ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ถึงแม้ว่าช่วงที่ไปเทวาลัยบ่อยๆ ดิฉันก็ยังนับถือพระอยู่นะคะ ไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ไม่ได้สวดมนต์เหมือนเคย แต่การไปทำบุญทำทานใส่บาตรก็ยังเป็นปกติของดิฉันไม่เคยขาด ช่วงนั้นดิฉันแทบจะไม่ค่อยไปกราบหลวงพ่อโตในสมาธิเลย ยกเว้นเวลามีความทุกข์ก็จะแวะไปสักที จนหลวงพ่อก็ยังออกปากว่า ถ้าไม่มีทุกข์ไม่เคยมาเลยนะ แต่ท่านก็ว่าด้วยความเมตตาไม่เคยด่าว่าอะไรเลย กลับเตือนสติดิฉันอยู่ตลอดเวลา แถมท่านก็ไม่เคยว่าเรื่องที่ดิฉันไปนับถือเทพด้วย เห็นไหมว่าพุทธต่างกับอย่างอื่นอย่างไร คือท่านก็เหมือนจะให้ดิฉันเรียนรู้ด้วยตัวเอง ชีวิตดิฉันมันย่ำแย่มาตั้งแต่ที่อดีตสามีไปมีเมียน้อยนั่นแหละ สร้างหนี้สินไว้ให้เพียบแล้วตัวเองก็ลอยนวล หลวงพ่อโตก็ได้แต่เตือนสติให้ทำแต่ความดี แล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ แล้วดีขึ้นยังไงเพราะดิฉันมองไม่เห็นหนทางใดเลย จนดิฉันเบื่อกับคำว่า "เดี๋ยวชีวิตก็จะดีขึ้น" ของหลวงพ่อมากเลย เพราะมันนานมากกกก แล้วท่านก็จะบอกว่า ถึงเวลาก็จะรู้เอง เฮ้อ...

    หลังจากนั้นเพื่อนที่สนิทมากๆเหมือนเป็นญาติกันเลย คบกันมานานมากแล้ว ก็มาแนะนำให้ไปที่ตำหนักทรงปู่พิฆเนศ ตอนแรกดิฉันก็ไม่ไปหรอก บอกว่าให้เพื่อนไปก่อนเหอะ ได้เรื่องยังไงมาเล่าให้ฟังแล้วกัน แล้วเพื่อนอีกคนที่เขามีองค์เทพ มีเยอะองค์มาก เทพของเขาก็อยากให้เขาเป็นร่างทรง แต่เขาไม่อยากเป็นก็หนีเรื่อยมา ขอผลัดเรื่อยมา เขาเองก็เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องตำหนักทรง เคยไปมาหลายที่แต่เขารู้ว่ามันหลอกเพราะตัวเขาเองก็มีเทพอยู่กับตัว เขาจึงรู้มากกว่าพวกตำหนักทรงแล้วไม่เคยยอมลงให้ตำหนักไหน

    แต่ว่าเพื่อนก็มายอมลงให้กับตำหนักของปู่พิฆเนศนี้ ดิฉันก็เลยแปลกใจ พอเพื่อนชวนหลายๆครั้งเข้าก็เลยลองไปดู เพราะดิฉันเป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆเหมือนกัน ที่ไปเพราะเขาเก็บค่าพานครูกับดอกไม้ไม่แพง ก็คิดว่าไม่น่าจะหากินกับความทุกข์ของคนอื่น แล้วเพื่อนที่ไปแล้วก็มาบอกว่า คนที่ไปบนกับปู่ถ้าสำเร็จปู่ก็ขอแค่นมกล่องเดียวแลกกัน หรือไม่ก็กลัวยเครือนึง ไม่ก็ขนมถาดเดียว ขึ้นอยู่กับว่าของที่คุณไปบนนั้นเป็นจำนวนมากน้อยเท่าใด ดิฉันก็เลยว่า อืมม. อย่างนี้น่าจะของจริงก็เลยลองไปดู

