ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

******ยินดีดีด้วยครับ พระสามทวด หายากมาก******

​

​

 

วิญญาณรูปสลักไม้

ผมไปซื้อหนังสือมือสองมา เป็นนิตยสารต่วยตูนพิเศษ เป็นหนังสือเก่านานหลายๆสิบปีแล้วครับ อ่านเจอเรื่องนี้เข้าเลยขอนำมาลงให้อ่านกันครับ (รูปประกอบเป็นรูปที่ไปหาจากกูเกิ้ลมาใช้ประกอบเรื่องให้เห็นภาพเท่านั้นนะครับ)




บันทึกอาถรรพ์ ตอน วิญญาณรูปสลักไม้ - โดย ยุพา (ขอสงวนนามสกุล)

ข้าพเจ้าเป็นคน จ.ยะลา จบการศึกษาปี ๒๕๓๑ หลังจากนั้นก็แต่งงาน ได้ย้ายมาอยู่บ้านของสามีที่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นอำเภอที่ค่อนข้างจะทุรกันดาร อยู่ลึกเข้าไปใกล้เทือกเขาบรรทัด ภูมิประเทศเป็นที่สูง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยาง บ้านสามีของข้าพเจ้าเป็นบ้านไม้ ๒ ชั้น ข้าพเจ้าและสามีอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนก็มีพ่อ แม่ของสามี และน้องๆอีก ๒ คน เป็นผู้หญิง ข้าพเจ้าอยู่มาประมาณ ๓ ปี
จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ปี ๓๔ ก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า และยังประทับอยู่ในความทรงจำเสมอมา คือปกติข้าพเจ้าเป็นคนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก จะห้อย “หลวงพ่อทวด วัดช้างให้” เป็นประจำไม่เคยขาด เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน วันหนึ่งสร้อยขาดยังไม่ได้ซ่อม ตกกลางคืน เป็นคืนเดือนมืด เวลาประมาณ ๐๒.๑๕ น. สามีของข้าพเจ้าและพ่อแม่ ได้ออกจากบ้านไปกรีดยาง ทิ้งให้ข้าพเจ้านอนคนเดียวที่ชั้นล่าง หลังจากนั้นเมื่อข้าพเจ้าได้หลับไป มารู้สึกตัวอีกครั้ง ปรากฏว่าที่รอบคอของข้าพเจ้ามีมือมาโอบลูบเล่นอยู่ และมีความรู้สึกว่ามือนั้นเย็นมาก ตอนแรกข้าพเจ้าคิดว่า น้องๆของสามีที่นอนอยู่ชั้นบนจะลงมาแกล้ง ก็เรียกชื่อน้องสามี ได้ยินเพียงเสียงเดิน ไม่มีเสียงตอบกลับมา ข้าพเจ้าจะลุกก็ลุกไม่ขึ้น ก็พยายามเพ่งดูในความมืด เห็นลางๆคล้ายๆเด็กผู้ชาย ข้าพเจ้าตกใจมาก ได้ตะโกนเรียกให้น้องของสามีลงมาช่วย แต่ก็ไม่มีใครลงมา ข้าพเจ้าจึงท่องบท อิติปิโสภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ.....และอีกหลายๆบท เมื่อข้าพเจ้าลุกได้แล้ว สิ่งแรกคือ รีบวิ่งไปเปิดไฟ และรีบวิ่งไปเอา “สร้อยหลวงพ่อทวด” ที่ขาดมาตั้งไว้ที่หน้าอก เวลาตอนนั้นประมาณ ๐๔.๐๔ น. ข้าพเจ้าเปิดไฟนอนอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไร จึงปิดไฟ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเพราะอภินิหารของหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรเลย แต่พอหยุดแขวนท่านเพียง ๑ คืน ก็เกิดเรื่องจนได้ ข้าพเจ้าจึงแขวนท่านตลอดมา เข็ดจริงๆ


เมื่อถึงตอนเช้า ทุกคนกลับมาพร้อมหน้า ข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟัง แม่สามีได้เล่าว่า ที่ชั้นบนมีคนให้รูปสลักไม้เด็กผู้ชายมา ๑ รูป ท่านคิดว่าเป็นลูกกรอกนำโชคมาให้ ท่านก็เลี้ยงไว้ ตั้งข้าวปลา จัดคล้ายๆตั้งหน้าที่พระ แม่สามีบอกว่า ท่านลืมบอกไปว่าข้าพเจ้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่มาอาศัยอยู่ด้วย เด็กไม่ทราบก็เลยมาหยอกล้อเล่น ไม่ทำอะไร แต่ก็ทำให้ข้าพเจ้าเกือบหัวใจวายตาย คิดถึงมือเย็นๆตอนโอบรอบคอ มันตราตรึงจนข้าพเจ้าไม่อาจลืมเลือนได้

หลังจากนั้น ๒-๓ วัน มีคนมาขอรูปสลักไม้ แต่แม่สามีขอคิดดูก่อน พอตกกลางคืน ท่านก็ได้ฝันไปว่ามีเด็กผู้ชายมาขอไม่ให้แม่สามีมอบรูปสลักไม้แก่คนอื่น เค้าบอกว่า ชอบอยู่ที่นี่ สบายดี พูดไปก็ร้องไห้ไปจนแม่สามีสงสาร วันรุ่งขึ้นจึงปฏิเสธคนที่มาขอ และทุกวันนี้แม่สามีก็ยังตั้งข้าวปลาอาหารให้รูปสลักไม้เป็นประจำ ส่วนข้าพเจ้า อีก ๒ อาทิตย์ต่อมา ก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่ตลาดในเมืองตรัง และปัจจุบันไม่กล้านอนบ้านสามีโดยลำพังเด็ดขาด เพราะกลัวมาก !!!!


