อาสาสมัครช่วยงานวิสาขบูชาโลก ปี ๒๕๕๓

<TABLE style="WIDTH: 630px; HEIGHT: 5571px" border=0><TBODY><TR><TD>ประสบการณ์กว่า ๑๐ ปีมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้ทราบว่ามีประเด็นใดที่แต่ละท่านจะต้องระวัง และใส่ใจต่อการทำหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลทีมงานที่จะต้องรับผิดชอบอีกประมาณ ๒๐ ท่าน เพื่อให้งานประสบการณ์ผลมากที่สุด และทุกคนมีความสุขต่อการดูแลของเรา</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD> คณะทีมงานวิทยากรจากสายการบินนานาชาติต่างๆ โยมสุกานดา โยมแหม่ม โยมอ้อม และ โยมเม่า ได้ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ และแนวทางในการปฏิบัติในประเด็น "ภาวะผู้นำ" และ กิจกรรม Role Play เพื่อให้น้องๆ ได้เข้าใจวิถีแห่งการนำอย่างมีสติ และนำอย่างไรให้ผู้ตามรู้สึกมีความสุข และพึงพอใจที่จะตามเพื่อให้งานประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำสถานการณ์จริงมาทดลองปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจ และปฏิบัติร่วมกันได้อย่างลงตัว และประสานสอดคล้องกันในการทำงาน</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD> ในช่วงเย็นประมาณ ๑ ทุ่ม ผู้เขียนได้นำ "ทูตวิสาขะ" ร่วมทำวัตร สวดมนต์เย็นร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดการรู้ ตื่นและเบิกบานทางจิต และร่วมกันปฏิบัติสมาธิภาวนาร่วมกัน ผลที่จะได้รับจากกิจกรรมครั้งนี้ก็คือ การที่แต่ละท่านได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าว่า "ความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือ การได้อยู่กับลมหายใจของตัวเอง" ลมหายใจติดต่อมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เพราะเหตุนี้ เพราะพุทธเจ้าจึงเน้นสอนให้มนุษย์กลับไปอยู่กับลมหายใจตามหลักอานาปานสติ แต่เพราะมนุษย์เนรคุณ และอกตัญญูต่อลมหายใจ โดยละทิ้งไม่ใส่ใจต่อลมหายใจของตัวเอง มนุษย์จึงต้องทุกข์ทรมานดังที่หลายท่านประสบการณ์อยู่ในขณะนี้</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD> ผู้เขียนเชื่อมั่นว่า ท่านเหล่านี้จะเป็นกำลังที่ยิ่งที่จะสืบสาน "ลมหายใจแห่งสันติ" อันเป็นลมหายใจแห่งการรู้ ตื่น และเบิกบาน ซึ่งจะส่งผลต่อการนำเมล็ดพันธุ์เหล่าไปหว่านให้แก่ใครก็ตามที่อยู่รอบข้าง แล้วมีความสุข สมดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า เธอทั้งหลาย จงเที่ยวไป เพื่อเกื้อกูน เพื่อนอนุเคราะห์ และความสุขแก่ชาวโลก

บรรยากาศของการพัฒนาและฝึกอบรม Supervisors เพื่อต้อนรับผู้นำชาวพุทธวันวิสาขบูชาโลก | UNDV Conference 2010
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณรู้สึกอย่างไร? ที่ได้เป็นทูตวิสาขบูชาโลกปี ๕๓

<!-- /#content-header --> บางแง่มุมของความรู้สึกในบทสัมภาษณ์ของ "ทูตวิสาขะ" ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมต้อนรับ "ชาวพุทธทั่วโลก" ที่เดินทางมาเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก และสัมมนานานาชาติ เรื่อง "การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยมุมมองชาวพุทธ"
<TABLE width=630 border=0><TBODY><TR><TD scope=col></TD></TR><TR><TD scope=col></TD></TR><TR><TD scope=col></TD></TR><TR><TD scope=col></TD></TR><TR><TD scope=col></TD></TR><TR><TD scope=col></TD></TR></TBODY></TABLE>

<!-- /node-inner -->
<!-- /node-->
<!-- /#content-area -->
<!-- /content-inner /content -->
คุณรู้สึกอย่างไร? ที่ได้เป็นทูตวิสาขบูชาโลกปี ๕๓ | UNDV Conference 2010




