เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728


    จินตวดีได้กลิ่นทุกคืนเลย หอมดี ชอบ
     
  2. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ตอนนี้อาจโพสต์น้อยลง แต่ยังติดตามอ่าน และ บันทึกใจความสำคัญอยู่ ตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกฝนจริง เพราะกำลังง่วนทำทุกแบบฝึกหัดในหนังสือโนวาอนาลัย พอได้ฝึก กลับมีความรู้สึกได้ว่า บทฝึกฝนที่ให้ไว้ในหนังสือล้วนแต่เป็นทางเดียวกับทางสายเอกในพุทธศาสนาทั้งสิ้น อย่างการฝึกฝนที่ให้กำหนดที่อายตนะ แล้วปล่อยให้หลุดร่วง แล้วกลับมากำหนดอีก (ในเล่มโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ) คล้าย ๆการเจริญสติปัฐฐานนั่นเอง จินตวดีเริ่มค้นพบความเป็นจริงหลายอย่างแล้ว และจะไม่ยอมหยุดการฝึกฝนเป็นแน่

    ขออวยพรให้นักเรียนทุกท่านบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทุกคนจ้า
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เมื่อเช้าหยิบจิตวิญญาณประสายกายมาอ่านก่อนออกจากบ้าน..เปิดมาเจอข้อความนึงเข้า..ประมาณว่า..คนเรามักเชื่อว่าการดูเพ่งมองร่างกายตนเองให้ดูน่าขยะแขยงจะข่วยให้เราละวางตัวตนได้ง่ายขึ้น แต่จริงๆแล้วการได้อยู่กับธรรมชาติ การได้ยินเสียงนก เสียงใบไม้ ซึมซับความเป็นธรรมชาติ จนเข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริงก็สามารถเกิดความเข้าใจต่อการละวางได้เช่นกัน..ไม่จำเป็นต้องมองธรรมชาติในแง่ลบเสมอไป ทุกอย่างอยู่ที่ความเข้าใจครับ ขอให้ฝึกฝนกันต่อไปเรื่อยๆจนค้นพบเทคนิคที่ถูกจริตของตัวเองที่สุด..ทุกอย่างจะง่ายขึ้นอีกหลายเท่า เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ความเชื่อของเรา สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของเรา เรามีความเชื่อแบบไหน เราจะได้พบกับโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพที่สอดคล้องกับภาวะแห่งความเชื่อนั้น ประสบการณ์จะสอนเราเอง
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอบคุณพี่นักเขียนฯและคุณเดรดด้วยที่นำจดหมายที่มีค่าอย่างยิ่งมาลงให้อ่านกันในห้องวิทย์ฯครับ
    ในใจก็รู้สึกแบบนั้น ว่าเราต่างก็เป็นสัญญลักษณ์ให้กันและกันในความฝัน
    ข้อมูลนี้มาคอนเฟริม์ให้หนักแน่นยิ่งขึ้นครับ

    ช่วงนี้แต่ละท่านก็คงเผชิญกับความท้าทายในประสบการณ์ต่างๆกันไปหลากหลายรูปแบบ...ขอมาแชร์บ้างครับ ตอนนี้ส่วนตัวต้องเจอบทเรียนเกี่ยวกับ"การตัดสินใจ" คิดว่าการตัดสินใจของเราแต่ละครั้งมีบทบาทสำคัญมากครับ บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าจะตัดสินใจผิดหรือถูก หรือดีที่สุดหรือไม่?..แต่ก็คาดหวังว่าจะดีไว้ก่อนทุกครั้ง..ถ้ามั่นใจว่าผลดีนั้นเกิน 60-80 % ก็ควรลงมือทำครับ..

