เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ล่องใต้...
เหรียญกงจักรฯ-อาจารย์ทิม ปี18
หลังสถูปหลวงพ่อทวด-วัดช้างให้
=================

ความสำคัญกล่าวไว้หมดแล้วที่เหรียญแรก ประสบการณ์หน 2 จะเล่าอีกไม่นาน ทำบุญกับอีก 1 เหรียญกงจักรฯงามๆไม่ผ่านการใช้...

=======700=======

ความงามให้ภาพบรรยายทั้งหน้า-หลัง

 

ล่องใต้...
หลวงปู่ทวด รุ่นสร้างมณฑปปี40
อจ.นอง-วัดทรายขาว ตะกรุดเงิน
================
อาจารย์นอง วัดทรายขาว กล่าวกับเหล่าศิษย์ กรรมการ คนใกล้ชิด ว่า หลวงปู่ทวด รุ่นสร้างมณฑปนี้ สร้างตามตำรับ "วัดช้างให้-ปี 2497" ทุกประการ รวมทั้งเนื้อหาก็นำของเดิมใส่อย่างไม่อั้น!

ที่สำคัญ พระพิมพ์ใหญ่ ยังถอดจาก หลวงพ่อทวด ปี97 องค์แชมป์โลกตลอดกาลของ คหบดีเมืองภูเก็ต คุณไมตรี บุญสูง ซึ่งเป็นศิษย์เอกคนหนึ่งของท่าน ทำให้ได้แบบพิมพ์ต้นฉบับอันงามล้ำเลิศ

หลวงปู่ทวด วัดทรายขาว รุ่นสร้างมณฑปพระพุทธบาทจำลอง ต้องใช้ปัจจัยถึง 15 ล้านบาทในปี 37 พระอาจารย์นอง จึงจัดสร้างรุ่นนี้ขึ้น นำปัจจัยมหาศาลก่อสร้างสำเร็จด้วยมหาบารมีแห่งหลวงปู่ทวด และความยิ่งใหญ่ของตัวท่านเองประกอบ

จัดมหาพิธีพุทธาภิเษก 26 เมษายน 2540 ฤกษ์ เสาร์5 ด้วยคณาจารย์นับสิบ หลังจากนั้น ท่านอาจารย์นอง ได้เสริมพลังปลุกเสกเดี่ยวอีก 1 ชั่วโมงเต็ม

--พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำ 700 องค์
--พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดเงิน 4,000 องค์

เชิญชมและร่วมบุญ หลวงปู่ทวด เนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ วัดทรายขาว ปี 40 ตะกรุดเงิน 1 ใน 4,000 องค์ กล่องเดิมๆจากวัด ซึ่งอาจารย์นองยืนยันชัดเจนได้ยินกับหูทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นว่า...ต่อไปรุ่นนี้จะดังมาก และหายาก!

=======1,700=======

สร้างมณฑป พิมพ์ใหญ่เอแบบเดียวกับปี 97 วัดช้างให้ เนื้อว่านเต็มสูตรไม่ผิดเพี้ยน ฝังตะกรุดเงินแทนการใช้เม็ดแร่กิมเซียวแปะด้านหลัง ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป ของอาจารย์นองที่ลือลั่นปฐพีไม่มีใครเทียบ!

ความงามสมบูรณ์แบบ เฉียบขาดทั้งพิมพ์และเนื้อหา นิ้วรอยย่นด้านหลังเป็นริ้วคลื่น คล้ายรอยหนอนด้น ดูง่ายสะสมง่ายสบายตา จะขึ้นคอบูชาก็สบายใจ!


กล่องเดิมและตะกรุดเงิน
1 ใน 4,000 องค์เท่านั้น

 

รับครับ

 

เรียน พี่ wanwi
ได้โอนร่วมบุญแล้ว ครับ
ขอบคุณครับ

 

เหรียญ'กงจักรฯ-อาจารย์ทิม
ประสบการณ์สุดยอดครั้งที่ 2
=================
1...

