ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ขอบคุณที่เอามาให้ชมครับ (y)

 

สวัสดีค่ะคุณล้างใจ ไม่ไปวัดช้างให้หรือค่ะ อยู่ยะลาแถวไหนค่ะ...
เขาทำพิธีกันที่ศูนย์เยาวชน...ยะลา

 

คนข้างวัดพูดถึงหลวงปู่ทวด

บางคนมีตั้งเป็นปุจฉาด้วยซ้ำไปว่า "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด"
นั้นมีตัวตนจริงหรือไม่? หรือเป็นเพียงเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานกันมา
แต่สำหรับ "คนข้างวัด" ที่ได้อาศัยอยู่ใกล้ชิด ได้สัมผัส ทั้งสถานที่ เรื่องราวเล่าขานฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ต่างมีศรัทธาปสาทะ อันมากล้นไปด้วยความเชื่อ ความเคารพบูชา อันไม่มีแม้เพียงกระผีกริ้นแห่งคำถามที่จะทำให้"กระทบกระเทือน" ต่อ "ศรัทธาปสาทะ" ที่เต็มเปื่ยมมาล้นอยู่ในหัวใจ

ป้าสมปอง ยัศโยธา ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๓๘ หมู่๖ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา บ้านที่ตั้งอยู่ตรงข้ามบันไดขึ้นวัดพะโคะมากว่า 3 ชั่วอายุคน เปิดเผยว่าตนเองและครอบครัวอยู่ที่บ้านหลังนี้มา ๓ ชั่วอายุคนแล้ว ได้รับทราบรับรู้ว่าผู้คนแถวนี้เขาศรัทธา เขาบูชาหลวงปู่ทวด อย่างมิเสื่อมคลาย
ถึงขนาดว่ามีคนมาขายพระ ชาวบ้านจะไม่ซื้อเลยพระจากที่อื่น ต้องหลวงปู่ทวดอย่างเดียว !!!
"ชาวบ้านแถวนี้เขาเชื่อ หลวงปู่ทวดกับท่านพะโคะ เป็นองค์เดียวกัน คนเดียวกัน แต่ปั้นไม่เหมือน ไม่ต้องไปคิดว่าไม่ใช่เรียกได้ว่าชาวบ้านแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันเพราะแม่เขาเล่าว่าแกไปจากที่นี่ สมัยก่อน เรียกว่า โละหายไป แม่บอกว่าสมัยก่อนเกิดไข้น้ำ แกไปรักษาคนที่เป็นไข้หาย ไข้น้ำไม่มียารักษา เขาบอกนะ ป้าก็เล่าไปเท่าที่พอรู้ๆ นะ

