ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

อนุญาติให้ใช้ คาถาบทนี้ครับ ให้สวดก่อนนอน ๓,๕,๗ จบ แล้วแต่ สะดวก ก่อนสวด ให้ ระลึกถึง พระรัตนตรัย คุณบิดามารดา คุณครูอาจารย์เจ้าของคาถานี้ อันมี หลวงปู่รูน เป็นต้น

นะโม ๓ จบ
มะอะอุ สิวังพรหมมาจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชาย ทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน มานิมา จิตตังวา ปุพพังวา คันทังวา ราชากุมาโรวา ราชากุมารีวา เทวีวา ราชาวา เศรษฐีวา สะมะโนวา พรามมะโนวา อิตถึวา ปุริโสวา พานิชโชวา พานิชชาวา เอหิ เอหิ ปูชิตา อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ

หมั่นทำบุญบริจาคทาน แล้วระลึกถึงครูอาจารย์ ท่านว่า หากินเลี้ยงชีพ สัมมาอาชีโว ได้ไม่ฝืดเคืองแน่นอน ครับ

ขอให้ประสบผลสำเร็จตามจิตที่พึงประสงค์ด้วยครับ ..ท่านใดสนใจก็คัดลอกไปได้ครับ..

 

อยากทราบตาม link นี้เลยครับ ถ่ายทอดก็จะไม่เหมือนต้นฉบับ
https://sites.google.com/site/patihan2009/khxngdi-khxng-khlang-hlwng-phx-kb

 

ขอบคุณมากนะคะ

ขอถามต่ออีกนิดนะคะ ปกติหนูจะสวดมนต์ก่อนนอน
แล้วหนูสามารถสวดบทนี้รวมไปด้วย (จะต่อจาก คาถาชินบัญชร หรือบางวันมี อิติปิโส เท่าอายุ+1) ก่อนบทแผ่เมตตา , บทกรวดน้ำ ได้ไหมคะ

หรือให้สวดแยกกันคะ

ยังไม่รู้เรื่องการลำดับบทสวดค่ะ อาศัยสวดตามแผ่นพับ/หนังสือบทสวดมนต์ก่อนนอน

ขอบคุณค่ะ

 

ขอบคุณคับ..ผมเข้าไปอ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเติมอีกมากโข..แค่เห้นวัตถุมงคลของท่านแล้วก้เกิดกิเลสอย่างได้แบบตาร้อนเป้นไฟเลยทีเดียว55

 

ตอนเด้กๆผมมักจะเห้นว่าพ่อใช้คาถาไล่ผีปราบผีอยู่บ่อยครั้ง..แต่ก้ไม่เคยนึกอยากเรียนเลย..ที่สุดแล้วก้ไม่ได้คาถาอะไรเลยจากพ่อนอกจากคาถาป้องกันตัว..พ่อบอกว่าเป็นคาถาที่นักมวยและนักเลงสมัยก่อนใช้กันเวลาปะทะกัน...ผมนึกในจัยสงสัยพ่อเราคงจะเล็งเห้นแล้วว่าลุกชายตัวเองออกจะพับเพียบเรียบร้อยจนเกินงาม55 เลยให้ไว้ใช้ยามคับขัน..ต้นตระกูลพ่อผมเป็นคนอุตรดิตอยู่บ้านวังโป่งหลังบ้านติดกับวัดพอดีเลย..พ่อบอกว่าท่านเสียใจอยู่เรื่องเดียวที่ไม่ได้เรียนคาถา"เสือสมิง" เพราะอาจารย์ที่สอนท่านตั้งเงื่อนไขว่าต้องเรียนเป็นคู่เนื่องจากวิชชานี้ต้องมีคนคอยทำน้ำมนต์เรียกกลับให้อีกฝ่ายที่แปลงเป็นเสือสมิงกลับมาแล้วสาดด้วยน้ำมนต์เพื่อให้คืนมาเป็นคน...พ่อกับตามีวิชชาค่อนข้างเยอะแต่สุดท้ายก้ไม่เห้นท่านได้ถ่ายทอดให้ลูกหลานคนไหนเลย..หรืออาจเป็นเพราะไม่มีใครสนจัยก็ไม่ทราบได้..ยิ่งคุณตาผมท่านเป็นตำรวจมาก่อนจากนั้นก็ลาออกมาเป็นกำนันยิ่งแล้วใหญ่รายนี้คาถาอาคม กุมาร ภูตรพรายท่านเล่นหมด!หากแต่สุดท้ายบั้นปลายชีวิตท่านก็เหมือนกรรมคืนสนองต้องทุกทรมานแสนสาหัสจุดจบของท่านเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่ลูกหลานอย่างผมได้เป็นอย่างดี...
คาถาที่พ่อสอนให้ท่องปากปล่าว..(ต้องขอโทษจริงๆว่าชื่อคาถาอะไรคงต้องรอขอความรู้จาก"ท่านอาจารย์เจ้าของบ้าน"เสียแล้ว..หรือพี่ๆที่รู้มาบอกอีกที)

