โลกคือจุดศูนย์กลางจักวาลของธรรมชาตินับอนันตะดาราจักรวาล

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย snakejoke, 20 พฤษภาคม 2013.

  1. cleaner

    cleaner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +394
    เชื่อไหมว่าท้ายสุดก็ไม่พ้นการหาสาวกแล้วตามมาด้วยปัจจัยสนับสนุนด้วยศรัทธา
     
  2. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    คุณคิดได้แค่นั้นใช่ไหม มันเป็นความคิดที่น่าจะออกมาจากตัวเอง และคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเองเรอะครับ ผมบอกไว้ก่อนตัังแตรเปิดตาเห็นดวงอาทิตย์แล้ว มีคนถามว่าเปิดาคิดเงินไหม ถามมาเยอะมาก ผมบอกได้เลยว่าฟรี และมาบัดนี้ ผมรักษาคนมาสี่เดือนไม่เคยเรียกเงินใครเลยสักบาท สร้างกุศลเงินมันจะมาเองโดยเราไม่ต้องไปไขว่ขว้า อนึงในนี้มีไหมที่จะบอกว่าเรี่ยรายเงิน มีคนโทรมาหาผมจากกระทู้นี้เกือบสิบเขาได้แต่สิ่งดีๆไป บางคนมาหาที่บ้านแล้วจะถวายเงินทำบุญ เราสัมผัสได้ว่าเขาก็ไม่มีเลยไม่เป็นไรเก็บไว้เถอุ ผมไม่เดือดร้อนเงินนะ และไม่คิดที่จะสร้างความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ไม่มีเวลาไปทำอะไรไร้สาระ มีเหตุมีผล ช่ยคนเพื่อสร้างบารมี มีเมตตาจิต ถ้าคุณมีพลังจิตหรือมีระดับที่ไม่เหมือนคนอื่นจะสัมผัสได้ แต่ถ้าเป็นพวกชอบยุ่งและหาเรื่องไปทั่ว จากการตอบกระทู้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมโพสเลย เอาเรื่องเก่ามาตอบมาว่า ทำเพื่ออะไรครับ คนจะสร้างบุญยังจะเอามารมาขวาง คิดดีหรือยังก่อนที่จะพิมพ์โพสแต่ไม่เกี่ยวอ่า ขอความกรุณาด้วยนะครับ เรามาเพื่อช่วยสร้างช่วยแปลง ผมคิดว่าในจิตลึกๆของคุณก็ต้องการให้โลกเราเปลี่ยนแปลง ไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับผม
     
  3. cleaner

    cleaner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +394
    ก็เห็นมาแนวนี้กันเยอะก็ต้องแวะเข้ามาดูกันบ้างโปรดเข้าใจ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำแหละ แต่อามิสปัจจัยนี่กลิ่นมันหอมหวานนะ ผู้วิเศษที่ผ่านๆมาตั้งแต่ปี 2005 มาก็วนเวียนเปลี่ยนหน้ากันมาเยอะ ก็เริ่มต้นจากธรรมทานไม่แสวงหาผลประโยชน์ จนเกิดสาวก ศรัทธาให้ทำหน้ามืดไปชั่วขณะโอนเงินไปให้กันเองด้วยความสมัครใจ หรือความสงสารก็ตาม แต่ลงท้ายก็มีปัญหาจบไม่สวยซักราย อย่างว่าแหละบอกแล้วว่ากลิ่นมันหอมหวาน ถ้าใครทำดีจริงก็อนุโมทนาด้วย ถ้าไม่ดีก็กรรมใครกรรมมัน

    ความวิเศษต่างๆมันก็เป็นเรื่องของความเชื่อของแตละบุคคล อะไรที่ทำไม่ได้จริงอย่ามาโม้อายเค้าเอาแต่ของจริงมาแสดงมั่วๆไม่เอานะ

