เหรียญนารายณ์ทรงครุฑ หลวงปู่หมุน 4,500 บาท สวยๆโค๊ตชัดๆหน้าสุดท้ายครับ

เหรียญสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดอินทรวิหาร เนื้อนวโลหะ บูชา799

 

หลวงพ่อบัวทอง วัดนพคุณ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
- เป็นเหรียญยุคแรกๆ ของ อ.หัวไทร นครศรีธรรมราช ประมาณ 2505-2512 (จากคำบอกเล่า ไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร)
- หลวงพ่อบัวทอง ท่านเป็นผู้สร้าง ร.ร. นพคุณ ซึ่งได้สร้างคุณประโยชน์ ให้กับลูกหลาน อ.หัวไทร นครศรีธรรมราช เป็นอย่างยิ่ง
- เป็นเหรียญหาอยากอีกเหรียญ ของชาว อ.หัวไทร ครับ
เหรียญนี้ไม่ใช่รุ่น1นะครับแต่เป็นรุ่น0 เนื้อทองฝาบาตรครับหายากส่วนมากจะเจอกันแต่เนื้อทองแดง PMครับ

 

พระบูชาหลวงปู่มั่น รุ่นทีระลึกฉลองเจดีย์น้ำหนาว 20-21 มีค.53 หลวงตามหาบัวอธิษฐานจิต 3 วาระ วัดป่าดงค้อ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เนื้อโลหะ หน้าตัก4.5 นิ้ว สูง 8 นิ้ว สนใจพระบูชาหลวงปู่มั่นรุ่นฉลองเจดีย์น้ำหนาวปี2553 ฐานถอดได้ บูชา2,800

 

เหรียญหล่อโบราณหลวงพ่อท้วมวัดศรีสุวรรณ รุ่นสร้างมณฑป55 เนื้อนวะฝังตระกรุดทองคำ 1ใน55เหรียญอยู่ในชุดกรรมการใหญ่ องค์นี้หมายเลข41ครับ PM

 

ขอจอง รูปหล่อลอยองค์พระพุทธปางบำเพ็ญทุกข์กริยา วัดหัวสวน ฉะเชิงเทรา 2549 บูชา 499<!-- google_ad_section_end -->

วิรัตน์,081-487-3163

 

รับทราบการจองครับ

 

ติดต่อสอบถามโทร 081-621-3231
โอนเงินผ่าน ธ.ไทยพาณิชย์
สาขาย่อย ถนนนครเขื่อนขันธ์
ชื่อบัญชี นายจิระศักดิ์ พรหมมา
เลขที่บัญชี 341-217268-7
e-mail aob_dx@hotmail.com

 

เหรียญหลวงปู่ทวดเนื้อเงิน รุ่นมนต์จินดามณี/กริ่งพุทธเลิศหล้า พระนามมหาปัญโญ หมายเลข175 จองแล้วครับ

 

พระฤาษีสูบยาเนื้อโลหะ หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ออกวัดเลียบราษฏร์บำรุง รูปหล่อฤาษี จัดสร้าง ปี2532 โดยหลวงพ่อสร้อย ปลุกเสกโดย หลวงปู่สรวง ครับ สร้างน้อยครับ หายากมากครับ รูปถ่ายหลวงพ่อสร้อยและหลวงปู่สรวงในพิธีครับ PMครับ

 

ความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อคำแดงบ้านไม้ลุงขน แรกเริ่มเดิมทีเป็นศาลเจ้าบ้าน มีสถานที่เดิมตั้งอยู่ระหว่างสะพานน้ำบ่อหลวงและสี่แยกน้ำบ่อหลวง ด้านทิศตะวันออกของถนนในสมัยน้นคำว่าเจ้าบ้านย่อมเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั้งชายและหญิงในหมู่บ้านไม้ลุงขนมาตั้งแต่โบราณ