คาถาว่าดังนี้..

โอมพญาขมิ้น ลิ้นกูเป็นทองแดง หัวกูแข็งเหมือนกำแพงเพชร เพชรชะคงคง..

 

สวดท้ายสุด บท คาถาอื่นๆได้เลยครับ..แล้วจึงแผ่เมตตา กรวดน้ำ ครับ.

 

คาถาว่าดังนี้..

โอมพญาขมิ้น ลิ้นกูเป็นทองแดง หัวกูแข็งเหมือนกำแพงเพชร เพชรชะคงคง..[/QUOTE]

เข้าใจว่า น่าจะเป็น คาถาพญาขมิ้น ซึ่ง ดีทาง คงกระพัน ใช้ได้ทั้งเสกขมิ้นทาตัว อาพัดเหล้า/ของกิน ถ้าอาพัดเหล้า หรือของกิน ส่วนใหญ่จะอยู่คงได้ชั่วกลั้นเยี่ยว ครับ

ตัวคาถา จะเพี้ยน กับ บทที่ผมเคยได้ มานิดหน่อยท่อนปลาย ซึ่ง น่าจะมาจาก ตัวคาถา ประเภทนี้ มาหลาย ครูอาจารย์ ครับ แต่ใช้ได้เหมือนกันหมด

ตัว คาถาหลายบท ที่มักจะขึ้นต้น ด้วย โอม หรือ อม ..ท่านใดที่สงสัย ก็ อย่าสงสัยครับ ได้ทั้ง โอม และ อม ..เสียงคล้ายกัน บางที ครูอาจารย์ ใช้วิธีถ่ายทอดทางคำพูด แต่พอมาจด บางท่าน อาจจะจด ผิดเพี้ยนไปครับ

 

เข้าใจว่า น่าจะเป็น คาถาพญาขมิ้น ซึ่ง ดีทาง คงกระพัน ใช้ได้ทั้งเสกขมิ้นทาตัว อาพัดเหล้า/ของกิน ถ้าอาพัดเหล้า หรือของกิน ส่วนใหญ่จะอยู่คงได้ชั่วกลั้นเยี่ยว ครับ

ตัวคาถา จะเพี้ยน กับ บทที่ผมเคยได้ มานิดหน่อยท่อนปลาย ซึ่ง น่าจะมาจาก ตัวคาถา ประเภทนี้ มาหลาย ครูอาจารย์ ครับ แต่ใช้ได้เหมือนกันหมด

ตัว คาถาหลายบท ที่มักจะขึ้นต้น ด้วย โอม หรือ อม ..ท่านใดที่สงสัย ก็ อย่าสงสัยครับ ได้ทั้ง โอม และ อม ..เสียงคล้ายกัน บางที ครูอาจารย์ ใช้วิธีถ่ายทอดทางคำพูด แต่พอมาจด บางท่าน อาจจะจด ผิดเพี้ยนไปครับ[/QUOTE]

ขอบคุณคับอาจารย์...ผิดถุกยังงัยก้ขออาจารย์แนะนำเสริมเพิ่มได้เลยนะคับ..จะได้เป็นประโยชน์แก่ตัวของผมเอง(แฮ่ๆ) และพี่ๆที่ได้เข้ามาศึกษา...ขอบพระคุณคราบผม...

