เมื่อผมเลิกเชื่อในสิ่งที่เคยเชื่อ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย OddyWriter, 24 มีนาคม 2015.

  1. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    คุณโชคดีมากเลย ที่มีแม่มีความเห็นที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา และคอยสอนคุณ
     
  2. นกฮูกน้อย

    นกฮูกน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +105
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ เรื่องงาน ถ้าไม่เกี่ยงงาน มีงานเยอะแยะเลยค่ะ ลองหาดูนะคะ

    รับจ้างในห้าง เอ็มเค ร้านอาหาร ได้เงินเดือนพอสมควรเลยค่ะ

    ส่วนเรื่องทำความดี เคยคิดเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมทำดีไม่ได้ดี ทำไม่ดี อยู่สุขสบาย

    ขายของดีมีบ้านใหญ่โต แต่......กลับมาถามตัวเองว่า ทำดีเพื่อจะให้ได้ดี หรือนี่เรา

    ทำบุญเพื่อหวังจะรวยขึ้นรึเปล่า??? คิดอยู่แบบนี้บ่อยเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังคงอ่านธรรมะ

    หรือคำสอนต่างๆ แล้วเราก็ได้คำตอบสำหรับตัวเองว่า ยิ่งทำยิ่งมีสติปัญญา ยิ่งสงบ

    แม้จะอยู่ท่ามกลางปัญหามากมาย หรือมีปัญหาใหม่ๆเข้ามากมาย เรารับมือกับมันได้ดีขึ้นค่ะ


    ...หวังว่าคุณคงรู้สึกดีขึ้นนะคะ ^^
     
  3. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุเป็นผล ไม่ให้บุคคลติดอยู่กับการบนบานศาลกล่าว ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกทดสอบศรัทธามาโดยตลอด ผมปฏิบัติมานานมา ทั้งทาน ศิล ภาวนา แต่ชีวิตผมก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ มีหนี้สินมากมาย เวลามีเงินเข้ามาจะต้องมีเหตุให้ใช้จ่ายออกไป แทนที่จะเอาไปใช้หนี้(ไม่ได้เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยนะครับ) การงานก็ไม่ค่อยจะได้ดีอะไร เพราะคนที่ได้ดีคือคนที่เอาใจเจ้านาย บางเดือนแทบไม่มีเงินใช้ หลายหนที่ผมเกือบหมดศรัทธา แต่ก็เหมือนมีบุญอย่างหนึ่ง ที่ผมได้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ ที่คอยสั่งสอนและประคับประคองจิตใจ จนตอนนี้มีศรัทธามั่นคง เชื่อในเรื่องบุญบาปอย่างเหนียวแน่น ละเลิกการบนบานสานกล่าว การเสี่ยงโชค ถึงจะไม่มีเงินก็ไม่ไปบนอะไร ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี ถึงแม้ว่ามันจะไม่ส่งผลวันนี้ อีกไม่นานมันก็คงจะดีขึ้น
    การที่ชีวิตเรามีแต่ทุกข์ มันมีเหตุมีปัจจัยของมัน เพียงแต่เราไม่รู้เพราะเรายังปฏิบัติไม่ถึง เมื่อชาติก่อนเราอาจจะเป็นคนที่ไม่ดีมาก จึงส่งผลมาถึงชาตินี้ แต่นี่น่าจะเป็นเพียงเศษกรรม เพราะชาตินี้เราเกิดมาเป็นมนุษย์ อยู่ภายใต้บวรพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาที่เลอเลิศ ขอให้มีจิตตั้งมั่นในศรัทธาเถิดครับ อย่าเสียศรทธาขนาดที่ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรม เพราะมันอันตรายมาก เพราะหากเราทำแต่กรรมไม่ดี ชีวิตเราทั้งภพนี้และภพหน้ามีแต่ทุคติเป็นแน่แท้
    ที่เขียนมาทั้งหมด เพียงอยากให้กำลังใจครับ
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    โยน โบวลิ่ง
    เค้าเรียก pocket
    ศีลล้างท่อ
     
  5. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227

    "ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่"
    "แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น"

    "และชีวิตที่ยิ่งใหญ่ (อย่างแท้จริง) คือ ชีวิตที่อยู่ด้วย ทาน ศีล เมตตาและกตัญญู"


