ได้ไปเจอ "ซัน" ผู้มีญาณทิพย์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 7 เมษายน 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]
     
  2. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    แมวน่าเกลียดมากคับ - -*
     
  3. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    กระทู้นี้เรื่องคนอื่น แท้ๆกลับมาทำให้กลายเป็นปัญหา เห็นคุยเรื่องนี้มา 2 เดือนกว่าแล้ว แถมยังลามไปเรื่องอื่น ยังไม่เบื่ออีกเหรอค่ะ ทุกท่าน
     
  4. ~Near~

    ~Near~ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +5


    อย่างนี้ยังจะพูดว่า ไม่ได้เจาะจงที่ตัวบุคคล อีกมั้ย :)

     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ยิ้มอย่างผุ้ชนะ เลยนะ 555 เอาเถอะนะ ถ้ายังแยกไม่ออก ระหว่าง จ้องที่ตัวบุคคล กับ ธรรมมันต่างกันอย่างไร มันก็จะปนแบบนี้แหละ
     
  6. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    ไหนละครับ ละทิ้ง ละวาง ใครพูดหน่อยก็คิดว่าเป็นตัวเองซะแล้วออกมาเต้นเร่า ๆ ถ้าคิดว่าไม่ใช่นะครับ กรุณาไปดูว่าคนแรกที่ออกมาโต้ตอบเรื่องนี้น่ะใคร คนนั้นน่ะแหละที่ทำใจไม่ได้...

    นี่ผมหวังดีนะครับ ผมก็สงสารเหมือนที่คุณสงสารคุณซันไง กลัวจะเดินทางผิด

    คุณไม่เคยได้ยินคำว่าข่มเขาวัวให้กินหญ้าเหรอครับ... แน่ะพอผมพูดเข้าหน่อยก็หาว่าเด็กริอ่านจะมาสั่งสอนผู้ใหญ่ อุปมาเหมือนดั่งสอนสังฆราชให้สวดมนต์ สอนจรเข้ให้ว่ายน้ำ...

    โอ๊ย.. ganesh น่ะไม่ไปหาคุณหรอกเพราะว่า ganesh จะไปอยู่กับคนดีเท่านั้น
     
  7. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    ก็ว่ากันไป หลงกระทู้ไปไกลแระ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    พูดจาไปเรื่อย นี่แหละผลของการไม่รุ้จักแยกแยะ
    ผมจะสอนให้ ว่าเวลาที่ผมพูด การเอาข้อเท็จจริงมาพูด ชี้ให้เห็นเหตุ เห็นผล นั้น แบบนั้น
    ไม่ใช่ ออกมาพูดตามอารมณ์ หาน้ำหาเนื้อไม่ได้แบบนี้

    เพราะมันมีระบบความคิดแบบนี้สิ มันถึงต้องไปเชื่อ เจ้า เชื่อบ่าว
    มันต้องรุ้จักแยกแยะ ระหว่าง กิเลส โทสะ ความไม่พอใจ มันบีบคั้น ให้เราเห็นมุมเดียว
    หรือว่า เรามองเหตุโดยรอบแล้ว นี่คุณมองไม่ได้เห็นมุมอื่นเลยว่า คนที่เขาออกมาชี้แจง เขามีเจตนาอย่างไร
    เอาหมั่นไส้ เอาไม่พอใจ เข้าว่า แล้วก็มองแต่มุมของตนเอง

    อุปมาว่า มีเด็กคนหนึ่ง มีความขุ่นมัวอยุ่ในจิตใจ เมื่อคนมาบอกว่า หนู นี่หนูกำลังขุ่นมัวอยู่
    เด็กคนนั้นจะมองเห็นคำเตือน คำนั้นกลายเป็นว่า อย่ามายุ่ง นี่มันเรื่องของกู
    นี่เห็นไหมว่า เด็กนั้นมองมุมเดียว โดยผิดไปจากความจริงอย่างมากมาย

    แล้ว ทางที่ถูกหละ คืออะไร ทางที่ถูกก็คือ คนเขามาเตือน เขาเอาข้อเท็จจริงมาให้อ่าน นั้นแหละคือสิ่งที่เราต้องละอารมณ์ของเรา แล้ว มองด้วยใจที่ไม่เอนเอียง

