เพื่อการกุศล เปิดจองรุ่นของขวัญปีใหม่ ลพ.หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์อธิฐานจิตสร้างโดยวัดป่าศรีสำราญน.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 18 มิถุนายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  2. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ทายได้ครั้งเดียวครับ:':)':)'(
     
  3. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  4. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  5. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต​
    (จีน: 藥師佛/薬師; พินอิน: Yàoshīfó; ญี่ปุ่น: 薬師瑠璃光如来 Yakushi หรือ Yakushirurikō nyorai ?)
    เป็นพระพุทธเจ้าที่พบเฉพาะในนิกายมหายาน ไม่พบในฝ่ายเถรวาท พระนามของท่านหมายถึงพระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีสีน้ำเงินดังไพฑูรย์ พระนามอื่นๆของท่านคือ พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า เป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต​

    ในความเชื่อของชาวจีน รูปของพระองค์อยู่ในท่านั่งสมาธิ มีรัตนเจดีย์วางบนพระหัตถ์ บ้างถือกระปุกยา ส่วนในความเชื่อของชาวทิเบต พระองค์มีกายสีน้ำเงินเข้ม นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาถือยาสมุนไพร (ทางจีนนิยมเป็นเห็ดหลินจือ) พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรวางบนพระเพลา ถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลก​
     
  7. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    หลักฐานจากพระสูตร​


    พระสูตรที่กล่าวถึงพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าโดยเฉพาะ พระองค์เดียว คือ​


    1.ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร เดิมเขียนด้วยภาษาสันสกฤต ต่อมาแปลเป็นภาษาจีนโดยพระถังซำจั๋ง หรือพระสมณะเสวียนจั้ง ในสมัยราชวงศ์ถังของจีน
    2.ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร ต่อมาแปลเป็นภาษาจีนโดยพระสมณะอี้จิง ในสมัยถังของจีน แต่กล่าวถึงพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ โดยพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า เป็นพระองค์ลำดับที่ 7 กล่าวถึงปณิธาน 12 ข้อของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าคือ
    1.ช่วยให้สรรพสัตว์บรรลุโพธิญาณโดยเร็ว
    2.ช่วยให้สรรพสัตว์ตื่นจากความโง่เขลา
    3.ช่วยให้สรรพสัตว์ถึงพร้อมด้วยของใช้ทั้งปวง
    4.ช่วยให้สรรพสัตว์หันมานับถือมหายานธรรม มุ่งสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า
    5.ช่วยให้สรรพสัตว์มีศีลบริสุทธิ์
    6.ช่วยให้สรรพสัตว์มีกายสมบูรณ์
    7.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากความยากจน
    8.ช่วยให้สตรีได้เป็นบุรุษตามปรารถนา
    9.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากอุบายของมาร
    10.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากโทษทัณฑ์ทางอาญา
    11.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากการทำชั่วเพื่อเลี้ยงชีพ
    12.ช่วยให้สรรพสัตว์พบกับความสมบูรณ์ทั้งสิ้น​
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ความเชื่อ​


    พระไภษัชยคุรุเป็นที่นับถืออย่างแพร่หลายในหมู่ชาวพุทธมหายาน แต่ไม่มีนิกายเป็นของตนเองอย่างพระอมิตาภะพุทธะ ทรงมีแดนศุทธิไวฑูรย์ที่เหมือนกับแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานสูตร กล่าวว่าทรงเป็นหนึ่งในพระไภษัชยคุรุทั้ง 7 มีพระโพธิสัตว์เป็นสาวก 2 องค์ คือ พระสุริยประภาโพธิสัตว์และพระจันทรประภาโพธิสัตว์

    ดังนั้น จึงเป็นที่มาของพระกริ่งปวเรศ ที่มีการจัดสร้างขึ้นเฉพาะในราชอาณาจักรไทยแต่เพียงผู้เดียว เพราะพุทธลักษณะของพระกริ่งคล้ายคลึงกับพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้ามาก​
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุทั้ง 7​


    พระไภษัชยคุรุทั้ง 7 เป็นกลุ่มของพระพุทธเจ้าตามคติของมหายานกลุ่มหนึ่ง มีจำนวน 7 พระองค์ เป็นที่นับถือกันมาในทิเบตและเนปาล โดยพระพุทธะแต่ละองค์จะมีโลกธาตุหรือพุทธเกษตรเป็นของตนเองเช่นเดียวกับแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะ ในบรรดาพระพุทธเจ้ากลุ่มนี้ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาเป็นที่นับถือมากที่สุด​
     
  10. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุทั้ง 7 ตามความเชื่อของชาวจีน​


