เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในวันต้องเร่งรัดงานก่อนหยุดยาว
ทักเช้าน้องปรายฯได้ตอบช่วงดึก

 

วิ่งจู้ดทั้งที่ยังไม่ได้ลงทำบุญ
กับเขียน"เรื่องเล่าฯ"เพิ่มเติม
ทักทายไมตรีจิตเรื่องจากสมาชิก
มีมากเหลือเกิน ในแต่ละวัน ต้อง
ขยันเก็บให้หมดอย่าปล่อยค้างคา
ให้เป็นที่น้อยอกน้อยใจของทุกท่าน
เชิญน้องโต้ดตามไล่อ่านให้เพลิน
สาระปนสารพันเรื่องราวดีๆเพียบ

 

มลพิษถิ่นเหนือเจือจาง
น้องไทยฯเริ่มมีแรงทักทาย
สงกรานต์นี้ เสน่ห์เมืองเหนือ
กลับมาล้นเหลือชวนลุ่มหลงอีกครั้ง

 

ยอดเยี่ยมครับน้องเทพ-ท่านไป
อำนวยพรก่อนสงกรานต์เล็กน้อย
เป็นสิริมงคลต่อครอบครัวยิ่งนัก

 

น้องเมษฯเปลี่ยนฉากทะเล
เป็นท้องทุ่งทิวงาม-เขียนสิ...

เที่ยงฉุยฉาย...กรีดกรายทุ่ง
ฟ้าเป็นมุ้ง.......เมฆมุงมาก
ฟากทิวไกล.....ไศลฉาก
เทือกภูฝาก......ยากลืมเลือน!

 

หลายที่วันนี้อุณหภูมิน่าเฉียด40
มาซ้ำเติมด้วยไฟไหม้ใหญ่2แห่ง
กทม.10เม.ย. ครบเครื่องเพลิงนรก
ร้อนบวกสูญเสีย-ชีวิตทรัพย์สินมาก

 

รีบโมทนาบุญเย็นๆกับน้องเรย์ดีกว่า
นำพลังบุญชุ่มฉ่ำดับความร้อนมหากาฬ
จัดแบ่งทั้งผ้าป่าร้อยเอ็ด+น้องสี่ขาชุมพร
ว่าจะลงภาพรายละเอียด ผลัดอยู่นั่นแล้ว
ต้องขออภัยทุกท่าน ก่อนสาดน้ำ งานสาด
เข้ามาจนมึนส์ แต่บุญทุกอย่างอย่าได้ห่วง
จัดทำเป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกตอนใด
ค่อยจัดลง-ในช่วงตรุษสงกรานต์นี่แหละ

 

ที่ดิน"วังเพชรบูรณ์เก่า"เจ้าของเดิมท่านสาปแช่งไว้รุนแรง หากไม่เป็นของลูกหลานว่านเครือ คนอื่นเข้าครอบครองจะพบแต่ความยุ่งยากนานับประการ (เขียนให้อ่อนยวบ ที่จริงคำสาปแช่งรุนแรงมาก)...เจ้าสัวแรก ธนาคารล้ม เจ้าสัวรายที่สองเป็นเจ้าอาณาจักรสรรพสินค้าเบอร์1เมืองไทย เกรียงไกรระดับโลก ก็พยายามแก้ไขสารพัดฮวงจุ้ยทำท่าจะดีพักใหญ่ แต่ก็มีเหตุใหญ่2-3ครั้งแล้ว

บรรดาผู้รู้จริงบ้างไม่จริงบ้าง บอกว่า"แก้ฮวงจุ้ย" แต่"ไม่แก้คำสาป"ก็เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน ความวุ่นวายพัลวันพัลเก คงมีอยู่ร่ำไปเป็นระยะ

เล่าเสริมจากน้องมากิ พอเป็นเรื่องเล่ายามค่ำคืนให้อ่านประกอบกับประโยคเชยๆ แต่บางทีก็ชวนพิศวงน่าเหลือเชื่อ...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!!!