<a href="http://www.uppic.org/share-F628_554ECB37.html"><img src="http://www.uppic.org/image-F628_554ECB37.jpg" border="0"></a>

 

ขอแชร์ประสบการณ์มหัศจรรย์กับหลวงปู่ทวดครับ

เดือนก่อนผมต้องบินไปขอนแก่น เครื่องออก 7 โมงเช้าที่ดอนเมือง บ้านผมอยู่แถวบางแค วันนั้นผมตื่นมา 5:50 เนื่องจากนาฬิกาปลุกไม่ดัง คิดว่าไปไม่ทันแล้ว แต่ไม่ไปก็ไม่ได้เพราะมีประชุมสำคัญ น้องที่ไปด้วยก็จะลำบาก

ภาวนาในใจให้หลวงปู่ทวดช่วยด้วย รีบอาบนำ้แต่งตัว ได้ขึ้น Taxi ปรมาณ 6:05 ภาวนาคาถาหลวงปู่ต่อขอให้ทัน ปกติต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชมจากบ้านผมถึงดอนเมือง

วันนั้นผมถึงดอนเมือง 6:40 ยังไม่ได้เช็คอิน ปกติเคาเตอร์ปิดแล้ว คนต่อแถวรอเช็ดอินยาวมาก เจอหัวหน้าคุมเคาเตอร์ขอให้เค้าช่วยเพราะคิดว่าคงตกเครื่องแล้ว ปรากฏว่าเช็ดอินได้ ประมาณ 6:45 เค้าให้รีบไปเพราะคนขึ้นเครื่องแล้ว เดี๋ยวประตูปิด

วิ่งไปแถวตรวจ Broading Pass คนยาวอีก ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี

วิ่งไปตรวจกระเป๋า คนยาวอีก ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี

จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตูขึ้นเครื่อง ถึงประตูประมาณ 6:55 คนสุดท้ายพอดี ขึ้นเครื่องทัน

เล่าให้ใครฟังก็บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้ครับ

ขอกราบหลวงปุ่ทวดครับ สุดยอดจริงๆครับ

ปกติผมอารธนาหลวงปู่ทวดรุ่นเหล่านี้ติดตัวครับ ครั้งละองค์ครับ หลวงปู่ทวดท่านดีทุกรุ่นทั้งเก่าและใหม่ครับ
1) หลวงปู่ทวด เนื้อขาว วัดนวลประดิษฐ์ ปี 05
2) เหรียญเสมาหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่น 3
3) หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ หลังหนังสือ ปี08 บล็อคหน้ายักษ์
4) เหรียญน้ำเต้าหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 05

 

โจรใต้กดบึม คุณยายขายน้ำมันรอดตายเพราะพุทธคุณหลวงปู่ทวด

คุณยายขายน้ำมันขวด เผยรอดตายหวุดหวิด จากเหตุ ระเบิดช่วงเช้า เชื่อเพราะพุทธคุณของหลวงพ่อทวด วัดช้างให้...

จากกรณีคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องหนัก 3-5 กก.ไปวางไว้ใต้ม้านั่งหน้าร้านซ่อม จยย.ไม่มีชื่อ เลขที่ 18 ถนนอุตสาหกรรม เขตเทศบาลนครยะลา จุดชนวนระเบิดกับโทรศัพท์มือถือเป็นเหตุให้ อส.ศักดิ์ชาย บุญศาสตร์ อายุ 42 ปี อส.อ.เมืองยะลา บาดเจ็บไปเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ยะลา เพื่อน อส.กับชาวบ้านบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 5 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 พ.ย.นั้น

วันที่ 27 พ.ย. มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีนางโรม ชนะเขต อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถนนอุตสาหกรรม บ้านห้องแถวซึ่งอยู่ติดกับบ้านเลขที่ 18 จุดเกิดเหตุระเบิด โดยวางน้ำมันเบนซินขวดขายอยู่บนแผงหน้าบ้าน ห่างจากจุดระเบิดราว 6 เมตร ขณะเกิดเหตุนางโรม กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าบ้าน และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีอาการหูอื้อเล็กน้อย


<a href="http://www.uppic.org/share-903D_55504944.html"><img src="http://www.uppic.org/image-903D_55504944.jpg" border="0"></a>

นางโรม เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่รอพระภิกษุมาบิณฑบาต จู่ๆ ได้เกิดระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว รู้สึกได้ว่ามีเหมือนเศษวัสดุผ่านหน้าไปดังซ่าใหญ่ แรก ๆ เข้าใจว่า อส.ที่่มานั่งพักอยู่เป็นประจำปืนลั่น แต่เมื่อพิจารณาดูเห็น อส.หลายคนล้มลง และมีอีกคนนอนร้องครวญคราง จึงได้รู้ว่าเกิดเหตุระเบิด แต่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ

ขณะที่นางโรมเล่า ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นห้อยพระเครื่องอยู่ที่คอจึงได้ขอดู ปรากฏว่าเป็นพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ นางโรมจึงได้กล่าวขึ้นว่า เดชะบุญแคล้วคลาดเพราะบารมีหลวงพ่อทวดคุ้มครอง หากสะเก็ดระเบิดโดนน้ำมันขวดสาดมาทางตนก็คงบาดเจ็บไปด้วย

