2 0 1 2 ดวงอาทิตย์ ดวงที่ 2

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Aqua-ma-rine, 21 มกราคม 2011.

  1. kittanan002

    kittanan002 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +7
    อยากเห็นจังแหะ 2 ดวง
     
  2. Aoykub

    Aoykub สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +3
    แง่ว.... แล้วโลกไม่ร้อนน่าดูเลยเหรอเนี่ยย
     
  3. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    [FONT=&quot]ใน สุริยสูตร[/FONT] กล่าวว่า พระอาทิตย์มี 7 ดวง
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]214

    [[FONT=&quot]๖๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อัมพ-ปาลีวัน ใกล้พระนครเวสาลี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็นกำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขุนเขาสิเนรุ โดยยาว ๘๔[/FONT],[FONT=&quot]๐๐๐โยชน์ โดยกว้าง ๘๔[/FONT],[FONT=&quot]๐๐๐ โยชน์ หยั่งลงในมหาสมุทร ๘๔[/FONT],[FONT=&quot]๐๐๐โยชน์ ( คูณด้วย 16 กิโลเมตร คือ 1 โยชน์ มี 16 กิโลเมตร) สูงจากมหาสมุทรขึ้นไป ๘๔[/FONT],[FONT=&quot]๐๐๐ โยชน์ มีกาลบางคราวที่ฝนไม่ตกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี เมื่อฝนไม่ตก พืชคาม ภูตคามและติณชาติที่ใช้เข้ายา ป่าไม้ใหญ่ ย่อมเฉาเหี่ยวแห้ง เป็นอยู่ไม่ได้ ฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็นกำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏ เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏ แม่น้ำลำคลองทั้งหมด ย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๓ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวง[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]215[FONT=&quot]ที่ ๓ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ ๆ คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลายสังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๔ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๔ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ ๆ ที่ไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๕ปรากฏ น้ำในมหาสมุทรลึก ๑๐๐ โยชน์ก็ดี ๒๐๐ โยชน์ก็ดี ๓๐๐โยชน์ก็ดี ๔๐๐ โยชน์ก็ดี ๕๐๐ โยชน์ก็ดี ๖๐๐ โยชน์ก็ดี ๗๐๐โยชน์ก็ดี ย่อมงวดลงเหลืออยู่เพียง ๗ ชั่วต้นตาลก็มี ชั่วต้นตาลก็มี ๕ ชั่วต้นตาลก็มี ๔ ชั่วต้นตาลก็มี ๓ ชั่วต้นตาลก็มี ๒ ชั่วเพียงเอว เพียงเข่า เพียงแต่ข้อเท้า เพียงในรอยเท้าโค ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย น้ำในมหาสมุทรยังเหลืออยู่เพียงในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆเปรียบเหมือนในฤดูแล้ง เมื่อฝนเมล็ดใหญ่ ๆ ตกลงมา น้ำเหลืออยู่ในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆ ฉะนั้น เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏเปรียบเหมือนในฤดูแล้ง เมื่อฝนเมล็ดใหญ่ ๆ ตกลงมา น้ำเหลืออยู่ในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆ ฉะนั้น เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]216
    [FONT=&quot]น้ำในมหาสมุทรแม้เพียงข้อนิ้วก็ไม่มี ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลายสังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๖ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้นเปรียบเหมือนนายช่างหม้อเผาหม้อที่ปั้นดีแล้ว ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น ฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลนางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๗ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๗ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ไฟจะติดทั่วลุกโชติช่วงมีแสงเพลิงเป็นอันเดียวกัน เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขสิเนรุไฟเผาลุกโชน ลมหอบเอาเปลวไฟฟุ้งไปจนถึงพรหมโลก เมื่อขุนเขาสิเนรุไฟเผาลุกโชนกำลังทะลาย ถูกกองเพลิงใหญ่เผาท่วมตลอดแล้วยอดเขาแม้ขนาด ๑๐๐ โยชน์ ๒๐๐ โยชน์ ๓๐๐ โยชน์ ๔๐๐ โยชน์๕๐๐ โยชน์ ย่อมพังทะลาย เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุถูกไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า เปรียบเหมือนเมื่อเนยใสหรือน้ำมันถูกไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่าฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม ควรจะเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น ใครจะรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]217[FONT=&quot] ใครจะเชื่อว่า แผ่นดินนี้และขุนเขาสิเนรุจักถูกไฟไหม้พินาศไม่เหลืออยู่ นอกจากอริยสาวกผู้มีบทอันเห็นแล้ว (โสดาบัน)ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ศาสดาชื่อสุเนตตะเป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม ก็ศาสดาชื่อสุเนตตะนั้น มีสาวกอยู่หลายร้อย เธอแสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก และเมื่อสุเนตตศาสดาแสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก สาวกเหล่าใดรู้ทั่วถึงคำสอนได้หมดทุกอย่าง สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไปก็เข้าถึงสุคติพรหมโลก ส่วนสาวกเหล่าใดยังไม่รู้ทั่วถึงคำสอนได้หมดทุกอย่าง สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไป บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี บางพวกเข้าถึงความเป็นแห่งเทวดาชั้นดุสิต บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งกษัตริย์มหาศาล บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งพราหมณ์มหาศาล บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งคฤหบดีมหาศาล.ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล สุเนตตศาสดามีความคิดเห็นว่า การที่เราจะพึงเป็นผู้มีสติเสมอกับสาวกทั้งหลาย
    ใน[/FONT][FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]218
    [FONT=&quot]สัมปรายภพไม่สมควรเลย ผิฉะนั้น เราควรจะเจริญเมตตาให้ยิ่งขึ้นไปอีก ครั้งนั้นแล สุเนตตศาสดาจึงได้เจริญเมตตาจิตตลอด ๗ ปีแล้วไม่มาสู่โลกนี้ตลอด ๗ สังวัฏฏวิวัฏฏกัป เมื่อโลกวิบัติเข้าถึงพรหมโลกชั้นอาภัสสระ เมื่อโลกเจริญ เข้าถึงวิมานพรหมเป็นใหญ่ ไม่มีใครยิ่งกว่า รู้เห็นเหตุการณ์โดยถ่องแท้ เป็นผู้มีอำนาจมาก เกิดเป็ท้าวสักจอมเทวดา ๓๖ ครั้ง เป็นพระเจ้า-จักรพรรดิผู้ตั้งอยู่ในธรรม เป็นพระธรรมราชา มีสมุทรทั้ง ๔เป็นขอบเขต ผู้ได้ชัยชนะสงคราม สถาปนาประชาชนไว้เป็นปึกแผ่นมั่นคง พรั่งพร้อมด้วยรัตนะ ๗ ประการ หลายร้อยครั้ง พระราช-โอรสของพระเจ้าจักรพรรดิ ล้วนแต่องอาจ กล้าหาญ ชาญชัยย่ำยีศัตรูได้ พระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นทรงปกครองปฐพีมณฑล อันมีมหาสมุทรเป็นขอบเขต ไม่ต้องใช้อาญา ไม่ต้องใช้ศาตรา ใช้ธรรมปกครอง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สุเนตตศาสดานั้นแล มีอายุยืนนานดำรงมั่นอยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่พ้นจากชาติ ชรา พยาธิ มรณะโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เรากล่าวว่า ไม่พ้นจากทุกข์ได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะยังไม่ตรัสรู้ ไม่ได้แทงตลอดธรรม ๔ ประการ ๔ ประการเป็นไฉน คือ อริยศีล ๑ อริยสมาธิ ๑อริยปัญญา ๑ อริยวิมุติ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยศีล อริยสมาธิอริยปัญญา อริยวิมุติ เราตรัสรู้แล้ว แทงตลอดแล้ว เราถอนตัณหาในภพได้แล้ว ตัณหาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพสิ้นแล้ว บัดนี้ภพใหม่ไม่มี.[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ [/FONT]219
    [FONT=&quot]พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่าธรรมเหล่านี้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญาและวิมุตติอันยิ่ง พระโคดมผู้ทรงพระยศตรัสรู้แล้วพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดา ผู้มีพระจักษุ ทรงรู้ยิ่งด้วยประการดังนี้แล้ว ตรัสบอกธรรม ๔ ประการแก่ภิกษุทั้งหลาย ทรงกระทำที่สุดทุกข์แล้วปรินิพพาน.[/FONT]
    [FONT=&quot]จบ สุริยสูตรที่ ๒[/FONT]
    -----------------------------------------------
    * [FONT=&quot]หมายเหตุ ขออธิบายว่าทำไมถึงมีดวงอาทิตย์ ๗ ดวง...กล่าวคือ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้นั้น ไม่ได้มีดวงอาทิตย์ที่เราเห็นอยู่เพียงดวงเดียว แต่มีเป็นแสนโกฏฏ์ล้านดวง และดวงอาทิตย์แต่ละดวง ก็มีการเคลื่อนที่เป็นวงโคจรของตัวเอง แล้ววันหนึ่ง ดวงอาทิตย์เหล่านี้จะโคจรมาพบกัน เรียกว่า "สุริยสูตร"[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มกราคม 2011
  4. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    เราไม่สามารถหยุดธรรมชาติได้ แต่เราหยุดที่ตัวเองได้
    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ พระพุทธองค์ท่านยังทรงสอนเลยว่าให้นึกถึงความตายอย่างน้อยวันละ 7 ครั้ง
     