<!-- /sidebar-left -->

 

83 ประเทศประชุมผู้นำพุทธ ถกการฟื้นตัววิกฤตการณ์โลก

<!-- /#content-header -->83 ประเทศประชุมผู้นำชาวพุทธทั่วโลกร่วมแลกเปลี่ยนความคิด และร่วมหาทางออกต่อกรณีวิกฤติการณ์ของโลกที่เกิดขึ้นในมิติต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE style="WIDTH: 20%" cellSpacing=5 cellPadding=1 align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการประชุมวิสาขบูชาโลก พ.ศ.2553 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2553 โดยจะมีพิธีเปิดการประชุมในวันที่ 23 พฤษภาคม 2553 ที่ห้องประชุม มวก. 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้ง นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุม เวลา 14.00 น. และมีการประชุมวิชาการในวันที่ 24 พฤษภาคม 2553

ห้อง ประชุมดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 3,000 คน คาดว่าจะมีชาวพุทธจากต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วมประชุม 1,500 รูป/คน มากกว่า 83 ประเทศ

ความคืบหน้าในการเตรียมงานครั้งนี้ แม้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการตอบรับของประมุขสงฆ์หรือผู้นำชาวพุทธที่จะเดินทาง เข้ามาร่วมพิธีแต่อย่างใด ขณะนี้ มีผู้เข้าร่วมได้ตอบรับมาแล้ว 79 ประเทศ

พร้อม กันนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ดำเนินการรับสมัครเยาวชนเพื่ออาสาทำหน้าที่ให้การต้อนรับชาวพุทธที่มาจาก ประเทศต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าสมัครจำนวน ถึง 358 คน ซึ่งได้ดำเนินการฝึกอบรมไปแล้ว และจะนำบรรดาอาสาสมัครทั้งหมดเข้าไป สัมผัสกับสถานที่ปฏิบัติงานจริง ในช่วงวันที่ 17 พฤษภาคม 2553

<TABLE style="WIDTH: 20%" cellSpacing=5 cellPadding=1 align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
ในส่วนความคืบหน้าด้านการประสานงาน ขณะนี้ รัฐบาล โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรม การที่ปรึกษา กรรมการอำนวยการและกรรมการดำเนินการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553

ในการประชุมชาวพุทธนานา ชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาโลกปีนี้ ที่ประชุมตกลงหัวข้อใหญ่ คือ การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก ตามทรรศนะชาวพุทธ มีหัวข้อย่อย ได้แก่

กลุ่มที่ 1 การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยมุมมองชาวพุทธ
กลุ่มที่ 2 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการพัฒนาทางจิต
กลุ่มที่ 3 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการศึกษาเชิงพุทธ
กลุ่มที่ 4 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
กลุ่มที่ 5 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยนิเวศวิทยาเชิงพุทธ
กลุ่มที่ 6 การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ของโลก โดยอาศัยพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม

การ ประชุมปฏิบัติการ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 สมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) และกลุ่มที่ 2 พระไตรปิฎกฉบับสากล (Common Buddhist Texts) ใช้สถานที่อาคารหอประชุม มวก. 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วัน สุดท้ายของการประชุม จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อปิดประชุมแล้วคณะผู้เข้าร่วมประชุมจะไปเวียนเทียนปิดประชุม ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม

ข้อมูลทุกด้านสามารถสืบค้นได้ที่ www. icundv.com โทร.0-3524-8098, 0-2623-6323 ส่วนการจัดแสดงนิทรรศการพระไตรปิฎกนั้น ในเบื้องต้นกำหนดจัดที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤษภาคม 2553 โดยเป็นพระไตรปิฎก 17 ภาษาจากทั่วโลก จากนั้นจะนำไปจัดตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

ในด้านคณะสงฆ์ พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) นำเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม พร้อมทั้งถวายคำชี้แจงในรายละเอียดของการจัดงาน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2553
ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติเห็นชอบตามเสนอ คือ ในส่วนกลางจัดกิจกรรมหลัก ได้แก่

1. กรมการศาสนา กรุงเทพมหานคร และศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 24-28 พ.ค. มีกิจกรรม ประกอบด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงานและพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรแก่ผู้ทำประโยชน์ ต่อพระพุทธศาสนา พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล การจัดนิทรรศการทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมส่งเสริมศีลธรรมจริยธรรมของเยาวชน พิธีเวียนเทียน และตักบาตรพระสงฆ์

2.การจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ค. โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย พิธีเวียนเทียนของประมุขสงฆ์ และผู้นำชาวพุทธนานาชาติ พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา การตักบาตรพระสงฆ์ 802 รูป เป็นต้น

3.การจัดกิจกรรม ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การประชุมองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย วันที่ 22-25 พ.ค.