จากการสอบถามเซียนพระ ผู้หนึ่งทราบว่า หลวงพ่อทวดรุ่นดังกล่าวเป็นเนื้อโลหะของวัดช้างให้สร้างขึ้นเมื่อปี 2514 ปลุกเสกโดยท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว สหายธรรมของท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ในวงการพระเครื่องยังไม่มีรายงานประสบการณ์ของรุ่นนี้ แต่หลวงพ่อทวดไม่ว่าวัดใด รุ่นใด ใหม่หรือเก่าล้วนมีพุทธคุณสูงทั้งสิ้น

<a href="http://www.uppic.org/share-485E_55504944.html"><img src="http://www.uppic.org/image-485E_55504944.jpg" border="0"></a>

 

ไปอ่านเจอ ปสก.ลึกลับที่น้องผู้หญิงคนหนึ่งเคยประสบพบเจอมา ลองอ่านกันดูนะครับ


เกิดขึ้นตอนเราเรียนอยู่ม.5 ค่ะ เราเรียนอยู่ร.ร. แถวเอแบค บางนาค่ะ ซึ่งร.ร.อยู่ลึกมากกก อยู่กลางทุ่งเลย ปกติที่ ร.ร. ตอนเย็นๆไม่ค่อยมีคนอยู่ทำกิจกรรมเยอะถ้าไม่ใช่ช่วงกีฬาสี เพราะหารถกลับลำบาก นอกจากจะมีรถผู้ปกครองมารับ หรือเรียกแท็กซี่เข้ามา

แต่เราก็มีเหตุจำเป็นที่จะต้องอยู่ตอนเย็นเพราะเราเลือกเรียนพิเศษกับครูที่โรงเรียน ก็มีเพื่อนร่วมเรียนกันด้วยประมาณ 6 - 10 คน จากต่างห้องกัน โดยเรียนตอน 4 โมงเย็นถึง1 ทุ่ม

ร.ร. เรามีสองอาคารค่ะ อาคารแรกเป็นอาคารเรียนธรรมดา อาคารที่สองจะมีโรงอาหารอยู่ชั้นหนึ่ง ข้างบนก็จะเป็นห้องเรียนแล็บวิทยาศาสตร์ ห้องดนตรีไทย ห้องศิลปะ พวกเราก็เรียนกันที่อาคารที่สอง ก็เรียนกันทุกวันไม่มีปัญหาอะไร

จนมาวัน ที่ร.ร.เรา มีรุ่นพี่ผู้ชายที่ร.ร. เค้าเสียชีวิตกลางสนามบอล ซึ่งเป็นที่ที่เราเอาไว้เข้าแถวกันทุกๆวันนั่นแหละค่ะ พี่เค้าเป็นคนตัวเล็ก ชอบเล่นบอล รู้สึกว่าจะช็อคแล้วก็น็อคคาสนามบอลเลยหรืออะไรสักอย่างเราจำไม่ได้ ช่วงนั้นทั้งโรงเรียนเศร้ามาก เพราะเพื่อนพี่เค้าเยอะ เวลาเล่นบอลเพื่อนพี่เค้าก็จะเอาชุดบอล จุดธูป มาวางไว้ข้างๆโกล

อีกอย่างคือนักเรียนหลายๆคนจะไม่กล้าเดินไปใกล้จุดที่พี่เค้าเสียชีวิต มีข่าวลือกันมาบ้างว่าพี่เค้าวนเวียนอยู่ในร.ร. เราก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ฟังเค้าเล่าๆกันในร.ร.

เย็นวันนึง ขณะที่เรากำลังรอเวลาไปเรียนพิเศษกับเพื่อน สมมติว่าเพื่อนชื่อเอ ละกัน เรากับเอไม่มีอะไรทำ ก็วิ่งแกล้งกันไปมา วิ่งเข้าไปเล่นกันที่อาคารสอง ซึ่งแทบไม่มีคนอยู่เลย โรงอาหารก็ปิดหมด เหลือแต่บันไดทางขึ้นอาคาร ซึ่งบันไดขึ้นอาคารเรียนเนี่ย เค้าจะติดกระจกบานใหญ่ๆไว้ตรงที่เลี้ยวไปอีกช่วงบันไดนึงอ่ะค่ะ คือ พอเดินขึ้นไปจนสุด ก็จะมีกระจก แล้วเราก็เลี้ยวเพื่อจะเดินขึ้นบันไดไปอีกเพื่อให้ถึงชั้นต่อไป ทีนี้ เอ มันก็แกล้งทำทีไปนอนสลบอยู่หน้ากระจกตรงบันได เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ไม่ลุก เราก็เลยพูดไปว่า

"เล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้หรอว่ามันเป็นทางผีผ่าน"

เอก็รีบลุกเลยค่ะ มันก็ขำกลบเกลื่อนความกลัวไป จริงๆเราไม่รู้หรอกว่ามันเป็นทางผีผ่านจริงไหม พอดีอ่านเรื่องหลอนๆมา เราก็มโนว่าตรงบันไดกับกระจกมันเป็นทางไม่ดี อะไรงี้