    .. หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


    ขอเป็นกำลังใจแด่ทุกท่านที่มีชีวิตประกอบไปด้วย .. "
    ทาน ศีล เมตตา และ กตัญญู"
    แม้ว่าใครไม่เห็นคุณค่าและแม้ไม่ได้มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่
    แต่ในใจของทุกท่านที่ประกอบไปด้วย ..
    "ทาน ศีล เมตตา และ กตัญญู"
    มันยิ่งใหญ่มากในใจผมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015
  6. ปุจฉาจะมัย

    ปุจฉาจะมัย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +7
    คิดเหมือนกันเลยค่ะ และก็มีความรู้สึกเหมือนเจ้าของกระทู้oddy19เลยค่ะ ณ ตอนนี้หัวอกเดียวกัน ทำบุญ ไปไหว้นู้น ไหว้นี้ เหมือนเจ้าของกระทุ้เปี็ยบ มีไม่กี่ที่ที่ไม่ได้ไป บวชก็บวช กราบเท้าพ่อแม่ สาระพัดจะทำ ฯลฯ เพราะประสบปัญหาเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้เหมือนกันเลยค่ะ หนี้สิน ตกงาน สุขภาพของแม่ ไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยค่ะ เจอปัญหาคนรอบข้าง การช่วยเหลือเหมือนกัน ไม่มีใครจะคบแล้ว จนทำให้ทุกวันนี้เลิกเชื่อในสิ่งที่เคยเชื่อแบบเจ้าของกระทู้เหมือนกัน ทุกวันนี้จะทำบุญก็ต่อเมื่อสะดวกให้ทำ และทำก็จะคิดว่ามีประโยชน์กับคนอื่นๆ มั้ยถ้าไม่มีประโยชน์ไม่ทำ ไม่สบายใจก็ไม่ทำ ทำอย่างมีเหตุมีผลด้วย ไม่หวังว่าทำบุญแล้วจะได้อะไร ไม่งั้นใครๆ ที่ทำบุญคงได้อะไรไปหมดแล้ว ไม่หวังชาตินี้ และชาติหน้า เพราะยิ่งทำเหมือนยิ่งเป็นทุกข์ในบุญเพิ่มขึ้นไปอีก ละโมบ โลภมากในบุญ เอาแค่คิดเพียงว่าไม่ทำชั่ว ไม่คิดชั่ว เพราะจะนึกถึงใจเค้านึกถึงใจเราเป็นหลัก ไม่ยุ่งวุ่นวายกับใคร สวดมนต์ นั่งสมาธิเพราะใจจะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านเท่านั้น นอนแล้วหลับสบาย ปัญหาอะไรแก้ได้ ก็แก้ แก้ไม่ได้ก็ปล่อยมันแค่นั้นก็พอแล้ว ฝรั่งเค้าไม่เห็นต้องมีเรื่องแบบนี้ ?? งานราชการมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะค่ะ เรื่องวงในที่เราๆ ข้างนอกยังไม่รู้อีกเยอะก็มี คนตกงาน มันคิดและทำหมดเท่าที่จะทำได้ ขายของ ทำธุรกิจ ...เข้าใจ เจ้าของกระทู้oddy19เลยค่ะ สู้ๆ ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายเลย บางคนในชีวิตเค้าเจอแค่เรื่อง สองเรื่องในเวลาเดียวกัน ไปปรึกษาใครเค้าก็จะรำคาญด้วยซ้ำ แต่ถ้าใครได้เจอหลายๆ เรื่องแบบว่าจูงมือกันมาล่ะค่ะ มันพูดไม่ออกนะค่ะ ถ้าใจไม่เข้มแข็งจริงๆ ผ่านไม่ได้เลยค่ะ เพราะความต้องการตายและคิดฆ่าตัวตายมันมีอยู่ในหัวเป็นร้อยเป็นพันหน สู้ๆไปด้วยกันค่ะ
     
  7. Youkai

    Youkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,683
    ช่วงนี้ กพ เปิดสอบอยู่ ถ้ายังไม่ผ่านภาค ก ไปสมัครกันได้นะคะ
     