ใน ส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ในวันที่ 28 พ.ค. ณ จังหวัดทุกจังหวัดและวัดทุกวัด ทั่วราชอาณาจักร โดยเห็นควรให้สำนักพุทธฯ ประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) และให้วัดทุกวัดจัดแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง "ความสุข สงบ ร่มเย็นของสังคม เกิดด้วยหลักพุทธธรรม"

นับเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิสาขบูชาโลก ให้เป็นที่ยอมรับของชาวพุทธ

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7102 ข่าวสดรายวัน

หน้า 30

˹ѧ

 

เชิญร่วมชมกิจกรรมสำคัญในวันวิสาขบูชาโลก

<!-- /#content-header -->การจัดงานเฉลิมฉลองวิสาขบูชาโลกปีนี้ คณะดำเนินการนำโดยพระธรรมโกศาจารย์, อธิการบดี ได้จัดเตรียมกิจกรรมเพื่อรองรับการจัดงานในหลายมิติ เช่น พิธีเปิด กิจกรรมสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ การแสดงศิลปวัฒนธรรมนานาชาติ เป็นต้น เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้ร่วมกันเฉลิมฉลองอย่างสมเกียรติ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=620 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR><TR><TD align=middle>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle>

พิธีเปิดเรื่อง
"ต้นไม้แห่งปัญญา นำพาสันติสุข ขจัดทุกข์แก่ชาวโลก"​

</TD></TR><TR><TD align=middle>

​

</TD></TR><TR><TD>

การแสดงวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา
เรื่อง "วิสาขบูชาโลก: โลกแห่งการรู้ ตื่น และเบิกบาน"​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

การจัดแสดงนิทรรศการ​

​

เรื่อง "พระไตรปิฏกนานาชาติ: มรดกธรรม มรดกโลก"​

</TD></TR><TR><TD>

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพื่อเติมเพื่อเข้าร่วมงานได้ที่
สำนักงานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา ถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ ๕๕ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ ๐๓๕ ๒๔๘๐๙๘ แฟกซ์ ๐๓๕-๒๓๘-๐๙๙, ๐๒-๒๒๖-๖๐๒๗ ต่อ ๘๐๙๘ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๙.๐๐ น. ทุกวัน

www.icundv.com www.vesak2010@hotmail.com ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผู้นำชาวพุทธนานาชาติร่วมเปิดวิสาขบูชาโลก

​

วันนี้ (๒๓ พ.ค.) ที่หอประชุมมวก.๔๘ พรรษามหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มจร.ในฐานะตัวแทนของประเทศไทยร่วมกับประเทศญี่ปุ่น จัดการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี ๒๕๕๓ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พ.ค. ภายใต้หัวข้อ “การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ” โดยการประชุมในครั้งนี้มีผู้นำชาวพุทธจากนานาชาติเข้าร่วม ๘๐ ประเทศ จำนวน ๑,๗๐๐ รูป/คน โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลจารย์ รองประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวสัมโมทนียกถาต้อนรับผู้นำชาวพุทธนานาชาติว่า การมีผู้เข้าร่วมประชุมมีตั้งแต่ระดับสมเด็จพระสังฆราช ประมุขสงฆ์ มหาเถระ นักปราชญ์ ซึ่งเป็นที่นับถือของแต่ละประเทศ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ชาวพุทธมีความสามัคคี ทั้งนี้ การที่มีระดับผู้นำชาวพุทธมาร่วมเป็นจำนวนมากถือเป็นมหาสมาคมจะส่งผลให้เกิดเป็นมหากุศลอย่างยิ่ง


สำหรับในเวลา ๑๔.๐๐ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายา เปิดการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลกประจำปี ๒๕๕๓ ด้วย.

