++ แจ้งข่าว กิจกรรมการสอนสมาธิของพี่เล็ก Kananun ++

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Forever In LoVE, 17 ธันวาคม 2008.

  1. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    ขออนุโมทนาสาธุกับพี่คณานันท์ และทีมผู้จัดกิจกรรมด้วยค่ะ
    ถ้ามีบุญวาสนาต่อกันคงได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมด้วยนะค่ะ...
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อัพเดทงานรวมกลุ่มสายตะวันออก และสอนสมาธิครับ

    <table id="post2130627" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">สุคะตะถะ<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2130627", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2008
    ข้อความ: 182
    ได้ให้อนุโมทนา: 932
    ได้รับอนุโมทนา 1,061 ครั้ง ใน 142 โพส
    พลังการให้คะแนน: 29 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2130627" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ขอโทษด้วยครับเข้ามาอัฟเดตให้ช้าหน่อย

    สำหรับข้อมูลและสภาพโดยรวมของวัดป่าเขาล้อม ณ ตอนนี้มีพระอยู่ประจำ เพียง 2 รูปเท่านั้น คือพระครูปลัดชาญ (เจ้าอาวาส) และพระลูกวัดอีกหนึ่งรูปเท่านั้น สภาพวัดโดยรวมจะเป็นเขาและป่า มีเสนาสนะหลายหลัง มีศาลา 2 หลัง กุฎิเท่าที่เห็นประมาณ 5 หลัง มีโรงครัว หอฉัน แต่ช่วงเวลานี้พระอาจารย์เองไม่ได้อยู่ที่วัด เดินทางนำพระที่แกะทั้งหมดไปให้ศาสนิกชนได้กราบสักการะ จึงค่อนข้างจะรกสักหน่อย

    สำหรับสถานที่พัก เป็นศาลาหลังบน เป็นทั้งที่ทำวัตร สวดมนต์ เรียนสมาธิกันที่นั้น นอนพักกันข้างล่าง แต่ด้วยยังไม่เสร็จสมบูรณ์นัก หน้าต่างยังไม่มิดชิดเท่าที่ควร อาจจะไม่สะดวกสำหรับผู้หญิงนัก และสิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วยคือ

    -เครื่องนอนสำหรับส่วนตัว (หมอน มุ้ง ผ้าห่ม) อาจเป็นถุงนอนก็สะดวกดี เต้นท์ก็ได้ครับ
    -ห้องน้ำ ห้องสุขา มีเพียงพอ และสะดวกพอควร
    -มีไฟฟ้าใช้ แต่ควรนำไฟฉายไปด้วยนะครับ

    สำหรับรายละเอียดการเรียนสมาธินั้นเราไม่ยึดตายตัวครับ คือจะสอนกันไปเรื่อยๆ คงจะเริ่มช่วงบ่ายของวันเสาร์ครับ หากตามมาสมทบอ.คณานันท์อาจจะทวนให้อีกครั้ง เพราะเราดูความเหมาะสมเป็นหลักครับ ไม่ต้องกังวลหากตามมาแล้ว และกลัวจะไม่ทันเพื่อนๆ สบายๆครับ
    </td></tr></tbody></table>
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post2124367" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_2124367" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">วิ นรถตู้ขึ้นได้ที่ฝั่ง center one เดินเลยตรงจุดที่มีร้านขายของไปหน่อยเข้าในซอยจะมีหลายวิน สังเกตุ อนุสาวรีย์-พนมสารคาม แล้วถามว่าจอดที่ ร้านพวงทอง 24 ชม.หรือไม่ เพราะมีบางวิน อนุสาวรีย์-ปราจีนบุรี อาจจะไม่ผ่านจุดนี้

    คิวแรกผมไม่แน่ใจเวลานัก น่าจะประมาณ 05.00 น. เที่ยวแรก หลังจากนั้นจะออกทุกชม. ค่ารถ 100 บาทครับ

    มีสมาชิกอีกกลุ่มหนึ่งอยู่แถว วัชรพล รามอินทรา คงจะนำรถส่วนตัวมากันเอง

    สำหรับจ.จันทบุรี ชลบุรี พัทยา ช่วยแจ้งด้วยครับมีใครอยู่บนเส้นทางนี้หรือไม่ หากใครมีรถช่วยแจ้งด้วยครับจะได้นัดพบและมาพร้อมกันเลย

    และใครที่มาตามมาสมทบผมจะเก็บตกให้ครับ ขอให้แจ้ง เวลาที่จะเดินทาง และจำนวนคนด้วย

    วันอาทิตย์นี้ผมจะเก็บภาพวัดป่าเขาล้อมมาให้ชมกันครับ<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("2124367")</script> [​IMG] [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  4. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +939
    ขอโทษ ทุกท่านด้วยนะคะ พอดีย่าของสามีเพิ่งเสียชีวิต กำหนดการฌาปนกิจวันเสาร์นี้พอดี ได้ฟังไฟล์เสียงของคุณคณานันท์แล้ว รู้สึกอยากไปฝึกมากจริงๆ แต่ก็ต้องมีเหตุให้ไปไม่ได้จนได้

    ทีนี้ อยากจะถามว่า ถ้าเราฟังไปด้วยฝึกตามเสียงของคุณคณานันท์ด้วย จะมีผลเสมอกันไหมคะ
     
  5. phonsiri

    phonsiri Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +70
    โมทนาด้วยค่ะ ถ้าได้วาระคงมีเหตุให้ได้ไปร่วมด้วยอีก 3 คนค่ะ
     
  6. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ขอให้ทุกท่านที่เข้าร่วมอบรมสมาธิ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
    ขอให้ทุกท่านเจริญขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ :)
     
  7. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านได้กระทำและผู้ที่สนใจกับการปฏิบัตครับ สาธุ
     
  8. Namo1

    Namo1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2009
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +26
    โมทนา สาธุค่ะ อยากไปร่วมด้วยจัง แต่อยู่ต่างประเทศ คิดว่ากลับไปไทยจะลองไปหาสถานที่ฝึกสมาธิบ้างค่ะ
     