 

คำถามก่อนนอน ^^
หมอนที่เราใช้หนุนหัวนอนทุกวัน (กราบตอนสวดมนต์ก่อนนอนด้วย)
มีข้อห้ามอะไรไหมคะ??? เพราะบางคนว่าเป็นของสูง
ส่วนตัวไม่ค่อยถือ เลยจะเอามากอดทุกวัน แทนหมอนข้าง หนุนหลังบ้าง พาดขาบ้าง
แต่จะไม่นั่งทับค่ะ ยายบอกนั่งบนหมอนเด๋วก้นเป็นฝี

ขอถามแบบคนไม่ค่อยรู้อะไรอะค่ะ ถ้าไม่ดีจะได้ไม่ทำอีก

 

บทนี้หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม(บ้านแค) ท่านก็ถ่ายทอดให้ศิษย์ไว้ ท่านให้สวดพก่อนปักธูป(ถ่ายทอดเฉพาะคน ท่านเขียนเคล็ดการใช้อย่างละเอียดเลยทีเดียว เห็นว่าคล้ายๆกัน เลยบอกเล่าไว้) ปักธูปเสร็จแล้ว สวดตามด้วยคาถาจินดามะณี คาถาพระสิวลี ท่านรับรองไว้ทำกินเจริญ ค้าขายร่ำรวย

 

คาถาที่หลวงพ่อให้มาครับ มะอะอุสิวังพรหมา จิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลาย ทั่วทั้งแผ่นดิน มานิมา อาคัจฉาหิ มิจิตตะมารักกู ทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกัน อะมะอุ บูชาครูอย่าได้ขาด สัพพะบูชามหาลาภัง ภะวันตุเม มะอะอุสิวังพรหมา จิตตังมานิมา จิตตังวา บุปผังวา คันชังวา ราชะกุมาโรวา ราชะกุมารีวา อัคระมเหสีวา เทวีวา ราชาวา เศรษฐีวา สมโณวา พราหมโณวา อิตถีวา ปุริโสวา พานิชย์โชวา พานิชชาวา เอหิ เอหิ ปูชิโต อะหังวันทามิ สัพพะทา ท่านว่าดีทางด้านเรียกคนทางมหานิยมทุกอย่าง

 

จริงๆ เรื่อง หมอนนั้น อยุ่ที่คนครับ ว่า มี ข้อห้าม ข้อบังคับ จากครูอาจารย์ หรือได้รับการสอน ชี้แนะมาขนาดไหน

มันคือความเชื่อส่วนบุคคล เฉพาะครู อาจารย์ ...ส่วนผม นั้น ถือว่า หมอนคือ สิ่งที่เรา ต้องใช้เฉพาะหนุนหัว ห้าม นำไปใช้ ในทางอื่น เช่น หนุุนเท้า นั่ง หรือ หนุนก้น(โดยเฉพาะ ญ. ห้ามเด็ดขาด) ...ผมก็ไม่ได้ ถาม ว่า เพราะอะไร ท่านว่ามาแบบนั้น เราศิษย์ ก็ต้องฟัง...

แต่ว่า สิ่งที่สำคัญ ที่ผมไม่อาจลืม คือ กรณี จะใช้หมอนคนอื่น หรือนอนที่อื่น ท่าน สั่งว่า ต้องเสกหมอน (ตบ ๓ ที) ทุกครั้ง(ถ่ายทอดเฉพาะ) เพราะ ในวิชาสะกด คน สมัยก่อนนั้น จะลงไว้ที่หมอน หากผู้ใด ไม่มีวิชาคาถา อาคม ไปนอนบ้านคนอื่น เขาสะกดหลับ หามไปถ่วงน้ำได้เลย ท่านเล่าให้ฟัง แต่ถ้ามีวิชาปลุกหมอน หรือ เสกหมอน เมื่อมีภัย เราจะ ตื่นก่อน แบบ อัตโนมัติทันที