    พอไปที่ตำหนัก ก็เป็นแค่บ้านไม้เก่าๆซ่อมซ่อชั้นเดียว ดูไม่น่าเชื่อถือ ตอนที่ปู่มาลงทรงดิฉันก็คอยสังเกตุดู ก็ไม่ได้ต้องมานั่งสั่นเป็นเจ้าเข้าเหมือนที่เขาทำกันนะ ก็เห็นมาลงแบบธรรมดาๆ แล้วพอท่านทายทักดวงชะตาก็ทายออกมาแบบเป๊ะๆ ไม่ได้แบบว่าถามหว่านแหแล้วให้เราตอบนะ เพราะเราจะตอบกันแค่ว่า ถูกหรือไม่ถูก จริงไม่จริง แต่ส่วนใหญ่มันจะถูกซะหมด ของดิฉันท่านก็บอกว่าคอนโดเป็นยังงั้นๆๆ ที่มันบังคับจัดอะไรไม่ค่อยได้ ก็จริง ท่านก็เลยไปดูบ้านดิฉันที่บางบ่อก็ทายออกมาได้ตรงทุกอย่างเลย ท่านก็ทายเรื่องอื่นๆมาตรงนะ แล้วมาข้อนึงท่านว่า ที่คอนโดดิฉันมีรูปเสด็จพ่อ ร.5 อยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม เสด็จพ่อบอกฝากมา ให้ดิฉันเอาออกมาใส่กรอบแล้วบูชาซะ ดิฉันก็เถียงท่านว่าไม่มี ถ้าที่บ้านน่ะมี มีทั้งองค์ มีทั้งรูป เพราะได้มรดกมาจากพ่อ ท่านก็ว่ามี ให้ไปหาดู แล้วดิฉันต้องบูชาเสด็จพ่อถึงจะเจริญเพราะถูกดวงกับเสด็จพ่อ ท่านว่าดิฉันมีองค์เสด็จพ่อ ร.5 กับ เสด็จแม่พระนางเรือล่มอยู่กับตัว แต่ท่านก็สั่งว่าถ้าใครบอกให้ไปรับขันธ์อย่าไปรับเด็ดขาด สั่งไว้ก่อน (ปกติดิฉันก็ไม่เคยคิดที่จะไปรับอยู่แล้ว) พอกลับมาจากตำหนัก ดิฉันก็ค้นทั่วทั้งคอนโดเพื่อท้าพิสูจน์ เพราะดิฉันมั่นใจว่าไม่มีรูปเสด็จพ่อ ร.5 อยู่ในคอนโดแน่ๆ เพราะดิฉันเพิ่งจัดคอนโดใหม่ แล้วเก็บของที่ไม่ใช้ไปไว้ที่บ้าน
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ดิฉันค้นทั่วทั้งคอนโด ทั้งในหนังสือนิตยสารเผื่อมันจะไปซ่อนอยู่ในนั้น ก็ไม่เห็นมี ก็เลยคิดว่าคงจะไม่จริงหรอก แล้วจู่ๆสายตาก็มองไปเห็นรูปถ่ายดิฉันกับลูกที่มีขนาดเล็ก (ส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่) ก็เลยทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วดิฉันเคยถ่ายรูปรูปหล่อของเสด็จพ่อร.5 ไว้ แล้วดิฉันเก็บไว้ในอัลบั้ม พอตอนที่มีปัญหากับสามี สามีเอารูปดิฉันออกจากอัลบั้มแล้วมากองทิ้งเป็นขยะ แล้วให้ดิฉันไปเก็บเอา ดิฉันก็ไปเก็บมาใส่ถุงพลาสติกมาแล้วก็เอามาเก็บไว้ในลิ้นชักชั้นล่างสุด ดิฉันเลยลองไปค้นดูว่ามีรูปเสด็จพ่อติดมาด้วยหรือเปล่า ก็ปรากฎว่าเจอค่ะ แล้วอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสมจริงๆ เพราะลิ้นชักชั้นบนๆ ดิฉันเอาไว้เก็บชุดชั้นในค่ะ เวรเลย

    แล้วดิฉันก็เลยได้เอารูปเสด็จพ่อร.5 กับเสด็จแม่พระนางเรือล่มไปให้ปู่เจิม แล้วก็เอากลับมาบูชาที่บ้าน พอบูชาท่านได้ไม่กี่วัน งวดนั้นดิฉันก็ถูกหวยซะงั้น หลังจากนั้นก็เลยแนะนำเพื่อนให้ไปหาปู่ โดยดิฉันเป็นคนพาไป จากที่สัมผัสมาก็ทำให้รู้ว่า อันนี้น่ะเทพจริง ค่าครูถ้าคนจนจริงๆ ปู่จะคืนให้กลับไปไม่เอา ไม่มีการเรียกเก็บเงินสะเดาะเคราะห์ ปู่แค่บอกวิธีให้ไปแก้เท่านั้นเอง อย่างดิฉันปู่ก็ให้ไปปล่อยปลาสามอย่าง บางคนปู่ก็ให้ไปไหว้พระแก้เกล็ด หรือไปใส่บาตร ซึ่งก็ไม่ได้เสียเงินทองมากมายแต่อย่างใด

    บางคนได้ผลตามที่บนไว้ เอาเงินเอาของมาให้ ที่นี่จะไม่รับนะคะ เอาแค่ของบนที่ตกลงกันไว้เท่านั้น ดังที่เคยบอกเอาไว้ เพื่อนดิฉันคนที่มีองค์เทพ เขาก็ไปขลุกอยู่ที่ตำหนักปู่ซะส่วนใหญ่ แล้วปู่ก็บอกว่าให้เขายอมรับทรงซะ อย่าหนีอีกเลย เขาก็เอนเอียงไปจนยอมที่จะรับทรง ก็เริ่มที่จะทำพิธีเปิดรับเทพให้ผ่านร่างได้เต็มๆ ซึ่งดิฉันก็มีเหตุอันต้องไปอยู่ช่วยเขา เพื่อนคนนี้เขามีองค์เทพเยอะมาก มากจริงๆแต่องค์หลักๆคือพระแม่อุมาเทวี นอกนั้นก็มีพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ปู่ภุชงค์ พ่อขุนราม ฯลฯ ดิฉันยังคิดว่าอะไรมันจะมากมายปานนั้น แต่ที่พิเศษคือเขามีเทพเด็กเล็กๆอยู่คน (เป็นลูกพระแม่อุมา) ซึ่งเขาชอบมาก ก็เลยจะขอญาณเทพเด็กนี่แหละมาทรง เพราะไม่เหมือนใคร

    ดิฉันก็เที่ยววิ่งหาของช่วยเขาอยู่ทุกวัน แล้วเขาก็เริ่มทรงดูดวงให้เฉพาะคนที่รู้จักกันก่อน ก็ใช้ญาณของเทพเด็กนั่นแหละ แต่ว่าก็แม่นยังกับตาเห็นจริงๆ ทีนี้มีป้าอยู่คนนึง แกพูดไม่ได้ รู้สึกแกบอกว่า เหมือนแกเคยตายไปแล้วฟื้นแล้วแกก็พูดไม่ได้อีกเลย แกก็มาหาเพื่อนให้ดูให้ เพื่อนก็ว่าแกมีพวกสัมภเวสีอยู่กับตัว เอาละซีคราวนี้งานเข้า มีการไล่ผีไล่สัมภเวสีออกจากตัวป้าแก ดิฉันน่ะไม่ได้ไปทำไรนะ ก็นั่งดูอยู่เฉยๆ เพราะมีพี่เลี้ยงอีกหลายคน ดิฉันจะเป็นพี่เลี้ยงแกอีตอนที่แกไม่ได้ทรงเท่านั้น คือว่าคุยกันรู้เรื่องแบบว่าเหมือนคนบ้าคุยกันอ่ะ เพราะพี่เลี้ยงคนอื่นก็ไม่ได้มีญาณเหมือนพวกเราไง ก็เลยไม่รู้เรื่อง
     