หลังการสำแดงพลัง"โชคลาภ"ตอบสนองการลองของแล้ว ผมก็เขียนจม.ให้พี่สาวซึ่งเป็นครูอยู่หาดใหญ่และเดินทางไปกราบหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ อย่างน้อยเดือนละ 2 หน ให้เช่าเหรียญกงจักรท่านอาจารย์ทิมมอบให้เพื่อนแขวนใช้คนละองค์ทั้ง2คนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์

เหรียญนี้อำนวยโชคลาภให้สม่ำเสมอ ผมกับเพื่อนซึ่งไม่ค่อยมีโชคด้านตัวเลขเท่าใดนัก ถูกล็อตเตอรี่บ่อย แม้เป็นรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวก็เถอะ

อ้อ...ลืมเล่าไปว่า สมัยนั้นรางวัลเลขท้าย 3 ตัวแค่ 500 บาท ท้าย 2 ตัวน่าจะ 200 เท่านั้น สลากกินรวบ...เอ้ย แบ่ง ราคาใบละ 10 บาท สามารถแยกหรือฉีกซื้อครึ่งเดียวก็ได้ ไม่มีการรวมเลข ทีละเป็นปึกเหมือนสมัยใหม่ บริเวณสี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน เป็นแหล่งซื้อ-ขายใหญ่สุดของประเทศ

ค่ำคืนนึง...ผมกับผองเพื่อนซี้ก๊วนเดิมทั้ง 2 คน รวมเป็น 3 ชีวิต นัดหมายไปฮาเฮไนท์คลับชั้นดีบนถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นยุคคลาคล่ำด้วยแสงสี บาร์ผี-บาร์ชั้นดี มีเพียบ เรียงรายกันไปจากราชดำเนินทะลุออกวิสุทธิ์กษัตริย์แหล่งโลกีย์ ไปตรอกบ้านพานถม ออกหลังวัดตรีฯ ทุกตรอกซอยมีสถานแสงสี คลุกเคล้าโลกีย์ทุกรูปแบบซุกซ่อน ไม่อีกทึกครึกโครมเหมือนย่านเพชรบุรีตัดใหม่ที่เป็นถนนเส้นเดียวสั้นๆ หรือแถวพัฒน์พงษ์กับสีลมยุคต่อๆมา แต่ก็มีเสน่ห์แบบรุ่นเก่าโบราณ

หรือจะข้ามลัดตัดราชดำเนินไปด้านหลังอันเป็นแหล่งโลกีย์ชั้นต่ำเรียกว่าคลองหลอด ยันไปถึงสนามหลวง ผีต้นมะขาม สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยก็ยังไหว

ส่วนบนถนนราชดำเนินอันโอ่อ่า เปิดสง่าผ่าเผยท้าทายทุกสายตา ราคาแพง ยกให้โลลิต้า,โรฟีโน่,สีดา(อยู่ติดร.ร.รอแยลรัตนโกสินทร์) ...ไนท์คลับเหล่านี้ชุมนุมสุดยอดนักร้องชาย-หญิงมีชื่อเมืองไทย ทั้งดาวเต้น ดาวโป๊ ที่เป็นข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน สาวนุ่งน้อยกางเกงยืดแนบเนื้อรัดกลีบแก้มก้นทะลักล้นจนอยากบอกเธอว่า...ถอดเสียดีกว่าใส่ ที่สมัยนี้เรียกว่า " สั้นเสมอหู" !!!

เขาสั้นเสมอหูกันมาตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว อย่าไปด่าเด็กรุ่นใหม่เลย บางครั้งเราก็ต้องทำใจว่า มันมีตั้งแต่ยุคพระเจ้าเหา เพียงสมัยพระเจ้าเหาไม่มีเครื่องมือสื่อสารเผยแพร่ให้เห็นความต่ำตมมาก หรือว่องไว รวดเร็วเช่นเดี๋ยวนี้!

พวกเจ้าประคุณเธอใส่รองเท้าบู้ตยาวคลุมน่อง เท่ระเบิดซะไม่มีกลางแสงสีราตรี เหมือนนางแมวยั่วสวาท เต้นระเบิด ร้องสะบัด เพียงเท่านี้ ก็ล้ำยุค นำสมัยมากแล้วสำหรับนักเที่ยวพ.ศ.นั้น(2520-30กว่า)

พวกเราส่วนใหญ่ไปจีบพาร์ทเนอร์ ซึ่งแต่ละแห่งคัดสรร สวยๆงามๆมาเป็นเพื่อนคุย เป็นคู่เต้นรำ สนนราคาก็เป็นค่าดริ้งค์ ค่าดิื่มเช่นยุคปัจจุบัน แถมด้วยค่าขั่วโมงคิดตามเวลาที่เธอนั่ง ชม.ละกี่สิบบาทก็ว่ากันไป ส่วนราคาเครื่องดื่มดริ้งค์ละ 20-25 บาทแล้วแต่สถานที่ ราคานี้อย่าหัวเราะว่า...ไหงถูกเหมือนให้ขอทานยุคนี้ กรุณาอย่าเอายุคปัจจุบันไปเปรียบเทียบ

เพราะยุคนั้นข้าวสารถังละ 16 บาทเอง...เห็นไหมว่า หนึ่งดริ้งค์ของพาร์ทเนอร์ คนจนซื้อข้าวสารกรอกหม้อกินได้ทั้งเดือน!

