คลังเรื่องเด่น
-
ลอดราวตากผ้า
ลอดราวตากผ้า
หลวงพ่อ : เอาว่าไง
อาจารย์ยกทรง : บอกว่ามันมีราวตากผ้าอยู่ จำป็นจะต้องลอดไป มีพระ มีลูกแก้วมีอะไรเยอะแยะ
จะท่องคาถาอย่างไร ถึงจะลอดไปได้ครับ (หัวเราะ)
หลวงพ่อ : ไม่ต้องท่องคาถาหรอก ถ้าหากว่าเราไม่ถือ ถ้าจำเป็นจะต้องไปนะ ตามธรรมดา ตามที่ต่างๆที่ไม่ควรนี่ คนเขาไม่ไปอยู่แล้ว ถ้าจะไปเขาถือว่าเป็นการจำเป็น ไม่เป็นไรของไม่เสื่อม
อาจารย์ยกทรง : เขาบอกว่าราวตากผ้า ของพวกโกเต๊กซ์ หรือไอ้ของสกปรก พุทธคุณ ธรรมคุณ จะแขวนต่องแต่ง ไม่กล้าผ่าน
หลวงพ่อ : ไม่เป็นไร ถ้าจำเป็นนะ ต้องถือว่าถ้าจำเป็นไม่เป็นไร ของไม่เสื่อม อะไรที่เป็นผ้านุ่งมันสกปรกตรงไหน ข้างในมีทั้งขี้ทั้งเยี่ยวเสร็จ มีทั้งน้ำเลือดน้ำเหลืองน้ำหนอง ทำไมห้อยอยู่ได้ ใช่ไหม
เดี๋ยวก็ต้องเทศน์แบบ พระครูโว อีกหรอก (พระครูโวทานธัมมาจารย์)
อาจารย์ยกทรง : เทศน์ว่าไงฮะ
หลวงพ่อ : เคยไปเทศน์กับ พระครูโว ท่าน วันนั้นงานหล่อพระ เขาหล่อพระประธานใช่ไหม
อาจารย์ยกทรง : ครับ
หลวงพ่อ : วันนั้นเทศน์กัน 3 ธรรมาสน์ เทศน์ไปเทศน์มา ท่านก็ถามถึงการหล่อพระมีอานิสงส์อย่างไร แล้วก็อธิบายอานิสงส์
ไอ้เราก็นึกขึ้นมาได้ สมมติเอาว่า... -
หัวใจพระศาสนา
หัวใจพระศาสนา
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
"แนะนำให้ทุกคนไม่ทำความชั่วทุกประเภท"
กุสลัสสูปสัมปทา
"แนะนำให้ทุกคนทำแต่ความดี"
สจิตตะปริโยทะปะนัง
"แนะนำให้ทุกคนทำจิตใจแจ่มใสจากกิเลส"
เอตัง พุทธานะสาสะนัง
"ทรงยืนยันว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์ตรัสอย่างนี้เหมือนกันหมด"
ที่ใครเขาบอกให้แต่ง "หัวใจพระศาสนา" อันนี้แหละ "หัวใจพระศาสนา"
(จากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ 36 หน้า 8) -
เจริญสังฆานุสสติกรรมฐานแบบง่ายๆ
เจริญสังฆานุสสติกรรมฐานแบบง่ายๆ
การเจริญสังฆานุสสติกรรมฐานแบบง่ายๆนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านสอนไว้แล้ว พร้อมกับ จาคานุสสติกรรมฐาน และ ทานบารมี ท่านให้ทำดังนี้
เมื่อถึงเวลากลางคืนท่านให้สวดคาถาวิระทะโย 1 จบ พร้อมกับเอาข้าวสารหรือ
ข้าวเปลือก 1 จอก หรือขัน หรือถ้วยเล็กๆก็ได้ ใส่อะไรก็ได้ เพื่อเก็บไว้เพื่อถวายพระ
เมื่อรวบรวมได้มากพอควร พร้อมกันนั้นให้ว่า คาถาวิระทะโย 1 จบ
คาถานี้เป็นคาถามหาลาภ ทำให้หากินคล่อง จำกัดความยากจนเข็ญใจ ถ้าทำจนชินกำลังใจทรงตัวที่เรียกว่า "เป็นสมาธิ" จะมีความเป็นอยู่ดีมาก หรือตอนเช้าถ้ามีเวลาพอ มีพระมาบิณฑบาต ให้ใส่บาตรพระตามกำลังที่จะใส่ได้เป็นประจำ ก่อนใส่บาตรให้ว่า คาถาวิระทะโย 1 จบ
การที่ท่านให้ทำอย่างนี้ ตามคำอธิบายของท่าน ท่านบอกว่าเพื่อให้มีการหาเลี้ยงชีพ
คล่องตัว ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่เนื้อแท้แล้วผลมีตามนั้นแน่ ท่านมีความฉลาดมาก เพราะเป็นพระผู้ทรงฌาน ส่วนวิปัสสนาญาณท่านถึงไหน อาตมาไม่ทราบได้ เพราะกำลังใจท่านสูงและละเอียดมาก ท่านดีกว่าอาตมามากมายเทียบกันไม่ได้เลย
ผลการแนะนำของท่าน... -