  3. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ทีนี้พอเริ่มพิธีไล่สัมภเวสี ป้าแกก็ไม่ได้เป็นตัวเองหรอก เป็นอีกคนนึงที่อยู่ในร่างแกอ่ะ แกก็ร้องโหยหวน แล้วก็ดิ้นบิดไปบิดมา ต้องมีคนช่วยจับ ตอนหลังเพื่อนก็เลยเรียกให้ดิฉันไปช่วย ดิฉันก็เลยไปช่วยเขา แล้วองค์เทพในร่างทรงของเพื่อน ก็สั่งให้เปิดประตูหน้าบ้านหลังบ้านไล่ของออกไป สักพักป้าแกก็สงบ แล้วก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เป็นอันว่าวันนั้นพอแค่นั้นก่อน เพื่อนบอกว่า ต้องค่อยๆไล่ไป จริงๆจะไล่ทีเดียวออกก็ได้ แต่ไม่แน่ใจว่าป้าแกอ่ะ จริงๆตอนนี้แกมีชีวิตอยู่ด้วยตัวแกเองหรือเพราะสัมภเวสีในร่างแก แล้วแกก็ไม่มีญาติมาด้วย ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไรรุนแรง เอ้อ...นึกว่าดูดวงอย่างเดียว ไล่ผีด้วยเพื่อนฉัน

    ลืมบอกไปว่าช่วงที่ไปตำหนักปู่พิฆเนศ ดิฉันก็เริ่มกลับมาสวดมนต์นั่งสมาธิเหมือนเดิม แล้วปู่เองก็จะคอยบอกทุกคนว่าให้นับถือพระพุทธเจ้าไว้สูงสุด ถ้าหิ้งพระบ้านไหนสกปรก ท่านก็จะสั่งให้ไปทำความสะอาด เวลาที่ทุกคนไปตำหนัก ดิฉันสังเกตุว่าปู่จะทักเรื่องหิ้งพระก่อนทุกครั้งเลย (ถ้าบ้านไหนมีหิ้งพระ หรือมีพระอยู่ในบ้าน) ท่านว่าหิ้งพระ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ถ้าปล่อยให้สกปรกจะทำให้ชีวิตไม่เจริญ นี่แหละที่ทำให้ดิฉันชอบองค์ปู่

    มาว่ากันต่อเรื่องของเพื่อน คืนนั้นพอดิฉันกลับมาบ้าน ดิฉันนอนไม่ได้เลยค่ะ เห็นแต่องค์พระศิวะ แล้วดิฉันก็ดันท่องบทสวดบูชาองค์พระศิวะซะด้วย ตอนแรกดิฉันก็บอกกับท่านว่า ดิฉันเหนื่อยมากกับการที่ไปช่วยเพื่อนทำตำหนัก ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอมาหลายวันแล้ว อย่ามากวนดิฉัน ดิฉันจะขอนอนพัก ถ้าท่านไม่ยอม ดิฉันก็จะไม่ไปช่วยเพื่อนแล้ว (คือเพื่อนยังไม่ได้รับองค์แม่อุมาให้ผ่านร่าง เพราะต้องรอวันของท่าน) ท่านก็ไม่ยอมไป ดิฉันก็เลยสวดมนต์บทอิติปิโส จบแรกสวดได้พอจะเริ่มสวดจบที่สองมันดันลืมไปซะเฉยๆ สวดไม่ได้ แล้วก็กลายมาเป็นสวดบทบูชาพระศิวะแทน ร่างกายดิฉันตอนนั้นก็เพลียมาก ปวดร้าวไปทั้งตัว แขนขาชาไปหมด ไม่รู้เป็นเพราะอะไร สติก็รู้มั่งไม่รู้มั่ง แต่ก็พยายามสวดมนต์บทอิติปิโสไล่องค์พระศิวะ ขอพุทธคุณให้มาช่วย แต่พอสวดๆไปก็ลืมจำไม่ได้อีก แล้วก็มาสวดบทบูชาพระศิวะแทน เป็นอยู่อย่างนี้หลายครั้งมาก จนดิฉันต้องไปขอบารมีหลวงพ่อโตให้ช่วย ท่านก็ว่าให้ตั้งสติให้ดีๆ ดิฉันก็พยายามสวดมนต์อิติปิโสไปเรื่อยๆ ตัวเองไม่ได้นอนเลย ดูนาฬิกาเห็นว่าเป็นตีสามแล้ว เหนื่อยก็เหนื่อย ง่วงก็ง่วง แต่องค์พระศิวะท่านก็ดื้อสุดๆ ก่อนที่จะสิ้นหวัง ดิฉันเห็นองค์พระศาสดาเสด็จลงมาพร้อมด้วยเหล่าสาวกมากมาย ท่านลงมาต่อว่าองค์ศิวะเทพ ท่านบอกว่า เราให้ลูกของเราไปช่วยคนของท่าน ทำไมท่านถึงมาทรมานสังขารร่างกายนี้ ท่านสั่งให้องค์ศิวะปล่อยดิฉันไป ซึ่งองค์ศิวะก็ยอมถอยไปแต่โดยดี แล้วท่านก็ให้พรดิฉันว่า ให้นอนหลับให้สบาย ตื่นขึ้นมาก็จงไปทำกิจของเจ้าให้ลุล่วง ครั้งนั้นเป็นครั้งที่สองที่ดิฉันได้เห็นองค์พระศาสดาหลังจากที่เห็นครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