ปัจจุบันไม่เพียงแต่ชาวบ้านในแถบใกล้เคียงที่จะเดินทางมาเยี่ยมชมเสมอๆ แม้แต่ชาวต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย สิงค์โปร์ หรือฝรั่งต่างชาติ ต่างเดินทางมาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงโรงเรียบปิดเทอม
ป้าสมพร เล่าถึงเรื่องราวอันเป็นอิทธิปาฏิหารย์ว่า เคยได้รับการฟังจากแม่เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ว่าตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ญี่ปุ่นบุกไทยปรากฎว่ามีน้ำไหลออกจากรอยฝ่าพระบาทหลวงปู่ทวด ชาวบ้านจึงมาตักไปให้ทหารดื่มกินตอนเกิดศึกสงคราม
"แม่เขาเล่าให้ฟังนะ ป้าเองไม่ได้รู้เองเห็นเองกับตัวเองเรื่องน้ำที่อยู่ในรอบฝ่าพระบาท อีกเรื่องหนึ่งก็คือสมัยก่อนเวลาถึงวันวิสาขบูชาพระจันทร์เต็มดวง ชาวบ้านจะเห็นเป็นดวงไฟสว่างลอยไปมาอยู่ในบริเวณใกล้วัดพะโคะ แต่เดี๋ยวนี้เข้าบ้านและวไม่เห็นเพราะชาวบ้านไม่ค่อยได้ออกไปท่งเหมือนเก่า เมื่อก่อนคุณลุงแกเป็นผู้ใหญ่บ้านแกเดินไปคันทุ่ง ไปชักน้ำใส่คันนาให้นาข้าว ให้ข้าวมันแล้ว แกบอกว่าเห็นเป็นดวงเลย ช่วงเช้าไป ๒ ดวงเรียงกันไป ชาวบ้านว่าเป็นดวงไฟของหลวงปู่กับเณร"
ผู้ใหญ่คิ้น ยัศโยธา หรืออดีต "พระคิ้น ธมุมทินโน" อายุ ๖๔ ปี ย้อนความหลังให้ฟังว่า ตอนมีการสร้างพระรุ่นแรกที่วัดพะโคะในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ก่อนทำผู้ร่วมพิธีทั้งหญิงหรือชายต้องนุ่งขาวห่มขาว มีการรับศีลกันก่อน มิฉะนั้นแล้วจะไม่ให้เข้าไปในโบสถ์เลย คนทำต้องเป็นคนดี และครั้นนั้นมีการเชิญคนชื่อ ฤกษ์ ดี คง ทอง รวม ๔ คนมาร่วมด้วย เพื่อควมเป็นสิริมงคล โดยตอนทำพิธีครั้งนั้นบุคคลทั้ง ๔ ต่างก็มีอายุมากแล้ว ปัจจุบันเสียชีวิตหมดแล้ว
"ตอนนั้นเมื่อเอาว่านแต่ละชนิดมาแล้วต้องมาตำกับครกรุ่นแรกผมเป็นคนทำ เป็นคนบริหารงานเองหมด ตอนทำนั้นมีอภินิหารอยู่อย่างหนึ่ง คือผมทำพระจนชาวบ้านเขากลับหมด ประมาณเที่ยงคืนหรือตี๑๒ แล้ว ปรากฏว่าดวงไฟเหมือนไฟจากตะเกียงพายุแล้วมีแสงสะท้อนเข้ามาในโบสถ์ ตอนนั้นผมคิดว่าอาจมีคนขโมยวัวก็ได้เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านก็นอนกันหมดแล้ว พอตอนเช้าไปสืบถามชาวบ้านวาบ้านใครโดนขโมยวัวขโมยควายกันหรือไม่ ปรากฎว่าไม่มีเลย นั่นแสดงว่าดวงไฟที่สว่างจ้านั้นคืออภินิหารของหลวงปู่ทวด เป็นแสงสว่างสะท้อนเข้าไปในโบสถ์ สว่างจ้าไปหมดเหมือนตะเกียงที่ชาวบ้านถือกันเป็นประจำเวลาไปตามคนขโมยวัว"
นอกจากนี้ตอนที่ทำพิธีปลุกเสก หลังเสร็จจากงานมีผู้หญิงคนหนึ่งนำผ้ายันต์ไป 1 ผืนระหว่างทางถูกผู้ชายลากไปเพื่อข่มขืนหรือกระทำมิดีมิร้าย แต่ในที่สุดชายผู้นั้นกลับถูกอำนาจลึกลับอะไรบางอย่างทำให้หลงทางวนเวียนอยู่บริเวณนั้นถึง ๒ รอบ กระทั่งพี่น้องของฝ่ายหญิงตามมาจนพบจึงยิงชายผู้นั้นจนเสียชีวิต
เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกโจษจันกันว่าเป็นครั้งแรกของการแสดงอภินิหารจากพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวข้องกับ "สมเด็จเจ้าพะโคะ" ด้วยการทำให้ชายผู้ร้ายหลงทาง ไม่สามารถกลับไปบ้านตนเองได้ !!!

ที่มา ...จากหนังสือประวัติศาสตร์สมัย หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
โดย....ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ เรียบเรียง...

 

สวัสดีครับ
ไม่ได้ไปครับ เขาทำพิธีอะไรกันเหรอ yimm

 

วันนี้วันที่ 5 ธค. วันเฉลิมฯลฯ ตอนเช้าเขาจะมีการตักบาตรพระที่ศูนย์เยาวชนค่ะและกลางคืนก็จะมีจุดเทียนชัย...แต่ไม่ได้อยู่ยะลาหลายปีแล้วไม่ทราบว่าใช้สถานที่ที่ศูนย์เยาวชนหรือเปล่า....

 

ขอบคุณครับ

 

ผมก็ไม่ค่อยได้ไปยะลาเลยครับมีแต่ผ่านแวบๆ วัดช้างให้ก็ไม่ได้ผ่านแล้วช่วงนี้เพราะเวลาออกจากเบตงไปหาดใหญ่ ผมจะไปถนนเส้นใหม่เลยสะดวกกว่าไม่ต้องผ่านโคกโพธิ:d

 

คุณล้างใจอยู่เบตง หรือค่ะ..นึกว่าอยู่ยะลา...
(เบตงอาหารอร่อยค่ะ เคยไปนับครั้งได้ 4 ครั้ง...)

