////// โสดาบัน อย่างนี้ อย่างนี้ //////

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย xeforce, 16 มกราคม 2014.

  1. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ต้องภาวนาดูครับ ถึงจะทราบได้เอง
    ธรรมเป็นอกาลิโก ครับ
     
  2. yooyut

    yooyut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,154
    ปจจตต เวทิตพโพ วิญญูหิ :cool:
     
  3. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ในทพระธรรมคุณมีคำที่่ว่า

    สันทิฏฐิโก --- เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญุหิติ ---- เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้

    ไม่จำเป็นต้องให้พระพุทธเจ้ารับรองครับ
    ถ้าต้องให้พระพุทธเจ้ารับรองจึงจะใช้ได้เท่านั้น แบบนี้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว มรรคผลนิพพานก็ไม่มีงั้นเหรอ? เป็นความเข้าใจผิดนะครับคุณบุญยง

    หรือ บางท่านเช่น คุณ สุทัส อ้างถึงหลวงตามหาบัว

    หลวงตามหาบัว ท่านก็ประกาศชัดเจนว่าท่านบรรลุธรรมขั้นนั้นขั้นนี้ ในวันที่เท่านั้นเท่านี้

    ก็ไม่เห็นจะอะไรเลย ก็ยังเอาคำสอนของท่านมาอ้างอิง

    แต่ทั้งนี้ ผมยึดคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ คำสอนของพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปอื่นๆ เหมือนบางสำนัก

    ถ้าคำสอนของใครก็ตามที่ เข้ากันได้ตามหลักตัดสินพระธรรมวินัย ก็ถือว่า ใช้ได้ทั้งสิ้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2014
  4. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    เช่นเราเชื่อว่าเราเนียะดีกว่า ผมเนียะดีกว่าคนนี้ๆในเรื่องนี้ๆถ้าจะต้องมีเหตุเภทภัยขึ้นมักจะไปเกิดกับ คนที่ผมคิดว่าเลวกว่าผม

    อันนี้ เป็นสังโยชน์เบื้องสูงที่เรียกว่า มานะ ครับ ซึ่งมีแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่ ละได้ พระโสดา สกทา อนาคามี ก็ละไม่ได้ครับ
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เราภาวนาดูจิตที่เป็นสิ่งดิ้นรนบังคับได้ยาก ก็ต้องดูที่มีสติให้จิตว่างในขณะปัจจุบัน จิตมันเป็นของมันเพราะมันเป็นอนัตตา ที่กล่าวว่าจิตว่างหมายถึงใจว่างจากกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ก็ต้องฝึกฝนใช้สติตามควบคุมกายและใจ ที่ว่าสักกายทิฏฐิหมายถึงให้เข้าใจว่ากาย-ใจเป็นอนัตตา(ศึกษาความหมายของอนัตตาก่อนในอนัตตะลักขณะสูตร)ทีนี้เรามาดูวิธีควบคุมจิตคือให้รู้ว่าจิตมีความอยากเมื่ออยากในการมีโลภะ โทสะ โมหะ อุบายหนึ่งขณะทำสมาธิภาวนาคือให้ภาวนาว่าไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงหนอ ภาวนาบ่อยๆใช้ภาษาธรรมะในการขัดเกลาจิตไม่ให้เกิดอัตตาตัวกู-ของกู คำว่าตัวกูของกูอย่าพึ่งไม่พอใจ เจ้าความไม่พอใจนั้นล่ะคือกิเลสแท้ที่ฝังอยู่ในจิต มันใหญ่คับตัวแค่ไหนต้องฝึกละด้วยความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ทำตามขั้นตอนของศีล สมาธิ ปัญญา ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีศีล กินเหล้าศีลข้อ 5 นั้นนิพพานไม่ได้ ศีลเป็นบาทฐานแห่งสมาธิ สมาธิคือบาทฐานแห่งปัญญา วิธีปฏิบัติคือตั้งใจปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ แล้วทำบุญ(ไปอ่านก่อนเรื่องการทำบุญเช่นอ่านในกู้กเกิ้ล....)จากนั้นให้ทำสมาธิ องค์ธรรมในขณะทำสมาธิคือศีล สมาธิ ปัญญา ศีลคือกายใจและวาจาปรกติ สมาธิคือความตั้งมั่นของจิตใจ ปัญญาคือการตามดูธาตุขันธ์ร่างกาย ว่านี้ดิน นี้น้ำ นี้ลม นี้ไฟ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั้นไม่เที่ยงและเป็นอนัตตาเมื่อรู้เราจะเข้าใจในการบริหารกายใจด้วยสติส่วนจิตคือเราใช้สติว่าไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ด้วยสติ สติเป็นบรมธรรม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...ในท้ายพระสูตรของ มหาสติปัฎฐานสี่ก็มักจะปรากฎ อยู่ว่า ---ภิกษุชื่อว่า เป็นผู้ตามเห็น (กาย ในกาย--เวทนาในเวทนา--จิตในจิต--ธรรมในธรรม) อยู่เป้็นประจำ เป็นผู้มีความเพียร มีสติ นำ อภิชฌา และโทมนัสในโลกออกเสียได้---หรือ ไม่ก็ มีอยู่ว่า---ก็แหละ สติ ว่า (กาย เวทนา จิต ธรรม)มีอยู่ ดังนี้ของเธอนั้น เป็นสติที่เธอดำรงไว้เพียงเพื่อ ความรู้ เพียงเพื่ออาศัยระลึก ที่แท้เธอเป็นผู้ที่ตัณหา และทิฐิอาศัยไม่ได้.........:cool:
     