    คราวนี้จะเริ่มมองกันออกหรือยัง ว่า ใจของคนบ้า มันมองอะไรก็บ้า มันเหมือนหมาบ้า เจออะไร ไม่ได้มองว่าใครดีใครร้าย มันกัดไปหมด
     
  9. somchan123

    somchan123 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ได้เจอ"ซัน"ผู้มีญาณทิพย์

    สวัสดีครับ พี่ๆเพื่อนๆทุกท่าน ผมอยากไปพบกับพี่ซัน แต่ยังไม่มีข้อมูลใดๆ
    เลย จึงอยากขอรบกวนพี่ๆที่มีข้อมูลของพี่ซัน ช่วยบอกผมที่ครับ จะได้ไปหาพี่ซันได้ถูก ขอบคุณมากครับ:'(
     
  10. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ซันเขาเปิดบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้มีความทุกข์ในชีวิต ที่หาทางออกไม่ได้
    บ้านของซันจะอยู่แถวบางขุนนนท์ ฝั่งธน อยู่ตรงซอยวัดภาวนา
    ปากซอยมีร้านขายส้มตำ หรือถ้าไปไม่ถูกก็ไปแท๊กซี่ แล้วบอกให้ไปลง
    วัดภาวนา แล้วถามคนแถวนั้น เขารู้จักบ้านซันเกือบหมด
    ผมก็ไม่เคยไป แต่ฟังๆเขาเล่ามา

    ควรไปวันอาทิตย์ เพราะซันจะเปิดบ้านเฉพาะวันอาทิตย์
    ตั้งแต่เช้าถึงเย็น

    แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเปิดทุกอาทิตย์หรือเปล่า
     
  11. somchan123

    somchan123 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ได้ไปเจอ"ซัน"ผู้มีญาณทิพย์

    ขอบคุณครับที่บอกข้อมูล แต่อยากทราบว่า เค้าช่วยแบบไหนครับ และ ต้องใช้อะไรบ้าง เพราะผมอยากไปดูเคราะห์กรรม ของตัวผมเองและญาติ
    (||) (ผมอ่านในกระทู้แล้วว่าแม่น)(||)
     
  12. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    หมายถึงตัวเองสิครับเนี่ย เดี๋ยวนี้ตั้งกระทู้ว่าตัวเองเป็นด้วย เริ่มมีปัญญามากกว่าเด็ก ป.สองขึ้นมานิดนึงนะครับ

    ที่ว่าต้องละอารมณ์และไม่มองด้วยใจที่เอนเอียงนั้นเอาไปพิจารณามหาพิจารณานะครับจะได้ใจความเตือนตนเองว่าอย่ามองคนไปในทางที่ไม่ดี การกล่าวหาและให้ร้ายคนอื่นนั้นก็บาปเหมือนกันนะครับท่าน

    เวลาที่ผมพูดไม่จริงเรื่องท่านขันธ์ ท่านก็โกรธ ถ้าเอาใจเขามาใส่ใจเราก็น่าจะทราบดีว่าไม่ควรพูดถ้าไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ คุณไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับเขาคุณจะมากล่าวว่าเค้านำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย ไม่นำไปทำบุญ ไม่อยู่ในศีลในธรรม ถ้าคนอื่นเข้ามากล่าวว่าคุณแบบนี้บ้างคุณก็ไม่พอใจใช่ไหมล่ะครับ..

    คำว่า "ข้อเท็จจริง" นั้นขอให้เป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้หน่อยสิครับ เช่นคุณเห็นจริง ๆ ว่าเค้านำเงินทำบุญไปสมัครฟิตเนส คนเค้าก็มีการมีงานทำนะครับ บ้านเค้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเงินเลยแค่สมัครฟิตเนสเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็สมัครได้ครับ..

    แล้วผมว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่ผมพูดมา ซึ่งผมว่ามีมากกว่าตัวผมเห็นว่าคุณเป็นอย่างไรแต่เค้าขี้เกียจเถียงกับคุณ คุณก็น่าจะนิ่งเฉยเสียจะดีกว่า นี่คุณออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นให้เสียหาย ผมใช้คำว่าเสียหายเพราะที่คุณว่าเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องการแก้กรรมแล้ว มันรวมไปถึงชีวิตส่วนตัวของเขาด้วย ผมถึงได้บอกว่าคุณรู้จักเค้าแค่เพียงผิวเผินเหตุใดจึงกล้าที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตส่วนตัวเขาล่ะครับ กล้าประเมินจิตใจคนอื่น ก็ไปประเมินจิตใจตนเองเสียบ้างจะดีกว่านะครับ..