    แล้วก็ทำให้ดิฉันเชื่อมั่นว่า บทสวดมนต์บทพุทธคุณ เป็นบทสวดที่สมควรกับการสวดเพื่อให้พ้นภัยได้จริงๆ สาธุ

    หลังจากได้รับพรดิฉันก็หลับไปเลย แล้วพอใกล้สว่าง ก็ฝันว่ามีคนมาปลุกบอกว่า เขาปล่อยของมา ให้ลุกไปอ้วกออก ดิฉันก็ลุกไปอ้วก ก็เห็นป้าคนที่เพื่อนไล่ผีออกให้ นั่งอ้วกอยู่ก่อนแล้ว ดิฉันอ้วกออกมาสิ่งที่ออกมากลับกลายเป็นเตียง เป็นเฟอร์นิเจอร์เต็มไปหมด แล้วก็ตื่น พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าอยากอ้วกก็เลยเข้าห้องน้ำไปอ้วกซะยกใหญ่ ก็คิดว่าสงสัยเรื่องเมื่อคืนทำให้ดิฉันต้องมาเป็นแบบนี้
     
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พอสายๆดิฉันก็ไปหาเพื่อนที่บ้าน แล้วก็เล่าให้ฟังว่าดิฉันเป็นอย่างนี้ คราวนี้เทพเด็กก็เข้าร่างเพื่อนทันที แล้วก็ให้ดิฉันไปที่หน้าหิ้งพระ บอกว่าเพราะดิฉันยังไม่รู้วิธีเปิด เลยทำให้เป็นแบบนี้ คือเขาก็ต้องการบารมีสายพุทธของดิฉันไปช่วยเขาด้วย (เวรละซี ตรูไม่ได้อยากเป็นนะ) เขาก็มาจับร่างดิฉันดัดแขนดัดหลัง เหวี่ยงแขนไปมาอยู่พักนึง แล้วเขาก็ว่าดิฉันไม่ได้มีแค่เสด็จพ่อกับเสด็จแม่นะนี่ มีพระเจ้าห้าพระองค์ด้วย แล้วก็มีอีกเยอะเลย (เอา ก็ว่ากันไป) หลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาบ้านมาพัก เพราะตอนเย็นต้องไปดูไปช่วยเขารับองค์แม่อุมาผ่านร่าง

    ช่วงที่เขารับองค์แม่ผ่านร่างเขา ปรากฎว่ามีเก้าปาง ท่านก็มาทุกปางเลย มาร่ายรำกว่าจะจบแต่ละปาง เพื่อนก็จะแย่เอา เหตุเพราะใจจริงลึกๆเขายังไม่ยอมรับแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็เลยจะมีสติรู้เป็นบางเวลา แล้วเขาก็จะเจ็บ จนสุดท้ายก่อนกลับท่านพระพรหมต้องเป็นคนลงมาปิดท้าย แต่ก่อนที่พระพรหมจะมา เทพเด็กเขาก็มาก่อน เขานั่งสวดมนต์อยู่หน้าดิฉัน อยู่ๆมือเขาก็ยกขึ้นมาถวายบังคม แล้วเขาก็พูดว่า โอ๊ย..อะไรกันนี่ รัชกาลที่เท่าไหร่นี่ เขาจับหนูถวายบังคม (ถวายบังคมแบบไทยโบราณเลย) เขาก็ร้องๆๆเพราะโดนจับถวายบังคม คือว่าองค์เสด็จพ่อร. 5 ของดิฉันจับเขาถวายบังคม เพราะเมื่อเช้าเขาบังอาจจับร่างดิฉันทำ ท่านเลยทำโทษ ตอนหลังเวลาเขาจะทำอะไร เขาต้องยกมือไหว้ขออนุญาตต่อองค์เสด็จพ่อก่อนทุกครั้งไป อันนี้ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ไปพิจารณาเอานะคะ คืนนั้นหลังจากเสร็จพิธี ดิฉันก็กลับมาบ้านนอนหลับได้สนิท

    อีกสองวันต่อมาเพื่อนที่ออฟฟิสมาให้เพื่อนร่างทรงดูดวงให้ ดิฉันก็ไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย (จริงๆมีพี่เลี้ยงอีกหลายคนนะ เป็นพี่เลี้ยงสำหรับเทพเด็ก ดิฉันเป็นพี่เลี้ยงร่าง) ปรากฎว่าดูไม่ได้ ดวงเพื่อนไม่เปิด ต้องมีกรรมหนักแน่ดวงถึงปิด สุดท้ายเทพโยนกลองมาให้ดิฉันไปตรวจดวงให้ทีว่าเพราะอะไร (งานเข้าอีกแล้ว) ดิฉันก็ว่าไม่รับปากว่าจะดูได้ บางเรื่องหลวงพ่อไม่บอก แต่เขาก็ให้มาลองดูก่อน แล้วดิฉันก็มาตรวจดู ที่ดิฉันเคยเล่าให้ฟังว่า พอวันรุ่งขึ้นดิฉันก็ป่วยไปสองวันเต็มๆนั่นแหละ แลกกับการตรวจกรรมเพื่อน เพราะดิฉันยังไม่เคยมีพานครูเลยตอนนั้น