    พอดีลูกสุนัขที่เคยเล่าให้ฟังหลังผ่าตัด..เกิดติดเชื้อที่แผลขึ้นมายังไม่หาย..เลยส่งไป admid ที่ รพ.สัตว์ 2 วัน..เนื่องเค้าหายใจเร็วและแรงผิดปกติมา2-3 วันพรุ่งนี้จะไปรับกลับบ้าน..แค่เรื่องสุนัขนี่ก็ต้องตัดสินใจกันตั้งหลายเรื่องครับ..เช่นตัดสินใจผ่าตัด..เลือกหมอ..เปลื่ยนหมอ..การดูแล..ให้ยา..ผลข้างเคียง..ช่วงนี้เลยเฝ้าดูอาการและต้องอดนอนบ้างเพื่อดูแลให้เต็มที่..แต่ก็มั่นใจว่าเค้าจะหายเป็นปกติในที่สุด..ชีวิตเค้าขึ้นอยู่ที่ "การตัดสินใจ"ของเรา ยังไงก็ต้องรักษาเค้าให้ดีที่สุดครับ...เห็นแววตาอันไร้เดียงสาใสซื่อบริสุทธิ์ของเค้าแล้ว รู้สึกรักและเป็นห่วงก็จริงแต่ไม่เป็นทุกข์ครับ..ช่วงนี้เลยสัมผัสถึงพลังแห่งความรักจนล้นออกมาบ่อยๆ..เห็นหมอจับฉีดยา-เอาเข้าตู้ให้ออกซิเจน-น้ำเกลือ-และพ่นโอโซนให้ ผมอยู่บ้านก็ช่วยส่งพลังรักษาทางไกลฟอกเลือดให้เค้า รักษาบาดแผลและให้ปอดกลับมาสมดุลย์ดังเดิม....ตอนนี้อาการดีขึ้นมาก แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องเม็ดเลือดขาว (คล้ายคุณกุ้ง) ในระยะยาวต้องประคับประคองไว้ให้ดี..ยังไงก็ขอให้เกิด ปา-ฎิ-หาริย์ ครับ....สงสัยที่ คุณเดรด ได้กลิ่นบ่อยๆคงสัมผัสความรู้สึกของเค้าผ่านทางห้องวิทย์ฯนี้ด้วยนะครับ
    รูปถ่ายล่าสุดตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลครับ เค้าดีใจสุดๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เมื่อก่อน ก็เคยคิดลองใช้อุบายนี้ ในการวิปัสสนา แต่ไม่รอดค่ะ เพราะเดรดรู้สึกว่า ร่างกาย จิตใจ และวิถีชีวิต ที่เป็นอยู่ เดรดรักมัน ทะนุถนอมมัน คือรู้สึกว่า ถ้าเรายังรังเกียจร่างกายเนื้อหนังของตนเองแล้ว อะไรบนโลกนี้ มันจะน่ามองค่ะ เดรดรู้สึกขอบคุณ ในร่างกาย สิ่งแวดล้อม และประสบการณ์ชีวิตทั้งหลายแหล่ ที่เป็นกลายมาเป็นโลกกายภาพแวดล้อม...ตัวเราขณะนี้

    เมื่อเราสามารถชื่นชม โลกกายภาพรอบๆตัวเราได้ ไม่มองว่ามันขมขื่น เราก็คงไม่ต้องแสวงหาทางหลุดพ้น หรือหนีไปจากโลกแห่งความเป็นจริงนี้ เพราะโลกกายภาพนี้เป็นสิ่งที่เราเลือกเองทั้งหมด และสร้างขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา ตามที่เราปรารถนา ...
     
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เรื่องกลิ่น เดรดคิดว่าเดรดได้คำตอบแล้ว ตอนนี้ โจทย์ต่อไป คือ จะแปลงสัญญลักษณ์นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ ต่อไปได้อย่างไร ตอนนี้นอกจากลิ่นแล้ว มีอาการร้อนท้องวูบวาบมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พิมพ์กระทู้นี้ก็เป็นค่ะ...คิดแล้วว่าวันนี้ต้องมีข่าวอะไรมาบ้าง .ก็มาเจอ คุณmead โพสเล่าอาการน้องหมา...