จากนั้นก็ไม่มีอะไร เราก็ขึ้นไปรอที่ห้องเรียนพิเศษ พอได้เวลาก็เรียนพิเศษไปตามปรกติ แต่ที่ไม่ปรกติคือเอค่ะ คือเนี่ยจะเป็นคนกวนโอ้ยมาก แล้วชอบกัดหรือแซวเราขำๆเวลาเราเรียน แต่วันนั้นเอนั่งเงียบมากค่ะ ไม่พูด ไม่คุยอะไรกับใครเลย อยู่ๆเอก็สะกิดเรา แล้วบอกเราว่า
"ช่วยพากรูออกไปข้างนอกหน่อย ไปเป็นเพื่อนหน่อย" เราก็เลยขอครูพาเอออกไปนั่งตรงระเบียงทางเดินนอกห้องเรียน พอออกมาปุป เอก็บอกกับเราว่า กลัว กลัวอะไรไม่รู้ ใจไม่ดีเลย กลัวๆๆ เอหน้าซีดเลยค่ะ มองซ้ายมองขวา ตัวสั่นๆ เอาแต่ระแวง เราก็บอกให้ใจเย็นๆ ไม่รู้จะทำไง เราเลยไปบอกครู

ครูก็ไปเอาหลวงปู่ทวดมาให้เอาใส่ในกระเป๋าเสื้อ แล้วบอกให้เอกลับเข้ามานั่งเรียนในห้อง เอก็ทำตามนะคะ แต่เหมือนสติไม่อยู่กับตัว ระแวงอะไรสักอย่างตลอดเวลา

จนเรียนเสร็จหนึ่งทุ่ม เออาการหนักค่ะ จะร้องไห้ ฟูมฟาย เรากับเพื่อนอีกคนก็พยายามพาเอลงไปข้างล่าง โดยลงลิฟต์กันไปเพราะทางบันไดเนี่ยถูกปิดหมดแล้ว พอลงถึงชั้นหนึ่งแล้วเดินผ่านบันไดที่มีกระจกติดอยู่ เอมันก็ร้องไห้เลยค่ะ ปากก็พึมพำว่า ไม่เอา กลัวๆฮือๆ อยู่อย่างนี้ เราก็พยุงมันออกจากอาคารเรียน พอออกมานอกอาคารเรียนได้ เจอสนามบอล เอทรุดเลยค่ะ นั่งร้องไห้อยู่หน้าสนามบอล ฟูมฟายโวยวายมาก เราต้องเรียกเพื่อนอีกคนมาช่วยพยุง เราก็บอกให้เพื่อนรีบพาเอออกไปนอกโรงเรียนก่อน ลากกันไปอย่างทุลักทุเลมาก

พออกจากรั้วโรงเรียนได้เอดีขึ้นค่ะ เหมือนจะใจเย็นลง ไม่โวยวายแล้ว เอนั่งก้มหน้าอยู่ที่ฟุตบาทคนเดียว ไม่คุยกับใคร เราก็โทรเรียกพ่อให้มารับ เอาเอไปส่งด้วย เพราะบ้านเอกับเราไปทางเดียวกัน พอถึงหน้าปากซอยบ้านเอ เอก็บอกจะขอลงตรงนี้ เราจะไปส่งหน้าบ้าน เอก็ไม่ยอม
พอส่งเอเสร็จ เรากลับบ้านก็เล่าให้พ่อกับแม่เราฟัง พ่อเราก็ไม่ค่อยเชื่อ พ่อบอกว่าเอกลัวไปเอง ที่เราไปทัก เอคงกลัวจนจิตตกไป

วันรุ่งขึ้นเราไปถามเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันกับเอ ก็บอก เอไม่มาโรงเรียน เพื่อนที่เรียนพิเศษก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย พอวันต่อมา เอกลับมาโรงเรียนแล้ว ยิ้มเหมือนเดิม เฮฮา แต่ที่ทำให้เราตกใจคือ เอใส่เสื้อยันต์ไว้ข้างในเสื้อพละด้วย สงสัยจะกลัวไม่หาย เราก็ถามว่าเป็นอะไรบ้าง

เอเล่าให้เราฟังว่า หลังจากกลับไปถึงบ้าน แม่เอก็โทรไปหาร่างทรง ร่างทรงก็ทักเลยว่า ที่ร.ร.เอ มีคนตายใช่ไหม คนที่ตายเป็นผู้ชาย ตัวเล็กๆใช่ไหม เค้า ใส่ชุดร.ด. ด้วยนะ เค้าตามเอ กลับมาด้วย
เค้าเหงา ร่างทรงบอกอีกว่า เค้าอยากง้อแฟนเพราะก่อนตายเพิ่งทะเลาะกับแฟนมา แต่เค้าสื่อสารกับใครไม่ได้ จนมาสื่อกับเอได้

แม่เอก็ถามร่างทรงอีก ว่าพี่เค้าต้องการอะไรอีกไหม ร่างทรงเลยจะให้พี่เค้ามาเข้าร่างเอ เพื่อจะได้สื่อสารกันได้อีก
ร่างทรงบอกให้แม่เอหาน้ำมนต์มาให้เอกิน แล้วจุดธูปเรียกพี่เค้ามา เอกินน้ำมนต์เข้าไปสักพักก็อ้วกออกมามีแต่น้ำเปล่าๆ

ร่างทรงก็บอกว่าพยายามพาพี่เค้าเข้าร่างเอ แต่เข้าไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เอก็เบลอๆ ร่างทรงบอกให้ไปทำบุญให้พี่เค้าซะ พี่เค้าไม่ได้มาทำอะไรหรอก
เราฟังจบก็เลยถามเอไปว่า หลวงปู่ทวดที่ครูให้ไปไหน แล้วได้ถอดออกหรือเปล่า เอบอกไม่ได้ถอด ลืมเลยว่าครูให้ไว้ อยู่ในกระเป๋าเสื้อ เราก็เลยคิดว่า ที่พี่เค้าเข้ามาหาเอไม่ได้อีกเพราะหลวงปู่ทวดหรือเปล่า
พอวันเผาพี่เค้ามาถึง ที่ร.ร.ก็มีการพาเพื่อนร่วมห้อง นักเรียนร.ด. กับครูไปงานพี่เค้า เราก็ไปถามคนที่ไปงานเผามาว่าพี่เค้าใส่ชุดอะไร พวกที่ไปก็บอกว่า เห็นตอนเปิดโลง ใส่ชุดร.ด. เราก็แบบ โห ร่างทรงแม่นจัง