  8. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    โมทนากับการบวชด้วยนะ ผมว่าพอคุณไปบวชแล้วในระหว่างบวชคุณจะค้นพบอะไรสักอย่าง ที่จะทำให้คุณเข้าใจ ผมว่าใช่นะ พี่สาวที่ผมนับถือคนหนึ่ง คุณเชื่อไหมเธอทุกข์อยู่ถึง สิบกว่าปี แต่เธอไม่เคยทิ้งความดี พอพ้นมาได้ทุกข์ของเธอหลุดเป็นเปาะๆแบบไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ถ้าจะทุกข์ก็ทุกข์ในสังขารเท่านั้น คุณเพียงแค่สามปีเท่านั้น ผมไม่อยากให้คุณละเลยความดี การบนบานไม่ใช่ครับ ถึงเวลาเจอก็ต้องเจอ เจอแล้วต้องแก้ปัญหาครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ ลองดูนะเอาใจช่วย
     
  9. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    ท่านเจ้าของกระทู้คะ เราก็แค่ลองมองวิกฤตนั้นให้เป็นโอกาสซิคะ
    บางทีเส้นทางที่เราต้องการเดิน อาจไม่ใช่เส้นทางที่เป็นของเราก็ได้
    บางทีเราอาจขอบใจในวิกฤตนั้น ที่ทำให้เราพบเจอทางที่ดีกว่าก็ได้คะ
    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้โดยบังเอิญคะ ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปเสมอ
    หากเราเชื่อและศรัทธาคำสอนผู้ทรงเป็นพระสัพพัญญูในการรู้จริงของทุกสรรพสิ่ง
    ที่ทรงตรัสอนเรื่องกฎแห่งกรรมไว้ อย่างแน่วแน่ไม่คลอนคลน
    ขอให้เชื่อมั่นปัญญาที่ตรัสรู้ของพระองค์ที่ว่า ทำดีย่อมได้ดี ที่ทรงตรัสไว้
    สักวันหนึ่งผลแห่งการเชื่อมั่นจะพิสูจน์ให้เราเห็น
    สักวันหนึ่งท่านจะเห็นความจริงนี้ได้ด้วยตัวของตัวเองคะ
    เพียงแต่อดทนรอผล เพราะที่อาจจะมีกรรมที่เคยทำไม่ดีไว้มาให้รับผลก่อน
    หรือ อาจมีบททดสอบความดี หากเราเชื่อมั่นคำของพระองค์อย่างไม่เปลี่ยนแปลงเสียก่อน
    จะได้รับผลแห่งการทำดี ย่อมได้ดีอย่างแน่นอน
    หากเราไม่เชื่อใครแม้แต่ตัวเอง แต่ขอให้เชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์คะ
     
  10. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    ผมก็เคยตกงานมา 5 ปี เคยคิดจะออกมาค้าขายแต่ก็ไปไม่รอด เข้าใจสภาพเลยว่าเป็นยังไง มีแต่อยากตายอย่างเดียว เงินก็ไม่มี คนในบ้านก็กดดัน ถึงทุกวันนี้ก็ยังมีกรรมเรื่องการเงินการงานอยู่ ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมดกรรมเรื่องนี้สักที ชีวิตเหมือนกันเลย เดี๋ยวนี้งานมันก็หายากไม่รู้จักคนวงในก็ยากอีก ชีวิตหนอชีวิต heer จริง อะไรจริง
    อ๋อ ลืมบอก ลองขายพวกของกินก็ได้ พวกลูกชิ้น ปลาหมึกย่าง น้ำผลไม้ หน้าร้อนแล้วน้ำน่าจะขายดี แต่ก็ต้องมีทุนอีกล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015
  11. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ท่าน จขกท อยู่ในช่วงที่อกุศลกรรมให้ผลอยู่ค่ะ อย่าได้ท้อถอยในความดีนะคะ สิ่งที่ควรทำคือ ยอมรับผลของกรรมที่ทำไว้ในอดีตซึ่งเป็นแค่เศษกรรมเท่านั้น เราไม่สามารถเลี่ยงมันได้ ถือศีลห้าและกรรมบถ10 ให้บริสุทธิ์ และทำบุญให้หนักกว่า กรรมที่กำลังส่งผลอยู่ โดยบุญที่หนักที่สุดคือบุญกรรมฐาน เมื่อถึงวาระที่บุญมากพอจะทำให้วิบากคลี่คลายไปได้ในที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้สู้
     
  12. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ถาม : การงานสะดุด ?