    ส่วนเรื่องชวนคนไปจ้องพระอาทิตย์นี่ขอเหอะเสียวหวะ
     
  4. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    มาด้วยว่าด้วยจินตนาการคืออะไร ทำไมคนที่มีจินตนาการมักจะรังสรรค์สิ่งที่แปลกและแตกต่างเช่นบิลเกทก็ได้สร้างความเป็นไปไม่ได้ในอดีตจนเป็นไปได้ในปัจจุบัน จะมีใครคิดถึงไหมว่าจะมีกล่องสี่เหลี่ยมที่สามารถทำอะไรทุกอย่างได้ในปัจจุบัน กาลเวลาผ่านไปมีการต่อยอด สร้างองค์ความรู้มากมายจนถึงปัจจุบันและจะก้าวหน้าต่อไปจนคนเราคาดไม่ถึงเลยล่ะว่าอะนาคตจะเป็นอย่างไร งั้นผมขอทำนายไว้ตามที่ผมสัมผัสในอีก10ปีข้างหน้าจะมี คือ มีระบบพลังน้ำที่ให้พลังมากกว่านิวเคียล์แต่ไม่ผลต่อสิ่งแวดล้อมมีผลให้พลังงานแต่จะจำกัดการทำลายคือมีเครื่องที่เร่งสร้างพลังงานแต่ไม่มีพลังทำลายล้างตัวน้ำพอเจอ ดิน ลม ไฟจะมีปฎิกิริยาที่ไม่สามารถพลังที่จะทำลาย ต่อมาอาหารเราจะสามารถสร้างคุณสมบัติของอาหารที่มีรส กิล่น สีเนื้อสัมผัสได้ตามต้องการจะไม่มีการฆ่าสัตว์เป็นอาหาร จะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารพร้อมสมบูรณ์ทานน้อยแต่มีสารอาหารสมบูรณ์โดยปริมาณการทานไม่มาก จะไม่มีคนอ้วนแลผอมคนจะหุ่นดี จะมีนวตกรรมของคอมพิวเตอร์การสื่อสาร เข้าขั้นเริ่มต้นที่มีพลังจิตมาเกี่ยวข้อง คืออาจจะเป็นยุคแรกที่คนมีพลังจิตถ่ายทอดความสามารถขยายออกไปให้คนได้มีการติดต่อนอกจากสัญญาคลื่นแม่เหล็กไฟ้ฟ้าจากโทรสับเป็นมีเครื่องมือที่ใช้จิตติดต่อ อุปกรณ์ต่างๆ จะมีแหล่งพลังงานจิ๋วแต่อยู่ได้นาน บางทีถ้าเวลาผ่านไปเกินสิบปีอาจจะมีภาพโฮลีแกรมเหมือนเครื่องซุปเปอร์คอมผิวเตอร์ที่มีในหนังที่เราเห็นสร้างภาพเหมือน3 4 มิติทำให้เราสัมผัสภาพได้เต็มระบบ การเดินทางรถไฟฟ้าพลังน้ำที่มีพลังเทียบนิวเครียวจะมีการสร้างทางคมนาคมที่ทันสมัยด้วยนะวตกรรมที่ไม่มีในโลก ถ้าในการ์ตูนก็เป็นท่อแก้วให้รถไฟพลังไอน้ำไฟฟ้าได้เดินทางไปได้เร็วไม่ต่างจากเครื่องบินคือมีระบบ ป้องกันการกระแทกระบบปรับความสมดุล การทรงตัวให้คนเหมือนยืนเฉยๆแต่เครื่อนที่ระดับเร็วมาก มีโครงข่ายสร้างทางคมนาคมเชื่อมกันทั่วโลก(เริ่มต้นสร้างในอีกสิบปี อิอิ) มีความสามารถถ่ายโอนวัตถุจากที่1ไปที่1โดยเป็นการสั่นของวัรตถุในระดับรุ่นแรงใช้มิติของพลัง ดินนำ้ลมไฟในการเชื่อมการเคลื่นไหว ทำให้ส่งเราจากที่1ไปที่1ได้ทันที คือวาร์ปจากจุดที่ไกลกันได้เริ่มต้นระยะทาง1-100กม. คือเป็นจุดเริ่มพัฒนา ทุกคนจะมีความเป็นปัญญาชนมีเมตตา วิริยะอุตสาหะ และขันติ คนเลวจะถูกควบคุม กลการโกงในทุกระบบจะค่อยหายไป ผู้นำแต่ละประเทศจะใฃมีความร่วมมือกันในทุกระดับไม่เห็นแก่ตัวมีความเป็นทศพิธราชธรรม คนจะมีการเจ็บป่วยน้อลง งานหลายอย่างจะถูกยุบและไม่มีในโลกนี้ คนจะไม่เห็นเงินเป็นสำคัญน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง ไทยจะได้ตำแหน่งผู้นำโลกอีกไม่นาน ระบบของอวกาศจะมียานที่สามารถไปดาวต่างๆในระบบสุริยะได้อันเนื่องมาจากเรามีพลังงานเชื้อเพลิงที่สามารถใช้ได้แบบอินฟินิตี้ มีการสร้างเครื่องถ่ายเทมวลสาร เครื่องแยกสสาร แะลสร้างสสารใหม่โดยอาศัยธาตุทั้งสี่ผสานกับพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ได้วัตถุที่นำมาทำโลหะที่เบาและแข็งแกร่งยืดหยุ่น ทำให้ได้ยานอวกาศที่ล้ำสมัย เราจะนำทุกอย่างมาสัมพันกันคือระบบจิตใจ(ความดี ความงาม) ระบบเทคโนโลยี ระบบโครงสร้างพื้นฐานให้สัมพันกันทุกระบบ ทุกๆอย่างได้มาจากจินตนาการทั้งหมด มันจะสร้างความแตกต่างอย่างมากมายเมื่อคนมีคนดีมากกว่าคนเลวโลกเราจะหน้าอยู่จะมีสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก ลอยโหว่ของโอโซนจะหายไปโลกจะไม่ร้อน น้ำแข็งไม่ละลาย มหัตภัยทางธรรมชาติจะเกิดน้อยลง สรรพสัตว์อายุยืนและช้วยกันรังสรรค์โลกขึ้นมา จินตนาการนี้ได้มาและเกิดในจิตดูเป็นภาพแล้วเกิดแน่ๆ10ปีข้างหน้าจะเริ่มมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

    ใครมีจินตนาการล้ำลึกที่อยากให้มีอะไรให้แชร์กันมานะครับเพื่อร่วมสร้างความแตกต่างให้เกิดสิ่งที่ไม่เคยมีให้มีครับขอบคุณที่ติดตาม ศ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ใครทำ.........................................................
     
  6. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    โลกนี้จะเกิดมาเองเดี่ยวๆไม่ได้ ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ๆ
    ใครหาเจอก่อนก็ได้เป็นยอดคนแหละ
     
  7. ธรรมกุศลดี

    ธรรมกุศลดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +15
    ผมคิดว่ามีแต่ผู้บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้นที่รู้เรื่องการกำเนิดจักรวาลและธรรมชาติแต่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกไม่ทรงสอนเพราะเป็นเรื่องที่รู้ยากในปุถุชน
    หากคิดหาคำตอบมากๆจะกลายเป็นบ้าได้ สาธุ
     
  8. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    โห่ทาน ความรู้และจินตนาการไม่ใช่เล่นๆแล้วนะนั่น แต่ทำของจริงมันติดหลายอย่างแหละ งบประมาณ ผลงานวิจัยเก่าๆเอย จะมีใครเป็นผู้เริ่มอย่างจริงๆจังๆบ้างนะ
     
  9. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    มาว่ากันด้วยพลังที่มีในโลกนี้และไม่มีในโลกนี้