อีกไม่กี่วันต่อมา เราก็ได้ยินว่าที่ร.ร.เราทำพิธีเชิญพี่เค้าออกจากร.ร. ทั้งพิธีพุทธ พิธี พราหมณ์

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เอก็เป็นปกติ แต่ไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นเลย แล้วเอก็ใส่เสื้อยันต์ซับในมาโรงเรียนทุกวันเป็นเดือน ส่วนเราก็บอกกับตัวเองว่าจะไม่ทักอะไรแปลกๆอีกแล้ว

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

สวัสดีค่ะทุกท่าน

เรื่องเล่า จากเจ้าของร้านเสริมสวย

บังเอิญไปทำผมร้าน ได้ฟังเรื่องเล่า จากเจ้าของร้าน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว...
พี่เขาเล่าให้ฟังว่า.......

มีคุณป้า มาทำผมที่ร้าน ท่านทำงานก่อสร้าง
และเล่าถึงองค์สมเด็จหลวงพ่อทวด ที่ทำให้ โฟร์แมน ตรวจงานก่อสร้าง
ซึ่งพลาดหล่นจากที่สูง แต่ด้วยบารมีของหลวงพ่อทวดทำให้โฟร์แมนคนนี้ไม่ตกตึกตาย
คุณป้าท่านทำงานก่อสร้าง ท่านแขวนหลวงพ่อทวดติดตัวตลอด
(องค์เล็กลอยองค์) แบบใช้เข็มกัดแล้วแขวนองค์หลวงพ่อทวดติดกับเสื้อ ปกติแล้วท่านจะทำงาน ขนปูนอยู่ข้างบน แต่วันนั้นไม่รู้ทำไม ท่านเดินลงมาอยู่ ชั้นล่าง....
ขณะที่โฟร์แมนกำลังสำรวจ หรือตรวจงานอยู่ข้างบน เกิดพลัดตกลงมา
ชั้นที่ป้าเขาเดินลงไป ซึ่งเป็นจังหวะนั้นท่านเหงยหน้าขึ้นไปพอดี....โฟร์แมนกำลังตกลงมาผ่านมาถึงท่าน ท่านบอกว่าตอนนั้น อยู่ๆ ท่านก็เอามือ
ดึงโฟร์แมนเข้ามาด้านใน ....
ท่านก็ไม่รู้ว่าดึงเข้ามาได้อย่างไร ....ทั้งๆที่ท่านก็เป็นคนร่างเล็กมีน้ำหนักเพียง 45 กก. แต่
โฟร์แมนที่ตกลงมาท่านเป็นผู้ชายสูงใหญ่...มาก....ท่านเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อทวดที่ท่านแขวน ทำให้สามารถดึงโฟร์แมนคนนั้นเข้ามาไม่ตกหล่นไปข้างล่าง
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ไม่กี่วัน ท่านก็เดินทางไปวัดช้างให้ไปกราบหลวงพ่อทวด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน ท่านเคารพและศรัทธาหลวงพ่อทวดอย่างมาก
อีกครั้งหนึ่งท่านได้ไปประสบอุบัติเหตุทางรถ ซึ่งโดนรถมอเตอร์ไซด์ขับปาดหน้า กะทันหัน ทำให้รถยนต์ ของคุณป้าและสามี ตกข้างทางและชนกับต้นไม้ใหญ่ รถพังยับเยิน แต่คุณป้ากับสามีออกจากรถ..ไม่เป็นอะไรมาก ปลอดภัยค่ะ

 

น้อมกราบ สมเด็จเจ้า
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
กราบ
กราบ
กราบ​

สวัสดี เพื่อนสมาชิก ลูกหลานสมเด็จเจ้า

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

อยากเล่าให้ฟังค่ะ.....
เมื่อคืน ฝันเห็น ฤาษี หนวดยาว 2 ตน

ก่อนหน้าที่จะได้พระของพ่อคืน.....ก็ฝันเห็นฤาษี 3 ตน ใส่ชุด ฤาษี

(เคยเห็นฤาษี ก็ในหนังสือ)
และ ทีวัดเขาพนม ที่นคร เมื่อไปที่นั่นครั้งแรก หลาย10 ปีก่อนเจอ (ท่านที่บวชเป็นฤาษี)
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเห็นอีกเลย....

มาช่วงนี้มักฝันเห็นบ่อยๆ
ตั้งแต่ได้พระผงสุพรรณมา (ดูไม่เป็นหรอกค่ะ พระผงสุพรรณ ว่าแท้หรือไม่)

แต่อ่านประวัติ เจอว่า พระผงสุพรรณ มีองค์ฤาษีจัดสร้าง

(สอบถามผู้รู้ค่ะ....)