    ตอนนี้ผมประเมินคนแบบคุณมักจะคิดว่า
    ตดตนเองนั้นไม่เหม็น ของคนอื่นเหม็นมาก..
    ผมไม่ได้มีอคติกับคุณนะครับคุณขันธ์ เพราะว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมเริ่มรู้จักคุณจากข้อความส่อสกุลของคุณน่ะแหละครับ
     
  13. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    บ้างเรื่องก็แนาะนำยาก ของบางอย่างกว่าจะเข้าใจมันลำบากคนไม่ชอบหลอกคนเราชอบแต่เรื่องดีดีมีความสุขใจ สบายใจ ก็เลือกแต่ของที่มีความสุข แต่ลืมไปไหมว่าชีวิตเลือกแต่ความสุขไม่ได้ ทุกข์ก็ต้องเรียนรู้เมื่อถึงเวลาที่ทุกข์แล้วจะได้ทำใจได้วางใจถูก ถ้าการที่แนะนำคนให้ไปทำบุญได้นั้นก็ดี แต่กลัวว่าทำบุญแล้วก็แก้กรรมและขอพรให้ชิวิตดี ชีวิตนี้จะดีได้ตลอดไหมเมื่อแย่สิ่งที่ช่วยท่านได้คือธรรมมะแม้สิ่งวิเศษที่สุดในโลกก็ช่วยท่านไม่ได้เพราะทุกข์เกิดจากใจท่านเองท่านจะดับได้ก็ด้วยธรรมมะในใจเท่านั้น แล้วเมื่อรู้เช่นนี้แล้วเราทำไมไม่เร่งศึกษาธรรมมะให้เข้าไปในใจให้มากๆเมื่อถึงยามที่เราทุกข์ธรรมมะที่อยู่ในใจของท่านจะแสดงผลออกมาช่วยท่านได้โดยไม่ต้องมีอภินิหารใดใดเลย
     
  14. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    ผมว่าเขาก็แนะนำไปตามภูิมิความรู้นั่นแหละครับ เขาถนัดแนะนำให้คนทำบุญเขาก็แนะนำ จะไปให้เขามาสาธยายข้อธรรมะ เป็นข้อๆก็คงไม่ใช่ของถนัด ประเด็นเรามองที่ว่า เขาสอนให้คนทำความดี มีศีลธรรม ( ไม่ได้มองว่าเขาเป็นสื่อของเทพ แม้เขาเป็นคนธรรมดาผมก็นับถือถ้าเขาสอนดีจริง ) ส่วนเขาจะเอาเงินไปทำอะไรก็เรื่องของเขา เขาหากินสุจริต มิได้ไปปล้นจี้ใครมา ถ้าเขาหลอกลวงอะไรก็น่าจะมีหลักฐาน มิใช่การกล่าวกันลอยๆ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณไป อ่านตั้งแต่ต้นนะ ว่าประเด็นคืออะไร ผมขี้เกียจกล่าวซ้ำไปซ้ำมา
    แล้วก็ เรื่อง การยกเหตุ ยกผลมา ผมทำตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพิ่งมาทำ
    คุณกำลัง จะเบนประเด็น ไปทางอื่น เพื่อให้เห็นว่า ผมกำลังปรักปรำ คนอื่น

    สำหรับ การยกว่า นำบุญไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่ ซัน พูดเองทั้งสิ้น
    อย่าให้ผมต้องออกมาพูดมากกว่านี้เลย

    สรุปว่า คนไม่รู้จริง เอาเทพมาบังหน้า เขียนหนังสือหาเงิน เพื่อตนเอง โดยเอาบุญมาอวดอ้าง
    อ้างว่าเปิดบ้านช่วยเหลือผุ้อื่น มันจะไปต่างอะไรกับเจ้าเข้าทรงคนหนึ่งที่พยายามเผยตัวสู่สาธารณะชน
    และเขียนหนังสือ ให้คนหลงผิดไปกับ การแก้กรรม