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    อานาปานสติบริบูรณ์ ย่อมยังให้สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ย่อมยังให้ โพชฌงค์เจ็ดบริบูรณ์ โพชฌงคืเจ้ดบริบูรณ์ย่อมยังให้ วิชชาและวิมติ บริบูรณ์-----------------สติปัฎฐานสี่ และ โพชฌงค์เจ็ด บางพระสูตรยังแทนด้วย ในฐานะเป็น นิพพานคามิมรรคด้วย ย่อมแน่นอนอยู่แล้ว มีพระสูตรหนึ่งทึ่กล่าวถึงเหตุปัจจัย ของ วิชชา วิมุติแห่งองค์มรรค---ภิกษุทั้งหลาย ใน บรรดาองค์แห่งมรรคเหล่านั้น สัมมาทิฑฐิ เป็นองค์นำหน้า นำหน้าอย่างไร ภิกษุทั้งหลาย......สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีเพียงพอ แก่ผู้มีสัมมาทิฎฐิ สัมมาวาจา ย่อมมีเพียงพอ แก่ผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ แก่ผู้มีสัมมาวาจา สัมมมาอาชีวะ ย่อมมีเพียงพอ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาวายามะ ย่อมมีเพียงพอ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาสติ ย่อมมีเพียงพอแก่ผู้มีเพียงพอแก่ผู้ มี สัมมาวายามะ สัมมาสมาธิ ย่อมมีเพียงพอแก่ผู้มีสัมมาสติ สัมมาญานะย่อมมีเพียงพอแก่ผู้มี สัมมาสมาธิ สัมมาวิมุติ ย่อมมีเพียงพอแก่ผู้มี สัมมาญานะ----(จะเห็นได้ว่า อริยะมรรคมีองค์แปด ที่ แทนด้วย ขันธิ์ทั้งสามได้ คือ ศิล สมาธิ ปัญญานั้น อริยะมรรคนั้นเป็น ปัจจัยต่อกัน อบรมกันต่อเนื่องกัน ศิล สมาธิ และปัญญา ในส่วนของปัญญาขันธิ์นั้น คือการแจ้ง เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่ง ในทิฎฐิธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่)......:cool:
     