    พระสุนามยศศิริราชาตถาคต อยู่ที่ชยประภาโลกธาตุ มีปณิธาน 8 ประการคือ ช่วยสรรพสัตว์ให้หายจากโรคร้าย ช่วยผู้พิการให้มีร่างกายสมบูรณ์ ช่วยให้สรรพสัตว์มีโอกาสหลุดพ้นจากอนันตริยกรรม ช่วยให้สรรพสัตว์มีโภคทรัพย์สมบูรณ์ ช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ถูกโบยตีให้พ้นทุกข์ ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นภัยจากสัตว์ร้าย ช่วยให้สรรพสัตว์มีเมตตา ช่วยสรรพสัตว์ที่พลัดหลงให้ปลอดภัย
    พระรัตนจันทรประภาปรัชญาประภาศัพทศวรราชาตถาคต อยู่ที่สุรัตนโลกธาตุ มีปณิธาน 8 ประการคือ ช่วยให้สรรพสัตว์ประสบความสำเร็จในการค้า ช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากการต้องทนหนาวร้อน ช่วยสตรีที่มักมากในกามให้พ้นจากกิเลส ช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากการถูกปล้นระหว่างทาง ช่วยสรรพสัตว์ที่เดินทางกลางคืนให้ปลอดภัย ช่วยให้สรรพสัตว์หันมาศึกษาพระธรรม ช่วยสรรพสัตว์ให้หันมาตั้งมั่นในโพธิจิต ช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นภัยทางโลก
    พระสุวรรณรัตนประภามัญชุจรยสิทธิตถาคต อยู่ที่บริบูรณ์คันธาลยโลกธาตุ มีปณิธาน 4 ประการคือ ช่วยสรรพสัตว์ที่ทำกรรมโดยอาชีพให้พ้นกรรม ช่วยสรรพสัตว์ที่ทำความชั่วให้พ้นกรรม ช่วยให้สรรพสัตว์มีความเมตตา ช่วยให้สรรพสัตว์ที่มีสังโยชน์ให้พ้นกรรม
    พระอโศกาวิชยตถาคต อยู่ที่อโศกาโลกธาตุ มีปณิธาน 4 ประการคือ ช่วยสัตว์ให้พ้นจากความโศก ช่วยสัตว์ให้พ้นจากอเวจีนรก ช่วยสัตว์ที่จะตกนรกในชาติหน้าให้พ้นทุกข์ ช่วยให้สรรพสัตว์ให้พ้นจากอำนาจของภูตผีปีศาจ
    พระธรรมสาครครชิตศัพทตถาคต อยู่ที่ธรรมธวัชโลกธาตุ มีปณิธาน 4 ประการคือ ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากความหลงผิดในการมีมิจฉาทิฏฐิต่อพระรัตนตรัย ช่วยให้สัตว์พบกัลยาณมิตรที่จะพาไปสู่พระโพธิญาณ ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากความขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม ช่วยให้สรรพสัตว์หันมาสร้างกรรมดี
    พระธรรมสาครชยประภาอภิญญากรีฑาตถาคต อยู่ที่วิจิตรรัตนสาครโลกธาตุ มีปณิธาน 4 ประการ คือ ช่วยให้สรรพสัตว์เลิกสร้างกรรมชั่ว ช่วยให้สรพพสัตว์หันมาสร้างกุศลกรรม ช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากการถูกประหารชีวิต ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากมิจฉาทิฐิของมาร
    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต อยู่ที่ ศุทธิไวฑูรยโลกธาตุ มีปณิธาน 12 ประการ
    นอกจากนั้นในคัมภีร์อุตรเคราะห์นิรภัยจิรายุวัฒนาวิเศษสูตร กล่าวถึงพระพุทธเจ้าทั้งเจ็ดพระองค์นี้ว่า ทรงมีนิรมาณกายเป็นเทพเจ้า 7 องค์ รวมกับพระโพธิสัตว์ 2 องค์ กลายเป็นเทพนพเคราะห์ 9 องค์ ที่ควบคุมสรรพสิ่งในจักรวาล​
     
  11. @ชาวบ้าน

    @ชาวบ้าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    384
    ค่าพลัง:
    +792
    :cool::cool::cool:
     
  12. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    บูชา “พระกริ่ง” เพื่ออะไร? ซึ่งโดยทั่วๆ ไปมักเข้าใจอยู่ว่าการบูชาพระกริ่งนั้นส่วนใหญ่ที่นิยมคือ นำไปบูชาเพื่อให้เกิดคุณด้านความเจริญรุ่งเรือง เกิดผลในทางคุ้มครองรักษา และมีประวัติว่าได้เคยมีการอาราธนาคุณพระกริ่งทำน้ำมนต์ เพื่อปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยร้ายแรงในสมัยก่อนกาลนานมาแล้ว

    แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ถึงคุณอันวิเศษของ “พระกริ่ง” ที่มีมากไปกว่านั้น นั่นคือจาก มหาปณิธาน 12 ประการ ของ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต และจากบันทึกของอาจารย์เสถียร โพธินันทะ ปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงพระกริ่งไว้ว่า “พระกริ่ง” คือ พระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้า พระองค์เป็นที่นับถือของปวงพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายาน มีพระประวัติในพระสูตรสันสกฤตสูตรหนึ่ง คือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา ราชามูลประณิธานสูตรและ มหาปณิธาน 12 ประการ อันเป็นคุณอันวิเศษที่ผู้ใดก็ตาม ได้ครอบครองหรือบูชา “พระกริ่ง” ด้วยความเลื่อมใส หรือเอ่ยพระนาม รำลึกถึงพระองค์ จะได้รับอานิสงส์แห่งการบูชามีดังต่อไปนี้

    ขอให้สรรพสัตว์จงมีวรกายดุจเดียวกับพระองค์
    ขอให้วรกายของพระองค์มีสีสันดุจไพฑูรย์ มีรัศมีรุ่งโรจน์โชตนาการยิ่งกว่าแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ เพื่อส่องทางให้สัตว์ที่หลงในอบายคติพ้นไปสู่คติที่ชอบ
    ขอให้สรรพสัตว์ได้รับโภคสมบัตินานาประการ อย่าได้มีความยากจนใดๆ
    หากสรรพสัตว์ใดมีมิจฉาทิฐิ ขอให้พระองค์ทำให้เขาตั้งมั่นในสัมมาทิฐิในโพธิมรรค
    หากสรรพสัตว์ใดประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยแห่งพระองค์ขอให้อย่าได้มีศีลวิบัติ หากมีศีลวิบัติ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์จงบริสุทธิ์บริบูรณ์
    หากสรรพสัตว์ใดมีรูปกายไม่งาม ผิวไม่ผ่องใส โง่เขลาเบาปัญญา ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ หลังค่อม สารพัดพยาธิทุกข์ต่างๆ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์ขอให้หายและหลุดพ้นจากปวงทุกข์เหล่านั้น มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ผิวกายผ่องใส
    ขอให้สรรพความเจ็บป่วยทั้งหลายจงหมดไป และขอให้สรรพสัตว์เป็นผู้มีกายใจอันผาสุก มีบ้านเรือนอาศัย พรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติ จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ
    หากอิสตรีใดเบื่อหน่ายในเพศแห่งตน เมื่อสดับพระนามแห่งพระองค์ จักสามารถเปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชาย จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากข่ายแห่งมาร และตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิได้
    หากสรรพสัตว์ใดต้องพระราชอาญา ต้องคุมขัง หรือต้องอาญาถึงประหารชีวิต ตลอดจนได้รับการดูหมิ่นดูแคลน หากเอ่ยพระนามแห่งพระองค์และอาศัยบารมีและคุณาภินิหาริย์ของพระองค์ ขอสัตว์เหล่านั้นจงหลุดพ้นจากปวงทุกข์
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค มีความอิ่มหนำสำราญ
    ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยสรรพอาภรณ์ เครื่องประดับ ธนสารสมบัติและเครื่องบำรุงความสุขต่างๆ
    ด้วยมหาปณิธานทั้ง 12 ประการนี้ เพียงเอ่ยหรือได้ยินพระนาม “พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต” หรือ “พระกริ่ง” ยิ่งได้ศรัทธา เลื่อมใส มีไว้ครอบครองบูชา จะยิ่งทำให้มีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง นับเป็นคุณอันวิเศษยิ่งนัก เหล่านี้คือ “บารมีแห่งพระกริ่ง”​
     
  13. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต​


    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต (藥師琉璃光如來)

    พระไภษัชยคุรุพุทธะ หรือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต( เอี๊ยะซือฮุก)
    藥師琉璃光如來, 藥師佛, 藥師佛, 薬師, 药师佛
    भैषज्यगुरुबुद्ध – Bhaisajyaguru Buddha

    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต หรือ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า (เอี๊ยะซือฮุก หรือ ยกเหล่าซือฮุกโจ๊ว) เป็นพระพุทธเจ้าที่พบเฉพาะในนิกายมหายานเท่านั้น

    พระนามของพระองค์ หมายถึง พระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีงดงามสีน้ำเงินดังไพฑูรย์ พระนามอื่นๆ ของท่านคือ พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า ทรงเป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต

    พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต มาทางจีนจะแปลความหมายของพระองค์ว่า เอียะ ซือ หยูไล (藥師如來)