  5. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    ไปวัด จากนั้นจะเข้าธาตุหรือลอยอังคารก็แล้วแต่ญาติ
     
  6. shaman loseless

    shaman loseless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +185
    แสงต้องใช้เวลาเดินทางนะครับ
    ที่ว่าอยู่ห่างโลก180-1300ปีแสง
    ถ้าภาพที่เราเห็นปัจจุบันบนโลกก็คืออดีตของดาวดวงนั้น
    เมื่อ180-1300ปี ที่บอกว่ามันจะระเบิดปี2012
    ก็แสดงว่าดาวดวงนั้นได้ระเบิดไปแล้วเมื่อ 180-1300ปีที่แล้ว
    ดาวที่เราเห็นบนท้องฟ้าอาจมีหลายดวงที่ระเบิดไปนานแล้ว
    แต่ยังคงแสงส่องมาหาโลกเรา(แสงสุดท้ายของดาว)
     
  7. The Soul

    The Soul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +356
    ตกลงระเบิดไปรึยังคะเนี่ย ฮ่าๆ หรือว่าระเบิดไปแล้วแต่แสงยังเดินทางมาไม่ถึง
     
  8. mauywat

    mauywat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +50
    อาทิตย์ดวงเดียว ก็ยุ่งพอแล้ว มีสองดวงยุ่งตาย....อ่ะ
     
  9. boriphat

    boriphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +2,124
    คงไม่น่าดูเท่าไหร่นะ ....อืม..
     
  10. love_song_music

    love_song_music เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +907
    อดีต คือธรรมในอดีต ผ่านแล้วผ่านไป
    อนาคตคือธรรมในอนาคต ยังมาไม่ถึง คิดมากผมร่วง ผมหงอก
    แก่ก่อนวัยไม่รู้ด้วยนะจะบอกให้ 5555
     
  11. nutzuzaa

    nutzuzaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +24
    ทุก อย่าง ล้วน ผ่าน ไป เป็น คู่ๆ สุดท้าย เหลือ แค่ 1(โดดเดียวววว...)
     