 

ผมก็เคยฝันเห็นฤาษีเหมือนกันครับท่านบอกว่าท่านชื่อฤาษีนารอท
ที่ฝันท่านมาเตือนเรื่องการพนันครับให้ลดน้อยหน่อย

 

เมื่อวันที่ 28/3/58

ได้มีโอกาสไปร่วม ทำบุญ ที่วิหารบ้านหัวเขาค่ะ...
เพราะตรงกับวันเสาร์ วันหยุด
ทราบจากน้องที่จัดงานทำบุญ

หลวงพ่อทวด
ท่านบอกให้ทำในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือนนี้ ของทุกปี

 

วิหารบ้านหัวเขา สิงหนคร สงขลา

 

ค่ะ วันนี้ยังไม่ได้ซื้อล๊อตเตอร์รี่เลยค่ะ รอลุ้น สลากออมสิน กับ ธกส.ค่ะ


สลากออมสิน ยังได้ถูกเลขท้าย 3 ตัวบ้าง นะคะ
สลากธกส. จะครบ 3 ปีใกล้จะได้คืน แล้ว ยังไม่เฉียดรางวัลเลขท้ายเลยค่ะ

 

ผมซื้อตามแม่ผมและก็ทะเบียนรถ
ขอให้โชคดีถ้วนหน้าครับ
งวดนี้คนแห่ซื้ออายุหลวงพ่อคูณแน่นอน

 

เล่าเรื่องลูกแก้วค่ะ.....

ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญ หรือเปล่านะคะ....

นอกจากลูกแก้วที่เคยได้นำเข้าพิธีที่วัดร้องวัวแดงคราวนั้นแล้ว
ก็ได้ เจอลูกแก้วที่เก็บได้....อยากสอบถามค่ะว่าท่านใดเคยเจอ
หรือเก็บลูกแก้วที่ตกใกล้ รถ หรือ เดินๆ เจอตกอยู่
ลักษณะ ก็จะคล้ายกับลูกแก้วเด็กเล่น......

แต่สำหรับดิฉัน ทุกครั้ง ที่นึกว่าจะทำบายศรี หรือนึกเกี่ยวกับเรื่องพญานาค
มักจะเก็บได้ลูกแก้วประจำ.................

 

ขอย้อนเหตุการณ์...
ลูกแก้วลูกแรกที่เจอ และเก็บไว้
เมื่อปี 52 ปลายปี จำได้ว่า ไปสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดป่ากันตพงษ์ สงขลา

คราวนั้น อาจารย์หญิงชวนไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดค่ะ
และท่านก็ทำพญานาคเพื่อถวาย และต้มไข่500 ใบ แจกผู้มาร่วมทำบุญปีใหม่ที่วัด

วันที่ 31 ธค.52 ช่วงเช้า เราไปรับบายศรีพญานาคริบบิ้น ที่บ้านคุณขันทอง
ดิฉันนั่งถือบายศรีพญานาคตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงวัดค่ะ
ไปถึงวัดประมาณช่วงบ่าย และนำบายศรีพญานาคไปไว้ที่อาคารที่สวดมนต์ที่ทำพิธีสวดมนต์กันในเช้าวันที่ 1 ปีใหม่

ออกจากอาคาร เราและเข้าที่พัก ซึ่งมี อยู่ 4 หลังค่ะ....
และเดินสำรวจมาถึง อีกอาคารหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารสร้างใหม่ เป็นที่พักรวม และกว้างกว่าอาคาร4 หลังซึ่งเดินไกลมาก ที่สะดวกคือ อาคารที่พักนอนรวมนี้ ใกล้ ห้องน้ำ.....

จึงคิดว่า น่าจะมาที่อาคารนี้ดีกว่า แต่อยู่ๆ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ไม่สามารถกลับไปอาคารที่พักที่แรกได้ จึงรอเกือบ1 ชั่วโมง ฝนจึงหยุดตก จึงได้เดินกลับไปอาคารที่พักแรก เพื่อนำเสื้อผ้ากลับมานอนที่อาคารรวม และใกล้ ลาดพิธี สวดมนต์ข้ามปีด้วยระหว่างที่เดินกลับไป จะเดินไปทางเดิมไม่ได้ เพราะทางแฉะ และเป็นโคลน มีน้ำขัง มาก จึงย้อนไปอีกทาง เดินไปได้ครึ่งทาง ก็สังเกตเห็นวัตถุสีฟ้า ตกอยู่ในดินโผล่ให้เห็นนิดหน่อย จึงลอง เขี่ยดู ก็เห็นเป็นลูกแก้วสีฟ้า(ขุ่น) เหมือนกับลูกแก้วตามท้องตลาด ก็เก็บไว้ยังนึกในใจว่า ในวัดมีเด็กเอาลูกแก้วมาเล่นด้วย (เล่นหมากขุมกันหรือเปล่า)....ก็เก็บลูกแก้วลูกนั้นไว้ (ไม่ได้คิดอะไรค่ะ).....นั่นคือลูกแก้วลูกแรกที่เก็บได้ค่ะ.....

แต่หลังจากนั้น อีก 1 เดือน ก็เก็บลูกแก้วได้อีก

(แล้วจะแวะมาเล่าเรื่องลูกแก้วลูกที่ 2 ที่เก็บได้นะคะ)......

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ...
สวัสดียามเย็นค่ะ....

เมื่อครั้งที่อยู่บ้านหลังเก่า.....
ข้างบ้านจะจัดไหว้ครูประจำปี....และทำบายศรีพญานาค งดงามมากค่ะ ได้เข้าไปชมบายศรีพญานาคชุดนั้น เป็นองค์พญานาคหลายเศรียร...
เมื่อวันงานเสร็จเรียบร้อย ข้างบ้านก็ยังเก็บบายศรีพญานาคไว้ จนใบตองเปลี่ยนสี....