บาปคนทิ้งลูก สู่สุนัขได้ทำบุญอารักขาพระปัจเจกพุทธเจ้า สู่เทวดาผู้มีเสียงกลบดาวดึงส์(ผลกุศลและอกุศล)
บาปจากคนทิ้งลูก สู่สุนัขที่อารักขาและเห่านำทางพระปัจเจกพุทธเจ้า
สู่เทวดาผู้มีเสียงกลบสวรรค์ชั้นดาวดึงส์!(กุศลและอกุศลของโฆสกเศรษฐี)
*********************
อนุโมทนา และที่มา
https://www.youtube.com/@Tripitaka-TH -
เส้นทางสู่การบรรลุอรหันต์ (ด้วยสมาบัติ8)/ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
เส้นทางสู่การบรรลุอรหันต์ (ด้วยสมาบัติ8)/ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
******************************************************************************
อนุโมทนาและขอบคุณ ที่มา https://www.youtube.com/@Ekayanamak -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
วิธีการสังเกตว่าการปฏิบัติของเราได้ผลหรือไม่ได้ คือดูว่า กาย วาจา ใจ ของเราดีขึ้นหรือเปล่า ?
วิธีการสังเกตว่าการปฏิบัติของเราได้ผลหรือไม่ได้ คือดูว่า กาย วาจา ใจ ของเราดีขึ้นหรือเปล่า ? หลายคนเข้มงวดกับตัวเองเวลาปฏิบัติ แต่พออยู่ที่บ้านมักจะปล่อยไปตามอารมณ์ กระทบอะไรเป็นด่ากระจาย หรือว่าต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างใจของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้นขอให้รู้ว่า กำลังใจของเรายังหาดีไม่ได้
การปฏิบัติต้องมีพัฒนาทางกาย ทางวาจา ทางใจที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ กระทบกระทั่งกับผู้อื่นน้อยลง ไม่ใช่หาความมันในการนินทาชาวบ้าน ซอกแซกสอดรู้สอดเห็นทุกเรื่อง แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ รู้เรื่องของเขาหมดทุกเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่ากำลังโกยขยะเน่า ๆ มาถมตัวเอง เรื่องอื่นเป็นขยะทั้งนั้น ขยะในใจของตัวเองก็มากพอแล้ว โกยทิ้งแต่ละวันยังไม่มีปัญญาจะโกย แล้วยังไปโกยของคนอื่นมาถมตัวเองเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นลักษณะอย่างนั้นก็แปลว่า นอกจากเราจะไม่ก้าวหน้าแล้ว ยังมีโอกาสถอยหลังไปเรื่อย ๆ เพราะกำลังใจถูกท่วมทับไปด้วยกิเลส โอกาสที่จะก้าวขึ้นไปข้างหน้าย่อมไม่มี
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
พระยสเถระ ผู้ทำให้มีการเผยแผ่พระศาสนาไปทั้ง๖๐ทิศ
พระยสเถระ พระอรหันต์องค์ที่๗ของโลก
ผู้ทำให้มีการเผยแผ่พระศาสนาไปทั้ง๖๐ทิศ
*********************
อนุโมทนา และ ขอบคุณที่มา
https://www.youtube.com/@Tripitaka-TH -
สัจจกนิครนถ์ผู้เจาะเจอแก่นของวิมุตติธรรมแต่ไม่รู้ธรรม /ชัยชนะแห่งพุทธะ (พาหุง บทที่๖)
สัจจกนิครนถ์ผู้เจาะเจอแก่นของวิมุตติธรรมแต่ไม่รู้ธรรม
ชัยชนะแห่งพุทธะ (พาหุง บทที่๖)
*******************
อนุโมทนา และขอบคุณที่มา
https://www.youtube.com/@Tripitaka-TH -
การปฏิบัติที่แท้จริง คือ การทำให้หมดซึ่งกิเลส โดยให้อยู่กับปัจจุบัน