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ออนไลน์ ๒๓ พ.ค.๕๓

 

"วิสาขบูชาโลก๕๓” พุทธฯถกวิกฤติโลกด้วยวิถีแห่งพุทธฯ

ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม ประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ได้ร่วมกับประเทศญี่ปุ่นจัดงาน "วันวิสาขบูชาโลก ปี ๒๕๕๓" โดยมีประมุขสงฆ์ผู้นำชาวพุทธ นักปราชญ์ด้านศาสนา คณะสงฆ์และผู้แทนจากองค์กรพุทธทั่วโลกกว่า ๕,๐๐๐ รูป/คน จาก ๘๐ ประเทศ ที่พร้อมเดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญระดับโลกมาร่วมงานอีกหลายท่าน เช่น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ

เลขาธิการองค์การยูเนสโก อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น รวมทั้ง ดร.อริยะรัตเน ปราชญ์ชาวพุทธแห่งประเทศศรีลังกา และผู้นำสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในแต่ละประเทศ เข้าร่วมอีกด้วย



โดยพิธีเปิดการประชุมในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ที่ห้องประชุม มวก. ๔๘ พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรราชาฯ จะเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุมเวลา ๑๔.๐๐ น. ส่วนวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม จะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อปิดประชุมแล้วคณะผู้เข้าร่วมประชุมจะไปเวียนเทียนปิดประชุมที่พุทธมณฑล

พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มจร. บอกว่า งานวันวิสาขบูชาโลก ถือเป็นงานระดับนานาชาติที่ให้ประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาระดับประเทศและระดับโลก เพราะประมุขสงฆ์ ผู้นำและปราชญ์ชาวพุทธจากทั่วโลกจะได้ร่วมกันหารือ แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็น และวิธีการปฏิบัติ ร่วมกันเพื่อหาทางออกให้วิกฤติการณ์ต่างๆ ที่ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญ โดยในปีนี้ได้เลือกหัวข้อประชุมใหญ่คือ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากงานวิสาขบูชาโลก คือ ได้ฟังสนทนาธรรมอันเป็นประโยชน์ มีสาระ ทำให้สังคมโดยรวมได้สติและมีความรู้ ความเท่าทันมากขึ้น สำหรับหัวข้อการประชุมชาวพุทธนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาโลกปีนี้ ที่ประชุมตกลงหัวข้อใหญ่ คือ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ และหัวข้อย่อย ได้แก่ กลุ่มที่ ๑ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยมุมมองชาวพุทธ กลุ่มที่ ๒ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการพัฒนาทางจิต กลุ่มที่ ๓ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการศึกษาเชิงพุทธ กลุ่มที่ ๔ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ กลุ่มที่ ๕การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยนิเวศวิทยาเชิงพุทธ กลุ่มที่ ๖ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยพระพุทธศาสนาเพื่อ สังคม การประชุมปฏิบัติการ ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มที่ ๑ สมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ กลุ่มที่ ๒พระไตรปิฎกฉบับสากล ส่วนการจัดแสดงนิทรรศการพระไตรปิฎกนั้น ในเบื้องต้น กำหนดจัดที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ ๒๒-๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ โดยเป็นพระไตรปิฎก ๑๗ ภาษาจากทั่วโลก หลังจากนั้น จะนำไปจัดตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ



อย่างไรก็ตามท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมืองขณะนี้ ประเทศไทยก็ยังมีข่าวดีที่ชาวไทยควรมาร่วมกันยินดีสนับสนุนและเข้าร่วม นั่นก็คือการที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากชาวพุทธทั่วโลก ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกและเป็นเจ้าภาพจัดงานวิสาขบูชาโลก เนื่องจากความพร้อมของประเทศที่มีองค์พระประมุขของประเทศ ทรงเป็นพุทธมามกะ และประชาชนกว่า ๙๐% ยังนับถือพระพุทธศาสนา โดยผู้นำพุทธในประเทศต่างๆ มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหา และนำชาติผ่านพ้นวิกฤติการณ์ความไม่สงบภายในบ้านเมืองขณะนี้ไปได้ด้วยวิถีแห่งชาวพุทธ พร้อมยืนยันการเดินทางมาร่วมงานตามกำหนดการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก ปี ๒๕๕๓