    หากจะแปลทับศัพท์ก็คือ ปี ซา แซ ลิว ลู เผก ลิว ลี ปอ ลา พอ ออ ลา แซ แย (鞞殺社窶嚕薜琉璃鉢喇婆喝囉闍也)

    เพราะหากจะแปลทับศัพท์แล้วจะมิอาจทราบได้เลยว่า คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ใด พระนามของพระองค์มีความหมายว่า

    ไภษัชย (藥) คือ ยา,โอสถรักษาโรค
    คุรุ (師) คือ ครูอาจารย์,ผู้เชี่ยวชาญ
    ไวฑูรย (琉璃) คือ แก้วรัตนะชนิดหนึ่งมีสีน้ำเงินใส ไทยเรียกว่า
    ไพฑูรย์ประภา (光) คือ แสงรัศมีที่ส่องสว่าง
    ตถาคต (如來) คือ คำเรียกหมายถึงพระผู้เสด็จมาแล้วด้วยดีอย่างนั้น

    ซึ่งหมายถึงการเรียกขานพระพุทธเจ้า คล้ายๆกับการเรียกว่า พระพุทธเจ้า (佛) พระโลกนาถ(世尊) เป็นต้น

    สรุปความหมายพระนามโดยรวมคือ “พระตถาคตเจ้าผู้เป็นคุรุผู้เชี่ยวชาญทางโอสถรักษาโรค ผู้มีแสงรัศมีสีน้ำ เงินบริสุทธิ์ประดุจแก้วไวฑูรย์”

    พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทรงมีพุทธเกษตรของพระองค์เองอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ของโลกเราแห่งนี้ออกไปไกลแสนไกลชื่อว่า “ศุทธิไวฑูรย์”(淨琉璃世界) ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับแดนสุขาวดีที่อยู่ทางทิศ ตะวันตก

    ในพระสูตรบรรยายว่าดินแดนของพระองค์นั้นมีความสวยงามอลังการและวิเศษเสมือนกับแดนสุขาวดี ทุกประการมิแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย ผู้ที่ไปเกิดก็จะปราศจากความทุกข์ทรมานทั้งปวง ทั้งจะเป็นผู้มิเสื่อมถอย จากกุศลและภูมิธรรม จะได้บำเพ็ญตนสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อกลับมาช่วยสรรพสัตว์ จนสำเร็จพระพุทธมรรค ได้ยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตรแห่งนั้น การจะไปเกิดก็โดยการตั้งปณิธานอธิษฐานจิตต่อพระองค์ และประกอบกุศล กรรมบำเพ็ญธรรมดีงามเพื่อมุ่งไปเกิด พร้อมกับการภาวนาพระนามของพระองค์โดยสม่ำเสมอว่า

    ขอนอบน้อมแด่ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต เป็นจีนว่า
    "นำ มอ หยก ซือ ลิว ลี กวง ยู ไล" (南無藥師琉璃光如來) หรือ

    ขอนอบน้อมแด่พระนิรันตรายจิรายุวัฒนาไภษัชยคุรุพุทธเจ้า
    เป็นจีนว่า "นำ มอ เซียว ไจ เอียง ซิว หยก ซือ ฟู" (南無消災延壽藥師佛)

    ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่หมั่นภาวนามีสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน มิต้องประสบกับโรคร้ายเบียดเบียนทั้งโรคกรรมโรคปีศาจทั้งปวงให้ได้สมหวังดังปรารถนาทุกประการ

    พระปฏิมาของพระองค์จะประดิษฐานทางเบื้องซ้ายของพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงถือรัตนเจดีย์ หรือบาตรบรรจุทิพยโอสถ หรือ บ้างก็ถือแจกันในพระหัตถ์ที่ประสานกันในท่าสมาธิ

    บางแห่งจะให้แบพระหัตถ์ขวาออกในกิริยารับดวงวิญญาณไปเกิด ธิเบตจะทรงถือต้นยาวิเศษชื่อ “อคทะ” ส่วนทางจีนนั้นจะทรงถือเห็ดหลินจือ ซึ่งชาวจีนโบราณเชื่อว่า เห็ดหลินจือเป็นของหายากที่สุดและเป็นยาอายุวัฒนะของเซียน

    หากเป็นภาพวาดของธิเบตจะวาดพระวรกายของพระองค์เป็นสีน้ำเงินเข้ม และพระกริ่งที่นิยมกันแพร่หลายในประเทศไทยก็ได้แบบอย่างมาจากพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้านั่นเอง