การทำสมาธิภาวนา สิ่งสำคัญคือสติที่รู้อยู่ตอนนั้น อย่าให้สติเคลื่อนออกจากลมหายใจเข้าออก ตามรู้เข้าไปว่าผ่านจมูกแล้ว ผ่านอกแล้ว ไปสุดที่ท้องแล้ว และออกจากท้องมาแล้ว ผ่านหน้าอกแล้ว มาอยู่ที่จมูกแล้ว ต้องให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ตรงนี้ อย่าไปคิดเรื่องอื่น คิดเรื่องอื่นเมื่อไรให้รีบดึงกลับมาตรงนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่ก้าวหน้า ถึงเวลาก็ฟุ้งซ่านอีก ใจหนึ่งคิด อีกใจหนึ่งก็ยังท่องพุทโธ ๆ อยู่ ก็เหมือนกับท่องอาขยาน
การนั่งทำสมาธิภาวนาจุดสำคัญคือ ความสงบของใจ เรื่องอื่นเป็นของแถม ของแถมชนิดที่ต้องการหรือไม่ต้องการเขาก็ต้องให้มา ซื้อรถเขาก็ต้องให้ล้อมาแน่ ๆ ไม่ต้องไปตั้งหน้าตั้งตาหาล้อรถ ขอให้ซื้อรถต้องได้ล้อรถมาด้วยแน่ ๆ ท่านถึงให้เราภาวนาอย่างเดียว ถึงเวลาจิตทรงสมาธิได้ก็จะรู้เห็นเอง การรู้เห็นไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะเราอาจจะไปยึดติดกับสิ่งที่รู้เห็น ทำให้การปฏิบัติของเราไม่ก้าวหน้า
การปฏิบัติที่แท้จริง คือการทำให้หมดสิ้นซึ่งกิเลส กิเลสจะหมดสิ้นได้เท่าไร เราจะละกิเลสได้เท่าไร อยู่ที่ความสามารถของเรา เรื่องอื่นเป็นเรื่องที่เขาแถมมาให้ สิ่งสำคัญของการทำสมาธิก็เพื่อความสุขในปัจจุบัน... -
"ประโยชน์ของการแผ่เมตตา" (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต)
.
"ประโยชน์ของการแผ่เมตตา"
- หลวงปู่ครับ : การแผ่เมตตานั้น "มีประโยชน์อย่างไรบ้างครับ"
- หลวงปู่ : มีประโยชน์ "เพื่อจะไม่ให้จิตใจของตนมีพยาบาทและเบียดเบียน เมื่อจิตใจของตนไม่มีพยาบาทและเบียดเบียนแล้ว ใจก็อยู่เป็นสุข" ธรรมที่เป็นคู่กันกับใจในตอนนี้ก็เป็นสุขและอีกประการหนึ่ง "ผู้แผ่เมตตาอยู่ไม่มีกลางวันกลางคืน ก็คือผู้นั้นแหละเป็นพรหมทั้ง กาย วาจา ใจ"
จิตผู้นั้นก็รวมเป็นสมาธิง่าย หน้าตาก็ผ่องใส "เวรภัยจะมาก่อใหม่ก็ไม่มี เทวดาก็รักษา มิตรสหายก็มาก สัตว์ทั้งหลายก็กลัวอำนาจความไม่เบียดเบียน" และไม่ตายด้วยพิษเขี้ยว งา และศาสตราวุธ โดยใจความที่เรียกกันหยาบ ๆ ว่าตายโหง เว้นไว้แต่โรคชราและพยาธิต่าง ๆ เท่านั้น "ถ้าไม่พ้นทุกข์โดยด่วนในชาตินี้ ก็ไม่เกิดในครรภ์ต่อไป ได้เกิดเป็นกายทิพย์ ใจทิพย์ ในพรหมโลกโดยไม่สงสัย"
- หลวงปู่ครับ : การแผ่เมตตานั้น "ช่วยให้คนที่คิดจะปองร้ายนั้นให้หายได้หรือเปล่าครับ"
- หลวงปู่ : "ถ้าหากเขาจะมาก่อใหม่ในชาตินี้ก็สามารถหายได้" ถ้าหากว่าเราได้สร้างกับเขามาชาติก่อน ๆ อย่างหนัก ๆ ก็เบาลง ถ้าอย่างกลาง ๆ ก็เบาลงอีกเหลือนิดเดียว ถ้าอย่างละเอียดนิดเดียวก็หายไปเลย ..... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
รัตนะจงกรมกัณฑ์
รัตนะจงกรมกัณฑ์
------------------------------------
อนุโมทนาและขอบคุณที่มา
อุทยานธรรม
uttayarndham.org -
พระขีณาสพตายแล้วสูญหรือไม่(พระสารีบุตรแก้ทิฏฐิพระยมก)
ยมกสูตร
ว่าด้วย
พระขีณาสพตายแล้วสูญหรือไม่
เหตุการณ์
พระยมกะมีทิฏฐิอันลามกว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก พระสารีบุตรแก้ทิฏฐิพระยมกะเรื่องพระอรหันตขีณาสพตายแล้วสูญ เมื่อพระสารีบุตรถกธรรมจบ พระยมกะบรรลุอรหัตตผล