    ตอบ : ไปนั่งภาวนาคาถาเงินล้านของหลวงพ่อวัดท่าซุง ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน ถ้าทำจริงๆ จังๆ ไม่เกิน ๒ เดือนเท่านั้นแหละ งานจะทับตาย เมื่องานสะดุดก็ต้องหาบุญใหญ่มาช่วย บุญใหญ่ที่สุดก็คือภาวนา แล้วถ้าภาวนาคาถาเงินล้าน ก็จะมีความคล่องตัวมาก

    ถาม : อย่างเดียวหรือครับ ?

    ตอบ : อย่างเดียวก็พอแล้วจ้ะ ขอให้ทำจริงเท่านั้นแหละ




    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=4010&page=3


    .
     
  13. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    คาถาเงินล้าน

    (ตั้ง นะโม ๓ จบ)

    สัมปะจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมาจะมหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
    พรหมาจะมหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม
    มิเตพาหุหะติ
    พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทธิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะฏิจฉามิ
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา


    ในคาถานี้ ประกอบไปด้วย คาถาปัดเป่าอุปสรรค คาถาเงินแสน คาถาเงินล้าน คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า คาถาเร่งลาภ

    ภาวนาวันละ ๙ จบ จะทำให้พอกินพอใช้
    ภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ ขึ้นไป จะทำให้อุปสรรคหมดไว และเงินขังตัว
    ถ้าให้ดี ภาวนาให้เป็นกรรมฐานไปเลยจะเห็นผลไว
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ถึง oddy19

    อยู่ดีๆ ก็มาสะดุดตาที่กระทู้ ของคุณ

    ขออนุญาตตอบนะคะ ด้วยจิตที่มีเมตตาต่อกัน หวังว่าจะสะกิดใจคุณบ้าง

    และหวังว่า จิตใจที่รู้สึกแตกละเอียดของคุณ จงรวมลงที่ความสงบ

    เพื่อวันที่คุณได้บวช เพื่อสั่งสมบารมี หลังจากเผชิญวิบากกรรมมาแล้วครึ่งค่อนชีวิต คุณจะได้เย็นลงบ้าง จิตใจคุณดำดิ่งมากเกินไปนะ

    ข้อแรก คือ

    ๑. กรรมหลักนั้น ใครทำคนนั้นต้องรับ

    กรรมที่เกิดกับพ่อแม่คุณนั้น เรื่องการเจ็บป่วย หรือเรื่องใดก็ตาม
    ขอให้คุณ ทำใจให้เป็นอุเบกขา สิ่งที่คุณทำนั้นสมควรแก่ความเป็นลูกที่ดีแล้ว

    ๒. บุญ

    การที่บุญจะให้ผลนั้น ดูจากเจตนาอันแรงกล้า เช่น ทำงานได้เงิน 100
    บำรุงพ่อแม่ เลี้ยงดูตน เหลือตังค์อยู่วันละห้าสิบสตางค์ เก็บไว้ 1 เดือน ได้เงิน 15 บาท นำเงินนั้น ถวายวัด หรือ บริจาคหนังสือสวดมนต์ซักเล่ม ดย
    อธิษฐานให้เทวดาจัดสรรชีวิตให้
    บุญที่ได้ มากมายกว่า การอธิษฐาน บนบาน ช้างม้า วัวควาย เครื่องบูชา
    ที่ต้องกู้เงินมา ซื้อทั้งหมด

    ๓. เกิดเป็นชาย คือผู้เสวยผลของบุญ

    จงภูมิใจที่เกิดเป็นชายจะได้ ห่มผ้าเหลือง ตัดกิเลส บวชเป็นพระ แม้เพียง 1 พรรษาเกิดเป็นคนนั้นแสนยาก เกิดเป็นชายที่สมบูรณ์ ก็ยากกว่า