    มีสองวันที่แล้ว หลังจากนั่งสมาธิก่อนนอน เดรดมานอนทำสมาธิตามที่พี่นักเขียนเคยสอน ที่ให้ไล่จาก หัวแม่เท้าขึ้นมาเรื่อยๆ โดยแบ่งช่วงนับ1-10 เป็นช่วงๆ พอไล่มาถึง ฐานปลายจมูก กลิ่นก็แรงฉุนกึ๊กมาทันที จากนั้นเดรดก็นำกลิ่นนี้ไปวางไว้ที่หน้าผาก ซักพัก กลิ่นก็จางลง และอาการร้อนท้องกลายเป็นเย็นไป ยังสงสัยลักษณะอาการนี้อยู่ว่าหมายถึงอะไร...

    แต่เท่าที่ทราบ เริ่มจับทางบางอย่างได้บ้างแล้ว ขอพิสูจน์ และทดลองก่อน ถ้ามีอะไรพิเศษจะมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ...
     
  8. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ถูกต้องแล้วค่ะ การมีประสบการณ์จะทำให้เราเข้าใจทุกอย่างได้อย่างลึกซึ้งขึ้น ขอให้น้องเดรคประสบความสำเร็จแล้วนำประสบการณ์มาแบ่งปันกันในกระทู้นะจ๊ะ
     
  9. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    - รักทุกคน-
    เพราะทุกคนคือฉัน​
    [​IMG]
     
  10. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    วันครบรอบ 1 ขวบ ห้องวิทย์คึกคักเป็นพิเศษ ต้อนรับโอลิมปิคเลยนะครับ

    ตอนนี้เราต่างฝึกฝนกันอย่างเข้มข้นเลยนะครับ แบบฝึกหัดของ อ.อนาลัย ก็มีไม่น้อยเลยที่ต้องทำความเข้าใจ จนทำให้สติสัมปชัญญะกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความรู้นั้น

    คุณพล ลองจับอารมณ์ ความรู้สึกในความฝันดูนะครับ ว่าเป็นอย่างไร ส่วนไหนเป็นความเชื่อ ส่วนไหนเป็นความรู้ แล้วเดี๋ยวจะเข้าใจอะไรเพิ่มเติมอีกเยอะเลยครับ

    ที่ อ.อนาลัย บอกว่า เห็นกลิ่น ได้ยินสี นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินขอบเขตการรับรู้ของประสาทสัมผัสที่ 6 ของมนุษย์เลย

    อย่างที่คุณจินต์ได้กลิ่น น่าจะเป็นกลิ่นของธรรมมะ ภายในคือความรู้ ภายนอกคือ พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่จะมีครบทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง

    ที่คุณ mead กับ คุณ dred พูดมาถึงธรรมมะของศาสนาพุทธนั้น เห็นด้วยกับทั้งคู่เลย การฝึกให้รังเกียจร่างกายเนื้อหนังของเรานั้น ทำให้เราไม่ยึดติดว่าร่างกายเนื้อหนัง คือ แก่นแท้ เมื่อเลิกยึด ก็ไม่ทุกข์ เมื่อไม่ทุกข์กับการเปลี่ยนแปลงของสังขาร ก็กลับมาใช้ชีวิตในร่างกายเนื้อหนัง และดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความเข้าใจว่า แก่นสารสาระสำคัญของชีวิตเราต้องทำสิ่งใด
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ถูกต้องเลยครับ 0_O)
    ขอเสริมอีกนิดครับคุณเซลล์ การไม่ยึดติดร่างกายเนื้อหนัง
    ไม่ใช่การไม่สนใจใยดีกับมัน แต่เราควรต้องดูแล รู้จักกลไกมัน
    รู้จักยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด..ว่าไปเหมือนเครื่องยนต์นั่นหละ..
    ต้องใช้งานให้เป็นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดกันให้ได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  12. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณที่ช่วยเสริมสาระสำคัญเพิ่มเติมนะครับคุณ mead
    ผมพิมพ์สั้นไปนิดนึง อิอิ
    เครื่องยนต์แห่งกรรม เราต้องใช้ให้เป็น ให้คุ้มค่าที่สุด สุดท้ายก็ไม่ยึดติดกับสมมติ
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณค่า...รบกวนชี้แนะ ด้วยนะค่ะ...;aa47
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]
    ส่งหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาดมกลิ่นครับ..อิอิ กลิ่นดอกไม้อบอวลมากๆ
    เดี๋ยววันนี้เรามาดูพิธีเปิด Olimpic กันครับ
    ที่เฉลิมฉลองไปพร้อมกันกับห้องวิทย์ฯพอดีเลย
    เห็นว่าวันพรุ่งนี้ ก็ครบรอบ 1 ขวบกระทู้เขากะลาด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  15. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ดูพิธีเปิดแล้ว คึกคักขึ้นมาเลยครับ
    ไทยแลนด์เป็นลำดับที่ 146 อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น อิอิ
     