 

มาเที่ยวเหรอครับ :d

 

พุทธซ้อน วัดช้างให้2539

 

คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ ตำบลป่าไร่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
คาถาบูชาหลวงปู่ทวด ให้บูชาท่านด้วย ธูปแขก 9 ดอก มะลิขาว 9 ดอก ท่อง คาถาหลวงปู่ทวด เป็นประจำจะแคล้วคลาดอันตราย
ตั้งนะโม 3 จบ ​

นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ) แล้วระลึกถึงท่าน
หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ จะคุ้มครองให้เราแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ​

 

สุดยอด สวยทุกองค์ เลยครับ

 

ชอบกรอบทองล้อมเพชร สวยจังเลยครับ

 

พระหลวงปู่ทวดของคุณTanarkon งามทุกองค์ค่ะ (ชอบทุกองค์)

 

อนุโมทนาครับ เสียดายครับไม่ทราบมาก่อนว่าคุณหมอ กำพล ไปที่วัดผมส่วนตัวรู้จักกับคุณหมอเหมื่อนกันครับ

 

ขอบคุณครับ..ตอนนี้ผมอยู่นาหม่อมครับ ไกล้คลีหนิก คุณหมอ พลละครับว่ามีโอกาศ ก็มาแลกเปลื่ยนความรู้นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

 

พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน วัดพะโคะ

การสร้างพระเครื่องและพระบูชารุ่นแรกของวัดพะโค๊ะ เริ่มดำเนินการใน
เดือน 8 พ.ศ.2506 โดยท่านอาจารย์เขียว ปุญญผโล รักษาการเจ้าอาวาสในขณะนั้นร่วมกับกรรมการวัดมอบหมายให้พระอธิการแสง อาภาธโร เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องพิมพ์ และการจัดหาว่าน แม่พิมพ์ 8 เบ้าแรก พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก แกะโดยปลัดศักดา ไชยาวรรณ (ผู้แกะพิมพ์วัดเมือง,วัดยะหา) เมื่อพิมพ์พระไประยะหนึ่ง พระอธิการแสงได้แกะพิมพ์กรรมการใหญ่และกรรมการเล็กอีกพิมพ์ละ 2 เบ้า ทำให้พิมพ์กรรมการมีน้อยค่อนข้างหายาก โยเฉพาะพิมพ์เล็ก มวลสารในการสร้างพระประกอบด้วย
1.ว่าน
2.น้ำผึ้งร่วง
3.กล้วยน้ำว้า
4.น้ำมันตังอิ๊ว
5.ผงพุทธคุณ
6.เหนียวดำ

การกดพิมพ์ครั้งแรกใช้คนกดที่มีชื่อเป็นมงคล คือ
1. นำ
2. ชัย
3. คง
ผู้ที่จะตำส่วนผสมต่างๆ พร้อมทั้งคนกดพิมพ์ ต้องอาบน้ำ รับศีล และนุ่งขาวห่มขาว นับว่ามีความพิถีพิถันในการสร้างสูงมาก การทำพิธีพุทธาภิเษกได้มอบให้
ท่านขุนพันธรักษ์ เป็นเจ้าพิธี ทั้งพิธีพราหมณ์และพิธีพุทธโดยการนิมนต์พระเกจิอาจารย์จัดทำพิธีอย่างยิ่งใหญ่ และครบถ้วนตามแบบโบราณ นับเป็นพระเครื่องหลวงปู่ทวดอีกสำนักหนึ่งที่น่าใช้บูชามากเพราะครบถ้วนในพิธีกรรมดีเยี่ยม มากมายด้วยประสบการณ์ มีพิมพ์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเหรียญรูปหลวงพ่อทวดที่ออกในนามวัดพะโค๊ะด้วย...ที่สำคัญคือวัดพะโค๊ะเคยเป็นที่จำพรรษาของสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ) หรือหลวงพ่อทวดในสมัยที่ท่านดำรงชีพอยู่ พระพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่สนนราคายังอยู่ที่หลักพันต้นๆ -หลักพันกลางถ้าสวยๆ อาจถึงหลักปลายครับ

ที่มา....108 พระดีที่มองข้าม
ษรวัฒน์

 

นำข้อมูลดีๆมาบอกกล่าวอยู่เรื่อยๆนะครับคุณนวล ดีจังครับ บุญรักษาคร๊าบบบบทุกท่าน

 

สวัสดียามสายของวันพระค่ะ...คุณเพชรฉลูกัน
มีแต่ข้อมูลค่ะ พระหลวงปู่ทวด 2506 วัดพะโค๊ะไม่มีค่ะ
คุณเพชรฉลูกันมีภาพมาลงมั้ยค่ะ

 

พระหลวงปู่ทวด 2506 วัดพะโค๊ะ เคยมีพิมพ์ใหญ่แต่ตอนนี้โดนนิมนต์ไปนานแล้วครับ ก็เลยเอาองค์นี้มาลงให้ดูแทนไม่เก่าเท่าไหร่ครับ เป็นพิมพ์กลักไม้ขีด ออกวัดช้างให้เพื่อนสาวที่ทำงานเก่าเค้าเอามาให้เป็นที่ระลึกหนะครับ ไม่ทราบปีที่สร้างแต่พลังงานเหลือล้นครับ