    ๔. จงมองไปรอบๆ

    ในโลกนี้ เหล่าสรรพสัตว์ ล้วนทนทุกข์ บางคนหูหนวก ตาบอด ขาแขนไม่มี
    บางคนมีเงินมากมายใช้กี่ชาติไม่หมด แต่ก็ยังทนทุกข์ บางคนล้มละลายหมดตัว
    ยิงตัวตายไปก็มี บางคนก็เป็นบ้า เดินไปบนถนน ไร้ซึ่งจุดมุ่งหมาย ทั้งหิวทั้งเจ็บ
    แต่ก็ไม่รู้ทางออก ไม่รู้ทางไป ปัญหาของคุณก็ทุกข์ แต่เราเชื่อว่า มันจะต้องมีทางออก ของมัน ขอให้คุณอย่าสิ้นศรัทธาค่ะ

    ป.ล.PM มานะ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่ม

    ขอบคุณที่เปิดใจรับฟัง

    จารุ
     
  15. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    การที่จะตอบสนองบุญคุณมารดาบิดาได้อย่างถูกต้องและเต็มที่นั้น บุตรธิดาควรจะทำอย่างไรบ้าง?

    พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการที่จะตอบแทนคุณแก่บุคคลทั้ง ๒ คือ มารดา ๑ บิดา ๑ เรากล่าวว่ากระทำไม่ได้ง่ายเลย

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงแบกมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง แบกบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และพึงปฏิบัติบำรุงทั้ง ๒ ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการบีบนวดอวัยวะต่าง ๆ แก่ท่านทั้งสอง แม้ท่านทั้ง ๒ ก็พึงถ่ายอุจจาระบนบ่านั่นเอง ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดา

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงตั้งมารดาไว้ในราชสมบัติ มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ แม้กระนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนคุณมารดาบิดา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง เป็นผู้สอนให้ลูกรู้จักโลก

    “ส่วนบุตรคนใด ทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้มีทุศีลสมาทานตั้งมั่นในสีลสัมปทา ให้บิดามารดาผู้มีความตระหนี่สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ให้มารดาบิดาผู้ทรามปัญญา สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านั้น และบุตรย่อมชื่อว่าเป็นผู้อันกระทำตอบแทนบุญคุณแก่มารดาบิดาแล้ว”

    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ในการบวชครั้งนี้ด้วยคะ
     
  16. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    เห็นเจ้าของกระทู้เงียบหายไป ไม่รู้ได้มาอ่านก่อนกระทู้ หรือขณะนี้เตรียมตัวบวชอยู่มั้งคะ
    เพราะใกล้ถึงวันที่จะบวชแล้วซินะ อีกเพียงไม่กี่วันเอง

    วาสนาบารมีทางธรรมของท่านไม่ธรรมดาเลยคะ ปฏิบัติกรรมฐาน รักษาศีล8
    สามารถกราบเท้าผู้ที่เราไม่สมควรจะน่ากราบ และปฏิบัติกรรมฐานเชื่อเรื่องกรรมชั่ว
    จะให้เห็นผลทันตา ถึงแม้ว่าจะยังไม่เชื่อว่ากรรมดีส่งผลให้ เพราะว่าไม่สามารถ
    ของานได้ตามที่ต้องการได้ แต่ก็ยังปฏิบัติความดีต่อไป เพราะในใจลึก ๆ แล้ว
    ก็เชื่อว่าท่านต้องการทันทีอย่างแน่นอน เพราะการสั่งสมบุญนำความสุขมาให้
    ไม่ต้องรอ ทำแล้วได้รับผลเลย แต่ที่ยังไม่ได้ผลเรื่องงาน อาจเป็นเพราะว่า
    เขาต้องการให้เราบวชก่อนมั้งคะ เพราะทางนั้นปิดทุกอย่าง ทำอะไรก็พลาดไม่สำเร็จ
    อธิษฐานขอก็ไม่สมหวัง

    เคยมีคนพูดว่าพ่อและแม่ท่านสร้างกรรมของท่านมา แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวร
    เป็นของตัวเอง การบวชทดแทนบุญคุณของท่าน เขาบอกว่าลูกที่บวชแล้ว
    ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผลบุญนั้นอุทิศให้ท่านได้ เพราะเราคือเลือดเนื้อเชื้อไข
    ของท่าน ทานจะได้บุญกับเราเต็ม ๆ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ หากแม้ท่านมีกรรมหนัก
    จริง ถึงเวลาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้รสวรรค์ นะคะ