ต่อมาในราวปีพ.ศ. 2495 - 2500 ประชาชนในหมุ่บ้านไม้ลุงขนได้เห็นความสำคัญต่อเจ้าบ้านจึงได้พร้อมใจกันพัฒนาบริเวณต้นไม้ลุงขนที่บริเวณริมหนองโค้งในสมัยนั้นอาณาบริเวณประมาณ 1 ไร่ จึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญเจ้าบ้านมาประดิษฐานไว้ ณ ศาลหลังเล็ก ๆ มุงด้วยหญ้าคาขึ้นสามหลังพร้อมเสาใจบ้านในบริเวณต้นไม้ลุงขน อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน เอาไว้กราบไหว้บูชาเคารพนับถือ

ในความเชื่อถือของชาวบ้านไม้ลุงขนเล่าขานกันสืบมาว่าในสมัยโบราณก่อนจะเข้าฤดูทำนาในช่วงเดือน 9 ขึ้น9 ค่ำชาวบ้านไม้ลุงขนจะประกอบพิธีเลี้ยงเมือง ด้วยการป่าวประกาศให้ประชาชนในหมู่บ้านได้ร่วมใจกันบริจากข้าวสารหลังคาเรือนละ 1 ลิตร เงินคนละ 1 บาท (ข้อห้าม...ถ้าหากครอบครัวใดที่มีหญิงตั้งครรภ์ไม่ต้องออก) หลังจากรวบรวมได้แล้วทางผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านพร้อมด้วยชาวบ้านจะทำการนำข้าวสารมาแช่น้ำแล้วตำหรือโม่ เสร็จแล้วนำมานวดผสมกับน้ำอ้อยห่อทำเป็นขนมเทียนแล้วนึ่งให้สุกเสร็จเรียบร้อย พอรุ่งเช้าของเดือน 9 ขึ้น 9 ค่ำเวลา 05.00 น.ผู้ทรงคุณวุฒิในหมู่บ้าน (พ่อหมอเมือง) เริ่มประกอบพิธีอัญเชิญเจ้าบ้านเจ้าเมือง มารับเอาของเซ่นไหว้ (เลี้ยงเมือง)

ในวันเลี้ยงเมืองสมัยก่อนมีการปิดหมู่บ้านห้ามเข้าห้ามออกในวันดังกล่าว ต่อมาในสมัยนี้วิวัฒนาการทันสมัยไม่สามารถปิดหมู่บ้านได้ ระหว่างทำพิธีจะมีการตีก้อง ฆ้องมอง เซิง ฟ้อนรำแบบพื้นบ้านสิบสองปันนาไปจนเสร็จพิธีเลี้ยงเมือง เชื่อกันว่าเจ้าบ้านเจ้าเมืองจะช่วยบันดาลให้ข้าวกล้าในไร่ในนาอุดมสมบูรณ์ และอยู่เย็นเป็นสุขทุกครัวเรือนหลังจากนั้นขนมเทียนและอาหารเจที่ชาวบ้านนำมาร่วมพิธีได้นำมาแจกจ่ายให้กับผู้มาร่วมพิธีโดยทั่วกัน เชื่อกันว่าเป็นยาทิพย์จะทำให้โรคภัยไข้เจ็บหายไปจากตัวเรา

มาในปีพ.ศ. 2507-2510 ได้มีร่างทรงเจ้าพ่อคำแดง ได้มาทำการเข้าทรงได้บอกกับประชาชนชาวบ้านไม้ลุงขนว่าเจ้าพ่อคำแดงได้เสด็จมาจากถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ มาประทับอยู่ ณ สถานแห่งนี้เพื่อปกปักษ์รักษาหมู่บ้านไม้ลุงขนตั้งแต่นั้นมา

เมื่อปี พ.ศ. 2515 ได้มีผู้ใหญ่บ้าน นายมูล ราวิชัย พร้อมด้วยประชาชนในหมู่บ้านได้ร่วมกันสร้างศาล ทำด้วยไม้หลังคามุงสังกะสี และได้หาช่างมาทำการปั้นรูปเจ้าพ่อคำแดงองค์นี้ไว้ดังที่ท่านทั้งหลายได้เห็นและได้กราบไหว้บูชาตราบเท่าทุกวันนี้

ในทุก ๆ ปีจะมีกิจกรรมและงานประเพณีที่สำคัญ 3 งานคือ

1.งานประจำปีจัดในเดือนมีนาคมของทุกปี
2.งานส่งเคราะห์และสืบสะชาในวันปีใหม่เมืองเดือนเมษายน
3.งานประเพณีเลี้ยงเมืองเจ้าพ่อคำแดง เดือน 9 ขึ้น 9 ค่ำของทุกปี