  9. city

    city เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +627
    วันนี้ผมขอเข้ามาสรุปถึง ผลการจัดอบรมการฝึกสมาธิในโครงการ “พัฒนาจิต สู่สัมมาฯ” ที่วัดป่าเขาล้อม บ้านห้วยนา ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2552
    โดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 9.15 น.โดยมีพี่เล็กและทีมงานสองท่านคือ นัทเดชและนากามูระรวมผมด้วยเป็นสี่คน เดินทางไปสมทบกับคุณจิรภัทรและคุณแอนที่ Lotus พนมสารคามเวลาประมาณ 11.00 น. พอดีคุณจิรภัทรเป็นเจ้าถิ่นรู้จักเส้นทางไปวัดเลยเดินทางไปก่อน(เพราะตอนแรกว่าจะรอคุณอำนาจ) คุณอำนาจจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมารับ เดินทางถึงวัดเวลาประมาณ 13.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงรอผู้อบรมที่เดินทางมายังไม่ถึง
    DSCF5316.JPG
    ก่อนอื่นขอขอบคุณแม่ครัวและทีมงาน ที่ทำให้เรามีอาหารทานกันตลอดหลักสูตร โดยไม่เหนื่อยในการประกอบอาหาร
    ขอขอบคุณท่านอาจารย์ใหญ่และคุณอำนาจที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการติดต่อประสานงานจนทำให้หลักสูตรและการอบรมนี้สำเร็จและผ่านพ้นไปด้วยดี
    DSCF5320.JPG
    และขอขอบคุณคุณจิรภัทร พี่ชายที่ใจดี นำเครื่องดื่มต่างๆมาเลี้ยงและบริการแก่ทีมงานและคณะผู้ร่วมอบรม ขอโมทนาด้วยนะครับ

    ต่อไปเป็นภาพบรรยากาศในโรงอาหารเล็กๆที่ทำให้ผู้ร่วมอบรมอิ่มทุกครั้งที่เข้ามา
    DSCF5317.JPG

    DSCF5318.JPG


    ต่อไปเป็นภาพศาลาที่ทางคณะและผู้ร่วมอบรมได้ใช้ปฏิบัติธรรมกันตลอดสองวันหนึ่งคืน
    DSCF5319.JPG

    ภาพห้องน้ำที่พวกเราได้ใช้กัน ถึงแม้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะไฟติดไม่ครบทุกห้อง และดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่นักเพราะไม่ได้ใช้กระเบื้องปูทั้งห้องทำให้รักษาความสะอาดยากไปนิดหนึ่ง คุณผู้หญิงคงไม่ชอบกันเท่าไหร่แต่ต่อไปถ้าได้ใช้สถานที่นี้บ่อยๆ หรือใครที่คิดจะบูรณะห้องน้ำหรือคิดจะทำความสะอาดหรือปรับปรุงห้องน้ำเพื่ออานิสงฆ์วิหารทานและทำให้มีลูกง่ายสำหรับคนที่มีลูกยากหรือยังไม่มีก็เชิญได้นะครับ คงจะได้มีโอกาสปรับปรุงและบูรณะกันต่อไป
    DSCF5322.JPG

    ต่อไปเป็นภาพที่พี่เล็กกล่าวเปิดการฝึกอบรมในศาลาต่อคณาจารย์และผู้ร่วมอบรมที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้ โดยมีครูอาจารย์ 16 ท่าน รวมทั้งท่านสมาชิกเวปและทีมงาน 13 ท่าน(รวมพี่เล็กด้วย) เป็นผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้ประมาณ 29 ท่าน ในช่วงแรกระหว่างรอทีมคุณอำนาจมาสมทบ พี่เล็กได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ ที่มาที่ไปของโครงการที่ได้เปิดการฝึกอบรมสมาธิในครั้งนี้ ตลอดจนการนำสมาธิไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและการเรียนการสอนต่อคณาจารย์ รวมทั้งเป้าหมายในการปฏิบัติธรรมหรือการทำสมาธิ ซึ่งนอกเหนือจากการทำสมาธิเพื่อหวังให้ใจสบาย อันจะส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และการแสดงออกเช่นความโกรธจะน้อยลง คลื่นและพลังจิตที่ส่งไปกระทบยังลูกศิษย์จะทำให้เราสามารถถ่ายทอดความรู้ไปให้ลูกศิษย์ได้ดีกว่า การเรียนของเด็กก็จะดีขึ้น หลังจากนั้นพี่เล็กก็ได้สอนถึงการใช้พลังจิตในการตัดกิ่งไม้โดยใช้กระดาษทิชชู่ ซึ่งเทคนิคอยู่ที่พลังจิตและพลังความเชื่อมั่นว่ากระดาษทิชชู่เป็นมีด ส่วนกิ่งไม้เป็นเพียงแค่วัตถุที่อ่อนมากๆเช่นเต้าหู้ สามารถที่จะตัดให้ขาดได้โดยง่าย เริ่มแรกพี่เล็กสาธิตให้ดูก่อนครับ ในรูปแรกพี่เล็กกำลังรวมรวมพลังให้จิตตั้งมั่นและเชื่ออย่างที่กล่าวมาแล้วครับ
    DSCF5329.JPG

    ลงพลังแล้วนะครับ
    DSCF5332.JPG

    DSCF5330.JPG

    กิ่งไม้ขาดไปแล้วครับ
    DSCF5331.JPG

    ผลงานครับ หลังจากนั้นก็ให้ลองทำกันครับ มาดูกันครับว่ามีใครบ้าง
    DSCF5333.JPG
    DSCF5334.JPG
    DSCF5335.JPG
    DSCF5337.JPG
    DSCF5339.JPG


    ในครั้งแรกยังไม่มีใครตัดขาด พี่เล็กต้องแนะนำเทคนิคให้ก่อนครับ
    หลังจากที่ทีมคุณอำนาจมาสมทบ ก็เริ่มอบรมสมาธิกันต่อครับ