  16. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขออนุญาตินำข้อความของคุณโมกลา มาแปะไว้หน้าห้องนะครับ

    "ที่โมกลาฝันเรื่องหัดว่ายกลางอากาศ โดยมีโคชผู้หญิงยืนดูอยู่ และใจเราตระหนักว่าเป็นพี่นักเขียน
    ภาพผู้หญิงคนนั้นติดตาตรืงใจอยู่ ก็เลยเมล์ไปคุยกับพี่นักเขียนบรรยายภาพที่เห็นไป แล้วสอบถามว่าเป็นพี่นักเขียนหรือไม่

    พอดีตัดแปะไม่เป็น ก็จะยกคำพูดของพี่นักเขียนมาเล่าก็แล้วกัน ว่า่

    " พี่นักเขียนเพิ่งตอบเมล์ของผู้อ่านหลายท่านที่เขียนมาบอกว่า ฝันถึงพี่นักเขียนทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งพี่นักเขียนได้ตอบไปว่า การฝันในลักษณะดังกล่าว เป็นการฝันเห็นสัญญลักษณ์ที่ทดแทนสื่อที่ทำให้ผู้อ่านสัมผัสกับข้อมูล ความรู้ ที่พี่นักเขียนถ่ายทอดมาให้มากกว่า เพราะพี่นักเขียนเป็นบุคคลตัวตนเดียว ที่ผู้อ่านสัมผัสได้ทางกายภาพ

    แต่เมื่อมาอ่านความฝันของคุณน้องโมกมาลา พี่นักเขียนกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เพราะพออ่านแล้วขนลุกซู่ รู้สึกว่า-เป็นความจริงที่ตรงไปตรงมา- ''

    แล้วพี่นักเขียนก็บรรยายรูปลักษณะของพี่นักเขียน เทียบกับโมกลาฝันเห็น ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่ยอมรับได้ว่าเป็นตัวพี่นักเขียนเอง

    หลังจากได้รับตอบเมล์จากพี่นักเขียน โมกลาก็อยากอ่านกระทู้ที่พี่นักเขียนเคยพูดถึง Jane Roberts แล้ววาดรูป Jane ในฝันออกมาได้เหมือนจริงมาก

    ก็คิดว่าเราลองเปิดหาสัก 3 หน้า เจอก็ดีไม่เจอก็ไม่เป็นไร แต่หวั่นใจว่าคงไม่เจอ เพราะกระทู้ตั้งเกือบ 300 หน้า หาเจอยาก คิดว่าไม่เจอ ก็ไม่เจอจริงๆ

    ตอนบ่ายมาเปิดคอมใหม่ ลองหาดูใหม่อีกครั้ง 3 หน้า เปิดไป 1 หน้า ก็ไม่เจอ ใจก็แว๊บความคิดขึ้นมาว่า เราต้องคิดว่าเราหาเจอสิ ก็เลยตั้งความคิดใหม่ว่าเราหาเจอ แล้วก็เจอจริงๆในหน้าที่ 3 ที่เปิด เป็นกระทู้ของคุณ VeggieGuy ที่พูดถึงพี่นักเขียน เกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี (หน้า 255) ก็เลยนึกถึงบทเรียนของท่านอาจารย์อนาลัย เรื่องความบังเอิญ อยู่ในหนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ

    เมื่อเช้าประมาณตี 4-5 ก็รู้สึกตัวตื่น แล้วใจก็คิดถึงเรื่องราวของพี่นักเขียน วนเวียนหลายรอบ พยายามจะสลัดออกไปก่อนเพื่อจะหลับต่อ ก็ยังติดค้างอยู่ ใจก็แว๊บว่าสงสัยพี่นักเขียนได้ตอบเมล์มาแน่

    คือไม่คิดว่าพี่นักเขียนจะตอบมาทันที เพราะโมกลาเมล์ไปเป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังมากกว่า พี่นักเขียนจะตอบหรือไม่ก็ได้

    ปรากฎว่าได้รับเมล์จากพี่นักเขียนจริงๆ พี่นักเขียนอธิบายเรื่อง ทำไมเราอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยแล้วรู้สึกง่วง ความจริงอยากตัดแปะไปห้องวิทย์ เพื่อเป็นการเพิ่มเติมความรู้ซึ่งกันและกัน"
     
  17. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981

    .. ;aa39 ..
    ..9/8/2008 ครบรอบ 1 ขวบ แล้ว ค่ะ ..dencee

    ;aa14;aa2 ..;14


    Little Duck ..[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2008
  18. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    hello2 ...


    :z3 " ส่งหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาดมกลิ่นครับ " เจ้าตัวนี้ของคุณ mead เค้ามีชื่อมั้ย คะ.. ท่าทางฉลาดมากเลยค่ะ เมื่อคืนนี้ออนเครื่องไว้ แล้วไปดูพิธีเปิดโอลิมปิคน่ะค่ะ พิธีเปิดอลังการมากเลยนะคะ ลุ้นว่าใครจะเป็นคนจุดคบเพลิงคนสุดท้าย ดูพิธีเปิดจนดึกเลยยังไม่ทันได้อ่านข้อความในโพสต์ เลยค่ะ ..หลานสาวมาถามว่า "ป้าคะๆ ทำมัย เค้าตาโตจัง .. ตอนนี้ เพิ่งสังเกตุว่า เค้ามีชีวิตด้วยนะ .. ;aa8 >> >>

    Little Duck .. [​IMG]
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ;aa14
    1 ขวบพร้อมๆกันพอดีครับคุณ Little Duck
    พีธีเปิด OLYMPIC อลังการน่าประทับใจมากครับ
    จินตนาการสุดยอดของ-จางอี้โหม่ว
    กว่าจะออกมาได้แบบนี้ทีมงานเบื้องหลังเค้าเต็มที่กันมากนะครับ
    ลูกสุนัขตาโตๆนั่นหลานชอบเหรอครับ อิอิ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2008
  20. โมกลา

    โมกลา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +24
    จะลองพยายามนำเมล์ของพี่นักเขียนมาให้เพื่อนๆอ่านร่วมกัน ทำตามคำแนะนำของคุณเดรดค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณน้อง โมกมาลาที่รัก

    พี่นักเขียนได้ข่าวจากผู้อ่านหลายร้อยรายว่า อ่านหนังสือชุดนี้แล้วง่วงอย่างเหลือเชื่อ แต่บางวันอ่านแล้วกลับวางไม่ลง เช่นเดียวกับที่คุณน้องโมกมาลาเล่าให้ฟัง พี่นักเขียนอยากจะให้ผู้อ่านหลายๆท่าน ช่วยกันนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังที่กระทู้ เพราะการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จะทำให้เราทั้งหลายได้มีโอกาสเรียนรู้ร่วมกัน และสามารถเข้าใจอะไรๆได้ดีขึ้น ด้วยการพิสูจน์ร่วมกัน

    แต่ประสบการณ์เหล่านี้เกิดจากมุมมองของผู้อ่าน ซึ่งต่างจากพี่นักเขียน จากมุมมองของนักเขียน พี่นักเขียนไม่อาจวินิจฉัยและสรุปเช่นที่คุณน้องโมกมาลากล่าวได้ว่า หนังสือชุดนี้มีพลังพิเศษ เพราะหากพี่นักเขียนกล่าวเช่นนั้น คนจำนวนมากที่ไม่ได้มีประสบการณ์ด้วยตนเอง คงจะว่าเป็นการอวดอ้าง