 

ธรรมมะก่อนนอนคืนนี้ครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

QQ ทานบารมี ตอนที่ ๕ QQ

๐๐๐ ทานบารมีปฏิบัติ ๐๐๐ ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย บัดนี้ท่านทั้งหลายได้พากันสมาทานคือ สมาทานพระกรรมฐานแล้ว

ต่อนี้ไปขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจสดับวิชาความรู้ในด้านการเจริญพระกรรมฐาน สำหรับวันนี้ก็จะขอพูดถึงเรื่อง “ทาน” ตามปกติ เมื่อคืนนี้ได้พูดถึงเรื่องทานมาเล็กน้อย หวังว่าบางท่านที่มีปัญญาดีและก็ได้มีความเข้าใจไปแล้ว แต่ว่าบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจ จึงจะขอย้ำเรื่องทานอีกสักหน่อยหนึ่ง

เพราะคำว่า “ทาน” ก็คือ “การให้” ถ้าจะพูดกันตามแนวของสมถภาวนา ก็เรียกกันว่า “จาคานุสสติกรรมฐาน” สำหรับทานนี่ก็แบ่งเป็นหลายขั้นด้วยกันคือ –

(๑) ทานบารมีต้น

(๒) ทานอุปบารมี

(๓) ทานปรมัตถบารมี

ทีนี้การให้ทานเป็นปัจจัยให้เกิดความสุข ถ้าเราจะพูดกันในด้านของหลักปฏิบัติ ว่าทำไมจึงต้องให้ทาน อันนี้ก็ขอบอกว่าเราต้องการความดับ ความดับในที่นี้ก็คือ “พระนิพพาน”

“นิพพาน” หรือ “นิพพะ” ก็แปลว่า “ดับ”

ถ้าจะถามว่าดับอะไร ก็ขอตอบว่าดับความทุกข์

ท่านที่มีอารมณ์เข้าถึงนิพพาน ท่านผู้นั้นไม่มีอารมณ์ของความทุกข์ เพราะว่าเป็นผู้ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา

ที่เราต้องให้ทานกันก็เพราะว่าเราไม่ต้องการมีขันธ์ ๕ เมื่อการมีขันธ์ ๕ เป็นปัจจัยของความทุกข์ ที่เราต้องมีขันธ์ ๕ กันก็เพราะว่าเราติดอยู่ในวัตถุ หมายความว่าเรายังมีความรู้สึกว่า สิ่งนั้นเป็นทรัพย์สินของเรา สิ่งนี้เป็นทรัพย์สินของเรา แล้วก็ธาตุ ๔ ที่หุ้มห่อจิตอยู่ ที่เป็นเรือนร่างที่จิตไปอาศัย อันนี้เป็นเรา เป็นของเรา

เป็นอันว่าเราเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นเรา เป็นของเรา เมื่อเรามีความเข้าใจผิด มีความหลงผิดคิดอย่างนี้ตัวเราจึงต้องเกิด ถ้าเราคิดว่าเรายังยึดเอาตัณหาเป็นที่ตั้ง เอาตัณหาเป็นสรณะ

คำว่า “ตัณหา” แปลว่า “ความทะยานอยาก” อยากมีทรัพย์สิน อยากร่ำรวย อยากจะเกิดใหม่เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี อยากจะเกิดใหม่ให้หน้าตาสวยกว่านี้ อยากจะเกิดใหม่ให้มีศักดิ์ศรีดีกว่าเดิม หมายความเรายังติดอยู่ในความอยาก ความอยากเป็นปัจจัยให้เกิด

ฉะนั้น การให้ทานเป็นการตัดความอยาก ถ้าตัดความอยากได้เข้ามาแล้วก็เป็นการตัดอารมณ์ที่ติดในขันธ์ ๕