    วันนี้ผมขอ update ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF5324.JPG
      DSCF5324.JPG
      ขนาดไฟล์:
      838.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCF5325.JPG
      DSCF5325.JPG
      ขนาดไฟล์:
      832.3 KB
      เปิดดู:
      57
    • DSCF5327.JPG
      DSCF5327.JPG
      ขนาดไฟล์:
      827.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • DSCF5340.JPG
      DSCF5340.JPG
      ขนาดไฟล์:
      826.2 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCF5341.JPG
      DSCF5341.JPG
      ขนาดไฟล์:
      864.9 KB
      เปิดดู:
      55
  10. city

    city เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +627
    หลังจากที่ทีมคุณอำนาจมาสมทบ ก็เริ่มอบรมสมาธิกันต่อครับ

    ในช่วงแรกพี่เล็กได้พูดถึงเรื่อง สมถะและวิปัสสนาญาณ โดยกล่าวว่า สมถะเมื่อปฏิบัติได้แล้วจะเป็นแรงและกำลังให้กับจิตหลังจากนั้นจึงใช้กำลังนี้มาพิจารณาให้เกิดปัญญามองเห็นความเป็นจริงในอริยสัจสี่

    วัตถุประสงค์ในการฝึกสมาธิ เช่น ทำให้ใจสบาย สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เพื่อการเรียนรู้ เพื่อดูแลรักษาสุขภาพและดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ฯลฯ และสุดท้ายคือการฝึกเพื่อเป้าหมายสูงสุดในทางพุทธศาสนา คือ เพื่อความหลุดพ้น การเข้าถึงความดีและมีความสุขในทางโลก ตลอดจนมีสุขคติภูมิเป็นที่ไป ซึ่งการเข้าถึงความดีของแต่ละบุคคลไม่เสมอกันแต่จะทำให้แต่ละคนมีกำลังใจและความดีสูงขึ้นเรื่อยๆ

    การทำสมาธิ ก็จะมีตั้งแต่ ฌาน 1 ถึง ฌาน 4 เราจะเน้นฌาน 4 เป็นสำคัญ ตัวชี้วัดว่าเราได้ฌาน 4 คือ เมื่อจิตมีความสงบ ลมหายใจจะยิ่งเบาและละเอียด ไปจนถึง หยุดการหายใจ ทำไมเมื่อจิตเข้าถึงสมาธิคือ ฌาน 4 แล้วจึงหยุดหายใจ กล่าวคือ เมื่อร่างกายเราเป็นสมาธิ การทำงานของร่างกายและสมองจะทำงานช้าลง การใช้พลังงานในเซลล์ก็จะน้อยลง คือกระบวนการเมตาบอลิซึม ก็จะช้าและลดน้อยลง เพราะร่างกายต้องการอากาศและออกซิเจนเพียงเท่านั้น จิตจะตั้งมั่นขึ้น

    ส่วนการปฏิบัติเพื่อต้องการๆหลุดพ้นในทางพุทธศานานั้น ก็มี 3 หลักสูตรให้แต่ละท่านเลือกดังนี้
    1.พุทธภูมิ เป็นหลักสูตรที่มีไว้สำหรับคนที่ต้องการที่จะเป็นพระพุทธเจ้าซึ่งต้องบำเพ็ญบารมีทั้ง 30 ทัศน์ให้ครบถ้วน โดยแบ่งได้ 3 ประเภท ตามพระบารมีที่ได้ทรงสร้างสมอบรมมา คือ
    พระปัญญาธิกะพุทธเจ้าต้องสร้างพระบารมีนานนับเป็นเวลาได้ 4 อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป
    พระสัทธาธิกะพุทธเจ้าต้องสร้างพระบารมีนานนับเป็นเวลาได้ 8 อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป
    พระวิริยาธิกะพุทธเจ้าต้องสร้างพระบารมีนานนับเป็นเวลาได้ 16 อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป
    นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ต้องการสร้างบารมีเป็นพิเศษ เช่น ต้องการเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก คือ สมเด็จองค์ปฐม หรือต้องการเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์สุดท้าย คือ เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งนอกจากต้องบำเพ็ญบารมีทั้ง 30 ทัศน์ให้ครบถ้วนแล้ว วิชาหรือหลักสูตรต่างๆในพระพุทธศานาจะต้องเรียนและรู้จนหมด เช่น กรรมฐานทั้งสี่สิบกอง สมาบัติแปด มหาสติปัฎฐานสี่ พรหมวิหารสี่อย่างละเอียด วิปัสสนาญาณ ฯลฯ เพราะจะได้รู้และสอนคนอื่นได้
    2.พระปัจเจกพุทธเจ้า ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองเช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จมาตรัสรู้ในคราวที่โลกว่างจากพระพุทธศาสนา แต่ไม่ประกาศพระศาสนา
    3.สาวกภูมิ คือ สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ มี 4 แบบด้วยกันคือ
    แบบที่ 1 สุกขวิปัสสโก แบบนี้ไม่มีความเป็นทิพย์ของจิต ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ไม่สามารถเห็นสวรรค์ เห็นเทวดา เห็นพรหมโลกได้ ไม่สามารถจะไปได้ แต่ว่ามีฌานสมาบัติได้ เป็นพระอริยเจ้าได้ ไปนิพพานได้ ต้องได้ฌาน 4 ในอานาปานสติ
    แบบที่ 2 เตวิชโช แบบนี้สามารถเห็นสวรรค์ นรก เห็นพรหมโลก หรืออะไรก็ได้ทั้งหมด แต่ไปไม่ได้ ได้แต่เห็นอย่างเดียว คือได้วิชชา 3 คือ 1. ระลึกชาติได้ 2.รู้ว่าสัตว์ที่ตายไปแล้ว และเกิดมานี้ ตายแล้วไปไหน ก่อนเกิดมาจากไหน 3. รู้จักทำอาสวกิเลสให้สิ้นไป โดยต้องได้ฌาน4 ในกสิณกองใดกองหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับทิพจักขุญาณ
    แบบที่ 3 ฉฬภิญโญหรืออภิญญาหก สามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆได้และไปไหนไปได้ตามใจชอบด้วยกายเนื้อได้ จะไปสวรรค์ ไปพรหมโลก ไปนิพพาน ไปนรก เปรต อสุรกาย ไปได้หมด ประเทศต่าง ๆ ดวงดาวต่าง ๆ โดยต้องได้ฌาน 4 ครบในกสิณทั้ง 10 กองและรู้วิธีในการแสดงฤทธิ์
    แบบที่ 4 ปฏิสัมภิทัปปัตโต ทำได้เหมือนฉฬภิญโญมีความสามารถคลุมหมด คลุมสุกขวิปัสสโก วิชชาสามแล้วเอาอภิญญาหกเข้าไว้ด้วย มีความรู้ฉลาดมาก รู้ภาษาต่างๆและทรงพระไตรปิฏกครบหมด คือว่า ฉลาดในธรรมะขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกอย่าง เรียกว่า " ปฏิสัมภิทาญาณ " ต้องได้กสิณทั้ง 10 กองและอรูปฌาน