“เราได้เห็นชาวพุทธทั่วโลกเดินทางมาไทยอันเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก เพื่อจาริกแสวงบุญแต่คนไทยกลับมองข้ามในสิ่งพิเศษที่เรามีนี้ไป ซึ่งหวังว่างานวิสาขบูชาโลกจะช่วยดึงคนไทย ยุคปัจจุบันให้มาสนใจธรรมะยิ่งขึ้น ฝึกเจริญสติ เพราะสติเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้ ให้สงบสุข ไม่ต้องตกอยู่ในวังวนแห่งการแก้แค้น ช่วยให้คนสามารถเอาชนะกิเลสและอารมณ์ในใจตัวเอง การฝึกจิตและฝึกฝนตนเองจะช่วยให้สังคมเกิดความสงบสุขมากขึ้น ผู้คนมีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น และช่วยลดความขัดแย้งลงได้” พระธรรมโกศาจารย์ กล่าว

ทั้งนี้ มจร. จึงขอเชิญชวนให้พระสงฆ์ไทยและชาวไทยผู้สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายในหัวข้อต่างๆ ที่สนใจ ณมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือติดตามชมการถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ ช่องทีเอ็นเอ็น ๒ หรือเข้าร่วมชมนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่น่าสนใจ หรือเข้าร่วมพิธีสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับการเวียนเทียนเพื่อสร้างสัมมาสติความรักและสามัคคีร่วมกันของคนในชาติ ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในวันที่ ๒๕ พฤษภาคมศกนี้

โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของงานได้ที่ www.icundv.com/vesak2010 หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๐๓๕-๒๓๘-๐๙๘-๙

"ผู้นำพุทธในประเทศต่างๆ มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหา และนำชาติผ่านพ้นวิกฤติการณ์ความไม่สงบภายในบ้านเมืองขณะนี้ไปได้ด้วยวิถีแห่งชาวพุทธ พร้อมยืนยันการเดินทางมาร่วมงานตามกำหนดการ"

แหล่งข่าว หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๓

 

มติประมุขสงฆ์ ๘๓ ประเทศเจริญจิตภาวนาให้ไทยพ้นวิกฤติ

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯเปิดประชุมชาวพุทธนานาชาติวันวิสาขบูชาโลก สมเด็จพระสังฆราชประทานพรทรงให้ชาวพุทธยึดพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์เป็นที่พึ่งชีวิตร่มเย็น ขณะที่ประมุขสงฆ์จาก ๘๓ ประเทศทั่วโลกพร้อมใจร่วมงาน พร้อมมีมติร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญใหญ่ให้ประเทศไทยพ้นวิกฤติบ้านเมือง ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่หอประชุมมวก.๔๘ พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดย มจร.ร่วมกับประเทศญี่ปุ่น จัดการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องใน วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี ๒๕๕๓ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ภายใต้หัวข้อ “การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ” โดยมีผู้นำชาวพุทธจากนานาชาติเข้าร่วมงาน ๘๓ ประเทศ จำนวน ๑,๗๐๐ รูป/คน ในประเทศ ๑,๕๐๐ รูป/คน รวม ๓,๒๐๐ รูป/คน โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวสัมโมทนียกถาต้อนรับผู้นำชาวพุทธนานาชาติว่า การมีผู้เข้าร่วมประชุมมีตั้งแต่ระดับสมเด็จพระสังฆราช ประมุขสงฆ์ มหาเถระ นักปราชญ์ ซึ่งเป็นที่นับถือของแต่ละประเทศ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ชาวพุทธมีความสามัคคี ทั้งนี้ การที่มีระดับผู้นำชาวพุทธมาร่วมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นมหาสมาคมจะส่งผลให้เกิดเป็นมหากุศลอย่างยิ่ง