    ตลอดเวลาที่พี่นักเขียนถอดความจากบันทึกความฝัน พี่นักเขียนเริ่มจากการพิมพ์ด้วย computer notebook ซึ่งไม่มี keyboard ภาษาไทยเลย ใช้จิ้มตัวอักษรผิดๆถูกๆ เพราะพิมพ์สัมผัสไม่เป็น

    แต่ทำไปได้เพียงสองวัน ก็พบว่าตนเองตกเข้าภวังค์ นั่งหาวตลอด แต่พอพ้นจากความง่วงไปได้กลับพิมพ์เร็วจี๋ แทบจะไม่มีผิดเลย ทั้งที่ไม่รู้ตัวอักษรบนแป้นพิมพ์ จากสองวันแรกซึ่งพิมพ์ได้เพียง 1 หน้ากระดาษ วันที่ 3 พิมพ์ได้ 25 หน้า


    สามีกลับมาเห็นตอนเย็น ตกใจมากๆเลยค่ะ เพราะเขารู้ว่าพี่ไม่เคยเรียนพิมพ์ดีด และสมัยที่อยู่เมืองไทย เคยเขียนหนังสือภาษาไทยหลายเล่ม ทำตำราเรียนมาก็มาก แต่ก็ใช้ลูกน้องพิมพ์ให้ทั้งหมด และนับแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็พิมพ์ได้เร็วอย่างนั้นมาตลอด แต่พอพิมพ์อย่างอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย และใช้ computer ตัวอื่นๆ แค่หาตัวอักษรบางตัวก็หาไม่เจอแล้วค่ะ

    จนกระทั่งมาตอบคำถามที่กระทู้ จำเป็นต้องใช้ computer ตัวอื่น และตอนแรกก็ย่ำแย่ พิมพ์ช้า หาตัวอักษรไม่ค่อยเจอ แต่พอทำไปได้ไม่ถึงสัปดาห์ ก็ตกเข้าภวังค์เหมือนมีเสียงภายในบอก dictation ให้พิมพ์คำตอบ ก็พิมพ์เร็ว เลยรู้ตัวยว่า เมื่อทำหน้าที่เป็นเลขา ก็จะพิมพ์ได้เร็วเหมือนพิมพ์หนังสือนักเขียนตอบจากประสบการณ์ของตนเองได้ว่า เมื่อสัมผัสกับพลังที่พี่เรียกว่าเป็นพลังจากองค์ความรู้โดยตรง เราจะง่วง เพราะจิตวิญญาณของเราเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ไปสู่การจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะผ่านประสาทสัมผัสที่หกแทน ความง่วงเป็นกลไกเดียวที่สามารถเหนี่ยวนำให้สติสัมปชัญญะของเราละจากประสาทสัมผัสทั้งห้าได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

    หากเราง่วง แต่เราสามารถ "ช้อน" สติสัมปชัญญะให้สวนทางกับความง่วงได้ โดยปลุกให้สติสัมปชัญญะตื่นตัว โดยไม่ต้องปลุกประสาทสัมผัสให้ตื่นตามไปด้วย ความง่วงจะเหนี่ยวนำให้ร่างกายของเราตกอยู่ในสภาพคล้ายหุ่นยนต์ คือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดย ความคุมด้วยสติสัมปชัญญะและประสาทสัมผัสภายในแทนประสาทสัมผัสทั้งห้า