    เมื่อรู้ภาพรวมแล้วก็ให้เลือกวิสัยในการปฏิบัติ ว่าเราชอบแบบไหนแล้วมุ่งเน้นในการปฏิบัติไปตามนั้น
    เป้าหมายต่อไปคือ ต้องได้ ฌาน 4 จากอานาปานสติกรรมฐาน คือให้จิตหยุดนิ่งจนลมหายใจหยุด

    หลังจากนั้นพี่เล็กเริ่มการฝึกอานาปานสติ
    -จับลมหายใจ 1 ฐาน คือให้รู้เฉพาะที่ปลายจมูก
    -จับลมสามฐาน คือ จมูก อก ท้อง
    -จับลมหายใจตลอดสาย คือจับลมให้เหมือนกับเส้นไหมพลิ้ว ผ่านจมูก อก ท้อง พลิ้วเข้าไป แล้วจับลมจากท้อง ผ่านอก ผ่านจมูกออกไป แล้วย้อนกลับเข้ามาใหม่ จนรู้สึกใจสบายเบาโล่ง

    เมื่อจับลมหายใจได้ทั้งสามแบบแล้วให้อธิษฐานกำกับทุกแบบว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้และเข้าถึงอานาปานสติลมปราณตลอดสาย(ลมหนึ่งฐานหรือลมสามฐาน)นี้ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ๆต้องการในทุกๆชาติ ตราบเข้าถึงซึ่งนิพพานด้วยเทอญ ”

    วันนี้ผมขอ update แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าใครจะมาเสริมหรือสรุปช่วยกันก็ยินดีนะครับ ผมคงเก็บไม่หมด หรือจะรอ file เสียงจากพี่เล็กอีกทีก็ได้นะครับ แต่ถ้าใครได้ฟัง file เสียงในคราวที่ฝึกที่ กทม.ก็คล้ายกันครับ แต่ที่นี่เป็นครูซะเยอะและเวลาน้อยในส่วนของกสิณและฌานแปด พี่เล็กจะไม่ได้สอน แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
     
  11. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    สาธุ สาธุ ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านขอรับ

    ข้าพเจ้าขออโสหิกรรมต่อพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ทำให้ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ ข้าพเจ้าขออภัยในสิ่งที่ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้บุญกุศลที่เกิดขึ้นแผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และ ขอให้สัตว์โลกและข้าพเจ้าบรรลุนิพพานโดยเร็ว<!-- google_ad_section_end -->
     
  12. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณและอนุโมทนากับทีมงานทุกท่าน คณะครูอาจารย์ ผู้ประสานต่่างๆ ตลอดจนเจ้าอาวาสวัดป่าเขาล้อม จ.ฉะเชิงเทรา ที่ทำให้การสอนสมาธิในครั้งนี้ราบรื่นและสำเร็จไปได้ด้วยดี และสามารถยังผลที่ได้จากการสอนครั้งนี้น้อมนำไปปฎิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อความศานติสุข สงบร่มเย็นในสังคม ตลอดจนช่วยบรรเทาภัยพิบัติให้บางเบาลงไม่เกินกฎของกรรม _/\_
     
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    30/05/52
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    31/05/52

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]







    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ภาพในการจัดกิจกรรมของภาคตะวันออกครับ

    โดยมีคณะครูจากโรงเรียนสิริวัณวลี 3 เข้าร่วมฝึกสมาธิด้วย

    โดยเราได้มีโอกาศร่วมทำบุญถวายพระบรมสารีริกธาตุ หนังสือธรรมมะและเหรียญพระผงทำน้ำมนต์ให้พระอาจารย์ด้วย ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทศก์ เทศรังสี ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030150.JPG
      P1030150.JPG
      ขนาดไฟล์:
      428 KB
      เปิดดู:
      52
    • P1030152.JPG
      P1030152.JPG
      ขนาดไฟล์:
      386.1 KB
      เปิดดู:
      61
    • P1030157.JPG
      P1030157.JPG
      ขนาดไฟล์:
      435.1 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1030162.JPG
      P1030162.JPG
      ขนาดไฟล์:
      428.3 KB
      เปิดดู:
      59
    • P1030172.JPG
      P1030172.JPG
      ขนาดไฟล์:
      474.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • P1030174.JPG
      P1030174.JPG
      ขนาดไฟล์:
      399.3 KB
      เปิดดู:
      57
    • P1030175.JPG
      P1030175.JPG
      ขนาดไฟล์:
      364.8 KB
      เปิดดู:
      53
    • P1030179.JPG
      P1030179.JPG
      ขนาดไฟล์:
      472.7 KB
      เปิดดู:
      59
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    พระพุทธรูปที่ทางวัดแกะจากไม้ตะเคียนทองอายุนับร้อยปีครับ