  8. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..........ผมก็ไม่ค่อยอะไร นะครับ แต่คิดว่า บางส่วนของการอธิบาย ของการ รู้ ว่า แค่รู้ สุข ไม่ใช่แช่ สุข นั้น อาจจะไม่ค่อยครบถ้วนเท่าไหร่---.ในเมื่อ แค่ รู้ แล้ว ย่อม มีจิตตั้งมั่นแล้ว เมื่อ จิตตั้งมั่นแล้ว ก็ ย่อมเห็น ธรรมชาติของขันธิ์ทั้ง5 กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ถูกดูได้จริง .......และเมื่อ เจริญจนเป็นสัมโพชฌงค์ ใน สภาวะของสัมโพชฌงค์ นั้นมีสภาวะแห่งการไม่ต้อง คิด นั้นคือ ปิติ สัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ แล้วน้อมไปเพื่อโวสัคคะ-------นั้นคือ ส่วนหนึ่ง ของศิล สมาธิ และ ปัญญา(ในส่วนของปัญญานั้น ย่อมหมายถึงการทำลายอาสวะกิเลส อันเป็นส่วน ของ ผล)---(ส่วนตัวนะครับ ผมว่า เราปฎิบัติในส่วนของ มรรค ไป ในส่วนของผล (อริยะปัญญาขันธิ์)นั้น โดยเฉพาะ ย่อมหมายถึงการสิ้นอาสวะกิเลส ตัณหา อันเป็นสมุทัยแห่งทุกข์ อาจจะยังไม่ปรากฎ(ทำให้ บางคน จึงไม่เชื่อว่า การปฎิบัติสมถะภาวนา นำไป สู่ ผลหรือ ปัญญาขันธิ์ได้ จริง) ความสิ้นไป แห่ง ตัณหา:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2014
  9. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    สรุปโดยเคร่าๆ การจะเข้าถึงโสดาบันได้นั้น มีเครื่องวัด อยู่ 3 คือ
    1.สักกายะทิฐิ สามารถปล่อยวางได้อย่างสมบุรณ์
    2.วิจิกิจฉา สามารถละได้อย่างเด็จขาด
    3.สีลัพพตปรามาส สามารถเข้าใจและอุเบกขาได้อย่างถาวรสิ้นเชิง
    โมทนา......ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ผิดเพี้ยนจากพระไตรปิฎก
     
  11. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ความเห็นของผมโดนลบบ่อยมากเลยนะเนียะ
    ถึงมันจะไม่ค่อยเวิร์คแต่การลบโดยไม่ระบุสาเหตุ
    มันแปลกๆนะ
     
  12. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ลองไปเช็คข้อมูลให้ดีครับ คุณนิลกานต์
    เรื่องที่ว่าฆ่าตัวตาย นั้นไม่ใช่พระโสดาบันแน่นอน พระโสดาบันไม่ผิดศีล
    การฆ่านั้นแม้ฆ่าตัวตายก็ถือเป็นการปลงชีวิตเป็นปาณาติบาตเช่นกัน ผิดศีลข้อ 1

    อันนั้น เป็นเพราะโทสะ ไม่ใช่นิพพิทาญาณครับ
    ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกรรมเก่า ของพระเหล่านั้น ที่เคยฆ่าสัตว์ในชาติก่อน พอมาชาตินี้ฟังพระพุทธเจ้าสอนอสุภกรรมฐานและทำตาม เลยเกิดความเห็นผิด เลยทำปาณาติบาต ปลงชีวิตตนเองเข้า นี่เป็นความเห็นผิด ทำให้เกิดโทสะ ไม่ใช่นิพพิทาญาณ

    นี่เพราะคุณนิลกานต์ไม่ได้ศึกษาตำราให้ละเอียดไงครับ จึงทำให้เข้าใจผิดได้
    ถ้าศึกษาจะรู้ว่าพระโสดาบันไม่ผิดศีล จะไม่ฆ่าตัวตาย และจะไม่หลงเข้าใจผิดว่าเป็นนิพพิทาญาณ

    ซึ่งถ้าเข้าใจผิดคิดว่า โทสะ คือ นิพพิทา แสดงว่า กำลังสร้างอกุศล (คือโทสะ) แต่สำคัญผิดคิดว่า เป็นของดี อันนี้เป็นกลมายาของกิเลสที่หลอกได้เนียน ซึ่งจะทำให้ไปสู่ทุคติ เพราะอกุศลกรรมเป็นเหตุโดยที่ไม่รู้ตัว


