแต่ว่าในวันพระ อย่างเช่นว่า บางทีจะเป็นวันวิสาขบูชา มาฆบูชาหรืออาสาฬหบูชา เป็นวันพระที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้าท่านโดยตรง อย่างเช่นว่าเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เป็นวันแสดงปฐมเทศนา เป็นวันที่ประชุมสงฆ์แสดงซึ่งโอวาทปติโมกข์เหล่านี้ กำลังใจของเรา ถ้าเราเกาะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งใจว่าวันนี้เรานึกถึงพระเป็นพุทธานุสสติ เดี๋ยวเราไปวัดเราได้ฟังเทศน์ฟังธรรมเป็นธรรมานุสสติ เราไปแล้วเราจะได้กราบหลวงพ่อองค์โน้น หลวงปู่องค์นี้ ได้ฟังพระสงฆ์ของวัดเราสวดมนต์อย่างนี้เป็นสังฆานุสสติ

ถ้าหากว่านึกอยู่อย่างนี้เป็นปกติมันเป็นวันพระอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าวันอื่น ๆ เราไม่ได้นึกเลย ไปนึกเอาเฉพาะวันพระ วันพระเขาจะต่างจากวันอื่น แต่ว่าวันพระพิเศษที่จะเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงยังไง ๆ กำลังใจของเราก็จะต้องเกาะต้องนึกอยู่แล้ว เออ.. วันนี้วันวิสาขะพระพุทธเจ้าเคยประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานมาแล้วก็สามารถทำให้โยงจิตของเราเข้าถึงความดีได้ง่ายกว่าอยู่หน่อยหนึ่ง สำคัญอยู่ตรงการนึกถึงความดีตรงระหว่างที่ทำ

สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

ภาพโดยคุณมะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุน
ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4112



ที่มา วัดท่าขนุน