    จากนั้นก็มาเรียนรู้การอธิฐานจิตลูบฆ้องกัน ดังบ้าง ไม่ดังบ้างตามวาระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030188.JPG
      P1030188.JPG
      ขนาดไฟล์:
      471.6 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1030189.JPG
      P1030189.JPG
      ขนาดไฟล์:
      471.2 KB
      เปิดดู:
      50
    • P1030194.JPG
      P1030194.JPG
      ขนาดไฟล์:
      317.6 KB
      เปิดดู:
      51
    • P1030207.JPG
      P1030207.JPG
      ขนาดไฟล์:
      382.5 KB
      เปิดดู:
      67
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สำหรับการสอนสมาธิก็มีการปูพื้นฐานสมาธิเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูง และการเจริญเมตตา ในวันแรก

    ส่วนช่วงกลางคืน มีบางท่านที่สนใจ ได้เรียนเรื่องการเสกปรอทเพื่อการรักษาโรค ซึ่งก็ได้ผลเนื่องจาก น้องที่เป็นโรคเก๊าส์ อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันรุ่งขึ้นเราได้พูดคุยเรื่องงานภาพรวมเรื่องการรวมกลุ่มในแต่ละภาค มีการแจกวัตถุมงคลเพื่อการกระจายต่อไปในพื้นที่ ได้กลุ่มจังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา

    ส่วนช่วงเรียนสมาธิ เรานำเอากำลังจากสมาธิสมถะที่ฝึกในวันวานมาทบทวนเป็นการเจริญวิปัสสนาญาณในฌาน โดย การตัดสังโยชน์สิบทีละข้อ จนครบ


    หลังทานอาหารกลางวัน

    เราก็ให้โอกาสทกคนที่ร่วมกิจกรรม มาเปิดใจ ในสิ่งที่ได้รับและประโยชน์ของสมาธิที่จะนำไปใช้ครับ ซึ่งหลายท่านก็ได้ประโยชน์ไม่น้อยเป็นผลที่ปรากฏขึ้นแก่จิตเราเอง ว่า จิตสงบขึ้น มีพลังจิตและความเชื่อมั่นสูงขึ้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030213.JPG
      P1030213.JPG
      ขนาดไฟล์:
      307.4 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1030215.JPG
      P1030215.JPG
      ขนาดไฟล์:
      384.1 KB
      เปิดดู:
      47
    • P1030216.JPG
      P1030216.JPG
      ขนาดไฟล์:
      395.6 KB
      เปิดดู:
      64
    • P1030217.JPG
      P1030217.JPG
      ขนาดไฟล์:
      385.4 KB
      เปิดดู:
      61
  19. city

    city เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +627
    มาต่อกันครับ
    ต่อมาพี่เล็กสอนให้ ล้างลมหยาบ จำอารมณ์ละเอียด ดังนี้
    ให้นั่งสบายๆหายใจเข้าช้าๆลึกๆจนรู้สึกว่าลมหายใจลงไปถึงท้องจนเต็มและกักลมหายใจไว้สบายๆ ไม่ใช่กลั้นมาก กักไว้ สบายๆ ในใจภาวนา พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ วนไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วก็ปล่อยลมหายใจออก แล้วสูดลมเข้าไปใหม่ช้าๆ ภาวนา ใหม่จนรู้สึกไม่ไหว ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า เราจะกักและเก็บลมได้นานขึ้น ผลที่ได้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของปอด รวมทั้งเป็นการเพิ่มพลังลมปราณ (ทำการกักลมไปเรื่อยๆประมาณ 10- 20 ครั้งขึ้นอยู่กับแต่ละคนหรือพระท่านสั่ง) จากนั้นเปลี่ยน จากที่เราเป็นผู้บังคับลม หายใจ เปลี่ยนมาเป็น ว่าเราเป็นผู้ติดตามลมหายใจ ทิ้งคำภาวนาได้ในช่วงนี้ เราในที่นี้คือจิต ร่างกายมันอยากจะหายใจอย่างไรปล่อยมัน งานของจิตอย่างเดียวติดตามดูลมตลอดทั้งสาย ลงไปถึงไหนเราเห็นอาการหมด สั้นก็รู้ว่าสั้น ยาวก็รู้ว่ายาว ลมหายใจจะค่อยๆละเอียดขึ้น ละเอียดขึ้น และค่อยๆช้าลงจนแทบหายไปเหลือการหายใจเข้าออกเพียงแค่เมล็ดถั่ว หรืออย่างหยาบเท่าปลายนิ้วก้อย
    สภาพร่างกายเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ จิตใจแช่มชื่นและมีสติเต็มรอบ มีสภาวะเหมือนดวงจิตลอยอยู่อย่างเดียวในที่เว้งว้างว่างเปล่า บางคนลมหายใจหายไป ก็ไม่ต้องสนใจปล่อยมัน สนใจอยู่กับจิตที่หยุดนิ่งนี้ไม่ต้องภาวนาอีก ให้จำอารมณ์ใจ ความรู้สึก และเสวยสุขในฌานให้เต็มที่ จนพอใจ ซักระยะ แต่อย่าให้นานเกินไป จากนั้นถอนจิตจากสมาธิช้าๆ

    โดยการหายใจเข้าช้าๆลึกๆ สามครั้งครั้งที่ 1 ภาวนา พุทธโธ 2 ธัมโม 3 สังโฆ จากนั้น ค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆครับจิตจะค่อยๆถอนจากฌานโดยลอยตัวขึ้นมาข้างบน จะมีความรู้สึกเหมือนเรากลับมาสู่โลก จะรู้สึกงง แปลกๆ ถอนจิตแล้วพี่เล็กให้อธิฐานกำกับครับ จากนั้นให้ใช้จิตเข้าสู่สภาวะ เดิมที่มีอาการนิ่ง ลมหายใจแค่นิดเดียวหรือไม่หายใจ ใหม่ทันทีครับ ในสภาพลืมตาครับ และขอให้ทุกท่านจำอารมณ์ใจขณะนี้ไว้ ซึ่งพี่เล็กจะเรียกว่า"ลมสบาย" มาจากลมหายใจที่มีอารมณ์จิตสบายแล้วให้อธิษฐานในฌานว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งฌานนี้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอิริยาบท ที่ต้องการเป็นวสี ติดตัวข้าฯทุกชาติจนถึงซึ่งพระนิพพาน"

    จากนั้นพี่เล็กให้อธิษฐานขอขมาพระรัตนตรัย,อธิษฐานขอขมาหรือขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร,อธิษฐานขออโหสิกรรมให้แก่ สรรพสัตว์ทั้งหลายเป็นอภัยทาน,อธิษฐานมหาโมทนา,อธิษฐานเรียกบารมีเก่าและสุดท้ายคือ การแผ่เมตตาอัปปมาณฌาน(ผมขออนุญาตคัดลอก มาจากกระทู้เก่านะครับเพราะจำได้ไม่หมด)

    จับอารมณ์สบายที่ได้ฝึกมาแล้วจนกระทั่งรู้สึกว่าจิตใจของเราเบาสบาย สงบ ชุ่มเย็น สักครู่ แล้วให้นึกถึงพระพุทธรูปที่เรารักเราพอใจขึ้นมาในใจของเรา หนึ่งองค์ อาจเป็นพระพุทธชินราช พระแก้ว หรือพระพุทธรูปที่บ้านเราก็ได้ ใช้จิตของเรามองพระพุทธรูปในใจของเราอย่างละเอียด จากนั้น ลองนึกให้พระพุทธรูปท่านค่อยๆใสขึ้น ขาวขึ้น ช้าๆทีละน้อย และมีแสงสว่างเปล่งออกมาจากองค์พระท่าน จนมีประกายระยิบระยับวับวาวราวกับเพชร ที่สวยงาม ยิ่งองค์พระท่านสวยแพรวพราวมากเท่าไร จิตใจของเราก็ยิ่งรู้สึกแช่มชื่นเบิกบานยิ่งขึ้น จิตเต็มไปด้วยความอิ่มเอิบใจ จากนั้นคิดว่า มีตัวเราอีกคนกำลังกราบที่ตักของพระพุทธรูป แล้ว อธิษฐานขอ ให้พระบารมี ของพระพุทธองค์ท่านมาสถิตเป็นหนึ่งเดียว กับ พระพุทธรูปในจิตของเรา ด้วยความศรัทธามั่นคง ไม่ลังเล จากนั้น ขอขมาพระรัตนไตยว่า “กรรมใดที่ข้าพเจ้าที่ประมาทพลั้งพลาดต่อพระรัตนไตรและสิ่งศักด์สิทธ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะมีเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ไม่ว่าจะเป็นจะในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขอกราบขอขมาลาโทษต่อพระรัตนไตรและสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ขอให้ท่านได้โปรดงดโทษที่จะพึงเกิดแก่ข้าพเจ้า ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ”

    จากนั้นให้กายในจิตกราบพระพุทธเจ้าท่าน สำหรับท่านที่ได้มโนฯให้ใช้กำลังใจ แยกอาทิสมานกาย
    ตามกำลังสูงสุด คือ พระวิสุทธิเทพ ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้า และ พระอริยสงฆ์ บนพระนิพพานแล้ว
    อธิฐานขอขมาได้เลยครับ ให้ทุกท่านอธิษฐานต่อไปว่าขอให้พระพุทธเจ้าท่านเมตตาเป็นประธาน และ
    พยานให้แก่ข้าพเจ้าในการอธิษฐานดังต่อไปนี้ " ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร และ บรรดาสรรพ
    สัตว์ทั้งหลาย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ละเมิด ต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ทางใจ ก็ดี
    ในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และมีเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ขอให้ท่านเจ้ากรรม
    นายเวร และ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้โปรดอโหสิกรรมงดโทษ ที่พึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    บุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่ อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และ ที่จะบำเพ็ญต่อไป
    ในอนาคต ข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านทั้งหลายได้โมทนา และ มีส่วนร่วมในบุญกุศล
    เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับทุกประการเทอญ "

    การขอขมากรรมนี้จะช่วยให้ การจองเวรกันลดลง หรือ อาจจะ สลายตัว เป็น โมฆะกรรม ได้ และ ส่งผลให้
    ชีวิตเราราบรื่น ปลอดโปร่งสะดวกขึ้น เป็นการช่วยลด สภาวะกรรมรวมของโลก ที่จะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติ
    ลดลง และในส่วนตัวบางท่านที่มีเจ้ากรรมนายเวร

    ยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระด้วยใจที่สบายนะครับ แล้ว อธิษฐานต่อว่า " ข้าพเจ้านับแต่นี้จะมีแต่จิตใจ
    ที่ใสสะอาดบริสุทธ์ เต็มไปด้วยจิตใจที่ดีงาม เปี่ยมไปด้วย ความเมตตาต่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้า
    ขออโหสิกรรม ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใดข้าพเจ้าขออโหสิกรรม
    ให้กับเขาเหล่านั้นไม่ว่าเขาจะทำกรรม ล่วงเกินข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา ใจ ในอดีตก็ดี
    ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นขอให้เขาประสพ
    แต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ "

    คำอธิฐานนี้มีผล 2 ประการ คือ 1. เป็นการให้อภัยทานอันเป็นทานสูงสุด ใช้กำลังใจสูงสุดในการให้ครับ
    แต่ คุณก็ทำได้ จิตก็จะยิ่งเบาขึ้น 2. คุณทุกคนบนโลกใบนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนทำให้เกิดกรรมแห่ง
    การอาฆาตล้างแค้นกันและกันสะสม จนเกิดภัยพิบัติครั้งนี้ แปลกนะครับที่คนเรากลัวเจ้ากรรมนายเวรกัน
    เวลาทำบุญกรวดนำอุทิศส่วนกุศลให้ แต่กลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่า " เรานี่ละตัวดี เป็นเจ้ากรรมนายเวรของ
    ชาวบ้านชาวช่องเขา "เวลาไป โกรธ อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้นคนอื่นเขา การสลายกรรมตรงนี้ส่งผลให้
    สภาวะกรรมรวมของโลกเบาบางลงครับ และการที่ตัวเจ้ากรรมนายเวรตัดสินใจลบบัญชีกรรมอโหสิให้
    เป็นโมฆะกรรม นั้นเป็นเรื่องที่ ง่ายกว่าการที่จะไปออนวอนขอให้ เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
    ให้ครับ เพราะบางคนก็ไม่ยอมง่ายๆครับ ต้องใช้เวลาและทำให้บ่อยๆครับ

    เมื่อทุกท่านทำการอธิษฐานจิตถึงตอนนี้อารมณ์จิตของทุกท่านจะเบาสบายละมีความสุขมาก แต่บุญกุศลและสิ่งที่จะทำให้ทุกดวงจิตมีความสุขมากกว่านี้ก็ยังมีอยู่
    ประคองจิตให้อยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าตั้งจิตให้เบาสบายและมั่นคงอธิษฐานว่า
    " ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานระลึกถึง บุญกุศล บารมีคุณงามความดี และจิตใจที่ดีงาม ของพระพุทธเจ้า
    ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย
    เทพพรหมเทวาทั้งหลาย สิ่งสักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ตลอดจนความดีของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วมหาอนันต
    จักรวาลที่ได้บำเพ็ญมา นับตั้ง แต่อดีต ปัจจุบัน และที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อไปในอนาคต
    ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา สัมมาทิษฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนา
    ในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้จงส่งผล
    เป็นกระแสบุญอันบริสุทธ์หลั่งไหลสู่ดวงจิต ของข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ "
    ขอให้ทุกท่านฉลาดในการทำบุญ ฉลาดใน การโมทนา ฉลาดในการ การอธิฐาน
    ฉลาดในการ สร้างบารมี ครับ พระท่านให้พรมาครับยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระนะครับ

    อธิษฐานต่อไปว่า
    " ข้าพเจ้าขอตั้งจิตระลึกถึง บุญบารมี คุณความดี สรรพวิชาและ สายสมบัติ ที่ข้าพเจ้าได้สร้าง ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติและได้บำเพ็ญมา ( เพื่อปรารถนาสัมมาสัมโพธิญาณมีพระนิพพานเป็นที่สุด ) นับตั้งเเต่ อดีต ปัจจุบัน และจะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา สัมมาทิษฐิให้ มารวมตัวกัน ณ บัดนี้ เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ใช้สร้างบุญ สร้าง บารมี เพื่อความรุ่งเรืองในทั้ง ทาง โลก และ ทางธรรม มีกำลังใจ กำลังบารมีทั้ง 30 ทัศน์ ได้ช่วยตนเองและสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ประสพแต่ความสุข พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานด้วยเทอญ "

    ขั้นตอนนี้เป็นการเรียกบารมีเก่าที่เราอาจหลงลืมหรือตกหล่นไปในอดีตชาติให้กลับมาครับ
    จะช่วยให้ฝึกวิชาและสมาธิได้ง่ายขึ้น รวมทั้งบุญเก่าด้วยครับให้มาส่งผลเร็วขึ้น
    ต่อไปเป็นวิชาสำคัญในการพลิกจิตให้มี สภาวะจิตที่บริสุทธ์ยิ่งขึ้นครับ คือ การแผ่เมตตาอัปปมาณฌาณ

    จิตจับภาพพระพุทธเจ้าให้ใสเป็นเพชร ครับจากนั้นนึกกราบขอให้ท่านมาลอยอยู่ เหนือหัว ของเรา แล้ว กำหนดจิตของเราให้" รู้สึก " ถึง บุญกุศลความดีงามความงดงาม ความชุ่มใจ ความอิ่มเอิบใจ ความปลื้มปิติ ความรัก ที่ บริสุทธ์ ความตื้นตันใจ ความรักที่เรามีต่อพ่อแม่ ที่มี ต่อพระเจ้าอยู่หัวในวัน มหาปิติ 60 ปี ให้ความรู้สึกเป็นสุขปิติอิ่มเอิบใจนี้เติมให้เต็มหัวใจของเรา นึกถึง ภาพดอกไม้ที่ค่อยๆแย้มกลีบด้วยความงดงาม เมื่อจิตใจแย้มยิ้มชื่นบานเต็มหัวใจ กายเราก็ยิ้ม เบิกบานมีความสุขอย่างที่สุด เรากำหนดจิตว่า บุญ คือ ความสุข ที่ข้าพเจ้าปรากฏณ บัดนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศความสุข ส่วนกุศลนี้ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั่วอนันตจักรวาล ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้ประสพแต่ความสุขพ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ แล้วค่อยๆทำความรู้สึกว่าตัวเราสว่างมี แสงรัศมีสีทอง อันเป็นรัศมีแห่งความรัก ความสุข ความเมตตา ที่เรามีให้แก่สรรพสัตว์ไม่มีวันจบสิ้น ให้แสงแห่งความเมตตานี้ แผ่ส่องสว่างปกคลุมห้องที่เราอยู่นี้ สว่างเรืองรอง จิตของสรรพสัตว์ดวงใดได้สัมผัส กับ รัศมี นี้ก็ให้มีความสุข สงบ ชุ่มเย็นไปด้วย จิตเรา ยิ่งเปร่งรัศมีเท่าไหร่ จิตเรา ก็ยิ่ง มีความสุขชุ่มเย็นยิ่งขึ้น แผ่รัศมีสีทองระยิบระยับค่อยๆปกคลุมบ้าน หรืออาคารที่เราอยู่ทั้งหลังครับ ค่อยๆทำใจเย็นๆ จากนั้นแผ่ปกคลุมอำเภอ จังหวัดที่คุณอยู่ ประคองใจให้ชุ่มเย็นอิ่มเอิบตลอดเวลานะครับ แล้วค่อยๆแผ่ให้กว้าง จนคลุมประเทศไทย จนมองเห็นเป็นขวานสีทองแล้วอธิฐานให้ประเทศไทยจงสงบสุขร่มเย็น ผู้คนจิตใจดีงาม

    จากนั้น แผ่รัศมีแห่งความสุขนี้ปกคลุมโลกจนเป็น สีทองสว่างไสว อธิฐานว่า " ขอให้โลกนี้จงสงบสุขร่มเย็น " แล้ว จึงแผ่รัศมีสีทองออกไปทั่วสุริยจักรวาล ไม่มีที่สิ้นสุดจนออกไป ยังอนันตจักรวาลไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ จิตเรายิ่งแผ่รัศมีเท่าไหร่จิตเรายิ่งแย้มยิ้มอิ่มเอิบใจยิ่งให้มากมายเท่าไหร่ จิตเราก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ประคองอารมณ์ใจที่แสนปิติสุขนี้ไว้ตามที่ต้องการครับ ส่วน พุทธภูมิ และ ผู้ที่ได้มโนฯ ให้ประคองจิตไว้แล้ว แผ่รัศมีแห่งความเมตตานี้จากขอบอนันตจักรวาลเข้ามาสู่ตัว แล้วแผ่ย้อนกลับออกไปใหม่ครับ

    เสร็จแล้วให้ทุกคนคิดเอาตัวเราในจิตไปกราบพระพุทธเจ้า แล้วถอนจิตออกจากสมาธิช้าๆโดยการหายใจเข้า ลึก ๆ ช้า ๆ 3 ครั้ง พร้อมภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ

    ฝึกสมาธิกันเสร็จก็ประมาณ 16.00 น. พี่เล็กให้โอกาสทุกๆคนได้สอบถามสิ่งที่สงสัยในการปฏิบัติ ผลของการปฏิบัติ แล้วไปรับประทานอาหารเย็นและอาบน้ำกันต่อ

    ช่วงกลางคืน พี่เล็กได้ทบทวนในสิ่งที่สอนตอนบ่าย และให้พิจารณาว่าเมื่อมีกำลังของสมถะกรรมฐานแล้วให้ควบวิปัสสนากรรมฐานตลอดทั้งวันไปด้วยเริ่มตั้งแต่เช้าตื่นนอน ให้เอาจิตไปกราบพระที่พระนิพพาน ก่อนล้างหน้าแปรงฟัน ให้พิจารณาให้เห็นถึงความสกปรกของร่างกาย และก่อนล้างหน้าให้ท่อง นะโมพุทธายะ ก่อนกินข้าวให้น้อมถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้าและขอพระพุทธองค์ท่านทรงเมตตาส่งธาตุทิพย์จากพระนิพพานลงมาในอาหารเพื่อขจัดสิ่งที่ไม่ดีในอาหารและเติมเต็มธาตุทั้งสี่ของเราให้บริบูรณ์จะได้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ที่เสียสละเลือดเนื้อ ร่างกาย มาให้เราได้บริโภคเป็นอาหาร และให้กำหนดรู้ลมหายใจเพื่อให้มีสติสมบูรณ์ ฯลฯ(ขออภัยด้วยครับที่เหลือ สัญญาความจำค่อนข้างลางเลือน ขอผ่านละกันครับ)

    พระอาจารย์ชาญ ได้เมตตาเล่าประวัติความเป็นมาของท่านก่อนที่จะบวช หลังบวชแล้วในขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่เทศน์ เห็นธรรม(จิตรวมเป็นเอกอัคตารมณ์) โดนกลั่นแกล้ง พิจารณาว่าร่างกายเป็นเพียงธาตุ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จฯพระบรมราชินีนาถเป็นองค์อุปถัมภ์ ความลำบากและเสียสละในการปฏิบัติก่อนจะเห็นธรรม ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ปลื้มใจและมีกำลังใจในการปฏิบัติขึ้นอีกเยอะเลยครับ เพราะผมเองปฏิบัติและลำบากไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของท่านเลย กว่าจะได้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านเห็นธรรมและผ่านความยากลำบากในการปฏิบัติมาสั่งสอนพวกเราได้ ตื้นตันใจและกราบท่านได้สนิทใจดีจริงๆ

    หลังจากพระอาจารย์ไปแล้วพี่เล็กก็ได้สอนการเสกปรอทเข้าตัวหรือสูญปรอทเข้าตัวเพื่อรักษาโรคเพราะปรอทจะมีพิษฆ่าเชื้อโรคต่างๆ มะเร็ง น้ำเหลืองที่เสีย เพราะมันชอบกินของเน่า ในบางวัดที่อยู่ตามป่า ตามเขา ผมเองก็เคยได้ยินมาว่า มันมากินน้ำเหลืองน้ำหนองในศพที่รอการเผา(ตายโหง) เปิดโลงหรือกรุที่เป็นช่องปูนเก็บศพออกมา เจอเต็มเลยครับ

    ส่วนวันสุดท้ายผมคงไม่ขอเล่าแล้วนะครับ เพราะพี่เล็กเล่าไปแล้วครับว่า นำเอากำลังจากสมาธิสมถะที่ฝึกในวันวานมาทบทวนเป็นการเจริญวิปัสสนาญาณในฌาน โดย การตัดสังโยชน์สิบทีละข้อ จนครบ ส่วนตัวผมเองไม่แน่ใจว่าหลับรึเปล่า จิตมันหายเป็นช่วงๆได้ยินเสียเป็นช่วงๆเลยขอละแล้วกันนะครับ
     
  20. พรบารมีสามสิบทัศ

    พรบารมีสามสิบทัศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +220
    อนุโมทนาสาธุ ครับคุณ city และขอขอบคุณ อ.คณานันท์ และทีมงานทุกท่านครับสำหรับการอบรมในครั้งนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...