ปสก. ครั้งหนึ่ง เมื่อสมัย ออก เดิน ลว.ในป่า ผมนั้นพก หมอนลม คืนนึง นอนค้างแรมในป่ากับลูกน้อง หลายคน แยกย้ายกันนอน ปกติเราจะไม่นอน ใต้ต้นไม้ใหญ่ (อันตรายจากกิ่งไม้ และ อื่นๆ เช่น ผี สาง เทวดา ).แต่วันนั้น.มันจำเป้นมาก เพราะ ป่าทึบ.จึงใช้วิธีสำรวจดู ว่ามีกิ่งไหนแห้งบ้าง ระวังเอา....ตกดึก มีลม พัดค่อนข้างแรง ...ผมตื่นเอง..เลยอยากตรวจเวรลูกน้อง พอ ออกเดินได้ ไม่ถึง ๕ ก้าว กิ่งไม้ไม่รู้หักมายังไงใหญ่ราวๆ แขน ปักโครม กลางที่ผมนอน..ดูแล้ว ถ้าไม่ลุก น่าจะหน้าอก หรืออาจจะคอ ..ผมเลย คิดว่า ทำเกินดีกว่าขาด เมื่อเราอยู่ สถานการณ์เสี่ยง...คือ ไม่ว่า เราเรียนวิชาใดมา เราก็จะใช้ ทุกวิธี ทุกวิชา เพื่อให้เรา เกิดความมั่นใจ ว่าเราได้ทำแล้ว ปบ.แล้ว ส่วนถ้ามันจะเกิดนอกจากนี้ ถือว่า กรรม เรา ...แต่ถ้า เรียนมา ไม่ใช้ พอเกิดอะไรขึ้น เราก็จะนึกเสียดายว่า ทำไมหนอ ไม่ทำตาม ครูอาจารย์ ไม่รักษาวิชาไว้..

เหมือนกับคน ที่อยู่สนามรบใน จชต. ผมเจอ ผมจะบอกเสมอ ว่า ทุกฝีก้าว พร้อม ตาย พิการ เจ็บ ออกฐานฯ อย่าลืมเด็ดขาด อาราธนาพระเครื่อง วัตถุมงคลทุกครั้ง อย่าได้ประมาท..พระไม่ได้คุ้มครองเรา.แบบ แขวนไว้อย่างเดียว เราต้องมีจิตที่ ศรัทธาด้วย ...นั่นก็คือ การระลึกถึงด้วยการ อาราธนา นั่นเอง...อย่าไปพูดว่าพระอยู่ที่ใจ...นั่นคือ คนประมาท เพราะ ใจท่านถึงพระแท้จริงรึยัง ถ้าใจเข้าถึงแท้แล้ว ค่อยพูดแบบนั้น..

 

ขอบคุณค่ะ
ขอให้ท่านและทุกคนปลอดภัยในทุกสถานการณ์นะคะ

 

หมอนหนุนหัวนอน กราบไหว้ก่อนนอนนี่ ห้ามนั่งทับ ห้ามพาดขา/เท้า ห้ามนำมาตีเล่นกันโดยเด็ดขาด ยายผมบอกว่า...มันบาป

หากเป็นหมอนเล่น ซึ่งสมัยนี้มีเยอะมากๆ ก็ตามสะดวก แต่ผมบอกคนในบ้านว่า หากนั่งทับหรือพาดขาแล้ว ห้ามนำมาหนุนหัว มัน...ขะลำ(ขิดขวาง ไม่เป็นมงคล)

 

พี่ tang 2536 คับ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับคาถาชินบัญชรบ้างหรือเปล่าครับ

 