จากนั้นในเวลา ๑๔.๐๐ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เปิดการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องใน วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี ๒๕๕๓ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำรัสใจความตอนหนึ่งว่า "พระพุทธศาสนานั้นมีลักษณะพิเศษ ในประการที่อาศัยเหตุและผลอันเที่ยงแท้ตามเป็นจริงเป็นพื้นฐาน แสดงคำสอนที่บุคคลสามารถใช้ปัญญาไตร่ตรองและหยิบยกขึ้นปฏิบัติ เพื่อความสุขความเจริญและความบริสุทธิ์ได้ตามวิสัยของตน ท่านทั้งหลายผู้ตั้งใจอุทิศแรงกายแรงใจของตนเพื่อพระพุทธศาสนา จึงชอบที่จะเผยแพร่พุทธธรรมโดยยึดหลักของเหตุผลแนะนำส่งเสริมให้บุคคลใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาและสิ่งดีชั่วต่าง ๆ ให้รู้ให้เห็นตามทางและวิธีที่ถูกต้องด้วยตัวเขาเอง เมื่อบุคคลรู้จักเหตุรู้จักผล สามารถใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องทั้งปวงได้ด้วยตนเอง ย่อมจะเกิดศรัทธาความเชื่อในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง มีความเข้าใจในพุทธธรรมอย่างกระจ่าง และปฏิบัติตามหลักธรรมได้โดยถูกถ้วน การบำเพ็ญกรณียกิจของท่าน ในการจรรโลงพระพุทธศาสนาและเผยแพร่สัมมาปฏิบัติตามหลักพุทธธรรม ก็จะยังผลอันบริสุทธิ์บริบูรณ์ คือ ความสุขความเจริญให้เกิดแก่บุคคลผู้ปฏิบัติตลอดจนการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลก ตามความปรารถนาที่ตั้งไว้"

ต่อมาพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมจร.กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีผู้นำชาวพุทธเข้าร่วม ๘๓ ประเทศ ซึ่งจากเดิมที่แจ้งมา ๘๐ ประเทศ โดยผู้นำชาวพุทธบางท่านไม่แน่ใจในสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย แต่ก็ตัดสินใจเดินทางมาร่วมการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านเหล่านี้ได้มาให้ศีลให้พรให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติการณ์ทางการเมือง ผ่านพ้นความบอบช้ำหม่นหมองใจ ทั้งนี้จากการหารือกับสมเด็จพระสังฆราชและประมุขสงฆ์ที่เข้าร่วมประชุม ตนได้เสนอว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยพบกับภาวะวิกฤติ ดังนั้น จึงอยากขอให้มีเจริญพระพุทธมนต์ร่วมกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลของประเทศ ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบและมีมติร่วมกันว่า จะมีการเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา เพื่อความเป็นสิริมงคลของประเทศไทยในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม

“การสวดมนต์ครั้งนี้เปรียบได้กับเป็นการทำบุญใหญ่ให้แก่ประเทศไทย จากพระสงฆ์ทั่วโลก โดยจะมีการเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ๓ รูปแบบ ได้แก่ การสวดมนต์แบบพระสงฆ์ไทย การสวดมนต์แบบพระสงฆ์ต่างประเทศ และการสวดมนต์แบบพระสงฆ์นิกายมหายาน อย่างไรก็ตามการเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้จะเสริมความเป็นสิริมงคลและอวยพรให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติบ้านเมืองไปได้”พระธรรมโกศาจารย์ กล่าว

วันเดียวกัน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทเนื่องในวันวิสาขบูชา ๒๕๕๓ ใจความว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน พระองค์ทรงเป็นพระบรมศาสดาผู้ทรงเปี่ยมด้วยคุณอันประเสริฐ ๓ ประการ คือ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ต่อทวยเทพ มวลมนุษย์และสรรพสัตว์ เนื่องด้วยพระพุทธศาสนามีคุณูปการอันใหญ่หลวง ซึ่งอำนวยประโยชน์เกื้อกูลความเจริญรุ่งเรือง และความสงบร่มเย็นแก่อารยชนมาตลอดระยะเวลากว่า ๒,๕๐๐ ปี ฉะนั้น เมื่อวันวิสาขบูชา พ.ศ. ๒๕๕๓ มาถึง ควรที่เราทั้งหลายจะได้ทำการบูชาและน้อมรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรมและพระอริยสงฆ์ เพื่อน้อมนำมาเป็นที่พึ่งของตน เป็นแนวทางในการปฏิบัติดำเนินชีวิต เพื่อความสวัสดีและความสงบร่มเย็นสืบไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓

 

นิทรรศการวิสาขบูชาโลก โชว์"พระไตรปิฎกนานาชาติ"

นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจยิ่ง จากการค้นพบพระคัมภีร์พุทธศาสนา หรือพระไตรปิฎกเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุถึง 2,000 ปี ย้อนกลับไปในปี 2544 โลกต้องตกตะลึงกับการสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มตาลิบันตัดสินใจทำลายพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อายุราว 2,000 ปี ซึ่งได้รับการสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาบามิยัน จนสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวพุทธทั่วโลกอย่างยิ่ง