พระสารีบุตรถามพระยมกะว่า
ชันธ์ ๔ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวของตัวเรา
พระอริยสาวกผู้ใดสดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป ทั้งในเวทนา ทั้งในสัญญา ทั้งในสังขาร ทั้งในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น
แล้วถามพระยมกะต่อไปว่า
- ขันธ์ ๕ เป็นสัตว์เป็นบุคคลหรือ
- สัตว์บุคคลมีในขันธ์ ๕ หรือ
- สัตว์บุคคลอื่นจากขันธ์ ๕ หรือ
- เห็นขันธ์ ๕ ว่าเป็นสัตว์บุคคลหรือ
- เห็นว่า สัตว์บุคคลนี้ไม่มีขันธ์ ๕ หรือ
ในเมื่อท่านพระยมกะจะค้นหาสัตว์บุคคลในขันธ์ ๕ ไม่ได้เลย ควรหรือที่จะยืนยันว่า เรารู้ทั่วถึงธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ... -
"ผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว"
.
"ผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลเพียงครั้งเดียว"
ในพระนครพันธุมดี "มีพระบรมกษัตริย์ทรงพระนามว่า พันธุมา ในวันเพ็ญ ท้าวเธอทรงรักษาอุโบสถศีล"
สมัยนั้น "ดิฉันเป็นนางกุมภทาสีในพระนครพันธุมดีนั้น เห็นเสนาพร้อมด้วยพระมหากษัตริย์จึงคิดอย่างนี้ในครั้งนั้นว่า แม้พระมหากษัตริย์ก็ยังทรงละราชกิจมารักษาอุโบสถศีล" กรรมนั้นต้องมีผลแน่นอน หมู่มหาชนจึงพากันเบิกบานใจ
"ดิฉันพิจารณาเห็นทุคติและความเป็นคนยากไร้โดยแยบคาย ทำให้จิตใจร่าเริงแล้ว รักษาอุโบสถศีล" ดิฉันรักษาอุโบสถศีลในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้น "ดิฉันได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวยงามในดาวดึงส์นั้น สูงโยชน์หนึ่ง" ประกอบด้วยเรือนยอดมีที่นั่งใหญ่โต ประดับแล้วอย่างดี นางอัปสรแสนนางต่างบำรุงบำเรอดิฉันอยู่ทุกเมื่อ ดิฉันงามเกินนางเทพอัปสรอื่น ๆ ในกาลทั้งปวง
"ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินทเทวราช ๖๔ พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๓ พระองค์"ดิฉันเป็นผู้มีผิวพรรณปานดังทองคำ ท่องเที่ยวอยู่ในภพทั้งหลาย "ดิฉันเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถาน นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล"... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
กำลังแห่งความเพียรยิ่งใหญ่แค่ไหน? ...พระพุทธเจ้าตรัสเล่ามหาสีลวชาดก
กำลังแห่งความเพียรยิ่งใหญ่แค่ไหน? ความสำเร็จเกิดจากความพยายาม พระพุทธเจ้าตรัสเล่ามหาสีลวชาดก
ที่มา https://www.youtube.com/@Tripitaka-TH -
ที่เกิดแห่งทิฏฐิ | ติตถสูตร
ที่เกิดแห่งทิฏฐิ | ติตถสูตร
-------------------------------
ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
อธิษฐานขอให้บุญเก่าช่วย
อธิษฐานขอให้บุญเก่าช่วย
ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ เวลาปฏิบัติพระกรรมฐาน เราจะอธิษฐานบุญที่เคยบำเพ็ญมาแล้วในอดีตช่วยสงเคราะห์ในการปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลในปัจจุบันดียิ่งขึ้น จะมีผลได้หรือเปล่าขอรับ ?