ไหนๆก็เล่าแล้ว อาจมีวัยรุ่นที่เข้ามาอ่าน อยากถามว่า ที่เที่ยววัยรุ่นคนกลางคืนไม่มีหรือ?

ตอบว่า มีมากเหมือนกัน แต่เป็นไนท์คลับที่รวมวงดนตรีสตริงคอมโบ้ กับวงดนตรีหนักหน่วงซึ่งสมัยนั้นเรียก'อันเดอร์กราวด์'...((( ยกตัวอย่าง...วง วีไอพี-แหลม มอริสันกับ เดอะ ฟ็อกซ์ ของช.อ้น ณ บางช้าง)))

ที่เที่ยวเด็ดๆ สำหรับนักเต้นรำโยกคลึง ฟังเพลงมันส์ๆโดยยังไม่มีผับเช่นยุคใหม่ กระจัดกระจายไปหลายย่าน เช่น บาร์ท็อปเปอร์ ตึกนายเลิศ(รถเมล์ขาว)ต้นทางถนนสุขุมวิท กับร.ร.เพรสซิเด้นท์ ราชเทวี และใต้ถุนโรงแรมอินทรา ประตูน้ำ ชื่อ 'เดอะ เด็น' บางแห่งบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ฯลฯ

ที่เหล่านี้ รวบรวมที่สุดของวงดนตรีขวัญใจวัยดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้าของเมืองไทยเอาไว้... อาทิ ดิ อิมพอสสิเบิ้ล(เศรษฐา ศิระฉายา)...วงพีเอ็มไฟว์(ดอน สอนระเบียบ)...วงบางกอก 17 วงซิลเวอร์แซนด์,วงโรแยลสไปร๊ท์ 'จี้ด' สุนทร สุจริตฉันท์ สุดหล่อร้องนำ แฟนกรี้ดได้ทั้งคืน โอ้ย...เยอะแยะตาแป๊ะไก่ จาระไนยไม่ถ้วน

ราคาเครื่องดื่มก็เป็นดริ้งค์เหมือนกัน ชั้นดีหน่อย วงดนตรีขวัญใจวัยระเริง วัยว้าวุ่นดริ้งค์ละ 25 บาท ที่รองลงมาก็แก้วละ 20 บาท

((ยังเข้าไปเที่ยวเริงราตรี เคล้าโลกีย์แสงสีเสียงไม่ถึงไหน ประสบการณ์กลางคืนกับสุดยอดพระเครื่องมาเกี่ยวเนื่องกันได้อย่างไร?... พักยกพักนิ้วไว้ต่อกันค่ำนี้ครับ))

 

มัวเขียนเล่าประสบการณ์ ด้นสดๆร้อนๆจากความทรงจำไม่มีต้นฉบับใดๆทั้งสิ้น เพลินนิ้ว ทางนี้คุณศรีฯ นำ"สร้างมณฑป"เข้ากรุเรียบร้อย พระสวยงามไม่เคยใช้เลย รับมาจากวัด(ไม่ได้รับกับมือท่าน เพราะท่านไม่อยู่) รักษามา 20กว่าปี มอบให้คุณศรีฯดูแล พึ่งบารมีท่านต่อไป เป็นองค์ที่สวยมาก ผมได้มา 3 องค์ เหลือองค์นี้สุดท้าย

โมทนาจัดส่งพรุ่งนี้ครับ

 

ตามฟอร์มของยอดสิงห์ปืนไว แม้พรุ่งนี้จะเป็นวันศุกร์ แต่ให้ยอดนิรันตรายเมืองใต้เดินทางไม่ไกล คงไม่ไปติดค้างที่ทำการไปรษณีย์

โมทนากับคุณศรีฯอีกรอบครับ

 

ขอร่วมบุญครับ

 

ต้องรบกวนขอเลขที่บัญชีคุณน้ำฝนด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ขออนุญาตครับ

 

คุณบุญฯห่างเหินการร่วมบุญพักใหญ่ แต่เห็นชื่อกดไลค์ ให้เลิฟประสาแฟนพันธุ์แท้อยู่เสมอ ถือโอกาสขอบพระคุณไว้ตรงนี้