อาจารย์ของผมท่านเคยบอกว่า..ผู้ที่จะเรียนวิชาไสยศาสตร์ได้นั้น มีอยู่ 2 ประเภท จากบุคคล 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 เรียกว่าพวกโง่ที่สุด คือมีการศึกษาน้อย มีศรัทธาสูง อาจารย์สั่งอะไรก็เชื่อตามนั้น ไม่ลังเลสงสัย สามารถเสกคาถาอาคมให้เกิดผลสำเร็จตามปราถนาได้ แสดงฤทธิ์ได้
ประเภทที่ 2 เรียกว่าพวก เชื่อครึ่งๆกลางๆ มีความลังเลสงสัยมาก กล่าวคือมีการศึกษามาก ทำให้ลังเลสงสัยในเรื่องจิต ในวิชาไสยศาสตร์ กังวลว่าเสกแบบนี้แล้วจะเป็นไปตามคำสั่งอาจารย์จริงหรือเปล่า พวกนี้เรียนให้ตายก็ไม่สำเร็จ นอกจากจะพัฒนามาเป็นประเภทที่ 3
ประเภทที่ 3 เรียกว่าพวกฉลาดที่สุด พวกนี้มีความเข้าใจเรื่องจิต เรื่องคุณพระ รักพระพุทธเจ้า รักครูบาอาจารย์จริงๆ เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ที่มาของอักขระตัวคาถา ว่ามาจากไหน เหตุใดตัวคาถาไม่กี่ตัว จึงมีอิทธิปาฏิหารย์มากนัก เข้าถึงควมมหัศจรรย์แห่งจิต สามารถสัมผัสพลังคุณพระได้ จิตจึงไม่มีความลังเลสงสัย เพราะได้ทำการค้นคว้าหาเหตุผลอยู่ตลอดเวลาจนเข้าใจ และเข้าถึงคุณพระ สามารถเสกคาถาอาคมให้เกิดผลสำเร็จตามปราถนาได้ แสดงฤทธิ์ได้เหนือล้ำกว่าพวกโง่ที่สุด และมีความพิศดารมากกว่าหลายเท่า
การใช้คาถาแต่ไม่ได้ยกครู-ครอบครูเป็นศิษย์ตามระเบียบนั้น จะเป็นอันตรายกับตัวเองเนื่องจากครูบาอาจารย์เจ้าของคาถาที่เป็นเทวดาท่านจะลงโทษเอา แรกๆอาจจะพอทำได้บ้างต่อมาก็เสื่อม แต่เท่าที่เห็นมาคือใช้ไม่ได้ผลเลย เพราะตัวบทคาถาเหล่านี้มีครู มีอาจารย์ มีแรงครูสูง ตามแต่ตัวบทคาถา-วิชา จะทำเป็นเล่นไม่ได้ ถึงขั้นฉิบหายวายวอด จนถึงขั้นตายมาก็มากแล้ว อย่าทำผิดคำสั่งครูบาอาจารย์ เพราะวิชาไสยศาสตร์ถือว่าคำสั่งครูบาอาจารย์เป็นที่สุด สั่งให้ทำอะไรต้องทำตามนั้น
ที่เขียนมานี้ก็เนื่องจากเห็นว่ามีผู้ที่ยังสงสัยกันอยู่อีกมากจึงตั้งใจจะอธิบายให้ฟัง เพราะอาจารย์ผมเองก็เรียนวิชาไสยศาตร์มาเป็นเวลา 15 ปี เห็นคนโดนแรงครูเล่นงานจนหมดเนื้อหมดตัวมาก็มาก ที่อัมพาตก็มี ขนาดถึงตายก็มีให้เห็นมาแล้ว จึงไม่อยากให้เสี่ยงอันตรายกันโดยใช่เหตุ

 

มีสาระมากครับ อ่านวันเดียว100หน้าเลย แหะๆ
ขอตัวไปนอนก่อนละกันครับ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ

 

อยากทราบเหมือนกันค่ะ

 

เพิ่งไปเช่าสาริกา มาอ่ะค่ะ แต่ไม่ทราบว่าใช้ยังไง พูดอธิษฐานได้เลยไหมคะ

แล้วการลงสาริกาลิ้นทอง จะทราบได้อย่างไรว่ายังอยู่หรือไม่
ถ้าสาริกาบินหนีไปแล้ว =*= ต้องไปลงใหม่ไหมคะ

พอดีอยู่ในช่วงไล่อ่าน โพสเก่าๆ เลยอาจจะมีคำถามอยู่เรื่อยๆ นะคะ ^^
ขอบคุณค่ะ

 

เรื่อง ปสก. พระคาถาชินบัญชร ยังไม่มี ปสก.ครับ แต่ก็ ท่องอยู่เรื่อยๆ เชื่อว่า พุทธานุภาพครอบคลุมหมดแล้ว

เรื่อง สาริกา..ที่เช่ามาเป็นวัตถุมงคล ก็อยู่ที่ ผู้สร้างครับ ว่ามีวิธีใช้อย่างไร ส่วนผู้ที่ลงไว้ กับร่างกาย ผมเองก็ไม่อาจจะบอกได้ครับ ว่า จะ อยู่ หรือจะ หาย คลายขลังไปแล้ว...คงอยู่ ที่ตัวผู้ใช้เอง มากกว่า ว่า ได้กระทำสิ่งใด ผิด กฏข้อห้ามไปหรือไม่อย่างไร ครับ...ถ้าไม่แน่ใจ ก็ไปลงใหม่เสีย ก็ไม่น่าจะ เสียหายอะไร..เพราะเราแค่ เป็นผู้ใช้ ไม่ใช่เป็น ผู้ลง /ผู้สร้าง ครับ