ตั้งแต่วันที่เข้าไปชมบายศรีพญานาคชุดนั้น ก็มีความรู้สึกเกิดขึ้นในใจอยากทำบายศรี
เป็นรูปองค์พญานาค ไม่ต้องใหญ่มาก...

มีอยู่วันหนึ่ง...กลับจากที่ทำงาน เปิดประตูเข้าบ้าน และกำลังไขประตูข้างใน
อยู่ๆก็ได้ยินเสียงตกลงมาดัง ป๊อก...
มองดูที่พื้น...เป็นลูกแก้ว ลูกเล็ก 1 ลูก แต่มีสีออก ดำๆ....
หันมองรอบๆ มาทางไหน.........
เป็นเหตุการณ์อีกหนึ่งครั้งค่ะ....ที่เจอลูกแก้ว....

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

หลวงพ่อทวดที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ (สงขลา)
เคยเล่าเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วนะคะ กับเหตุการณ์ ที่ได้ประสบมา

หากท่านใดผ่านไปทางสะพานเปรม ติณสูลานนท์ ก็จะเห็นหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่งดงามตั้งประดิษฐานอยู่

เล่าย้อนอีกครั้งค่ะ....

ไม่ได้มีตาทิพย์นะคะ แต่คงเป็นเพราะบารมีของสมเด็จหลวงพ่อทวดทำให้เห็นภาพหลวงพ่อทวดองค์ที่จะสร้างขึ้นนี้ ก่อนจะสร้างเสร็จ.....

เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งนั้นประมาณ 2 ปีได้ค่ะกำลังจะไปวัดสุวรรณคีรี เพื่อไปทำบุญ ออกจากหาดใหญ่ 10.00 น. กว่า... และขับรถผ่านโรงพยาบาลสงขลา และก่อนจะขึ้นสะพานเปรมฯ หนึ่ง เห็นองค์หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ตั้งประดิษฐานอยู่ ก็เลยบอกน้องที่นั่งมาด้วยกันว่า....เดี่ยวกลับจากวัดสุวรรณคีรี เรามากราบหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่กันนะ น้องมันก็ถามที่ไหนพี่ ยังพูดกับน้อง ว่า มัวแต่นั่งเล่นเนตไม่ได้ดูข้างทางเลยนะแก.....ก็หลวงพ่อทวดที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ พี่ก็ยังไม่เคยขับรถเข้าไปเลย ....น้องมันก็บอกได้ได้ พี่...

เมื่อไปถึงวัดสุวรรณคีรี ทำบุญกับท่านเจ้าอาวาส เสร็จ.... เราก็รีบกลับ เพื่อจะได้ไปกราบไหว้องค์สมเด็จหลวงพ่อทวดที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ เมื่อไปถึงศูนย์ประวัติศาสตร์ ขับรถไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เห็น องค์หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ก็เลยหันไปถามน้องที่มา ก็ตอนขับรถผ่าน ฉันเห็นอยู่นะ พวกเราก็ขับเข้าไปในศูนย์ประวัติศาสตร์ ด้านใน ซึ่งเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่...ก็สอบถามว่า หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่มองจากหน้าถนน อยู่ตรงไหนค่ะ เจ้าหน้าที่ก็งงๆ
และบอกว่า ยังไม่ได้วางศิลาฤกษ์ เลย แต่กำลัง จะมีพิธีในอีกไม่กี่่เดือน แต่พี่ลองไปดูรายละเอียด และองค์ ต้นแบบได้ที่ศาลา ท่าน้ำที่ขับผ่านมา......

ค่ะ นี่คือเหตุการณ์ที่ประสบมากับตัวเองค่ะ....ว่าได้เห็นหลวงพ่อทวดองค์นี้ ตั้งแต่ยังไม่ได้สร้างค่ะ...

และเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาก็ได้ไปร่วมพิธีครั้งใหญ่เมื่อองค์หลวงพ่อทวดองค์นี้ ได้สร้างเสร็จ และป๋าเปรม มาเป็นประธานครั้งนี้ค่ะ....

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ...

 

ลูกแก้วลูกที่ 3

หลังจากที่ได้ไปสวดมนต์ข้ามปี แล้ว...

ก็อยากเรียนทำบายศรีพญานาค ทำกับริบบิ้น...อาจารย์หญิง ตอนนั้น ก็ยังทำไม่เป็นค่ะ จึงนัดกันไปเรียน การทำบายศรีพญานาค กับคุณขันทอง....
ดิฉันเองไม่เคยพับบายศรี เลย จริงแล้วต้องเริ่มหัดจากใบตอง แต่มาเรียนกับริบบิ้นเลย

ซึ่งยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยทำไม่เคยจับ เมื่อไปเรียน ก็ต้องมีค่าครู....
ค่ะ และคุณขันทอง ก็ให้จุดธูปบูชาครู ลงเรียนวิชานี้ ไป คนละ 500 บาทค่ะ กับอาจารย์หญิง

ซึ่งคุณขันทอง ท่านก็เมตตา สอนให้ทุกอย่าง...
นั่งจับม้วนริบบิ้น แตกไปเป็นจำนวนมาก กว่าจะทำได้ เป็นครั้งแรกค่ะ...ที่หัดทำ
และผลงานก็ออกมาดังนี้ค่ะ...