    จิตเราเรียกได้ในหลายรูปแบบ จะเรียกออร่า เน็น จักระ หรืออะไรก็ตาม มันมีจริงในการ์ตูนเรื่องนารุโตะ ฮันเตอร์เอ็กซ์ฮันเตอร์ และอีกมากมาย ความเป็นมาของรูปแบบพลังคือ จะเรียกในที่นี้ว่าโนวานะ(จิตบอกมาว่าพลังต่างๆภาษาต่างผู้สร้างเรียกแบบนี้) โนวามีหลากหลายรูปแบบของพลังในมิติต่างๆ ความสามารถของโนวา ในโลกมนุษย์จะมีสองแบบคือ รูปธรรมกับนามธรรม คือจับต้องได้กับจับต้องไม่ได้ ในรูปธรรมคือพลังที่ปล่อยออกมาให้เห็นกับตาเนื้อ คือ การลอยตัว การเคลื่อนไหววัตถุ การสร้างรูปพลังงาน แต่จะอาศัยตัวที่เรียกว่าจิตหรือโนวาในแบบนามธรรมกำหนดให้เกิดด้วย ในรูปแบบนามธรรมจะพัฒนาพลังสองรูปแบบคือ พลังบริสุทธิ์ด้วยจิต สมาธิ สร้างจินตนาการ รักษาโรคด้วยพลังภายใน รูปแบบที่สองคือการใช้พลังผสานกับ ธาตุทั้งสี่และพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลง เช่นการลอยตัวจะอาศัย พลังธาตุลม กำหนดสภาวะแวดล้อมให้จิตผสานกับกาย และเปลี่ยนพลังงานอากาศรอบตัวหมุนวนรอบกายยกตัวลอยขึ้นมา อาศัยรูปแบบการเคลื่อนที่ของวัตถุ เครื่องบิน คือมีการปล่อยพลังออกมาแล้วแรงที่ปล่อยสมดุลกับแรงโน้มถ่วงก็จะลอยตัวได้ คือร่างจะปล่อยพลังจิตผสานกะกายที่บริเวณผิวหนังเปล่งออร่าออกเหมือนเครื่องยนต์พ่นไฟออก แต่ปล่อยออร่าจิต ออกตามผิวหนังในส่วนต่างๆทำให้ร่างกายสมดุลกับแรงโน้มถ่วงเกิดการยกตัว คือจะทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศ ตามตำแหน่งที่กำหนดให้จึงลอยตัว(รายละเอียดจริงๆไม่ขอกล่าวเดี๋ยวคนเอาไปทำแล้วลอยตัวได้จะติดกรรม) มาว่าการปล่อยไฟหรือพลังออกจากมือในรูปพลังงานก็คล้ายกันแต่อาศัย ทั้งธาตุลมและไฟ ในการกำหนด พลังออร่าออกจากฝ่ามือใช้ออร่าจิตผสานกับกาย และกำเนิดไฟ ผสานกับลม ไฟร่างกายเราสามารถทำให้เกิดได้เพราะเราเกิดจากธาตุทั้งสี่ เมื่อรู้จักระบบธาตุ เร่งจักระทั้งเจ็ดปลดปล่อยสร้างธาตุไฟ แล้วผสานกับลมปล่อยไปในทิศทางที่ต้องการ รูปแบลจะกลมจะเป็นเส้นก็ขึ้นอยู่กับการกำหนด รูปลงไป(อิอิจิตบอกมายังไม่ทำอ่าจะติดกรรม) เราสามารถพัฒนาไปได้เรื่อยจนสามารถทำได้ทุกอย่าง นี่คือรูปแบบของพลังจิตนามธรรมที่มีสองรูปคือพัฒนาจิต สมาธิ กับการใช้จิตกับพลังออร่าผสานธาตุทั้งสี่ในกายกับสิ่งแวดล้อมก่อเกิดพลังงาน มาว่าด้วยรูปธรรมก็คือ มีสองแบบเหมือนกัน จะซ้ำกะ กายผสานจิตกะนามธรรม แต่อีกอันเป็นพลังธาตุในกาย และสิ่งแวดล้อมที่กำหนด เพื่อให้มีสภาวะเหมาะสมที่จะเกิด แรง แสง ลม ทิศทาง ออกไปดังต้องการ (รู้สึกจะเอาสิ่งไม่ควรพูดมาพูดนะเนี่ย) และรูปแบบพลังอื่นล่ะเป็นอย่างไร มันก็จะไม่ต่างกับที่กล่าวมา แต่จะมีระดับซับซ้อนไป เช่นสามารถสร้างวัตถุ ทำให้สลาย แยกส่วนต่างๆออกจากกัน รวมเข้าด้วยกัน และกำหนดสร้างแหล่งพลังงาน วิญญาน อีกมากมาย ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อวันนี้พอก่อน อิอิ ฝากติดตามด้วยนะ มาโพสเป็นกำลังใจจะดีมากครับ
     
  10. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    เมื่อกล่าวถึงพลังต่างๆในรูปธรรมและนามธรรม จะก่อให้เกิดการไหลเวียนของพลังงานวัฎจักรธรรมชาติ กลุ่มวิญญานที่เป็นทิพย์(วิญญานสำเร็จอรหันต์ขึ้นไป) จะใช้ทั้งสองอย่างนี้ในการควบคุมวัฎจักรความเป็นไปในธรรมชาติจักรวาลนี้ มีการกำหนดจิตเพื่อที่จะลดมารในกายขังไว้ไม่ให้ออกมาทำให้เราเกิดความขุ่นมัว ถึงแม้จะบอกว่าอรหันต์หรือสำเร็จนิพพานจะตัดกิเลสได้หมด แต่จะบอกไว้เลยการสำเร็จนั้นคือการขังมารไว้ในกายตน เปรียบได้กับขังคุกระดับอัญมณีต่างๆ คือความแข็งของอัญมนีต่างๆที่ทำเป็นมิติกักขังมารใครสำเร็จสูงก้อจะแข็งแรงคงทน จะบอกว่าเราใช้จิตพัฒนาทั้งสองด้านตามที่กล่าวมามารในกายก็มีการพัฒนา อย่าได้ชะล่าใจ มั่นตรวจดูความแข็งแรงของมิติที่สร้างด้วยอัญมณีมีการมาซ่อมดูแลเพื่อป้องกันมารที่พัฒนาวิธีการทำลายมิติอัญมณีนั้นๆ จากการที่ไปสัมผัสคนในอจินไตยมา คือกลุ่มบุคคลที่มีตำแหน่ง1ใน108ดวงจิตวิญาณทิพย์ในระบบอาจินไตยดาราต่ำลงมาจนถึงดวงดาว เขาจะมีคนที่ช่วยปฎิบัติงาน เปรียบผู้นำประเทศ108คนที่มีตำแหน่งเท่ากันมาจากแต่ละจังหวัด ถูกคัดสรรมาอย่างดี องค์1-องค์4ก็อยู่ในตำแหน่งนั้น ผู้นำนอกจากนั้น เค้าได้มีกลุ่มคนที่ดูแลตามจังหวัดตัวเองเพื่อให้ทำงานช่วยสร้างช่วยแปลงในทางที่พัฒนาด้านดี ลดมหันตัยจากสิ่งแวดล้อมและมารต่างๆ แต่เมื่อเขามาเจอกับผม แล้วคนที่เขาคุมอยู่กลับมีพลังมนุดต่างดาวซึ่งมากกว่าสหพันธิ์มนุดต่างดาวทั้ง108คน เขากลับทำร้ายหมายจะเอาจิตวิญญานนั้นมาทดลองคือทำให้กายมนุดตายทันทีและดึงจิตที่มีมนุดต่างดาวที่รวมกับจิตของมนุดโลกนั้นไปวิจัย หลังจากที่ผมเปิดรหัสมนุดต่างดาวให้กับคนนั้นๆ นี่ก็คือแนวทางหนึ่งที่พลังมารได้มาแทรกถึงแม้จะสำเร็จทิพย์ตั้งแต่อรหันต์ขึ้นไป แต่ถ้ามีไรมากระตุ้นก็สามารถทำได้หมด เหตุนี้จึงจะบอกว่ามารมีทุกหนแห่งในอจินไตยนี้ถึงคนสามารถตัดกิเลสได้หมดแต่พลังมามันคอยหาโอกาสที่จะทำลายมิติอัญมณีที่ขังมันไว้ ดังนั้นมันจึงทำได้ทุกอย่างเพื่อหวังเอาพลังของคนที่ผมเปิดรหัสให้ไปหาข้อมูล นี่และอะไรก็ไม่เที่ยง สามารถเกิดได้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าใครมีสติมีจิตรู้สิ่งเหล่านี้จะคอยคุมขังมารในมิติอัญมณีไว้ ดังองค์1-องค์4ที่ผมไปสัมผัสได้ต้านสิ่งที่คนในสหพันธ์ทำ แต่มีนอ้ยกว่าเสียงสู้เขาไม่ได้จึงเตือนพวกเรามาทุกคนให้ระวังสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในกาลถัดไปสำหรับคนที่รับพลังไปแล้ว