    เจอไปสองครั้งเลยระวังตัวแจ ก็ไม่ค่อยได้ไปบ้านเพื่อน เขาจะทรงก็ให้พี่เลี้ยงคนอื่นจัดการไป แล้วทีนี้วันนึงก็แวะไปหา แล้วป้าคนที่เคยไล่ผีให้ วันนี้แกก็มาอีก แกอยากจะให้ไล่ผีออกให้แกอีก ดิฉันก็ไม่เข้าไป รออยู่ด้านนอก เพราะไม่อยากเสี่ยงกับการป่วยอีก มันเพิ่งจะฟื้นเอง ก็นั่งคุยกับคนอื่นๆไป ส่วนด้านในก็เริ่มพิธีการไล่ผี ป้าแกก็ร้องเสียงโหยหวนสลับกับเสียงขององค์แม่อุมา เสียงดังน่ากลัวจนคนข้างนอกกระโจนมานั่งรวมตัวกันอยู่ตรงที่ดิฉันนั่ง ดิฉันก็คิดว่าเจ้าพวกข้างในจะเป็นไงบ้างน้า เพราะพี่เลี้ยงแต่ละคนอ่ะ กลัวทั้งผีกลัวทั้งเทพ เวรเลย ไม่นานก็ได้ยินเสียงเอะอะตกใจจากข้างใน แล้วก็มีเสียงเรียกหาดิฉันกันให้ลั่น ดิฉันเลยรีบวิ่งเข้าไปดู ภาพที่เห็นก็คือป้าแกสลบไปแล้วคอพับคออ่อน ส่วนที่พื้นก็มีองค์พระองค์เล็กๆคอหักตกอยู่ (คือเขาเอาไว้จับวิญญานใส่ในองค์พระ) ดิฉันเห็นพระคอหักก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้ทุกคนในห้องที่ดิฉันเห็นสติหายกันไปหมด เพื่อนดิฉันก็กลับมาไม่ใช่องค์เทพ เพราะดิฉันจำเสียงได้ อีกอย่างเพื่อนดิฉันถ้าไม่มีเทพมาประทับ เธอจะขี้ขลาด กลัวไปทุกอย่าง เธอตกใจมากที่ป้าแกไม่ฟื้นแกบอกว่าให้พาไปที่ตำหนักปู่ แต่ดิฉันรู้อยู่ว่าป้าแกไม่ได้เป็นอะไรหรอก ดิฉ้นก็ขอพรต่อพระรัตนตรัย แล้วก็เอาน้ำมนต์มารดป้าแก บีบนวดกันสักพักแกก็ฟื้น ตอนนั้นเทพก็กลับเข้าร่างเพื่อนอีกแล้วตั้งแต่ได้ยินเพื่อนพูดว่าจะไปตำหนักปู่ จริงๆเทพเขารักษาได้ แต่เขาทำโทษเพื่อนดิฉันเพราะก่อนหน้านั้นเธอพูดว่าจะไม่ทำอีก จะไม่อยากทรงอีก เขาก็เลยสั่งสอน (ใครอยากเป็นร่างทรง อยากมีองค์ก็ดูเอาไว้)

    พอป้าแกฟื้นดิฉันก็รู้แล้วว่า ไม่มีทางไล่วิญญานที่อยู่ในตัวแกออกไปได้ เพราะถ้าไล่ไปแกก็ตาย คือที่แกมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพราะวิญญานนั้นไม่ใช่วิญญานแก แกเคยบอกว่าตอนที่เป็นทหาร เจ้านายสั่งให้ไปเผาป่า แกเห็นพวกแมงป่องตัวใหญ่แล้วก็งูตัวใหญ่หนีตายมาทางแก แล้วแกก็เคยบอกว่าแกเคยตายไปแล้ว แล้วแกฟื้นขึ้นมา แล้วแกก็พูดไม่ได้เลย ก่อนหน้านั้นเพื่อนบอกว่าฝันเห็นแมงป่องสีน้ำตาลตัวใหญ่มาก แล้วดิฉันก็ฝันเห็นป้าแกมีร่างซ้อนอยู่อีกร่างนึง ซึ่งในฝันบอกให้รู้เลยว่าไม่มีทางที่จะแยกสองสิ่งนี้ออกจากกันได้ สรุปก็เลยยุติการไล่ผีในร่างแกตั้งแต่วันนั้น แต่พวกเราก็ไม่ได้บอกถึงเหตุผลที่แท้จริงกับแก ก็แค่บอกว่า เขามาอยู่ช่วยเหลือแกให้มีชีวิตดีขึ้น ดิฉันว่าวิญญานในร่างแกก็ไม่ได้เลวร้ายนะ ชอบไปทำบุญซะด้วย ดิฉันเคยชวนแกไปทำบุญ พาไปทำบุญวันเดียวสองวัด กลับมาเทพในร่างเพื่อนก็บอกว่าวิญญานนั้นชอบดิฉันมากเพราะพาไปทำบุญ เออ..ดีไป โมทนาสาธุ
     
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เหตุการณ์ไล่ผีคืนสุดท้าย พอดิฉันกลับมาบ้านก็ทำให้ดิฉันป่วยไปอีก ปวดร้าวไปทั้งตัว แขนขาชาเจ็บไปหมด นอนก็ไม่หลับ คืนนั้นฝันเห็นพระนเรศวร พระเจ้าตากสิน แล้วก็อีกหลายๆองค์มาช่วยดิฉันกันใหญ่ ตื่นเช้าขึ้นมาก็เหมือนเดิมต้องมาอ้วกออกแล้วถึงจะหาย แต่ก็ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ในหลายๆอย่างเหมือนกัน