    นี่คือ ธุรกิจ ทรงเจ้า ธุรกิจการขายศรัทธา และ ผลตอบแทนที่ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม นอกจากความเชื่อ
    คนแบบนี้ เกิดชาติใด จะไม่มีกิน จะต้องเป็นขอทาน เพราะว่า ขอเขากิน หลอกเขากิน โดยไม่ได้ตอบแทนอะไรคนที่เขาเอาเงินมาให้ ซื้อหนังสือไปอ่าน มันไม่ได้ต่างอะไรกับขายหัวเราะเลย

    ผมถามคำถามเดียวว่า อะไรคือ รูปธรรมที่พิสูจน์ได้กับ การไปหาซัน แล้วแก้เคราะห์กรรม นอกจากความเชื่อว่าจะแก้ได้ กลับมา คำพูดที่หลอกให้เชื่อ ผมว่าพวกคุณเอาเวลาไป ถวายสังฆทานเองยังดีเสียกว่า เอาเงินไปซื้อข้าวกิน แทนการซื้อหนังสือยังดีเสียกว่า

    ผมจะไม่เตือน พวกคุณอีก พวกอยู่กับความเชื่อ อยู่กับจินตนาการ อันหาความจริงทางรูปธรรมไม่เจอ
    จำกันเอาไว้
     
  16. ~Near~

    ~Near~ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +5
    ขันแตกอีกแล้ว
    ไม่ต้องเข้ามาเตือนแล้วนะ
    คนอื่นเค้ารู้หมดแล้วว่าคุณเป็นคนยังไง
     
  17. seng sun dan

    seng sun dan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +5
    การสังเกตและพิจารณา บรรดา ร่างทรง จอมปลอม
    1. มักอ้างว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ มีญานพิเศษ เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น สามารถติดต่อกับวิญญาน พวกเทพต่างๆได้
    -นิยมบอกว่ารู้ล่วงถึงสถานการณ์ใหญ่ๆ มาเสริมความดังของตัวเอง เช่น สึนามิ ,แผ่นดินไหว และมักอ้างว่า ไม่สามารถนำความลับสววรค์มาเปิดเผยได้ แต่รู้ล่วงหน้าแล้ว
    -สามารถแต่งนิทาน ต่างๆ จับแพะชนแกะ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ ของตัวเอง
    -มีพลังวิเศษ สามารถ อัญเชิญ เทพ ปิศาจ มาคุยได้ แม้กระทั่งญาติตัวเองที่ตายไปแล้วก็เชิญได้ แต่พอถามชื่อตัวเองกลับจำไม่ได้ (สงสัยตายแล้วลืมชื่อ)
    -แต่แค่ คุณเขียนตัวเลขใส่ กระดาษ กำไว้ แล้วไปถามพวกร่างทรง ว่าที่เขียนว่าเป็นเลขอะไร มักตอบไม่ได้ และ จะหาว่าคุณลบหลู่อีก
    -หรือ เอาก้อนขี้หมา ใส่ถุงทึบๆ ไปให้พวกนี้จับพลัง เขาอาจจะบอกว่า มีพลังหลายเมตรได้
    2. เป็นนักการตลาด ตัวยง
    -พอมีพลังพิเศษ ก็เลยออกมาหากินซะ โดยการ รับดูดวง ดูพลัง และจำหน่าย วัตถุ
    -หลังจากดู คุณแล้ว โดยใช้พลังอะไรก็แล้วแต่ ถ้าดูแล้วคุณไม่ดี มักจะ จำหน่าย วัตถุแก้เคล็ด หรือ ถ้าดี ก็จะจำหน่าย วัตถุเสริมดวง แทน
    เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
    -วัตถุ ที่นำมาจำหน่าย มักจะมีคุณสมบัติ พิเศษ แหวกแนว เพื่อสร้างจุดขายของตัวเอง
    -หาสาวกเครือข่าย สนับสนุน เพื่อ กระจายชื่อเสียง โดยนำเอา หลักการ อย่างข้อหนึ่งมาใช้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์

    -------------------------------------------------------------------------
    การทดสอบ บรรดาร่างทรง นี้ไม่แนะนำ ให้ไป ทดสอบคนเดียว ควรมีพวกไปซะ 20-30 คน ไม่งั้นคุณอาจโดนสาวกเขากระทืบได้ครับ
     
  18. seng sun dan

    seng sun dan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +5
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>เซ็ง สัน ดาน, ผีเสื้อราตรี </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
     
  19. RuamJit

    RuamJit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +628
    copy มาฉายรอบ 2

    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]ไม่​มี​ใคร​ อยู่​เหนือใคร ​ใน​โลกนี้[/FONT]

    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​มัน​อยู่​ที่​ ใจ​เท่า​นั้น​ เหนือ​กัน​ได้[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​อย่าลำ​เอียง คิดเชื่อว่า ​เหนือใคร[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​ตัวเหลวไหล​ ยัง​พร่ำ​เพื่อ ว่า​เหนือคน[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​หลงตัวเอง ว่าตัวดี นี่ภัยร้าย[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​ไม่​ฟังใคร ว่าตัวถูก ทุกเหตุผล[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​มี​แต่มืด บอดสนิท ชีวิตตน[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​หัดฟังคน ​อื่น​บ้าง ชี้ทางเรา[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​ใช่​โง่​เขลา ​เบาปัญญา อวดว่ารู้[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​ทั้ง​ที่​อยู่​ ใต้​โคลน จน​ถึง​เหง้า[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​อวดฉลาด อวดรู้​ อยู่​ทุกคราว[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​แล้ว​ใครเล่า​ จะ​นับ รับว่าดี[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​มี​แต่คน หลอก​ใช้​ ให้​ตกอับ[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​อย่าสดับ คำ​เยินยอ พอสุขขี[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​​คำ​สรรเสริญ คือหวังผล ที่ตนมี[/FONT]
    [FONT=JasmineUPC,AngsanaUPC]​ ​ตรอง​ให้​ดี อย่ามัวงง หลงตัวเอง[/FONT]
     
  20. กุสินารา

    กุสินารา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +282
    ศาสนาแห่งความเกลียดชัง

    เพิ่งอ่านเจอข้อความดี ๆ เลยคัดบางส่วนมาให้อ่านกันค่ะ

    ศาสนาแห่งความเกลียดชัง



    พวกเรามีปกติอยู่กับความรู้สึกอย่างหนึ่ง และแม้ความรู้สึกที่กำลังปรากฏอยู่เดี๋ยวนี้
    จะดีเลวปานใด มันก็เป็น "ตัวเรา" เสมอ

    ต่อเมื่อพบกับอาจารย์เซนผู้ชาญฉลาด สามารถใช้วิธีการอันเหนือความคาด หมายคล้ายตบหน้าเราให้เกิดสติถอยออกมาดูความรู้สึกที่กำลังปรากฏราวกับ แยกไปมองใครอีกคนที่ไม่เคยเป็นเราหากพร้อมพอ ก็อาจเกิดประสบการณ์พลิกกลับอันน่าพิศวงปราศจากที่ตั้งและขีดจำกัดแห่ง
    อุปาทานที่หลอกให้สำคัญมั่นหมาย ว่ากายใจเป็นเรา

    ภาษาของความว่างนั้นแม้ไร้ระเบียบหรือขาดเหตุผลแต่ยิ่งน้อมใจสดับมากขึ้นเพียง
    ใด กระแสความว่างจะยิ่งซึมถึงใจเพียงนั้น นั่นจึงมักก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่
    เหล่าผู้พร้อมจะหลงมากกว่าพร้อมจะรู้ สำคัญว่าตนถึงความว่างแล้ว ประเสริฐสูง
    ส่งเหนือสามัญมนุษย์แล้ว

    ไม่น่าแปลกใจ หากเราจะเห็นอาจารย์เซนและศิษย์เซนไอคิวสูงหลาย ๆ คน ทำ
    บาปทำกรรมครึกโครม เช่น ไล่เตะผู้หญิงแล้วบอกว่าสอนเซน กับทั้งห้ามมิให้
    ใครยึดมั่นถือมั่นการกระทำของตนเป็นความเลวร้าย การลูบคลำเซนแบบผิด
    ด้านและการละเลยความเข้าใจกรรมวิบากอันเป็นรากฐานสำคัญของพุทธ สำหรับ
    ปุถุชนทั่วไปมักทำให้หลุดโลกไม่ใช่พ้นโลก การจดจำโวหารของอาจารย์เซน
    ที่กระตุ้นให้เกิดประสบการณ์เห็นอะไร ๆ เป็นตรงข้าม เป็นคนละความรู้สึกกับ
    ยามมีอัตตา มักเป็นข้ออ้างของผู้ตั้งตนเป็นอาจารย์เซน ที่ชมชอบการพูดจา
    ขวางโลก ยิ่งโวหารน่าตะลึงเท่าใด ยิ่งเป็นการแสดงภูมิสูงส่งเท่านั้น โวหารนับ
    พันวรรคของเขาอาจกลายเป็นส่วนเกินของชีวิต ที่ทำให้หลงทางแบบกู่ไม่กลับ
    ไม่มีใครเตือนสติได้อีกแล้ว

    ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับก็เช่นกัน เมื่อยังเสียสละไม่มากพอ
    จะสละความยึดมั่นถือมั่นใด ๆ เมื่อยังรักษาศีลสัตย์ไม่มากพอจะรักแต่ความคิด
    ด้านดี เมื่อยังเจริญสติไม่มากพอจะมีสติรู้ทันอุปาทาน ก็อาจสำคัญตนไปต่าง ๆ
    แม้ปากกำลังพร่ำพูดเรื่องความไม่มีตัวตน แต่พร้อมกันนั้นก็รู้สึกว่าตนเลิศลอย
    กว่าใคร ๆ

    ยิ่งรู้จักองค์ประกอบแห่งธรรมมาก เราก็จะยิ่งตอบคำถามได้กว้างขวางน่าอิ่มใจ
    ถึงจุดหนึ่งเราจะตระหนักว่าความมีความเป็นทั้งหลายในมนุษย์และสัตว์ตั้งต้นมา
    จากจิต จิตมีแค่สองสีใหญ่ ๆ คือ สีขาวและสีดำ และที่จิตยังแบ่งเป็นสองสีได้ก็
    เพราะยังไม่รู้ ยังถูกอวิชชาครอบงำ วันใดทำลายอวิชชาได้ วันนั้นสีขาวสีดำก็
    หายไป เหลือเพียงสีใสอยู่โดดเดี่ยว พ้นจากดำ และเหนือกว่าขาว

    คนชอบใจในการเข้าถึงศาสนาแบบง่ายหรือแบบยาก เป็นต้นตอให้เกิดอัธยาศัย
    อัธยาศัยที่แตกต่างเป็นต้นตอให้เกิดการแบ่งแยก การแบ่งแยกเป็นต้นตอให้เกิด
    การถกเถียงว่าใครดีกว่าหรือถูกกว่า การถกเถียงเอาแพ้เอาชนะเป็นต้นตอให้เกิด
    การดูถูกเหยียดหยามฝ่ายที่ไม่เข้าพวกตน หรือสูงส่งไม่เท่าตน และการดูถูก
    เหยียดหยามนั่นเอง เป็นต้นตอให้เกิดความเกลียดชังและการตั้งตนเป็นศัตรู!

    สิ่งที่เลวร้ายที่สุดและไม่ควรเกิดขึ้นอย่างที่สุดในศาสนาทั้งหลาย ก็คือความเกลียด
    ชังกัน โดยเฉพาะศาสนาพุทธนั้น แก่นแท้อยู่ที่การเสียสละอันยิ่งใหญ่ ทั้งข้าวของ
    ทั้งความมีใจละโมบ และแม้กระทั่งตัวตนยังสลัดคืนได้ไม่เหลือ แต่ความไม่เข้าใจ
    อย่างถ่องแท้ ทำให้ชาวพุทธมากมายสละไม่ได้แม้กระทั่งความเกลียดชังกัน

    ความถือตัวและความเกลียดชังจะทำให้เราหลับไม่มีทางตื่น ไม่สมกับที่นับถือ
    ศาสนาแห่งการตื่นก่อนตายแต่อย่างใดเลย

    พระศาสดา สร้างศาสนาแห่งความพ้นทุกข์ด้วยพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่
    แต่เหล่าสาวกผู้หวงทุกข์อาจสร้างศาสนาแห่งความเกลียดชังด้วยความเห็นแก่ตัว
    อันใหญ่ยิ่ง

    คัดลอกจากบทความของดังตฤณ จากคิดจากความว่าง 3
     

แชร์หน้านี้

Loading...