หลวงพ่อ : ก็ดีนะ ทำแบบนี้ดี มันกระตุ้นความรู้สึกหรือบุญเก่า กำลังก็จะเสริมขึ้น อันนี้ฉันเคยใช้ เมื่อก่อนก็เคยใช้
แม้แต่อุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกันฉันก็ใช้แบบนี้ ดึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยทำ ตั้งแต่ชาติไหนก็ตามเรื่อยมาทั้งหมด รวมทั้งเวลาปัจจุบัน อุทิศส่วนกุศล อันนี้ดีมาก
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 84 เดือนกุมภาพันธ์ 2531 หน้า 12) -
"ทุ สะ นะ โส" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ทุ สะ นะ โส"
" .. พวกนี้เป็นพวกเศรษฐี "เศรษฐีมีเงินมีทองมากถ้าไม่มีธรรมะแล้วลืมตัว และพวกนี้ก็คือพวกลืมตัว มีเงินมีทองข้าวของแล้วไปจ้างไปอะไรทุกประเภทว่างั้นเถอะนะ" คนทำไมเขาจะไม่ต้องการเงิน จ้างที่ไหนก็ได้ซีเงิน
นี่ละทำความเสียหายแก่ตน "ไม่ว่าลูกใครเมียใครไปเอาหมดเลย" ทีนี้มันทำลายจิตใจของคนขนาดไหน "ผัวใครเมียใครใครไม่รัก ไปทำลายเมียเขาไปทำลายผัวเขา" นั้นคือไป "ทำลายจิตใจของเขา จะหนักมากขนาดไหน แล้วผัวคนนี้เมียคนนี้ก็ทำลาย คนนั้นก็ทำลาย ๆ ทำลายไปหมด"
ต่างคนต่างทำลายอย่างนี้ต่างคนจึงต่างเจ็บต่างแสบ "ความเจ็บความแสบทั้งหมดรวมเข้ามาหาผู้ที่ทำนี้ทั้งหมด เพราะนี้เป็นผู้ทำเป็นผู้สร้างกรรม" กรรมจะไปไหนก็มาหาผู้นี้ทั้งนั้น ทีนี้เวลาตายแล้ว เราจะยกตัวอย่างให้ฟังนะ ที่เคยกล่าวคาถาย่อ ๆ "ทุ สะ นะ โส" นี่เป็นภาษาย่อ
ภาษายาว "ทุ" คือ
"ทุชฺชีวิตมชีวิมฺหา เยสํ โน น ททามฺห เส
วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ ทีปํ นากมฺห อตฺตโนติ"
พวกเราทั้งหลายเหล่าใดใน "เมื่อยังมีโภคทรัพย์อยู่ก็ไม่ได้ทำบุญให้ทาน ไม่ได้ทำที่พึ่งแก่ตน พวกเราทั้งหลายเหล่านั้นจัดว่าเป็นผู้มีชีวิตอันชั่วช้าลามกที่สุด"
"สะ" นี่หมายถึง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
บุญจากอภัยทานช่วยต่ออายุได้
บุญจากอภัยทานช่วยต่ออายุได้
ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ ลูกเป็นโรคโลหิตแข็งตัว หมอบอกว่าจะตายภายใน 3 วัน แต่อาศัยความดีที่ผมได้บำเพ็ญมา แล้วก็อุทิศส่วนกุศลทั้งหลายให้แต่เทวาทั้งหลาย และพระพุทธเจ้า เป็นต้น
ปรากฏว่าผมไม่ตายเลยครับ ลูกก็เลยมีความสบายใจว่า ความดีที่หลวงพ่อสอน ความดีที่หลวงพ่อแนะ ความดีที่ลูกได้ปฏิบัติตามคำสอน ได้ผลตามที่ไม่ต้องตายตามที่หมอกำหนด จึงขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมา ณ ที่นี้ด้วย ขอรับ
หลวงพ่อ : อ๋อ ขอบใจๆ นะ ขอให้อยู่ต่อไปอย่าอยู่นานเลยนะพ่อคุณนะ มันลำบาก อีกสักแสนปีค่อยตายนะ (หัวเราะ)
ผู้ถาม : โอ..หลวงพ่อแปลกนะ หมอบอกว่าจะตายเมื่อนั้นเมื่อนี่ พอทำบุญทำกุศลเจริญกรรมฐาน เอ๊ะต่ออายุไปได้นะ
หลวงพ่อ : ความจริงที่เขากำหนดไว้ไม่พลาดนะ สังเกตคนป่วยนะ