    เรื่องนี้ข้าพเจ้าได้เห็นมากับตัวเอง มารดาของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ท่านยังจำผ้าเหลือง
    น้องชายข้าพเจ้าได้ติดตาเลยคะ คุยกันที่ไรท่านบอกว่าระลึกได้เสมอ นั่นเป็นผลบุญ
    ของชีวิตลูกผู้ชายแล้วคะ

    ขออนุโมทนากับท่านอีกครั้ง เราอยากทำอย่างท่าน แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเลยคะ
    เมื่อท่านบวชแล้วท่านยังมีความต้องการทดแทนบุญคุณด้วยการหางานทำเหมือนเดิม
    หากวาสนาเราไม่ได้ส่งไปทางนั้น ท่านจะได้งานอย่างแน่นอนคะ
     
  17. วิจิตร

    วิจิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +514
    ขออนุโมทนาในการบวชของคุณด้วยครับ และขอให้อย่าท้อในการทำความดี เพราะความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ขอให้หลังลาสิกขาแล้วได้งานทำเร็วเร็วนะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้
     
  18. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402

    มีผู้ไม่เห็นด้วยพุทธพจน์คำสอนของพระพุทธองค์ เกี่ยวกับการตอบแทนคุณบิดามารดา
    ที่ดิฉันได้พิมพ์ไว้ หากท่านกดผิดดิฉันก็ขออภัย หากท่านไม่เห็นด้วย ด้วยความ
    ไม่เข้าใจ อาจเป็นเพราะคิดว่าลูกควรเลี้ยงดูแลตอบแทนท่านก่อนด้วยบำรุงให้ท่าน
    สุขสบาย เจ็บไข้ก็ดูแลรักษา เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วคะ แต่พุทธพจน์นี้
    เป็นการตอบแทนอย่างสูงสุด คือ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ท่านจึงกล่าวให้แก่ภิกษุ
    เพราะท่านเอ่ยว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" และเห็นว่าเจ้าของกระทู้ กำลังจะบวช
    และด้วยเห็นว่าท่านมีวาสนาบารมีมา ท่านก็อาจจะตอบแทนคุณบุพการีอย่างสูงสุด
    ก็อาจจะเป็นได้นะคะ


    ที่คิดว่าเป็นอย่างนั้นเพราะว่าอะไร บิดามารดาย่อมรักบุตรของตน แม้ยามลูก
    จะบวช ท่านจะคอยใส่บาตรพระลูกทุกเช้า ถ้าไม่สะดวกก็นำข้าวปลาไปถวายส่ง
    อาหารให้ลูก หรือเป็นโยมอุปถาก ก็พลอยได้ถวายสังฆทานไปด้วย หรือ ทุกวันพระ
    ไปทำบุญใส่บาตร รับศีล ฟังธรรม หากทำเป็นประจำจนเคยชิน หรือ ติดเป็นนิสัย
    เพราะเมื่อทำแล้วเกิดความสุข หรือ แม้เกิดปิติในผลที่ทำนั้นบ่อย ๆ ด้วยใจเปี่ยมศรัทธา
    แล้ว บวกกับอธิษฐานจิตเสมอว่าผลบุญที่ได้ทำเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน
    นั่นเท่ากับว่าเรากำลังพสท่านเข้าสู่กระแสทางธรรม อันเป็นเส้นทางหลุดพ้น
    และยิ่งทำให้ท่านรู้เห็นบาปบุญคุณโทษ รู้กฏแห่งกรรมนั่นทำกับทำให้ท่านเกิดปัญญา
    สั่งสมเป็นวาสนาบารมี นี่เป็นการตอบแทนที่สูงสุด ที่กระทำได้ยาก จึงเรียกบุตรนี้ว่า
    อภิชาตบุตร นะคะ