แต่ปาฏิหาริย์มีอยู่เสมอบนโลกใบนี้...ได้มีผู้ลักลอบนำพระคัมภีร์พุทธเก่าแก่ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในถ้ำต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในหุบเขาบามิยัน ออกมาได้ก่อนที่จะถูกทำลายไปพร้อมกับพระพุทธรูป และจากการศึกษาของนักโบราณคดีพบว่า พระคัมภีร์พุทธศาสนาเหล่านี้มีอายุถึง 2,000 ปี ถือว่าเป็นพระคัมภีร์พุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งบรรจุข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ชาวโลกยังไม่เคยรู้มาก่อน

ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก คือชาวไทยจะได้มีโอกาสชมหนังสือที่รวบรวมข้อมูลเรื่องราว และภาพถ่ายของพระไตรปิฎกเก่าแก่นี้ ไปพร้อมกับชมการแสดงพระไตรปิฎกนานาชาติที่รวบรวมพระไตรปิฎกมากถึง 16 ชาติ ที่นำมาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการสมัยใหม่ อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ณ อาคารหอประชุม มวก.48 พรรษา มหา วิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วังน้อย พระนครศรีอยุธยา

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
การจัดแสดงนิทรรศการพระไตรปิฎกนานาชาติ มรดกธรรม มรดกโลกนี้ จะมีขึ้นในโอกาสที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน "วันวิสาขบูชาโลก ปี 2553" ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค.นี้ โดยมีกลุ่มประมุขสงฆ์ผู้นำชาวพุทธ ผู้นำประเทศ นักปราชญ์ด้านศาสนา คณะสงฆ์ ผู้แทนจากองค์กรพุทธ และพุทธศาสนิกชนกว่า 5,000 คน จาก 83 ประเทศทั่วโลก เดินทางมาร่วมงาน
เรื่องราวเกี่ยวกับพระไตรปิฎกนานาชาติแต่ละฉบับ ต่างมีความเป็นมาและประวัติที่แตกต่างและน่าสนใจอย่างยิ่ง จึงนับเป็นมรดกอันล้ำค่าของโลก และของชาวพุทธทุกคนทั่วโลก พุทธศาสนิกชนชาวไทยยังจะได้สัมผัสกับพระไตรปิฎกของชาติไทย ซึ่งมีตั้งแต่ฉบับรัชกาลที่ 5 ในยุคที่ชาติตะวันตกเข้ามาล่าอาณานิคมกระทั่งประเทศเพื่อนบ้านไทยตกเป็นเมืองขึ้นกันมากมาย แต่ประเทศไทยก็สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ เช่น ฉบับล้านนา ฉบับอักษรธรรมอีสาน ฉบับบาลีอักษรขอม ฉบับสยามรัฐ จนกระทั่งถึงฉบับปัจจุบัน เป็นต้น

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
พระธรรมโกศาจารย์

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า "พระไตรปิฎก มีความสำคัญยิ่งกับพุทธศาส นิกชนทั่วโลก เนื่องจากเป็นคัมภีร์ที่รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า เมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระธรรมหรือคำสอน จะเป็นศาสดาของชาวพุทธแทนพระองค์ พระไตรปิฎก ไม่ใช่คัมภีร์ที่ยาก

ดังนั้น บุคคลทั่วไปสามารถเรียนรู้พระไตรปิฎกได้เช่นเดียวกับพระสงฆ์ ซึ่งการศึกษาทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำสอนของพระไตรปิฎก ก็เหมือนกับเรากำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้านั่นเอง ที่สำคัญคือชาวพุทธที่แท้จะต้องปฏิบัติตามคำสอนให้ถูกต้องด้วย"
"จึงขอเชิญชวนชาวไทยได้มาชมนิทรรศ การของพระไตรปิฎกนานาชาติ ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้น ณ อาคารหอประชุม 48 พรรษา ณ มหาวิทยา ลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา ลัย (มจร.) วัง น้อย พระนครศรี อยุธยา ในโอ กาสการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก ปี 2553"

"วันวิสาขบูชาโลก ปี 2553" จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยต่อเนื่องใน 3 จังหวัด ในระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2553 ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันที่ 23 พ.ค.นี้ ณ อาคารหอประชุม 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วังน้อย พระนครศรีอยุธยา