    พระพุทธเจ้าแห่งทิศตะวันออกจอมราชันย์แห่งศาสตร์การแพทย์ พระวรกายสีน้ำเงินประดุจท้องฟ้าอันมหาศาลพระหัตถ์ขวาในท่าภาวนา พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรยาหรือหม้อยาพระกริ่งที่สร้างกันในประเทศไทยก็คือพระพุทธเจ้าพระองค์นี้
    ศาสตร์การแพทย์คือศาสตร์ที่พระศากยะมุนีพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นสุดยอดแห่งศาสตร์ทั้งปวง การแพทย์แห่งพุทธเน้นแนวทางในการรักษาแบบองค์รวมนั้นคือเน้นความสัมพันธ์ในการรักษาทั้ง กาย วาจา ใจไปพร้อมกัน โดยใช้สมุนไพรใบยาการภาวนามนตรา สมาธิจิตความอ่อนแอในทางสุขอนามัยของสรรพสัตว์ ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการบำเพ็ญเพียรเพื่อสู่การหลุดพ้นเป็นเหตุให้พระไภษัชยพุทธเจ้าต้องเสด็จมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์ พระองค์ทรงเข้าร่วมในกิจกรรมทางการแพทย์ทุกขั้นตอนพิธีกรรมในการปรุงยา พระองค์ทรงเป็นประธานและผู้ลงมือกระทำการเพื่อความมีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งยาในการรักษาการภาวนา พระองค์ทรงประทานคาถาในการภาวนาเพื่อความเชื่อมั่นแน่วแน่ในการสู่สุขภาพที่ดี การทำสมาธิน้อมอัญเชิญพระองค์เข้าสู่ตัวเราหลอมรวมพระองค์และเราเป็นหนึ่งเดียว ความเจ็บป่วยทั้งปวงถูกหลอมละลายเป็นอากาศธาตุพระองค์และเราเข้าสู่ศูนยตาสภาวะ เราออกจากสมาธิในสภาวะว่างเปล่านั่นคือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมลายหายไปด้วย

    ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์อย่างกว้างขวางว่าสมาธิจิตเป็นยาวิเศษชนิดหนึ่งในการบำบัดความเจ็บป่วยการรักษาในแนวทางแห่งพุทธนี้ไม่เพียงได้ความสุขทางกายเพียงประการเดียวสมาธิจิตที่ได้เป็นยานพาหนะนำพาเราเข้าสู่การหลุดพ้น สู่ความเป็นพุทธะในที่สุดบังเกิดความสุขอันนิรันดร

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า " หากสรรพสัตว์ที่ยังมีกรรมหนักอยู่ ได้ยินพระนามของพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้า ท่องพระนามนี้ด้วยจิตแน่วแน่และแนบแน่นอยู่กับพระนาม โดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยเลยแม้เพียงหนึ่งเดียวแล้วไซร้ ก็เป็นอันว่าสัตว์เหล่านั้นจะไม่มีทางจะจมลงสู่อบายภูมิเป็นแน่แท้ ดูกรอานนท์การปฏิบัติอันสูงยิ่งของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อยากที่จะเข้าใจ แต่หากเธอสามารถมีจิดตั้งมั่นอยู่กับการปฎิบัตินี้ได้เธอก็จงรู้เถิดว่า นี่เกิดจากพลังอำนาจอันใหญ่ยิ่งของเหล่าพระตถาคตเจ้าทั้งหลาย "

    วันคล้ายวันพุทธสมภพคือ วันที่ ๓๐ เดือน ๙ จีน

    พระโพธิสัตว์คู่บารมี พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต

    พระสุริยประภาโพธิสัตว์(日光遍照菩薩) พระจันทรประภาโพธิสัตว์(月光遍照菩薩) ซึ่งเป็นคนละองค์กับพระสุริยเทพและจันทรเทพ

    ๑ .พระสุริยประภาโพธิสัตว์ “ยิก กวง ผ่อ สัก” (南無日光王菩薩) ทรงเปรียบเสมือน แสงแห่งปัญญาญาณที่เจิดจรัสและอบอุ่นยังให้สรรพสัตว์ตื่นขึ้นและรู้แจ้งเหมือนพระอาทิตย์ และ

    ๒. พระจันทรประภาโพธิสัตว์ “ว๊วย กวง ผ่อ สัก” (南無月光王菩薩)
    ทรงเปรียบกับ แสงแห่งความเมตตาและกรุณา ที่ร่มเย็นใสสะอาด สามารถเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด ยังให้สรรพสัตว์ที่หลงผิดได้รู้แจ้งเหมือนดังได้พบความสว่างในความมืดยามราตรี​
     