แต่ว่าบุญที่เกี่ยวกับอภัยทานช่วยต่ออายุได้นะ
อย่างปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา สัตว์ที่ต้องถูกฆ่า ใช่ไหม เราไม่ฆ่า หรือสัตว์ที่เราจะทำร้ายได้ เราไม่ทำ เราเว้น เป็นอภัยทาน
***ฉะนั้น คนป่วยหรือใครที่ต้องการอายุยืน (แต่ไม่เกินอายุขัย) ก็หมั่นปล่อยปลานะ***
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 94 เดือนธันวาคม 2531 หน้า 8) -
อานาปานสติ รู้ลมหายใจเข้าออก จงอย่าทิ้ง จงอย่าละ กรรมฐานคลายอารมณเครียดทางกายใจ
อานาปานสติ รู้ลมหายใจเข้าออก จงอย่าทิ้ง จงอย่าละ
กรรมฐานคลายอารมณเครียดทางกายใจ
ที่มา https://www.youtube.com/@lhinlee -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
“สามบัญชี” เรื่องเล่าจากหลวงพ่อฯ
เรื่อง “=AZVz_wULS42WhexIFE4dJFAqbPINGLT6g8FcJ7LVw5RwACJs9-TOAUuS-MdKQtKRlKDlGAdLvTZjjqLlN48HjaSe1COi-FoNM5_7Zqz4gJO6ki97NfiD6dNClLYyEZHHSwBkKVguj4juykLb0u9YGiyzSFuXSIFLCvbWPP15-0RxWw&__tn__=*NK-R']สามบัญชี”
วันนี้แปลก ท่านพระยายมก็ดี นายบัญชีก็ดี ท่านมา แต่งเต็มอัตราเลย ก่อนท่านมาขนลุกซู่ทั้งตัว หลังขากนั้นเห็นนายบัญชีท่าน ก็ถามท่านว่า
“คนที่เจริญกรรมฐานนี่จะมีผลอันสูงสุดสักกี่คน”
ท่านบอกว่า “นี่ท่านถามนิพพานใช่ไหม” บอก “ใช่”
บอก “ บัญชีนิพพานไม่ได้อยู่ที่ผม บัญชีมีสามบัญชี” เพิ่งรู้วันนี้ คือว่า
=AZVz_wULS42WhexIFE4dJFAqbPINGLT6g8FcJ7LVw5RwACJs9-TOAUuS-MdKQtKRlKDlGAdLvTZjjqLlN48HjaSe1COi-FoNM5_7Zqz4gJO6ki97NfiD6dNClLYyEZHHSwBkKVguj4juykLb0u9YGiyzSFuXSIFLCvbWPP15-0RxWw&__tn__=*NK-R']#บัญชีขึ้นๆลงๆ ได้แก่ =AZVz_wULS42WhexIFE4dJFAqbPINGLT6g8FcJ7LVw5RwACJs9-TOAUuS-MdKQtKRlKDlGAdLvTZjjqLlN48HjaSe1COi-FoNM5_7Zqz4gJO6ki97NfiD6dNClLYyEZHHSwBkKVguj4juykLb0u9YGiyzSFuXSIFLCvbWPP15-0RxWw&__tn__=*NK-R']#นายบัญชีใหญ่ ที่พระยายม ไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ ไปพรหมก็ได้ ใครจะไปพรหมท่านรู้... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เรื่องการบรรลุธรรมต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด
เรื่องของการบรรลุธรรมต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด จุดไหนที่เราคิดว่าทำได้ต้องตัดใจเดี๋ยวนั้นเลยว่าเราจะทำตามนั้น ถ้าจุดไหนให้ละเว้นเราจะเว้นอย่างนั้น ถ้าตัดสินใจแบบนี้เรื่องของมรรคผลก็ไม่ยาก แต่ส่วนใหญ่คนสมัยหลัง ๆ ไม่มีการตัดสินใจตรงนี้ ฟังธรรมรู้สึกว่าดี แต่รู้สึกในลักษณะชื่นชมเหมือนกับเห็นสมบัติมหาเศรษฐี ไม่ได้คิดว่าเราจะทำอย่างนั้นเพื่อให้ได้สมบัตินั้นบ้าง ในเมื่อไม่มีการตัดสินใจที่เด็ดขาด โอกาสที่เข้าถึงมรรคผลก็ยาก
....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
หน้า 6 ของ 408