    การที่บอกว่าสอนตามตำรามักผิด นั้นผิดน้อยกว่า พวกที่อิงจากผลการปฏิบัติโดย เพ่งเล่งว่า สอนตาม ตำราผิดบ้าง หรือเชื่อถือไม่ได้บ้าง พวกที่ชอบอิงประสบการณ์ปฏิบัติพวกนี้ต่างหากที่ มักผิดไปไกลสุดกู่เพราะคิดเอาเองบ้างเข้าใจผิดบ้าง

    อย่างลัทธิเพ่งลูกแก้ว เป็นต้น ถึงขนาดเห็นผิดว่า นิพพานเป็นอัตตา หเป็นดินแดน สามารถเอาข้าวทิพย์ไปถวายพระพุทธเจ้า มันเพี้ยนไปได้ขนาดนั้น เพราะไม่มี คำสอนของพระพุทธเจ้าที่บันทึกในตำราคอยตรวจสอบ

    ทีนี้ตำราที่สอนนั้นต้องดูครับว่า ตำราอะไร ถ้าตำราแต่งเอง ตำรารุ่นหลังอันนี้ โอกาศผิดพลาดได้มาก

    แต่ถ้าตำราที่เป็นพระไตรปิฎกหรืออรรถกถา อันนี้โอกาสผิดน้อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2014
  13. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ก่อนปฏิบัติควรศึกษาแผนที่คือปริยัติให้ดีก่อน มิฉะนั้นอาจปฏิบัติผิดทางได้

    ไม่ควรดูหมิ่นเรื่องศึกษา และอธิบายตามปริยัติแล้วจะมักจะผิด เพราะไม่เสมอไปครับ
    แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ปริยัติอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เกิดมรรคผลได้ต้อปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทางแห่งปริยัติด้วย จึงจะเกิดผลคือปฏิเวธ ที่สมบูรณ์

    แต่ถ้าไม่รู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิดก็ทำให้ เข้าใจผิด ทำให้ได้ผลไม่ตรงเป้า
    ปริยัตินั้นสำคัญไม่แพ้ปฏิบัติครับ ถ้าไม่มีปริยัติ พวกปฏิบัติอย่างเดียวมักเดินหลงทางเป็นส่วนใหญ่


    เรื่องพระฆ่าตัวตายลองอ่านรายละเอียดดูที่นี่ครับ
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=01&A=7436&Z=7557
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2014
  14. ss_solomon

    ss_solomon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +54


    แล้วอย่างกรณีของพระโคธิกะ ล่ะครับ
     
  15. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .............ผมเข้าใจว่า...นะครับ(ความเห็นของผม)...การบรรลุธรรม ขั้นใดก็ตาม ย่อมต้องเป็นเรื่องของบุคคลนั้นนั้น จะ มา เอาอย่างกัน ได้ หรือ? องคุลิมาร ย่อมมีคนเดียว..พระพาหิยะ ก้ย่อมมีท่านเดียว..เป็นกรณีกรณีไป จะ มาเอาอย่างกัน ย่อมไม่ได้:cool:
     
  16. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    กรณีพระโคธิกะ ไม่ได้เกิดจากการที่ฆ่าตัวตายด้วยโทสะ แต่เป็นการสละชีวิตเพื่อธรรม

    พระโคธิกะนั้นได้ฌานแล้วเสื่อมถึง 6 ครั้งเพราะสุขภาพทางร่างกายไม่ดี
    (ท่านเป็นโรคลมน้ำดีและเสมหะ)
    แต่พอได้ฌานครั้งที่ 7 ท่านทรงอารมณ์ฌานอยู่ได้ ถ้าตายไป ยังไงก็ไปพรหมโลกแน่นอน เพราะถ้าตายขณะที่ฌานเสื่อมอีกอาจไปเกิดในอบายได้

    ท่านจึงเชือดคอขณะได้ฌานและพิจารณาเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานคือมีสติพิจารณาธรรมคือความไม่เที่ยงของเวทนาตลอด ไม่ได้ขาดสติ เหมือนพระที่รังเกียจกายเพราะเจริญอสุภนั้น