  12. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    พึ่งฝันได้ไม่กี่ว่าดาวดวงนึงระเบิดแล้วแรงจากการระเบิดได้มายังโลกเต็ม ๆ ผลคือสิ่งมีชีวิตในโลกตายหมดผมก็ตายในฝันด้วยยังจำความรู้สึกตอนโดนแสงนั้นอัดเข้ามาได้อยู่ (ถือเป็นเรื่องขำ ๆ นะ )
     
  13. Izen

    Izen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +48
    สำรวจกันออกมาแล้ว

    สร่างมากกว่าดาวอื่นๆ นิดเดียว จะกินเวลาแค่ไม่ถึง1อาิิทิตย์

    ไม่ได้สว่างแบบเห็นกลางคืนเป็นกลางวันหรอก อย่าได้กลัวไปเลย

    หลายร้อยปีแสง ไกลนะ อิอิ
     
  14. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    ความลังเล ความสงสัย ในความเชื่อจะไม่มีวันรู้ในความจริง

    ผมเคยสงสัยและเรื่องภัยพิบัติเช่นนี้มาก่อนกับน้องเมย์มาปีกว่าคงจะได้
    แต่ก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมายนัก

    เพราะคงจะเป็นนิยายหรือเรื่องเล่าและเป็นคำทำนายที่มาถอดรหัสในความเชื่อ

    ผมคงพูดว่าไม่เชื่อ..
    แต่ความไม่เชื่อถ้าทิ้งเอาไว้ ไม่พิสูจน์ดูมันก็คงเป็นความลังเล ความสงสัย
    ที่ไม่มีวันจบ ว่าโดยหลักเหตุผล การไม่เชื่อเสียก่อนคือการไม่งมงาย
    แต่การพิสูจน์เป็นการนำเอาสติ ปัญญาไปพิจารณาไตร่ตรองด้วยเหตุและผล

    ศรัทธาที่ไม่งมงาย ศรัทธาที่ประกอบด้วยเหตุและผล นี่เป็นหลักแห่งพุทธปัญญา..

    เรื่องนี้ถ้าจะให้เขียนคงยาว เรียกว่าเป็นหนังสือได้1เล่มแต่่หลังจากเข้าไปรู้
    ผมอยากสอบถามว่า..

    มันเป็นไปได้ด้วยหรือว่าพระอาทิตย์ดวงหนึ่งอยู่ทางตะวันออก อีกดวงทางตะวันตกและจะส่งผลต่อโลกภายในเวลาไม่เกิน2ชั่วโมง

    ถ้าท่านใดมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์บ้าง ช่วยตอบปัญหาตรงนี้ให้ทีนะครับ
    จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

    แสงที่เริ่มสว่างจากดวงดาวเล็กๆในจุดหนึ่งแต่กลับขยายจนสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรา มีความเป็นไปได้หรือไม่

    เสียดายบอรด์นี้ไม่มีอาจารย์ ดร ชัยวัตร สุปคุต(ถ้าเขียนชื่อผิดขออภัยครับ)
    ถ้าท่านอยู่คงจะทราบในความรู้ได้อีกมาก

    ด้วยความเคารพในธรรม
    ชัชวาล
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ดิน ฟ้า อากาศ ดวงดาว จักรวาล
    ขึ้นอยู่กับ ใจคนเรา

    เดิมสัตว์โลกขาดโลกุตตระธรรม ขาดสัจจะ
    โลก จักรวาล ก็เป็นแบบหนึ่ง

    ถ้าใจคนเรา เริ่มมีสัจจะ ปลดนิสัยตนเอง
    โลก จักรวาล ก็จะเปลี่ยนแปลง

    ถ้าขาดสัจจะ ไม่เอาสัจจะ
    การเปลี่ยนแปลง ก็ต้องทนทุกข์ลำบากกันหน่อย

    ถ้ามีสัจจะ กันทั้งโลก
    การเปลี่ยนแปลง ก็เหมือนเข้ายุคพระศรีอารย์

    ด้วยเหตุผลจาก สัจจะธรรม
    ตัว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    ถ้าโลกจะเย็นลง แสดงว่าดวงอาทิตย์จะเหลือแค่ครึ่งเดียว นะเอออ
     
  17. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    พุทธทำนายทรงตรัสไว้แล้ว กลียุคไม่ใช่แค่ 2 ดวง ยังมีเพิ่มอีกเมื่อไกล้ พุทธศักราช 5000
     
  18. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    ฟันธง ได้ว่าไม่ได้มีผลกระทบกับโลก

    ในขณะปัจจุบัน ทุกๆวินาทีก็เกิดการระเบิดแบบนี้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

    ก้คือ ทุกๆกาแลกซี่มีดาวฤกษ์ 1 ดวง

    ซึ่ง มันมีหลายๆ ล้านๆๆๆๆๆๆๆ กาแลกซี่

    ...
     