  14. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ลำดับที่ 45 โอนเงินร่วมทำบุญ-จัดส่ง (ที่อยู่pm.)ครับ
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    วาดภาพ ปั้น หล่อพระปฏิมากรของพระไภษัชยคุรุ(พระองค์เดียวหรือทั้ง ๗ พระองค์)นี้ ประดิษฐานไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อว่าพระพุทธบารมีและอำนาจแห่งมหายักษ์เสนาบดีทั้ง ๑๒ ตน จะมาสถิตอยู่ในสถานที่นั้นๆ ตามอรรถในพระสูตรที่ว่า “หากมีพระนาม พระธารณี พระสูตรหรือพระปฏิมาของพระไภษัชยคุรุสถิตหรือปรากฏอยู่ ณ แห่งใด การเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ โรคาพาธร้ายแรง อาถรรพ์ชั่วร้ายทั้งปวงก็จะสิ้นไปจากแห่งนั้น”​
     
  16. plamp256

    plamp256 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,308
    ค่าพลัง:
    +6,725
    โอน ค่า บาตรน้ำมนต์ ทั้งหมดที่ค้าง และ ค่าลูกสะกดทั้งหมด รวมทั้งค่าส่ง 4680 บาทครับ ตาม slip 2-10-2557 10-17-33.jpg

    อยากรบกวนให้รวมตาราง เข้าด้วยกันเพื่อตรวจสอบว่าครบ 10000 บาทหรือไม่เพื่อรับรอยมือรอยเท้าหลวงพ่อหนุนครับ
     
  17. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระประวัติ พระไภษัชยคุรุตถาคต
    (Bhaisajyaguru Tathagata)


    พระไภษัชยคุรุตถาคต (คำว่า ตถาคตแปลว่า พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น ตรงกับภาษาจีนว่า “หยูไล” ซึ่งเป็นอีกพระนามหนึ่งสำหรับเรียกขานพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ดังนั้นคำว่าตถาคต และพุทธเจ้าจึงมีความหมายเดียวกัน) ทรงมีพระนามเต็มว่า พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต(藥師琉璃光如來) มีความหมายของพระนามดังนี้ว่า ไภษัชย(藥) แปลว่ายา,โอสถรักษาโรค คุรุ(師) แปลว่าครู,ผู้เชี่ยวชาญ ไวฑูรยประภา(琉璃光) แปลว่าแสงรัศมีสีน้ำเงินดั่งแก้วไวฑูรย์ ซึ่งโดยรวมแล้วคือ พระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งโอสถรักษาโรคผู้มีแสงรัศมีสีน้ำเงินดั่งแก้วไวฑูรย์ เช่นนี้ และพระองค์ยังทรงมีพระนามว่า มหาแพทยราชาพุทธเจ้า (大醫王佛) และ มหาไภษัชยราชพุทธเจ้า (大藥王佛)

    พระปฏิมาของพระองค์ทางจีนจะประสานหัตถ์ในท่าสมาธิและมีรัตนเจดีย์ ๗ ชั้นบ้าง ๙ ชั้นบ้างบนพระหัตถ์ ทางธิเบตจะวาดพระวรกายของพระองค์ให้มีสีน้ำเงินเข้ม(เหมือนไวฑูรย์) ทรงขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ขวาทรงถือต้นยาสมุนไพรในลักษณะแบบพระหัตถ์ออกมาเบื้องหน้า(ทางจีนให้ถือเห็ดหลินจือ เพราะเชื่อว่าเป็นเห็ดอายุวัฒนะของเซียน) หงายวางบนพระชานุ พระหัตถ์ซ้ายทรงบาตรบนพระเพลา ภายในบาตรบรรจุทิพยโอสถ ชื่อว่า “อคทะ” เป็นคำคุณศัพท์ ในความหมายว่าแข็งแรงสุขภาพดี ถ้าเป็นคำนาม แปลว่า ยาบำบัดโรค หรือชื่อยาที่แก้พิษได้ (บ้างก็ว่าชื่อ อรุระ arura หรือ myrobalan, fruit) ไม่เว้นแต่โรคาพาธในมนุษย์โลกแห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าโรคชนิดต่างๆของเทวดา เปรต เดรัจฉานและอื่นๆ ที่ขึ้นขื่อว่าเป็นสรรพสัตว์ยังต้องเวียนว่าย พระองค์ก็ทรงสามารถรักษาได้ทั้งสิ้น เพราะการที่ต้องว่ายเวียนในสังสารวัฏนั้นถือเป็นโรคาพาธที่ร้ายแรงกว่าโรคทางกาย กล่าวโดยสรุปพระองค์ทรงสามารถเยียวยารักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสรรพสัตว์ทั้งปวง และทรงลักษณะของมหาบุรุษ ทรงจีวรเหมือนพระพุทธเจ้าทั่วไป