    วันนี้ต่อเท่านี้นะครับพรุ่งนี้มาใหม่ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ไม่มีใครจะสามารถกำจัดมารได้เลย
    เพราะมารเป็นส่วนหนึ่งของใจ มาร
    มีอยู่ในทุกตัวตน ....

    มนุษย์ถูกกำหนดให้มีอิสระ จะคิดพูดทำ
    เป็นความประสงค์ของผู้ให้.......
    ดังนั้นใครที่คิดพูดทำแล้วผิดปกติ โดยเริ่ม
    ที่ใจ นั่นคือ ประตูแห่งมารได้เปิดออกแล้ว

    หล่อเลี้ยงมารด้วยใจผิดปกติ มารออกมาแล้ว
    ก่ ช่วยอะไรไม่ได้

    มารก่เสมือนกับเชื้อรา หรือไวรัส ก่จะขยายตัว
    เจริญเติบโต

    หายามาฆ่าไวรัส หาโปรแกรมาฆ่าไวรัส
    ก่ คือได้ฆ่ามัน พอฆ่ามัน ก่ ต้องหาโปรแกรมใหม่
    มาสะกด ให้มันไม่ให้ออกมา ไม่ให้เจริญ ไม่ให้ลุกลาม

    เป็นความประสงค์ของผู้ให้....มีวิธีเดียว
    คือ ดำรงอยู่ในศีล คือการไม่เบียดเบียน
    ตนเอง ผู้อื่น ธรรมชาติ และ ทุกสิ่ง

    การที่จะดำรงอยู่ในศีลให้มั่นคงคือการนอบน้อม
    มนุษย์ นอบน้อมไม่เป็น

    เพราะมนุษย์สร้างสิ่งที่คิดว่าควบคุมมารได้
    จึงอหังการหนักขึ้น

    คือ ไม่หันกลับมามองว่าใครคือผู้สร้างมนุษย์
    กลับมองว่า ผู้สร้างคือ อจินไตย
    (ไม่ต้องไปคิดถึงผู้สร้าง กลับไปมองว่าวัตรของตน
    คือสิ่งยิ่งใหญ่ ....ดังนั้นจึงตกอยู่ในมิติของความคับแคบ
    มิติทีสร้าง ก่เล็ก แต่กลับมองว่านั้นเป็นสิ่งยิ่งใหญ่แล้ว
    ไม่ได้มองออกและดูภายนอกอย่างอิสระ
    มองแต่ภายในกรอบของตนเอง ก่ กลับไปอยู่ในกะลา
    ของตนเอง ... นี่ล่ะบุรุษที่อยู่แต่ในกะลา ของตน)

    กลับมองว่า ไม่ควรคิดถึงผู้สร้าง
    และเที่ยวบอกว่า การคิดถึงผู้สร้างคือสิ่งไร้สาระ
    นี่ก็คือบาป ที่ละเอียด เพราะทำให้มนุษย์ทั้งหลาย
    หลงอยู่ในมิติ ที่เป็นความอหังการ ตลอดกาล

    มนุษย์ที่สร้างหรือปิดกั้น ความคิดมนุษย์ทั้งหลาย ไม่ให้เป็นอิสระ
    คือ พวกที่สอบตก ทุกตน ไม่มีเว้น

    แม้นจะมีความดีมากมาย แต่ก่สอบตก

    พวกที่สอบตกเหล่านั้นไปไหน
    พวกที่สอบตก ปฏิเสธ การดำรงอยู่ ของผู้สร้าง ผู้ให้

    พวกเหล่านั้น กำลังสอบซ่อม อยู่ในแดนพุทธเกษตร ต่อไป

    รอให้นอบน้อมให้เป็น รับรู้จากสิ่งที่เป็นธรรมชาติ สร้าง
    มาจากใคร ไม่รับรู้ความจริง ...เที่ยวแต่อหังการ
    ในโปรแกรมที่ตนสร้าง ว่ายอดเยี่ยม ก่ ให้อยู่อย่างนั้นไปก่อน

    ก่ตรองดู นักโปรแกรมเมอร์ ทั้งหลายที่สร้างโปรแกรมสุดยอด
    ทำได้ตามใจปรารถนา ความอหังการ กระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าตน
    คือผู้เยี่ยมยุทธ สุดยอดแล้ว ... ความรู้สึกภายในลึกๆ คือ
    กูยิ่งใหญ่ แล้ว สุดยอดแล้ว ดีแล้ว เหมาะแล้ว

    แต่ทว่า เมื่อไปดูแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมาย
    ที่อยู่ในป่า ในธรรมชาติยังมีอีกมากมาย

    หลงวัตรตนเองจึงทำให้ลืมนึกถึง พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
    ตนเหล่านี้ แม้นจะหลุดพ้นไป ก่หาความเจริญใส่ตนเองไม่ได้
    ความเจริญอะไร ความเจริญในธรรมของตนเอง(ไม่ได้)
    เพราะคนเหล่านี้ ไม่ได้ระลึกถึง ผู้สร้าง ผู้ให้ ผู้กำเนิด

    ...... เพราะว่า ได้สร้าง
    มิติปิดกั้นความเป็นอิสระของตนเอง ไปเสียแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ผู้ที่คิดเอาชนะมาร คือผู้ที่พ่ายแพ้

    แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร

    นอบน้อมเป็นพระ ปรารถนาเอาชนะมารก็กลายเป็นบริวารของมาร(ที่ละเอียดขึ้นกว่าเดิม)