    และถ้าเราเป็นฆารวาสเราก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันคะ เรามาศึกษาปฏิบัติธรรมะ
    กันอยู่ใช่ไหมคะ เราสามารถพาบุพก่ารีของเราทำได้ หากท่านไม่เคยให้ทาน
    ไม่เคยรักษาศีล หรือ รักษาศีลไม่ครบ วันว่างเราพาท่านไปตักบาตรทำบุญอยู่เสมอ
    เราพาท่านไปปฏิบัติธรรมถือศีล8 ในวันสำคัญ หรือ อย่างนั้นปีละครั้ง หรือ
    พาท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือ พาท่านไปฟังธรรมจากพระ หรือ หาวิทยุ ซีดี
    ให้ท่านฟังเป็นจนติดนิสัย จากที่ไม่เคยมีก็เริ่มให้มี จากที่มีแล้วก็ให้มากขึ้นกว่าเดิม
    จนท่านเริ่มมีความเห็นถูกต้องเพิ่มขึ้น นั่นก็แสดงว่าเราได้ตอบแทนบุญคุณท่านสูงสุด
    ได้เหมือนกัน เพิ่มจากกตัญญูจากการเลี้ยงดูปกตินั่นก็ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างที่สุดแล้วคะ

    คิดว่าทุกท่านที่มาปฏิบัติธรรมะทุกคนน่าจะได้กระทำกันมาบ้างไม่มาก ก็น้อย ของ
    ดิฉันจากที่มารดาไม่เคยสวดมนต์ ท่านก็หันมาสวดบูชาคุณพระพุทธเจ้าทุกเช้าก่อน
    ออกจากบ้านเป็นประจำจากที่ท่านไม่เคยทำเลย อาจเป็นด้วยเพราะเวลาท่านเจ็บป่วย
    แล้วแล้วคิดฟ้งในการเจ็บ เพราะคนไม่เคยเจ็บนอนเจ็บเป็นปี ถึงเวลานอนไม่หลับ
    พอเราสวดมนต์ไหว้พระเสียงดัง ท่านก็นอนหลับไปกับเสียงสวดมนต์เป็นประจำ
    เป็นเพราะอานุภาพของเสียงสวดมนต์หรือเปล่า หลังจากนั้นท่านก็เริ่มทำก่อนออกจากบ้าน

    อย่างน้อยแค่เราปราถนาดีอยากทำให้ท่าน จากผู้ไม่มีทานให้มีทาน จากผู้ไม่มีศีล
    ให้มีศีล จากผู้ไม่มีปัญญาให้เกิดปัญญาไม่ว่าด้านใด แม้แต่การเปลี่ยนแปลงนิสัย
    หรือ ละสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างได้ ก็เรียกว่าการตอบแทนอย่างสูงสุดได้เช่นกันนะคะ

    บางท่าน หรือ หลาย ๆ ท่านอาจกำลังทำอยู่ แต่ไม่อาจไม่รู้ก็ได้คะ ว่าทำอยางไรก็ได้
    ว่าทำอย่างไรก็ได้ เกี่ยวกับทาน ศีล ภาวนา สั่งสมเป็นวาสนาเกิดเป็นบุญบารมี
    แก่บุพการีของท่านเอง

    นั่นคือการตอบแทนสูงสุดตามกำลังวาสนาบารมีของเรา

    ส่วนท่านเจ้าของกระทู้นั้น เมื่อเราต้องการจะตอบแทนทางโลกเรื่องการเลี้ยงดู
    เราไม่เคยคิดจะทอดทิ้งแต่ทางไม่เปิดให้เรา เราได้พยายามทุกวิถีทางเมื่อไม่ได้
    ดังอธิษฐานเราก็ทุกข์ ทำอย่างไรก็ไม่ได้ ก็เลยยากบอกว่าเมื่อเราทำอย่างดีที่สุดแล้ว
    วิธีนั้นทำไม่ได้ก้ยังมีอีกวิธีหนึ่งเหมือนกันคะ ชีวิตไม่มีทางตันคะ ถึงเวลาจริง
    เหตุปัจจัยส่งผล บุญบารมีจากการบวช อุทิศให้ท่านก็ได้ ตัวเราอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร
    ของเราเองก็ได้ ถึงเวลาบุญกุศลส่งผล เราก็คงได้ตามปราถนาก็ไดคะ
    ทุกชีวิตไม่มีคำว่าสิ้นหนทาง ทางทุกทางมีให้เลือกเสมอ แล้วแต่เราต้องการอะไร
    แต่ก่อนเคยคิดแบบนี้ ตอนนี้พอจะเข้าใจบ้างขึ้นมาแล้วละ
     