    อาการเดียวกันนี้ เกิดขึ้นกับทุกคนที่จดจ่อและทำอะไรได้เร็วผิดปกติ เช่น ผุ้ที่ทำอาหารใช้มีดซอยเร็วๆ เหมือนหุ่นยนต์ หรือเครื่องจักร หรือผู้ที่ทำบางสิ่งบางอย่างได้แม่นยำ โดยเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ ไม่ต้องคิดหรือทำทีละ step แต่ทำได้เป็นอัตโนมัติ เช่น ผู้ที่กระโดดไกล กระโดดสูง กระโดดน้ำหมุนตัวกลางอากาศ ฯลฯ
    เวลาพี่นักเขียนพิมพ์ เพื่อถอดความจากหนังสือ พี่นักเขียนจะตกอยู่ในภาวะนี้ตลอด ทำให้ความฝันที่จะไว้นั้น ปรากฏเด่นชัดในมโนภาพ เหมือนได้ชมภาพยนต์ซ้ำ และในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงภายในที่เป็นเสมือน เสียงบรรยายสารคดี ซึ่งบอกให้เราพิมพ์ โดยไม่ได้พิมพ์แบบไม่ใช้สมอง แต่พิมพ์ไปด้วยความเข้าใจ เพราะได้เห็นภาพยนต์ไปด้วย ฉันใดก็ฉันนั้นแหละค่ะ

    พี่นักเขียนได้ฝึกฝันมายาวนานหลายปี ก่อนหน้าที่จะมาเขียนหนังสือชุดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นเป็นไปด้วยการฝันแม่นเป็นประจำ โดยมักจะฝันเกี่ยวกับบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตนเองเลย แต่เรื่องราวของเขามักจะคอขาด-บาดตาย และเมื่อฝันแล้ว เจ้าตัวก็มักจะติดต่อมาเองโดยพี่่ไม่เคยติดต่อไปก่อน

    บางคนเป็นบุคคลแปลกหน้าที่คนรู้จักแนะนำมาให้อีกต่อหนึ่ง พอเห็นหน้าเขา หรือได้ยินเสียงทางโทรศัพท์ ความฝันนั้นจะผุดขึ้นมาทันที ขนลุกซู่และรู้ว่า ความฝันนั้นๆเป็นสารของเขา เรามีหน้าที่ส่งข่าว มันเป็นสิ่งที่พี่นักเขียนอธิบายไม่ได้สมัยนั้น แต่ก็ทำราวกับเป็นหน้าที่จนเคยชิน เพราะเมื่อส่งสารแล้ว เราก็ช่วยให้เขาคลายทุกข์ หรือแก้ปัญหาที่เขาแก้ไม่ตกได้จริง จึงเต็มใจทำตลอดมา
    แต่ทั้งนี้พี่นักเขียนก็ไม่ได้มีความเชื่อว่า - เราถูกเลือก แต่เชื่อว่า เราเลือกทำหน้าที่นั้นก่อนมาถือกำเนิดด้วยซ้ำไป เพราะเบื้องลึกแล้ว เรารักที่จะทำ เราปรารถนาที่จะทำ ช่วงใดในชีวิตที่พี่นักเขียนรู้้สึกเหนื่อยอ่อน อยากจะเลิกรา เพราะการทำหน้าที่ดังกล่าว ทำให้คนจำนวนมากผูกพันธ์ และติดต่อพี่นักเขียนยาวนาน บางคนผู้พันธ์แรมเดือน จนกว่าเขาจะรอดพ้นจากปัญหาหนักๆไปได้ พี่นักเขียนอยากมีเวลาเป็นของตนเองบ้างตามประสาคุณแม่ลูกสอง สามีหนึ่ง ก็จะทำเสมือนปิด switch ไม่อยากรับรู้เรื่องของผู้อื่น