    คืออะไร ยกตัวอย่าง ก่ เป็นพวกที่มีทิฐิ หากจะให้เห็นชัดๆ

    คือ ทิฐิพระ มานะครู นั่นแล

    ฉันเป็นมหาบุรุษ ฉันเป็นครู ฉันเป็นบรมครู

    เหล่านี้เป็น ทิฐิ และมานะ ทั้งนั้น

    ดังนั้น ฉันจะไม่รับฟังธรรมจากผู้ใดอีก

    เพราะฉันหลุดพ้นแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  13. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    น่าส่งสารบางคนที่แพ้มารโดยที่ไม่รู้ตัว แพ้ซ้ำแพ้ซากจนกลายเป็นมารซ้อนมาร เพราะทิฐิที่ผิด คิดว่าตัวเองบรรลุรู้แจ้งแทงตลอด จนไม่ได้มองย้อนส่องตนเลยว่าเป็นอย่างไร โดยที่ไม่รู้เลยว่านั้นเป็นกลอุบายอันแยบยลของมารที่ทำให้หลงติดอยู่กับสิ่งนั้น ติดอยู่กับความเก่งติดอยู่กับพลังปาฏิหาร
    สิ่งเหล่านี้อิทธิฤิทธิไม่สามารถทำให้รู้เท่าทันหรือกักขังมารได้ แต่สิ่งที่ทำให้รู้เท่าทันหรือระงับได้คือสติปัญญาไม่ใช่พลังปาฏิหาร

    ดังนั้นไม่มีอิทธิฤิทธิ์ใดกักขังหรือทำลายมารได้หรอก นอกจากสติปัญญา
    ไม่ใช่พลังหรือปาฏิหาร

    และนิพพานไม่มีมาร จบ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  14. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487

    ผมว่าคุณโจ๊กน่าจะศึกษาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมนะ และ ก็พระพุทธศาสนาด้วย และก็อย่าเอามาปนกัน มันเป็นคนละระบบคิดกัน อาจจะยืมมานิดๆๆหน่อยๆๆมันก็ได้ แต่ควรจะถูกต้องตามหลักของทังพุทธทั้งวิทย์ ก็จะเกิดประโยชน์นะ ผมเห็นมาหลายคนและเอามาปนกัน แล้วสุดท้ายคนที่เอามาชนกันนี้ก็เพี้ยนไปเลยพูดจ้าบ้าๆๆบอๆๆ คำพูดที่พูดก็ผิดทั้งวิทายาศาสตร์ ผิดทั้งศาสนาพุทธ ไม่ได้ศึกษาอย่างแตกฉานทั้งสองแน่นนว่ามันเป็นไปไม่ได้พุทธศาสนาก็กว้างอย่างกะมหาสมุทร(แต่น้ำหยดเดียวในนี้ก็พอแล้วที่จะดับทุกข์ได้) วิทย์ก็กว้างอย่างกะมหาสมุทร ตายกี่ชาติก็ศึกษาไม่หมด เราเป็นคนนะคราบ อีกอย่างผมเห็นไอ้บทความหนังสือแนวนี้นะส่วนใหญ่มันก็มักจะ เป็นแค่กลุ่มความเชื่อเพี้ยนๆๆที่ผสมมั่วๆๆไปงั้น ..........หาประโยชน์อะไรไม่ได้นอกจากชวนคนอ่านให้คิดฟั่นเฟือนเอาตามคนเขียนเท่านั้น อย่างจิตกะพลังงานนี้ ถ้าคุณไปดูนิยามคำว่าพลังงานของวิทยาศาสตร์นะ คุณจะเห็นว่ามันเป็นปริมาณบางอย่างที่นักวิทยาศาสตร์เขาสมมุติขึ้นมาโดยนิยามให้ปริมาณนามธรรมตัวนี้ถ้ามันมีอยู่ในวัตถุอะไรก็ตามมันจะทำให้วัตถุอันนั้นเคลื่อนที่ไปตามแนวแรงได้หรือทำงานได้นั้นเอง แต่จิตนะ พุทธศาสนา(เถรวาท)ไม่ตอนนะว่าจิตคืออะไรแต่ตอบว่าจิตทำงานอย่างไง และถือว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงโดยปรมัตถ์ ไม่ใช่เป็นสมมุติขึ้นมาแบบแนวคิดพลังงงานตามนิยามของมันนะ แล้วจะเอาสองระบบนี้มาปนกันได้ไง จะมาบอกว่าจิตเป็นพลังงานได้ไง แค่นิยามมันก็คนและเรื่องแล้ว อันนี้ยกตัวอย่างความเชื่อเพี้ยนๆๆที่มักจะสับสนหรือมั่วนิ่มมากๆๆ จนมันผิดทั้งวิทย์ผิดทั้งพุทธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  15. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    ผมมีเฟสเชิญไปหาเอาถ้าอยากรู้ความจริงมีในกระทู้ รักษาคนหายภายใน5-10นาที ไม่เชื่อคุณพาคนป่วยทดสอบได้ง่ายๆเอาใครที่จะรู้สึกสัมผัสหาคนสายตาสั้นยาวมาโทรมา จะทำให้เห็นว่าไม่ได้มั่วและไม่ได้บ้า คุณอ่านทุกกระทู้ที่โพสไปยังไม่ใช่จับใจความบางโพสแล้วมาว่าตามความคิดตัวเอง มีคนบอกไปแล้วไม่ใช่ชหรือว่าประสบการ์ณแต่ละคนไม่เหมือนกันคุณจะเอาประสบการณ์ของคุณมาสอนสั่งให้คนอื่นไม่ได้ แต่พี่ผมทำคือผมทำได้ที่มีแนวภูมิรู้ด้วยจิตไม่เหมือนคนอื่น มีคนโทรมาสิบกว่าสาย มาตอบให้เขาหายสงสัยหน่อยว่ามาคุยกะผมได้อะไร โรคที่เป็นหายไหมไม่มีหน้าม้าในที่นี้ ถ้าจะทดสอบเชิญพร้อมเสมอจะได้เปเดกะลาครอบให้กบได้รู้อะไรที่มีมากกว่าอจินไตยซึ่งคุณเองก้อยังไม่รู้เลยในอจินไตยนี้ เบอร์ไปหาเอาในกระทู้มองพระอาทิตย์
     
  16. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ข่อยว่าคุณก็แค่พูดลอยๆๆ ไปงั้นหลักฐานอะไรก็ไม่มีสักอย่าง อีกอย่างข่อยไม่ได้เอาประสบการณ์ตัวเองมาว่าคุณนะ ข่อยเอาข้อเท็จจริงมาพูด ข่อยยังไม่บอกสักคำเลยว่าคุณทำไม่ได้จริง และก็ไม่เคยว่าคุณบ้านะ ข่อยแค่ว่าตามจริงเขาว่ากันยังไง คุณจะต่างออกไปมันก็เป็นเรื่องของคุณ ถ้าจะว่า ข่อยก็ว่าคุณอย่าจับแพะชนแกะเท่านั้นเอง