ได้เหรียญ 'กงจักรพิฆาต' ไปครอบครอง ขอบอกว่าเหรียญนี้เหนือกว่านิยายน้ำเน่าใดๆทั้งปวง ถ้าอ่านประสบการณ์3เรื่องของผมจบจะคบไม่ได้...เอ้ย โทษทีไม่ใช่'สามก๊ก' จะรู้ลึกซึ้งถึงคำว่า หลักร้อย คุณค่าเกินหลักล้านนั้น ไม่ได้พูดกันเล่นๆเอาโก้หรือมันส์ปากตามๆกันไป

นี่เป็นของจริงเสียยิ่งกว่าจริง เหตุเกิดแต่ละครั้งมีประจักษ์พยานหลายตา หลายชีวิต ไม่ใช่มางุบงิบเล่าเองเออเอง เหมือนเตะตะกร้อ ชงเอง-กินเอง เห็นแล้ว เซ็งเป็ด มันคงนึกว่าคนอ่านสมัยนี้กินหญ้า

โมทนาครับ จัดส่งพรุ่งนี้ หวังว่าที่อยู่เดิม คงไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนอย่าลืมแจ้งหลังไมค์

 

กำลังขยับจิ้ม แต่เห็นน้องคัมภีร์
กรุณาก็อปให้เรียบร้อย ขอบคุณ
หลายๆครับ ตามนั้นเลยคุณบุญฯ

 

ขอบคุณน้องคัมภีร์อีกครั้งครับ

 

ยินดีรับครับคุณอา
ขอบพระคุณคุณอามากครับ

 

โอนร่วมทำบุญแล้วครับ ที่อยู่เดิมครับ ส่วนเกินร่วมทำบุญตามสะดวกครับ ขอบพระคุณครับ

 

เหรียญกงจักรฯ-อาจารย์ทิม
ประสบการณ์2-ไล่ผีแม่น้ำแคว
=================
2...
สุราดี นารีคลอเคลีย ดนตรีกระหึ่ม แสงสีสลัวสลับเจิดจ้า ม่านราตรีเพิ่งเยาว์วัยนัก ควันบุหรี่ล่องลอยอวล นักท่องราตรีเท้าไฟวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นรำ นักร้องกำลังขยำขยี้เพลงฮิตด้วยเสียงขยี้ฟองโซดาเคล้าน้ำเมา โลกียะกลมกลืนไปกับสถานที่ มีแต่ความสุขที่เราหลอกตัวเองว่ามันใช่ และตักตวงใส่ตัวเต็มคราบ เสมือน แมงเม่าบินเข้ากองไฟ!

เราเรียกพาร์ทเนอร์คู่เต้น ซึ่งอันที่จริงสนิทสนมกันดีเพราะเป็นลูกค้าขาประจำ เรียก "คู่ขา" ก็ไม่น่าเกลียด ทุกคนละเลียดเหล้านุ่มนวล ผมนั้นถนัดเล่นเบียร์ มันเมาช้า

นั่งอี๋อ๋อสาว สลับเต้นรำฟังเพลง ดูนักร้องดาวเต้นเพลินตาสักชั่วโมงเศษๆ เจ้าเพื่อนเกลอ ก็โพล่งขึ้น...

"เฮ้ย...หาที่กินเหล้าแถวอื่น เปลี่ยนบรรยากาศมั่งดีกว่าโว้ย"

อยู่ๆสหายร่วมวงที่รู้ใจ ร่วมก๊งเท่าไหร่ก็ไม่เมามาย ดังท่านปิศาจสุรารจนา ก็ชักใบเรือพาออกทะเลเสียงั้น...

"ไปไหนละว่ะ ยังหัวค่ำอยู่เลย"?...ผมถาม ดูนาฬิกาข้อมือเพิ่ง 4 ทุ่มเศษ ความจำไม่หลอนเพราะสมัยก่อน นักท่องราตรีเที่ยวหัวค่ำ ไนท์คลับปิดเที่ยงคืนหรือตี1 ต่อมาขยับเวลาปิดดึกมากตามสถานะการณ์บ้านเมือง และรสนิยมนักเที่ยวซึ่งคนยุคหลังๆ เที่ยวกลางคืนจะเข้าร้านก็ต่อเมื่อ 4-5 ทุ่มไปแล้ว ทุกสถานที่จึงดิ้นรนเปิดดึก-ปิดดึก ผิดกฏหมายก็ต้องสู้ บางที่ล่อไปถึงเช้า เป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่หากินเพิ่มบนหยาดเหงื่อแรงงานของคนทำมาหากิน

ช่วงที่ผมเล่านี้ ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่พวกผมเป็นประเภทเลือดสุพรรณ มาด้วยกันก็ไปด้วยกัน เราถามไถ่สาวๆร่วมโต๊ะว่าไปหาที่ดริ้งค์กันต่อเปลี่ยนบรรยากาศ โอเคมั้ย ยินดีซื้อชั่วโมงที่เหลือให้