    ย้อนกลับไปพูดถึงตำหนักปู่พิฆเนศต่อ วันนึงที่ตำหนักเขาบูชาองค์พระแม่กาลีมาไว้ที่ตำหนักก็มีพิธีรับองค์พระแม่ พวกเราก็ไปกัน ร่างทรงปู่ก็เป็นร่างทรงของพระแม่กาลีด้วย เวลาพระแม่กาลีมา จะแลบลิ้นตลอดเป็นระยะๆ ใช้มือบีบมะนาวทั้งลูกให้แตกให้น้ำไหลออกมาอย่างง่ายดาย (ลองไปหัดบีบดูก็ได้นะ แบบไม่ผ่าเลยอ่ะ ใครบีบได้บ้าง) แต่เพื่อนดิฉันเวลาพระแม่กาลีทรงนะ จะใช้วิธีกัดลูกมะนาวอ่ะ กัดกลางลูกเลย แล้วเสียงดังกร๊อบ เหมือนเวลากัดลูกแอ๊ปเปิ้ลยังไงยังงั้น (คนปกติก็ทำไม่ได้อ่ะ กัดแบบทีเดียวขาดกลาง ยังกะกัดแอ๊ปเปิ้ล) ตอนเพื่อนปกติก็ทำไม่ได้ แถมมันเปรี้ยวอีกต่างหาก

    วันที่ทำพิธีรับพระแม่กาลี พวกที่มีองค์เทพ องค์แม่อุมาปางต่างๆ พวกลูกศิษย์นี่ ร่างทรงเชือดนิ้วตัวเองเอาเลือดเจิมหน้าผากให้ แล้วก็ไปบูชาไฟ คือรับถาดไฟไปบูชาองค์พระแม่ แต่ละคนก็ออกท่าออกทางกันหมด คนที่ไปคืนนั้นเขาให้เข้าไปหาร่างทรงพระแม่กาลีกันทุกคน ไม่เฉพาะพวกที่มีองค์เทพแขกนะ องค์เทพไทยก็ให้เข้าไปด้วย ตอนแรกดิฉันไม่เข้าไป แต่ร่างทรงบอกว่า ถ้าไม่เข้ามาทั้งหมดท่านจะไม่ถอย (คือไม่ออกจากร่าง) ก็เลยต้องเข้าไป ตอนที่ไปรอรับถาดไฟจากร่าง ท่านก็จะสวดมนต์เสียงดังมาก ดิฉันรู้แล้วแหละว่าทำไมคนถึงได้ออกท่าออกทางกันขนาดนั้น เพราะถ้าจิตไม่แข็งพอ ญาณกายจะเกิดแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะเสียงสวดมนต์มันเหมือนเรียกเอาญาณกายออกมาให้ได้ ขนาดดิฉันจิตแข็งๆ ใจยังเต้นยังกะตีกลอง แต่ก็ยังมีสติดีอยู่ ก็เลยไม่มีการมาออกท่าทางอะไร คืนนั้นก็ผ่านไปแบบไม่มีอะไร

    แล้วดิฉันก็ไม่ได้ไปที่ตำหนักอีกนานเลย จนปู่ให้คนมาตามบอกว่าอยากเจอ ดิฉันก็เลยไปหา ท่านก็ว่าที่ให้คนไปตามมา เพราะปู่เห็นว่าเดือนหน้าดิฉันอาจจะมีการเสียทรัพย์ เสียไปแบบว่าไม่ได้ทำเอง แบบว่าจะมีคนมาขโมยหรือฉกเอาไป ท่านก็เลยให้หาวิธีแก้ไขเสียก่อน ท่านก็ให้เอากระดาษไหว้เจ้าไปไหว้เจ้า ที่ศาลเจ้าแล้วขอพรให้ท่านช่วย ดิฉันก็ไปทำตาม จริงๆดิฉันบนขอไว้กับปู่สามอย่าง ในระยะเวลาหนึ่งๆ ที่ผ่านมาดิฉันก็ไม่เคยสำเร็จสักอย่างนึงเลย แต่คนอื่นๆเขาได้กันทุกคน แต่ดิฉันรู้ได้จากสมาธิว่า ดิฉันจะไม่มีทางได้อะไรสำเร็จจากการไปขอเทพ ดิฉันจะได้จากการที่ดิฉันสวดมนต์แล้วขอบารมีพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ว่ามันต้องใช้เวลา แล้วก็เหมือนเดิม หลวงพ่อบอกว่าแล้วจะมีคนช่วย แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ บอกแค่ว่า ถึงเวลารู้เอง

    ครั้งล่าสุดที่ดิฉันไปหาปู่ที่ตำหนัก เพราะต้องพาคนไปแก้บน ท่านก็ว่าถ้าไม่พาคนไป ดิฉันก็ไม่ไปใช่ไหม พอดีใกล้วันไหว้ครูประจำปี เขามีการอาบน้ำมนต์กัน ก็เลยไปถามปู่ว่า อาบไปเพื่ออะไร ท่านก็บอกว่า สำหรับลูกศิษย์ที่รับขันธ์ แต่ถ้าคนที่ไม่ได้รับก็อาบเพื่อเสริมบารมี เป็นสิริมงคลกับตัวเอง ดิฉันก็เลยไปดูว่าเขาทำกันยังไง เพื่อที่จะตัดสินใจว่าตัวเองจะอาบดีหรือไม่อาบดี ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็เอาน้ำมาถังนึง ใส่ดอกบัวสามดอก ใส่ทองคำเปลวแท้หนึ่งแผ่น น้ำอบหนึ่งขวด ลูกมะกรูด ดอกมะลิ น้ำมะพร้าว แล้วใบมะม่วงหรือใบอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แล้วก็เอาเทียนทำน้ำมนต์มาจุดให้หยดลงในถังน้ำ ตอนนั้นก็ทำร่างทรงก็ทำพิธีเชิญเทพ เชิญองค์ต่างๆที่ใครๆมีมาหมดเลยนะ ก็ว่ากันไปทีละเทพ พอคนไหนมีองค์เทพอะไรอยู่ พอร่างเชิญมา ก็ออกท่าออกทางกันใหญ่เลย ถ้ามีองค์กวนอิม ก็ทำท่าเหมือนแม่กวนอิม ถ้ามีองค์แม่อุมา ก็ทำท่าทางให้รู้ว่าเป็นใคร ที่สุดยอดก็คนที่มีพญานาคนี่ซิ มือทำเป็นขดงู ส่ายไปส่ายมาแบบเข้มแข็งมาก ฉกน้ำฉกอะไรไปเรื่อย ดูก็รู้ว่าไม่มีใครแกล้งทำหรอก เพราะแทบไม่รู้สึกตัวกันสักคน