ประชาชนชาวไทยสามารถเข้าชมนิทรรศการพระไตรปิฎกนานาชาติในระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค.นี้ หรือฟังการบรรยายในหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ ณ อาคารหอประชุม 48 พรรษา มหา วิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ในวันที่ 24 พ.ค.ศกนี้

หรือเข้าร่วมพิธีเวียนเทียนร่วมกับผู้นำชาวพุทธทั่วโลก เพื่อแสดงพลังให้มากที่สุด ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. อีกด้วย
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดอันน่าสนใจต่างๆ ของงานได้ที่เว็บไซต์ www.icundv.com2vesak 2010 หรือโทร. 0-3523-8098-9

˹ѧ

 

"บัน คี มุน”ชูศาสนาพาโลกพ้นวิกฤต

เลขาฯ ยูเอ็น ส่งสารวิสาขบูชาโลกชูศาสนาพาโลกพ้นวิกฤต ด้านยูเนสโกชี้การเจรจาสร้างสันติ ต้องปลูกฝังความอดกลั้นให้ ปชช.

<TABLE width=630 border=0><TBODY><TR><TH scope=col>

​

</TH></TR></TBODY></TABLE>
ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. มีการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก ประจำปี 2553 ซึ่งเป็นการประชุมในวันที่ 2 นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้ส่งสารในโอกาสวันวิสาขบูชา ระบุ หัวข้อการประชุมของปีนี้ เรื่อง “การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ตามทัศนะชาวพุทธ” นั้น เป็นการสื่อถึงแก่นกลางของความวิตกทั่วโลกในเวลาที่เกิดวิกฤตซ้ำซ้อนเช่นขณะนี้ เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจ และการเงินเกิดขึ้น คนยากจนต้องทุกข์ก่อน และมากกว่าผู้อื่นใด ข้าพเจ้าได้ร้องขอให้ผู้นำต่าง ๆ ของโลก ให้ร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้รับการตอบรับที่พร้อมเพรียงกัน และความพยายามของสหประชาชาติได้ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตที่เลวร้ายไปได้ ซึ่งการแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้ เป็นความจำเป็นที่เพิ่มขึ้นในโลก ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันมากขึ้น ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนอยู่ในวันวิสาขบูชา และการแสดงออกซึ่งเมตตาธรรมต่อผู้ด้อยโอกาสกว่า การแสดงความห่วงใยผู้อื่นเท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถจัดการกับอุปสรรคของยุคสมัยเรา หากดำเนินตามจิตวิญญาณที่แท้จริงของพุทธศาสนา หรือศาสนาหลักอื่น ๆ ในโลกนี้แล้ว เป้าหมายอันสูงส่งเหล่านี้จะสามารถเป็นจริงได้

ขณะที่ นางอิรีน่า โบโคว่า ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ส่งสารในโอกาสวันวิสาขบูชา ระบุว่า พระพุทธเจ้าได้เน้นให้ผู้คนอยู่ร่วมกันด้วยสันติ และยอมรับความหลากหลายนั้น ได้สะท้อนอย่างแรงกล้าในปีสากลแห่งการฟื้นคืนสู่วัฒนธรรม ซึ่งยูเนสโกได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์กรผู้นำของสหประชาชาติในเรื่องนี้ หลักการหลักเป็นการส่งเสริมความรู้ และความเข้าใจกันและกัน การเสริมความแข็งแกร่งในหลักการที่เหมือนกัน และฟูมฟักการเจรจากันว่า เป็นการรับประกันที่ดีที่สุดของการพัฒนาที่ยั่งยืน และในที่สุดคือสันติ ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่ว่าเราจะมาจากที่ใดเราผูกพันกันในฐานะมนุษย์ และสันติภาพถูกสร้างขึ้นในใจผู้คนทุก ๆ วัย โดยการแลกเปลี่ยนทัศนะ และการเจรจา ข้าพเจ้ายังเชื่อต่อไปว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังความอดกลั้น ยอมรับผู้อื่น คุณค่าแห่งเมตตาธรรม ความนับถือซึ่งกันและกัน และความสำนึกดีตั้งแต่เยาว์วัย


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 24 พฤษภาคม 2553

Daily News Online > หน้าการศึกษา > “บัน คี มุน”ชูศาสนาพาโลกพ้นวิกฤต


<!-- /node-inner -->