การให้ทานในอันดับที่เราควรจะพิจารณา ถ้าจิตของเรายังคิดว่าการให้ทานครั้งนี้ เรายังมีหวังในการตอบแทนทั้งในชาติปัจจุบันและสัมปรายภพ คือเราคิดว่าเราให้ทานกับเขาแล้ว เวลาที่เราอดอยากมีความทุกข์เข็ญ บุคคลที่ได้รับทานจากเราคงอาจจะมีความเมตตาปรานีในเรา เขาจะสงเคราะห์เราให้เรามีความสุข ถ้ายังมีอารมณ์ติดอยู่อย่างนี้ก็ถือว่า “ทานบารมี” ของเรายังไม่เต็ม ยังหวังผลตอบแทนอันเป็นโลกีย์วิสัย

หรือคิดว่าการให้ทานคราวนี้เราตายไปแล้ว เราจะได้เกิดบนสวรรค์ เป็นเทวดามีความสุข แล้วถ้าเกิดเราเป็นมนุษย์ เราอาศัยทานการบริจาค จะเป็นปัจจัยให้เรามีความร่ำรวยดีกว่าชาตินี้มาก เวลานี้เรามีฐานะพอกินพอใช้ เราหวังว่าถ้าเกิดไปชาติใหม่ เราจะอุดมสมบูรณ์ ตัวอย่างมหาเศรษฐีทั้งหลายที่ปรากฏในพระสูตร ถ้าเราคิดอย่างนี้ จิตของเราก็ชื่อว่ายังไม่ถึงความเป็นอริยเจ้าชั้นสูงสุด ถ้าจะเป็นได้ก็แค่ขั้นพระโสดาบันเท่านั้น

อ้างอิง – หนังสือเร่งรัดการปฏิบัติ หน้า ๒๘-๓๐ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

 

สวัสดียามเช้า มีความสุขทุกท่าน ขับรถปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงครับผม

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์wanwiและFCทุกท่านครับ

 

สวัสดียามเช้าครับพี่วันและทุกๆท่าน

 

เพลินธรรมกับ ลป.ชา สุภัทโท
ท่านเตือน"จิต"กับ"อารมณ์"...

จิตติดใจ.........หลงใหลรื่น
กัดกินกลืน......ชื่นมื่นสุข
ปลุกอารมณ์....กลมกล่อมสนุก
ลืมรบรุก.........รับรู้ธรรม
.....บ้างวนเวียน....เกรียนกับทุกข์
.....เศร้าจุมปุ๊ก......ทุกข์กระหน่ำ
.....ธรรมจึ่งปัอน....สอนเตือนย้ำ
.....จิตล่วงล้ำ........หลงอารมณ์!

 

ร้อนแต่เช้าก่อนเข้าเทศกาล
ได้ภาพเย็นตาน้องมากิเย็นใจ...

เป็ดกับหงส์.....ลงวารี
หลบร้อนรี่.......ปรี่ผุดว่าย
ถ่ายภาพเก็บ...."เซเล็ป"ร่าย
สุขซำบาย........สองสายพันธุ์!

หมายเหตุ...เซเล็ป = celebrity(ผู้มีชื่อเสียง)

 

ทำงานวันสุดท้ายน้องปรายฯ
ไชโย พรุ่งนี้หยุดยาวแย้ววว

 

ใกล้วันพระใหญ่ ธรรมะมาเป็นชุด
หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงกระทุ้ง"อภัย"...

ทาน-จาคะ........ลดละโลภ
ธารธรรมโอบ....ละโมบสูญ
พูนจิตใจ...........ใฝ่เกื้อกูล
บุญค้ำคูณ.........มิสูญโญ
.....สร้างต่อไป......"อภัยทาน"
.....หัตประหาร......มารอักโข
.....โผล่พ้นน้ำ.......บัวบานโชว์
.....ต่อเติบโต........เตรียม"นิพพาน"!

 

หนูน้อยกับพรดีเป็นศรีวัน
ความบริสุทธิ์คือพรพิสุทธิ์
หาได้ยากในโลกทุกวันนี้