    ตัวอย่างชัดๆๆ ก็ข้อความนี้ "ผมขอทำนายไว้ตามที่ผมสัมผัสในอีก10ปีข้างหน้าจะมี คือ มีระบบพลังน้ำที่ให้พลังมากกว่านิวเคียล์แต่ไม่ผลต่อสิ่งแวดล้อมมีผลให้พลังงานแต่จะจำกัดการทำลายคือมีเครื่องที่เร่งสร้างพลังงานแต่ไม่มีพลังทำลายล้างตัวน้ำพอเจอ ดิน ลม ไฟจะมีปฎิกิริยาที่ไม่สามารถพลังที่จะทำลาย "

    จะเห็นว่าหลุดโลกมาก พลังงานน้ำ ที่ให้พลังมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์ ก็พลังงานน้ำที่คุณเห็นนี่แหละมันมาจากพลังงานนิวเคลียร์ ฟิวชั่นบนดวงอาทิตย์ แล้วส่งมาในรูปแสงและรังสีต่างๆๆมายังโลกบางส่วนแล้วระบบก็เก็บกักพลังงานไว้ เช่นน้ำเก็นพลังงานรังสีตรงนี้ไว้ในรูปพลังงานความร้อนและพลังงานเคมี เป็นต้น พืชเก็บในรูปพลังงานเคมี ทีนี้พลังงานน้ำ เวลาเขาใช้ก็คือน้ำมันเก็บพลังงานในรูปพลังงานความร้อน(เป็นหลัก)ทีนี้เขาก็เปลี่ยนมันให้เป็นพลังงานกลอย่างเอากังหันไปใช้ในบริเวณน้ำตก พลังงานจากน้ำก็กลายเป็นพลังงานกลปั่นกังหันให้หมุน เกิดเป็นพลังงานไฟฟ้าอีกที

    นี้หลักการแล้วพลังงานน้ำจะมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์ ได้ไง ในเมื่อมันมาจากพลังงานนิวเคลียร์ อีกอย่างพลังงานนิวเคลียร์ มันเกิดจากคุณสลายสสารให้เป็นพลังงาน มันก็ต้องมากมายมหาศาลมากกว่าพลังงานน้ำที่คุณว่าที่เป็นพลังงานเคมีและพลังงานความร้อนที่เก็นไว้ในโมเลกุลน้ำในรูปพลังงานศักย์หรือจนล์เท่านั้น อย่างคุณกรณีน้ำ สมมุติคุณมีเทคโนโลยีที่สลายโมเลกุลน้ำทั้งหมดเป็นพลังงานอย่างสมบรูณ์ มันก็คือพลังงานที่เกิดจากพลังงานของโมเลกุลน้ำทั้งโมเลกุลที่หายไปเป็นพลังงาน แล้วมันจะมากกว่าบางส่วนบางเสี้ยวอย่างพลังงานที่คุณว่าได้ไง



    ข่อยยกได้อีกเป็นร้อยเป็นพันจากข้อความคุณ แล้วจะไม่ให้ข่อยว่าคุณควรไปศึกษาทั้งวิทย์ทั้งศาสนาเพิ่มอย่าเอามาปนกันให้ฟั่นเฟือนได้ไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  17. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    มาคุยเรื่องสัตว์ดีกว่า ว่าผมจะขยายความได้มากแค่ไหนนะครับ