    คนที่มีองค์พระนางเรือล่ม ก็จะร้องไห้ มีเพื่อนคนนึงเขาก็มีองค์พระนางเรือล่ม เขาเล่าให้ฟังว่าเวลามาจะร้องไห้ ไอ้เราก็ไม่เคยเห็นก็ได้แต่รับฟังไว้ แต่ตอนที่ตำหนักปู่ก็ได้เห็นว่าองค์พระนางเรือล่มร้องไห้กันจริงๆ สำหรับดิฉันไม่มีการแสดงท่าทางอะไรออกมาเลย จิตดิฉันเป็นปกติดีมีสติรู้อยู่ตลอดเวลา ดิฉันว่าถ้าคนเราควบคุมจิตตัวเองได้ ญาณกายมันก็ไม่ออกมาหรอก นี่เพราะว่าควบคุมจิตตัวเองไม่ได้ อีกทั้งบางทีก็อยากให้คนอื่นรู้เห็นว่าตัวเองก็มีองค์นะ แถมบางทียังเอาคุยทับกันซะอีกว่าเทพของใครใหญ่กว่า เป็นซะยังงั้น

    คนที่ไม่รู้ว่าการมีองค์มันดียังไง ก็ชอบที่จะอยากมีองค์กัน เห็นคนโน้นก็มีคนนี้ก็มี ไอ้ความอยากได้อยากมีนี่แหละที่ทำให้ตำหนักเก๊ต่างๆหลอกเอาได้ หลอกว่ามีเทพโน้นเทพนี้ ให้ไปรับขันธ์ คนที่ไม่ใช้ปัญญาก็จะโดนหลอกกันได้ง่ายๆ ส่วนใหญ่จะโดนหลอกทำคุณไสยใส่ตัวซะมากกว่า เรียกเอาพวกสัมภเวสีมาใส่ให้ มีคาถากำกับไว้ แล้วก็ต้องเป็นเหยื่อให้กับตำหนักเหล่านั้น พวกหลอกลวงมีเยอะ ของแท้ไม่ใช่ว่าไม่มี มีค่ะ ยืนยัน ที่ดิฉันเจอก็แท้แน่นอน แต่ดิฉันว่าไปๆมาๆดิฉันก็กลับมาหาธรรมมะของพระศาสดาเหมือนเดิม มีหลายคนที่เขามีองค์เทพแต่ก็ไม่ได้สามารถจะมาเป็นร่างทรงได้ แต่เขาก็แสดงความอหังการกันเหลือเกิน แข่งกันน่าดู เพื่อนดิฉันอ่ะมีเยอะ แต่ก็ไม่อยากเป็นอยากมี มันสลับกันซะนี่

    การที่เปิดให้มีองค์ผ่านร่างได้ ทำให้จิตของคุณเปิดแล้วก็จะทำให้อะไรๆก็เข้ามาได้ง่าย เพราะจิตของคุณเปิดไปแล้ว พวกคุณไสย พวกสัมภเวสีก็เข้ามาครอบงำได้ง่าย ดังนั้นอยากให้รู้ไว้ว่า การที่มีองค์แล้วปล่อยให้ผ่านร่างไม่ได้ถือว่าเป็นการดี เพื่อนดิฉันเองก็โดนคนทำคุณไสย ไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่ตั้งสามสี่ปี อยากให้คิดดูกันให้ดีๆ สำหรับพวกที่อยากมีองค์ทั้งหลาย

    การมีองค์กับมีร่างทรงแตกต่างจากการมีญาณโดยสิ้นเชิง เพราะการมีญาณเป็นญาณของเราเอง เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา ซึ่งสามารถทำให้เกิดประสิทธิภาพได้จากการทำสมาธิด้วยตนเอง แล้วเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ทำให้เราสามารถป้องกันตัวได้ดีด้วย

    ดังนั้นก็ให้พิจารณาเอาค่ะว่า อยากจะมีองค์ หรือ อยากจะเป็นร่างทรง หรืออยากจะมีญาณของตัวเอง อนุโมทนาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤษภาคม 2009
  6. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    เอาใจช่วยนะครับ เรื่องแบบนี้ผมเคยโดนมาไม่รู้จะไปหาใครช่วยเรา พูดให้คนอื่นฟังเขาก็ว่าเราอีก ไม่โดนเองก็ไม่เข้าใจ เจ็บป่วยธรรมดาก็ไปหาหมอได้ แต่เจอเรื่องแบบนี้ไม่รู้จะไปหาใครช่วย
     
  7. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ขอให้คุณผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปได้ด้วยดีนะคะ
     