  19. powerbeen

    powerbeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2015
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +30
    เหตุการณ์คล้ายๆผมเลยนะ เจ๊ง จนหมดตัว ไม่เหลือสักบาทเดียว ทำกิจการกี่อย่าง ล้วนล้มเหลว
    แต่ผมยังเชื่อเรื่องการทำดีแล้วได้ดีอยู่นะครับ
    ผมนั้น คิดว่า ตนเองติดกรรมหนักประการหนึ่ง ที่ คงไม่ได้สร้างไว้ในชาตินี้แน่ๆ
    แต่มันกำลังส่งผล
    ผมเองหลังจากเจ๊ง มาหลายรอบหลาย10ครั้ง แบบติดกันรวด ก็บวชเลย
    แต่ที่บวชไม่ใช่เพราะหมดหนทางไป แต่คิดดีแล้วว่า นี่คงเป็นโอกาศของเรากระมัง
    โอกาศที่จะได้บวชโดยที่ไม่ต้องห่วงสิ่งให้ เพราะเคยตั้งใจไว้ก่อนหน้าที่จะบวชมา 2-3 ปีได้แล้ว ใจอยากบวชนานแล้ว แต่ตอนนั้น ไม่มีเวลาที่จะบวชเลย เพราะ ต้องดูแลคุณยาย ที่ป่วย อัมพาททั้งตัว พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แม้แต่เคี้ยวข้าว
    หลังจากท่านเสีย ก็ทำงานเล็กน้อยพอได้เงินประทังไป ไม่มีเหลือเก็บ
    และก็บวช
    เมื่อได้บวช ใจมันอิ่มเอม รู้สึกมีความสุขจากข้างใน มันฟูอยู่ในอก
    แต่เมื่อบวชแล้ว ก็พยายามรักษาศีลให้เคร่งครัด
    อย่าบอกว่าจะยอมตาย ดีกว่าศีลขาด เพราะคุณจะต้องตายวันนึง นี่เป็นร้อยครั้งได้ละมั้ง
    นี่ไม่ใช่พูดเล่น
    แค่ไม่ระวังปากพูดคำหยาบเพียงคำเดียวศีลก็บกพร่องแล้ว
    หรืออาจจะติดสังฆาทิเสทได้ เพราะเกิดจากพูดคุยกับสีกาแม้ทางโทรศัพท์
    แค่เดินก้าวเท้าไปเหยียบต้นหญ้า หรือสัตว์เล็ก โดยที่เราไม่เห็น ศีลก็ขาดแล้ว
    แต่ ให้ตั้งใจรับษาศีลให้เคร่งครัดเถอะครับ
    บวชมาใหม่ๆ คุณคงได้เจอแน่ๆ พระในวัด ตะโกนด่ากัน กินข้าวเย็น
    เล่นเกมเล่นไลน์ คุยโทรศัพท์จีบสาว ซื้อหวย และอีกสารพัด อันเป็นการไม่สำรวมแห่งความเป็นสงฆ์
    แต่อยากจะบอกคุณนะครับ อย่าไปว่าเขา อย่าไปวิจารเขา อย่าโกรธเขา
    กรรมใครกรรมมัน
    ให้คุณ ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาพระธรรมและพระวินัย ( บางวัดมีเทศทุกวัน บางวัดไม่มี)
    อย่างวัดที่ผมบวชไม่มีเทศสอนพระ เป็นพระแก่เปล่าไปวันๆ
    ผมใช้วิธี เอาพระไตรปิฎกมาอ่าน และศึกษา เรื่องศีลพระ จะอยู่ในเล่มที่ 1-3(ถ้าจำไม่ผิด)
    หลังจากศึกษา เรื่องศีลเรียบร้อยแล้ว ให้คุณ อ่านพระสูตรอื่นๆไป เพื่อศึกษาคำสอน
    ส่วน นวโกวาท จะรวมคำสอนที่สั้นๆ ทั้งศีลและธรรม ไว้ให้ศึกษา ไม่ละเอียดแค่คร่าวๆ
    อย่าปล่อยเวลาผ่านไป ต้องระรึกเสมอในขนะที่เราบวชเป็นพระว่า "เราเป็นพระ"
    แล้วความเป็นมงคลจะเข้ามาในชีวิตคุณเอง
    อนุโมทนาบุญการบวชในครั้งนี้ของคุณด้วยนะครับ
     
  20. worldly

    worldly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +164
    ตามพีเอ็มเลยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...