    สัตว์อะไรที่คุณคิดว่าเป็นสัตว์เทพในตำนาน มีอยู่ไม่กี่ชนิด ที่แต่ละศาสนา หรือ แต่ละประเทศได้มีการบูชานับถือ พอดีไม่ได้ไปหาข้อมูลมาแต่จะใช้จิตสัมผัสอธิบายแล้วกันนะครับ ในประเทศไทยจะมีสัตว์ในตำนานที่คนไม่เคยเห็นหรือมีอยู่จริงหรือป่าว นั่นคือ พญานาคกับพญาครุฑ แล้วสัตว์กู้ประเทศที่ไทยเราบูชากันนั่นคือช้าง ก็ไปตรงกะศาสนาพราหมณ์นั่นคือพระพิฆเนศวร และในต่างประเทศล่ะ ก็จะ มีเจ้าป่า คือสิงโต เจ้าแห่งการล่า และเสือที่มีศักดิ์เทียมสิงโต และมีความเชื่อเกี่ยวกับลิงของนักวิทยาศาตร์ที่ว่าด้วยว่าเป็นต้นกำเนิดของคน นอกนั้นมีอะไรอีก ก็มี นกที่เป็นเจ้าเวหา ในจิตขึ้นมาว่านกอินทรีทมิฬ ในน้ำก็จะมีฉลานักล่ากับปลาวาฬเจ้าสมุทร อาจจะรวมเงือกเข้าไปเพราะเป็น เจ้าแห่งนิยายตำนานสัตว์น้ำที่คนรู้จัก มาในจิตขึ้นว่าหมีเจ้าแห่งพลังทรงพลัง และก็มีม้าที่เป็นเจ้าแห่งความเร็วและสง่างาม ในนิยายก็จะมีเปกาซัสหรือยูนิคอนคือม้ามีปลีก มาพูดถึงเจ้าของแต่ละที่จะมีสัตว์ในตำนานมาเทียบ นกอินทรีย์ ก้อจะมี ครุฑ พญาหงส์ทอง ในคือเจ้าเวหา เจ้าแห่งท้องทะเล ฉลามกะวาฬ ก้อจะเทียบกับเงือกในตำนาน เจ้าแห่งความเร็ว ม้า ก้อจะมียูนิคอน เจ้าแห่งหมีทรงพลังก็จะมียักษ์เป็นสัตว์ทรงพลัง พญานาคกับมังกร ก็จะเป็นส่วนผสมของ สัตว์น้ำกับสัตว์บก และราชสิงห์กะเสือ จะมีอะไรเปรียบในตำนาน ก้อคือสิงห์โตสามหัวในตำนานกรีก(ใช่ไหมฟระจิตมันบอกไม่มีภูมิรู้อันนี้) เจ้าแห่งสัตว์ใหญ่ทรงพลังและมีเมตตาปัญญา คือช้าง ในตำนานก็ช้างสามเศียร และพระพิฆเนศวร สัตว์แต่ละประเภทมีที่มาที่ไป จริงๆที่เคยกล่าวไว้พวกเขา จะมีดาวของเขาและพวกเขาก็มีลักษณะพิเศษดังที่เห็น ตำนานต่างๆมีจริง ในดาวเขาจะมีพลังและภูมิรู้มากกว่าที่อยู่ในโลก คือช้างจะมีตั้งสามไปถึงเก้าเศียร แต่พอมาในโลกเลยลดพลังปัญญาและพลังกายลงให้ไม่มีฤทธิ์ไม่งั้นโลกคงไม่สงบสุขจะเต็มไปด้วยกะสรรพสัตว์ที่มีพลังถ้าสู้กัน น่ากลัวอ่าครับ นกอินทรี ก็ถอดแบบมาจากครุฑและหงษ์ทอง ซึ่งลดพลังเหมือนช้าง แต่มีสภาวะที่ต่างคือสามารถบินได้ ทำให้มนุดมีความคิดที่จะลอยไปในอากาศดังที่เราเคยได้ยินมาในยุคก่อน มาว่าด้วยฉลามและวาฬก้อจะถอดแบบมาจากเงือกที่ไม่มีรูปร่างเหมือนคนเพราะมันจะคล้ายมนุดเกินไป แต่สามารถ อยู่ใต้น้ำมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในท้องทะเล นาคและมังกร ก็มีความเกี่ยวเนื่อง นาคนั้น เป็นสามแบบ คือ บก น้ำ อาการ มังกรก้อเช่นกัน ดังนั้น นาคจึงมีความยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสรรพสัตว์ดังจะเห็นได้จากการที่นาคไปปรกพระพุทธเจ้า มีนาคเกี่ยวเนื่องกะศาสนา และนาคยังมีอิทธิฤทธิ์ทำให้เราได้เห็นในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเลื้อยเป็นรอย ตามบ้าน ตามวัด กระทั่งปลดปล่อยลูกไฟที่หนองคายนั่น เอง มาว่าครุฑจริงๆเป็นสรรพสัตว์ที่อยู่ต่าง ธรรมชาติจักรวาลเรา จึงไม่เด่นใน ธรรมชาติจักรวาลที่มีรูปทรงกลม แต่ก้อมีปะปลาย นาคกะครุฑจึงเกี่ยวเนื่องในการทำสงคราม มิติทิพย์ ในสมัยแรกเริ่มของธรรมชาติจักรวาล แต่ตอนนี้ยุติไปแล้ว ดังนั้นเราจึงมีจิตสัมผัสได้ว่านาคกะครุฑไม่ถูกกันเหมือนนกกะงู แต่ ไม่ใช่นกจะชนะเสมอไปนะ ผลัดกันไปตามความเป็นไปในธรรมชาติ มาว่าด้วยช้างภูมิปัญญา สัตว์บกที่ใหญ่ที่สุด รักสงบ กินมังสาวิรัต เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองกับไทย มีความสามารถในการต่อสู้ในกองทัพเป็นผู้นำทัพของกษัตริย์องค์ต่างๆที่เรารู้จัก ดังนั้นช้างจึงเป็นเทพผู้สูงส่ง มีความรักกับชาติ เราจึงควรช่วยกันรักษาให้อยู่คู่ไทยและโลกต่อไป ว่าด้วยม้าสัตว์ความเร็วพาหะนะในทุกยุคทุกสมัย ในตำนานกรีกยังมีม้าครึ่งคน นั่นก้อมีจริง สามารถต่อสู้ ป้องกันตัว และรวดเร็ว ดังนั้นม้าจะมีความดีในทุกยุคทุกสมัย ถ้าใครมีม้าเลี้ยงให้ดีจะมีบุญ
    สิงโตเจ้าสรรพสัตว์ในโลกมนุดก็จะมีสิงโตสามเศียร ที่เป็นเจ้าในต่างดาว คำรามที่พลังคลื่นเสียงทำลายแม้แต่ภูพา และมีพละกำลังมากมาย ตัวสามเศียรของสิงโตจะเป็นเจ้าของสิงโตสถิตในตัวสิงโตทุกตัว และลิงก็จะมีวานรยักษ์ที่รู้จัก มีภูมิรู้สูงฉลาด แข็งแรง ว่องไว เป็นสัตว์ที่ช่วยเหลือมนุดในยุคเก่าแก่ เป็นเพื่อนที่ดี อย่างที่เคยเห็น ชื่อไรผมจำไม่ได้ที่มันโดนหมากัดตายอ่า รู้ภาษามากมาย สุดท้ายหงษ์ทอง เป็นสัตว์เทพในตำนานที่มีความสวยงาม สร้างความงามให้สรรพสัตว์ และที่ลืมไม่ได้คือเต่าสัตว์คู่โลกตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เป็นสัตว์อายุยืนเป็นสัตว์เทพที่มีพลังกายการป้องกันที่สูงมากมาย รักสงบ และสามารถช่วยรักษาบรรเทาอาการเจ็บของคนได้ (จิตบอกมายังงงอยู่ว่ารักษายังไง) คือความที่อยู่นานมากเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจึงมีภูมิรู้ทุกเรื่อง และนำมาดัดแปลงเป็นตัวยาทำให้ตัวเองกินทุกวันจึงมีอายุยืน (อ่อนี่คือคำตอบครับ)

    เออในนักการ์ตูนเรื่องบีตเอ็กซ์ จะมีสัตว์เทพที่เรียกว่าจตุเทพทั้งสี่ มีหงษ์ มังกร ม้าเปกาซัสและเต่า นี่มาจากศาสตร์จีนและญี่ปุ่นที่มีความจริงเกิดขึ้นและได้อธิบายข้อความด้านบนที่ไม่ได้แต่งขึ้นเอง คนมีจิตสัมผัสจะรับรู้ว่ามีจริง ลองไปหาอ่านดูนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เขียนมาให้อ่านสนุก ก่ ดีแล้ว แซวหอมปากหอมคอ แซวเสร็จก่ จบ ...จบได้แล้ว

    ..........................................................................................