สาวๆรู้จักกับพวกเราดีพอควร ก็ท่าจะเซ็งกับที่เดิมๆ บอกว่า แล้วแต่พวกพี่เถอะ อย่าพาหนูไปขายซ่องก็แล้วกัน-ฮ่า ใจถึงชะมัด

รถเฟี้ยตรุ่นใหม่สมัยนั้นกว้างขวางพอใช้ เพิ่มผู้โดยสารอัดเข้ามาอีก 3 คน แม้นั่งเบียด ก็ไม่ถึงกับอึดอัด ผมทำหน้าที่พลขับ อ้าว...ก็รถของผม จะให้ใครขับ

เราออกจากถนนราชดำเนิน แวะซดข้าวต้มบางลำภูเจ้าประจำ ยังหัวค่ำคนน้อยเอ็นจอยกันไป สาวนางหนึ่งก็ให้ความเห็นระหว่างทาน...

"ไปพัทยากันเถอะ"

เอาแล้วไง เธอชวนไปแบบต้องค้างคืน ไม่ไหวแน่ มีเสียงคัดค้านจากทั้งผู้หญิงด้วยกันกับผู้ชายคือผม ถกกันสักพัก เพื่อนรักอีกคนก็ออกความเห็น...

"เฮ้ย ข้าว่าไปสะพานข้ามแม่น้ำแควดีกว่า"

เจ้าเพื่อนรายนี้มาแปลก แต่ก็น่าสนใจ เรายกมือโหวตว่า ไปหรือไม่ไป เสียงโหวต"ไป"ชนะ ขบวน 3 หนุ่ม-3 สาวก็เดินทางด้วยเสื้อผ้าชุดเดียวนั่นแหละ แต่สาวๆนั้นผลัดเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาจากล็อคเกอร์ที่ทำงานพวกเธอเรียบร้อยแล้ว

จากบางลำภูขึ้นปิ่นเกล้า ชั่วอึดใจก็ผ่านนครปฐม ตรงดิ่งเข้าสู่เมืองทหาร กาญจนบุรี ใช้เวลาตะบึงยามค่ำคืนอันเงียบสงัดรถบนถนนไม่มาก เพียงชั่วโมงเศษ

เราแวะซื้อเหล้าเบียร์เพิ่ม ส่วนสาวๆก็ซื้อของกินเล่น กะไปนั่งเล่นเอาบรรยากาศแปลกแถวสะพานแม่น้ำแคว ดื่มด่ำโอโซนยามดึกห่างไกลผู้คนและป่าคอนกรีตสัก 2 ชั่วโมงค่อยตีรถกลับ อาจถึงบ้านสักตี 4 เรื่องจิ้บจ้อยสำหรับนักย่ำราตรีที่ไม่เคยมองนาฬิกาอย่างพวกผม

ถึงทางเลี้ยวเข้าสะพานแม่น้ำแคว เพื่อนตัวดีเจ้าของไอเดียตีแขนเบาๆ...

"ตรงไปเพื่อน อย่าเลี้ยว เดี๋ยวกูบอกทาง มีที่เจ๋งมาก นั่งซดเหล้าดูดาว ดูน้ำสวยงาม"

มาขนาดนี้แล้ว ตกกะไดพลอยโจน ว่าไงก็ว่าซั่นตามกัน ผมขับข้ามทางรถไฟที่ขวางถนนไปถึงแยกแก่งเสี้ยน ซึ่งยังเป็นแยกเล็กๆถนนแคบไม่ใหญ่โตโอฬารอย่างปัจจุบัน ถ้าขับตรงไปก็เข้าลาดหญ้า เลยไปถึง ไทรโยค ทองผาภูมิ ฯเทือกนั้น!

(((ต่อตอนจบพรุ่งนี้ครับ)))

 

มอบล็อคเก็ต พ่อทวด-อจ.ทิม ปี22 ให้น้องศิวะ เก็บเช้าชุดกับองค์อื่นๆ เตรียมส่งทีเดียว โมทนาจ้า

 

โมทนาบุญ+ทานบารมีคุณบุญฯ ที่อยู่เดิมก็จัดส่งพรุ่งนี้ได้ทันที ขอบพระคุณมาก ตอนนี้ก็อ่านประสบการณ์ "กงจักรพิฆาต" เพลินๆไปก่อน เหรียญจริงจะเดินทางไปถึง

 

บ้านทุ่งโฮมสเตย์ อำเภอปราสาท

 

วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล