ไม่พยายามจะเจริญภาวนาจะรอดจากความเป็นผู้ประมาทไหม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 27 กรกฎาคม 2016.

  1. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เรื่อง ที่พระโมคคัลลานะถูกทุบตีจนกระดูกแหลกเหลว

    ท่านเหาะหนี ไม่ใช่ความประมาท พระอรหันต์ท่านไม่ประมาท จบกิจแล้ว คือ มีสติเต็มบริบูรณ์แล้ว

    แต่ที่อ่านมา คือ ท่านมิได้เพียงพิจารณาถึงบุพกรรม แต่พิจารณาอย่างอื่นด้วย คือเห็นว่า กิจในพระศาสนาของท่านบริบูรณ์แล้ว แล้วพระอรหันต์ทุกองค์ไม่เคยอาลัยแก่ชีวิต เมื่อจบกิจทุกอย่างแล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องหนี

    นอกจากนี้ พระอรหันต์ท่านยังมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกผู้ทุกนาม ท่านจะเลือกทางที่สัตว์ได้รับบาปน้อยที่สุด เท่าที่จะเลือกได้ ซึ่งแล้วแต่กิเลสและวิบากกรรมของสัตว์โลก

    และพระอรหันต์ท่านก็ไม่ใช่สัพพัญญู ขนาดพระสัพพัญญู ยังต้องตั้งจิตจะรู้เสียก่อน ไม่ใช่รู้อยู่แล้ว เพราะหลายเรื่องมันนอกกำมือ อีกทั้ง กรรมก็เป็นเรื่องซับซ้อน

    จำได้ว่า มีพระอรหันต์ที่เป็นภิกษุณีเดินไปที่บ้านเศรษฐีตามนิมนต์ รับนิมนต์ไปแล้ว พอไปถึง ลูกสาวเจ้าของบ้านเอาแต่ใจ กลับประมาท เรียกใช้ท่านดั่งคนรับใช้ (เข้าใจเอาเอง) ท่านรู้ว่า วิถีลูกสาวมีแต่แย่แล้ว ถ้าท่านหยิบให้ ลูกสาวเศรษฐีก็บาป ถ้าไม่หยิบให้ด้วยกิเลสของนาง ก็จะก่อกรรมหนักถึงขั้นตำหนิหรือด่าทอ จะเป็นกรรมหนักกว่า พระอรหันต์ท่านเลือกหยิบเหมือนเป็นคนรับใช้เค้า เพราะมันจะเบากว่า

    ซึ่งลูกสาวเศรษฐีต้องรับวิบากกรรมเป็นจำนวนอันมาก แต่ยังอยู่ในข่ายที่รับพระธรรมได้ แต่ถ้าตกนรกด้วยกรรมที่ด่าหรือตำหนิพระอรหันต์ คือ ไม่มีโอกาสเวียนว่ายในภพที่จำเริญที่รับพระสัทธรรมใด้

    กรณีพระโมคคัลลานะ ผมว่าท่านไม่ได้ประมาท แต่ท่านรู้แจ้งของท่าน และเลือกทางที่ดีที่สุดแก่สรรพสัตว์แล้ว ในกรณีที่จบกิจ

    ส่วนความประมาท หรือไม่ประมาท ที่คุณนิวรณ์กล่าวถึง เค้าน่าจะหมายถึง การพิจารณาถึงบุพกรรม ซึ่งเป็นกิจของผู้ปฏิบัติธรรมระดับสูง ที่ควรปฏิบัติ ซึ่งการจะรู้บุพกรรม แบบย้อนอดีตชาติ มีเฉพาะพระหรือบุคคลที่ทรงอภิญญาได้ ซึ่งบุคคลทั่วไปที่ไม่มีอภิญญาก็พิจารณาบุพกรรมไม่ได้ขนาดนั้น และจริงๆ ก็ไม่จำต้องระลึกอดีตชาติกัน

    แต่คุณนิวรณ์ อาจจะเน้นว่า การระลึกบุพกรรม คือการไม่ประมาท เพราะจะเน้นมาทางการพิจารณา ว่าจะทำอะไรต้องพิจารณา หยุดพิจารณาไม่ได้

    โดยเจตนา คุณนิวรณ์น่าจะไม่มีเจตนาตำหนิ แต่เพราะเข้าใจว่า การระลึกบุพกรรม คือ การพิจารณา ที่แสดงว่าไม่ประมาท

    แต่เป็นความไม่ประมาทในระดับที่สูง

    ในภาษากฎหมาย ความไม่ประมาทแบ่งหลายระดับ แบบวิญญูชนคนทั่วไป แบบผู้ที่มีความชำนาญด้านนั้น แบบผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพ

    กรณีนี้ ผมเห็นว่า คุณนิวรณ์มองระดับความไม่ประมาทของพระโมคคัลลานะแบบพระผู้มีอภิญญา เหมือนคนที่ประกอบการงานอย่างมืออาชีพต้องใช้ความระมัดระวัง หรือความไม่ประมาทสูงกว่า คนธรรมดาทั่วไป

    ซึ่งอาจมีคนคิดอย่างนั่น ไม่ผิดครับ แต่กรณีพระอรหันต์ ผมมองว่า เมื่อบรรลุพระอรหันต์ จะมีอภิญญาหรือไม่ ท่านพ้นจากความไม่ประมาทแล้ว ส่วนที่ท่านใช้อภิญญาพิจารณาบุพกรรมนั้น เป็นเรื่องพิเศษเท่านั่น เพราะถ้าไม่มีอภิญญา พระอรหันต์ที่โดนแบบพระโมคคัลลานะ เคยมีปรากฎว่า ท่านก็หลักเลี่ยงเท่าที่หลีกเลี่ยงได้ ถ้าสุดจะหลีกเลี่ยง ท่านก็ไม่หลบหลีกแต่อย่างใด

    ผมจึงบอกว่า พระโมคคัลลานะท่านไม่ได้ประมาทที่จะหลบหลีก และท่านอาจหลบหลักได้ตลอดไปด้วย เพราะท่านสามารถ แต่ที่ท่านไม่หลบหนีอีก ก็เหมือนพระอรหันต์อีกหลายองค์ที่แม้ท่านอาจอธิษฐานอายุได้ แต่ท่านก็ไม่ทำต่อเพราะว่า จบกิจ ของท่านแล้ว

    คำว่า จบกิจ จึงเป็นเรื่องแต่ละองค์จะพิจารณาสภาวะธรรมที่เป็นไปเฉพาะองค์ไปครับ เราไปคิดแทนท่านไม่ได้
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    โย้ว โย้ว ดือ ดื้อ ดือ ดื่อ ดือ โย้ว โย้ว

    ดูกะระณะฉัต

    ดูกะระณะฉัต

    ดูกะระณะฉัตปัตตนาไปมัวก์

    กำหนดรุเข้ามา กำหนดรุเข้ามา

    อาการทีณะฉัตอธิบาย หมายให้ชื่อว่า ไม่ปรักปรำภาษา ไม่ปรักปรำภาษา โย้ว

    ณะฉัต ไม่ต้องถือการอธิบาย แต่ให้กำหนดรุเข้ามา นั่นแหละ การไม่ปรักปรำภาษา

    ภาษาบัญญัติมันพร่องเป็นนิจ ณะฉัตไม่ต้องถือเอาการอธิบายให้มาก

    ให้กำหนดรุเข้ามา ไม่ปรักปรำภาษา .....ภาษาจะกว้างขวางอีกมาก
    เลือกใช้คำศัพท์ได้ตามใจชอบ ชอบ ชอบ ชอบ อย่างสัมมา โย้ว

    ดือ ดื้อ ดือ ดื่อ ดือ โย้ว โย้ว

    แหม่มมมมมม
     
  3. Silverwind

    Silverwind สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +20
    พระอรหันต์ เป็นผู้มีปัญญาบริบูรณ์..
    ความสัมพันธ์ต่อโลกของท่าน เป็น กิริยาจิต

    ตามนัย ปรมัตถธรรม ไม่ก่อให้เกิด วิบากกรรม
    เป็น อัพยากตธรรม คือ ไม่เป็นทั้งกุศลและอกุศล

    จะชื่อว่า ประมาทต่อโลก ?! ก็หาใช่เช่นนั้น
    เพราะท่านได้กระทำกิจอันควรแก่โลกเสร็จสิ้น

    เหมือนอย่าง คนทำงานเสร็จ รอรับค่าจ้าง
    จึงควรได้ชื่อว่า ท่านเป็นผู้พ้นไปจากวัฏฏสงสาร

    แต่การกระทำที่เป็นวิบากกรรมในอดีตยังตามให้ผล
    การหลบหนีด้วยฤทธิ์ จึงเป็นไปในรูปของกิริยาเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2016
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คิดอย่างพระราชาที่ไม่ยอมให้ประชาชนของตนถูกย่ำยี
    แต่กระบวนเพลงยุทธยังไม่เชี่ยวชาญพอ....ควรใช้การทูตดูก่อนปลอดภัยกว่า
    การใช้กำลังห้ำหั่น พลาดพลั้งถึงตายแผ่นดินจะว่างพระราชา
    ประชาชนจะขวัญเสียทั้งแผ่นดิน ยังไงยังงั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...