    มนุษย์โลกใบนี้ ทำไมหลายเผ่าพันธ์จัง กำเนิดมาได้ไง (ตอบหรือยัง?)
    ทำไมโลกจึงกลม
    แกนกลางโลกเป็นไร ในอีกมิติหนึ่ง
    (ห้ามตอบว่าเป็น ฮาโรแกรม สั้นไปหน่อย)
    และดวงอาทิตย์ เป็นที่อยู่ของใครหรือ (มีมั๊ย)

    ปรากฎการณ์ ทรงกลด พระอาทิตย์ พระจันทร์ หมายถึง อะไรกันแน่
    ทำไมจึงเป็นวง เห็นได้ทั่วหลายตำแหน่ง
    (ห้ามตอบว่าเป็นการหักเหของแสง ตาพ่อนักวิทยาสาตคนเก่งประจำ)

    แสงโอร่าเหนือ (ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า) คืออะไร

    ร่างมนุษย์สามารถเหาะขึ้นไปเทศนามารดาบนสวรรค์ ได้จริงหรือ

    มนุษย์เกิดมาจะมีดอกบัว ผุดจากใต้ดินตามตำราโบราณได้จริงหรือ
    (ดูแล้วเหมือนตอแหล หากไม่จริงเขียนออกมาหาสวรรค์อะไร)

    ภาคทิพย์ กับภาคมนุษย์ มันคนละเรื่องกัน
    ส่วนใหญ่จะเป็นภาคทิพย์ มากกว่า .... ปนกันไป หรือเปล่า

    เหล่าพรหมแปลงสาร เสียส่วนใหญ่ มั่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2013
  19. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    1. ใช่หมายถึง กลุ่มคนเชื้อชาติที่ต่างกันใช่ไหม อันนี้ก็คงคล้ายกับแหล่งตำแหน่งของจุดกำเนิดที่มาจากต่างดาวแหละ คือ ในธรรมชาติจักรวาลนั้นก็มี มนุดต่างดาวที่คล้ายๆคน อยู่นับไม่ถ้วน ดังนั้น พวกเขามาจากที่ต่างกัน ถ้ามาโซนเดียวกัน หรือร้องขอว่าอยากเกิดในที่แบบนี้ ตำแหน่างแบบนี้ ไม่ว่าจะนำจิตมาผสานกะมนุดโลก หรือถ่ายโอนวิญญานจากมิติอื่นนี้มายังโลก ก็จะเลือกเอาตามที่ตัวเองสนใจ แต่ทำไมไปเลือกเกิดในที่จนบ้าง รวยบ้าง เกิดมาครบสามสิบสองหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ จิตที่มาเกิดนั้นบริสุทธิ์เพียงใด ไม่เท่านั้นยังอาจจะเลือกไปเกิดที่ลำบากเพื่อ เป็นบททดสอบว่าตนเองจะสามารถก้าวผ่านพวกมารหรือเจ้ากรรมไปได้อย่างไร เพชรไปอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นเพชรครับผม ครอบคลุมไหมเนี่ยบุคคลเหล่านี้จะมีพลังแฝงที่จะช่วยให้เขาสำเร็จในเร็ววันและถ้าคนไม่มีแหละทำไง ก็สร้างเอานี่แหละจากการปฏิบัติไป ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนสั่ง

    2.ทำไมโลกจึงกลม ที่เคยบอกว่าดวงดาวอื่นที่มีนอกเหนือธรรมชาติเราหรือพี่นอ้งของศาสดาผู้สร้างธรรมชาติที่เป็นทรงกลมนั้น ธรรมชาติอื่นจะมีทรงอื่นและทรงเดียว คล้ายกะโลกที่เป็นทรงกลม และที่เลือกจะเป็นทรงกลมเพราะมันสมดุลในทุกทิศ ไม่มีทิศไหนที่จะดีไปกว่ากัน ไม่เหมือนสามเหลี่ยมบางจุดจะเด่นบางจุดจะด้อย สามเหลี่ยมก็มีหลายลักษณะจุดเด่นที่แตกต่างกับวงกลมคือ จากจุดที่ใหญ่ตรงกลางแตกไปปลายจุดแต่ละเหลี่ยมการไหลของพลังจะมีจากมากไปน้อย ไหลได้ดี แต่ทรกกลมจะ แบ่งออกไปทั่วทิศเท่าๆกัน และมีความต่างแต่ในที่นี้ไม่พูดถึงนะ ยังมีอีกมากมายที่อยากจะเล่าแต่บางทีมันพูดอธิบายเป็นภาษามนุดไม่ได้อ่า

    3. แกนโลกเป็นอะไรในมิติหนึ่ง เคยได้ยินคนกล่าวว่าเหนือหัวเรานิดหน่อยก็เป็นสวรรค์ ใต้เรานิดหน่อยก็เป็นนรก ใจกลางตามหลักวิทย์ที่เรียนมาก็จะเป็นตำแหน่งของพลังงานที่ยังคงหลงเหลือความร้อน ถ้าเป็นแมกม่า คือจะมีสี่อย่างประกอบของ ธาตุ ความร้อนคือไฟ การเคลื่อนไหวและไอร้อนออกมาคือลม สารละลายในแมกม่าคือน้ำ ผสมกับดินที่ทำให้เกิดความร้อนมหาศาล มันเป็นแหล่งพลังงานลึกลับในโลกที่ต้านบางอย่างไว้ คือมีธาตุทั้งสี่ผสานกับพลังแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เกิดคลื่นพลัง ทำให้ไม่เกิดอุกกาบาตชนโลกแบบถ้าก้อนใหญ่มาก้อจะเบนออกไปไม่ชนโลก จะเรียกว่ามิติธาตุก็ได้นะ เป็นแหล่วงรวมพลังมากมายไว้ในนั้น ก้อที่นักวิทย์ว่า มีแรงแม่เหล็กไฟฟ้าออกจากแกนโลกนั่นเอง (ว่าแต่ฮาโรแกรมคือไรไม่ตอบตอบไม่เหมือนนะ)

    4.ก็คนที่จะเป็นดวงอาทิตย์ได้ต้องเหนือกว่าอจินไตยคือเป็นวิญญานทิพย์ที่บริสุทธิ์เหนือกว่าที่ที่พระพุทธเจ้าอยู่นั่นคืออาจินไตยดารา เป็นทั้งผู้สร้างและทำลายไปในตัว และสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดวงอาทิตย์ก้อคือกลุ่มวิญญานทิพย์นี่แหละ ดวงหนึ่งก็มีหลายท่านเหมือนกัน ตอบแค่นี้นะ ลึกๆยังไม่ตอบอ่า

    5.มันก็เป็นตามทรงของดวงดาวธรรมชาติเรานี่แหละไม่ว่าอยุ่จะไหนจะเห็นเป็นทรงกลมเพราะทรงกลมจะสมดุลทุกที่ครับ ตาเราที่เห็นเป็นทรงกลมทุกที่นั้นนอกจากแสงจะมีส่วนให้เกิดผลต่อรูปทรงเช่นดวงจันทร์ ทรงกลมมันสมดุลที่สุดเช่นหยินกะหยาง สัญญลักษณ์ของจีนก้อกำเนิดมาจากทรงกมลทั้งนั้นครับ

    จะตามตอบอีกนะยังไม่ได้นอนเล้ยเล่นเกมส์เพื่อนสร้างจินตนาการอยู่อ่า
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มนุษย์ จากหลากหลายที่ บนโลกนี้มาได้อย่างไร
    เป็นตัวเป็นตนได้อย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...