    ท่านพระโคธิกะจึงบรรลุพระอรหันต์ก่อนตาย

    อารมณ์ท่านคงคล้ายๆ กับพระพุทธเจ้าตอนก่อนตรัสรู้ที่
    ได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จจึงสละชีวิตเพื่อธรรม
    จึงตั้งใจมั่นว่า ขอพิจารณาธรรมจน ตายในขณะที่จิตทรงฌาน
    เหมือนกับพระพุทธเจ้าที่ก่อนตรัสรู้ท่านก็ตั้งใจไว้ว่า

    จะนั่งปฏิบัติธรรมไปจนกว่าจะชำระกิเลสได้หมดสิ้นไปจากใจ
    หาไม่แล้วจะไม่ลุกเด็ดขาดแม้ตายก็ตาม

    คงไม่มีใครคิดว่า การที่เจ้าชายสิทธัตถะทำเช่นนี้เป็นการฆ่าตัวตายใช่ไหมครับ

    อารมณ์ความรู้สึกต่างกับการที่มีโทสะแทรกแล้วฆ่าตัวตายอย่างสิ้นเชิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2014
  17. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    หรือมีอีกเรื่องเกี่ยวกับการสละชีวิตเพื่อธรรมเช่น

    อดีตชาติ ของพระอริิบุคคล 7 องค์ เช่น พระพาหิยะ พระปุกกุสาติ พระทัพพะมัลละบุตร ฯลฯ

    ท่านเหล่านี้ ในสมัย พระพุทธเจ้าองค์ที่แล้ว (พระกัสสปพุทธเจ้า) ท่านเด็ดเดี่ยวมาก ขนาดปีนบันไดขึ้นภูเขาสูงชันแล้วถีบบันไดทิ้ง โดยตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่า ถ้าไม่ได้บรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่ง จะยอมตายบนเขา ไม่ฉันข้าวเด็ดขาด

    ในหมู่เพื่อนท่านได้ อรหันต์องค์นึง พระอนาคาองค์นึง ที่เหลือตาย ไปสุคติ
    พอมาสมัยพุทธกาลปัจจุบันท่านเหล่านี้ก็รรลุธรรได้โดยง่าย
     
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    พระที่ทำผิด แต่ไม่ผิดศึลครับ เพราะเป็นต้นบัญญัติ
    เป็นคนทำผิดคนแรก เลยถือให้เป็นกรณีตัวอย่าง
    แก่ผู้อื่น พระพุทธองค์ยังไม่ถือว่าทำผิดศีลแต่อย่างใด
    เพราะไม่มีใจอยากทำ แต่กายทำไปเอง ให้เอาไว้สอน
    เพื่อเป็นบทเรียนแก่ผู้อื่น

    ิีิีอีกอย่างพระโสดาบัน ก็แค่คนที่มั่นใจในหนทางแล้วนั่นเอง
    นิสัยทั่วๆไป หรือ พฤติแห่งจิต ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
    การกระทำต่างๆ ก็ยังเหมือนคนทั่วๆไป ชนิดที่แยกกัน
    ไม่ออกเลยทีเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2014
  19. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ผิดศีล 5 ครับ
    ศีล 5 เพราะพุทธเจ้าบัญญัติไว้ก่อนแล้ว

    แต่ไม่ถือว่าอาบัติปาราชิก เพราะเป็นต้นบัญญัติ

    เป็นคนละระดับกัน

    และที่ฆ่าตัวตายนั้น ไม่ใช่พระโสดาบันแน่นนอน
    พระโสดาบันแน่นแฟ้นในศีล 5 ย่อมไม่ทำผิดศีล 5 โดยการฆ่าตัวตายแน่นอน
     
  20. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ในเว็บพลังจิตนี้มีทั้งแอบบอกว่าบรรลุธรรม
    และประกาศว่าตัวเองบรรลุธรรมแบบโจ้งแจ้ง
    เราเหมารวมว่าปลอมได้ทั้งหมดหรือไม่?
     

แชร์หน้านี้

Loading...