  19. ขนุติโก

    ขนุติโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    ตามนี้เลยครับ


    [​IMG]
    เรื่องราวของดาวปริศนา (Planet X) ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาทางพิสูจน์กันอยู่ว่า ดาวลึกลับในตำนานนี้มันมีอยู่จริงหรือไม่ ? และถ้ามี ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน? และเนื่องด้วยมันยาวมากๆ จึงแบ่งหัวข้อย่อยออกเป็นสองส่วนคือ ภาคตำนานในอดีต และภาคข้อเท็จจริงในปัจจุบัน เพราะด้วยความสงสัยของว่าทำไม 2012 จึงมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกิน บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจากสาเหตุโลกร้อน บางแหล่ง อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา แต่มีสิ่งที่หนึ่งที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อมเกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถ้าเกิดขึ้นก็จบ...ไม่เหมือนกับ LHC * ที่กลัวโอกาสว่าจะเกิดหรือเปล่าเท่านั้น........


    เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานา (Planet X) ดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล (นับตามแบบของชาวสุเมเรียน) ถ้าใครได้พอดู ความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ
    แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้ว ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทาง
    วิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)

    และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆ ว่า...
    สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจากดาวดวงนี้

    แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราะห์ดวงใหม่ แล้วก็จบ...
    ทำไมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น?
    สิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....

    ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
    แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้

    แปลว่า... ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวงก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ

    ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย


    [​IMG] NIBIRU

    [​IMG]

    [​IMG]

    อันนี้ใช้เทคโนโลยี้ขั้นสูงในการถ่ายซูมครับ ทำให้รู้ได้ว่า ดาวนี้เป็น ดาวฤกษ์ครับ

    และทับเข้ามาแค่ไหน

    เส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ เข้ามาทับเส้นเดียวกับโลกเลยครับ
    แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกเราอย่างแน่นอน!!!

    [​IMG]

    รูปนี้คือเส้นวงโคจรของดาวนิบิรุครับ

    มันเข้าใกล้มาจริงเร้อ?

    เส้นทางวงโคจร ทำให้เรารู้ได้ว่าทางเราส่องดาวบริเวณทิศใต้สุดของดาวโลกเราจะเห็น

    แต่ปัจจุบันนี้ ปีนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว


    [​IMG]

    (เส้นขาวๆ คือลูกศรชี้ตำแหน่งดาวนิบิรุครับ)

    และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังค์ไปออสเตรเลียหรือประเทศอะไรที่อยู่ทางใต้ของโลกนะครับ
    แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม GooGleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆ อยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นหละครับ นิบิรุ...

    แล้วทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานและวัตถุในอดีตหละ
    นักโบราณฯ สันนิษฐานว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วในเมื่อหลายแสนปีก่อน

    แต่มารอบนี้ มาเทียบและทาบวงโคจรของดาวนิบิรุ คาดว่ามีโอกาสที่จะชนกันสูง
    หรือแม้เฉียดกันก็เกิดอันตราย


    [​IMG]

    เพราะแกนของดาวมีสนามแม่เหล็กอยู่ อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ
    เกิดภาวะน้ำขึ้นกระทันหัน เกิดพายุต่างๆ นา

    และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว

    ข้อมูลอาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA ยังปิดข่าวอยู่ แต่นักดาราศาสตร์ออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได้กันอย่างจ้าละหวั่น

    ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอก ดาวฤกษ์ และ อุกกาบาต เพราะขนาดของมันใหญ่กว่าดาวพฤหัส 2 เท่า!!!
    (ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนี้



    ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง เพื่อนๆพี่ๆ อย่าพึ่งไปตื่นตระหนก มากน๊ะครับ

    ขอให้มันเป็นเพียงคำบอกเล่ามาเท่านั้นพอ จนกว่าจะถึงเวลา^ ^
     

แชร์หน้านี้

Loading...