ต่อมาเมื่อปี พ.ส. 2529 ทางผู้ใหญ่บ้าน นายอินจันทร์ วงศ์ใหญ่ พร้อมด้วยประชาชนบ้านไม้ลุงขนที่ศรัทธาในองค์เจ้าพ่อคำแดงได้ทำการก่อสร้างศาลหลังใหม่ขึ้น ทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมและได้อัญเชิญรูปปั้นองค์เจ้าพ่อคำแดงขึ้นประดิษฐานไว้ จนมาถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2542 เวลา 20.30 น.ได้เกิดพายุลมฝนอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ลุงขนที่มีอายุร่วม 220 ปีได้โค่นล้มลงสร้างความเสียใจให้ประชาชนในหมู่บ้านเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาได้มีนายโยง สุยา และนายสุจิตร ราวิชัย พร้อมด้วยคณะกรรมการได้ทำการเพาะปลูกต้นไม้ลุงขนต้นใหม่ขึ้นเพื่อทดแทนต้นเก่า ดังที่ท่านทั้งหลายได้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ทางคณะกรรมการและคณะศรัทธาบ้านไม้ลุงขนได้ทำการวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างศาลหลังใหม่นี้ขึ้นด้วยงบประมาณในการก่อสร้างประมาณ
1,850,000 บาท (หนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2549

เหรียญเจ้าพ่อคำแดง ไม้ลุงขน ที่ระลึกวางศิลาฤกษ์ศาลเจ้าพ่อคำแดง2549 บูชา350

 

เหรียญพระพุทธหลังนางกวัก(เม็ดแตง) หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก เก่า สวย บูชา350

 

พระราหู ...จากศิลปินแห่งแผ่นดิน(อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์) ครั้งที่ 2 หมายเลข254
พระราหู นี้ ท่านอาจารย์ ฯ สร้างก็เพื่อประโยชน์แก่การเตือนสติผู้มีธรรมทั้งหลายให้ได้มีสติ ตั้งใจฝึกธรรมะ ให้เข้าถึงพระนิพพาน และ สร้างเป็นเพื่ออุบายช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรมซ้ำซาก ซ้ำช้อน จนอยากจะตายจากโลกนี้ไป ให้มีแรงกายแรงใจที่จะสุ้ชีวิตต่อไป โดยมีพระราหูเป็นเครื่องยึกเหนี่ยวจิตใจ ท่านสร้างพระราหูไม่ใช่เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถหาเงินได้ง่าย และมากกว่าการขายภาพวาดของท่านอย่างแน่นอน / ครั้งที่ 2 หมายเลข254 และอุปกรณ์ ครบทุกอย่าง ไม่ว่าหนังสือ กล่องกระดาษนอก กล่องผ้าใน นิยมกันเพราะเป็นครั้งต้นๆ ของการสร้างพระราหู ในการฯ นี้
PMครับ ปิดรายการนี้ครับ

 

ผ้ายันต์พระอุปคุตรุ่นแรก หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง พร้อมกรอบแขวนบูชา แบ่งบูชา3500

 

ผลงานของ อ.สุธันย์อีกหนึ่งผลงานกริ่งชุดนี้น่าจะเป็นชุดสุดท้ายที่ท่านทำอย่างเป็นทางการ พระกริ่งพุทธเลิศหล้าหมายเลข173 พระนาม มหาราชา

 

หลวงปู่ทวดรุ่นแก้วสารพัดนึก1 ปิดรายการครับ

 

พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ
พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ เป็นวัตถุมงคลที่คณะศรัทธากลุ่มหนึ่งได้จัดสร้างขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อเป็นอุเทสิกเจดีย์ไว้สักการบูชาเมื่อรำลึกถึงพระพุทธองค์ ๒.เพื่อเป็นมหากุศล และสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ๓.เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์สมทบทุนศาสนกุศล
โดยปัจจัยที่ได้จากการให้ทำบุญบูชาพระรุ่นนี้ คณะผู้จัดสร้างจะได้นำส่วนที่ ๑.ไปถวายเป็นการกุศลแด่พระสงฆ์ที่อาพาธ ณ โรงพยาบาลสงฆ์ กทม. ส่วนที่ ๒. ร่วมสร้างวิหารกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท จ.สุพรรณบุรี และส่วนที่ ๓. มอบให้บ้านโฮมฮัก มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน ทั้งนี้โดย ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
รูปแบบพุทธศิลป์ พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ พิมพ์ทรงแปลกตาดี คือ คล้ายกับพุ่มข้าวบิณฑ์ ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนกับทรงน้ำเต้า ซึ่งเป็นสิ่งมงคล ที่มีรูปร่างเหมือนกับ พระสังกัจจายน์ อันหมายมีความถึงความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ เหมือนกับเลข 8 ที่ถือเป็นเลขมงคล และหากวางในแนวนอน เลข 8 จะเหมือนกับสัญลักษณ์ "อินฟินิตี" อันหมายถึงความไม่สิ้นสุด นิรันดร์กาล
ขนาดองค์พระ กว้าง ๒.๓ ซม. สูง ๓.๕ ซม. ด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธรูป ปางสะดุ้งมาร (สะดุ้งกลับ) ขัดสมาธิเพชร (เพชรกลับ) ประทับอยู่ในดอกบัวบาน (ปทุมมาศ) ซึ่งเชื่อกันว่า มีอานุภาพในการขจัดเรื่องร้ายให้กลับกลายเป็นเรื่องดี และสร้างความเจริญรุ่งเรืองความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตสืบไป
องค์พระพุทธรูป ประทับอยู่เหนือ พระราหู ซึ่งเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางป้องกัน และขจัดปัดเป่าภัยพิบัติต่างๆ มิให้มาเหยียบย่ำกล้ำกราย อีกทั้งยังช่วยค้ำจุนหนุนดวงชะตาให้ดียิ่งขึ้น โดยพระราหูจะสยบลบล้างสิ่งที่เป็นอัปมงคล ไม่ว่าจะเกิดจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์ หรือผู้มีวิชาอาคม ให้มลายหายสิ้นไป ทั้งยังมีอานุภาพในการป้องกันภูตผีปีศาจ ได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ในเรื่องของโชคลาภ เชื่อกันว่า พระราหูเป็นเจ้าแห่งทรัพย์สิน เงินทอง และความสุขความสบาย ใครมีไว้สักการบูชาก็จะเพิ่มพูนในโชคลาภวาสนาดังกล่าว
พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ เป็นพระหล่อที่สร้างจากชนวนมวลสารมากมาย โดยเฉพาะชนวนพระกริ่งสายวัดสุทัศนฯ เหรียญพระพุทธ เหรียญพระเกจิคณาจารย์ในพิธีสำคัญๆ วัตถุมงคลอาถรรพ์ต่างๆ และแผ่นยันต์ที่ได้ผ่านการปลุกเสก อธิษฐานจิต จากพระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และผู้ทรงวิทยาคม ลงอักขระที่ดีที่สุด อีกจำนวนมาก (โดยได้รับจากคุณสุธันย์ สุนทรเสวี สนพ.สาธารณสุข จ.สมุทรสงคราม)
รวมทั้งชนวนพระหลวงปู่ทวด หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อคูณ
และทองคำแท่ง หนักกว่า ๑๐ บาท นอกจากนี้ยังมี ของมงคล แร่โลหะโบราณศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งประเมินค่ามิได้ กว่า ๑,๐๐๐ ชนิด
จำนวนสร้าง เนื้อนวโลหะ ๒๐๐ องค์ เนื้อทองแดงชนวนโลหะโบราณ ๔๐๐ องค์ ได้นำเข้าในพิธีพุทธาภิเษกอีกกว่า ๓๐ พิธี
เหรียญนี้ประกอบด้วยชนวนเหรียญเพระพุทธและเกจิคณาจารย์ในพิธีสำคัญ ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ วัตถุมงคลอาถรรพ์ต่างๆ และ แผ่นยันต์ที่ได้ผ่านการปลุกเสกและอธิฐานจิตจากพระเถราจารย์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และผู้ทรงวิทยาคม ลงอักขระที่ถนัดที่สุด และเก่งที่สุดและสุดยอดที่สุดเข้า ร่วมสมทบอีกเป็นจำนวนมาก
ชนวนพระกริ่งพิธีที่สำคัญ
1 ชนวนกริ่งพระกริ่งวัดสุทัศน์ของ
1.1 สมเด็จพระสังฆราช(แพ)
1.2 พระมงคลราชมุนี(สนธิ์)
1.3 พระศรีสัจจญาญมุนี (ประหยัด)
1.4 ชนวนกริ่งทองคูณ ปี2537
1.5 ชนวนกริ่ง รุ่น99 ปี2538
1.6 ชนวนกริ่งเจ้าคุณ ปี 2542
1.7 ชนวนหลวงปู่ทวด ปี2545
1.8 ชนวนโลหะพระบูชา หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
1.9 ชนวนโลหะเททอง หลวงตามหาบัว
1.10 ทองคำแท่ง หนัก 10 บาท
(รายการที่ 1.1, 1.2 ,1.3 แท่งชนวน นวะโลหะเข้มข้นของวัดสุทัศน์สมเด็จสังฆราชแพ - ปัจจุบันและชนวนพระรุ่นต่างๆรับมอบจากงคุณสุธันย์ สุนทรเสวี สาธารณะสุขจังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 3 แท่ง หนักประมาณ 3 กิโล)
2 ชนวนเหรียญเกจิคณาจารย์ ยุดเก่าต่างๆ ที่สำคัญ กว่า 100 เหรียญ (ของมงคล แร่โลหะโบราณศักดิ์สิทธิ์ ที่ต่างๆที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ประเมินค่ามิได้ กว่า 1000 ชนิด รับมอบจากเสี่ยเจ็ด แห่งร้านหลักเมือง)
3 แผ่นพระยันต์ 108 และ นะปถมัง 14 ตามตำรับ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว พระนครศรีอยุธยา เป็นยันต์ใช้บังคับในการสร้าง ยันต์ทั้งหมดนี้มีพุทธคุณครอบจักรวาล เช่น ป้องกันสรรพอาวุธทั้งปวง กันสรรพโรค มีคุณหาที่สุดมิได้ กันภัยต่างๆ ป้องกันอุบัติภัย อุดมมงคล แคล้วคลาดอาวุธทั้งปวง เสริมสร้างสิริมงคล ทำให้บังเกิดทรัพย์ เสริมสร้างตบะเดชะ เมตตามหานิยม คุ้มภัยอันตรายทั้ง ๔ ทิศ กันโจรทั้งปวง กันอมนุษย์ สัตว์ร้าย เขี้ยวงา กันเสนียด ชนะความ กันภัยต่างๆ ฯลฯ

****เหรียญพระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ จะตอกโค๊ด และหมายเลขกำกับทุกเหรียญ****


การจัดสร้างพระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ จัดสร้างไว้ตั้งแต่ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปี2551 เป็นวันลอยกระทงเป็นวันที่ ฤกษ์งามยามดี เททอง16.09 น. เรียกว่า มหัทธโนฤกษ์ ......มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล ฯลฯ และก็ได้นำพระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ เข้าร่วมพิธีที่ธุดงค์สถานสุทธาวงศ์มงคลราชพรหมปัญโญอนุสรณ์ ระหว่างวันที่ 3 -10 ธันวาคม 2551
รายนามคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว จ.ชลบุรี
หลวงปุ่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส จ.ชลบุรี
หลวงพ่อเจิม วัดปรกสุธรรมาราม จ.สมุทรสงคราม
พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร" วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่อตี๋ (พระครูพินิจสมุทรคุณ) วัดบางคณฑีใน จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
หลวงพ่อยะ วัดค่ายบางกุ้ง จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อผล วัดหนองแขม จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อเนาะ วัดป้อม จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อห้อย สำนักสงฆ์เขาแม่เพรียง จ.เพชรบุรี
พระครูสุนทรจริยาวัตร (หลวงปู่ม่วง นาคะเสโน) วัดยางงาม จ.ราชบุรี
หลวงพ่อปิ่น วัดหนองเกษร จ.ราชบุรี
หลวงพ่อแย้ม วัดสามงาม จ.นครปฐม
หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
หลวงพ่อเพี้ยน อคฺคธมฺโม วัดเกริ่นกฐิน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
หลวงพ่อทองหล่อ วัดพรหมรังสี อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
หลวงพ่อสมพร วัดป่าธรรมโสภณ อ.เมือง จ.ลพบุรี
หลวงพ่อสิริ สิริวัฑฒโน วัดตาล จ.นนทบุรี
หลวงปู่ธีร์ สุวณฺโณ อายุ 82 ปี วัดจันทราวาส อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่พวง ธัมมสาโร อายุ 77 เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกสามัคคีธรรม บ้านโคกตาสิงห์ จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่ผาด (พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์) อายุ 97 ปี วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
หลวงพ่อไสว หิริสัมปันโน วัดปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ อายุ91 ปี สุสานบ้านทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
หลวงพ่อปึก วัดบ้านจกรู สุรินทร์
หลวงพ่อเมียน กัลญาโณ วัดบ้านจะเนียง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
หลวงพ่อเคือน สังกิจโจ วัดป่าหนองหิน ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
หลวงพ่อคีย์ กิติญาโณ วัดศรีลำยอง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ สำนักปฏิบัติธรรม เจดีย์ศรีพุทธสถิต อายุ 104 ปี จ.นครศรีธรรมราช
พ่อท่านชื่น อินทปัญโญ วัดเจริญราษฎร์ประชาธรรม(ในปราบ) อายุ 85 ปี จ.สุราษฎร์ธานี
พ่อท่านอิ้น ปภากโร วัดทับใหม่ (วัดรัชราษฎร์พัฒนา) อายุ 89 ปี จ.สุราษฎร์ธานี
พ่อท่านพรหม ขันติโก วัดบ้านสวน อายุ 67 ปี จ.พัทลุง
อาจารย์รรรสิริ วัดบ้านสวน จ.พัทลุง องค์นี้ท่านเป็นศิษย์ สายเขาอ้อ อีกองค์ อยุ่ วัดบ้านสวน กับพ่อท่านพรหม
พระครูพิพิธวรกิจ (พ่อท่านคล้อย) วัดภูเขาทอง อายุ 80 ปี จ.พัทลุง
พระครูสังฆรักษ์ เอียด ครุธมฺโม (พ่อท่านเอียด) วัดโคกแย้ม อายุ 75 ปี จ.พัทลุง
พระราชสิทธิมงคล(หลวงพ่อสวัสดิ์) วัดศาลาปูน จ.อยุธยา
พระครูวิชัยกิจจารักษ์ (หลวงพ่ออุดม) วัดพิชัยสงคราม อำเภอเมือง จ.อยุธยา
พระครูประโชติธรรมวิจิตร (หลวงพ่อเพิ่ม) วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง จ.อยุธยา
หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา
พระธรรมรัตนากร (สงัด) วัดปากน้ำ กรุงเทพฯ
พระพิพัฒนาทร (สมชาย) วัดปริวาสราชสงคราม กรุงเทพฯ
ครูบาสรยุทธ วัดจำค่าวนาราม จ.ลำปาง
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

 

พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ เนื้อชนวนนวะโลหะ หมายเลข208 PMครับ

 

พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ เนื้อนวะหมายเลข 7

 

เหรียญพระศากยมุนีพุทธ ปี45 หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล บูชาุ799
หลวงปู่กอง จันทวังโส
วัดสระมณฑล จ.อยุธยา
ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ 2 ใน 3 คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2442 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง

มูลเหตุบรรพชา
ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหาจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน

ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส

ลาสิกขา
ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก 3 คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่าานจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง

ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ 55 ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม พ.ศ.2495 โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา

ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน
ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำบัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย

หลวงปู่กอง ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระมณฑล จนกระทั่งละสังขาร ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2546 สิริอายุได้ 104 ปี 9 วัน 51 พรรษา

 

เหรียญครบรอบอายุ102ปึ หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล บูชา799