    พระไภษัชยคุรุ ทรงมีพระสูตรของพระองค์เองคือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร[1] ซึ่งแปลจากภาษาสันสกฤตสู่ภาษาจีน โดยพระตรีปิฎกธราจารย์เฮี้ยนจั๋ง(พระถังซำจั้ง) ในปี พ.ศ. ๑๑๙๓ ภายในเล่มกล่าวว่า “สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าศากยมุนี ทรงจาริกไปถึงเมืองไวศาลี แล้วประทับอยู่ใต้ร่มพฤกษชาติชนิดหนึ่งที่ยามลมพัดใบไม้จะสั่นไหวเป็นเสียงดนตรี ครั้งนั้นมีมหาภิกษุจำนวน ๘,๐๐๐ รูป มหาโพธิสัตว์จำนวน ๓๖,๐๐๐ พระองค์ แล้วพระมัญชุศรีโพธิสัตว์(โพธิสัตว์แห่งมหาปัญญา) ได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ตรัสแสดงถึงพระนาม พระปณิธานของพระพุทธเจ้า และอานิสงค์แห่งการบูชาพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นๆ ครั้นแล้วพระศากยมุนีพุทธเจ้า จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาว่านับจากโลกธาตุแห่งนี้ไปทางด้านบูรพาทิศ(ตะวันออก)ผ่านโลกธาตุดินแดนต่างๆไปมากมายเท่ากับจำนวนเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคาจำนวนถึง ๑๐ สายรวมกัน มีโลกธาตุแห่งหนึ่งนามว่า “ศุทธิไวฑูรย์”(淨琉璃世界) บางสูตรอาจแปลว่า “ปูรณจันทรโลกธาตุ” (滿月世界)และมีพระพุทธเจ้าพระนามว่า “ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา”​
     
  18. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    จากนั้นพระศากยมุนีพุทธเจ้าจึงทรงบรรยายถึงพระมหาปณิธานทั้ง ๑๒ ประการของพระไภษัชยคุรุ (โดยย่อ) ดังนี้
    ๑. จะทรงฉายรัศมีประภาสไปยังโลกต่างๆ และจะยังให้สรรพสัตว์ได้สำเร็จพระโพธิญาณอย่างรวดเร็ว โดยมีมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ และอสีตยานุพยัญชนะลักษณะ ๘๐ ประการเหมือนพระองค์(แสดงถึงความเสมอภาคเท่าเทียมกัน)



    ๒. จะทรงฉายรัศมีประภาสที่สว่างกว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ สะอาดบริสุทธิ์ทั้งภายในและภายนอก(ความหมายคือ สะอาดทั้งกายและใจ หรือสะอาดทั้งสิ่งที่อยู่ภายในตนหรือวิชชา และสิ่งที่แสดงออกมาภายนอกหรือจรณะ) ไปยังนรกภูมิให้สรรพสัตว์ที่รับทุกขเวทนาอยู่ได้พ้นทุกข์ และสัตว์ที่ลุ่มหลงให้ตื่นขึ้นจากความโง่เขลา ลุ่มหลง



    ๓. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ถึงพร้อมในสิ่งของเครื่องใช้ทั้งปวงไม่รู้จักหมดสิ้นจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๔. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ และผู้ที่ปฏิบัติตนในมิจฉามรรค สาวกยาน ปัจเจกพุทธยาน ให้หันมาดำรงมั่นในมหายานธรรม (ดำรงตนเป็นโพธิสัตว์) จนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๕. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ที่ศีลด่างพร้อย กลับมีศีลที่บริสุทธิ์จนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๖. จะทรงยังให้สรรพสัตว์มีร่างกายที่อลังการสมบูรณ์ หายจากความพิกลพิการ เสียสติ โรคร้าย ฯลฯจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๗. จะทรงยังให้สรรพสัตว์พ้นจากความยากจนค้นแค้น มีที่พักอาศัย โรคภัยสิ้นสูญ มีครอบครัวที่ดี มีความสุขทั้งกายและใจจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๘. จะทรงยังให้สตรีเพศที่ได้รับทุกข์ทรมาน ต้องการเป็นบุรุษ ได้กลายเป็นบุรุษสมชายชาตรีดั่งใจจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๙. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ได้หลุดพันจากข่ายแห หรืออุบายของมาร แล้วได้บำเพ็ญในโพธิสัตวมรรค จนถึงได้สำเร็จพระโพธิญาณอย่างรวดเร็ว



    ๑๐. จะทรงยังให้สรรพสัตว์หลุดพ้นจากคดีความ อาญาหลวง พันธนาการ การคุมขัง และการโบยตีทั้งปวงจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๑๑. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ที่มีความจำเป็นต้องเลี้ยงชีพด้วยความชั่ว เนื่องจากความอดอยาก ได้รับความสุขที่แท้จริงโดยไม่ต้องทำความชั่วนั้นอีกจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ



    ๑๒. จะทรงยังให้สรรพสัตว์ที่ยากไร้ ได้สมบูรณ์ในอาภรณ์แพรพรรณ เครื่องดนตรี ของหอม และสิ่งมีค่าทั้งปวงจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณ.​
     
  19. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ซึ่งพระสูตรข้างต้นนี้พระอารามบนเขาอู่ไถ่ มณฑลซานซี ได้จารึกด้วยโลหิตมนุษย์ทั้งเล่ม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่มีต่อพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า และพระมหาปณิธานแต่ละประการนั้น จะต่อท้ายด้วยคำว่า “จนถึงพระโพธิญาณ” อันหมายความว่าพระมหาปณิธานของพระองค์จะอนุเคราะห์ส่งผลแก่ผู้นั้นไปทุกๆ ภพชาติตลอดเวลาแสนนานจนกว่าผู้นั้นจะสำเร็จพระโพธิญาณด้วย จากนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสแสดงวิธีการและอานิสงค์แห่งการกราบไหว้บูชา เช่นการจุดดวงประทีปบูชาจำนวน ๔๙ ดวง เป็นเวลา ๔๙ วัน โดยต้องสมาทานศีลบริสุทธิ์ ผู้ปฏิบัติต้องมีเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์พร้อมกับบริจาคทาน อ่านท่องและเผยแผ่พระสูตรนี้ ฯลฯ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์และเทพเจ้าทั้งปวงก็จะให้การปกป้องดูแล ให้ปลอดภัย สมหวังและสุขภาพแข็งแรงหายจากโรคร้ายได้

    ยังมีคัมภีร์อีกเล่มคือ “พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร”[2] ซึ่งแปลจากภาษาสันสกฤตสู่ภาษาจีนโดยพระมหาสมณะงี้เจ่ง สมัยราชวงศ์ถัง ในปี พ.ศ.๑๒๕๐ ภายในเล่มกล่าวถึงพระพุทธประวัติและมหาปณิธานของพระพุทธเจ้าจำนวน ๗ พระองค์ ซึ่งแต่ละพระองค์มีพระนามต่างกัน มีชื่อของโลกธาตุต่างกัน มีจำนวนมหาปณิธานไม่เท่ากัน ซึ่งล้วนประทับอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีมหาปณิธานคล้ายคลึงกับพระไภษัชยคุรุทั้ง ๑๒ ประการข้างต้น สาธุชนมหายานจึงเรียนขานว่า “พระไภษัชยคุรุทั้ง ๗ ” (藥師七佛)​
     
  20. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พระไภษัชยคุรุทรงมีโพธิสัตว์อัครสาวกหรือผู้ช่วย ๒ พระองค์คือ พระสูรยประภาโพธิสัตว์ (日光遍照菩薩) และพระจันทรประภาโพธิสัตว์(月光遍照菩薩) ซึ่งเป็นคนละองค์กับพระสุริยเทพและจันทรเทพ อรรถาธิบายของจีนกล่าวว่า พระสูรยประภาทรงเปรียบเสมือน แสงแห่งปัญญาญาณที่เจิดจรัสและอบอุ่นยังให้สรรพสัตว์ตื่นขึ้นและรู้แจ้งเหมือนพระอาทิตย์ และพระจันทรประภาทรงเปรียบกับ แสงแห่งความเมตตาและกรุณา ที่ร่มเย็นใสสะอาด สามารถเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด ยังให้สรรพสัตว์ที่หลงผิดได้รู้แจ้งเหมือนดังได้พบความสว่างในความมืดยามราตรี
    พระมหาโพธิสัตว์ทั้งสองจึงคือผู้โปรดสรรพสัตว์ที่หลงผิดให้รู้แจ้งในสภาวะแห่งจิตของตน และเมื่อพบสภาวะเดิมแท้ของตนว่าไร้ซึ่งตัวตนแล้ว จึงหลุดพ้นจากมลทินทั้งปวงได้ มีจิตที่เป็นสัมมาทิฐิ ปราศจากอุปสรรคประดุจอากาศ ที่สามารถแทรกซึมไปในสถานที่ทั้งปวง และในพระสูตรทั้ง ๒ เล่มของพระไภษัชยคุรุได้กล่าวถึงพระมหาโพธิสัตว์อีก ๘ พระองค์ที่จะเสด็จมารับดวงวิญญาณผู้ที่ปฏิบัติบำเพ็ญในพระพุทธนามของพระองค์ เพื่อมารับไปเกิดยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตรดังนี้ ๑.มัญชุศรีโพธิสัตว์ ๒.อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ๓.มหาสถามปราปตโพธิสัตว์ ๔.อักษยมติโพธิสัตว์ ๕.ทานรัตนศรีโพธิสัตว์ ๖.ไภษัชยราชาโพธิสัตว์ ๗.ไภษัชยสมุทคเตโพธิสัตว์ ๘.เมตไตรยโพธิสัตว์​
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...