  8. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    การที่เปิดให้มีองค์ผ่านร่างได้ ทำให้จิตของคุณเปิดแล้วก็จะทำให้อะไรๆก็เข้ามาได้ง่าย เพราะจิตของคุณเปิดไปแล้ว พวกคุณไสย พวกสัมภเวสีก็เข้ามาครอบงำได้ง่าย
    ---คอนเฟิร์มครับ เป็นจริงตามนั้น ผมโดนมากับตัวเอง 9 ปีแล้ว ถอนของออกทุกวัน แล้วมันก็มาอีกไม่จบไม่สิ้น แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง (เพิ่งได้คำแนะนำจากคุณ Me, myself ได้ผลยังไงจะมาเล่าสู่กันฟังครับ)---
     
  9. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะครับ

    เอาใจช่วยครับ

     
  10. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขอบคุณ คุณ Me, Myself ที่นำเรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟังครับ

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    บุญรักษาครับ
     
  11. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขอบคุณ คุณ Me, Myself ที่นำเรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟังครับ

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    บุญรักษาครับ
     
  12. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ Me, Myself และ กัลยาณมิตร ทุกท่าน


    วันนี้ ที่วัดจัดงานวิสาขบูชาครับ

    ผมไปถวาย พระพุทธรูป ๗ นิ้ว พระบรมสาริกธาตุ ที่กรองน้ำขนาดเล็ก สังฆทาน (ข้าวสาร(ข้าวเหนียว) สองถุง น้ำหนึ่งขวด และของอื่นๆ) ที่วัด กับหลวงพ่อวิริยังค์ ครับ

    อนึ่งวันนี้ หลวงพ่อนำสวด อิติปิโส ๙ รอบ และนั่งสมาธิ ๑๐ นาที เนื่องจากเป็นวันแม่ของ ที่นี่ครับ


    ผลบุญกุศลอันใดที่เกิดขึ้นจากการถวายสังฆทานในครั้งนี้ ผมขอมอบให้กับทุกๆท่าน ครับ
    (มีเท่าไหร่ เกหมดหน้าตัก.... Oop...ให้หมดตัว และหมดใจครับ...เปลี่ยนแปลง ฮิฮิ)

    ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลก ทางธรรม ร้อยเท่า พันทวี จนถึง พระนิพพาน ครับ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผลบุญกุศลที่ผมได้ทำในครั้งนี้ ได้มีโอกาศส่งไปถึงผู้ที่ คุณ Me, Myself กำลังช่วยอยู่ หากเป็นไปได้ ก็ขอให้คุณ Me, Myself นำบุญกุศล ไปช่วย ท่านผู้นั้น อีกแรงครับ ขอให้ท่านผู้นั้น ปราศจากทุกข์ โศก โรค ภัย และ มีแต่ความสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป ครับ

    (ต้องขอโทษด้วยครับ เพียงแต่อยากจะช่วย แม้แต่เพียงเล็กน้อย ก็ยังดี ถ้าผมกล่าวคำใดที่ ไม่ถูกต้อง หรือไม่สมควร โปรดให้อภัย แก่ผมด้วยครับ)


    บุญรักษาครับ<!-- google_ad_section_end -->

     
  13. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    คอยติดตามอ่าน ตอนต่อไปอยู่ครับ

    ขอให้สิ่งที่มุ่งหวัง จงสำเร็จผลทุกประการนะครับ

    ขอโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วงนี้ผจญกับปัญหามรสุมชีวิตอีกแล้ว เฮ้อ..เบื่อหน่ายมากๆๆ แถมยังต้องพาเพื่อนไปถอนคุณไสยออกอีก ช่วงนี้สมาธิเลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อคืนเลยโดนหลวงพ่อเทศน์ซะยกใหญ่ (โสมน้ำหน้า) ต้องกลับมาฝึกจิตตัวเองใหม่

    ขออภัยท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย ที่ยังไม่ได้เขียนอะไรเพิ่มเติม ขอสงบจิตสงบใจก่อนค่ะ
     
  15. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอให้ประสบแต่ความโชคดี และพ้นจากอุปสรรคทั้งปวงนะครับ
     
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่อตอนบ่ายวันนี้ไปซื้อปลาช่อนท้องแก่กับปลาดุกที่ตลาดสดมาปล่อยค่ะ เอาบุญมาฝากนะคะ
     
  17. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412
    ขอให้หายเร็วๆนะครับ พี่
     
  18. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญกับ คุณMe, myself ด้วยค่ะขอให้ดีขึ้นทุกๆวันนะค่ะ ติดตามอ่านความคืบหน้าทุกวันค่ะ พอดีช่วงที่ตั้งใจจะเริ่มฝึก "มโนยิทธิ"ก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นก็เลยมาตรึกตรองว่า ควรจะนำมาเล่าดีไหม และเห็นช่วงหลังวันวิสาขะบูชา คุณMe, myself ได้เล่าเรื่องราวอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นตลอดมีสมาชิกหลายๆท่านก็อ่านกันอย่างตั้งอกตั้งใจก็เลยอยากให้เรื่องราวของคุณMe, myself ไม่มีอะไรมาแทรกน่ะค่ะ ถ้าดีขึ้นเข้าที่เข้าทางแล้วก็มาเล่าเรื่องราวทางบุญต่อนะค่ะ รออ่านค่ะ
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    มาช่วยกันเล่าเถอะค่ะ จะได้หลากหลายประสบการณ์ดี ดิฉันจะได้อ่านของคนอื่นบ้าง มาเลยค่ะมาเล่าเลย อย่าพูดให้อยาก(ฟัง) แล้วจากไป อิอิ
     
  20. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    กำลังพยายามโพสค่ะ พิมพ์ไปตั้งเยอะแต่พอโพส เวปล่มเลยค่ะหรือว่าระบบกำลังทำงาน(แบบว่าไม่อยากให้โพส)
    เดี๋ยวลองตั้งจิตใหม่นะค่ะ ว่าจะโพสได้ไหม แต่ถ้าโพสไม่ได้จริงๆก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...