หลังจากนั้นไม่กี่วัน ขี่รถมอเตอร์ไซด์ขับเข้าซอยเข้าบ้าน ก็ เห็นอะไรสีขาวๆอยู่กลางถนน จริงๆ แล้ว ขับรถเลยไปแล้ว แต่เลี้ยวหัวรถกลับมาดูอีกครั้ง เป็นลูกแก้วสีขาวหม่นๆ... ก็หยิบ เก็บไว้อีก เช่นเดิม...... ตั้งแต่เหตุการณ์ 3 ครั้ง ผ่านไป ก็ยังคิดว่า คงบังเอิญ...หรือเด็กอะไรเล่น กันหรือเปล่า เพราะแถวบ้าน ก็มีเด็กๆ เล็กๆ เยอะ....
และลูกแก้วก็มีลักษณะเหมือนกับลูกแก้วตามท้องตลาด...

ยังไม่คิดว่า จะโยงไปเกี่ยวกับการนึกถึง หรือคิดเรื่องพญานาค....

และก็เจอมา เรื่อยๆ ค่ะ...

 

แต่เมื่อมาอยู่บ้านหลังใหม่
ทำให้มั่นใจว่า.....พญานาคที่เราไม่เคยได้สัมผัสกับตัวเอง
เคยดูผ่านทีวี ว่า เลื่อยขึ้นรถ...หรือปรากฎให้เห็นลำนำโขง

ท่านมีอยุ่จริง.....

แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ....เพราะ คนข้างบ้างเขามาเล่าให้ฟัง

ลูกขอใช้คอม จะแวะมาใหม่ค่ะ....

 

เพราะปากดี เลยได้ซื้อพญานาคน้ำพุ กลับลงมา....

ตนเองเป็นคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นแหวน กำไล จี้ หรืออะไรที่เกี่ยวกับพญานาค
ก็รู้สึกชอบ....

เมื่อบ้านสร้างเสร็จ ก็อยากจะทำบ่อน้ำพุ....แต่ที่จะนำมาจัด นึกไว้ว่าอยากได้พญานาคน้ำพุ
บ้านหลังใหม่นี้ อยู่มาปีนี้ ปีที่3 ค่ะ

แถวหาดใหญ่ พญานาคน้ำพุ มีน้อยมาก เพิ่งจะมีมากในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา

ครั้งนั้นได้ไปศึกษาดูงานทางภาคเหนือ......
ขากลับจากดูงาน แถวภาคกลาง รถก็จะจอดให้แวะซื้อสินค้า......
ก็มองๆ เห็นร้านขาย รูปปั้น หลายร้าน......

และรถ ก็มาจอดร้านหนึ่ง เพื่อจะให้ซื้อส้ม....
หลายคนลงจากรถไปซื้อส้มกันหลายลัง
เรานั่งอยู่บนรถ บังเอิญมองเห็นร้านขายต้นไม้ ติดกับร้านของส้ม
ก็พูดเล่นๆ ว่า อยากได้พญานาคน้ำพุจัง....ท่าร้านนี้มีนะ จะลงไปซื้อ
กลับใต้เลย (เพราะที่หาดใหญ่ยังไม่เห็นมีสวยๆ ที่ถูกใจ)

ใจมันนึกอยากจะลงไปดูเขาซื้อส้มบ้าง พอลงมาถึงบันไดรถทัวร์มองตรงไป
ที่ร้านขายต้นไม้

(ตั้งเด่นอยู่เลยค่ะ องค์พญานาค สีเขียว) ทำไงละคะ เอ่ยปากไปแล้ว
ตกลงต้องลงไปซื้อค่ะ........จำได้ว่า จ่าย ไป 700 บาท.......

และเมื่อได้มา ก็เอาลงมาจัดต้องที่ว่างหน้าบ้าน นิดหน่อย และมีบ่อเลี้ยงปลา
หาปลาหางนกยูง มาเลี้ยง จำได้ว่า ผู้ใหญ่ที่บ้าน ไม่อยากไปซื้อในเมือง
แวะไปเอาที่ทำงานเขาให้ ใส่รถมาอีทาไหนไม่รู้ ปลายตายเกือบหมด

ก็เลยต้องแวะไปซื้อในตัวเมือง อีก 1 ถุง 50 บาท ได้มา 10 กว่าตัว
ตอนนี้ เกิดลูกเต็มปล่องบ่อ......

แต่ก็มีเหตุการณ์ค่ะ เมื่อคนข้างบ้าง เขามาเล่าให้ฟัง และมาถามว่า บ้านน้องมีพญานาคหรือ ก็ตอบว่าใช่พี่ น้องเพิ่งซื้อพญานาคน้ำพุ มา

คนข้างบ้านเล่าให้ฟังค่ะว่า

แกไปดูหมอ.....อีกจังหวัดหนึ่ง แล้วหมอทักมาว่า แถวบ้านมีพญานาคนะ
เป็นทางผ่านพญานาค....
แก่ก็บอกไม่มี.......หมอก็บอกว่ามี....หมอเห็นอยู่........
ให้ไปดูข้างบ้านสิ....

จนพี่เขากลับมาบ้าน... เขาเห็นพญาพญานาคน้ำพุที่บ้าน ซึ่งเขามองข้ามกำแพงมา
พอดิฉันกลับจากที่ทำงาน (วันนั้นดึกมากแล้ว พี่ข้างบ้าน ก็เปิดประตูบ้านแกมาเล่าให้ฟัง)

.....ดิฉันก็เฉยๆ ค่ะ...แต่ก็แปลกใจว่า หมอแกตาดีจัง แกเห็นได้ยังไง


แล้วมีอยู่วันหนึ่งค่ะ ที่ประสบกับตัว ว่า พญานาคที่เรานำลงมา ไม่ธรรมดาค่ะ....