    ความฝันเหล่่านั้นจะจางหายไป เรียกได้ว่าหยุด ไม่ฝันให้ใคร ไม่รับรู้ ตื่นก็ไม่จำ ทำเป็นไม่ได้รับ
    แต่พอทำเช่นนั้นไปได้ไม่นาน กลับมีความฝันที่ไปรู้เห็นเรื่องคอขาดบาดตาย ชนิดว่า ตื่นมากลางดึก อยากจะส่งสารใจจะขาด ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะติดต่อมาเมื่อไร จะได้ส่งสาร แล้วไม่นานเกินรอ เจ้าของสารก็ติดต่อมาจริงๆ ทำให้ตระหนักว่า เราเลือกมาทำหน้าที่นี้จริงๆ จะรู้สึกอยากเลิกก็เป็นเพียงชั่ววูบ ที่อยากลาพักร้อนเท่านั้นเอง แต่แล้วก็ต้องกลับมาทำอีกจนได้ และตระหนักว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองก้าวไปข้างหน้า คือรู้เห็นได้ เข้าใจได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
    เรื่องราวทั้งหมดที่รับมาจากความฝัน คงจะเขียนเป็นหนังสือได้อีกเล่มโต แต่พี่นักเขียนก็นำไป post เพียง 2-3 เรื่องเท่านั้น โดยเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสาระสำคัญบางอย่างเพื่ออำพราง identity ของเจ้าของสาร เพราะเรื่องอีกมากมายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย การทำหน้าที่ของพี่นักเขียนจึงต้องระวังมาก เหมือนทนายที่ต้องรู้จักปิดความลับ ตายไปกับความลับของคนจำนวนมาก เพื่อรักษาจรรยาในหน้าที่ แม้จะอยากถ่ายทอดประสบการณ์ให้ใครเพียงใดก็ตาม

    หากคุณน้องโมกมาลาเชื่อมั่นว่า ความปรารถนาอันสูงสุดของคุณน้องคือการใช้ความฝันเป็นกลไกรับข้อมูล เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น พี่นักเขียนขอให้ใช้ความเชื่อมั่นนี้เหนี่ยวนำให้สติสัมปชัญญะของคุณน้อง ไปตั้งอยู่ในภาวะที่เสมือนว่า พร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่่ ให้จดจ่อกับความคิดและความรู้สึกนี้เสมอๆก่อนนอน และปรากฏการณ์ทั้งหลายจะเกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ

    ความฝันประเภทนี้ สำหรับพี่นักเขียนแล้ว ไม่มีอะไรเป็นสัญญลักษณ์เลย ฝันตรงไปตรงมาที่สุด เห็นเขาจะฆ่ากัน เขาก็จะฆ่ากันจริงๆ ไม่ได้้เป็นสัญญลักษณ์ ในความฝันประเภทนี้ ตนเองจะเป็นเสมือนผู้สังเกตการณ์ที่เหมือนกำลังการดูภาพยนต์ รู้เห็นรายละเอียดมากมาย มีตัวละครหลายตัวที่สำคัญๆ และเมื่อถึงตอนสำคัญ เช่น ตอนที่จะเกิดการฆ่ากัน ตนเองจะก้าวเข้าไปในฉาก และดำเนินการบางอย่าง เช่น แกะมือที่กำลังบีบคอผู้ที่จะฆ่า ออกจากผู้ที่กำลังจะสิ้นลม และสอนเขาด้วยคำพูดที่ตนเองได้ยินก้องอยู่ภายใน และตื่นขึ้นมาจะรู้ได้เป็นอัตโนมัติว่า เราได้ฝันเห็นเรื่องราวของผู้อื่น ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับตัวเราเลย และหน้าที่ของเราคือถ่ายทอดคำสอนเหล่านั้นให้เขาได้คิด

    เรื่องแบบนี้ พี่นักเขียนไม่อาจนำไป post ได้เลยค่ะ เพราะแม้จะอำพราง identity และหากเล่าเพี้ยนเพื่อทำให้เจ้าของเรื่องจับไม่ได้ว่าเอาเรื่องของเขาไปเปิดโปง ก็คงเพี้ยนไปหมดจนจับสาระไม่ได้ตรงความเป็นจริง
    ทำให้พี่นักเขียนคิดหนักมาก และยังไม่แน่ใจว่า จะถ่ายทอดอย่างไรดี บางครั้งก็คิดว่า ตนเองอาจจะไม่ต้องถ่ายทอดเป็นสาธารณะก็ได้ อาจมีบุคคลเพียงคนเดียว ที่ถ่ายทอดให้ได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด

    อยากทราบอะไรก็ถามมาแล้วกันนะคะ พี่นักเขียนยินดีตอบทุกคำถามค่ะ
    พี่นักเขียน [​IMG]




     

แชร์หน้านี้

Loading...